Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nimnim_thailand ที่ มีนาคม 20, 2017, 20:53:46

หัวข้อ: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nimnim_thailand ที่ มีนาคม 20, 2017, 20:53:46
สำหรับบุคคลที่ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดจนเกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:00:16
ต้องเร็วแค่ไหน ต้องช้าแค่ไหนครับ

ข้างหน้าไม่มีรถเป็นกิโล ไม่มีทางกลับรถ ขอบทางถูกกั้นอย่างดี จะให้ผมขับ 80-90
ใช่เหรอ???

ช่วยระบุเป็นเคสๆได้มั๊ยครับ
อย่าเหมารวม

คนขับเร็วที่มีสติมีเยอะแยะครับ
พวกไม่มีสติคือ ในชุมชน บิด 200
อันนี้ผมเห็นด้วย

แต่อย่าเอาความสามารถของตัวเองเป็นตัวตัดสินครับ!!!

ไปดันกม.เมาแล้วขับ=ฆาตกรให้ผ่านก่อนดีมั๊ยครับ???
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:05:11
เมาแล้วขับไม่ใช่ประมาท   แต่นั้นคือพยายามฆ่า    ควรเพิ่มโทษเมาแล้วขับเป็น  พยายามฆ่าด้วยจะดีไม่น้อย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nimnim_thailand ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:22:46
ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะในขณะขับรถย่อมรู้ดีว่าความเร็วที่กฎหมายกําหนดคือเท่าไหร่
การที่บุคคลขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ในอาการของความประมาทซึ่งในบางกรณีเรียกได้ว่าขาดสติไม่ต่างกับการเมาแล้วขับและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะกับยานพาหนะด้วยกันหรือกับคนหรือสัตว์ย่อมถึงแก่ความตายได้โดยง่าย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:26:15
สำหรับผม แก้ที่กฏหมายไม่ได้ครับ จะเพิ่มบทลงโทษ อะไร ก็เท่านั้น
หากจะแก้ ต้องแก้ที่ผู้รักษากฏหมาย ซึ่งมันแก้ไม่ได้ ในสังคมปัจจุบัน

ข่าว
Benz Cls ขับชนชาวบ้านเสียชิวิตผม ยังไม่ทราบเลยว่าลงเอยอย่างไร
นามสกุลใหญ่โต ชนตำรวจตาย  ตอนนี้ไปไหน เหมือนหมดอายุความ
และมีข่าวแบบนี้อีกเยอะ...........


ทางแก้ของผม คือ อย่าให้รัฐทำพวกนี้ ให้เอกชนจัดการ แหะแหะ

หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:33:47
มีตัวอย่างกฏหมายของประเทศไหนที่สามารถนำมาเป็นกรณีศึกษาว่าการขับขี่ที่เกินความเร็วที่กำหนดแล้วถือเป็นการเจตนาฆ่า มั้ยครับ ผมว่าต้องแยกเป็นเรื่องๆหลายเรื่องทีเดียวล่ะ

ผมเองก็ไม่ใช่นักกฏหมาย ผมไม่รู้หรอกครับ แต่เดาว่าจะบอกแบบนี้มันก็ง่ายไป อะไรคือเจตนากับไม่เจตนา แยกกันยังไง คงไม่ใช่แยกด้วยความเร็วเกินกำหนดแค่นั้นหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:36:30
ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะในขณะขับรถย่อมรู้ดีว่าความเร็วที่กฎหมายกําหนดคือเท่าไหร่
การที่บุคคลขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ในอาการของความประมาทซึ่งในบางกรณีเรียกได้ว่าขาดสติไม่ต่างกับการเมาแล้วขับและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะกับยานพาหนะด้วยกันหรือกับคนหรือสัตว์ย่อมถึงแก่ความตายได้โดยง่าย

อันนี้ผมไม่เห็นด้วย กฏหมายให้ขับที่ 110 คุณขับที่ 115 แล้วมาปรามาสว่าผมขับโดยขาดสติ ไม่ต่างกับการเมา  อันนี้ ผมว่าไม่ใช่  เพราะบทลงโทษคือ คุณขับเร็วกว่ากำหนด ไม่ใช่ขับรถโดยประมาทหรือเมาแล้วขับ........
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:41:37
มีตัวอย่างกฏหมายของประเทศไหนที่สามารถนำมาเป็นกรณีศึกษาว่าการขับขี่ที่เกินความเร็วที่กำหนดแล้วถือเป็นการเจตนาฆ่า มั้ยครับ ผมว่าต้องแยกเป็นเรื่องๆหลายเรื่องทีเดียวล่ะ

ผมเองก็ไม่ใช่นักกฏหมาย ผมไม่รู้หรอกครับ แต่เดาว่าจะบอกแบบนี้มันก็ง่ายไป อะไรคือเจตนากับไม่เจตนา แยกกันยังไง คงไม่ใช่แยกด้วยความเร็วเกินกำหนดแค่นั้นหรอกครับ
  +++++++ :-*
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:42:32
ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะในขณะขับรถย่อมรู้ดีว่าความเร็วที่กฎหมายกําหนดคือเท่าไหร่
การที่บุคคลขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ในอาการของความประมาทซึ่งในบางกรณีเรียกได้ว่าขาดสติไม่ต่างกับการเมาแล้วขับและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะกับยานพาหนะด้วยกันหรือกับคนหรือสัตว์ย่อมถึงแก่ความตายได้โดยง่าย
   

อันนี้ผมไม่เห็นด้วย กฏหมายให้ขับที่ 110 คุณขับที่ 115 แล้วมาปรามาสว่าผมขับโดยขาดสติ ไม่ต่างกับการเมา  อันนี้ ผมว่าไม่ใช่  เพราะบทลงโทษคือ คุณขับเร็วกว่ากำหนด ไม่ใช่ขับรถโดยประมาทหรือเมาแล้วขับ........
   แนวความคิดแบบนี้มีประเทศไหนใช้กันบ้างครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: vantipz ที่ มีนาคม 20, 2017, 21:57:32
ขับ 80 ชนคนตาย
ขับ 180 ชนคนตาย

แล้วจะทำยังไงให้คนที่ขับ 180 ได้รับโทษพยายามฆ่ามากกว่าคนที่ขับ 80 ครับ ในเมื่อคนมันก็ตายเหมือนกัน
อย่าบอกนะว่าขับ 80 แล้วชนคนไม่ตาย...

แล้วทำไม ออโต้บาร์น ที่เยอรมันถึงทำให้ขับเร็วได้ไม่มีลิมิตครับ? ปัญหาอยู่ที่อะไรเอ่ย??




หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:03:10
ขับเกินกฏหมายกำหนดแล้วทำคนอื่นเสียชีวิตแล้วถือว่า เจตนาฆ่าก็น่าจะดีนะ
จะได้เข้าใจถึงความเสี่ยง และรู้ว่าตัวเองต้องเจออะไรหลังจากเกิดเหตุ
แบบนี้จะได้ยิ่งไม่ประมาทขึ้นไปอีก สติจะได้มาเต็มๆเวลาขับรถเกินกม.กำหนด
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:09:32
ขับเกินกฏหมายกำหนดแล้วทำคนอื่นเสียชีวิตแล้วถือว่า เจตนาฆ่าก็น่าจะดีนะ
จะได้เข้าใจถึงความเสี่ยง และรู้ว่าตัวเองต้องเจออะไรหลังจากเกิดเหตุ
แบบนี้จะได้ยิ่งไม่ประมาทขึ้นไปอีก สติจะได้มาเต็มๆเวลาขับรถเกินกม.กำหนด

ผมว่าต่างกรรมต่างวาระอีกแหละครับ บางคนขับ 60 แต่ไม่มีสติเลยก็เคยเจอครับ ไม่รู้ได้ใบขับขี่มายังไง ขับอย่างมึน
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: seeker ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:11:16
คนขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำเลย
แต่ผมเห็นบางคันขับปาดหน้า กลับรถในจังหวะที่ไม่ควร คนเหล่านี้สมควรรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:17:23
คนละเรื่องกันนะ
ขับรถเร็ว เกี่ยวอะไรกับเจตนาฆ่า

ถ้าขับแล้วพิสูจน์ได้ว่า มีเจตนาที่จะมุ่งที่จะชน มุ่งร้าย หรือมีข้อจูงใจ แบบนี้ก็เรียกว่าเจตนาฆ่า แต่อาจจะไม่ได้ขับรถเร็วก็ได้ ขับเหยียบเบาๆชนแค่ 30km/h ก็ได้

กฏหมายเขาดูที่เจตนา
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:25:19
คนขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำเลย
แต่ผมเห็นบางคันขับปาดหน้า กลับรถในจังหวะที่ไม่ควร คนเหล่านี้สมควรรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ

กรณีล่าสุด ผมมองเรื่องทางเอก ทางโท
จริงๆแล้วทางตรงไม่ผิด
ผมเคยเจอกรณีแบบนี้กับตัวเอง คือ ผมเป็นฝ่ายกลับรถ ถนน 3 เลน
รถทางตรงอยู่เลนติดเกาะกลาง ผมก็กลับรถให้ตัวเองอยู่เลน 2
ปรากฏรถทางตรงเปลี่ยนเลนมาอยู่เลนกลาง (เหมือนคิดว่า ผมกลับรถมาเลนติดเกาะกลาง)
ก็เลยเจอชนท้ายเข้าเต็มๆ (เหตุเกิดตอนอายุ 21)
ตอนแรกผมก็คิดว่าผมถูกนะ
ผลปรากฏว่า ประกันมา เราผิดครับ
1 คือกลับรถกระชั้นชิดเกินไป ตามข้อกม.ต้องห่างมาก ห่างแบบว่าเอามาใช้นี่คงไม่ได้กลับรถในชาตินี้แน่ๆ
2 กลับรถเสร็จ เราต้องขับรถมาอยู่เลนติดเกาะกลางครับ

แต่ปัญหาของกรณีนี้ คือรถทางตรงดัน ขับรถเร็ว จนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ซึ่งถ้าไม่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ยังไงทางตรงก็ถูกครับ

ต้องแยกกันเป็นกรณีไปอะครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: propo ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:26:14
เพ้อๆนะ เจตนา มันแปลว่าอะไรไปแปลก่อน ไม่ใช่ใช้ตามอารมณ์ อินมากไปมั๊ย ถ้าใช้อารมณ์ก็อย่าถามหากฎ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:29:03
ขับ 80 เกิดเหตุไม่คาดฝันยังพอผ่อนหนักเป็นเบาได้
ขับ 180 เกิดอะไรขึ้นมา สมองยังสั่งการไปยกเท้าผ่อนคันเร่งยังไม่ทันเลย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:36:12
ขับ 80 ชนคนตาย
ขับ 180 ชนคนตาย

แล้วจะทำยังไงให้คนที่ขับ 180 ได้รับโทษพยายามฆ่ามากกว่าคนที่ขับ 80 ครับ ในเมื่อคนมันก็ตายเหมือนกัน
อย่าบอกนะว่าขับ 80 แล้วชนคนไม่ตาย...

