Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Hiimtoy ที่ มกราคม 20, 2017, 13:34:37

หัวข้อ: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hiimtoy ที่ มกราคม 20, 2017, 13:34:37
ฟังดูอาจจะเป็นรถคนละเซ็กเมนต์เลย จริงๆแล้วผมดูไว้แค่mazda 2 แต่ด้วยราคามือ2camry 2.0g ตัวนี้อยู่ที่600,000-650,000(ที่บ้านเชียร์camryมากกว่า)ซึ่งพอๆกับมาสด้า2 g ตัวท๊อป เลยอยากให้พี่ๆน้องช่วยเปรียบเที่ยบให้หน่อยครับ

สำหรับผมเคยผ่าน

honda civic fd มือ2เป็นรถคันแรก,ฺBMW series 3 e90 ปี2008 มือ2,volvo s60 ปี2013มือ1 , nissan tenea j32(รถที่บ้าน)แต่อยู่คนละที่กัน


โจทย์ของผมคือ
ใช้รถ5-7ปี
ส่วนมากใช้รถเสาร์-อาทิตย์ไปอยุทธยา ชลบุรี
ขับลงไปหาดใหญ่ปีละครั่งและอาจเอาไปใช้ที่โน้นเลย

ถ้ามาสด้า2ก็สบายใจในเรื่องเป็นมือ1
ส่วนcamryก็ได้รถใหญ่ แต่camryที่ดูส่วนมากวิ่ง100,000โลขึ้นไปแล้ว อยากทราบว่าตัวนี้มีปัญหาอะไรไหมครับในระยะยาว
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ มกราคม 20, 2017, 13:40:28
camry 2.0 ปี 2012 น่าจะตัวเกียร์ 4 สปีด
เครื่องค่อนข้างทนเลยครับเกียร์ก็ทน ได้มันเผื่องบไว้บูรณะสัก 4-5 หมื่นทำช่วงล่างใหม่เปลี่ยนยาง ก็ใช้ได้อีกนานครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: -Brian ที่ มกราคม 20, 2017, 13:45:50
ต้องถามความต้องการในการใช้รถของคุณครับว่าอยากได้แบบไหน

ถ้าอยากซื้อรถมาแล้วจบ ได้รถไว้ขับในเมือง เน้นประหยัดน้ำมัน สบายใจเรื่องซ่อมบำรุงใน 5 ปี ก็ไป mazda2

แต่ถ้าเน้นขับต่างจังหวัดไกลๆ รับได้กับค่าซ่อมบำรุง และเน้นภาพลักษณ์ ไม่แคร์ค่าน้ำมัน ก็ไป Camry 2.0G
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มกราคม 20, 2017, 13:50:19
5-7 ปีบอกได้ว่าค่าน้ำมันต่างกันเป็นแสนแน่นอนครับ
ส่วนราคาตกตอนปล่อย รถอายุ 10-12 นี่ก็มูลค่าแทบไม่เหลือเหมือนกัน

เป็นผมซื้อ Mazda 2 diesel ท็อป มือสอง 650000 จบๆ ครับ เร่งดี อ็อปชั่นครบ ประหยัดดี
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tubtup ที่ มกราคม 20, 2017, 13:55:58
วิ่ง 110 km/h กินน้ำมันต่างกันเยอะ
ยกเว้นจะเอา แคมรี่ไปติดแก๊ส
อยากสบายใจไปรถมือ 1
อยากค่อยๆเก็บนู้นนี้ไปเรื่อยๆ ตามอายุ แต่ได้การขับขี่ทางไกลที่สบายกว่าไปแคมรี่
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ มกราคม 20, 2017, 14:27:43
เท่าที่ดูไม่เคยผ่านมือรถเล็กเครื่องเล็กเลย แถมบอกใช้แค่เสาร์อาทิตย์ไปต่างจังหวัด แบบนี้ผมเลือกแคมรี่ครับ มาสด้า2รถใหม่เหมาะกับขับทุกวันมุดในเมืองมากกว่า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ABUSEz ที่ มกราคม 20, 2017, 14:30:48
ไม่เคยขับ m2 นะครับ
แต่อยากเปรียบเทียบระหว่าง camry กับ city ให้ฟัง
สำหรับผมแค่ขับไปพัทยา ความสบาย ผ่อนคลาย ความนิ่ง ความล้า มันต่างกันแบบชัดเจนมาก

