Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Peter Wen ที่ มกราคม 06, 2017, 10:07:00
-
ปกติเติมเชลล์เกือบตลอด แต่มีเหตุจำเป็นต้องเติมปตท. วิ่งเล้นทางเดียวกัน รูปแบบการขับขี่และความเร็วเหมือนกัน ทำไมผมรู้สึกว่าปตท.ต้องกดคันเร่งเยอะกว่ารถจึงจะพุ่ง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองดูตามจอลดลงจาก16.8กม/ล เหลือ 15.5 ผมไม่ได้อุปทานใช่ไหมครับ??
-
น่าติดตาม
รอท่านต่อไ
-
E20 ห้อย กับ บางจาก ผมก็เห็นความแตกต่างนะ บางจากต้องกดเยอะกว่าไม่รู้ทำเหมือนกันครับ
-
ปกติ ผมไม่ใช้ e20 ของเชลล์เท่าไหร่เลยครับ (เว้นแต่หาเติมเจ้าอื่นไม่ได้ จำเป็นต้องเติม) ปกติใช้ ปตท esso กับบางจาก (ใช้บางจากบ่อยสุดครับ) มาแชร์ความรู้สึกครับ
e20 ของเชลล์ ในความรู้สึกผม ผมคิดว่า
- อืดแปลกๆ ครับ กดไม่ค่อยไป
- เครื่องตอนเดินเบามีอาการสวิงครับ
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นและกระพือมากครับ
- รู้สึกว่าจะหมดไวกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- แต่สตาร์ทตอนเช้าไม่ค่อยเหม็นครับ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
e20 ของ ปตท
- รู้สึกว่าเร่งดีครับ ติดเท้า กดเป็นมา ไม่ต้องเค้นมาก
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นนิดหน่อย แต่แทบไม่มีอาการกระพือครับ
- หมดช้ากว่าเชลล์นิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สตาร์ทตอนเช้ามีกลิ่นมากกว่าเชลล์หน่อยครับ
e20 ของ esso
- รู้สึกว่าเร่งดีพอๆ กับ ปตท ครับ
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นมากกว่าปตทหน่อย แต่แทบไม่มีอาการกระพือครับ
- หมดเร็วกว่าบางจากนิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สตาร์ทตอนเช้ามีกลิ่นมากกว่าปตทหน่อยครับ
e20 ของบางจาก
- สูตรเก่า รู้สึกว่าเร่งอืดพอๆ และต้องกดพอๆ กับเชลล์ครับ ส่วนสูตรใหม่ e20s ยูโร 5 เร่งดีขึ้นครับ แต่ยังอืดกว่า esso นิดหน่อย
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นนิดหน่อย มีอาการกระพือเล็กน้อยในบางจังหวะครับ (พบว่า
กระพือบ่อยเมื่ออากาศร้อนจัดๆ ครับ)
- หมดช้าสุดครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สูตรเก่า สตาร์ทตอนเช้าเหม็นปกติครับ พอๆ กับ ปตท ส่วนสูตรใหม่ สตาร์ทตอนเช้าเหม็นมากกกกกกครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่การวัดทางวิทยาศาสตร์โดยเก็บตัวอย่างส่งแลปแต่อย่างใด ;D
-
สงสัยจะอุปทานหมู่ ผมก็เป็นครับ ไม่เติม ปตท นานแล้ว
-
ปกติ ผมไม่ใช้ e20 ของเชลล์เท่าไหร่เลยครับ (เว้นแต่หาเติมเจ้าอื่นไม่ได้ จำเป็นต้องเติม) ปกติใช้ ปตท esso กับบางจาก (ใช้บางจากบ่อยสุดครับ) มาแชร์ความรู้สึกครับ
e20 ของเชลล์ ในความรู้สึกผม ผมคิดว่า
