Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 08:52:11

หัวข้อ: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 08:52:11
สมัย w124, w202, w210, e36 e39 e46 รุ่นตัวล่างๆใช้ได้สิบปีไม่มีซ่อมอะไรแพงๆ หนักๆ บ่อยๆ เลย อะไหล่สิ้นเปลืองก็ถูกมาก เรียกว่าทน ดูแลง่าย คุ้มค่าน่าซื้อ

พอรุ่นหลังๆ สามสี่ปีซ่อมระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า เกียร์ อะไรหนักๆ แถมชวนกินข้าวลิงบ่อยอีกนะครับ

หรือผม ครอบครัวผมกับลูกค้าผมซวยกันเอง คนอื่นๆเขาไม่เป็นกัน?
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 08:57:17
ผมว่าค่าดูแลมันแพงอ่ะ    แต่เทียบกับคนที่มีรายได้พวกนี้แล้วเขาสามารถซื้อได้มันก็ไม่มีปัญหาอะไร   แต่รถอะไรก็แล้วแต่ถ้าใช้ยาว ๆ มันก็มีค่าซ่อมตามมาทั้งนั้นละและราคาซ่อมของรถทุกรุ่นแม้กระทั่งรถตลาดมันแพงขึ้น ไม่ไ่ด้ถูกลง     
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Smart ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 09:09:29
เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปครับ มีระบบ control ที่ซับซ้อนขึ้น ...ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกครับ พวกรถกระบะอย่าง Revo, Dmax ... มันก็ซ่อมแพงกว่าพวกรุ่น ไมตี้เอ็ก, มังกร ... เช่นกัน
 8)
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 09:19:10
เหมือนที่ผมเคยบอกเสมอๆ ว่า ทุกวันนี้เรายังเห็น W124 W140 วิ่งกันอยู่เลย แล้วสภาพใหม่ๆทั้งนั้น
และผมก็ว่า 20 ปีข้างหน้าคงไม่ได้เห็น W222, W205 อยู่เยอะแบบที่เห็น W124 W140 ทุกวันนี้แน่ๆครับ

รุ่นที่อาจจะอยู่ยาวๆหน่อยคงเป็นรุ่นที่ option โล้นๆ เช่น 5er elite?
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: maggie ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 09:46:31
เห็นด้วยกับคุณJaeนะ รุ่นลุงรุ่นพ่อผมใช้ 123 124 126 140 201 ตั้งหลายคัน มันโคตรทนเลย แต่มา10กว่าปีหลังมานี่ พวก 210 211 212 220 ใช้ได้3ปีก็เริ่มออกอาการแล้ว ซ่อมแพงก็เข้าใจว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เงินเฟ้อ ค่าเงิน พวกนั้นทำให้แพง แต่เรื่องความเปราะไม่ทนเหมือนก่อนเนี่ยที่ทำให้เสียความรู้สึก

หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 09:49:03
ถ้า Option เยอะ ระบบนู้นนี้นั้นเยอะแยะ ก็ซ่อมแพงเป็นเรื่องปกติ
อะไรๆ ก็คุมด้วยระบบไฟฟ้า เสียทีก็ต้องซ่อม ไม่ซ่อมก็ใช้ไม่ได้

ลองถอดระบบไฟที่มันเกินความจำเป็นออก เปลี่ยนเป็นระบบมือ ค่าซ่อมบำรุง ก็ไม่เยอะละ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 09:53:54
ระบบไฟฟ้าต่างๆเพิ่มมากขึ้น การดูแลรักษาก็ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ

ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆรอบคัน มันเสี่ยงต่อการเสียมากครับ เจอสภาพอากาศร้อน ไหนจะน้ำท่วม

มันมีผลทั้งนั้นละครับ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 10:32:39
ผมนี่รีบเข้ามามุงเลย
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 10:46:52
รถญี่ปุ่นสมัยนี้ระบบไฟฟ้ายุบยับไม่แพ้ รถยุโรปเลย

