Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ มกราคม 13, 2017, 08:47:01

หัวข้อ: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ มกราคม 13, 2017, 08:47:01
ผมนั่งมองกล่องสายไฟและคอมพิวเตอร์ที่ปรกติมันจะอยู่ที่ท้ายรถสักคันเวลาผมขับ แต่ตอนนี้มันถูกวางกองนิ่งๆมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่หยิบมันมาใช้กับรถตัวเองนั่นมันเมื่อไหร่นะ

ส่วนตัวผมเอง ใช้รถปีละราวๆ7หมื่นกิโลเมตร เดินทางต่างจังหวัดทุกสัปดาห์ ขับแบบเรื่อยๆ ถนนเพชรเกษม กาญจนา พหล มิตรภาพ เอเซียบ้างประปราย รถยนต์เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าขาดไม่ได้ละ ทำแบบนี้มา9ปีแล้ว รวมระยะทางของทุกคันที่ขับเข้าด้วยกัน ก็ราวๆ 6แสนกว่าโล เงินเติมน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดเฉพาะการณ์นี้1ล้านหน่อยๆ

ที่ผ่านมาช่วงแรกๆผมใช้พวกรถไฮเทค ไฮเทคที่ว่า มีตั้งแต่เล็กๆน้อยๆอย่างระบบไฟแสงสว่าง ระบบควบคุมเบรค กุญแจKeyless go กลอนประตูแสนซับซ็อน หลังคาไฟฟ้า กล่องควบคุมสารพัดสารพัน เท่าที่จะถูกยัดลงไปได้ในรถคันนึง

แต่สองปีมานี้รถส่วนตัวทีีผมใช้ประจำจะมีCamry ACV 40ตัวไร้ออพชั่น กุญแจไขสตาร์ทอายุ10ขวบ, NewBeetle 2.0ที่อยู่กับผมมา16ปีกับNissan March สองคัน ที่ซื้อป้ายแดงกับมิอสองมา

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในสองปีมานี้คือ ไม่ต้องต่อคอมแบบฉุกเฉิน ไม่ต้องพกกุญแจสำรองไร้สายเพราะไม่มีระบบนั้น ไม่ต้องสั่งอะไหล่นอกประเทศแพงๆ ไม่ต้องปีนออกทางหน้าต่างเวลากลอนเสีย หรือปีนออกท้ายรถและที่สำคัญ ไม่ต้องขึ้นยานแม่กลับบ้านตอนสี่ห้าทุ่ม และความน่าเบื่อน่ารำคาญเวลาต้องรื้อรถเอากล่องโง่ๆตัวนึงออกมาซ่อม  เวลาไฟโน่นไฟนี่โชว์ ทั้งๆที่รถก็ไม่ได้เก่าสิบปียี่สิบปี มันช่างดี๊ดีอะไรแบบนี้ ขับรุถแบบไร้กังวล

ผมเชื่อว่าคนที่มีประสพการณ์ขึ้นยานแม่เพียงเพราะอุปกรณ์ไฮเทคโง่ๆตัวนึงเสียจนขับไม่ได้ จะเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร

ไม่รู้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะเข้าใจไหมนะเวลาคนซื้อรถไปใช้ เอนจอยกับอุปกรณ์ไฮเทคได้ไม่นานแล้วพาเอารถเสียกลางทางมันเหนื่อยหน่ายขนาดไหน

เสียงเล็กๆที่ไม่ได้ขอให้ใครเข้าใจครับ ไม่ได้มาโน้มน้าวให้ใครเปลี่ยนรถ ทราบดีว่าคงมีประสพการณ์ต่างกันไป ดีบ้างแย่บ้าง  แชร์ประสพการณ์ให้ฟัง อาจจะไม่พอใจใครก็ขออภัยกดปิดกระทู้ลืมๆไปว่าไม่ได้อ่านแล้วกัน ใครใช้ดีอยู่พอใจอยู่ก็ไม่ผิดอะไรครับ ต่างกรรมต่างวาระ วิถีชิวิตก็ต่างกัน ใครชอบอะไรพอใจอะไรต่าง/ปก็ไม่แปลกครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มกราคม 13, 2017, 08:55:24
เข้าใจดีเลยครับ

นี่เป็นสาเหตที่ ที่บ้านยังมีปาเจโร่ อายุยี่สิบกว่าปี จอดอยู่
ขับได้ตลอด แค่จั้มแบต น้ำมันไม่หมด บังไงก็สตาร์ทติด

น่าไว้ใจกว่า รถใหม่ๆเยอะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ มกราคม 13, 2017, 08:55:54
ระบบไฟฟ้ามาก ปัญหายิ่งมากตาม
ผมน่าจะเป็นเหมือน จขกท. ระบบไฟฟ้าแค่ระบบความปลอดภัย ที่เพียงพอ
ไม่ต้องเยอะจนไร้สาระ แบบนักวิจารณ์ ต้องการ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มกราคม 13, 2017, 09:00:49
ก็มีส่วนครับ  :D
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ มกราคม 13, 2017, 09:08:07
เชื่อได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศเรา ที่ไม่ได้มีรายได้มากมาย

คิดเหมือนกับท่าน จขกท.ครับ รถกระบะเจ้าตลาดที่โดนค่อนขอดว่ากั๊กออปชั่นโน่นนี่นั่น จึงขายดีมาตลอด