แล้วทำไม ออโต้บาร์น ที่เยอรมันถึงทำให้ขับเร็วได้ไม่มีลิมิตครับ? ปัญหาอยู่ที่อะไรเอ่ย??
ไม่ชอบการอ้างออโตบาห์นเลยครับ  ไม่ดูสวีเดนบ้างละ  อังกฤษ  ญี่ปุ่น อเมริกา  คนอื่นเขาเหมือนเยอรมันไหม

ไฮเวย์ประเทศอื่นๆจำกัดความเร็วกันทั้งโลก มีประเทศนี้เส้นเดียวไม่จำกัด   มันไม่ควรเอามาเป็นกรณีสังเกต กรณีศึกษา
ถนนบ้านเราเหมือนออโตบาห์นไหม  มีชุมชนริมถนน  ถนนมีรถสวนเลน  แบบบ้านเรา  หรือเป็นไฮเวย์โล่งจริงๆ  และข้างทางปลอดโล่งแบบเขาไหม  จุดกลับรถแยกทุกจุดแบบเขาไหม  เลนถนนเยอะแบบเขาไหม

เวลาจะอ้าง  เอาสภาพความเป็นจริง  เหตุผลมาด้วย  เบื่อจะฟัง เอะอะ ออโตบาห์น  ก็เขาไม่จำกัด เราก็ไม่จำกัด  จริงๆ บ้านเราก็เหมือนไม่จำกัดแล้วนะ  เพราะตำรวจก็ไม่ได้จริงจัง  ค่าปรับก็แสนถูก โทษเบาๆ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ   ตีนผี เหยียบหนักๆกัน  ก็ยอดตายเท่าไหร่กันต่อปี  น่าจะรู้ๆกันอยู่   

บนถนนที่คนพลุกพล่าน ทางหลวงที่ตัดผ่านในเมือง  มันจำกัดความเร็วกันทั้งโลก   ไฮเวย์ก็สูงหน่อยแต่ไม่มาก 

การจำกัดความเร็วมันคงป้องกันอุบัติเหตุไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ผมว่ามันลดผู้เสียชีวิตลงได้แน่ๆ ถ้าบังคับกฎหมายกันจริงจังเสียที    เพราะความรุนแรงยามปะทะมันลดลงไปมาก 
ของแบบนี้มันต้องเคยมีประสบการณ์ชนจังๆ ที่ความเร็วสูงแบบหนักๆสักรอบ จะรู้ซึ้งเองว่าทำไม


EURO NCAP ที่เค้าเทสรถที่ความเร็วไม่ถึงระดับ 160+ เพราะถนนเกือบทุกเส้นของเขา  ประเทศในยุโรป  น้อยเส้นมาก ที่จะยอมให้ขับรถได้เร็วแบบนั้น  เทสแค่ความเร็วที่คนเขาใช้กันในถนส่วนใหญ่นั่นละ

ผมว่าเราควรบังคับกฎหมายที่มีอยู่ให้ดี  อาจจะเอาเอกชนมาร่วม (อันนี้อาจารย์ผมเคยเสนอแนวคิดเล่นๆ ถ้าตำรวจไม่ได้เรื่อง ไม่ลองเอกชนดูบ้าง)  คือเอากล้องหน้ารถมาช่วยๆกันจับภาพผู้กระทำผิด อาจจะใช้องค์กรเอกชนช่วยจับอีกแรงนึง  แล้วเอาส่วนแบ่งค่าปรับไป 

ขึ้นค่าปรับแบบบางประเทศ  หลักร้อย หลักพันถ้าเร็วเกินนิดหน่อย   หรือหลักหมื่นหลักแสน  ถ้าเกินมากๆ เพราะถือว่าขับรถเป็นที่น่าจะอันตรายแก่ผู้อื่นที่ร่วมใช้ท้องถนน   ::) ::)

พวกบทลงโทษเจตนาฆ่ามันแค่การแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ  จริงๆ เราควรลดความรุนแรงตั้งแต่ตอนชน  หรือป้องกันไม่ให้มันเกิดตั้งแต่แรกจะดีกว่า  ทำอย่างไรให้คนขับรถกันช้าลงให้ได้  แก้พวกขับเร็วแช่ขวา  ทำตามกฎ ระเบียบมากขึ้น
 
อีกส่วนก็ต้องมีการปรับปรุงถนนหลายๆเส้นบ้านเราคู่ๆกันไปด้วย พร้อมๆกับกฎหมาย  อย่างจุดกลับรถนี่ ผมว่ามันขัดกับแนวคิดความปลอดภัยมากๆ เพราะบนไฮเวย์  เพราะรถเร็ววิ่งขวา  รวมถึงพวกตีนผีแช่ขวา แต่รถทั่วไป  ชาวบ้าน ชุมชน  กลับรถออกมาเลนขวาสุด  เจอพวกตีนผีมาสัก 150+ นี่อันตรายมากๆ 

ถ้าไม่ขับเร็วแช่ขวากัน จุดกลับรถก็คงไม่เป็นปัญหามากหรอกครับ  ถ้าทางหลวงบางเส้น  ผมยอมรับเลยว่ามันอันตรายมากๆจริงๆ 

ทางหลวงเส้นที่ใช้ความเร็ว ควรจะทำเป็นสะพานกลับรถให้หมดจะดีกว่าครับ แล้วเปิดให้เป็นหลายช่องทาง  เพื่อให้ถนนเกิดความคล่องตัว ไม่ต้องไปแย่งรถบรรทุกเขา  และไม่ต้องมีกฎบังคับต้องวิ่งซ้าย จะเหมาะกว่า

พรบ.กฎหมายจราจรมันเก่ามาก  ควรปรับปรุงได้แล้ว  ให้มันสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคม (ที่ต้องแก้ไขปัญหา)  กฎหมายต้องมีความทันสมัยและเหมาะสมถึงจะถูกต้องนะผมว่า
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:41:24
ผมว่าไม่จำเป็นครับ การพยายามฆ่า ต้องดูอย่างอื่นด้วยเช่น ดูที่การขับขี่ มุมที่ชน ทางที่วิ่งมา ขับตาม/ขับไล่ กันมาก่อนมั๊ย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:47:16
ไร้สาระครับ บริบทไม่เกี่ยวกันเลย ไม่ได้ไปไล่เหยียบใครโดยเจตนา

หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: vantipz ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:50:09
ขับ 80 ชนคนตาย
ขับ 180 ชนคนตาย

แล้วจะทำยังไงให้คนที่ขับ 180 ได้รับโทษพยายามฆ่ามากกว่าคนที่ขับ 80 ครับ ในเมื่อคนมันก็ตายเหมือนกัน
อย่าบอกนะว่าขับ 80 แล้วชนคนไม่ตาย...

แล้วทำไม ออโต้บาร์น ที่เยอรมันถึงทำให้ขับเร็วได้ไม่มีลิมิตครับ? ปัญหาอยู่ที่อะไรเอ่ย??
ไม่ชอบการอ้างออโตบาห์นเลยครับ  ไม่ดูสวีเดนบ้างละ  อังกฤษ  ญี่ปุ่น อเมริกา  คนอื่นเขาเหมือนเยอรมันไหม

ไฮเวย์ประเทศอื่นๆจำกัดความเร็วกันทั้งโลก มีประเทศนี้เส้นเดียวไม่จำกัด   มันไม่ควรเอามาเป็นกรณีสังเกต กรณีศึกษา
ถนนบ้านเราเหมือนออโตบาห์นไหม  มีชุมชนริมถนน  ถนนมีรถสวนเลน  แบบบ้านเรา  หรือเป็นไฮเวย์โล่งจริงๆ  และข้างทางปลอดโล่งแบบเขาไหม  จุดกลับรถแยกทุกจุดแบบเขาไหม  เลนถนนเยอะแบบเขาไหม

เวลาจะอ้าง  เอาสภาพความเป็นจริง  เหตุผลมาด้วย  เบื่อจะฟัง เอะอะ ออโตบาห์น  ก็เขาไม่จำกัด เราก็ไม่จำกัด  จริงๆ บ้านเราก็เหมือนไม่จำกัดแล้วนะ  เพราะตำรวจก็ไม่ได้จริงจัง  ค่าปรับก็แสนถูก โทษเบาๆ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ   ตีนผี เหยียบหนักๆกัน  ก็ยอดตายเท่าไหร่กันต่อปี  น่าจะรู้ๆกันอยู่   

บนถนนที่คนพลุกพล่าน ทางหลวงที่ตัดผ่านในเมือง  มันจำกัดความเร็วกันทั้งโลก   ไฮเวย์ก็สูงหน่อยแต่ไม่มาก 

