Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: arte ที่ มกราคม 26, 2017, 06:19:03
-
1.ตอนเบรคกำลังจะหยุดสนิทแต่รถจะต้องเคลือนที่ข้างหน้านิดหนึ่งไม่เคยหยุดได้สนิทเลย นอกจากจะค่อยๆเลียเบรคแต่ก็ยังมีนิดหนึ่งอยู่ดี อาการนี้ถือว่าปกติใช่ใหมครับสำหรับ bmw
2.การจอดรถ หลังหยุดสนิทและอาการจึกจากข้อ1แล้ว ผมจะดึงเบรคมือแล้วเข้า เกียร์ p ก็จะมีอาการรถเคลื่อนไปข้างหน้าอีกหนึ่งครั้งตอนแรกคิดว่า ดึงเบรคน้อยไป เลยดึงมากขึ้นก็เหมือนเดิม หรือลองรถหยุดแล้วเข้าp แล้วคอยตามด้วยเบรคมือก็เหมือนเดิม อาการนี้ถือว่าปกติใหมครับ
3.เบรคติดมีเสียงทั้งตอนเหยียบและปล่อยเบรคตอนแรกก็เข้าใจรถผมจอดนานออกบ้าน อาทิตย์ละครั้งไปห้าง อาจจะมีคราบสนิมขับไปสักพักก็คงหาย บ้านกับห้างก็ห่างกันสัก20โล แต่พอจะกลับออกจากห้างขับลงที่จอด อาการมีเสียงเบรคติดหรือเสียงดังเวลาเหยียบและปล่อยเบรคตอนลงห้างตลอดเลย ถือเวลาปกติใหมครับ รถพึ่งวิ่งได้ 5พันโล
รบกวนแชร์ข้อมูลความรู้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
-
ดังประมาณ อึด อึด อึด แบบนี้รึป่าวครับ
-
ดังประมาณ อึด อึด อึด แบบนี้รึป่าวครับ
เสียงประะมาณนั้นครับสำหรับ ข้อสาม นึกว่าขับไปสักพักจะหาย แต่ก็ยังไม่หาย เดี่ยวอาทิตย์นี้ออกบ้านจะจับอาการอีกที
-
ปกติครับ เป็นเหมือนกันครบทุกข้อ
-
รู้แต่ว่าหน้าหนาว อากาศเย็นๆ แบบนี้ ตอนเช้าเสียงเบรกจะจับติดแน่นมากสำหรับรถยุโรป แต่พอหน้าร้อนเสียงเบรกเงียบไปเยอะจนถึงแทบไม่ได้ยินเสียง น่าจะเป็นเพราะวัสดุทำผ้าเบรกรถยุโรปด้วยมั้ง
-
ปรกติครับ
ข้อ 1.นี่พยายามเบรคให้นิ่มที่สุดก็ไม่เคยสำเร็จ ปลงละครับ 555
ข้อ 2. แนะนำให้กดแป้นเบรคจนรถหยุด เข้าเกียร์ N ดึงเบรคมือ ปล่อยเบรค ให้รถขยับนิดหน่อยจนนิ่ง แล้วค่อยเข้า P ครับ ถนอมเกียร์
ข้อ 3. ใหม่ๆก็เป็นครับ จะเหยียบเบรคเพื่อสตาร์ทรถทีเสียงดังกึ้งกั้ง ไม่งั้นก็เสียงเหมือนขึงลวด ลวดตึงไรงี้ 555 แต่ขับไปขับมาก็เงียบไปเอง
-
รถผมก็เป็นทั้งคู่ครับ ทั้ง E280 ทั้ง Focus แต่ Focus เปลี่ยนผ้าเบรคแบบเนื้อแข็ง มันไม่ดังแล้ว ฝุ่นดำบนล้อไม่มีเลย กระด้างเท้าขึ้น แต่ E280 ใช้ผ้าเบรค spec. เดิม มันก็ดังของมันแบบนั้น ฝุ่นดำเต็มล้อ แต่นุ่มเท้าดีครับ ตอนจอดจะเข้าเกียร์ N ใส่เบรคมือ ปล่อยแป้นเบรค รถมีขยับนิดนึง แล้วก็เข้า P ครับ
-
รถผมก็เป็นครับ วิธีแก้ของผมคือ