ถ้าโจทย์คือมีรถไว้ออกต่างจังหวัด และไม่แคร์ว่าเป็นรถเก่า ผมว่า camry จบกว่าครับ

ยิ่ง camry เป็นรถไม่จุกจิกอยู่แล้ว 10ปีสบายๆครับ

ปล.ถ้าเป็นตัว acv40 เปลี่ยนโช้คให้หนืดขึ้น ขับดีขึ้นเยอะ คนนั่งก็ไม่เวียนหัวเพราะย้วย ถ้ากังวลค่าน้ำมัน ติดแก๊สครับ ทนหายห่วง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มกราคม 20, 2017, 14:41:24
เลือกยากดีคนละอย่าง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ มกราคม 20, 2017, 14:49:37
ถ้าออกตจว จิ้มไปcamry 2012 ได้เลยครับ 2.0ติดแก้สทนๆ อะไหล่หาง่ายไม่จุกจิก
ขับแล้วrelaxกว่าmazda2 1.3แน่นอน
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ มกราคม 20, 2017, 14:55:42
Camry 2.0G ครับ เพราะผมเองก็มองๆ อยู่เหมือนกัน

เอามาแล้วส่งให้อู่แถวรัชดาจัดการบูรณะเก็บงานครับ  ;D

ปล. Camry ที่พูดถึงคือโฉมแบบในรูปใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ มกราคม 20, 2017, 14:56:39
โจทย์ข้อนี้ตอบ Camry แบบไม่ต้องลังเลครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ มกราคม 20, 2017, 15:16:02
แคมรี่ต้องดูสภาพรถเป็นหลัก ยิ่งได้เครื่อง 4AT รับรองใช้จนลืม เกียร์ทนกว่าเครื่องซะอีก

ยิ่งตอนนี้เจอพวกรถบริษัท+รถเช่า กำลังทยอยปลดระวาง ต้องดูให้ดีๆครับ อย่าไปซี้อเด็ดขาด ถึงจะบำรุงรักษาอย่างดีก็เถอะ

พยายามเลือกที่เป็นรถบ้านจริงๆครับ หาไม่ยาก
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ มกราคม 20, 2017, 15:34:24
mazda2 เจอ xc90  ชนตูดทีแหลกเกือบทั้งคัน
ขับ ตจว ด้วย d segment  หรือ ยุโรปดีกว่าครับ ซ่อมไม่แพงหรอกครับ ดูสภาพดีๆละกันครับท่าน
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 มือ2 กับ mazda 2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ มกราคม 20, 2017, 15:46:05
ถึงผมจะติ่งมาสด้านะครับ แต่คู่นี้ผมจิ้มแคมรี่อย่างไม่ลังเล
สำหรับผมไมล์แท้แสนโลในแบรนด์โตโยต้าผมว่าชิวมากๆ
ใช้ได้อีกยาวๆ ส่วนมาสด้าสอง เหมาะกับขับในเมืองมากกว่าครับ
ยิ่งถ้าแคมรี่ติดแก๊สด้วยก็ประหยัดพอๆกัน อาจจะกินกว่าหน่อย
ใช้ต่ออีก 5-7 ปี ขายมือสองราคาคงต่างกันประมาณแสนหนึง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ มกราคม 20, 2017, 16:01:48
รถเล็กขนาดนั้นไม่เหมาะกับครอบครัว ครับ
ขับเหนื่อย เครื่องไม่แรง แม้ว่าควบคุมได้ดีนะ

รถใหญ่ได้เปรียบกว่าเยอะ ส่วนค่าซ่อมบำรุง ซ่อมแล้วจบก้ดีไป
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: eaksuchart ที่ มกราคม 20, 2017, 16:04:11
D-seg มือสองครับ ถ้าหาที่สภาพตรง ไว้ใจได้ ก็จบแบบยาวๆ ครับ เตรียมไว้ 10%ของราคารถที่ซื้อมาครับ เพื่อบำรุงเบื้องต้นครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Jatupon ที่ มกราคม 20, 2017, 16:39:42
ใช้ ACV 50 2.0G ปี 2012  รุ่นนี้ lot  แรกๆ อยู่ครับ

