Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kan.kom ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2017, 11:52:54
-
ส่วนตัวผม ผมคิดว่า ถ้าทั้งสองฝ่ายรู้ว่า เรื่องจะมาถึงขนาดนี้
ทั้งสองฝ่ายจะจบกันด้วยดี คงไม่บานปลายขนาดนี้
ผมจะไม่ตัดสินว่า ใครถูกใครผิด จะไม่มานั่งถามว่า ถ้าเกิดเหตุแบบนั้นจะยิงมั้ยจะอะไรมั้ย
ผมจะไปมองที่ต้นเรื่องของเหตุ แล้วเอามาปรับใช้กับตัวเอง
ต่อไปไม่ว่า ผมจะถูก จะผิด จะยังไง สิ่งที่ผมจะทำก่อนคือ "ยอม"
ผมจะทิ้งอีโก้ ศักดิ์ศรี แล้วก็ยกมือขอโทษก่อนเลยเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง และระงัยอารมณ์ของคู่กรณี
ผมจะไม่แสดงความเห็นเชิงยั่วยุให้สังคมเห็นว่า ผมจะยิง ผมจะสู้ ผมจะไม่ยอม
เพราะอย่างที่เห็นเรื่องมาถึงตรงนี้ ผลที่เกิดกับทั้งสองฝ่ายมีแต่ปัญหารอให้แก้อยู่ข้างหน้า
ใครจะว่าผมอ่อนแอ ผมก็ยอม ผมเลือกที่จะเลี่ยงปัญหาเท่าที่จะเลี่ยงได้
เพราะอย่างที่เห็นช่วงเวลาไม่กี่นาที มันถึงกับเปลี่ยนชีวิตได้เลย
ผมมองยังไงมันก็ไม่คุ้ม
ทุกววันนี้ผมขับรถไม่สนุกเหมือนที่ผมเคยชอบรถเหมือนเมื่อ 15 ปีก่อนอีกแล้ว
มันไม่เหมือนเดิมจริงๆ
-
ได้รู้ว่าคนไทยนี่ไม่เคารพกฏหมายจราจร หยิ่งในศักดิ์ศรี และชอบการอลุ่มอล่วย
เหตุจะไม่เกิดเลยถ้ารถตู้เคารพกฏหมาย
แม้จะเจอแบบนี้ ผมว่าปากวิศวกรนี่แหละตัวพาหาเรื่อง
ใครจะเชียร์วิศวกรก็ช่าง นิสัยวิศวกรนี่ถือว่าใจร้อน แถมปากไม่ดีอีก ชวนทะเลาะหาเรื่อง สุดท้ายได้เรื่องเลย
-
ถ้าคนเป็นสามี ไม่อารมณ์ร้อน บีบแตรกระพริบไฟไล่รถตู้ตั้งแต่แรก รอให้เป็นภรรยาคุยกับรถตู้ก่อน เรื่องก็คงไม่บานปลายแบบนี้
คนไม่รู้จักกัน เจอกันครั้งแรก ใครมันจะไปมีเรื่องกันได้ เค้าไม่ใช่ลูกหรือลูกน้อง ไปใช้กริยาแบบนั้นกับคนแปลกหน้า เป็นใครก็ไม่ชอบ
กลับกันถ้าคนในรถคันมีกล้อง เป็นคนที่อยู่ในรถตู้ คำพูดแรกที่น่าจะพูดหลังจากได้ยินเสียงแตรก็น่าจะเป็น บีบหา พ....มึ.... เหรอ
คนสมัยนี้ ไม่รู้จะใจร้อนใจแคบไปถึงไหน เล็กๆน้อยๆ ยอมกันได้ก็ยอมกันไป จะได้กลับถึงบ้านไปกินข้าวกินปลากับลูกกับเมียที่บ้าน
-
ปัญหาคือ อารมณ์ชั่ววูบครับ ไม่ว่าจะเกิดกับฝ่ายใดก่อน
สมมติ A กับ B มีปัญหากัน ใครจะเริ่มก่อนไม่สน
เมื่อคนใดคนหนึ่งมีเซนส์ รู้ว่าจะต้องเดือดร้อน เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต พยายามขับรถหนี
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมลด สุดท้ายเรื่องร้ายๆ ก็เกิดขึ้นได้
วิธีป้องกันสำหรับผม
ผมจะไม่เอาคืน ไม่ก้าวร้าวใส่ ปล่อยๆ เขาไป อาจมีบ่น มีด่าบ้าง แต่ไม่ตามราวี
ทำผิดหรือรู้ตัวว่าทำไม่สุภาพ ก็ยกมือขอโทษ
เมื่อก่อน ใจร้อน มีด่า มีแช่งตามก้น แต่ไม่ตามราวี
ตอนนี้ มีลูกสอง คนโต ก็โตพอจะรับรู้เรื่องราวใดๆ แล้ว ทุกครั้งที่เจอคนขับรถไม่ดี ก็บ่นนิดๆ กับคนข้างๆ ไม่ด่า ไม่แช่ง เหมือนเมื่อก่อน ทำให้เราใจเย็นลงได้เยอะครับ ยอมๆ และปล่อยๆ ไป
-
เรียกได้ว่า เป็นจังหวะที่ คนสไตล์เดียวกันมาเจอกันพอดี
-
ผมว่า. วิศวกร. ทำดีแล้วครับ ปกป้องเมียและแม่
งี้ใครจะเดินมาหาเรื่อง ต้องกราบรึไง
พวกเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นๆก้อพุเได้ว่าจะไปกราบ. แต่นี้
เหตุการณ์จริง.