- อืดแปลกๆ ครับ กดไม่ค่อยไป
- เครื่องตอนเดินเบามีอาการสวิงครับ
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นและกระพือมากครับ
- รู้สึกว่าจะหมดไวกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- แต่สตาร์ทตอนเช้าไม่ค่อยเหม็นครับ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
e20 ของ ปตท
- รู้สึกว่าเร่งดีครับ ติดเท้า กดเป็นมา ไม่ต้องเค้นมาก
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นนิดหน่อย แต่แทบไม่มีอาการกระพือครับ
- หมดช้ากว่าเชลล์นิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สตาร์ทตอนเช้ามีกลิ่นมากกว่าเชลล์หน่อยครับ
e20 ของ esso
- รู้สึกว่าเร่งดีพอๆ กับ ปตท ครับ
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นมากกว่าปตทหน่อย แต่แทบไม่มีอาการกระพือครับ
- หมดเร็วกว่าบางจากนิดหน่อยครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สตาร์ทตอนเช้ามีกลิ่นมากกว่าปตทหน่อยครับ
e20 ของบางจาก
- สูตรเก่า รู้สึกว่าเร่งอืดพอๆ และต้องกดพอๆ กับเชลล์ครับ ส่วนสูตรใหม่ e20s ยูโร 5 เร่งดีขึ้นครับ แต่ยังอืดกว่า esso นิดหน่อย
- เดินเบาปกติครับ ไม่มีสวิง
- เวลายกคลัตช์ครึ่งนึง ปล่อยให้รถค่อยๆ ไหลที่เกียร์ 2 ไม่แตะคันเร่งช่วย เครื่องสั่นนิดหน่อย มีอาการกระพือเล็กน้อยในบางจังหวะครับ (พบว่า
กระพือบ่อยเมื่ออากาศร้อนจัดๆ ครับ)
- หมดช้าสุดครับ (ขับแบบเรื่อยๆ บนมอเตอร์เวย์ ไม่เกิน 100 ครับ)
- สูตรเก่า สตาร์ทตอนเช้าเหม็นปกติครับ พอๆ กับ ปตท ส่วนสูตรใหม่ สตาร์ทตอนเช้าเหม็นมากกกกกกครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่การวัดทางวิทยาศาสตร์โดยเก็บตัวอย่างส่งแลปแต่อย่างใด ;D
ละเอียดมาก ครับ
-
ปกติผมเติมแต่ esso ครับ
หลายปีก่อน เติม esso แล้วกลิ่นกำมถันแรงมาก
มาเติมช่วงหลัง กลิ่นนั้นหายไปแล้ว
แต่ esso สูตรล่าสุดกับสูตรเก่าไม่เห็นความแตกต่าง
ส่วนปตท. เติมบ้างเดือนละครั้ง-2ครั้งและทุกครั้งที่วิ่งตจว. ไม่เห็นความแตกต่างครับ
ตราหอย ผมไม่เติมเลย เพราะแทบจะไม่มีในละแวกบ้าน ส่วนแถวบ้านแม่ผม เติมทีไรได้ของแถมเป็นกรองตันทุกครั้ง
มี e20s ที่ผมเติมแล้วรู้สึกว่าแตกต่างจากชาวบ้านชัดเจน คือ รถวิ่งเท่าเดิม ไม่ประหยัดน้ำมัน แต่เสียงเครื่องหวานเจี๊ยบเลย แปลกมาก!!!
-
E20 ผมเติมบางจากกับเอสโซ่เท่านั้นครับ นอกนั้นงั้น ๆ (คาลเท็กซ์ผมไม่เคยเติม) ปตท อืด เหยียบหนักหน่อยหมดเร็วมาก เชลล์ ตั้งแต่ v power nitro+ gasohol 95 ทำรถผมสะดุด(ตอนเดินเบา หลังเติมเสร็จ สตาร์ท แล้วปล่อยไหล)ผมเลิกเติมเลย แพงก็แพงกว่าชาวบ้าน กับอีแค่ซีวิคโง่ ๆ ยังสะดุด ถ้าจะเติมผมเติมเบนซินเพียว ปตท เหมือนเดิมดีกว่า
.
.
.
ปัจจุบันผมใช้ e20 เติม e20 บางจากบ่อยกว่าเอสโซ่ครับ
.
.
.