อยากรู้ว่าต่อไปจะซ่อมแพงแบบรถยุโรป หรือจะกลับทำให้ระบบไฟฟ้าพวกนี้ถูกลงเพราะมีใช้กันเยอะ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: tseesak ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 11:00:07
เคยใช้ w203 w212 ตั้งแต่ป้ายแดงทยอยเสียทั้งเครื่องและแอร์ ไม่นับของเล่นอื่นๆที่เสียก็ช่างไม่ได้ใช้ไม่ซ่อม เทียบกับ w140 w124 ซื้อมือสองมาเก่ามากๆ เก็บงานไม่เยอะก็วิ่งได้ระบบหลักๆ เครื่อง เกียร์ แอร์ ไม่มีรวนเสียก็ซ่อมง่ายและถูก รถใหม่ๆดีตรงปลอดภัยมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น ขับสนุกมากขึ้น แต่พอเริ่มเก่ามันก็ไม่น่าใช้
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 11:01:18
ซับซ้อนขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความจุกจิกที่มากขึ้น

รถยนต์ สมัยนี้ถ้าเปลี่ยนไม่ครบ ไม่ค่อยจบ ราคาอะไหล่ก็ขึ้นกับเจ้าของแบรนด์ ราคาสูงหรือไม่ ก็ต้องลุ้นมันผูกขาด หมดทางสู้

สมัยก่อนยังพอดิ้นได้ เด่วนี้ยากขึ้น

คนมีเงินจ่าย ก็ไม่ได้หมายความว่ายินดีที่จะจ่ายราคาสูงๆ ที่ไม่สมเหตุสมผลเสมอไปหรอกครับ คนมีเงินมากๆ หาเงินเก่งๆ มีไม่น้อยเค้ามองอีกมุมด้วยซ้ำว่าจะมาเสียเงินแบบไม่มีเหตุผล (ในความคิดเค้า) เพื่ออะไร

ค่าซ่อมบำรุงควรจะอยู่ตรงไหนจึงจะเหมาะสม เพื่อให้รถนั้นใช้งานได้เหมือน หรือใกล้เคียงเดิมของแต่ละคนไม่เท่ากันเสมอไปครับ

ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับออปชั่น ผู้ผลิตก็ปรับตัวตาม
รถทนถึกมาก ขายของใหม่ได้น้อย หรือช้า ผู้บริการก็ต้องแก้ไข

ผู้ใช้รถมากมาย ยอมจ่ายเพื่อบางเรื่อง ที่มากกว่าหน้าที่ของรถยนต์ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องจักรชิ้นนึง ก็ต้องจ่ายครับ

ของแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้ ไม่เจอไม่เข็ด เป็นเรื่องธรรมดาครับ

อ่านเวปนี้ ถือว่าดีมากเเล้ว ที่มีหลายๆท่าน นำประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด มาแชร์ๆกัน ให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น ส่วนใครจะเลือกแบบไหน ก็ตามที่พอใจนั่นเองครับ

หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Eakkypoo ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 11:04:25
ต้องถามด้วยว่า ผู้มีประสบการณ์ ซ่อมอะไรกันมาบ้างดีกว่าครับ หนักหนาสาหัสขนาดไหน
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 11:27:36
212 ตัวแรกยังพอได้
7ปีแล้ว ทำช่วงล่างไปครั้งนึง ไม่มีข้าวลิงกลางทาง

ตัวแปลนึงผมว่าอยู่ที่รถว่ามาจากไหนด้วย รถนอกผ่านเกรย์อาจแจ๊คพอตง่ายกว่า เพราะรถมันเกิดและขายในต่างประเทศแต่มาใช้เขตร้อน อาจจะมีผล
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 11:38:40
cla เพื่อนผมโช้คไปที่ 3หมื่น
c350e นี่ ไม่แน่ใจ > <
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 12:40:01
บางทีเราก็ต้องถามกลับเหมือนกันว่า ถ้าเอาอุปกรณ์ตกแต่งของ W124 มาใส่ W212/W213 คุณจะซื้อกันไหม หรือเอาอุปกรณ์ภายนอก/ภายในของ E36, E39 มาใส่รุ่นใหม่ๆ พวกรหัส F คุณจะซื้อกันหรือเปล่า

โลกเปลี่ยนทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงครับ บางทีตัวเรากันนี่แหละที่บังคับให้ค่ายรถเปลี่ยนแปลง
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: kittiphat123 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 12:58:48
เห็นด้วยครับ แต่ผมสนใจV40อยู่เลย
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: champyadme ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 13:06:36
รถอย่าง W124/202 หรือ E34/36 นี่ถ้าซ่อมจบที ก็ใช้ได้อย่างน้อย 5 ปีโดยไม่ต้องทำอะไร แค่เช็คระยะตามปกติ