คนวิจารณ์รถเค้าก้อทำมา หาเลี้ยงปากท้องเช่นกัน

สุดท้ายเลือกรถที่เหมาะกับจริตเรา วัตถุประสงค์ตรงการใช้งานที่สุด เน้นความปลอดภัยน่าจะดีสุดแล้ว อย่างน้อยก้อสำหรับผมคนนึงละครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ มกราคม 13, 2017, 09:08:14
 :) ที่บ้านยังใช้ Honda dream รุ่นคุรุสภา อยู่เลยครับ
ที่เคยซ่อมมีแค่ท่อไอเสียรั่วกับเปลี่ยนหัวเที่ยน แล้วก็พวกผ้าเบรค
แค่นั่นเอง  8) 8) 8) เออ ตลกดี

ล่าสุดพี่ชายพ่อขับรถเครื่องคาร์บู (Toyota corolla carburetor)
ไปดับกลางอากาศ ไขนู่นขยับนี่ ติดใช้ได้เฉย
เออ ถ้าไม่คิดเรื่องประหยัดน้ำมัน มันก็ดีเลยน้ะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 13, 2017, 09:17:44
อันนี้ผมเรียกทุกข์ของคนรวย คือรถที่คนใช้น้อย เสียใจจุดที่ไม่มีใครคาดคิด เสียงบ่นไม่มีน้ำหนัก คนอื่นไม่เข้าใจเราเพราะเค้าก็ไม่ได้ใช้ แต่ตัวรถภาพลักษณ์ดี ยิ่งมากกระแทกจิตใจ แล้วเค้าก็มามองว่า ขนาดนั้นเชียวเหรอ ไม่น่าจะนะ ซวยมั๊ง
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ มกราคม 13, 2017, 09:27:24
ผมขอใช้รถ hi tech ต่อไป เพราะ คันหนึ่ง 120,000 กม. อีกคันหนึ่ง 140,000 กม. ไม่เคยมีปัญหาอะไรแบบ จขกท. เพราะผมดูแลถึง นั่นคือ เข้าศูนย์ตามระยะ แพงกว่าหน่อย แต่ไม่มาสร้างปัญหาให้เราภายหลัง
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มกราคม 13, 2017, 09:31:23
ผมไม่มีปัญหาแบบนั้น. เพราะไม่ปล่อยให้รถมีคงามเสี่ยงแบบนั้น
ชิวิตใช้รถ Europe, Japan อุ่นใจสุด

ส่วน USA แค่เสียวเฉยๆ มี transmission mulfuntion แค่2คร้ง แต่อยุ่ในเมือง หึๆๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มกราคม 13, 2017, 09:52:08
ระบบรถสมัยนี้ เค้าก็ทำให้ยุ่งยาก จริงๆอย่างว่าแหละครับ

นี่ล่าสุด มาสด้า2 skyactiv แบ็ตเสื่อม ไฟเตือนว่าแบ๊ตเสื่อมโชว์ ทั้งๆที่มันยังใช้ได้ดีอยู่ ไปวัดค่าต่างๆคือ ถ้ารถทั่วๆไปนี่ ขับต่อได้อีกเกือบปี แต่มาสด้าไม่ได้ ไม่เปลี่ยนคือไฟมันก็ไม่หาย ....

สุดท้ายไปเปลี่ยนมา แต่ไปเปลี่ยนนอก ไฟก็ไม่หาย ต้องกลับมาให้ศูนย์เคลียร์โค๊ดให้ ทางศูนย์แจ้งว่า ถ้าเปลี่ยนนอกจะไม่มีการเคลียร์โค๊ด ไฟจะยังโชว์ และเสียค่าเคลียร์โค๊ดไป 120 บาท ....

บางที เทคโนโลยีล้ำๆ แต่การดูแลรักษา ออกแนว จุกจิกเล็กๆ ก็น่าเบื่อนะ .....
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มกราคม 13, 2017, 09:55:51
รถที่ไฮเทค มีฟังชั่นแปลก ๆ

มันไม่เหมาะกับคนมีรถหลาย ๆ คันสลับกันไปมาแบบคุณ Jae นะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ มกราคม 13, 2017, 09:56:15
มีอยู่คันรถยุค 2000 ขับสบายไม่จุกจิก มีระบบเตือนเท่าที่จำเป็น เตือนเบรคหมด มีเกจ์วัดความร้อน มีเตือนน้ำปัดน้ำฝนหมด ประหยัดเท่า Eco Car แต่แรงกว่ารถหลายๆคัน เราเลยยังใช้คันนี้ต่อไป
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ มกราคม 13, 2017, 10:00:20
ผมก็ติดใจ Camry 2.4 นะ ผมว่ามันตอบโจยท์อะไรได้หลายๆ อย่าง ถึงไม่สุด แต่เพียงพอกับการใช้ชีวิต เครื่องแรง แอร์หนาว นั่งค่อนข้างสบาย ที่สำคัญทนมาก  นี่ถ้า Lexus ราคาไม่โดดไปจากรถยุโรป ผมคงซื้อมาลองแล้วล่ะว่ามันทนแบบ Camry มั้ย
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 13, 2017, 10:01:43
ระบบรถสมัยนี้ เค้าก็ทำให้ยุ่งยาก จริงๆอย่างว่าแหละครับ

นี่ล่าสุด มาสด้า2 skyactiv แบ็ตเสื่อม ไฟเตือนว่าแบ๊ตเสื่อมโชว์ ทั้งๆที่มันยังใช้ได้ดีอยู่ ไปวัดค่าต่างๆคือ ถ้ารถทั่วๆไปนี่ ขับต่อได้อีกเกือบปี แต่มาสด้าไม่ได้ ไม่เปลี่ยนคือไฟมันก็ไม่หาย ....