กล้าบอกว่าแตกต่างกันจริง ๆ ครับ เพราะปกติผมเป็นคนเท้าเบามาก เบาชนิดที่ว่าขับซีวิคเอฟดีในเมืองได้อย่างมีความสุข การลดเกียร์บ่อยโดยไม่จำเป็นของมันทำอะไรผมไม่ได้ ชอบเหยียบคันเร่งให้ความเร็วค่อย ๆ ไล่ขึ้นจนเกียร์เปลี่ยน ฉะนั้น สัมผัสได้ถึงความแตกต่างแน่นอนครับ เวลารถผิดปกติก็เช่นกัน รับรู้ไวมาก
-
ผมตอบตามความจริง จากผู้ค้าน้ำมันว่า
น้ำมันที่มาจากโรงกลั่น แต่ละยี่ห้อ และมีการใส่ส่วนผสมโน้นนี่นั่นอะไรก็แล้วแต่
มันผ่านมาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน และเหมือนกัน แทบจะไม่มีนัยสำคัญ
แต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ใช้คงต่างกัน
ผมใช้ X3 ตัวท๊อป 2014 Ranger 3.2 WT 2016 ผมเติมปั้มผม ที่รับทุกยี่ห้อ และสูตรเทวดา
ผมว่าไม่ต่างกันครับ เรื่องการจับความรู้สึก แต่ราคา 3.5 บาท ต่างแน่
-
ผมเติมอยู่ 4 เจ้า E20 ทั้งหมด (ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
1. บางจาก เติมประจำ ได้น้ำขวดใหญ่+แต้มส่วนลดใน Club Gard โดยรวมถือว่าเร่งดีใช้ได้
2. ปตท. สูตรใหม่ผมว่าเร่งดีกว่าบางจาก แต่เหมือนจะหมดเร็ว ธรรมดาไม่เติมเพราะไม่แถมอะไรเลย
3. เอสโซ่ ได้น้ำขวดใหญ่เหมือนบางจาก โดยรวมผมรู้สึกใกล้เคียงบางจาก ทดแทนกันได้
4. เชลล์ อันนี้ผมเห็นต่างกับเจ้าของกระทู้ ผมว่าห่วยสุดเร่งอืดมีเครื่องสะดุดนิดๆตอนเดินเบา เติมเสร็จอยากจะถ่ายออกทันที และคิดว่าถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่เติมอีก
-
สงสัยจะอุปทานหมู่ ผมก็เป็นครับ ไม่เติม ปตท นานแล้ว
+1 ครับ ผมก็ไม่เติมปตท. ถ้าไม่จำเป็น ล่าสุดเติม โซฮอล์ 95 ปตท. ใส่ Stream หมดเร็วกว่า Carltex และ เซลล์ครับ แถมเหยียบไม่ค่อยไปด้วย เลยลาขาดเลย
E20 เซลล์ผมเติมใส่ Jazz ก็ Happy ดีนะครับ ครึ่งถึง 20 ลิตร วิ่งได้ 240-270 โล
-
เติมเสือประจำ
วันนึงจำเป็นต้องใบไม้
บรมเต่ามั่กๆ เหียกจิงๆ
เข็ดล่ะ
ฮี่ ฮี่
-
ไม่รู้สึกชัดเจนว่าแตกต่าง เพราะส่วนใหญ่ไม่ขับเร็ว นอกจากออกตจว.แต่ก็ไม่มีผิดสังเกตุไรนะโดยรวมก็พอๆกัน
-
เติมแต่ E20 บางจากครับ สูตรใหม่ผมว่าดีขึ้น วิ่งขึ้นกว่าสูตรเดิมหน่อยนึง ยี่ห้ออื่นเติมน้อยมาก แต่วิ่งไม่ค่อยต่างกันครับ
ที่สำคัญคือ ได้แต้มสะสมในบัตรเท่ากับลดไปลิตรละ 20 สตางค์ และ เติมวันที่น้ำมันขึ้นราคาได้แต้มคืนในบัตรเท่ากับราคาที่ขึ้น
จ่ายด้วย KTC บางจาก หรือ กรุงศรี ลดอีก 1-2%
รวมๆประหยัดได้หลายเงินอยู่ครับ เดือนละ 160-180 ปีนึงก็ได้คืน 2-3 พัน
-
เวลาบอกว่า. มันอืด. มันแรง มันห่วย. มันเทพ
ช่วยระบุรุ่น ยี่ห้อกันมาหน่อยก้อดีครับ. คนอื่นจะนำไปคิดต่อได้มีประโยชน์กว่าบอกเฉยๆ
สำหรับผม
E20 Esso ขับแรงรุ้สึกได้ดีที่สุด จากe20ทุกค่าย. ด้วย Honda city 2014, accord g9