แต่กับ W203/211หรือ E60 หรือที่ใหม่กว่านั้น ต่อให้ซ่อมจบ เปลี่ยนของใหม่แท้ทุกชิ้น อายุใช้งานมันก้ไม่เกิน 3-5ปีอยู่ดี เดี๋ยวก็เซนเซอร์นู่นนี่เสีย สารพัด

มันไม่เกี่ยวครับว่าระบบไฟฟ้า เซนเซอร์เยอะขึ้น เลยเสียง่ายขึ้น
จะมีเซนเซอร์เพิ่มขึ้นมาอีก 100 ตัว หรือสายไฟอีก 100 เส้น ถ้าเค้าออกแบบมาให้มันไม่พังภายใน 10 ปี มันก็ไม่ควรพังก่อน 10 ปีครับ
ผมว่า ประเด็น คือ "อายุการใช้งานของอุปกรณ์แต่ละชิ้นมันสั้นลง ทำให้อายุการใช้งานของรถมันสั้นลง"

ส่วนเรื่องซ่อมแพงขึ้น อันนี้ผมว่ามันปกติครับ เพราะอุปกรณ์มากชิ้นขึ้น ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น
.
.
สุดท้าย คิดว่าจขกท คงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่ผมว่า คำตอบของคำถามนี้คือ
1. ถ้า บ.รถจะออกแบบให้ชิ้นส่วนทุกชิ้นมันทนทาน(กว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้) ผมว่าเค้าทำได้ แต่ราคารถคงจะขึ้นไปอีก 2-3 เท่า
2. ถ้าอะไหล่ไม่เสีย รถไม่เสีย คนก้ไม่มาเปลี่ยน-ซ่อมรถ บ.รถก็ขาดรายได้สิครับ
3. เทคโนโลยีมันไปไวขึ้น บ.รถก็ต้องเร่งคิดค้นสิ่งใหม่ๆ แต่ถ้าคิดค้นมา แล้วไม่มีคนมาซื้อ ก้ขาดรายได้สิครับ

หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 13:20:02
เมื่อก่อนการแข่งขันไม่สูงเท่านี้ ทางเลือกไม่เยอะ
รวมทั้งoptionครับ.

รถที่มีoptionเยอะๆไม่แปลกใจที่จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ

ที่สำคัญ. ช่างอุ่นอกฝีมือตามไม่ทันครับ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 13:20:51
ผมว่าของสมัยนี้ ไม่ได้ทำมาให้ทน เหมือนแต่ก่อนแล้วครับ อาจจะเพราะผู้บริโภคเปลี่ยนใหม่บ่อยขึ้น คนขาย จึงไม่ต้องทำมาให้ทนถึกแบบสมัยก่อน
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 13:21:55
อย่าว่าแต่เบนซ์ บีเอ็มเลยครับ

ผมคิดว่า อนาคตอาจจะเห็นกระบะปัจจุบันอย่าง Revo Ranger Triton
น้อยกว่าสมัยนี้ที่เราเห็น Mighty-X หรือ Tiger ซะอีก

ส่วนตัวผม เปลี่ยนรถที่ 8-10 ปี หรือวิ่งซัก 4-5 แสนโล ผมว่ากำลังดี ไม่จุกจิกกวนใจ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 14:44:58
มันก็แลกกับระบบความปลอดภัยที่มากขึ้นนะครับ benz คันเก่าที่บ้าน มีแค่ airbag เอง เอาแค่ล๊อคเด็กข้างประตูยังไม่มีเลย
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Jinfinite ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 14:56:35
CLK C208 อยู่ในหมวดทน ดูแลง่าย ด้วยรึเปล่าครับ

พอดีเริ่มสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี  ;D
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: nuntapon.s ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 15:05:05
มันก็แลกกับระบบความปลอดภัยที่มากขึ้นนะครับ benz คันเก่าที่บ้าน มีแค่ airbag เอง เอาแค่ล๊อคเด็กข้างประตูยังไม่มีเลย

เอาจริงดิ รุ่นไหนครับ 124ผมเห็นมันก็มี  หรือว่าเก่ากว่านั้นอีก
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: jztang ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 15:16:22
ระบบไฟฟฟ้าล้วนๆ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 16:31:25
Product cycle มันกำหนดตั้งแต่ออกแบบครับ ว่าให้มีอายุเท่าไร