คงให้ จขกท. ตัดสินใจเอง จะให้ข้อมูลในลักษณะผู้ใช้งานจริงนะครับ

 
1. อะไรที่เป็นข้อดีของโตโยต้า ก็มีอยู่ในรถคันนี้ทั้งหมด ทั้งศูนย์บริการ  ความแพร่หลายของอะไหล่  ทนทาน ไม่จุกจิก  ไม่มีเสียงอ๊อดแอ๊ด ก่อกแก่ก จากการประกอบภายใน   ขับง่าย คล่องแคล่ว  ทั้งๆที่เป็นรถใหญ่  ตั้งแต่ซื้อมาจนบัดนี้กำลังจะเข้าปีที่  5  แค่เช็คระยะ และเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองพวกไส้กรองและน้ำมันเครื่องเท่านั้นเท่านั้น   อ้อ เปลี่ยนแบตเตอรี่ไป 1 ลูก  ยางอีก 1 ชุด  ไม่มี major  part  อะไรเสียให้กังวล

2.  ด้วยความ  Low tech  ไม่มี option  อะไร เอาเป็นว่า  eco car  สมัยนี้  option  มากกว่าเยอะ เลยไม่มีอะไรให้เสีย  แต่ผมกลับชอบเครื่องยนต์และเกียร์ตัวนี้มาก   เหมือนมันเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมานาน  จูนมาลงตัวสุดๆ     ขับทางไกล กรุงเทพ-หาดใหญ่ นั่ง  4  คน + สัมภาระ  Avg  ได้ 13.5-14.5  km/l    จังหวะออกตัวไม่อืดตามสไตล์โตโยต้า   เทียบกับ  J32 V6 2.5     ออกตัวถ้าไม่กดเต็มเท้าจริงๆ   ใกล้เคียงกัน   อาจจะเพราะ  CVT ใน J32มันหน่วงๆ 

3. วิ่งรอบกลางๆ ช่วง  80-120 km/hr    เครื่องยนต์มีกำลังใช้ได้  อย่างที่บอกว่า  4AT ตัวนี้ทั้งทนถึก  และไม่ขี้เหร่ด้านอัตราเร่ง  ยกเว้นนั่งเต็มคันบวกสัมภาระ  หรือเป็นถนนสวนเลน  อันนี้ต้องเผื่อระยะ   

4. ช่วงล่างผิดวิสัยโตโยต้า   มัน ไม่ย้วย ไม่โคลง  จัมพ์คอสะพานไม่ยวบ   รถมีสมดุลดี   วิ่งทางตรงนิ่งในแบบรถใหญ่   เข้าโค้งคล่องแคล่วมีชีวิตชีวาแบบรถคอมแพค   แต่หากแช่ความเร็วสูง    140 ++  หน้ารถจะลอยๆ  พวงมาลัยไม่สื่อสารกับถนน  ซึ่งผมมองว่า  อาจจะเป็นเพราะ ยาง BS GR100  ที่แก้มยางมันนิ่มเหลือเกิน    หรือระบบ  aero dynamic  ของรถที่  ระยะ  ground  clearance  ค่อนข้างสูง ลมอาจจะตีใต้ท้อง    ในขณะที่ J32  V6  ที่ดูย้วยๆ กลับนิ่งสนิทpyo 180 ++  แต่คันนี้ใส่  BS Adrenalin RE003   

 
4.  ภายในกว้างขวาง  นั่งสบาย วัสดุดี เก็บเสียงดี  แต่บ่ารถค่อนข้างสูง คนนั่งหลังตัวเล็กอาจเวียนหัว  คอนโซลไม่หวือหวา  แต่ใช้งานสะดวก   เหมือนผ่านกระบวนการ  Logical  มาเป็นอย่างดี    ม่านหลังลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R     และ ยกขึ้นอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์  เดินหน้า   ในขณะที่เทียน่าลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R  แต่พอเข้าเกียร์  D  ก็ไม่ยกขึ้นให้   คนขับต้องกดเอง     ปุ่มปรับเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็มีให้    ไฟแสดงตำแหน่งปุ่มกระจกไฟฟ้าด้านคนขับมีทุกบาน   jam protection  มีให้ทุกบาน  กระจก ขึ้นสุด ลงสุด  one touch  ทุกบาน    เปรียบเทียบกับ  J32  ทั้งๆ ที่เป็น  2.5  ไม่มีอะไรแบบนี้เลย