สุดท้ายไปเปลี่ยนมา แต่ไปเปลี่ยนนอก ไฟก็ไม่หาย ต้องกลับมาให้ศูนย์เคลียร์โค๊ดให้ ทางศูนย์แจ้งว่า ถ้าเปลี่ยนนอกจะไม่มีการเคลียร์โค๊ด ไฟจะยังโชว์ และเสียค่าเคลียร์โค๊ดไป 120 บาท ....

บางที เทคโนโลยีล้ำๆ แต่การดูแลรักษา ออกแนว จุกจิกเล็กๆ ก็น่าเบื่อนะ .....

ลองเอา OBD ต่อกับมือถือ ไปลองดูมั้ยครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: rojsak2021 ที่ มกราคม 13, 2017, 10:02:42
อีซูซุเป็นตัวเลือกที่ดีเลย ไม่ค่อยมีอะไร Hi-tech กว่าจะใส่ cruise control มาให้แทบจะกราบ 5555
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 13, 2017, 10:03:38
Vigo  MT ตัวล่าง นี ่Low Tech มั้ยครับ
ใช้มา 60000 โล โครตแฮปปี้

ขับเร็วก็ไม่ได้
ขับช้าก็ไม่ดี
กินน้ำมัน ปกติ

ชีวิตมีความสุขมาก  ขับคนเดียว
ล่าสุดก็เอามันไป ขึ้นดอยมา
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ มกราคม 13, 2017, 10:10:46
ผมเชื่อว่าคนที่มีประสพการณ์ขึ้นยานแม่เพียงเพราะอุปกรณ์ไฮเทคโง่ๆตัวนึงเสียจนขับไม่ได้ จะเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร

ประโยคนี้ใช่มากๆ ขึ้นยานแม่เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง และสำหรับผมที่เจ็บพอๆกันคือ ล้างอย่างดีเตรียมตัวเอาออกไปวิ่ง แต่ดันสตาร์ทไม่ติดซะงั้น
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Smile ที่ มกราคม 13, 2017, 10:23:16
อ่านเจ้าของกระทู้โพส ผมนึกถึง แต่รถอีซูซูเลย low tech แต่คนนิยมยาวนาน
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ มกราคม 13, 2017, 10:25:34
สูงสุด คืนสู่สามัญ

ทุกๆ เรื่องในชีวิต เป็นธรรมดา ของคนที่ได้ลองมาหมดทุกอย่าง .. สุดท้ายแล้ว จะชอบอะไรที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ..
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ มกราคม 13, 2017, 10:41:57
ผมมีประสบการณ์ขึ้นยานแม่แบบโง่ๆอยู่ครั้งนึง
จอดรถไว้ในบ้านจู่ๆวันรุ่งขึ้นสตาร์ทไม่ติด ไม่มีเสียงไดสตาร์ทอะไรเลย

เราก็นึกว่าECUพัง เลยเรียกยานแม่พาไป0
สรุปมดขึ้นกล่องรีเลย์ รีเลย์เสีย

*ค่ารีเลย์หลักร้อย **ค่ายานแม่หลักพัน TT
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: turbofever ที่ มกราคม 13, 2017, 10:46:14
เพราะคนจะซื้ออยากได้ไงครับ  ถ้าเจ้าไหนไม่มี ลูกค้าก็มองว่ากั๊ก มองว่าไม่เท่ไม่ทันสมัย พาลขายไม้ได้อีก

ผมต้องการรถที่มีแค่แอร์แบคกับABS พอ อย่างอื่นไม่จำเป็น  ถ้ารถไม่ใช่ยี่ห้อหายบ่อย กันขโมยไฟฟฟ้าก็ไม่จำเป็น  เสียทีแบตหมดที วุ้นวายชะมัด
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: tommaris ที่ มกราคม 13, 2017, 10:47:44
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ มกราคม 13, 2017, 10:59:39
เห็นด้วยคับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ มกราคม 13, 2017, 11:03:59
แต่สองปีมานี้รถส่วนตัวทีีผมใช้ประจำจะมีCamry ACV 40ตัวไร้ออพชั่น กุญแจไขสตาร์ทอายุ10ขวบ,

รุ่นนี้ตอบโจทย์คนใช้งานเลยครับ ไม่เสียง่ายๆ เพราะไม่มีอะไรให้เสีย นั่งสบายด้วย หน้าตาก็ ok 8)
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: rega ที่ มกราคม 13, 2017, 11:06:31
ใช้รถLow Tech ก็ดีครับ ไม่จุกจิก ดูแลรถตามคู่มือ ถึงเวลาเปลี่ยนตามระยะทาง

