Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Benzecar ที่ มีนาคม 12, 2017, 10:00:25
-
เรื่องที่ผมสงสัยคือ ตามกฎหมายกำหนดขนาดเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่จะมาทำ taxi ไว้ที่ 1600cc
ในขณะที่เทรนของรถยนต์รุ่นใหม่คือ downsizing ขนาดความจุเครื่องยนต์ลดลงแล้วเพิ่ม turbo
ที่ผมสงสัยคือ สมมุติว่าเอา Civic 1.5 turbo หรือรุ่นอื่นๆที่ขนาดเครื่องยนต์ไม่ถึง 1600cc แต่มีturbo มาทำแท็กซี่
สามารถทำได้หรือไม่ครับ??
-
ข้อกำหนดเรื่องความจุกระบอกสูบต้องมากกว่า1500ccครับ
ถ้าดูตามเลขการตลาดจะเขียน1500 ตามสเปคจะแค่149x แต่กฎหมายเขาอ้างอิงตามสเปคครับ เลยใช้เครื่อง1600กันซะส่วนมาก
เครื่ิองรุ่นอื่นก็เหมือนกับ1800 สเปคจะแค่179x หรือ2000 ก็199x
-
ไม่ได้ครับ
ไม่แน่ใจว่าเจตจำนงค์ของข้อกำหนดนี้คืออะไรเหมือนกัน
-
ทำไม่ได้ครับ เพราะ Civic Turbo แค่ 1497 c.c.
ซึ่งตามกฏ เครื่องยนต์ต้องมีปริมาณกระบอกสูบเกิน 1500 c.c. ขึ้นไปครับ
https://www.dlt.go.th/th/vehicle-registration/view.php?_did=46
-
ตามกฏหมายไม่ได้เลยครับ ดูขนาดกระบอกสูบอย่างเดียวจริงๆครับ
ถ้าเน้นทำ Taxi ก็ต้องใส่เครื่อง 1600cc มาอะครับ
ประมาณตอนโครงการรถคันแรกที่ให้รถขนาดไม่เกิน 1500cc อะครับ Ford Fiesta ต้องแก้เกมโดยออกเครื่อง 1500cc มาแทนเครื่อง 1600cc :( :(
-
กว่าจะมาจบที่รถต้องมีccไม่เกิน1,600นี่ต้องดูความเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศบ้านเราด้วยนะครับส่วนรายละเอียดลึกๆจะเข้าทางใครอีกเรื่องนึง
-
ตอนออกกฎมันยังไม่มี 1500 turbo เยอะเหมือนทุกวันนี้ไงครับ
ถ้าบอกลด cc ได้ จะมีกี่คนเอา civic turbo หรือรถ1500 turboมาทำแท๊กซี่เพราะพวกนี้ก็แพงกว่ารถ1600 ทั่วไปซะอีก ผู้ประกอบการก็เลือกรุ่นถูกที่สุดที่เข้าเกณท์มาใช้อยู่ดี
นี่ยังไม่นับขนาดรถ ถ้ายอมที่ 1500 อาจจะมีคนเอา B Seg มาทำ แต่คนจะขึ้นรึเปล่าอีกเรื่องนะผมคนนึงละถ้าจะเรียกแท๊กซี่ขอคันใหญ่นั่งสบายมีที่วางสัมภาระดีกว่า
-
กฎออกมาตั้งนานแล้วครับคือต้องเปน1600CCขึ่นไปครับ
-
ถ้าผู้ผลิต เขาลดขนาดความจุกระบอกสูบกันหมด เดี๋ยวก็ต้องมีการหารือกัน เพื่อแก้ไขกฎหมายล่ะครับ
ผมอยากให้แก้ไขกฎหมายเรื่องรถบรรทุกด้วย อยากให้รถใช้รถบรรทุก 4 ล้อ แทนการใช้รถปิคอัพ รถคอก มาแบกน้ำหนักกัน 4-5 ตันแบบในปัจจุบันครับ
กฎกระทรวง..."รถกระบะบรรทุก น้ำหนักไม่เกิน 1,600 กก. สามารถวิ่งในเขตกรุงเทพฯได้ไม่ติดเวลา ส่วนท้าย 2.50 เมตร จาพื้นส่วนสูง 3.00 เมตร ส่วนหน้า ห้ามเลยหัวเก๋ง"
(http://isuzusupertruck.com/wp-content/uploads/2016/02/ISUZU-ELF-NLR-130.png)
-
การนำรถมาจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่)
2.1รถที่นำมาจดทะเบียนต้องเป็นรถใหม่ หรือเป็นรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรกและใช้งานมาแล้ว เป็นระยะทางไม่เกิน 20,000 กม.