5. ข้อตำหนิจริงๆ  เป็นเรื่องเบรคครับ  ดันเป็นเรื่องสำคัญด้วย    ระยะเบรคผมไม่เคยลอง  test  คิดว่าไม่แย่   น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนพ้อง     แต่ฟีลลิ่งเบรคห่วยแตกจริงๆ    กดไปครึ่งทางของ  travel pedal  แล้วเบรคยังไม่จับเลย   แต่กดอีกนิดก็แข็งสู้เท้าแทบกดไม่ลง คอนโทรลน้ำหนักเท้ายาก   ไม่  linear  เลย  ขับในสภาพที่ใช้ความเร็ว   แต่รถเยอะๆ แบบมอเตอร์เวย์นี่เหนื่อย   ไม่รู้เพราะผ้าเบรค  หรือการ  set   up    เอาว่าเทียน่า   ฟีลลิ่งเบรคผมให้  10  เต็มสำหรับรถญี่ปุ่น   standard      ACV 50  2.0G  เอาไป 4  เต็ม 10  พอ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ มกราคม 20, 2017, 17:22:24
2.0ตัว4เกียร์รอบมันลากมากครับ
ในเมืองรอบขึ้นๆลงๆเบรค เร่ง ไม่เวิร์คเลย  นอกเมืองก็3-4ชิด ทำรอบเครื่องจัด

หา2.5 gear 6speed ครับ ดีกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ มกราคม 20, 2017, 18:01:05
2.0ตัว4เกียร์รอบมันลากมากครับ
ในเมืองรอบขึ้นๆลงๆเบรค เร่ง ไม่เวิร์คเลย  นอกเมืองก็3-4ชิด ทำรอบเครื่องจัด

หา2.5 gear 6speed ครับ ดีกว่าเยอะ
เห็นด้วยครับ งบมือสองเท่าๆกันเลย เว้นแต่ 2.5G จำนวนรถให้เลือกมีน้อยกว่ามากๆ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ มกราคม 20, 2017, 19:23:10
 Camry ของน้าแถวบ้านอายุรถช่วงนี้ มีปัญหาเรื่องแอร์ไม่เย็น 
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มกราคม 20, 2017, 19:27:11
ไหนๆๆจะเอามือ2 ลองหา Camry 2.5 มั๊ยครับ น่าจะแพงกว่ากันไม่มาก

ขับ ตจว ใช้รถใหญ่ สบายใจกว่านะครับ ขับก็สบายกว่าด้วย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเ
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa ที่ มกราคม 20, 2017, 19:41:09
TOYOTA CAMRY ดีกว่า คันใหญ่นั่งสบาย ปลอดภัยกว่า ยิ่งวิ่ง ตจว ยาวๆ ยิ่งรู้สึกถึงความต่างระหว่างรถเล็กกับรถใหญ่
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มกราคม 20, 2017, 20:30:28
2.5G ระวังรถฟลีตนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: FyGI ที่ มกราคม 20, 2017, 20:48:14
ใช้ ACV 50 2.0G ปี 2012  รุ่นนี้ lot  แรกๆ อยู่ครับ

คงให้ จขกท. ตัดสินใจเอง จะให้ข้อมูลในลักษณะผู้ใช้งานจริงนะครับ

 
1. อะไรที่เป็นข้อดีของโตโยต้า ก็มีอยู่ในรถคันนี้ทั้งหมด ทั้งศูนย์บริการ  ความแพร่หลายของอะไหล่  ทนทาน ไม่จุกจิก  ไม่มีเสียงอ๊อดแอ๊ด ก่อกแก่ก จากการประกอบภายใน   ขับง่าย คล่องแคล่ว  ทั้งๆที่เป็นรถใหญ่  ตั้งแต่ซื้อมาจนบัดนี้กำลังจะเข้าปีที่  5  แค่เช็คระยะ และเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองพวกไส้กรองและน้ำมันเครื่องเท่านั้นเท่านั้น   อ้อ เปลี่ยนแบตเตอรี่ไป 1 ลูก  ยางอีก 1 ชุด  ไม่มี major  part  อะไรเสียให้กังวล