วิศวกรฉลาดๆสุขุมเยอะแยะไป. อย่าไปดุถุกกันครับ
ข้อคิดที่ได้คือ. ปืนมีไว้ยิงจริงๆ
-
เด็กก็จอดรถมักง่าย จอดรถ ซ้อนคัน โดยไม่ทันว่าลุงกำลังออกรถ คนขับรถลงรถจะไปซื้อของแป๊ปหนึงมั้ง
ตาลุงก็โหดใจร้อนใจแคบทั้งผัวทั้งเมีย
ไม่ยอมและต้องออกให้ได้ ขอให้เด็กขยับรถไม่ทันใจ ด่าทอโต้เถียงกัน ถ้าใจเย็นสมวัยสักนิดคงไม่มีการสูญเสียเป็นเรื่องเป็นราวกันแบบนี้
ผมเข้าใจการจอดรถ ริมถนนตามร้านค้าแถวนั้นนะ หรือออกเดินทางไปเที่ยวไหนสักแห่ง ไหล่ทางอาจกว้าง อาจมีจอดช้อนคันเพื่อรอช่องว่าง ทีเขาทีเราครับ เป็นกันทุกคน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เอื้อเพื้อต่อกัน รอกัน2-3นาทีคงไม่ตาย
แต่ตาลุงนี้ ใจแคบมาก ยังไม่ถึง30วินาทีเลยด้วยซ้ำจากคลิปต้นเหตุ เมียตาลุงก็ร้ายไม่ยอมท่าเดียว
https://youtu.be/9lpwy8cgrd0
-
;) เคยเจอเคสแบบนี้เลยหล่ะครับ
พวกจอดปิดท้ายแล้วลงไปซื้อของ - -
ก็พยายามหาช่องออก คนแถวๆนั้นก็มาช่วยโบกช่วยเข็นรถ (แต่แมร่งใส่เบรคมือ)
ยอมใจเลยคนพวกนี้ :(
ก็ไปเที่ยวต่อสบายใจ เอาแบบนี้ดีกว่าไม่ต้องไปมีเรื่องด้วย
เคสนี้ต้องเอาคนขับรถตู้มากระทืบครับ ตัวต้นเรื่อง
แล้วก็ผมมองว่าลุงแกน่าจะบ่นในรถน้ะครับ เหมือนๆเราๆบ่นกันนี้แหละ
สังเกตุได้ตอนเมียลงไปบอกเสียงมันจะเบาลง
-
เด็กก็จอดรถมักง่าย จอดรถ ซ้อนคัน โดยไม่ทันว่าลุงกำลังออกรถ คนขับรถลงรถจะไปซื้อของแป๊ปหนึงมั้ง
ตาลุงก็โหดใจร้อนใจแคบทั้งผัวทั้งเมีย
ไม่ยอมและต้องออกให้ได้ ขอให้เด็กขยับรถไม่ทันใจ ด่าทอโต้เถียงกัน ถ้าใจเย็นสมวัยสักนิดคงไม่มีการสูญเสียเป็นเรื่องเป็นราวกันแบบนี้
ผมเข้าใจการจอดรถ ริมถนนตามร้านค้าอถวนั้นนะ หรือออกเดินทางไปเที่ยวไหนสักแห่ง ไล่ทางอาจกว้าง อาจมีจอดช้อนคันเพื่อรอช่องว่าง ทีเขาทีเราครับ เป็นกันทุกคน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เอื้อเพื้อต่อกัน รอกัน2-3นาทีคงไม่ตาย
แต่ตาลุงนี้ ใจแคบมาก ยังไม่ถึง30วินาทีเลยด้วยซ้ำจากคลิปต้นเหตุ เมียตาลุงก็ร้ายไม่ยอมท่าเดียว
??? จริงหรอครับ รอ 2-3 นาที เป็นผมถ้าจะออกเลยผมต้องได้ออกอ่ะครับ
นั่นมันสิทธิของผม ถ้ามองว่าข้างหน้ามันว่างขยับได้
ถ้าจะรอได้คือรถคันจอดขวางไปไม่ได้จริงๆ หรือรอจะเข้าจอดครับ
-
ก่อนจะบานปลาย สิ่งที่ผมนำเสนอ คือ ผมจะไม่วิจารณ์ใคร ไม่บอกว่า ใครถูกผิด
ผมเพียงแต่จะหาทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ที่จะได้กลับบ้านปลอดภัยให้กับตัวเอง
และก็กราบได้ก็กราบครับ จะว่า น่าอายอะไรก็ไม่เป็นไร
เอาตัวเองออกจากสถานการณ์เลวร้ายมาก่อนค่อยไปว่ากันอีกที
อดทน ใจเย็น
และก็ใช่ครับ พอมีลูกแล้วอารมณ์เย็นลงเยอะจริงๆ
-
แอร์เย็น เพลงเพราะ กลับบ้านปลอดภัย พอแล้ว ใครจะไม่ดีอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวเขา
ข้างบนนี้คือ ทฤษฏีง่ายมากๆ แต่ทำยากมากๆ เพราะของจริงมันยั่วตีนมากๆ
พยายามอยู่เหมือนกัน
-
จริงๆ ที่ผมตั้งกระทู้นี้ จปส.คือผมต้องการเบรกอารมณ์ของเพื่อนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านนะครับ
ไม่ได้ต้องการให้เติมน้ำมันลงไปในกองไฟ ให้ไฟมันโหมแรงขึ้น
เรื่องที่บอกว่า ยิงนะถูกแล้ว เก็บไว้ก่อนดีกว่า
ผมไม่อยากให้เกิดความคิดแบบนั้น ไม่ว่าจะฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม
เหตุหลัก คือ เราใช้รถใช้ถนนกัน อย่าให้เกิดค่านิยมแบบนั้นเกิดขึ้นเลยดีกว่า
อยากให้เกิดค่านิยม ถ้อยทีถ้อยอาศัย ยอมๆกันไปดีกว่าครับ อันนี้คือความคิดผมนะ
ไม่ถูกใจท่านใด ผมกราบขออภัยไว้ก่อนเลยครับ