โดยเฉพาะg9 ความรุ่สึกชัดกส่าcity
-
น่าคิดนะเนี่ย แฟนผมเติมเอาสะดวก หมดตรงไหนเติมตรงนั้น
-
ไม่ซีเรียสครับ น้ำมันไหน ขอปั้มใหม่ๆ ดีหน่อยพอ แต่ส่วนใหญ่เติม e20 บางจาก เพราะได้ของแถมประจำ ตอนนี้ให้ ข้าวหอม 1 ถุง
-
อยากรู้มากพวกที่บอกเติมน้ำมันเจ้าโน้นเจ้านี้อืดมั้ง เร่งไม่ขึ้น ถ้ามีใครอื่นเติมแล้วเอาไปขับจะยังรู้ไหมว่าเติมเจ้าไหนไป ปั้มไหนก็เติมเถอะ ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ดูปั้มใหม่ถังใหม่ๆก็พอมั้ง
-
ผมตอบตามความจริง จากผู้ค้าน้ำมันว่า
น้ำมันที่มาจากโรงกลั่น แต่ละยี่ห้อ และมีการใส่ส่วนผสมโน้นนี่นั่นอะไรก็แล้วแต่
มันผ่านมาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน และเหมือนกัน แทบจะไม่มีนัยสำคัญ
แต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ใช้คงต่างกัน
ผมใช้ X3 ตัวท๊อป 2014 Ranger 3.2 WT 2016 ผมเติมปั้มผม ที่รับทุกยี่ห้อ และสูตรเทวดา
ผมว่าไม่ต่างกันครับ เรื่องการจับความรู้สึก แต่ราคา 3.5 บาท ต่างแน่
+ ล้านนนๆ ครับ
เห็นด้วยมากๆๆ ผมก็อยู่สายธุรกิจเดียวกันกับพี่ครับ เวลาไปพูดแบบนี้กับคนอื่นเค้าก็ หาว่าเราบ้า บลาๆๆ ผมก็เฉยๆไป ปล่อยให้เค้าคิดกันไป :-*
-
ต้องเติมแล้วไปวัดแรงม้าเลย จบๆไป
ผมก็จับความรู้สึกไม่ได้นะครับ แต่มันใจอยู่สองแบรนด์ คาลเท็กส์ เอสโซ่
-
ผมตอบตามความจริง จากผู้ค้าน้ำมันว่า
น้ำมันที่มาจากโรงกลั่น แต่ละยี่ห้อ และมีการใส่ส่วนผสมโน้นนี่นั่นอะไรก็แล้วแต่
มันผ่านมาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน และเหมือนกัน แทบจะไม่มีนัยสำคัญ
แต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ใช้คงต่างกัน
ผมใช้ X3 ตัวท๊อป 2014 Ranger 3.2 WT 2016 ผมเติมปั้มผม ที่รับทุกยี่ห้อ และสูตรเทวดา
ผมว่าไม่ต่างกันครับ เรื่องการจับความรู้สึก แต่ราคา 3.5 บาท ต่างแน่
+ ล้านนนๆ ครับ
เห็นด้วยมากๆๆ ผมก็อยู่สายธุรกิจเดียวกันกับพี่ครับ เวลาไปพูดแบบนี้กับคนอื่นเค้าก็ หาว่าเราบ้า บลาๆๆ ผมก็เฉยๆไป ปล่อยให้เค้าคิดกันไป :-*
ต้นทุนเพิ่ม 50 สตางค์ แต่ขายเพิ่ม 3.5 บาท รวยแน่ครับ
บางปั้มแบรนด์ใหญ่ๆ เฒ่าแก่ เอาดีเซลธรรมดาใส่ ไปสูตรธรรมดา ลูกค้ารู้ไหม
-
ส่วนตัวชอบบางจาก, คาลเท็กซ์ แล้วก็เอสโซ่ครับ
จากการลองเติมสลับไปมาหลายๆ ยี่ห้อสามเจ้านี้เติมแล้วเร่งลื่นดี
-
ขับมาร์ชครับ
ปกติเติม e20 shell ตลอด อัตราเร่งดี มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองที่หน้าปัดมันแสดงว่าใช้น้ำมันน้อยกว่าเวลาเร่งแซง เคยเทียบกับบางจาก ปตท แล้วเห็นได้ชัดเลยครับ
ปล.shell club smart ได้คะแนนเอาไปแลกบัตรกำนัลเซ็นทรัล เดอะมอลล์ได้ อิอิ 8)
หน้าปัดแบบนี้ที่มันแสดงอัตราการสิ้นเปลืองอะครับ