2.  ด้วยความ  Low tech  ไม่มี option  อะไร เอาเป็นว่า  eco car  สมัยนี้  option  มากกว่าเยอะ เลยไม่มีอะไรให้เสีย  แต่ผมกลับชอบเครื่องยนต์และเกียร์ตัวนี้มาก   เหมือนมันเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมานาน  จูนมาลงตัวสุดๆ     ขับทางไกล กรุงเทพ-หาดใหญ่ นั่ง  4  คน + สัมภาระ  Avg  ได้ 13.5-14.5  km/l    จังหวะออกตัวไม่อืดตามสไตล์โตโยต้า   เทียบกับ  J32 V6 2.5     ออกตัวถ้าไม่กดเต็มเท้าจริงๆ   ใกล้เคียงกัน   อาจจะเพราะ  CVT ใน J32มันหน่วงๆ 

3. วิ่งรอบกลางๆ ช่วง  80-120 km/hr    เครื่องยนต์มีกำลังใช้ได้  อย่างที่บอกว่า  4AT ตัวนี้ทั้งทนถึก  และไม่ขี้เหร่ด้านอัตราเร่ง  ยกเว้นนั่งเต็มคันบวกสัมภาระ  หรือเป็นถนนสวนเลน  อันนี้ต้องเผื่อระยะ   

4. ช่วงล่างผิดวิสัยโตโยต้า   มัน ไม่ย้วย ไม่โคลง  จัมพ์คอสะพานไม่ยวบ   รถมีสมดุลดี   วิ่งทางตรงนิ่งในแบบรถใหญ่   เข้าโค้งคล่องแคล่วมีชีวิตชีวาแบบรถคอมแพค   แต่หากแช่ความเร็วสูง    140 ++  หน้ารถจะลอยๆ  พวงมาลัยไม่สื่อสารกับถนน  ซึ่งผมมองว่า  อาจจะเป็นเพราะ ยาง BS GR100  ที่แก้มยางมันนิ่มเหลือเกิน    หรือระบบ  aero dynamic  ของรถที่  ระยะ  ground  clearance  ค่อนข้างสูง ลมอาจจะตีใต้ท้อง    ในขณะที่ J32  V6  ที่ดูย้วยๆ กลับนิ่งสนิทpyo 180 ++  แต่คันนี้ใส่  BS Adrenalin RE003   

 
4.  ภายในกว้างขวาง  นั่งสบาย วัสดุดี เก็บเสียงดี  แต่บ่ารถค่อนข้างสูง คนนั่งหลังตัวเล็กอาจเวียนหัว  คอนโซลไม่หวือหวา  แต่ใช้งานสะดวก   เหมือนผ่านกระบวนการ  Logical  มาเป็นอย่างดี    ม่านหลังลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R     และ ยกขึ้นอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์  เดินหน้า   ในขณะที่เทียน่าลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R  แต่พอเข้าเกียร์  D  ก็ไม่ยกขึ้นให้   คนขับต้องกดเอง     ปุ่มปรับเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็มีให้    ไฟแสดงตำแหน่งปุ่มกระจกไฟฟ้าด้านคนขับมีทุกบาน   jam protection  มีให้ทุกบาน  กระจก ขึ้นสุด ลงสุด  one touch  ทุกบาน    เปรียบเทียบกับ  J32  ทั้งๆ ที่เป็น  2.5  ไม่มีอะไรแบบนี้เลย

5. ข้อตำหนิจริงๆ  เป็นเรื่องเบรคครับ  ดันเป็นเรื่องสำคัญด้วย    ระยะเบรคผมไม่เคยลอง  test  คิดว่าไม่แย่   น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนพ้อง     แต่ฟีลลิ่งเบรคห่วยแตกจริงๆ    กดไปครึ่งทางของ  travel pedal  แล้วเบรคยังไม่จับเลย   แต่กดอีกนิดก็แข็งสู้เท้าแทบกดไม่ลง คอนโทรลน้ำหนักเท้ายาก   ไม่  linear  เลย  ขับในสภาพที่ใช้ความเร็ว   แต่รถเยอะๆ แบบมอเตอร์เวย์นี่เหนื่อย   ไม่รู้เพราะผ้าเบรค  หรือการ  set   up    เอาว่าเทียน่า   ฟีลลิ่งเบรคผมให้  10  เต็มสำหรับรถญี่ปุ่น   standard      ACV 50  2.0G  เอาไป 4  เต็ม 10  พอ

ผมมี Extremo 2.0 อยู่คัน เห็นด้วยตามนี้ทั้งหมด

ยกเว้นอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รถผมซดมาก ซดมาย
วิ่ง ตจว. กว่าจะได้ 13 นี่แทบกราบ