ไม่เคยงอแง ไม่มีเสียกลางทาง ใช้มาสิบกว่าปี ระบบช่วยเหลือน้อย ระบบไฟฟ้ามีเพียงแสงสว่างครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ มกราคม 13, 2017, 11:10:08
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี

ใช่ครับ เพื่อนผมเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยวิ่งหาลูกค้าเองด้วย
จัด Altis ตัวที่แล้วแบบไม่สนรุ่นอื่นเลย แล้ว upgrade ช่วงล่างแบบ
one make race เลย ลงไปเป็นแสน บอกทำแล้วขับดีกว่า Focus เยอะ
วิ่งทั่วประเทศแป้ปๆ หลายแสนโล ไม่ต้องกังวลว่ารถจะไปเจ๊งที่ไหน ทนมาก
แถมเกาะยังกับตุ๊กแก พี่แกวิ่ง 150 อัพตลอด
ส่วนรถครอบครัวใช้ Pajero sport ไว้วิ่งในเมือง  ;D
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Trigger-Happy ที่ มกราคม 13, 2017, 11:39:28
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่สนใจออพชั่น จะดูแค่เครื่องแรง ช่วงล่างดี เน้นขับมัน ขับสนุก นอกนั้นวิทยุจะเป็นแบบหมุนหาคลื่น แอร์ลูกบิด หรือกระจกมือหมุนก็รับได้ ;)
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มกราคม 13, 2017, 11:42:47
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่สนใจออพชั่น จะดูแค่เครื่องแรง ช่วงล่างดี เน้นขับมัน ขับสนุก นอกนั้นวิทยุจะเป็นแบบหมุนหาคลื่น แอร์ลูกบิด หรือกระจกมือหมุนก็รับได้ ;)

กระจกไฟฟ้าโคตรจำเป็นเลยครับ ตอนที่จะเปิดกระจกฝั่งคนนั่งน่ะครับ

ถ้าไม่มี ผมจะรับไม่ได้สุด ๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: alpha14 ที่ มกราคม 13, 2017, 11:55:47
บางทีขับรถที่ไฮเทคมากๆระบบอะไรเยอะไปหมด บางครั้งก็จิตตก ยิ่งได้ข้อมูลในเน็ตมากมายเมื่อไหร่จะถึงคิวเรา วิตกต่างๆนาๆยิ่งไปไกลตจว.นี่กลัวตายกลางทางมาก ยิ่งค่าซ่อมแพงหูฉี่นี่ทำให้นอยด์ไม่น้อย ทำให้บางครั้งรถที่กลางๆไม่ฟลูออฟชั่นขับแล้วสบายใจกว่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ มกราคม 13, 2017, 11:59:11
ตามนั้นครับ

มาร์ชประจำผม S M/T ไฟฟ้าในรถมีแค่ไฟหน้าปัด กับไฟเก๋ง

ไฟข้างนอกมี ไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว แค่นั้น

เวลาจอดรถแอ๊วสาวลำบ๊ากลำบาก ต้องเอื้อมไปหมุนกระจก อายสาวเลยครับ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Amj ที่ มกราคม 13, 2017, 11:59:15
เคยเป็นเหมือนท่านเจ้าของโพสตอนสมัยที่ใช้รถ ครูซโฉมปี 2011

ท้ายรถจะมี OBD2 ไว้ต่ออ่านค่า  มีวาล์วน้ำเจาะรูเตรียมไว้ 1 ชุด  มีน้ำมันเกียร์  มีเหล็กรัดสาย  มีน้ำดื่มไว้เติมน้ำยาหล่อเย็น  มีคอยล์หัวเทียนด้วย!

คือจะบอกว่าสมัยนั้นใช้รถไม่มีความสบายใจเลย บ้ามากถึงขนาดต้องเบิกคอยล์ติดรถไว้  แต่ถึงทำขนาดนี้ก็กินข้าวลิงเสียข้างทางไป 3 ครั้ง
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ มกราคม 13, 2017, 12:11:29
เคยเป็นเหมือนท่านเจ้าของโพสตอนสมัยที่ใช้รถ ครูซโฉมปี 2011

ท้ายรถจะมี OBD2 ไว้ต่ออ่านค่า  มีวาล์วน้ำเจาะรูเตรียมไว้ 1 ชุด  มีน้ำมันเกียร์  มีเหล็กรัดสาย  มีน้ำดื่มไว้เติมน้ำยาหล่อเย็น  มีคอยล์หัวเทียนด้วย!

คือจะบอกว่าสมัยนั้นใช้รถไม่มีความสบายใจเลย บ้ามากถึงขนาดต้องเบิกคอยล์ติดรถไว้  แต่ถึงทำขนาดนี้ก็กินข้าวลิงเสียข้างทางไป 3 ครั้ง

 ;D ;D โอ๊ยฮา ผมเคยเจอคนพกไดร์ชาร์จกับไดร์สตาร์ทไว้หลังรถ แต่รถเค้าเกือบ 20 ปีแล้ว
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ มกราคม 13, 2017, 12:25:37
ผมกลับตรงกันข้าม  ...ผมชอบนะ

  อย่างคันที่ใช้อยู่  พอ ๆ กับมี odb2  ดูได้ตั้งแต่ เครื่อง เวคกั้มเบรค  ระบบเกียร์ คอล์ยจุดระเบิด ความสมบูรณ์ของการเผาไหม้  ระบบหล่อเย็น...