การจำกัดความเร็วมันคงป้องกันอุบัติเหตุไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ผมว่ามันลดผู้เสียชีวิตลงได้แน่ๆ ถ้าบังคับกฎหมายกันจริงจังเสียที    เพราะความรุนแรงยามปะทะมันลดลงไปมาก 
ของแบบนี้มันต้องเคยมีประสบการณ์ชนจังๆ ที่ความเร็วสูงแบบหนักๆสักรอบ จะรู้ซึ้งเองว่าทำไม


EURO NCAP ที่เค้าเทสรถที่ความเร็วไม่ถึงระดับ 160+ เพราะถนนเกือบทุกเส้นของเขา  ประเทศในยุโรป  น้อยเส้นมาก ที่จะยอมให้ขับรถได้เร็วแบบนั้น  เทสแค่ความเร็วที่คนเขาใช้กันในถนส่วนใหญ่นั่นละ

ผมว่าเราควรบังคับกฎหมายที่มีอยู่ให้ดี  อาจจะเอาเอกชนมาร่วม (อันนี้อาจารย์ผมเคยเสนอแนวคิดเล่นๆ ถ้าตำรวจไม่ได้เรื่อง ไม่ลองเอกชนดูบ้าง)  คือเอากล้องหน้ารถมาช่วยๆกันจับภาพผู้กระทำผิด อาจจะใช้องค์กรเอกชนช่วยจับอีกแรงนึง  แล้วเอาส่วนแบ่งค่าปรับไป 

ขึ้นค่าปรับแบบบางประเทศ  หลักร้อย หลักพันถ้าเร็วเกินนิดหน่อย   หรือหลักหมื่นหลักแสน  ถ้าเกินมากๆ เพราะถือว่าขับรถเป็นที่น่าจะอันตรายแก่ผู้อื่นที่ร่วมใช้ท้องถนน   ::) ::)

หลงประเด็นไปไกลเลย กลับมาก่อน

หัวข้อบอกว่าการขับรถเร็วคือการเจตนาฆ่า ผมก็เลยยกออโต้บาร์นมาอ้าง ถ้าความเร็วคือความเลว เค้าคงไม่ผลิตมันออกมาหรอก เฟอรารี่ แลมโบกินี่ คงไม่ให้วิ่งจนไม่มีลิมิตหรอก ย้อนกลับกันประเทศเราควรศึกษามากกว่าว่าทำไมเค้าขับเร็วกันได้ขนาดนั้น ส่วนนึงที่สำคัญที่สุดคือวินัยการจราจร เค้าแซงแล้วกลับเลนช้าตลอด รถที่ทำความเร็วมาเลยไปต่อได้เรื่อยๆๆๆ ไม่ต้องมุดพวกขับช้าแช่ขวาไปให้ชนใครเหมือนประเทศเรา

ไม่ต้องย้อนว่าบ้านเราถนนไม่เหมือนประเทศเค้า อันนั้นผมรู้ดีและรู้กับตัวเองด้วยว่าขับแค่ 60 มาดีๆ ก็โดนชนจนต้องขายซากรถมาแล้ว ผมแค่งงว่า ขับเร็วมันเป็นเจตนาฆ่าได้ยังไง? ขนาดคนยิงโจรในบ้านตัวเองแท้ๆยังต้องสู้คดีเจตนาฆ่ากันหูดับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:51:59
ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วยครับ ส่วนตัวอยากให้เพิ่มแต่ไม่ใช่เหมารวมไปหมดว่าถ้าเหตุเกิดเพราะขับเร็วแล้วจะยัดเจตนาฆ่าไปซะหมด
เอาง่ายๆอยากให้เพิ่มตรงวิธีการตัดสินด้วย
สมมตินาย A ขับมา 140 บนถนนหลวงหมายเลข 1 ข้ามจังหวัด และมีมอเตอร์ไซค์ตัดหน้าโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่สนฟ้าสนโลก ฉันจะข้าม แล้วโดนนาย A ชน
นาย A ควรโดนข้อหาเจตนาฆ่าหรือเปล่า?

ผมว่าเค้าควรโดนข้อหาขับเร็วเกินกำหนดและฆ่าคนโดยประมาท(ถ้าสมมติมอไซค์ตายนะ) แต่ผมว่ามอไซค์หรือญาติควรร่วมชดใช้ค่าเสียหายให้นาย A ด้วยซ้ำ ถ้ามอเตอร์ไซค์ตายก็แล้วกันไป นาย A ก็ร่วมรับผิดชอบงานศพ แต่ไม่ต้องทั้งหมด แค่ร่วมพอ และญาติมอเตอร์ไซค์ไม่ต้องมีสิทธิ์มาอ้างค่าทำขวัญอะไรทำไมด้วย  กรณีที่พิสูจน์ชัดว่านาย A พยายามเบรกแล้วและมอเตอร์ไซค์ประมาทจริงๆนะ
แต่กลับกัน ถ้าเหตุการณ์นี้นาย A ดื่มสุรามา ก็เล่นนาย A เต็มที่ได้เลยเพราะประมาท รู้ตัวว่าขับรถไม่ได้แต่ยังขับ ถือว่าจงใจกระทำผิดแต่แรก อะไรแบบนี้

คือเอาง่ายๆควรแยกส่วนความผิดกันอ่ะ สหรับผมนะ ไม่ใช่อะไรมาเหมารวมรถเร็วแล้วอ้าวมาตรา 38 ต้องหยุดรถได้ในระยะปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:56:58
ขับเร็วคงไม่น่าถึงกับพยาฆ่ามั้งครับ
แต่ประมาทก็ดูเบาไป

เอาจริงๆผมว่าประมาทที่ใช้ความเร็วสูงไป ทำให้เกิดเหตุจนมีผู้เสียชีวิต

แต่หากประมาทแล้วจะลงโทษอย่างไร อันนี้ผมว่าก็สำคัญ จะได้ไม่ลืมตัวและไม่ประมาท
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ มีนาคม 20, 2017, 22:59:42
ขับ 80 ชนคนตาย
ขับ 180 ชนคนตาย

แล้วจะทำยังไงให้คนที่ขับ 180 ได้รับโทษพยายามฆ่ามากกว่าคนที่ขับ 80 ครับ ในเมื่อคนมันก็ตายเหมือนกัน
อย่าบอกนะว่าขับ 80 แล้วชนคนไม่ตาย...

แล้วทำไม ออโต้บาร์น ที่เยอรมันถึงทำให้ขับเร็วได้ไม่มีลิมิตครับ? ปัญหาอยู่ที่อะไรเอ่ย??
ไม่ชอบการอ้างออโตบาห์นเลยครับ  ไม่ดูสวีเดนบ้างละ  อังกฤษ  ญี่ปุ่น อเมริกา  คนอื่นเขาเหมือนเยอรมันไหม

ไฮเวย์ประเทศอื่นๆจำกัดความเร็วกันทั้งโลก มีประเทศนี้เส้นเดียวไม่จำกัด   มันไม่ควรเอามาเป็นกรณีสังเกต กรณีศึกษา
ถนนบ้านเราเหมือนออโตบาห์นไหม  มีชุมชนริมถนน  ถนนมีรถสวนเลน  แบบบ้านเรา  หรือเป็นไฮเวย์โล่งจริงๆ  และข้างทางปลอดโล่งแบบเขาไหม  จุดกลับรถแยกทุกจุดแบบเขาไหม  เลนถนนเยอะแบบเขาไหม

เวลาจะอ้าง  เอาสภาพความเป็นจริง  เหตุผลมาด้วย  เบื่อจะฟัง เอะอะ ออโตบาห์น  ก็เขาไม่จำกัด เราก็ไม่จำกัด  จริงๆ บ้านเราก็เหมือนไม่จำกัดแล้วนะ  เพราะตำรวจก็ไม่ได้จริงจัง  ค่าปรับก็แสนถูก โทษเบาๆ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ   ตีนผี เหยียบหนักๆกัน  ก็ยอดตายเท่าไหร่กันต่อปี  น่าจะรู้ๆกันอยู่   

บนถนนที่คนพลุกพล่าน ทางหลวงที่ตัดผ่านในเมือง  มันจำกัดความเร็วกันทั้งโลก   ไฮเวย์ก็สูงหน่อยแต่ไม่มาก 

การจำกัดความเร็วมันคงป้องกันอุบัติเหตุไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ผมว่ามันลดผู้เสียชีวิตลงได้แน่ๆ ถ้าบังคับกฎหมายกันจริงจังเสียที    เพราะความรุนแรงยามปะทะมันลดลงไปมาก 
ของแบบนี้มันต้องเคยมีประสบการณ์ชนจังๆ ที่ความเร็วสูงแบบหนักๆสักรอบ จะรู้ซึ้งเองว่าทำไม


EURO NCAP ที่เค้าเทสรถที่ความเร็วไม่ถึงระดับ 160+ เพราะถนนเกือบทุกเส้นของเขา  ประเทศในยุโรป  น้อยเส้นมาก ที่จะยอมให้ขับรถได้เร็วแบบนั้น  เทสแค่ความเร็วที่คนเขาใช้กันในถนส่วนใหญ่นั่นละ

ผมว่าเราควรบังคับกฎหมายที่มีอยู่ให้ดี  อาจจะเอาเอกชนมาร่วม (อันนี้อาจารย์ผมเคยเสนอแนวคิดเล่นๆ ถ้าตำรวจไม่ได้เรื่อง ไม่ลองเอกชนดูบ้าง)  คือเอากล้องหน้ารถมาช่วยๆกันจับภาพผู้กระทำผิด อาจจะใช้องค์กรเอกชนช่วยจับอีกแรงนึง  แล้วเอาส่วนแบ่งค่าปรับไป 