ผมมีแชร์เรื่องค่าน้ำมันเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับ จขกท.
เพราะรถที่เทียบ segment ใกล้เคียงกับที่ผมมี
ซึ่งผมเก็บ stat เป็น excel ไว้

Camry 2.0 Extremo ปี 13
วิ่งมา 74,XXX โล ค่าน้ำมันโดยประมาณ 234,XXX บาท

Swift Eco 1.2 GLX ปี 12
วิงมา 74,XXX โล ค่าน้ำมันโดยประมาณ 191,XXX บาท
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ มกราคม 21, 2017, 02:05:52
ใช้ ACV 50 2.0G ปี 2012  รุ่นนี้ lot  แรกๆ อยู่ครับ

คงให้ จขกท. ตัดสินใจเอง จะให้ข้อมูลในลักษณะผู้ใช้งานจริงนะครับ

 
1. อะไรที่เป็นข้อดีของโตโยต้า ก็มีอยู่ในรถคันนี้ทั้งหมด ทั้งศูนย์บริการ  ความแพร่หลายของอะไหล่  ทนทาน ไม่จุกจิก  ไม่มีเสียงอ๊อดแอ๊ด ก่อกแก่ก จากการประกอบภายใน   ขับง่าย คล่องแคล่ว  ทั้งๆที่เป็นรถใหญ่  ตั้งแต่ซื้อมาจนบัดนี้กำลังจะเข้าปีที่  5  แค่เช็คระยะ และเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองพวกไส้กรองและน้ำมันเครื่องเท่านั้นเท่านั้น   อ้อ เปลี่ยนแบตเตอรี่ไป 1 ลูก  ยางอีก 1 ชุด  ไม่มี major  part  อะไรเสียให้กังวล

2.  ด้วยความ  Low tech  ไม่มี option  อะไร เอาเป็นว่า  eco car  สมัยนี้  option  มากกว่าเยอะ เลยไม่มีอะไรให้เสีย  แต่ผมกลับชอบเครื่องยนต์และเกียร์ตัวนี้มาก   เหมือนมันเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมานาน  จูนมาลงตัวสุดๆ     ขับทางไกล กรุงเทพ-หาดใหญ่ นั่ง  4  คน + สัมภาระ  Avg  ได้ 13.5-14.5  km/l    จังหวะออกตัวไม่อืดตามสไตล์โตโยต้า   เทียบกับ  J32 V6 2.5     ออกตัวถ้าไม่กดเต็มเท้าจริงๆ   ใกล้เคียงกัน   อาจจะเพราะ  CVT ใน J32มันหน่วงๆ 

3. วิ่งรอบกลางๆ ช่วง  80-120 km/hr    เครื่องยนต์มีกำลังใช้ได้  อย่างที่บอกว่า  4AT ตัวนี้ทั้งทนถึก  และไม่ขี้เหร่ด้านอัตราเร่ง  ยกเว้นนั่งเต็มคันบวกสัมภาระ  หรือเป็นถนนสวนเลน  อันนี้ต้องเผื่อระยะ   

4. ช่วงล่างผิดวิสัยโตโยต้า   มัน ไม่ย้วย ไม่โคลง  จัมพ์คอสะพานไม่ยวบ   รถมีสมดุลดี   วิ่งทางตรงนิ่งในแบบรถใหญ่   เข้าโค้งคล่องแคล่วมีชีวิตชีวาแบบรถคอมแพค   แต่หากแช่ความเร็วสูง    140 ++  หน้ารถจะลอยๆ  พวงมาลัยไม่สื่อสารกับถนน  ซึ่งผมมองว่า  อาจจะเป็นเพราะ ยาง BS GR100  ที่แก้มยางมันนิ่มเหลือเกิน    หรือระบบ  aero dynamic  ของรถที่  ระยะ  ground  clearance  ค่อนข้างสูง ลมอาจจะตีใต้ท้อง    ในขณะที่ J32  V6  ที่ดูย้วยๆ กลับนิ่งสนิทpyo 180 ++  แต่คันนี้ใส่  BS Adrenalin RE003   