ล่าสุด เจ้า ss  เตือน  รีโมทคอนโทรล  แบตฯอ่อน...  ก็ต้องเปลี่ยนตามมันบอก...

   มันทำให้ไม่เคยพาไปกินข้าวลิงสักครั้ง.....

     ยกเว้น  ยาง กับสายพาน  มันไม่เตือน....
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ มกราคม 13, 2017, 12:27:58
อยู่บ้านยังนอนเสื่อครับ  ผมก็ไม่อยากจ่ายแพงๆ ให้กับอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น (โดยเฉพาะออปชั่นสำหรับคนขับโง่ๆ อย่างระบบช่วยจอดอัตโนมัติ เป็นต้น)
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Ex_machina ที่ มกราคม 13, 2017, 12:44:08
มีใครเป็นเหมือนผมไหม
เมื่อก่อน เงินก็ไม่ค่อยมี ต้องกัดฟันซื้อรุ่น top เท่านั้น
ผ่านไป 10 -20 ปี
มีเงินซื้อรุ่น top สะบายๆ แต่เลือกซื้อรุ่นเกือบล่างสุด ก็พอใจละ 5555

เดี๋ยวนี้ไม่เคยซื้อรุ่น top เลย เพราะรู้สึกลูกเล่นต่างๆมันไม่จำเป็นเลย

ประสบการณ์สำคัญกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ มกราคม 13, 2017, 12:46:46
เห็นด้วยเลยครับ บางทีระบบช่วยอะไรต่างๆผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไร

1. เสียมาก็ต้องซ่อม
2.บางจังหวะที่อุปกรณ์มันทำงานกับใจเรามันก็ไม่พอดี กลับกลายเป็นเสียจังหวะไป
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ มกราคม 13, 2017, 13:06:12
ผมก็เป็นแบบนั้น ตอนนี้เริ่มอยากได้รถ ญี่ปุนที่ทัน simpleๆ แต่ยังไงก็ขอให้ขับสนุก

ผมถึงรู้สึกชอบรถเก่าๆ แบบ NA VTEC มากกว่า TURBO, BOXER ครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: GRB0999 ที่ มกราคม 13, 2017, 15:18:46
เพราะคนจะซื้ออยากได้ไงครับ  ถ้าเจ้าไหนไม่มี ลูกค้าก็มองว่ากั๊ก มองว่าไม่เท่ไม่ทันสมัย พาลขายไม้ได้อีก

ผมต้องการรถที่มีแค่แอร์แบคกับABS พอ อย่างอื่นไม่จำเป็น  ถ้ารถไม่ใช่ยี่ห้อหายบ่อย กันขโมยไฟฟฟ้าก็ไม่จำเป็น  เสียทีแบตหมดที วุ้นวายชะมัด

ขอแถมระบบควบคุมการทรงตัวเพิ่ม แค่นี้พอแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ มกราคม 13, 2017, 15:34:16

เช่นตอนนี้มาใช้รถเก่าได้สักพักแล้ว ถ้าไม่นับว่าซ่อมบ่อย(เพราะมันเก่าแล้ว) ก็โอเค ตัวรถไม่มีอะไรซับซ้อน เข้าใจง่าย อะไรเสียก็พอเดาออก
และกลายเป็นรถดัดนิสัยบ้าออปชั่น ตอนเด็กอยากให้รถมีนั่นมีนี่มากแต่พอมาเจอคันนี้ปุ๊บ เออ แค่นี้ก็พอแล้ว เพระาผมก็เน้นขับอยู่ดี ไม่ได้เล่นอะไรมาก
5555
ตอนนี้รถมีแค่กระจกไฟฟ้าสี่บาน เซ็นทรัลล็อก พวงมาลัยเพาเวอร์ เครื่องเล่นซีดี ที่ปรับความสว่างหน้าปัด(ว่าไม่ได้ รถใหม่ๆไม่มีนะ) และแค่นั้น = =
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ มกราคม 13, 2017, 15:36:04
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี
จริงครับ รถใช้งานเอาทน ขับดี
ใครบอก ฮอนด้าไม่ทน ผมใช้ City CNG มา 3 ปี  8 หมื่นกว่าโล
เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน เครื่องเช็คระยะตามปกติ ไม่เคยซ่อมอะไรเลย แถมใส่ล้อ 17" ด้วย ช่วงล่างไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรดัง
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ มกราคม 13, 2017, 15:53:32
ผมคนนึงครับ เทียบเลยครับเพิ่งซื้อมาสองคัน NPJS ที่ออปชั่นจัดเต็ม กับ XV ที่ไม่มีอะไรเลย

ใช้ไปใช้มาผมชอบ XV มากกว่าเยอะเลยครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มกราคม 13, 2017, 16:22:37
เคยใช้e39อยู่ช่วงนึงของชีวิต รักมาก ซ่อมเป็นหมื่นเป็นแสนก็ยอม เพราะรถมันขับดี
สุดท้ายไฟรั่ว หาจุดไม่เจอ จอดทิ้งไว้ไหนซักพักสตารท์ไม่ติดแบตหมดตลอด เปลี่ยนแบตโน่นนี่ไม่หาย สุดท้ายต้องขายทิ้ง