-
ไม่ใช่ว่า ผมเป็นพระอิฐพระปูน ทุกวันนี้ใครปาดมา ใครแซง ผมก็ไม่ชอบ มีด่าอยู่แล้ว
แต่ผมจะไม่ไปเอาคืน ไปปาดกลับ ผมจะไม่แสดงอาการยั่วยุให้เค้าเห็น ผมยอม ผมไม่แรงมาแรงกลับ
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเจรจาจริงๆแบบจวนตัวมากๆก็หวังว่า ตัวเองจะระงับอารมณ์ให้ได้อย่างที่บอกในกระทู้นี้
ก็หวังว่า ตัวเองจะทำได้ละกัน
-
ไม่ใช่ว่า ผมเป็นพระอิฐพระปูน ทุกวันนี้ใครปาดมา ใครแซง ผมก็ไม่ชอบ มีด่าอยู่แล้ว
แต่ผมจะไม่ไปเอาคืน ไปปาดกลับ ผมจะไม่แสดงอาการยั่วยุให้เค้าเห็น ผมยอม ผมไม่แรงมาแรงกลับ
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเจรจาจริงๆแบบจวนตัวมากๆก็หวังว่า ตัวเองจะระงับอารมณ์ให้ได้อย่างที่บอกในกระทู้นี้
ก็หวังว่า ตัวเองจะทำได้ละกัน
+1
ตอนนี้รู้สึกประเด็นที่เขาเอามาเล่นคือ วิศวะพูดและบ่นในรถไม่สุภาพ ฟังแล้วงง นั่นในรถเขานะ เจอเหตุการณ์แบบนี้จะให้เขาบ่นในรถแบบสุภาพๆก็คงไม่ใช่แล้ว แต่ดูคลิปที่เด็กวิ่งกรูเข้ารถแล้ว น่ากลัวมากๆ คิดถึงคดีวัยรุ่นยำชายพิการแล้วยังเสียวแทนลุงแกเลยนะ
-
ถ้าตัวผมอยู่ในเหตุการณ์ เอาจิงๆ ก้อคงบ่น ปนด่าตามลุงแกล่ะครับ แต่จะมีภรรยาคอยปรามๆ ส่วนเรื่องปืนนี่ไม่พกดีที่สุดครับ จริงอย่างบางท่านว่าขับรถสมัยนี้ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไรแล้วครับ เอาแต่อารมณ์เป็นที่ตั้งกันทั้งนั้น อยู่ยากขึ้นทุกวัน :'( บีบแตรเตือนยังโดนด่าได้เลยครับ :-X
-
เรียกได้ว่า เป็นจังหวะที่ คนสไตล์เดียวกันมาเจอกันพอดี
555 ใช่ครับจบเลย
-
เด็กก็จอดรถมักง่าย จอดรถ ซ้อนคัน โดยไม่ทันว่าลุงกำลังออกรถ คนขับรถลงรถจะไปซื้อของแป๊ปหนึงมั้ง
ตาลุงก็โหดใจร้อนใจแคบทั้งผัวทั้งเมีย
ไม่ยอมและต้องออกให้ได้ ขอให้เด็กขยับรถไม่ทันใจ ด่าทอโต้เถียงกัน ถ้าใจเย็นสมวัยสักนิดคงไม่มีการสูญเสียเป็นเรื่องเป็นราวกันแบบนี้
ผมเข้าใจการจอดรถ ริมถนนตามร้านค้าอถวนั้นนะ หรือออกเดินทางไปเที่ยวไหนสักแห่ง ไล่ทางอาจกว้าง อาจมีจอดช้อนคันเพื่อรอช่องว่าง ทีเขาทีเราครับ เป็นกันทุกคน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เอื้อเพื้อต่อกัน รอกัน2-3นาทีคงไม่ตาย
แต่ตาลุงนี้ ใจแคบมาก ยังไม่ถึง30วินาทีเลยด้วยซ้ำจากคลิปต้นเหตุ เมียตาลุงก็ร้ายไม่ยอมท่าเดียว
??? จริงหรอครับ รอ 2-3 นาที เป็นผมถ้าจะออกเลยผมต้องได้ออกอ่ะครับ
นั่นมันสิทธิของผม ถ้ามองว่าข้างหน้ามันว่างขยับได้
ถ้าจะรอได้คือรถคันจอดขวางไปไม่ได้จริงๆ หรือรอจะเข้าจอดครับ
ใช่ครับเห็นด้วยๆ
-
เป็นผมก็ยอมแต่แรกละครับ ยอมเสียเปรียบมากกว่าที่จะเรียกร้องสิทธิที่ควรเป็นเพราะบ้านเมืองนี้ไม่เอื้อเท่าไหร่ และผมคิดว่าการยอมแบบนี้ไม่ได้เสียศักดิ์ศรีแต่ประการใดคิดว่าชนะใจตัวเองด้วยซ้ำ
ส่วนกรณีที่เป็นข่าว ลองได้บานปลายถึงขั้นนั้นแล้วก็ต้องยิงละครับเพียงแต่ถ้าเป็นผมก็คงไม่บานปลายถึงขั้นนั้นหรอก ปากมีก็ขอโทษ มือมีก็ยกมือไหว้
เพิ่งนึกถึงเหตุการณ์นึงเมื่อสมัยวัยสะรุ่นโทรเรียกเพื่อมากินเหล้ารอตั้งนานไม่มาก็โทรตามรากฎว่าได้ยินเสียงเพื่อนขอความช่วยเหลือบอกถูกรุมตี ก็พากันไป 4 คนไปช่วยเพื่อนเห็นเพื่อนนอนกองอยู่แล้วคู่กรณีก็ขับมอเตอร์ไซด์มาจอดตอนแรกเห็นคันเดียวก็จะแห่กันไปจัดลากไม้ลากขวดมาด้วยพอจะถึงเท่านั้นแหละ เอี๊ยดๆๆๆๆ มากันร่วม 15 คน อาวุธวางทันทีจะหนีก็ไม่ได้เพื่อนนอนกองอยู่ก็ยกมือไหว้ขอโทษเพื่อนพี่ผิดเองเข้าใจผิดกันทั้งนั้นทั้งที่ยังไม่รู้ว่าตีเพื่อนเราทำไมก็คุยกันสักพักแล้วก็ทุบรถเพื่อนผมแล้วก็แยกย้าย จากนั้นก็ส่งเพื่อนไปโรงพยาบาลแล้วก็แจ้งตำรวจตามจับได้ 3 คนซึ่งที่ตีเพื่อนผมก็เพราะในกลุ่มนั้นมีคนโดนตีมาไม่รู้ว่าใครจำได้แต่ใส่เสื้อสีแดง พอดีเพื่อนผมใส่เสื้อสีแดงขับผ่านพอดี