(http://www.thaimarch.info/march/milecolor/IMG_6504.JPG)
photo credit: http://thaimarch.info/ (http://thaimarch.info/)
-
ถังก่อนใช้เชลล์ อัตราสิ้นเปลืองดีกว่าถังก่อนนั้นที่เป็น ปตท. ครับ
แต่การใช้งาน เส้นทางและสภาพจราจรต่างกันนะ
-
คนละยี่ห้อ มันต้องต่างซิครับ
มันมี additive ต่างกัน
ส่วนยี่ห้อไหนดีกว่ายังไง ขึ้นอยุ่กับ "รถ"
-
แปลกดี น้ำมันแต่ละค่ายก้รับจากที่ๆ เดียวกัน เพียงแต่เติมพริก น้ำปลา เกลือ ต่างกันนิดหน่อย
รสชาติอาจแตกต่างกันบ้าง แต่ไม่น่ามีนัยยะอะไรนะครับ ที่ว่ามา จะลองไปเติมและสังเกตอาการดูบ้างละ
-
ปกติผมเติม 91 esso บางจาก shell 3 ตัวนี้
จะรู้สึกพอๆกัน แต่ shell วิ่งได้เยอะกว่าหน่อย
ถ้า ปตท ต้องเติม 95 วิ่งแพ้ 91 แถมกินกว่าด้วย
คือถ้าไฟไม่แดงหาปั้มอื่นไม่ได้ ถึงจะเติม ปตท อ่ะ
ส่วนที่บอกว่า น้ำมันออกมาเหมือนกันทุกเจ้า ไม่จริงครับ
มี 2 เจ้า คือ ปตท กับ thaioil ครับ จะออกมาเป็น base
แล้วแต่ล่ะเจ้าเอาไปเติมสารของตัวเอง ตรงนี้คือที่แตกต่างกัน
ถึงแม้สารที่เติมจะเหมือนกันหลายตัว แต่ปริมาณไม่เท่ากัน
-
เดี๋ยวนี้ปกติผมจะเติม e20 esso ประจำเพราะของแถมแยอะสุด เผื่อลุ้นฟอร์ด้วย แต่มีเหตุให้ต้องใช้ ปตท ครั้งนึง จริงๆอาจเป็นอุปทานหมู่ เลยเลือกเติม เบนซิน เพียวๆไป แค่ขับออกมาจากปั้มก็รู้สึกได้เลยว่าคันเร่งนุ่มขึ้นแบบชัดเจน ต่อไปนี้เลยคิดว่าจะจำเป็นต้องเติม ปตท จะเติมเบนซินเท่านั้น ส่วนน้ำมันประเภทเดียวกันใครดีกว่าขอไม่ฟันธง เพราะยังไม่เคยเห็นตัวเลขทดสอบเป็นรูปธรรมจริงๆ
-
ไม่รู้สึกอะไรครับ
ผมเลือกเอาที่แถมน้ำ ตอนนี้เติมบางจาก กะ เสือ
ถ้าหมด ก็เติมทั้งนั้น
-
รถผม Proton Preve 1.6L Turbo ต้องเติม Shell E20 เท่านั่นครับ ไม่งั้นรถจะมีอาการกระตุกดับ
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม่ต้อง Shell E20 ผมเคยเปลี่ยนเป็น Shell V95 ก็กระตุกดับ 91 ก็กระตุกดับ ส่วนน้ำมันยี้ห้ออื่นๆไม่ต้องพูดถึงเลยครับ 555
ไม่รู็ว่า ECU มันไม่จำค่าอะไรไว้หรือเปล่า
-
:P
น้ำมันชนิดเดียวกันแต่ต่างแบรนด์ไม่ค่อยรู้สึก
เคยแต่เจอแบรนด์เดียวกัน แต่เติม e20 คนละจังหวัด
เครื่องกระตุกเลยครับอันนี้ไม่มโนแน่นอน จากนั้นมันก็สั่นเยอะกว่าปกติ
พอกลับไปเติมที่เดิมแบรนด์เดิมหายครับท่าน ต้องดูเรื่องคุณภาพการเก็บด้วยครับ
แต่น้ำมันต่างชนิดกันนี่รู้เรื่องเลยหล่ะ 95 91 E10
เคยลองกับมอเตอร์ไซค์รอจนเข็มตกขีดแดงแล้วเติมใหม่
ทั้งรอบเครื่องทั้งคันเร่ง ต่างกันชัดเจน Honda click caburetor
อาจเพราะไม่มีกล่องจูนด้วยมั้ง แรงดูดเพียว :P :P เลยรู้เลยในอัตราส่วนเท่ากันแรงต่างกันแค่ไหน
-
ผมตอบตามความจริง จากผู้ค้าน้ำมันว่า
