Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ixoxi999 ที่ ธันวาคม 22, 2016, 08:59:46
-
ผมสงสัยมานานแล้ว รถดีเซลที่มี DPF จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องพิเศษกว่ารถทั่วๆไปมั้ยครับ
-
ถ้าให้ง่ายๆ ดูมาตรฐาน ACEA C3 ครับ
แต่บางยี่ห้อ ดูให้ผ่านมาตรฐานสูงๆ ของยี่ห้อนั้น (ไม่ต่ำกว่าที่ Recommended ในแมนนวลด้วย ไม่นับเรื่อง API ที่ถือว่าพื้นๆ)
-
DPF มันดักจับเขม่าที่เหลือจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซล ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าเขม่าเริ่มตันเครื่องยนต์จะเพิ่มกำลังเพื่อส่งความร้อนไปเผาเขม่าใน DPF ให้กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นวิ่งแต่ในเมืองรถติดๆ ระยะทางสั้นมาก เครื่องยนต์ไม่สามารถจัดการเองได้ อันนี้อาจต้องพึ่งศูนย์หรือเปล่าไม่แน่ใจ
เกี่ยวอะไรกับน้ำมันเครื่อง หรือผมงง
-
:D เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ระบบมันจะเยอะขนาดนี้
โอ๊ย กลัวตันซะเหลือเกิน เหมือนผู้ผลิตจะผลักภาระการซ่อมบำรุงให้คนใช้เลย
เอาแค่เทสแล้วค่าไอเสียผ่านก็พอ ระยะยาวก็ให้เสียเงินดูแลเอง :-X
-
มันเขียนที่กระป๋องเลยว่า เหมาะกับรถที่มี DPF
Modern Diesel engines may be fitted with a Diesel Particulate Filter (DPF). These DPF filters, form part of the latest generation systems, designed to clean exhaust emissions in many late model diesel vehicles.
Vehicles fitted with DPFs generally require a Low or Mid SAPS engine oil. SAPS stands for Sulphated Ash, Phosphorous and Sulphur. A low SAPS engine oil has a lesser amount of these elements than a standard engine oil. The levels vary depending on the type of oil needed. Low SAPS oils are generally used in modern turbo turbo diesel engines that are fitted a diesel particulate filter or in modern petrol engines to assist in fuel economy gains.
-
ใช่ครับ รถที่มี DPF น้ำมันเครื่องต้องดูมาตรฐาน ACEA ด้วยครับ
รถที่ใช้อยู่ต้องใช้เกรด ACEA C3 ครับ
รอ Shell ไทยมาขายอยู่ ไม่มาขายสักที ที่มาเลย์เห็นขายนานแล้ว
-
DPF มันดักจับเขม่าที่เหลือจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซล ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าเขม่าเริ่มตันเครื่องยนต์จะเพิ่มกำลังเพื่อส่งความร้อนไปเผาเขม่าใน DPF ให้กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นวิ่งแต่ในเมืองรถติดๆ ระยะทางสั้นมาก เครื่องยนต์ไม่สามารถจัดการเองได้ อันนี้อาจต้องพึ่งศูนย์หรือเปล่าไม่แน่ใจ
เกี่ยวอะไรกับน้ำมันเครื่อง หรือผมงง
เกี่ยวตรงรถที่มี dpf จะมีน้ำมันลงไปผสมน้ำมันเครื่องเสมอครับ นมค เลยต้องเป็นเกรดเฉพาะ
-
เอาที่เขียนว่าใช้กับ DPF ได้ดีกว่าครับจะมีบางรุ่นเขียนว่าไม่เหมาะใช้กับรถที่มี DPF ที่การใช้งานในอุณหภูมิต่ำมากๆซึ่งสำหรับบ้านเราถือว่าใช้ได้ไม่มีติดลบแน่ๆ
ส่วนพวกที่ไม่เขียนส่วนใหญ่จะไม่รองรับนะครับจะมีบางรุ่นที่ห้ามใช้ในอุณหภูมิติดลบ
อันนี้เตือนไม่เหมาะกับรถมี DPF ใช้งานในอุณหภูมิต่ำ http://www.optikat.ro/lubrifianti/pdf/gulf/1510-Gulf-Fleet-Force-Synth-5W-30.pdf (http://www.optikat.ro/lubrifianti/pdf/gulf/1510-Gulf-Fleet-Force-Synth-5W-30.pdf)
อันนี้แบบใช้ได้ทุกสภาวะ http://www.gulfoil.ie/pdf/1531%20Gulf%20Supreme%20Duty%20XLE%2010W-30.pdf (http://www.gulfoil.ie/pdf/1531%20Gulf%20Supreme%20Duty%20XLE%2010W-30.pdf)
อย่าง Fortuner เครื่องใหม่บ้านเรารถกระบะดีเซลสบายใจได้ครับยังเป็น EURO4 ไม่มี DPF ถ้าพวกดีเซลยุโรปจะมีเกือบทุกรุ่นแต่ส่งออสเตรเลีย รัสเซียมีนะครับตามกฎหมายบ้านเค้า
Emission control system เครื่อง Fortuner / revo
Depending on the market, there are several levels:
- EGR - Euro 2, for the third world
- EGR+DOC - Euro 4, for the third world
- EGR+DOC+DPF - Euro 5, for Australia and Russia
- EGR+DOC+DPF+SCR - Euro 6, for Europe and Japan
http://toyota-club.net/files/faq/15-10-20_faq_gd-engine_eng.htm (http://toyota-club.net/files/faq/15-10-20_faq_gd-engine_eng.htm)
-
สมมุติว่า ตัดระบบ DPF ออกได้ เหมือนพวก อุด EGR ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่อง ที่รองรับ DPF ใช้มั้ยครับ ไอเสียก็จะสกปรกมากขึ้นแค่นั้น
-
ไม่น่าจะง่ายเหมือนอุด EGR ครับหาน้ำมันเครื่องที่รองรับง่ายกว่าเยอะครับ
โมบิลรุ่นที่รองรับ DPF ก็มีคนขายแบบรุ่นนำเข้า