ถ้าตอนนั้นมีปืนก็คงหมดแม็ค ถ้าตอนนั้นคุยกันไม่ได้ก็คงจมกองเลือดกันทั้ง 6 คนโดนที่ไม่รู้ว่าโดนตีทำไม
-
ผมคงลงไปบอกให้ช่วยขยับแบบสุภาพก่อนครับ แค่นี้คนเราน่าจะต้องเกรงใจกันบ้างครับ ถ้าเป็นคนมีสำนึกพอ
-
รู้ว่ารถหลายๆคันมีปืน มีมีด และมีความใจร้อนไม่ยอมใครสไตล์ไทยๆ
-
อันนี้ผมขอพูดเรื่องสถานที่นะครับ ไม่ใช่เหตุขณะขับรถ
คือสถานที่บางแห่ง โดยทั่วไปก็จะมีคนประเภทนึง
สถานที่อีกแห่ง โดย่ทั่วไปก็จะมีคนอีกประเภทนึง
อาจจะเรียกได้ว่า บางแห่งเป็นสถานที่อโคจรก็ว่าได้
ยกตัวอย่างตอนเรียนตรี ห้องสมุดม.ผมวางกระเป๋าเงิน กุญแจรถ โทรศัพท์ไว้ แล้วไปกินข้าว ไปห้องน้ำ ไม่มีหายครับ :)
บางที่เราถืออยู่แท้ๆ มันก็มาตีหัวมาแทงเรา เอาของไป >:(
-
รถตู้อาจผิด
แต่ จะไม่ลาม หาก ฝ่าย หนึ่ง พูดจาดีกว่านี้
เคส นี้ Here เจอ Here แรงไปไหม
ถ่อย เจอ ใจแคบ
บอกกันดีๆ ใจเย็นๆ
เจอเคสนี้ หากพูดจาดีๆ ไม่ตีน้ำเสียง รถตู้ก็ถอยครับ
เหมือนเราเจอหมาบ้า เดินขวางทาง เราไปกัดกับมันเราก็เจ็บ
-
เรื่องกลุ่มเด็กก็ผิดตามคลิปที่ดูกัน ส่วนของลุงพอมีทางเลือกอื่นอีกคือ ขับรถหนี หรือไม่เปิดประตูเปิดกระจก แต่ด้วยความคิดที่ว่าตัวเองน่าจะเคลียได้ เพราะเป็นผู้ใหญ่กว่า รุ่นใหญ่ เก๋า ที่สำคัญเพราะมีปืน จึงเลือกที่จะเคลียเหตุการเองมากกว่าขับรถหนี
-
ผมมีอาชีพเป็นวิศวกรครับ ตอนนี้เพื่อนๆ และคนรู้จักจะเกรงใจเป็นพิเศษ ไม่ทราบเพราะอะไรเหมือนกันครับ
-
ผมไม่ควรจะพกปืนครับ >:(
ผมนิสัยเดียวกันกับลุงเลยนะ
เห็นคลิปเต็มแล้ว ลุกก็เห้ พอๆกันกับ วัยรุ่นพวกนั้นอ่ะ
อายุ 50 แล้วนะ อารมลุงนี่ ยัง 17-18 >:(
-
ผมไม่ควรจะพกปืนครับ >:(
ผมนิสัยเดียวกันกับลุงเลยนะ
เห็นคลิปเต็มแล้ว ลุกก็เห้ พอๆกันกับ วัยรุ่นพวกนั้นอ่ะ
อายุ 50 แล้วนะ อารมลุงนี่ ยัง 17-18 >:(
วิศวกร รุ่น เก่าๆ อารมณ์จะประมาณนี้ละครับ
SOtus บ้าพลังๆๆๆๆ
เจอ แวนซ์ ชลบุรีเข้าไป
ท่องไว้นะครับ มาชลบุรี ยอมได้ยอม
-
เรื่องนี้ถือเป็น Cautionary tales ได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายจบไม่สวยทั้งคู่ พยามบอกตัวเองทุกครั้งที่ขับรถ
ให้ใจเย็นมากๆ ขอโทษถ้าผิด และให้อภัยเพื่อนร่วมทาง
ศักดิ์ศรีสำหรับผมไม่มีถ้ามีลูกเมียอยู่ในรถ ต่อให้ขับยุโรป
ราคาแพงก็ไม่เคยเบ่ง เพราะลูกปืนมันไม่เลือกว่ารถญี่ปุ่น
หรือยุโรป รักษาตัวรอดปลอดภัยดีที่สุดครับ
-
ดีเจเก่ง ,น๊อตกราบรถ,ลุงวิศวะ ต้นเหตุเกิดจากอารมณ์
แต่เพราะลุงมีปืน การสูญเสียจึงเกิดขึ้น ถึงเด็กจะเลวก็ไม่ควรตาย
การมีน้ำใจสำคัญ เล็กๆน้อยๆ เรื่องอาจไม่เกิด
-
เรื่องจะไม่บานปลายหาก ดวลกัน 1 ต่อ 1 ตรงๆ ประเมินกันได้ จะสู หรือ ถอย แต่นี่ถือว่าพวกมากกว่า ยอมแล้วก็ยังจะทำร้าย
บังคับให้คนจนตรอกต้องสู้ จะเหลือเหรอครับ การทำผิดกฏหมายเมื่อมองไม่เท่ากันก้บรรลัยได้ คนนึงมองว่าเป็นเรื่องปกติ บางคนมองว่าเป้นเรื่องสำคัญ
ถ้ามองภาพกันจะเห้นว่าถัดไปสองคันก้จอดได้แล้ว ทำไมไม่ขับไปจอด มักง่าย พอโดนตำหนิ แทนที่จะขอโทษ กับด่าสวนกลับมา คนนิสัยแบบนี้ต่างหากที่น่ากลัว
ปล. คนที่ลงจากรถ ไม่ใช่คนขับรถ ไม่ใช่คู่กรณีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิวาท ลงมาทำร้ายคนอื่น คืออะไรครับ ผมงง จะขอความสงสารอะไรจากสังคม