น้ำมันที่มาจากโรงกลั่น แต่ละยี่ห้อ และมีการใส่ส่วนผสมโน้นนี่นั่นอะไรก็แล้วแต่
มันผ่านมาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน และเหมือนกัน แทบจะไม่มีนัยสำคัญ
แต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้ใช้คงต่างกัน
ผมใช้ X3 ตัวท๊อป 2014 Ranger 3.2 WT 2016 ผมเติมปั้มผม ที่รับทุกยี่ห้อ และสูตรเทวดา
ผมว่าไม่ต่างกันครับ เรื่องการจับความรู้สึก แต่ราคา 3.5 บาท ต่างแน่
ผมคิดแบบนี้เหมือนกัน
น้ำมันแต่ละที่มันมีมาตรฐานของมันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่น่าจะเป้นอารมณ์+แบรนด์มากกว่าที่ทำให้รู้สึกต่าง
อยากให้ลอง Blind test ดู แบบไม่ต้องบอกว่าเติมปั้มไหนมา ผมว่ามันจะเหมือนๆกันหมดแหละ (ตัวแปรพวกเครื่องยนต์ต้องเหมือนกันด้วยนะ)
-
ที่แน่ๆ ดีเซลต่างยี่ห้อ ตูดดำต่างกันแน่นอน
-
มันเป็นอุปทานหมู่หรือป่าว ถ้าบอกว่าเร็วไม่เร็ว อืด ไม่อืด มันมีปัจจัยกำหนดหลายอย่าง การเหยียบ อายุรถ สภาพถนน หน้ายาง
ผมว่าปั๊มไหนก็เหมือนกันนะ อยู่ที่ใครสะดวกใช้บริการที่ปั๊มไหนมากกว่า
-
ก็ไม่แน่ใจ แต่ผมเคยเติมแก๊ส 95 ของ PT เทียบกับ ปตท ขนาดเติมไปนิดเดียวรถพุ่งมาก ในขณะ ปตท ต้องกดเยอะหน่อย แต่เรื่องประหยัดนี่ไม่ค่อยต่าง
ได้ยินมาว่าแต่ละยี่ห้อสูตรน้ำมันจะต่างกันนิดนึง ก็ไม่รู้จริงมั้ย
-
ใช้เฟียสต้าครับ
สัมผัสได้ว่าเวลาใช้เชล e20 เร่งไม่ออก เกียร์จะลากรอบมาขึ้นกว่าจะเปลี่ยน เช่นกดพอๆกัน น้ำมันอื่นเปลี่ยนที่2600รอบ เชลจะขึ้นมา2600แล้วต้องเลยไปอีกครึ่งจังหวะ คงราวๆ50-100รอบ สัมผัสได้ว่าลากยาวกว่าจริงๆ
นอกจากนั้นเฟียสต้าจะเห็นชัดเวลากลับรถ ถ้าเครื่องไม่มีแรงส่งเวลาเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก ซึ่งปัจจัยที่ผมเจอคือ**ครัชlotเก่า+น้ำมันที่เติม+น้ำมันเครื่อง/น้ำมันเกียร์หมดสภาพ** สามอย่างนี้ที่ทำให้รถผมมีจังหวะกระตุกเวลากลับรถ
บางจากสูตรใหม่ถือว่าดีครับ สูตรเก่าอาการเดียวกะเชลด้านบน
PTT ส่วนมากดีครับ
Esso ผีเข้าผีออก80%ดี แต่ไม่ค่อยเติมเพราะแถวบ้านหัวจ่ายมันเก่าเวลาเจอเฟียสต้ามันชอบล้นก่อนละค่อยตัด
เชลเนี่ยะแต่ก่อนผมว่าผมมโน แต่เติมหลังสุดประมาณ 5-6รอบหลัง ซึ่งห่างกันเป็นเดือน ระหว่างนั้นใช้บางจากมั่ง PTT มั่ง สัมผัสได้ตลอด
ล่าสุดคุณแม่เอารถไปใช้ผมเอากลับมาขับ ขับได้สัก10โล มั่นใจว่าไม่ใช่ที่ecu รถจำวิธีแม่ขับแน่ๆ เลยถามว่าไปเติมe20เชลมาใช่ไหม คุณแม่บอกว่าใช่ มันแตกต่างหรอ ผมบอกว่ามันสัมผัสได้เลยล่ะ
-
โอวเพิ่งรู้ว่า E20 เชล มันอืดนะเนี่ยเดี๋ยวจะลองเปลี่ยนดูครับ เคยลอง บางจาก เชล เอสโช บางจากอืดสุด เชล แล้วก็เอสโส่ดีสุดแต่ก็ยังไม่เท่า 91 นะ
-
เดินทางไกลผมก็อยากเติมเชลล์ใจจะขาด (มีบัตรสมาชิก) แต่หาเติมยากจริงๆ เสริ็จ ปตท. ทู้กที!!!