ขึ้นค่าปรับแบบบางประเทศ  หลักร้อย หลักพันถ้าเร็วเกินนิดหน่อย   หรือหลักหมื่นหลักแสน  ถ้าเกินมากๆ เพราะถือว่าขับรถเป็นที่น่าจะอันตรายแก่ผู้อื่นที่ร่วมใช้ท้องถนน   ::) ::)

หลงประเด็นไปไกลเลย กลับมาก่อน

หัวข้อบอกว่าการขับรถเร็วคือการเจตนาฆ่า ผมก็เลยยกออโต้บาร์นมาอ้าง ถ้าความเร็วคือความเลว เค้าคงไม่ผลิตมันออกมาหรอก เฟอรารี่ แลมโบกินี่ คงไม่ให้วิ่งจนไม่มีลิมิตหรอก ย้อนกลับกันประเทศเราควรศึกษามากกว่าว่าทำไมเค้าขับเร็วกันได้ขนาดนั้น ส่วนนึงที่สำคัญที่สุดคือวินัยการจราจร เค้าแซงแล้วกลับเลนช้าตลอด รถที่ทำความเร็วมาเลยไปต่อได้เรื่อยๆๆๆ ไม่ต้องมุดพวกขับช้าแช่ขวาไปให้ชนใครเหมือนประเทศเรา

ไม่ต้องย้อนว่าบ้านเราถนนไม่เหมือนประเทศเค้า อันนั้นผมรู้ดีและรู้กับตัวเองด้วยว่าขับแค่ 60 มาดีๆ ก็โดนชนจนต้องขายซากรถมาแล้ว ผมแค่งงว่า ขับเร็วมันเป็นเจตนาฆ่าได้ยังไง? ขนาดคนยิงโจรในบ้านตัวเองแท้ๆยังต้องสู้คดีเจตนาฆ่ากันหูดับ

โดยทั่วไป  พวกโทษตามกฎหมาย จะลงโทษเอาสะใจไม่ได้ครับ ศาลเขาจะมีข้อเท็จจริง หลักเกณฑ์การพิจารณาอยู่แล้ว  การเพิ่มบทข้อสันนิษฐาน ให้รุนแรงมันทำไม่ได้ครับ  มันกระทบมากๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำครับ เพราะโทษอาญามันกระทบสิทธิ เสรีภาพโดยตรง เป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ    (อาจารย์ผมเคยสอนไว้เหมือนกัน)   

ถ้าจะแก้ปัญหาควรจะเน้นไปที่การป้องกันปัญหา มากกว่าจะไปแก้การลงโทษโดยศาล    ถ้าขับช้าลงกันทั้งถนน  ความรุนแรงมันลดลงอยู่แล้ว  แน่นอน โอกาสโดนคนอื่นคนมันมีกันหมดแหละ ป้องกันไม่ได้หรอกครับ คนประมาทมีแน่ๆ  แต่ถ้ามันประมาท แต่ขับมาโดยไม่เกินกฎหมายกำหนด คือ 80  ถามจริงๆว่าความรุนแรงมันจะลดลงไปมากกว่าหรือเปล่าครับ  โอกาสรอดเพิ่มขึ้น

ขอตอบในโจทย์ของ Supercar ว่า เขาทำรถเร็ว แรง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะขับกันเร็ว แรงได้แบบนั้น Supercar เหมือนรถที่แสดงถึงความเป็นสุดยอดทางวิศวกรรม  เวลาคนเป็นเจ้าของ ถ้าจะแสดงสมรรถนะกัน เค้าไปขับในสนามครับ (Trackday)  หรือพวก 911 GT3 พวกนี้แทบจะเรียกว่าเป็น Trackday car ได้เลย  เวลาปกติบนถนน เขาก็ขับกันบ้านๆเหมือนรถบ้านนี่ละ  บ้านเขาเคารพกฎจราจรครับ ไม่ค่อยเหมือนบ้านเรา

เพิ่มเติมนิดว่าโทษบ้านเขา  เหมือนผมเคยอ่านของ UK    เหมือนจะมีโทษประเภทระงับใบขับขี่+ ตัดแต้มด้วยทั้งแบบชั่วคราวและถาวร  ถ้าทำผิดกฎแต่ละประเภท อาจจะจัดว่าเป็นการ "กันผู้กระทำความผิด" ออกจากท้องถนน  เพื่อให้เกิดความปลอดภัยโดยรวมมากขึ้นด้วย (เคยเป็นหัวข้อรายงานตอนผมเรียน +เคยคิดจะทำ Thesis เรื่องนี้ด้วย)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ มีนาคม 20, 2017, 23:07:15
เอาง่ายๆ ครับ ถ้าผมขับความเร็วต่ำกว่าที่กฏหมายกำหนด แต่ตั้งใจชนรถคุณกลางลำ ผมไม่โดนเจตนาฆ่าใช้ไหมครับ
คุณ จขกท ตอบผมหน่อย

บางที่การเปลี่ยนเลนไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้รถคนอื่นชนกันเป็นแถบ ผมว่ามันผิดกว่านะครับ หรือการเบรค Over acting แล้วรถคันอื่นๆ ชนกันเป็นแถบ นี้ถือว่าเจตนาฆ่าไหมครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: vantipz ที่ มีนาคม 20, 2017, 23:25:16
ขับ 80 ชนคนตาย
ขับ 180 ชนคนตาย

แล้วจะทำยังไงให้คนที่ขับ 180 ได้รับโทษพยายามฆ่ามากกว่าคนที่ขับ 80 ครับ ในเมื่อคนมันก็ตายเหมือนกัน
อย่าบอกนะว่าขับ 80 แล้วชนคนไม่ตาย...

แล้วทำไม ออโต้บาร์น ที่เยอรมันถึงทำให้ขับเร็วได้ไม่มีลิมิตครับ? ปัญหาอยู่ที่อะไรเอ่ย??
ไม่ชอบการอ้างออโตบาห์นเลยครับ  ไม่ดูสวีเดนบ้างละ  อังกฤษ  ญี่ปุ่น อเมริกา  คนอื่นเขาเหมือนเยอรมันไหม

ไฮเวย์ประเทศอื่นๆจำกัดความเร็วกันทั้งโลก มีประเทศนี้เส้นเดียวไม่จำกัด   มันไม่ควรเอามาเป็นกรณีสังเกต กรณีศึกษา
ถนนบ้านเราเหมือนออโตบาห์นไหม  มีชุมชนริมถนน  ถนนมีรถสวนเลน  แบบบ้านเรา  หรือเป็นไฮเวย์โล่งจริงๆ  และข้างทางปลอดโล่งแบบเขาไหม  จุดกลับรถแยกทุกจุดแบบเขาไหม  เลนถนนเยอะแบบเขาไหม

เวลาจะอ้าง  เอาสภาพความเป็นจริง  เหตุผลมาด้วย  เบื่อจะฟัง เอะอะ ออโตบาห์น  ก็เขาไม่จำกัด เราก็ไม่จำกัด  จริงๆ บ้านเราก็เหมือนไม่จำกัดแล้วนะ  เพราะตำรวจก็ไม่ได้จริงจัง  ค่าปรับก็แสนถูก โทษเบาๆ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ   ตีนผี เหยียบหนักๆกัน  ก็ยอดตายเท่าไหร่กันต่อปี  น่าจะรู้ๆกันอยู่   

บนถนนที่คนพลุกพล่าน ทางหลวงที่ตัดผ่านในเมือง  มันจำกัดความเร็วกันทั้งโลก   ไฮเวย์ก็สูงหน่อยแต่ไม่มาก 

การจำกัดความเร็วมันคงป้องกันอุบัติเหตุไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ผมว่ามันลดผู้เสียชีวิตลงได้แน่ๆ ถ้าบังคับกฎหมายกันจริงจังเสียที    เพราะความรุนแรงยามปะทะมันลดลงไปมาก 
ของแบบนี้มันต้องเคยมีประสบการณ์ชนจังๆ ที่ความเร็วสูงแบบหนักๆสักรอบ จะรู้ซึ้งเองว่าทำไม


EURO NCAP ที่เค้าเทสรถที่ความเร็วไม่ถึงระดับ 160+ เพราะถนนเกือบทุกเส้นของเขา  ประเทศในยุโรป  น้อยเส้นมาก ที่จะยอมให้ขับรถได้เร็วแบบนั้น  เทสแค่ความเร็วที่คนเขาใช้กันในถนส่วนใหญ่นั่นละ

ผมว่าเราควรบังคับกฎหมายที่มีอยู่ให้ดี  อาจจะเอาเอกชนมาร่วม (อันนี้อาจารย์ผมเคยเสนอแนวคิดเล่นๆ ถ้าตำรวจไม่ได้เรื่อง ไม่ลองเอกชนดูบ้าง)  คือเอากล้องหน้ารถมาช่วยๆกันจับภาพผู้กระทำผิด อาจจะใช้องค์กรเอกชนช่วยจับอีกแรงนึง  แล้วเอาส่วนแบ่งค่าปรับไป 

ขึ้นค่าปรับแบบบางประเทศ  หลักร้อย หลักพันถ้าเร็วเกินนิดหน่อย   หรือหลักหมื่นหลักแสน  ถ้าเกินมากๆ เพราะถือว่าขับรถเป็นที่น่าจะอันตรายแก่ผู้อื่นที่ร่วมใช้ท้องถนน   ::) ::)

หลงประเด็นไปไกลเลย กลับมาก่อน

หัวข้อบอกว่าการขับรถเร็วคือการเจตนาฆ่า ผมก็เลยยกออโต้บาร์นมาอ้าง ถ้าความเร็วคือความเลว เค้าคงไม่ผลิตมันออกมาหรอก เฟอรารี่ แลมโบกินี่ คงไม่ให้วิ่งจนไม่มีลิมิตหรอก ย้อนกลับกันประเทศเราควรศึกษามากกว่าว่าทำไมเค้าขับเร็วกันได้ขนาดนั้น ส่วนนึงที่สำคัญที่สุดคือวินัยการจราจร เค้าแซงแล้วกลับเลนช้าตลอด รถที่ทำความเร็วมาเลยไปต่อได้เรื่อยๆๆๆ ไม่ต้องมุดพวกขับช้าแช่ขวาไปให้ชนใครเหมือนประเทศเรา