ในเมื่อการกระทำ มันไม่เป้นเหตุเป็นผล อยากจะทำร้ายใครก้ได้ หรืออย่างไร คนพวกนี้ก้น่ากลัวเหมือนกัน หรือสังคมไทยเรามันเสื่อมถอยลงหรือเปล่านะ
-
ผมก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นครับ อายุ19อารมณ์ร้อนเหมือนกันครับ ทุกวันนี้ขับรถก็พยายามระงับสติอารมณ์ตัวเองให้มากครับพ่อกับแม่ก็เตือนตลอดว่ายอมได้ก็ยอม ไม่มีใครว่าตัวเองผิดหรอกขับรถ ผมก็พยายามทำตามครับ ไม่อยากจบชีวิตกับพวกไม่กลัวตายแบบในคลิปครับ555 สมัยก่อนมีรถปาดหน้ารถผมระยะกระชั้นชิดผมตามบีบแตรไล่ละเปิดกระจกมองหน้าเลยครับ ทุกวันนี้ไม่เอาแล้วครับ
ถามว่าได้อะไรจากเรื่องนี้ คงต้องตอบว่าถ้าต่างคนต่างยอมกันพูดกันดีๆเรื่องคงไม่จบด้วยความสูญเสียครับ
-
มันมีหลายประเด็นครับ
1 ผมว่าเราไม่ควรพกปืน เพราะตามสัญชาติญาณ การมีอำนาจไม่ว่าอาวุธหรือเงิน
มักทำให้คนกร่างกว่าปกติ
2 เมื่อเจอเหตุการณ์นั้นก็ต้องเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยที่สุดครับ มี
1 ขอโทษ
2 ขับหนี
3 ยิง
ซึ่งคนอยู่ในเหตุการณ์กับคนมองจากข้างนอกคงคิดไม่เหมือนกัน
และแต่ล่ะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คงเลือกไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละคน
ต้องเลือกวิธีที่เซฟที่สุด เป็นเรื่องของสารเคมีในสมองล้วนๆ
ส่วนตัวผมคงไม่เลือกยิง แต่ผมก็คงจะไม่รอดได้เหมือนกัน
เพราะความป่าเถื่อนของคนสมัยนี้มันไร้ขีดจำกัด
การจะเอาข้อ 1,2 มาผสมกัน แล้วตัดสิน มันทำไม่ได้ครับ
แล้วจะฟันธงว่าอะไรถูกอะไรผิด ผมว่าแม้แต่ศาลก็ตัดสินไม่ได้
พวกเราแค่สร้างกฎหมายมาเพื่อให้ยุติธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่คงได้แค่เกือบ
-
ผมก็เป็นวิศวกร :o
โชคดีคือผมได้ทำงานตำแหน่งใหญ่เว่อตั้งแต่ 25 =="(คนอื่น 35 อัพ)
ต้องดูแล subcontract ทั่วประเทศ ดูแลเคส vip อีก
ลองใช้อารมณ์ดิ .. วัยวุฒิก็ไม่มี
ได้แต่ใช้เหตุผล กับ logic และไหวพริบส่วนตัวแก้ไขปัญหา
เลยติดเป็นนิสัย ช่วงการรับได้ กับการหวังผลของผมเลยกว้างมาก
ขับรถก็ร้อนตอนวัยรุ่น ก็โชคดีอีกนั่นหละที่ .. สมัยนั้นไม่มีกล้อง ไม่งั้นใบสั่งบาน ฮา
----------
ตอนนี้มองอะไรๆ ก็เป็นธรรมดาโลกไปหละครับ
ขับตามกฏหมาย วางแผนดีๆ ก็ถึงที่หมายไม่ต่างกับเหยียบอัดๆเท่าไหร่
ขับดีๆ เหนื่อยน้อยด้วย เที่ยวได้สบายใจกว่าอีกต่างหาก
เดี๋ยวนี้เข้าวัดเข้าวา สวดมนต์ (แก่ไปมั้ยเนี่ย สามปลายๆเอง ฮา)
ใครทำอะไรไม่ดีกับผม ผมไม่ต้องใส่ใจหรอก คนๆนั้นมักจะโดนอะไรหนักๆคืนเอง
ถ้าใครสำนึกได้ก็ดีกับตัวเค้าเองก็ยิ่งได้บารมีตอบแทนเข้าไปอีก :)
----
อันนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
วันก่อนคลิปช่วงเริ่มต้นออก ที่ผมสาธยาย แค่ไม่อยากให้ซ้ำเติมกันจนไม่มีที่ยืน
เชื่อมั้ยว่าน้องเค้าเหมือนมาขอบคุณผมด้วย
ผมก็ลองมาดูวันที่อีกที อ๋อ 3-4 วันหละ ไม่แปลก
จากที่ไม่ได้ไปตามลุง ก็แปลว่ารู้ว่ามีเหตุ
จึงเป็นห่วงแค่ครอบครัวเพื่อนๆพี่น้อง ขอที่ยืนบ้าง
ผิดถูกกฏหมายก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนเอง
เท่านี้หละครับ
-
ส่วนตัวผมมีความคิดแบบนี้ และใช้มาตลอด คือ
ปัญหาแทบจะทุกเรื่อง ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่แค่ไหน สุดท้ายมันจะจบด้วยการพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติ(ส่วนใหญ่นะ)
ฉนั้นพูดคุยซะ ก่อนจะเกิดปัญหา คือ ทำให้เรื่องมันจบไป ไม่บานปลาย เพราะหากคุมไม่ได้ มันจะเจ็บปวดด้วยกันทุกฝ่าย
-
จากเรื่องนี้ทำให้ผมได้ข้อคิดเรื่องการพกปืน หลายคนคิดว่า