ต่อมามาใช้ alphard ถึงoption มันจะเยอะ แต่อิเล็กทรอนิกส์ไม่เคยรวนเลย มีแต่เปลี่ยนแร็คพวงมาลัยตามอายุ ซ่อมจบตลอดไม่เคยเสียกลางทางเลย เออ รถญี่ปุ่นนี่มันคุณภาพดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: เซลล์ขายรถ ที่ มกราคม 13, 2017, 16:54:30
ซีเดียทีผมขับนี้ก็โลว์เทคนะ

ชอบตรงนี้หละ แฟนบอกให้ขายไปซื้อรถใหม่เถอะขี้เกียจซ่อม

ไม่เข้าใจกันเลยยย
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ มกราคม 13, 2017, 17:34:24
รถยุโรปจุกจิกกว่ารถญี่ปุ่นเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่สมรรถนะมันดีกว่ารถญี่ปุ่นมากๆ และได้ภาพลักษณ์ที่ดี มันเลยยังขายได้แต่พอหมดประกัน เจ้าของมีหนาว  :-\
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Nouiii1 ที่ มกราคม 13, 2017, 17:56:57
คอมพิวเตอร์ในรถ มันก็เหมือนมือถือแหะครับแป๊บๆก็พัง สู้ระบบแมคานิสซึ่ม ไม่ได้
ผมก็ใช้เจ้าตลาดเพราะเบื่อซ่อมที่ต้องรออะไหล่นานๆ รถใช้ทุกวันจอดซ่อมสิบวันก็เสียค่าเสียโอกาสในการใช้ ถ้าผ่อนต่อวันตกวันละพัน ก็เท่ากะเราผ่อนฟรี หนึ่งหมื่นโดยที่เราไม่ได้อะไรเลยจากเงินจำนวนนี้ที่เสียไป
 :(
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มกราคม 13, 2017, 22:16:47
คิดเหมือนกันครับ

ถ้ามองรถว่ามันคือพาหนะเพื่อเดินทาง รถที่ยิ่งเรียบง่าย ยิ่งดี
แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยนะ ABS Airbags ขอมีครบๆ
ยิ่งระบบควบคุมการทรงตัวทั้งหลาย อันนี้เป็นข้อยกเว้นที่ขอให้มัน Hi-tech ไว้ดีกว่า

แต่ระบบเยอะเกินไป รวนแล้วขับไม่ได้ ต้องกินข้าวลิง อันนี้ขอผ่าน
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ มกราคม 13, 2017, 23:00:36
คุณ Jae เป็นช่างยังถึงขั้นเซ็ง
อีกหลายๆคน(รวมทั้งผมด้วย)คงลำบาก หรือถึงขั้นไม่มีทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แน่ๆครับ

อยากให้รถรุ่นใหม่ๆ
มีรุ่น LOW TECH ความปลอดภัยครบ วัสดุดีๆครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ มกราคม 13, 2017, 23:33:36
ตามนั้นครับ

มาร์ชประจำผม S M/T ไฟฟ้าในรถมีแค่ไฟหน้าปัด กับไฟเก๋ง

ไฟข้างนอกมี ไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว แค่นั้น

เวลาจอดรถแอ๊วสาวลำบ๊ากลำบาก ต้องเอื้อมไปหมุนกระจก อายสาวเลยครับ  ;D ;D ;D

สิ่งนึงที่น่าจะทำให้ March SMT เพอร์เฟคก็คือ กระจกไฟฟ้า เฉพาะคู่หน้า

มันเพียงพอต่อการใช้งาน จริงๆ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: i-Kao ที่ มกราคม 13, 2017, 23:55:16
รถผม Corolla EE-101 ซื้อซากมาปั้นเล่นๆ เอามัน
มีแค่เซ็นทรัลล๊อค กับกระจกไฟฟ้า แอร์แมนวลหนาวๆ ใช้ไป ซ่อมไปเรื่อยๆ
เรี่ยวแรงไม่ค่อยมี แต่ออกตัวไฟแดงไม่เคยทำให้รถคันหลังต้องหงุดหงิดลำบากใจ
ซ่อมถึงในระดับหนึ่ง จนเพื่อนผมยืมรถไปใช้ เวลาเดินเบาติดไฟแดง เขาคิดว่าเครื่องดับ จนต้องสตาร์ทซ้ำ ทั้งๆที่มันไม่ดับ
พูดแซวแบบขำๆครับ ผมชอบครับ ระบบไฮเทคต่างๆนาๆ ทำให้โลกมันพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ระบบ โลวเทค คือสิ่งที่ไม่ทำให้ผมไม่ยึดติด แค่นี้ก็เพียงพอสุดๆแล้วครับ

พูดถึงแถบยุโรป รถโลวเทคเยอะครับ คันเล็กๆ เกียร์ธรรมดา ล้อกระทะ กระจกมือหมุน เซ็นทรัลล๊อคไม่มี แอร์ไม่มี (ไม่จำเป็น) แต่ถุงลมสองใบ   :D :D
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: SLuang ที่ มกราคม 14, 2017, 06:39:28
Vigo  MT ตัวล่าง นี ่Low Tech มั้ยครับ
ใช้มา 60000 โล โครตแฮปปี้