-
เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง เท่าที่อ่านมาหลายปี จากหลายๆ เวป หลายๆ คลับ ส่วนใหญ่จะยกให้เชลล์เป็นเบอร์ 1 และส่วนใหญ่จะรังเกียจ ปตท. เอาไว้แวะเข้าห้องน้ำอย่างเดียว
ส่วนตัวผมเอง เติมทุกยี่ห้อ ก็ไม่รู้สึกว่า แตกต่างกันอย่างชัดเจน
แต่ที่ผมเติมประจำคือบางจาก เพราะผมค่อนข้างเป็นคน ชาตินิยม และบางจากมักจะซื้อสินค้าโอท็อปมาเป็นของแถม
เท่าที่ผมหาข้อมูลเรื่องโรงกลั่น ก็ได้ข้อมูลว่า เชลล์นั้นขายโรงกลั่นไปหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ "วิกฤติต้มยำกุ้ง"
และอ่านจากบางเวป ก็มีคนให้ข้อมูลว่า เชลล์รับน้ำมันจากโรงกลั่นในเครือ ปตท.(ผู้รู้ ช่วยยืนยันด้วยครับ)
-
E20 ที่เคยใช้มา ชอบ Caltex แรงสุด
-
ผมเคยใช้ที่ผมจับได้คือ Shell พุ่ง แต่หมดเร็ว, บางจาก เติมประจำ เวลากดหนัก เร่งแรงๆ รู้สึกมาแต่งเสียง แต่ที่เติมเพราะว่าสะสมแต้ม แลกเป็นน้ำมันได้ต่อ อิอิ
-
ผมรู้สึกว่าของเชลดีกว่า ปตท เยอะ เพราะช่วงปีใหม่ได้เอาเจ้า cx-3 ไปเที่ยว จ.น่าน กับเพื่อนๆ ขาไปเติม แก้ส91 ของเชล ปกติก็เติมแต่แบบนี้ พอออกต่างจังหวัด ปั้มเชลเริ่มหายาก จำเป็นต้องเติม ปตท เลยจัด แก้ส91ไป ผลที่ได้คือ มันอืดอย่างจับจังหวะได้ชัดเจนเลย และ น้ำมันยุบเร็วมาก หน้าปัดตอนแรก โชว์ 12.8 พอมาถึงคิด ปตท เหลือประมาน 11.6 โหเลิกเลย
-
E20 ผมลองมาหลายยี่ห้อ ไม่แตกต่างกันเลยครับ เคยลองจับอัตราเร่ง กับการกินน้ำมันจดไว้ผลออกมาคือไม่แตกต่างกันเลยครับ ตอนนี้เติมแต่ ปตท ครับ เก็บแต้ม Bluecard ครับ
-
ยังยืนยันเหมือนกระทู้ก่อนว่า คาลเท็กซ์ > บางจาก E20S > เอสโซ่ > เชลล์ ครับ
ส่วน ปตท. แล้วแต่ปั๊ม ปั๊มที่หมุนเวียนเยอะ สายเบนซินใน กทม. สภาพเหมือนเติมแล้วจะดีกว่าเบนซินต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยเติม E20 กัน
แต่ตอนหลังๆ ผมจำเป็นต้องเติม E20 ปตท. ตลอด ด้วยเหตุผลนึง ซึ่งผลการทดสอบทางไกลเอาทั้งระยะ อัตราเร่ง
ลองทุกอย่างเท่าที่จะจับค่าได้ ถ้าปั๊มใหญ่ๆ ไม่ต่างกันครับ วิ่งทางไกลมาร์ชน้อยผมอยู่ราวๆ 16.2 กม./ลิตร
แต่ถ้าปั๊มแปลกๆ (ซึ่งเอาจริงๆ ปตท. ต่างจังหวัดก็พัฒนามามากกว่าแต่ก่อนละ) ที่ดูจะมีแต่กระบะ อัตราสิ้นเปลืองจะแย่กว่านี้นิดหน่อย
เชลล์ E20 กับมาร์ช วิ่งดี ส่วน X-Trail T31 ปกติเติมแต่ E10/95 หลังๆ เลยไม่เข้าเชลล์ เข้าแต่เอสโซ่แล้ว เพราะเชลล์จะขายแต่วีเพาเวอร์
-
เบนซินในรถญี่ปุ่นที่บ้านนี่ผมเองจับความแตกต่างระหว่างยี่ห้อน้ำมันไม่ค่อยได้ครับ จะยี่ห้ออะไรก็คล้ายๆกัน