-พกปืนเพื่อ ความอุ่นใจ
-พกปืนเพื่อ ไว้ป้องกันตัวเอง
แต่ลองคิดในอีกมุมหนึ่ง
-พกปืนแล้ว ใจเราจากที่มีอยู่ 2 จะเพิ่มเป็น 4
-พกปืนแล้ว เรามองเรื่องอันตรายกลายเป็นเรื่องเล็ก
-พกปืนแล้ว ใจเรากล้าที่จะพุ่งเข้าหา มากกว่าจะยอมถอย
แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าถ้าเป็นผมในวันนั้น ผมก็อาจทำสิ่งเดียวกันกับเขาเพื่อปกป้องครอบครัว
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า หาก...วันนั้นไม่มีปืนเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องอาจไม่เป็นเช่นนี้ ใจเราอาจยอมถอย แทนที่จะกล้าชน สติเราอาจจะเตือนให้ใจเราเย็นกว่านี้ และ เด็กคนหนึ่งอาจไม่ต้องตาย แม้ว่าเขาจะสมควรตาย หรือไม่สมควรตายก็ตาม หนึ่งชีวิตมีค่าเท่ากันเสมอ เมือใดที่เราเลือกความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ถึงแม้มันจะเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดปัญหาได้ แต่เมือใช้แล้วไม่มีใครได้อยู่อย่างเป็นสุขไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ หรือผู้ที่ถูกทำร้าย ต่างต้องได้รับผลกระทบทั้งสิ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
-
จุดจบมันอยู่ที่ ลุงตะโกนออกไปว่า ย ม อ อ ห คับ ตอนนั้น พี่ผู้หญิงกำลังบอกให้รถตู้ขยับ
ซึ่งก้อเหมือนจะสำเร็จ กำลังเดินไปขยับแล้ว แต่พอลุงพูดปุ๊ป ก็เลยเป็นแบบนี้
-
จากเรื่องนี้ทำให้ผมได้ข้อคิดเรื่องการพกปืน หลายคนคิดว่า
-พกปืนเพื่อ ความอุ่นใจ
-พกปืนเพื่อ ไว้ป้องกันตัวเอง
แต่ลองคิดในอีกมุมหนึ่ง
-พกปืนแล้ว ใจเราจากที่มีอยู่ 2 จะเพิ่มเป็น 4
-พกปืนแล้ว เรามองเรื่องอันตรายกลายเป็นเรื่องเล็ก
-พกปืนแล้ว ใจเรากล้าที่จะพุ่งเข้าหา มากกว่าจะยอมถอย
แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าถ้าเป็นผมในวันนั้น ผมก็อาจทำสิ่งเดียวกันกับเขาเพื่อปกป้องครอบครัว
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า หาก...วันนั้นไม่มีปืนเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องอาจไม่เป็นเช่นนี้ ใจเราอาจยอมถอย แทนที่จะกล้าชน สติเราอาจจะเตือนให้ใจเราเย็นกว่านี้ และ เด็กคนหนึ่งอาจไม่ต้องตาย แม้ว่าเขาจะสมควรตาย หรือไม่สมควรตายก็ตาม หนึ่งชีวิตมีค่าเท่ากันเสมอ เมือใดที่เราเลือกความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ถึงแม้มันจะเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดปัญหาได้ แต่เมือใช้แล้วไม่มีใครได้อยู่อย่างเป็นสุขไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ หรือผู้ที่ถูกทำร้าย ต่างต้องได้รับผลกระทบทั้งสิ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ถูกครับ และนั่นคือสัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์
เว้นแต่คุณได้รับการฝึกฝนมาดีมาาาาาาาก
ดังนั้น สำหรับคนธรรมดาๆ สามัญ การพกปืนอาจจะนำมาสู่ภัยได้มากกว่า
การป้องกันตัวครับ
-
สังคมมันเสื่อทราม จอดรถขวางคนอื่นแถมยังให้เค้ารอ ทั้งที่เค้าก็พูดดีๆ ขยะสังคม
-
กล้องติดรถมีประโยชน์ (ควรจัดให้คนขับรถตู้ด้วยสักเม็ดจริง)
-
ไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูกนะครับ
แต่ว่า วิศวะ ใจร้อนมาก มีปืน เลยกล้าพูด กล้าด่า กล้าว่า เพราะในคลิปพูดถึงปืน
รถตู้ก็จอดไม่ถึงสองนาที รอได้ก็รอ ก็ถามก็ได้ครับไม่ใช่ไปว่าครับ
คือเมียวิศวะลงไปก็บอกว่า ไม่ได้ไม่ได้ ซึ่งมันดูรุนแรง (ผมว่าเมียวิศวะพูดน่าฟังท่าไหร่)
ผมว่า ถ้าเป็นผม ผมจะไป ผมจะพูดว่า รบกวนเคลื่อนรถให้ได้ไหมครับ