 
4.  ภายในกว้างขวาง  นั่งสบาย วัสดุดี เก็บเสียงดี  แต่บ่ารถค่อนข้างสูง คนนั่งหลังตัวเล็กอาจเวียนหัว  คอนโซลไม่หวือหวา  แต่ใช้งานสะดวก   เหมือนผ่านกระบวนการ  Logical  มาเป็นอย่างดี    ม่านหลังลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R     และ ยกขึ้นอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์  เดินหน้า   ในขณะที่เทียน่าลดลงเมื่อเข้าเกียร์  R  แต่พอเข้าเกียร์  D  ก็ไม่ยกขึ้นให้   คนขับต้องกดเอง     ปุ่มปรับเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็มีให้    ไฟแสดงตำแหน่งปุ่มกระจกไฟฟ้าด้านคนขับมีทุกบาน   jam protection  มีให้ทุกบาน  กระจก ขึ้นสุด ลงสุด  one touch  ทุกบาน    เปรียบเทียบกับ  J32  ทั้งๆ ที่เป็น  2.5  ไม่มีอะไรแบบนี้เลย

5. ข้อตำหนิจริงๆ  เป็นเรื่องเบรคครับ  ดันเป็นเรื่องสำคัญด้วย    ระยะเบรคผมไม่เคยลอง  test  คิดว่าไม่แย่   น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนพ้อง     แต่ฟีลลิ่งเบรคห่วยแตกจริงๆ    กดไปครึ่งทางของ  travel pedal  แล้วเบรคยังไม่จับเลย   แต่กดอีกนิดก็แข็งสู้เท้าแทบกดไม่ลง คอนโทรลน้ำหนักเท้ายาก   ไม่  linear  เลย  ขับในสภาพที่ใช้ความเร็ว   แต่รถเยอะๆ แบบมอเตอร์เวย์นี่เหนื่อย   ไม่รู้เพราะผ้าเบรค  หรือการ  set   up    เอาว่าเทียน่า   ฟีลลิ่งเบรคผมให้  10  เต็มสำหรับรถญี่ปุ่น   standard      ACV 50  2.0G  เอาไป 4  เต็ม 10  พอ

1 เห็นด้วย 
2 ขอแย้งครับ อัตราเร่ง Camry 2.0 เกียร์ 4 Speed อืดมากครับ พอๆกับ Jazz 1.5 CVT
3 ต่างจังหวัด เร่งแซงยากหน่อยครับ เครื่องแรงน้อย+เกียร์ 4 speed
4 ขอแย้งครับ 120+ ก็เริ่มรู้สึกว่าลอยแล้วครับ ทางแก้=เปลี่ยนโช้คสตรัทให้แข็งขึ้นและปรับช่วงล่างให้เตี้ยลงครับ
5 เห็นด้วยครับ ภายในกว้างจริงๆ
6 เบรคผมว่าอันตราย ต้นเหตุคือผ้าเบรคคุณภาพแย่ ทางแก้= เปลี่ยนผ้าเบรค 4 ล้อ Nsport pro spec ครับ

ข้อมูลอัตราเร่งที่ผมว่าบอก Camry 2.0 4 Speed อัตราเร่งอืด
Camry 2.0 4 Speed
0-100      12.13
80-120      7.83

Camry 2.0 D4S 6 Speed (MC)
0-100        11.10 
80-120        7.53

Camry 2.5 6 Speed
0-100           8.95
80-120         6.12

Jazz 1.5 CVT
0-100          11.10   
80-120          8.11

สรุปถ้ามีงบไม่เกิน 7 แสน เลือก Camry 2.5 เกียร์ 6 Speed คุ้มค่าเงินที่สุดครับ อัตราเร่งดีกว่า 2.0 มากๆ ขับต่างจังหวัดเร่งแซงไม่ต้องลุ้น ถ้ากลัวเปลืองก็จับติด Gas LPG จบครับ  ถ้าได้รถมารีบเปลี่ยนผ้าเบรคทั้ง4ล้อนะครับ ผ้าเบรคเดิมๆอันตรายครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง camry 2.0G ปี12 AV50 มือ2 กับ mazda2 1.3G มือ1 ถ้าจะเล่นเล่นตัวไหนดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: paeybu ที่ มกราคม 21, 2017, 13:53:50
2.0ตัว4เกียร์รอบมันลากมากครับ
ในเมืองรอบขึ้นๆลงๆเบรค เร่ง ไม่เวิร์คเลย  นอกเมืองก็3-4ชิด ทำรอบเครื่องจัด

หา2.5 gear 6speed ครับ ดีกว่าเยอะ

+1