ไม่ต้องย้อนว่าบ้านเราถนนไม่เหมือนประเทศเค้า อันนั้นผมรู้ดีและรู้กับตัวเองด้วยว่าขับแค่ 60 มาดีๆ ก็โดนชนจนต้องขายซากรถมาแล้ว ผมแค่งงว่า ขับเร็วมันเป็นเจตนาฆ่าได้ยังไง? ขนาดคนยิงโจรในบ้านตัวเองแท้ๆยังต้องสู้คดีเจตนาฆ่ากันหูดับ

โดยทั่วไป  พวกโทษตามกฎหมาย จะลงโทษเอาสะใจไม่ได้ครับ ศาลเขาจะมีข้อเท็จจริง หลักเกณฑ์การพิจารณาอยู่แล้ว  การเพิ่มบทข้อสันนิษฐาน ให้รุนแรงมันทำไม่ได้ครับ  มันกระทบมากๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำครับ  (อาจารย์ผมเคยสอนไว้เหมือนกัน)   

ถ้าจะแก้ปัญหาควรจะเน้นไปที่การป้องกันปัญหา มากกว่าจะไปแก้การลงโทษโดยศาล    ถ้าขับช้าลงกันทั้งถนน  ความรุนแรงมันลดลงอยู่แล้ว  แน่นอน โอกาสโดนคนอื่นคนมันมีกันหมดแหละ ป้องกันไม่ได้หรอกครับ คนประมาทมีแน่ๆ  แต่ถ้ามันประมาท แต่ขับมาโดยไม่เกินกฎหมายกำหนด คือ 80  ถามจริงๆว่าความรุนแรงมันจะลดลงไปมากกว่าหรือเปล่าครับ  โอกาสรอดเพิ่มขึ้น

ขอตอบในโจทย์ของ Supercar ว่า เขาทำรถเร็ว แรง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะขับกันเร็ว แรงได้แบบนั้น Supercar เหมือนรถที่แสดงถึงความเป็นสุดยอดทางวิศวกรรม  เวลาคนเป็นเจ้าของ ถ้าจะแสดงสมรรถนะกัน เค้าไปขับในสนามครับ (Trackday)  หรือพวก 911 GT3 พวกนี้แทบจะเรียกว่าเป็น Trackday car ได้เลย  เวลาปกติบนถนน เขาก็ขับกันบ้านๆเหมือนรถบ้านนี่ละ  บ้านเขาเคารพกฎจราจรครับ ไม่ค่อยเหมือนบ้านเรา

เพิ่มเติมนิดว่าโทษบ้านเขา  เหมือนผมเคยอ่านของ UK    เหมือนจะมีโทษประเภทระงับใบขับขี่+ ตัดแต้มด้วยทั้งแบบชั่วคราวและถาวร  ถ้าทำผิดกฎแต่ละประเภท อาจจะจัดว่าเป็นการ กันผู้กระทำความผิด ออกจากท้องถนน (เคยเป็นหัวข้อรายงานตอนผมเรียน +เคยคิดจะทำ Thesis เรื่องนี้ด้วย)

ใช่แล้วครับ ผมเห็นด้วยทุกๆประการเลยครับ หลักๆคือ ทำให้กฏหมายมันใช้ได้จริงๆกับคนทุกชนชั้นเสียก่อน เดี๋ยววินัยการจราจรมันก็ตามมาเอง
*แต่ถ้าต่อไปกฏหมายออกมาว่าจากนี้ไปขับรถ 81 กม./ชม. ชนคนตายโดนข้อหาเจตนาฆ่า  ผมว่าน่าจะสนุกดีนะประเทศไทยแลนด์
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Hein9er ที่ มีนาคม 20, 2017, 23:40:20
กระทู้มันดูล่อเป้าไปนิดนึงนะครับผมว่า เพราะเราก็ต้องแยกแยะเป็นเคสก่อนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะความเร็วฝ่ายเดียวจริงๆหรือเปล่า
หรือเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ระมัดระวัง ซึ่งผมว่ามันก็พิสูจน์ให้ไม่มีข้อโต้แย้งได้ยาก เพราะอุบัติเหตุบางครั้งชนที่ 80 ก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน หรือ
ถ้าอีกฝ่ายระมัดระวังมากกว่านี้ ก็หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้แล้ว เราจะมองว่าฝ่ายไหนสมควรที่จะโดนโทษหนักกว่าหรือน้อยกว่า ตรงนี้แหละครับ
ที่ผมว่ามันยากมากๆในบางเคสนะครับ หรือเอาง่ายๆเคสล่าสุดเลยก็ได้ เราจะตัดสินยังไงให้ใครโดนโทษหนักใครโดนโทษน้อย ถ้าทั้งคู่ไม่เสียชีวิต แล้วถ้ากลับกันกลายเป็นรถทางตรงที่เสียชีวิต ใครจะโดนโทษหนักโดนโทษน้อย ในเมื่อทางตรงก็ขับมาไว(ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเกิน limit)

ขับรถเร็วแล้วชนคนตาย ดูยังไงก็ทำให้เป็นเจตนาฆ่าไม่ได้ เพราะขับรถเร็วชนคนตายโดยปกติถือว่าประมาท
บริบทของการเจตนามักจะต้องมีการไตร่ตรองก่อนล่วงหน้า
ในกรณีขับรถเร็วแล้วเกิดชนขึ้นมาจะพิสูจน์ยังไงว่าเค้าไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าว่าจะชน เพราะถ้าคนขับจะชนมันคงไม่ขับเร็วเอาตัวเองไปเสี่ยง
และพอชนไปก็มักจะถูกเรียกว่าอุบัติเหตุ มันไม่มีจุดไหนเลยที่จะสามารถเรียกได้ว่าเจตนาฆ่าครับ

เคสแบบนี้มักจะมีข้อหาที่ว่า "ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย"
กรณีที่ต้องการให้คนตระหนักว่าขับรถเร็วก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ผมว่าควรจะไปเพิ่มความรุนแรงของกฎหมายจราจรให้เข้มงวดมากกว่า เช่นเพิ่มโทษ
จำคุกไปให้สูงเท่ากับกลุ่ม เจตนาหรือไม่เจตนาฆ่า รวมถึงยึดใบขับขี่ตลอดชีวิต ซึ่งก็แล้วแต่จะพิจารณาข้อกฎหมาย และควรที่จะบังคับใช้ ตรวจตราอย่างเข้มงวด

ปล.โทษไม่เจตนาฆ่า ยังไม่ได้เลยครับ เพราะบริบทของฆ่าโดยไม่เจตนานั้น ก็ต้องมีเจตนาที่จะทำร้ายก่อนแต่ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ผลกลับทำให้ผู้ที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 21, 2017, 00:46:57
อ้างถึง
เจตนา
(๑)  [เจดตะนา] ก. ตั้งใจ, จงใจ, มุ่งหมาย. (ป., ส.).

(๒)  [เจดตะนา] น. ความตั้งใจ, ความจงใจ, ความมุ่งหมาย. (ป., ส.).

จงใจ ทำผิดกฎหมาย คือ เจตนา ทำผิดกฎหมาย

แต่เป็นการ เจตนาทำผิดกฎหมายจำกัดความเร็ว

สำหรับผม แก้ที่กฏหมายไม่ได้ครับ จะเพิ่มบทลงโทษ อะไร ก็เท่านั้น
หากจะแก้ ต้องแก้ที่ผู้รักษากฏหมาย ซึ่งมันแก้ไม่ได้ ในสังคมปัจจุบัน

ข่าว
Benz Cls ขับชนชาวบ้านเสียชิวิตผม ยังไม่ทราบเลยว่าลงเอยอย่างไร
นามสกุลใหญ่โต ชนตำรวจตาย  ตอนนี้ไปไหน เหมือนหมดอายุความ
และมีข่าวแบบนี้อีกเยอะ...........


ทางแก้ของผม คือ อย่าให้รัฐทำพวกนี้ ให้เอกชนจัดการ แหะแหะ



เอกชน มีโปรลับ , ลูกค้ากลุ่มอาชีพบางประเภท , ลูกค้าบางคน ได้ส่วดลดพิเศษ

ไม่ต่าง จาก ภาครัฐ ครับ

เลือกปฏิบัติ เหมือนกัน ครับ

จริงๆ บ้านเราก็เหมือนไม่จำกัดแล้วนะ  เพราะตำรวจก็ไม่ได้จริงจัง  ค่าปรับก็แสนถูก โทษเบาๆ

Supercar เหมือนรถที่แสดงถึงความเป็นสุดยอดทางวิศวกรรม

เวลาคนเป็นเจ้าของ ถ้าจะแสดงสมรรถนะกัน เค้าไปขับในสนามครับ (Trackday)

หรือพวก 911 GT3 พวกนี้แทบจะเรียกว่าเป็น Trackday car ได้เลย

เวลาปกติบนถนน เขาก็ขับกันบ้านๆเหมือนรถบ้านนี่ละ

บ้านเขาเคารพกฎจราจรครับ ไม่ค่อยเหมือนบ้านเรา



โทษประเภทระงับใบขับขี่+ ตัดแต้มด้วยทั้งแบบชั่วคราวและถาวร

ถ้าทำผิดกฎแต่ละประเภท อาจจะจัดว่าเป็นการ "กันผู้กระทำความผิด" ออกจากท้องถนน

เพื่อให้เกิดความปลอดภัยโดยรวมมากขึ้นด้วย

(เคยเป็นหัวข้อรายงานตอนผมเรียน +เคยคิดจะทำ Thesis เรื่องนี้ด้วย)