ผมมีธุระด่วนจริงๆครับ ผมว่า เรื่องจะไม่เกิดขึ้นเลยครับ
ใจเย็น ให้อภัย เรื่องร้ายแรงคงไม่เกิดครับ จากเรื่องเล็กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ
เขาเรียกว่าวินัยจราจร และน้ำใจกับเพื่อนบนท้องถนน ถ้ามีให้กัน ก็จบด้วยดีทุกเรื่องครับ
-
คนเรานิสัยแบบไหนเปลี่ยนกันยากนะ เรื่องแบบนี้อาจจะง่ายสำหรับบางคน หรือยากก็ได้ เพราะฉะนั้น วิธีหลีกเลี่ยงเหตุการ์ณแบบนี้ คือ
ต้องรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง (รวมทั้งคนอื่น)
-
การถอย การยอม บางครั้งอาจไม่ได้แปลว่าขี้ขลาดหรือกลัวครับ ควรคิดถึงความปลอดภัยก่อนอันดับแรก
การไม่มีเรื่องหรือไม่เอาครอบครัวตัวเองไปเสี่ยงจะดีที่สุดครับ ( แต่ถ้าอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรอีกยังมีคนมาหาเรื่องก็แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วครับ :()
-
ถ้ามีสติ สงบสติอารมณ์ได้ตั้งแต่ตอนจอดรถขวางกัน ก็คงไม่เกิดเรื่องบานปลายใหญ่โตแบบนี้
-
ใจเย็นๆครับ มีอะไรค่อยๆพูด เว้นเสียแต่กริยาของฝ่ายตรงข้ามงี่เง่าหรือส่อแววชวนทะเลาะ ค่อยว่ากันครับ หลายๆอย่างที่สั่งสมมาทั้งชีวิต อย่าไปเอาแลกเพราะอารมณ์ฉุนเฉียวชั่ววูปครับ สำหรับผมแค่นี้แหละครับ
-
รู้ว่าสังคมไทยหาคนที่ไม่มักง่ายยากมากครับ เจอประจำอยากจอดตรงไหนก็จอดไม่สนว่าคนอื่นจะลำบากเพราะรถที่จอดจะไปบังหรือไม่ ในซอยเล็กก็จอดกันให้พรึ่บ รถสวนกันไม่ได้ต้องคอยหลบไปหลบมา บางที่มีตลาดนี่เรื่องใหญ่ ถนน 4 เลน โดนบังไปแล้ว 3 เหลือ 1 เลนสำหรับวิ่งตรงไปไม่เข้าตลาด หลายๆคันจอดมันกลางถนนวิ่งลงไปซื้อกันเลย มันจะวุ่นวายไร้ระเบียบมากเกินไปแล้ว
-
คนขับรถตู้ตัวแปรสำคัญ ถ้าไม่จอดใครมันจะลงไปได้ แล้วคุมสติคนในรถให้มันผ่านไป คิดซะว่าซวยเจอคนบ้าไป
ก็จะจบ แต่นี่ถือว่าพาน้องไปเสียชีวิตแท้ๆ อีกทั้งผู้ใหญ่ในรถตู้มีมั้ย
ถ้ามีทำไมไม่ปรามกัน กลับให้เด็กๆลงไปได้ยังไง ควรจะต้องรู้สึกผิดกันทั้งคันที่พาน้องไปเสียชีวิต
คุณวิศวะ ไม่ต้องพูดอะไรมาก คนลองกล้าพกปืน ก็บอกนิสัยกลายๆแล้ว
ประเด็นคือกฎหมายน่าจะมีการปรับ ในแง่การป้องกันตัว กรณีที่คู่กรณีมีจำนวนมาก
เพราะต่อให้ไม่มีอาวุธ3-4คนรุมกระทืบก็ตายเหมือนกันแถมทรมานกว่าปืนด้วย หรืออาวุธต่อให้ไม่ใช่ปืน อย่างมีดหรือดาบ
ควรจะให้น้ำหนักพอๆกับปืนเช่นกัน ปืนยิงโดนขาอาจไม่ตาย แต่มีดฟันโดนเส้นเลือดใหญ่อาจตาย
และในแง่ต้องโดนกระทำก่อนถึงจะป้องกันตัวได้ อันนี้ก็น่าจะปรับปรุงบ้าง
-
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีครับ
สโลแกนนี้ผมจำมาแต่สมัยประถม
รู้แพ้ รู้ชะ รู้อภัย รู้จักเอาตัวรอด
ผมว่าถนนบ้านเราทุกวันนี้อันตรายกว่า เป็นทหารลงสมรภูมิอีกครับ
ผมสนับสนุนให้กวดขันวินัยจราจร กวดขันการจับปรับ ตั้งด่าน
รวรมีรถสายตรวจเคลื่อนที่ บนท้องถนนเยอะๆครับ
ทุกวันนี้โดนใบสั่งผมจ่ายตลอดเลิกฝาก เจอตรวจจับไม่มีขอ
ไม่อ้างทุกกรณี สนับสนุนการทำงานของตำรวจ
ต้องร่วมด้วยช่วยกันครับ
เพราะมันเป็นตัวคุมวินัย ถ้าหละหลวมคนก็ไม่กลัวมันก็ลุกลามบานปลาย
มันต่อเนื่องกันครับ ;D
-
รถตู้ผิดก็จริง แต่ไม่ใช่ไปด่าเค้า พูดดีๆก็ได้ เรื่องมันเลี่ยงได้ ถ้าเจอ here แล้วเราไม่ไป here ตามเค้า ยอมๆกันไปก็ออกมาแยกย้ายกลับบ้าน นี่ ไปด่าทั้งผังทั้งเมีย ถือว่ามีปืนไง ท้าไปทั่ว
ตอนจบอยากบอกว่าสมควรทั้งคู่ ทั้งลุง ทั้งเทีย ทั้งเด็ก
-