1 เรื่องเบรคใกล้จะหยุดแล้วไหล แรกๆปรับตัวยากมาก ตอนนี้ปรับดัวได้แล้วครับ คือถ้าสังเกตุดีๆ รถจะลดเกียร์ลงมาเป็นจังหวะๆ มี enging brake ทีนี้พอ engine brake ลดลง รถก็จะไหลๆ เราก็จะเหยียบเบรคมากขึ้นเพื่อให้รถมีอัตราเร่งที่ลดลงแบบคงที่ พอเหยียบเบรคมากขึ้น เกียร์ก็จะลดลง ทีนี้ก็จะมี engine brake อีกครั้ง เร้าก็จะต้องลดแรงกดเบรคลง เพื่อให้รถไหลไป พอในจังหวะสุดท้ายรถเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่าง รถก็จะไม่มี engine brake เราจะต้องกดเบรคมากขึ้นเพื่อให้รถหยุด สรถบว่า แรงเบรคที่เรากดลงแป้นเบรคจะไม่คงที่ถ้าต้องการให้รถหยุดในอัตราหน่วงที่คงที่
2 เกียร์จะมีการ delay นิดนึงครับ ถ้ากด P เราต้องรอประมาณ 1 วิ อย่าเพิ่งรีบปล่อยเบรค ถ้ารีบปล่อย คลัช จะยังออกจากระบบส่งกำลังไม่หมดครับ ให้สังเกตุตัว
P ตรงที่บอกตำแหน่งหัวเกียร์ ให้เป็นสีเขียวที่ตัว P แล้วค่อยปล่อยเบรค
3 เบรคเสียงดังผมเข้า 0 เค้าถอดมาล้างทำความสะอาด หายขาดครับ
-
ขอบคุณมากครับทุกๆท่าน เดี่ยวเสาร์นี้ลองดู :)
-
1. ที่มันจะหยุดแล้วดันไหลอีกทอดนึง เพราะมัน change ลงเกียร์ต่ำครับ (อาจจะ 1 หรือ 2 แล้วแต่รถแต่ละรุ่น)
เพราะพอเกียร์ต่ำนั้น แรงเฉื่อยจากรอบเครื่องที่ขยับสูงขึ้น(เพราะเกียร์ลงต่ำ) มันไปเพิ่มแรงเฉื่อย ทำให้เบรกไม่อยู่ในจังหวะก่อนหยุดรถ ไม่ใช่ว่ามันไปเข้า N แล้วเลยไม่มี Engine brake รถเลยเหมือนไหลก่อนหยุด เพราะเกียร์ auto มันไม่เข้า N ให้อยู่แล้ว รู้ๆกันอยู่
(สังเกตง่ายๆว่าใช่ไหมคือ ตอนที่เกิดอาการรถพุ่งนะครับ ลองมองวัดรอบ จะเห็นว่ามันกระดกขึ้น นิดนึง ไม่มากเท่าไหร่ ซัก 100-200รอบ)
Engine brake มันจะช่วยหน่วงความเร็วได้ดีตอนลงเขานะครับ เป็นแค่การหน่วงไม่ให้รถไหลเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณต้องเบรกแรงๆแล้ว Engine brake มันกลับเป็นภาระแทน คิดง่ายๆ เหมือนคุณพยายามหยุดเครื่องจักรหนักๆที่กำลังหมุนอยู่นั่นแหละครับ (อันนี้เป็นข้อเข้าใจผิดของหลายคนว่า Engine brake ทำให้เบรกได้สั้นลง)
2. มันก็แปลกนิดนึงถ้าเป็น Hand Brake แบบ ดึง ไม่ใช่แบบไฟฟ้า แต่ถ้า มันหยุดอยู่ก็คงโอเคครับ
3. เป็นปกติ ของเบรกรถยุโรปเลยก็ว่าได้ครับ คือมันDesign มาให้เบรกได้ดีในความเร็วสูงด้วย เนื้อมันเลยแข็ง ตอนผ้ายังไม่ร้อน มันจะลั่น อืดๆๆๆ แบบนั้นแหละครับ แต่ถ้า ใช้เบรกแบบลดความเร็วจาก 120 มาสักรอบแล้ว มันจะไม่ดังแล้วครับ เพราะมันร้อน