ขับเร็วก็ไม่ได้
ขับช้าก็ไม่ดี
กินน้ำมัน ปกติ

ชีวิตมีความสุขมาก  ขับคนเดียว
ล่าสุดก็เอามันไป ขึ้นดอยมา
6 หมื่นโล สำหรับกระบะ ถือว่าวิ่งน้อยมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มกราคม 14, 2017, 07:25:45
ยิ่ง option น้อย โอกาสจะเสีย จะรวน ก็น้อยตามไปด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 14, 2017, 08:38:46
6 หมื่นโล สำหรับกระบะ ถือว่าวิ่งน้อยมากๆ ครับ

คือผมใช้เป็นรถขับทำงานครับ กับไปไหนมาไหนคนเดียว
จะไป ทั้งครอบครัว ก็ เอาเก๋งไป เก๋งก็ 200000 โลแล้ว
ส่วนกะบะคันนี้เพิ่ง  สอง ปีครับ คงใช้ยาวๆไป
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ มกราคม 14, 2017, 10:05:11
ออปชั่นก็ควรมีมาพอสมราคาค่าตัวครับ และไม่น้อยจนเกินไป เอาแบบที่เหมาะสม

ประเภทของพื้นๆควรมีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานครับ เช่น ถุงลม 4-6 ใบ ระบบตัวช่วยต่างๆ

ไม่ต้องถึงกับต้องมีของเล่นติดรถมามากมายเกินไปนัก
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Ake@hybrid ที่ มกราคม 14, 2017, 10:15:42
คงเป็นเหตุผลเดียว ที่ทุกวันนี้ที่บ้านผม ยังคงใช้ mighty X 2L , chevy colorado ไดเร็ค และ city type z แคมเดี่ยว
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มกราคม 14, 2017, 14:27:47
ชีวิตดี๊ดีไม่เคยใช้รถไฮเทค ถถถ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: P็๊้ีhu ที่ มกราคม 14, 2017, 14:48:26

โอว์วว ..... ช่างต่างกันฟ้ากับเหวเลยครับ  โดยส่วนตัว

ผมเสพติดเทคโนโลยีใหม่ๆ  ทุกครั้งที่เห็นการพัฒนาอะไรใหม่ๆ  มีความกระหายอยากที่จะรู้  อยากได้เป็นเจ้าของ  และอยากให้ประเทศไทยพัฒนาได้แบบเค้าบ้าง

ผมชอบรถ Hi Tech  ไม่ชอบ Low Tech  ชอบการพัฒนา  ชอบเห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความก้าวหน้าด้านอื่น

มันเป็นไปตามกลไกลที่ต้องพัฒนาไปตามยุดสมัย ตามเทรนของตลาด

ปล. ผมอายุยังน้อยเป็นคนรุ่นใหม่  ชอบอะไรใหม่ๆ     อย่าถือสาเลยครับ ....

หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มกราคม 14, 2017, 15:34:10
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี
จริงครับ รถใช้งานเอาทน ขับดี
ใครบอก ฮอนด้าไม่ทน ผมใช้ City CNG มา 3 ปี  8 หมื่นกว่าโล
เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน เครื่องเช็คระยะตามปกติ ไม่เคยซ่อมอะไรเลย แถมใส่ล้อ 17" ด้วย ช่วงล่างไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรดัง
  ผมคิดว่า Honda ไม่ทนครับทั้งการออกแบบชิ้นส่วนและโครงสร้างถ้าเทียบคู่แข่งด้วยกัน Honda ด้อยกว่า  ในด้านคุณภาพ           มีลูกค้ามาซื้ออะไหล่จากผม  City  รถเขาวิ่งได้ ประมาณไม่เกิน 4 แสนโล  ช่างบอกเครื่องหลวมแล้วเกียร์เริ่า่มมีปัญหา      แต่ วีออสรุ่นเดิม ๆ ที่ใช้กันอยู่ 3 - 4 แสนโล เขาบอกปกติ     
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ มกราคม 14, 2017, 15:48:41

โอว์วว ..... ช่างต่างกันฟ้ากับเหวเลยครับ  โดยส่วนตัว

ผมเสพติดเทคโนโลยีใหม่ๆ  ทุกครั้งที่เห็นการพัฒนาอะไรใหม่ๆ  มีความกระหายอยากที่จะรู้  อยากได้เป็นเจ้าของ  และอยากให้ประเทศไทยพัฒนาได้แบบเค้าบ้าง

ผมชอบรถ Hi Tech  ไม่ชอบ Low Tech  ชอบการพัฒนา  ชอบเห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความก้าวหน้าด้านอื่น

มันเป็นไปตามกลไกลที่ต้องพัฒนาไปตามยุดสมัย ตามเทรนของตลาด

ปล. ผมอายุยังน้อยเป็นคนรุ่นใหม่  ชอบอะไรใหม่ๆ     อย่าถือสาเลยครับ ....