เพิ่มโทษจำคุกไปให้สูง รวมถึงยึดใบขับขี่ตลอดชีวิต

วิธี เพิ่มโทษ เป็นอีกหนึ่งวิธี

แต่ เลือกปฏิบัติ เหมือนเดิม หรือไม่ ?

https://www.youtube.com/watch?v=IdPDfLxDrFM (https://www.youtube.com/watch?v=IdPDfLxDrFM)

https://www.youtube.com/watch?v=7c1WeWvas1Q (https://www.youtube.com/watch?v=7c1WeWvas1Q)

คุณ J_Serie5 เพิ่งตั้งหัวข้อไม่นาน

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=57449.0 (http://community.headlightmag.com/index.php?topic=57449.0)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 21, 2017, 03:57:34
ดูลักษณะ จขกท.คงจะเกลียดคนขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เอามากๆเลยนะครับ

มีประเทศไหนในโลกนี้ ตั้งข้อหาเจตนาฆ่า กับอุบัติเหตุบ้าง ถ้าไม่มี คุณก็เลิกคิด(ฝัน)ไปได้เลย

จขกท.มั่นใจ 100% เลยใช่มั๊ยครับว่า ตัวเองไม่เคยขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด

ลองทบทวนดูนะ ว่า เวลาเห็นป้ายจำกัดความเร็ว 30 40  อยู่ตามจุดต่างๆ ตอนนั้นคุณก็ไม่เคยขับเร็วกว่านั้นเลยใช่มั๊ย
ถ้าไม่แน่ใจ ก็ลองสังเกตุตั้งแต่พรุ่งนี้เลยก็ได้ ว่าคุณขับได้ตามกฎหมาย แบบเป๊ะๆ หรือเปล่า

แล้วช่วยมาตอบด้วยนะครับ ผมจะรอฟังครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ฺBurmicon ที่ มีนาคม 21, 2017, 05:50:02
กระทู้ไร้สาระครับ

ขับเร็วเกินกฏหมายก็โทษเร็วเกินกฏหมาย ชนคนตายก็โทษขับขี่โดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

มันคนละเรื่องกับการเจตนาฆ่าคนเลย
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: seeker ที่ มีนาคม 21, 2017, 06:44:43
ท่าน จขกท รู้ไหมครับ ว่าความเร็วสูงสุดของถนนแต่ละเส้นคือเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มีนาคม 21, 2017, 07:20:36
ผมเห็นด้วยกับหลายๆท่านที่ไม่เห็นด้วย  ว่ามันคนละประเด็นกัน
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มีนาคม 21, 2017, 07:49:09
ดูลักษณะ จขกท.คงจะเกลียดคนขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เอามากๆเลยนะครับ

มีประเทศไหนในโลกนี้ ตั้งข้อหาเจตนาฆ่า กับอุบัติเหตุบ้าง ถ้าไม่มี คุณก็เลิกคิด(ฝัน)ไปได้เลย

จขกท.มั่นใจ 100% เลยใช่มั๊ยครับว่า ตัวเองไม่เคยขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด

ลองทบทวนดูนะ ว่า เวลาเห็นป้ายจำกัดความเร็ว 30 40  อยู่ตามจุดต่างๆ ตอนนั้นคุณก็ไม่เคยขับเร็วกว่านั้นเลยใช่มั๊ย
ถ้าไม่แน่ใจ ก็ลองสังเกตุตั้งแต่พรุ่งนี้เลยก็ได้ ว่าคุณขับได้ตามกฎหมาย แบบเป๊ะๆ หรือเปล่า

แล้วช่วยมาตอบด้วยนะครับ ผมจะรอฟังครับ

จขกท คงเป็นประเภท.....

ตัวเองกลัวความสูง ก๊พาลไม่ให้คนที่บ้านขึ้นเครืรองบินไปเที่ยว และก็เหมารวมคนขึ้นดอย ขึ้นเครื่องบินเป็นคนบ้า

หรือไม่ก็ ตัวเองกลัวเลือด แล้วเหมารวมหมอ พยาบาล อาสากู้ชีพ เป็นพวกซาดิสมั๊งครับ

หรือไม่ก็เก็บกดจากตอนเด็กๆ... เพื่อนๆส่งงานครูเร็ว
ตัวเองทำการบ้านช้า เลยกลายเป็น ้ห็นทุกคนที่ทำอะไรเร็วๆ เหมือนแกล้งตัวจขกท.ไปหมด เลยพาลเกลียดความเร็วน่าดู
.
.
.
จขกท. คงพลาดโอกาสอะไรหลายๆอย่างในชีวิตมามั๊งครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:15:55
สั้นๆ

ไม่เห็นด้วยครับ

ยาวๆ

ไม่เห็นด้วย เพราะมันมีข้อประมาทอยู่แล้ว แต่ถ้าบวกอื่นๆ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ เสพยา ควรตีความให้โทษสูงขึ้นครับ

ส่วนกรณีเกิดจากหลับใน ควรตีความเป็นประมาท ไม่มีใครอยากหลับในหรอก
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nimnim_thailand ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:18:09
บนท้องถนนเวลานี้น่ากลัวมากครับ คนที่อยู่อาการประมาทขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดมีเยอะ แถมยังคิดว่าตัวเองมีสติดี ประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Trigger-Happy ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:19:30
ผมอ่านข้อเสนอนี้แล้วฮาน้ำตาไหล ขอบคุณที่ทำให้เช้านี้ของผมสดใส  ;)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:25:14
คงจะยาก
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:40:41
ผมอ่านข้อเสนอนี้แล้วฮาน้ำตาไหล ขอบคุณที่ทำให้เช้านี้ของผมสดใส  ;)


555555 ครับทั่นเช

หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: nutpob24 ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:43:32
ดันกฏหมายเมาแล้วขับเห็นด้วยกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Hein9er ที่ มีนาคม 21, 2017, 08:56:24


เพิ่มโทษจำคุกไปให้สูง รวมถึงยึดใบขับขี่ตลอดชีวิต

วิธี เพิ่มโทษ เป็นอีกหนึ่งวิธี

แต่ เลือกปฏิบัติ เหมือนเดิม หรือไม่ ?


ใน comment ผมถึงระบุไปด้วยว่า บังคับใช้ และตรวจตราอย่างเข้มงวดไงครับ

กรณีเลือกปฏิบัติ มันไม่ได้เกิดจากที่ตัวกฎหมายจราจรครับ มันเกิดจากผู้ใช้กฏหมาย ซึ่งเราก็ต้องไปกำหนดข้อกฎหมายสำหรับผู้ที่ละเลยปฏิบัติหน้าที่ หรือ
ปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบอีกที ซึ่งใน topic นี้เราพูดถึงบทลงโทษของผู้ที่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็ค่อยๆไปทีละหัวข้อครับ ไม่งั้นก็ไม่จบสักที

ส่วนถ้าเราแก้ไขกรณีเลือกปฏิบัติได้ แต่โทษจราจรยังไม่เข้มงวด ไม่รุนแรง ก็มีค่าเท่าเดิมถูกไหมครับ ปรับนิดๆหน่อยๆ โทษไม่เยอะ คนไม่ตระหนัก
มันก็ต้องถูกแก้ไขควบคู่กัน เพราะมันเป็นปัญหาทั้งคู่ ทั้งบทลงโทษ พรบ ทางบกที่ค่อนข้างอ่อน ไม่รุนแรง และการเลือกปฏิบัติ ละเลยหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ในทางมิชอบ ของผู้ใช้กฎหมาย ค่อยๆแก้ไขกันไปครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ มีนาคม 21, 2017, 09:05:23
ในฐานะคนจบกฎหมายไม่ได้ครับเพราะมันผิดหลักกฎหมายเพราะเจตนาคือประสงค์ต่อบุคคล การทำผิดเรื่องความเร็วเป็นคนละเรื่อง
คนขับรถไม่ได้เล่น Death Race มีเจตนาฆ่าทุกคนนะ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ มีนาคม 21, 2017, 09:08:53
จริงๆผมอยากให้ตัดแต้มมีผลมากกว่านะ
ประมาณว่า ขับเร็วไม่ได้จ่ายใบสั่งแล้วจบ มีตัดแต้ม ตัดมากๆ ไปทำใบขับขี่+อบรมใหม่ และยึดใบอนุญาตชั่วคราวไป ถ้าไม่จำอีกก็ยึดถาวรไป
เพราะเดี๋ยวนี้ บางคน อ่านในนี้เนี่ยละ เห็นใบสั่งความเร็วเป็นค่าผ่านทางซะงั้น ไม่ได้คิดเลยว่าขับเร็วแล้วเสี่ยงอันตราย
เอาเท่านี้ก่อนละกันครับ พยายามฆ่าในกฎหมายมันต้องมีเจตนามุ่งต่อคนไงครับ ถ้าดันตัวนี้จริงๆ เมาจะมาตัวแรกเลย
ขับเร็วยังอยู่ในแง่ประมาทอยู่ แต่โทษประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงความตาย แล้วถ้าสืบว่าประมาทมากๆ เช่นขับรถเร็วมากๆ(ความเร็วมีผลต่อการพิจารณาของศาลนะครับ คุณขับ80กับ180ชนคนตาย ต่างกันแน่นอน) การลดหย่อนโทษต่างกันเยอะครับ ถ้าจัดเต็มก็ติดคุกไม่น้อยเหมือนกันนะ
.................
แต่ผมก็ไม่ขับเร็วนะ ไม่เคยเกิน 120 ครับ ผมว่ารักษากฎหมายมันก็ดีแล้วละ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มีนาคม 21, 2017, 10:12:32
ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะในขณะขับรถย่อมรู้ดีว่าความเร็วที่กฎหมายกําหนดคือเท่าไหร่
การที่บุคคลขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ในอาการของความประมาทซึ่งในบางกรณีเรียกได้ว่าขาดสติไม่ต่างกับการเมาแล้วขับและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะกับยานพาหนะด้วยกันหรือกับคนหรือสัตว์ย่อมถึงแก่ความตายได้โดยง่าย
   