และคุนจะไปทำให้ทนทานกว่าอายุมันทำเกลืออะไร
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 17:00:37
ถึงได้มีรถคลาสสิคไงครับ
ความซับซ้อนไม่มาก อายุใช้งานนาน
รูปทรงสวยงาม
แรงบันดาลในในการสร้างรถยุคปัจจุบัน
มันต่างจากอดีตครับ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Koong ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 18:41:58
เห็นด้วยครับ ML250 ใช้มา 2 ปีครึ่งเรียกรถสไลไป 2 รอบแล้ว
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 18:59:27
ซื้อรถยุโรบป้ายแดงมาสองคัน ขึ้นยานแม่ทั้งสองคัน เข้าศูนย์ตามระยะตลอด ที่เสียไม่ใช่อุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยครับ โทษฐานที่พาไปตายกลางทางคือขายทิ้งสถานเดียวครับ  ขับเจ้าตลาดถึงแม้จะด้อยในหลายๆเรื่อง แต่ไม่เคยพาไปตายกลางทางเลยครับ ผมเห็นด้วยกับ จขกท ครับ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 20:24:38
acv40 ระบบไฟฟ้าเยอะแยะ บ้านผมใช้สิบปีมันยังไม่รวนสักอย่างเลยครับ

ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ความทนทานมากกว่า ชิ้นส่วนรถมันเปราะกว่าเดิมเยอะเลย 

ซ่อมแพงไม่ใช่ปัญหาน่าหงุดหงิดเท่ามันไปเสียกลางทาง รถที่เชื่อใจ ไว้ใจไม่ได้ เวลาใช้มันอึดอัดครับ
รถยุโรป สายไฟกรอบ ระบบไฟรวน แต่ปีที่ 5 ทำไมรถยี่ปุ่นมันไม่เป็น   จริงๆเมืองนอกเค้าก้บ่นเหมือนกันหมด

BMW Unreliable  แต่ Lexus กลับได้รับคำชม
เรื่องนี้ มันก็บอกอะไรได้หลายๆอย่าง

ถ้าใครเคยได้พบ ประสบการณ์ขึ้นยานแม่ บอกเลย ไม่สนุกครับ หลังจากนั้นจะขับไประแวงไป มันจะพาไปถึงไหม ถ้าเสียกลางทาง เปลี่ยวๆตอนกลางคืน มันลำบาก + อันตราย
เจ้าตลาดบางทีเหมือนได้ความสบายใจยามเดินทางมากกว่าครับ

อะไหล่แพงไม่หวั่น แค่อยากใช้อย่างสบายใจ เช็คตามระยะ เปลี่ยนอะไหล่ให้ตามระยะ  แล้วจบ  ทนทาน พาเราถึงที่หมายได้แบบอุ่นใจ ผมว่าสำคัญที่สุดครับ

รถยนต์มีหน้าที่หลักคือพาคนขับและผู้โดยสารเดินทางโดยปลอดภัยถึงที่หมาย มันควรทำหน้าที่ของมันให้ดีที่สุดก่อน ส่วนความสนุก ความผ่อนคลาย คุณภาพการขับขี่ มันก็เป็นปัจจัยรองสำหรับผม
ต่อให้รถขับสนุกแค่ไหน แต่ขับแล้วลุ้นขึ้นยานแม่ตลอดเวลา ผมไม่เอาด้วยหรอกครับ   :-\
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: kaho300691 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 21:15:34
บางส่วนเป็นเพราะ "บั๊คโปรแกรม" ครับ

น่าแปลก ที่ซอฟแวร์ในกล่องควบคุมระบบต่างๆของรถมักจะเป็น "version 1.0a" ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับการอัพเดตเมื่อไหร่ และเมื่อมีอัพเดตแล้ว ลูกค้าจะได้รับแจ้งหรือไม่ หรืออัพเดตภายนอกศูนย์ได้หรือไม่

การควบคุมที่เพี้ยนๆของระบบ ทำให้อะไหล่บางตัวเสียเร็วขึ้นครับ เพราะการทำงานไม่เหมาะกับสภาวะจริงที่ใช้ ณ ขณะนั้น