พอแก่ตัวลงก็ค่อยหันไปหาของ low tech ใช่มั้ยครับ
ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรอก ใครๆ ก็เป็นแบบนี้มาก่อนทั้งนั้น
แซวเล่นๆ อย่าถือสานะครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ มกราคม 15, 2017, 00:47:17
มีใครเป็นเหมือนผมไหม
เมื่อก่อน เงินก็ไม่ค่อยมี ต้องกัดฟันซื้อรุ่น top เท่านั้น
ผ่านไป 10 -20 ปี
มีเงินซื้อรุ่น top สะบายๆ แต่เลือกซื้อรุ่นเกือบล่างสุด ก็พอใจละ 5555

เดี๋ยวนี้ไม่เคยซื้อรุ่น top เลย เพราะรู้สึกลูกเล่นต่างๆมันไม่จำเป็นเลย

ประสบการณ์สำคัญกว่าเยอะ

ผมครับ สิบปีหลังมาเนี่ย ล้อรถยังไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

เครื่องเสียงแทบไม่ได้เปิด นั่งฟังเมียนิเกเตอร์ก็สนุกละครับ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มกราคม 15, 2017, 11:22:18

ผมครับ สิบปีหลังมาเนี่ย ล้อรถยังไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

เครื่องเสียงแทบไม่ได้เปิด นั่งฟังเมียนิเกเตอร์ก็สนุกละครับ

คงมาถึงจุดที่ มีทุกอย่าง เงินมีค่า มากกว่า หน้าตารถครับ
ผมก็มาถึงจุดนี้แล้ว คงไม่โง่ ซื้อแพงๆ จ่ายภาษีให้รัฐบาลไปละลายแม่น้ำเลย
แค่ จ่ายภาษี รายได้ ส่วนบุคคลก็จุกละ

น่าจะมี รถเก่า เปลี่ยนรถ ลดภาษี
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2017, 08:34:35
คุณ Jae เป็นช่างยังถึงขั้นเซ็ง
อีกหลายๆคน(รวมทั้งผมด้วย)คงลำบาก หรือถึงขั้นไม่มีทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แน่ๆครับ

อยากให้รถรุ่นใหม่ๆ
มีรุ่น LOW TECH ความปลอดภัยครบ วัสดุดีๆครับ

ขออนุญาติแก้นะครับผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถครับ มีคนทักมาหลายคนละให้ผมช่วยซ่อมรถให้

คือผมขายอะไหล่ ไม่เคยเรียนช่างยนต์ ผมจบวิศวะไฟฟ้ากำลัง+สื่อสาร+โทManagment ไม่ได้้กี่ยวอะไรกับการซ่อมรถเป็นอาชีพครับ

รถตัวเองที่ซ่อมเป็นเพราะเรียนรู้เอง ไม่ได้รับงานซ่อมให้ใครทั้งนั้นล่ะครับ ใครมาหาผมหรือรู้จักผมน่าจะทราบดีตรงนี้ครับ

ขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2017, 23:00:05
คุณ Jae เป็นช่างยังถึงขั้นเซ็ง
อีกหลายๆคน(รวมทั้งผมด้วย)คงลำบาก หรือถึงขั้นไม่มีทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แน่ๆครับ

อยากให้รถรุ่นใหม่ๆ
มีรุ่น LOW TECH ความปลอดภัยครบ วัสดุดีๆครับ

ขออนุญาติแก้นะครับผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถครับ มีคนทักมาหลายคนละให้ผมช่วยซ่อมรถให้

คือผมขายอะไหล่ ไม่เคยเรียนช่างยนต์ ผมจบวิศวะไฟฟ้ากำลัง+สื่อสาร+โทManagment ไม่ได้้กี่ยวอะไรกับการซ่อมรถเป็นอาชีพครับ

รถตัวเองที่ซ่อมเป็นเพราะเรียนรู้เอง ไม่ได้รับงานซ่อมให้ใครทั้งนั้นล่ะครับ ใครมาหาผมหรือรู้จักผมน่าจะทราบดีตรงนี้ครับ

ขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด

อายุคงใกล้ๆกัน แอบถามหน่อย กว สื่อสารเคยได้ใช้ไหมครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2017, 20:44:04
คุณ Jae เป็นช่างยังถึงขั้นเซ็ง
อีกหลายๆคน(รวมทั้งผมด้วย)คงลำบาก หรือถึงขั้นไม่มีทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้แน่ๆครับ

อยากให้รถรุ่นใหม่ๆ
มีรุ่น LOW TECH ความปลอดภัยครบ วัสดุดีๆครับ

ขออนุญาติแก้นะครับผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถครับ มีคนทักมาหลายคนละให้ผมช่วยซ่อมรถให้

คือผมขายอะไหล่ ไม่เคยเรียนช่างยนต์ ผมจบวิศวะไฟฟ้ากำลัง+สื่อสาร+โทManagment ไม่ได้้กี่ยวอะไรกับการซ่อมรถเป็นอาชีพครับ

รถตัวเองที่ซ่อมเป็นเพราะเรียนรู้เอง ไม่ได้รับงานซ่อมให้ใครทั้งนั้นล่ะครับ ใครมาหาผมหรือรู้จักผมน่าจะทราบดีตรงนี้ครับ

ขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด

อายุคงใกล้ๆกัน แอบถามหน่อย กว สื่อสารเคยได้ใช้ไหมครับ อิอิ

ผมไม่ได้ขอกว.ครับ ผมจบปุ๊ปปีนึงก็ไปอยู่นอกประเทศ สอบEIT ได้ PE พอกลับมาไทยไร้ความหมาย 555 ไ่ม่ได้ทำงานสาขาที่เรียนมาตรงๆสักที