อันนี้ผมไม่เห็นด้วย กฏหมายให้ขับที่ 110 คุณขับที่ 115 แล้วมาปรามาสว่าผมขับโดยขาดสติ ไม่ต่างกับการเมา  อันนี้ ผมว่าไม่ใช่  เพราะบทลงโทษคือ คุณขับเร็วกว่ากำหนด ไม่ใช่ขับรถโดยประมาทหรือเมาแล้วขับ........
   แนวความคิดแบบนี้มีประเทศไหนใช้กันบ้างครับ
เป็นคำถามที่ดีครับ ที่สุดคือทำให้ได้มาตรฐานสากล
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ มีนาคม 21, 2017, 11:37:59
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ   
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ มีนาคม 21, 2017, 11:38:18
พูดถึงประเด็นนี้ทีไรคนถามโดนด่าทุกที  :-\ ผมคิดว่าปรับความเร็วตามอัตราไปเลยดีกว่า ยิ่งขับเร็วมากยิ่งโดนมาก ยิ่งจับได้ว่ามีพฤติกรรมขับแข่งกันคูณสองไปเลย เกิน 110 ปรับเริ่มต้น10000นึงแล้วทุกๆ10กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็บวกไปอีก1000บาท  ::)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ มีนาคม 21, 2017, 11:41:01
ในฐานะคนจบกฎหมายไม่ได้ครับเพราะมันผิดหลักกฎหมายเพราะเจตนาคือประสงค์ต่อบุคคล การทำผิดเรื่องความเร็วเป็นคนละเรื่อง
คนขับรถไม่ได้เล่น Death Race มีเจตนาฆ่าทุกคนนะ

ผมมองว่าคนในวงการกฏหมายควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคตินี้แล้วครับ ทุกวันนี้พฤติกรรมปาดหน้า แกล้งเบรคใส่ หักพวงมาลัยเข้ามาใกล้กระทันหัน พฤติกรรมพวกนี้ต่างมาจากเจตนาเดียวกันคือท้าทายยั่วยุก่อให้เกิดอารมณ์โมโหทั้งนั้น คนใช้รถยุคนี้ไม่ได้ใช้เพื่อโดยสารอย่างเดียวแต่ใช้เพื่อรังแกกันด้วย  :-\
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 21, 2017, 12:06:25
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 21, 2017, 12:28:09
การขับรถความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนด เป็นสิ่งที่ดีครับ

แต่การขับรถดี อย่ามองแค่ความเร็วอย่างเดียว เพราะบางคนขับไม่เกินกฎหมายกำหนด แต่...

-เปลี่ยนเลน ไม่ให้สัญญานไฟ

-คร่อมเลน

-วิ่งเลนขวาตลอด แต่พอใกล้ทางแยก ตัดเลนเพื่อจะเลี้ยวซ้าย

-และมีอีกหลายพฤติกรรม ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ แต่เราไม่ค่อยจะหยิบมาเป็นประเด็นสำคัญ

บางคนพูดยังกับว่า ในซอยซึ่งขับกันช้าๆ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ

คนที่น่าตำหนิมากที่สุด คือ คนที่ขับรถชนครับ ( ช้าหรือเร็วก็ช่าง )
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 21, 2017, 12:38:38
เอามาฝากทุกท่านที่คิดว่า ตัวเองขับไม่เกิน 120 กม./ชม. คือขับไม่เกินกฎหมายกำหนด :D

มีใครเคยสังเกตุหรือรู้บ้างว่าทางหลวงในประเทศไทยเค้ากำหนดความเร็วไว้ที่เท่าไรบ้างและเริ่มต้นจากที่ไหนและไปสิ้นสุดที่ไหนวันนี้ทาง Mthai Auto เรารวบรวมมาให้ทุกท่านเพื่อเป็นความรู้กันครับ รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้นะเอ้อ จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าปรับ
(http://auto.mthai.com/app/uploads/2016/06/11-2-1024x674.jpg)
ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับประเทศไทยนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ซึ่งเป็นกฎกระทรวงออกตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ฯ ระบุไว้โดยสรุปดังนี้
รถส่วนบุคคล รถเก๋ง รถแท็กซี่ รถปิคอัพขนาด 1 ตัน สามารถใช้ความเร็วในกทม.หรือ เขตเทศบาล ได้ไม่เกิน 80 กม.ต่อชม. และนอกเขตกทม.หรือนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. รวมถึงบนทางด่วนทุกขั้น (ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร) ด้วย และทางหลวงที่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. มีดังนี้


ทางหลวงหมายเลข 1 : ถนนพหลโยธิน
เป็นทางหลวงสายหลักที่ใช้เดินทางขึ้นเหนือ หรือต่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร และจุดสิ้นสุดอยู่ที่ เขตแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย

ทางหลวงหมายเลข 2 : ถนนมิตรภาพ
จะมีจุดเริ่มต้นที่สระบุรี เป็นเส้นทางหลักในการไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลย ช่วงเทศกาลรถมักจะหนาแน่นบริเวณทางขึ้นเขา รอยต่อจังหวัดสระบุรี กับ นครราชสีมา ครับ

ทางหลวงหมายเลข 3 : ถนนสุขุมวิท
เป็นถนนที่จะมุ่งสู่ภาคตะวันออก มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ทางด่วนเพลินจิต โดยถนนสุขุมวิทในเขตกรุงเทพมหานครนั้น จัดเป็นย่านธุรกิจย่านดังย่านหนึ่งของกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้

ทางหลวงหมายเลข 4 : ถนนเพชรเกษม
เป็นถนนสายที่จะมุ่งสู่ภาคใต้ เมื่อถึง อ.ชะอำ จะถูกแบ่งเป็น 2 สาย คือ สายเข้าเมืองชะอำ กับสายปกติ (วิ่งรอบนอก) เมื่อถึงแยกปฐมพร จังหวัดชุมพร ทางหลวงหมายเลข 4 ก็จะแยกไปทางทิศตะวันตก ไปยังจังหวัดในฝั่งอันดามัน

ทางหลวงหมายเลข 11 : ภาคเหนือฝั่งตะวันออก
เป็นทางหลวงสายหลัก ที่ใช้วิ่งไปยังจังหวัดภาคเหนือฝั่งตะวันออกได้ เช่น น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เป็นต้น มีจุดเริ่มต้นที่ ต่างระดับอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี แยกออกจากถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32) สิ้นสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมาตัดกับทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ที่จังหวัดลำปาง โดยช่วงลำปาง-เชียงใหม่ จะใช้ชื่อว่า ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่ ซึ่งมีหลักกิโลเมตรที่ 0 อยู่ที่แยกนาก่วม (ตัดถนนพหลโยธินสายเข้าเมืองลำปาง)


ทางหลวงหมายเลข 122 : ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์
ปัจจุบันกลายเป็นถนนสายหลักของผู้ที่จะขับรถมุ่งไปยังภาคเหนือ เนื่องจากเข้าเมืองนครสวรรค์นั้น รถค่อนข้างติดมีระยะทางประมาณ 17 กม.

ทางหลวงหมายเลข 31 : ถนนวิภาวดีรังสิต
มีจุดเริ่มต้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ไปสิ้นสุดที่บริเวณแยกอนุสรณ์สถาน จังหวัดปทุมธานี ต่อจากนั้นก็จะเป็นทางหลวงหมายเลข 1

ทางหลวงหมายเลข 32 : ถนนสายเอเชีย
เป็นถนนสายหลัก ที่จะมุ่งสู่จังหวัดในภาคกลางและภาคเหนือ มีจุดเริ่มต้นจากต่างระดับบางปะอิน (จุดสิ้นสุดถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันตก)) และมีจุดสิ้นสุดอยู่ที่แยกหลวงพ่อโอ จังหวัดชัยนาท จากนั้นจะเป็นถนนพหลโยธินมาทดแทน

ทางหลวงหมายเลข 34 : ถนนบางนา-บางปะกง
หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ บางนา-ตราด เป็นทางหลวงสายหลักที่จะมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก นอกจากถนนสุขุมวิท แต่ถนนสายนี้รถบรรทุกจะวิ่งค่อนข้างเยอะ ดังนั้น หากจะไปยังภาคตะวันออก แนะนำให้ใช้ Motorway ดีกว่า

ทางหลวงหมายเลข 35 : ถนนพระรามที่ 2
หรือ ธนบุรี-ปากท่อ เป็นถนนสายหลักที่จะมุ่งไปยังภาคใต้อีกหนึ่งเส้นทางนอกจากถนนเพชรเกษม แต่ด้วยเส้นทางนี้มีระยะทางใกล้กว่า จากกรุงเทพ ไป สิ้นสุดที่จังหวัดราชบุรี ที่แยกวังมะนาว และก็จะเข้าสู่เขตจังหวัดเพชรบุรี

ทางหลวงหมายเลข 104 : กำแพงเพชร-ตาก
เดิมเป็นส่วนหนึ่งของถนนพหลโยธิน และเมื่อมีการตัดถนนพหลโยธินสายปัจจุบันขึ้นมาใหม่ (ช่วงกำแพงเพชร-ตาก) ทางหลวงสายนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงหมายเลขไปเป็น 104 จนถึงปัจจุบัน และมีชื่อเรียกว่า ถนนพหลโยธินสายเก่า