ส่วนถ้าเบนซินกับดีเซลในรถยุโรป เชลล์จะแรงกว่า ประหยัดกว่า เงียบกว่าปตท.อย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะดีเซลรถเยอรมันนี่ เคยมีที่บ้านฝืนคำสั่งไปเติมปตท. พอวิ่งเข้าบ้านมานี่ จับผิดได้เลยว่าไปเติมปตท.มา เพราะเสียงมันดังขึ้นจนจับได้ ส่วนเขม่าเวลากด kick down ก็ต่างกันชัด ดีเซลปตท.กดทีนึกว่าหมอกลง 5555
-
ผมเติม E20 ตลอด แต่พยายามใช้ Shell หรือ Esso รู้สึกรถมีแรงมากกว่า
-
E20 ปกติผมจะเติม Shell กับ บางจากครับ
Shell จะประหยัดกว่านิดหน่อยครับ แต่อัตราเร่งไม่ค่อยรู้สึกครับ
ส่วน ปตท กินที่สุด อัตราเร่งรู้สึกแย่ลงนิดหน่อย(แต่ถ้าไม่สนใจก็คงไม่รู้) ยกเว้น Jazz ที่รู้สึกอืดแบบเห็นชัดครับ
แต่ ปตท เติม E20 กับ Wish ที่ไม่ได้รองรับ E20 ไฟเครื่องโชว์ครับ แต่เติม Shell กลับไม่มีไฟโชว์ครับ
-
ผมเติมแต่ E20 Shell เลย เพราะสะดวกสุด เคยไปเติมยี่ห้ออื่นบ้างเวลาขับผ่านปั๊ม ผมไม่สามารถจับความรู้สึกอะไรได้เลยครับ เลยเติมอะไรก็ได้ที่ผมสะดวก
-
ปกติวิ่งต่างจังหวัดซ่ะส่วนใหญ่ ผมขับ Honda City 2012 Auto ต่างจังหวัดปั้มส่วนใหญ่ ปตท หาง่ายสุดแต่จากการใช้งาน ผมขอพูดถึง E20 ของทุกเจ้าที่เติมมาละกันครับ
ผมขับต่างจังหวัดทุกอาทิตย์วิ่งยาว ๆ ความเร็ว 120-140 (ถังจริงจุ 42 แต่เติมถังวิ่งจนไฟถังน้ำมันโชว์ที่เติมได้ประมาณ 32 ลิตร)
- ปตท เติมบ่อยสุดเพราะหาปั้มเติมง่ายสุด อืดที่สุดในบรรดา E20 ต้องกดคันเร่งเยอะกว่าเจ้าอื่น ๆ เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 440 กิโล คะแนน 7/10
- บางจาก หาเติมยากสุดเพราะเส้นทางประจำที่ขับผ่านแทบไม่มี แต่ลื่นและเครื่องเงียบพอใช้ เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 450 กิโล คะแนน 7.5/10
- คาร์ลเทกซ์ อยู่ใกล้บ้านสุด แต่ลื่นและเครื่องเงียบเหยียบไหลดี เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 460 กิโล คะแนน 8/10
- เอสโซ่ ลื่นและเครื่องเงียบเหยียบไหลดีอัตราเร่งโอเคมาก ๆ แต่หาปั้มเติมยากเช่นกัน เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 465 กิโล คะแนน 8.5/10
- เชลล์ ลื่นและเครื่องเงียบเหยียบไหลดีอัตราเร่งโอเคมาก ๆ เส้นทางที่วิ่งผ่านมาหลายปั้มแต่น้อยกว่า ปตท เต็มถังวิ่งได้ประมาณ 465 กิโล คะแนน 8.5/10
ถ้าถังแรกเติม ปตท แล้วเปลี่ยนมาใส่ เชลล์รึเอสโซ่จะรู้สึกถึงความแตกต่างที่ชัดเจนมาก ๆ ครับ แต่ส่วนใหญ่ผมก็เติมปตทครับ เพราะหาเติมง่ายสุดและชอบแวะกินอเมซอนด้วย แต่ถ้าเติมเชลล์ได้ก็จะเติม แต่ชอบเอสโซเพราะได้น้ำขวด 1.5 ลิตรทุกครั้งที่เติม อันนี้ความเห็นส่วนตัวจากการใช้งานจริงครับ
-
ผมเคยเติมแล้วมันอืดอ่ะ ปตท แบบชัดๆเลย เลยเลิกเติม
บางจากไม่เคยเป็นนะ