2.2ลักษณะรถ รถเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน รถยนต์นั่งสามตอนแวน
2.3เครื่องยนต์ต้องมีความจุของกระบอกสูบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,500 ซีซี
2.4ห้ามติดเซ็นทรัลล็อค และฟิล์มกรองแสง
2.5สีรถ
รถยนต์รับจ้างของบุคคลธรรมดา ให้ใช้สีเขียวและสีเหลืองเป็นสีของตัวรถ
รถยนต์รับจ้างของนิติบุคคล ให้ใช้สีเหลืองเป็นสีของตัวรถ และสีน้ำเงินเป็นสีของข้อความ และเครื่องหมายต่างๆ
2.6รถยนต์รับจ้างให้มีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก
2.7ต้องมีและใช้มาตรค่าโดยสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกไว้ด้านซ้ายของผู้ขับรถ
2.8ต้องมีและใช้เครื่องสื่อสาร ตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เครื่องสื่อสารประเภทอื่นที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ
2.9ต้องมีและใช้ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (NGV) เป็นเชื้อเพลิงหรือใช้ร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิง
2.10ต้องมีเครื่องหมายเป็นอักษรโรมัน "TAXI-METER" ขนาดสูงไม่น้อยกว่า 7 ซม. เส้นหน้าของตัวอักษร 1.2 ซม. ภายใน กรอบขนาดไม่น้อยกว่า 60x15 ซม. ติดตรึงไว้ในแนวนอนบนหลังคารถและให้มีแสงไฟพร้อมด้วยกรอบที่บังคับแสง ให้เห็นเครื่อง หมายได้ชัดเจนในเวลากลางคืน
2.11ต้องมีเครื่องหมายอักษร "ว่าง" เมื่อไม่มีผู้โดยสารโดยติดตั้งไว้ด้านซ้ายของคนขับซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
2.12ต้องแสดงเครื่องหมาย "งดรับจ้าง" ที่มีพื้นสีขาวกรอบสีแดงขนาดไม่น้อยกว่า 10x22 ซม. เส้นกรอบหนา 0.5 ซม. ตัวอักษร คำว่า "งดรับจ้าง" ให้มีสีแดงขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 5 ซม. เส้นตัวอักษรหนาไม่น้อยกว่า 0.6 ซม.
2.13ต้องจัดให้มีกรอบสำหรับติดบัตรประจำตัวผู้ขับรถไว้ด้านหน้ารถในลัษณะที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
2.14ต้องมีเครื่องหมายเป็นหมายเลขทะเบียน พื้นสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ ทำด้วยโลหะติดไว้ที่แนวกึ่งกลางประตูรถตอนหลังด้านใน ใต้ขอบกระจกทั้งสองข้าง
2.15ต้องมีเครื่องหมายเป็นข้อความ "แท็กซี่บุคคล" หรือ "ชื่อนิติบุคคล" หมายเลขทะเบียนรถ และข้อความ "ร้องเรียนแท็กซี่ โทร.1584" ไว้ที่ประตูตอนหน้าด้านนอกทั้งสองข้าง โดยต้องใช้สีที่ตัดกับสีของตัวรถให้เห็นได้ชัดเจน
2.16จัดให้มีประกันภัย 2 อย่าง คือ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ และประกันภัยอย่างน้อยชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถรับจ้างแต่ละคัน
ข้อ 2.4 ห้ามติดเซ็นทรัลล็อค และฟิล์มกรองแสง <<<< เซ็นทรัลล็อคติดมาจากโรงงานแล้วเกือบทุกรุ่น
-
เดียวเจ้าตลาดทำเครื่องยนต์ซีซีต่ำลงมา เด่วเจ้าตลาดก็ไปขอร้องให้ แก้กฎหมายเองละ
ก็ดูขนาดสเปกรถที่จัดซื้อให้กับหน่วยงานภาครัฐ กำหนดไว้ว่า เครื่องยนต์ต้องมีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 2.4 ซีซี
แต่รีโว่ 2393 cc ยังดันให้แก้ไข อนุโลมได้เลย แต่ดีแม็กซ์ 1.9 ไม่ได้ อด
แท็กซี่นี่ตลาดหลักเค้าเลย ยังไงไม่ปล่อยหรอก
-
กม. มันเก่ามากแล้วครับ ในขณะที่รถมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
จริงๆผมว่าไม่ควรไปยึดติดอะไรกับ CC เลย ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร มากำหนดที่ขนาดรถอะไรแบบนี้ดีกว่า
-
Altis ถึงต้องมีเครื่อง 1600 อยู่ไงครับ
-
กฎหมายมันโบราณมากแล้วก็แสดงให้เห็นว่าคนใช้กฎไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่งผลให้ตลาด Taxi ต้นทุนสูงไปติดแก๊สกันลองคิดว่าถ้าไม่จำกัดขนาดเครื่อง รถอย่าง Ciaz เครื่อง 1200 หรือ Almera การบริโภคน้ำมันต่ำกว่าราคาถูกด้วยขนาดรถที่ไม่ต่างมากคงขายดีขึ้นเยอะครับ ถ้าตัดเรื่องอะไหล่นะ
ปล. ผมเรียนกฎหมายแต่ทัศนะคติคนเรียนกฎหมายและคนไทยส่วนใหญ่มีความคิดว่าสร้างกฎหมายแล้วก็เคารพมันเหมือนศาลพระภูมิสิ่งศักสิทธิ์ไม่คิดจะแก้มันเลยโลกไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
-
ผมเห็นใจทั้งคนขับ และ คนนั่งจริงๆนะครับ
แง่ของคนขับถ้าต้นทุนถูกลง ชีวิตก็ดีขึ้น
สำหรับคนนั่ง ถ้าต้นทุนคนขับถูกลง ค่าโดยสารก็ไม่เพิ่ม....
เหมือนว่าทางการเราจะล้าหลังมากๆ ถึงมากที่สุดนะครับ
ถ้ายึดตา โคโลร่า โดเรมอน สามห่วง ไฮทอล์ค บลาๆๆๆๆๆ
วีออสสมัยนี้ คือ ภายในและภายนอกใหญ่กว่าทุกมิติกันเลยทีเดียว
แรงม้า แรงบิดก็สูงกว่าแล้ว
แต่ทางการดันเลือกที่จะใช้ความจุ cc เป็นเกณฑ์
มันไม่สอดคล้องกันในแง่ของต้นทุนอย่างเห็นได้ชัด