ยกตัวอย่างเรื่องเกียร์ออโต้ แม้กระทั่งเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ยังต้องรีเซตระบบ แถมยังต้องใช้น้ำมันที่ "จำเพาะ" แบบสุดๆ เพี้ยนไม่ได้เลย เพราะกล่องมันจะจดจำค่าความหนืด การไหลเท อะไรต่างๆของน้ำมันเกียร์ ฉะนั้น เมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน ค่าพวกนี้จึงเปลี่ยนไปด้วย แต่กล่องยังจำค่าเดิมๆอยู่ จึงทำให้การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทำให้เกียร์ทำงานแย่กว่าเก่า ถึงขั้นพังได้เลยทีเดียว

ทุกอย่างถูกควบคุมด้วยซอฟแวร์ เมื่อมีซอฟแวร์ก็ต้องมีบั๊กครับ เป็นของคู่กัน
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: wsonpee ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 21:40:09
ใช้ w212 รถเกรย์ฮาวด์มาห้าปี ยังไม่เจออะไรเลย ถือว่าโชคดีมั้ยครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2017, 23:18:20
เพราะเหตุนี้ Toyota เลยไม่จัด option ล้ำใส่มาให้ลูกค้าอุ๊บ...
เกี่ยวกันเปล่า
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: JDM ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 01:23:09
ผู้ผลิต ศูนย์บริการ ขยันลดราคา ยัดออฟชั่น ที่ไม่เกี่ยวกับการขับขี่

แล้วรอฟันค่าอะไหล่ มีที่ไหนครับ โคมไฟหน้า คู่เป็นแสน มันก็ใช้ส่องทางได้เหมือนโคมละ 1500 นั่นแหละ  8) 8)
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Barracuda ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 06:33:05
ได้ยินแบบนี้แล้ว ลูกค้ารถค่ายรองญี่ปุ่นที่อัด option มาเต็มนี่ ผมคิดว่าลูกค้าพร้อมที่จะรับสถานณการณ์แบบนี้แล้ว เพราะดห็นหลายๆท่านเอามาเปรียบเทียบกันบ่อยมากช่วงนี้
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: sixaxis ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 07:47:16
เปิดเว็ปรถมือสอง เห็นรถยุโรปรุ่นใหม่ๆราคาดูเข้าถึงได้ ก็มาเอะใจเมื่อคำนึงถึงเรื่องพวกนี้แหละครับ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 09:07:23
รถยุโรป เมกันสมัยก่อนลากขายได้นานกว่าวันนี้มาก
ตัวถังหนึง 10ปีเปลี่ยนที
มีw116 w126 ที่ลากขายได้ 15ปี ยอดขายหลายแสนคัน

พอมาw140 เหลือ8ปี พร้อมกับไล่ประธานสามแฉกขณะนั้นในประชุมผู้ถือหุ้น
โทษฐานพัฒนารถนานและใช้งบเปลือง นี่เป็นสาเหตุที่สามแฉกถังแตกในเวลาต่อมา
ตอนนั้นสามแฉกเป็นที่สุดของรถหรู และที่สุดแห่งความทนทาน

แค่ฮ่องกง คิดจะเป็นคนรวยต้องถอยสามแฉกสักคัน ทำแต่เก๋งใหญ่
รถเล็กไม่ทำ ใบพัดจึงทำเก๋งเล็กเป็นเส้นเลือดใหญ่สบาย

ยุ่นยุคนั้นตั้งเป้าไว้ว่าจะพัฒนารถให้ทัดเทียมให้ได้

ขนาดนางฟ้า ปีกบิน 20-30ปีเปลี่ยนตัวถังที อะไรๆก็โบราณ
มีแต่วีแปดพ่วงหอย ออโต้โบราณสี่จังหวะ เยอรมันห้าจังหวะแล้ว

พอกม.ควบคุมมลพิษออกมา คือ ยูโร3 และ4
พร้อมกับกม.รักโลกที่ต้องใช้วัสดุรีไซเคิล ทำให้บ.รถต้องปรับตัวเยอะ
พลาสติกไม่ทน แต่นำไปใช้ใหม่ได้ ใส่มีเนียมจะได้เบา กินน้ำมันน้อย
ภาระส่วนนี้จึงผลักมาที่คนซื้อ เพื่อลดต้นทุนในการสร้างโรงงานใหม่
เครื่องจักรใหม่ วัตถุดิบใหม่ อะไหล่เริ่มลดคุณภาพหลังปี2000

(ภายหลังอะไหล่ไฟฟ้า มีซ่อมแล้วขายใหม่ ขายถูกกว่าของใหม่เยอะ
การโกงไอเสีย ก็เกิดอย่างเนียนๆ ในยุคที่มีค่าคาร์บอนไว้ไถ่ชาวบ้าน)