ตำรวจวิเคราะห์เอง กรณีลุงวิศวกรเด็ก ม.4 เหตุไม่ยิงขึ้นฟ้า เชื่อต้องการแค่หยุดภัยรักษาชีวิต https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_215102 (https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_215102)
-
https://www.facebook.com/togetherisone/videos/472715189785703/ (https://www.facebook.com/togetherisone/videos/472715189785703/)
-
ส่วนตัวคิดแยกเป็น 3 ประเด็น
1. ประเด็นวันรุ่นจะไปเรื่องและ(น่าจะ)จะไปทำร้ายร่างกายคนอื่น
- ห้าว เปรียว พวกมาก ใจก็มา
- มีคนยุ ดูในคลิป มีคนบิ้วอารมณ์ตลอด แล้วก็(อาจจะ)มีเรื่องแอลกอฮอร์เข้ามาเกี่ยว สติก็ไม่มีแล้ว
2. การยิง
- เห็นด้วยกับหลายคนคือ ถ้ายิงขู่ อาจจะยิงต่ำหรือสูง
- มีการขึ้นลำกล้อง ก่อนยิง(ตามคลิป มีเสียงดังแก๊กๆ ก่อนยิง) แต่น่าจะมีแม็กกาซีนพร้อมที่ปืนอยู่แล้ว
3. เรื่องพกปืนในรถ
- การมีปืนไว้ในรถ พร้อม กระสุน มันทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่
- ขนาด BB Gun จะพกไปเล่น ไปเที่ยว หรือไปสนาม ยังต้องใส่กล่องมิดชิด
- ถ้ามีการตรวจค้นแล้วเจอปืนในรถสภาพแบบวิศวะ (ต่อให้เป็น BB Gun) สามารถจับได้ เพราะเจตนาไม่บริสุทธิ์ หรือไม่ดีแน่ๆ
- ถ้าสุดท้ายแล้วว่า ลุงวิศวะไม่ผิด หรือผิดเล็กน้อย เพราะ ยิงป้องกันตัว มันจะทำให้เป็นบรรทัดฐาน เรื่องการพกปืนไว้ในรถ แน่ๆ (ปืนไม่มีกระบอกเดียวในโลก)
ปล.
- เรื่องทะเลาะวิวาท บนท้องถนน ประเทศไทยเป็นเรื่องธรรมดามาก เห็นทุกวัน มีข่าวให้เห็นเรื่อยๆ
- อารมร์ร้อนกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะลุงวิศวะก็ของชึ้นตั้งแต่โดนจอดรถขวางแล้ว และพวกวันรุ่นพวกนี้ก็ไม่จบ เหมือนเนื้อเพลง PPAP ที่ว่า "I have a friend(เยอะด้วย) ,You have a pistol, pistol->friend"
- คนอารมณ์ร้อนกับปืน มันอาจจะเป็นภัยแต่ตัวเองสักวัน
- ถอยได้ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ถอยดีกว่า
-
ผมมีลูกชาย 4 ขวบ เคยอยากให้ฝึกกังฟูให้ได้แบบดอนนี่เยน
ผมยังกังวลเลยว่ามันเป็นดาบสองคมรึเปล่า คือเราสู้คนได้มันทำให้เรามี option
ที่จะสู้เพิ่ม แล้วคนสมัยนี้มันร้าย มันไม่กลัวแบบในหนังหรอก มันเอาตาย
สรุปเป็นคนธรรมดาๆ ไม่มีวิชา ไม่มีเรื่อง ไม่มีอาวุธดีที่สุด
การพกปืนก็เหมือนล่อให่อีกฝ่ายที่มีปืนเข้ามาเจอเรา หรือปืนเรานี่แหล่ะ
จะกลายเป็นอาวุธให้มัน ทำชีวิตตามแบบพุทธนี่แหล่ะปลอดภัยที่สุด ฉลาด สุขุม มีสติ ปล่อยวาง
ถ้าคิดว่ากลัวภัยรอบข้าง ต้องมีปืนไว้ป้องกันตัว ให้ไปสมัครเป็นตำรวจ
-
สติ ครับ สั้นๆ คนถ้าขาดสติยั้งคิด อารมณ์เข้าแทนที่ทุกอย่างอ้นตรายครับ
-
ผมมีลูกชาย 4 ขวบ เคยอยากให้ฝึกกังฟูให้ได้แบบดอนนี่เยน
ผมยังกังวลเลยว่ามันเป็นดาบสองคมรึเปล่า คือเราสู้คนได้มันทำให้เรามี option
ที่จะสู้เพิ่ม แล้วคนสมัยนี้มันร้าย มันไม่กลัวแบบในหนังหรอก มันเอาตาย
สรุปเป็นคนธรรมดาๆ ไม่มีวิชา ไม่มีเรื่อง ไม่มีอาวุธดีที่สุด
การพกปืนก็เหมือนล่อให่อีกฝ่ายที่มีปืนเข้ามาเจอเรา หรือปืนเรานี่แหล่ะ
จะกลายเป็นอาวุธให้มัน ทำชีวิตตามแบบพุทธนี่แหล่ะปลอดภัยที่สุด ฉลาด สุขุม มีสติ ปล่อยวาง
ถ้าคิดว่ากลัวภัยรอบข้าง ต้องมีปืนไว้ป้องกันตัว ให้ไปสมัครเป็นตำรวจ
คิดเหมือนหนังจีนกำลังภายในของ ชอว์บราเดอร์ส ที่ผมชอบดูเลย อย่างเดชไอ้ด้วนภาค 3 หรือฤทธิ์มีดสั้นลี้คิมฮวง พระเอกหรือใครก็ตามบางทีหลงทางไปบ้านชาวบ้านโดนตามฆ่าอะไรทำนองเนี้๊ยะ ชาวบ้านคนนั้นเป็นชาวยุทธมาก่อนก็จะบอกลูกหลานแบบนี้ คือไม่มีวรยุทธหรือไม่มีกระบี่ชั้นยอดดีกว่า ใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนชาวบ้านทั่วไป