บวกกับยุ่นขายดีขึ้นมาก พัฒนารถได้สูสีตั้งแต่acv30
โดยรีเวิร์ทเอ็นจิเนีย แต่ระบบไฟเป็นอนาล็อค ไม่มีสายชิล
ลดความยุ่งยากในการทำกล่องไปเยอะ ตัวถังเหล็กล้วนเปลี่ยนบ่อยเป็น5ปี

ทำให้ยุโรป ถึงกับต้องเปลี่ยนตัวถังเร็วขึ้นตาม ทั้งที่ถ้าลากขาย
แล้วใช้อะไหล่ทนๆ คนจะยังภักดีอยู่ แต่ดันคิดว่าคนรวยเรื่องเงินไม่เป็นปัญหา
แต่คงลืมไปว่าแท๊กซี่หรูทั่วโลก เขาไม่ได้รวยพอจะซ่อมบ่อย ยกบ่อย

อีกทั้งยุทธการแซนวิส ที่จะบีบยุ่นกลับกลายเป็นว่า ยุ่นตีกินทั้งบนและล่าง
แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะรักษาคุณภาพรถได้คงเว้นคงวา
ปล่อยอะไหล่ มีอบรมช่างนอก จนตอนหลังเริ่มงกจะกินรวบ
แต่ชาวบ้านดันทำรถให้เหนือกว่าไม่ได้ ขนาดเศสได้นิสสันไปยังทำห่วยแบบเศส

จะให้ชาวบ้านใช้ทน ก็กลัวจะไม่ซื้อใหม่ อะไหล่ขายยาก
โถ่ยังไม่หมดประกันยังเจ๊ง พอหมดประกันก็ขายไปซื้อยี่ห้ออื่นดีกว่า อย่างนี้ไม่รู้จักคิด
พอเจ๊งมาโทษคนในชาติว่าไม่สนับสนุน ขนาดเมกันคนรวยๆยังซื้อ เยอรมัน ยุ่นแทนเลย

พอถามไปที่สามแฉกว่า ทำยังไงให้รถเมกันกลับมานิยม ตอบง่ายๆว่า ก็ทำรถให้ดีสิ
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 09:50:21
เอาง่าย ๆ  เลยนะครับ  ถ้าคาดหวังว่ารถยุโรปจะ ทนทานไม่จุกจิก  อะไหล่ถูก  ซ่อมเร็วไม่คอยศูนย์นาน คิดผิดแล้วกันเพราะแนวทางมันไม่ใช่

แต่ถ้าต้องการภาพลักษณ์เพอร์ฟอร์แมน  ความปลอดภัย ความหรูหรา  อ๊อพชั่น หน้าตา   รถยุโรปหรูตอบโจทย์แน่นอน
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 12:09:35
รถยุโรป เมกันสมัยก่อนลากขายได้นานกว่าวันนี้มาก
ตัวถังหนึง 10ปีเปลี่ยนที
มีw116 w126 ที่ลากขายได้ 15ปี ยอดขายหลายแสนคัน

พอมาw140 เหลือ8ปี พร้อมกับไล่ประธานสามแฉกขณะนั้นในประชุมผู้ถือหุ้น
โทษฐานพัฒนารถนานและใช้งบเปลือง นี่เป็นสาเหตุที่สามแฉกถังแตกในเวลาต่อมา
ตอนนั้นสามแฉกเป็นที่สุดของรถหรู และที่สุดแห่งความทนทาน

แค่ฮ่องกง คิดจะเป็นคนรวยต้องถอยสามแฉกสักคัน ทำแต่เก๋งใหญ่
รถเล็กไม่ทำ ใบพัดจึงทำเก๋งเล็กเป็นเส้นเลือดใหญ่สบาย

ยุ่นยุคนั้นตั้งเป้าไว้ว่าจะพัฒนารถให้ทัดเทียมให้ได้

ขนาดนางฟ้า ปีกบิน 20-30ปีเปลี่ยนตัวถังที อะไรๆก็โบราณ
มีแต่วีแปดพ่วงหอย ออโต้โบราณสี่จังหวะ เยอรมันห้าจังหวะแล้ว

พอกม.ควบคุมมลพิษออกมา คือ ยูโร3 และ4
พร้อมกับกม.รักโลกที่ต้องใช้วัสดุรีไซเคิล ทำให้บ.รถต้องปรับตัวเยอะ
พลาสติกไม่ทน แต่นำไปใช้ใหม่ได้ ใส่มีเนียมจะได้เบา กินน้ำมันน้อย
ภาระส่วนนี้จึงผลักมาที่คนซื้อ เพื่อลดต้นทุนในการสร้างโรงงานใหม่
เครื่องจักรใหม่ วัตถุดิบใหม่ อะไหล่เริ่มลดคุณภาพหลังปี2000

(ภายหลังอะไหล่ไฟฟ้า มีซ่อมแล้วขายใหม่ ขายถูกกว่าของใหม่เยอะ
การโกงไอเสีย ก็เกิดอย่างเนียนๆ ในยุคที่มีค่าคาร์บอนไว้ไถ่ชาวบ้าน)

บวกกับยุ่นขายดีขึ้นมาก พัฒนารถได้สูสีตั้งแต่acv30
โดยรีเวิร์ทเอ็นจิเนีย แต่ระบบไฟเป็นอนาล็อค ไม่มีสายชิล
ลดความยุ่งยากในการทำกล่องไปเยอะ ตัวถังเหล็กล้วนเปลี่ยนบ่อยเป็น5ปี

ทำให้ยุโรป ถึงกับต้องเปลี่ยนตัวถังเร็วขึ้นตาม ทั้งที่ถ้าลากขาย
แล้วใช้อะไหล่ทนๆ คนจะยังภักดีอยู่ แต่ดันคิดว่าคนรวยเรื่องเงินไม่เป็นปัญหา
แต่คงลืมไปว่าแท๊กซี่หรูทั่วโลก เขาไม่ได้รวยพอจะซ่อมบ่อย ยกบ่อย

อีกทั้งยุทธการแซนวิส ที่จะบีบยุ่นกลับกลายเป็นว่า ยุ่นตีกินทั้งบนและล่าง
แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะรักษาคุณภาพรถได้คงเว้นคงวา
ปล่อยอะไหล่ มีอบรมช่างนอก จนตอนหลังเริ่มงกจะกินรวบ
แต่ชาวบ้านดันทำรถให้เหนือกว่าไม่ได้ ขนาดเศสได้นิสสันไปยังทำห่วยแบบเศส

จะให้ชาวบ้านใช้ทน ก็กลัวจะไม่ซื้อใหม่ อะไหล่ขายยาก
โถ่ยังไม่หมดประกันยังเจ๊ง พอหมดประกันก็ขายไปซื้อยี่ห้ออื่นดีกว่า อย่างนี้ไม่รู้จักคิด
พอเจ๊งมาโทษคนในชาติว่าไม่สนับสนุน ขนาดเมกันคนรวยๆยังซื้อ เยอรมัน ยุ่นแทนเลย

พอถามไปที่สามแฉกว่า ทำยังไงให้รถเมกันกลับมานิยม ตอบง่ายๆว่า ก็ทำรถให้ดีสิ

+10  ครับ ชัดเจนดี

ผมก็ว่าอยู่ BMW ยุคหลังๆ ตั้งแต่ E39 นี่มันแย่เรื่องความทนทานพอสมควรเลย (ไปศูนย์ทุกรอบต้องเจอ E39 มาจอดทิ้งรอซ่อมหนักๆ รายการใหญ่ๆตลอดเลย)

พอได้มีโอกาสนั่ง camry acv40,50 ผมว่าเค้าทำรถมาได้ใกล้เคียงมากขึ้น แล้วยิ่งได้มีโอกาสนั่ง Lexus ES ครั้งนึง ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดเลย

ผมว่า ยุ่นทำรถให้ดีเท่าเยอรมันได้แล้วละครับ  ถ้าไม่ขยับคัวหาจุดขายใหม่ๆ จุกจิก ไม่น่าใช้ สักวันคงโดนยุ่นกินรวบ

 เยอรมัน ญี่ปุ่น พันธมิตรในสงครามโลก คู่แข่งในสงครามยานยนต์  ::)
หัวข้อ: Re: รถเบนซ์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ ผมว่ามันไม่เหมาะกับซื้อมาใช้ยาวๆเหมือนก่อนแล้วสิ
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2017, 22:04:02
รับทราบครับ
คิดว่าจะลองใช้ดูสัก 7-8ปี ดูว่าจะซ่อมโหดสักแค่ไหน