ทางหลวงหมายเลข 304 : ปากเกร็ด-นครราชสีมา
เริ่มต้นอยู่ปากเกร็ด ผ่านหลักสี่ มีนบุรี ฉะเชิงเทรา กบินทร์บุรี ทับลาน วังน้ำเขียว ปักธงชัย สิ้นสุดที่แยกถนนมิตรภาพ อ.เมืองนครราชสีมา เป็นเส้นทางเสริม(ทางเลี่ยง) ที่สามารถลัดเลาะไปสู่ภาคอีสานได้ ในช่วงวันเทศกาลต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านสระบุรี และลำตะคอง และถนนสายนี้เปรียบเป็นเส้นทางตรงอีกเส้นทางหนึ่งจากภาคอีสานที่สามารถตรงมาชลบุรี ระยองได้เช่นกัน จากถึงกบินทร์บุรี มาพนมสารคาม เลี้ยวซ้ายเข้า
ถนนสาย331 ตรงมาเรื่อยๆ ตัดกับถนนที่ไปชลบุรี แกลง พัทยา ระยอง จนไปสุดเส้นทางที่ สัตหีบ

ทางหลวงสาย 304 : ด้านกทม.และนนทบุรี เป็นถนนฝั่งกทม.และปริมณฑล มีชื่อเรียกหลายชื่อ
ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ (จากท่าน้ำปากเกร็ด ถึง วงเวียนหลักสี่ )
ถนนรามอินทรา (วงเวียนหลักสี่ ถึง แยกมีนบุรี )
ถนนสุวินทวงศ์ (แยกมีนบุรี ถึง ฉะเชิงเทรา )

ทางหลวงหมายเลข 303 : วงเวียนใหญ่ -แหลมฟ้าผ่า (ตากสิน – สุขสวัสดิ์)
เป็นเส้นทางหลักของฝั่งตะวันตกของจังหวัดสมุทรปราการ เข้าสู่ใจกลางเมืองหลวง มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ วงเวียนใหญ่

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข : 24 (สีคิ้ว – อุบลราชธานี) หรือ ถนนเดชอุดม ชื่อเดิม โชคชัย – เดชอุดม
เป็นถนน 4 เลนมีเกาะกลางถนน ตั้งแต่สีคิ้ว – นางรอง เป็นเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ ได้แก่ จังหวัด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ถนนสายนี้เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 : (บ้านกรวด – บรบือ)
เป็นเส้นทางสายรอง หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสายใน ส่วนใหญ่จะเป็นถนนสองเลน เป็นเส้นทางสัญจรของคนในพื้นที่ และเป็นทางผ่านจากจ.บุรีรัมย์ ไปยังจ.มหาสารคาม หรือ จ.ร้อยเอ็ด

ทางหลวงหมายเลย 338 : ถนนบรมราชชนนี ชื่อเดิม ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี
เริ่มต้นที่ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร สิ้นสุดที่ สามแยกเพชรเกษม-บรมราชชนนี อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รวมระยะทางทั้งสิ้น 34.7 กิโลเมตร

ทางหลวงหมายเลข 341 : ถนนสิรินธร (บางบำรุ)
เริ่มต้นที่ สี่แยกบางพลัด เขตบางพลัด ไปจนถึง แยกต่างระดับ สิรินธร-บรมราชชนนี รวม 3 กิโลเมตร

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 : (นครสวรรค์-พิษณุโลก)
ทางหลวงระดับจังหวัดสายหลักที่เชื่อมการขนส่งจราจรระหว่างจังหวัดนครสวรรค์กับจังหวัดพิษณุโลก มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 131 กิโลเมตร

และทางหลวงที่สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีแค่ 2 ที่เท่านั้น! คือ
(http://auto.mthai.com/app/uploads/2016/06/2-13-1024x677.jpg)
ทางหลวงหมายเลข 7 : มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี
จุดเริ่มต้นอยู่ที่บริเวณต่างระดับศรีณครินทร์ จุดเชื่อมต่อถนนพระราม 9 และทางพิเศษศรีรัช ไปสิ้นสุดที่จังหวัดชลบุรี

ทางหลวงหมายเลข 9 : ถนนกาญจนาภิเษก
เป็นถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันได้แล้วเสร็จทั้งโครงการแล้ว ทั้งวงแหวนด้านใต้ และวงแหวนด้านตะวันออก ซึ่งวงแหวนด้านใต้นั้น มีชื่อว่า ทางพิเศษสาย บางพลี-สุขสวัสดิ์ วงแหวนด้านตะวันออกมีชื่อว่า บางปะอิน-บางนา (วงแหวนด้านใต้และวงแหวนด้านตะวันออก เป็นทางพิเศษที่มีการเก็บค่าผ่านทาง ส่วนวงแหวนตะวันตก จะไม่มีการเก็บค่าผ่านทาง)

รู้กันแล้วก็ขับรถกันอย่างระมัดระวังกันนะครับ ใช้ความเร็วกันให้เหมาะให้ควร และที่สำคัญอย่าให้เกินตามที่กฏหมายกำหนดนะครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:28:54
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

รถเก๋งที่มีช่วงล่างดีๆ ขับ 140
กับรถปิคอัพเก่าๆ โช๊คเสื่อม ใช้งานมานานไม่เคยตั้งศูนย์ ยางเก่าๆ เหยียบ 120
คันไหน น่ากลัวกว่ากันครับ
คันไหน ระบะเบรกสั้นกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:35:40
เอามาฝากทุกท่านที่คิดว่า ตัวเองขับไม่เกิน 120 กม./ชม. คือขับไม่เกินกฎหมายกำหนด :D


รู้ละครับ GPS รถก็ขึ้นตลอด เอาเข้าจริงๆ ทล.ไทย วิ่ง 120 ได้ไม่กี่เส้นแค่นี้จริงๆ
แต่ส่วนมาก ตร.ก็ปล่อยไปละครับ ขนาดปล่อยกันขนาดนี้ ยังวิ่งกัน 140+ให้เห็นเป็นเรื่องปกติ
แต่อย่างพหลฯ ผมเคยยางแตกต้องใส่ยางอะไหล่ วิ่งได้แค่ 80 ชิดซ้าย
....ไม่มีใครวิ่งช้ากว่าผมเลยครับ แม้แต่รถบรรทุกที่ความเร็วจำกัดกว่านี้หรือรถโดยสารที่ท้ายรถเขียนว่าจำกัดความเร็ว....
ก็เลยพยายามทางสายกลาง ไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าจนขวางกระแสรถครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:39:03
*****
แก้ไขดีกว่า ไม่อยากดราม่า
HLM อยากให้เป็นเวปรถยนต์มากกว่านะ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:40:14
ผู้ที่มีสติสัมปชัญญะในขณะขับรถย่อมรู้ดีว่าความเร็วที่กฎหมายกําหนดคือเท่าไหร่
การที่บุคคลขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์บ่งบอกอยู่แล้วว่าอยู่ในอาการของความประมาทซึ่งในบางกรณีเรียกได้ว่าขาดสติไม่ต่างกับการเมาแล้วขับและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะกับยานพาหนะด้วยกันหรือกับคนหรือสัตว์ย่อมถึงแก่ความตายได้โดยง่าย
1 ปีหลังมานี้ผมขับ 80 ชิดซ้ายตลอดเพราะต้องการประหยัดค่าน้ำมัน (พูดจริงนะครับ จิ้ม Isuzu Insight ดูได้เลย)

แต่ถ้าคุณจะใส่เจตนาฆ่าลงไปในทุกคนที่คุณ "เล็งเห็นผล" ได้ว่าเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ความตายได้โดยง่าย

โดยคุณเพ่งเล็งแค่กับคนขับรถด้วยความเร็ว 91+ แบบนี้ มันจะไม่เป็นธรรมกับตัวเหยื่อเองด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น

1. นาย ก. ถูกนาย ข. ขับรถชนเสียชีวิตที่ความเร็ว 90 โดยนาย ข. เสียหลักมาชน เพราะผ้าเบรคหมด โช๊คเสื่อม สปริงตาย แต่ทะลึ่งขับ 90 จนเสียหลัก

2. นาย ค. ถูกนาย ง. ขับรถชนเสียชีวิตที่ความเร็ว 91 โดยนาย ค. ขับรถปาดหน้านาย ง. ในระยะกระชั้นชิดที่ 30 เมตร

ปรากฏว่านาย ข. ไม่ถูกตั้งข้อหาเจตนาฆ่า

ส่วนนาย ง. ถูกตั้งข้อหาเจตนาฆ่า (ต่อมาสรุปสำนวนออกมาเป็นประมาทร่วม)

ญาตินาย ก. จะรู้สึกอย่างไรครับ

แบบนี้กฎหมายจะเหลือความศักดิ์สิทธิ์ไหมครับ ในเมื่อมันไม่ส่งเสริมให้เจ้าของรถรับผิดชอบดูแลรักษารถให้ดี

สักแต่ว่าต้องขับ 90 แล้วจะรอดจากข้อหาเจตนาฆ่า ประเทศไทยคงเสื่อมลงไปกว่านี้ ถ้ามีกฎหมายนี้ขึ้นมาจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:41:48
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

รถเก๋งที่มีช่วงล่างดีๆ ขับ 140
กับรถปิคอัพเก่าๆ โช๊คเสื่อม ใช้งานมานานไม่เคยตั้งศูนย์ เหยียบ 120
คันไหน น่ากลัวกว่ากันครับ

...รถปิคอัพน่ากลัวกว่า
แต่ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นข้ออ้างให้รถช่วงล่างดี ขับ 140แล้วถูกกฎหมายได้ครับ
นั้นละครับ ผมก็งงว่า ถ้าช่วงล่างดีกว่ามีกฏหมายข้อไหนบอกว่า สามารถขับได้เร็วกว่าคันที่ด้อยกว่าบ้าง
แบบนี้ super car , big bike ก็มีสิทธิขับเร็วกว่าหรือครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:49:10
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้
แต่ก็มักจะมีคำถามอีกประเภทนะครับ "ทำไมรุ่นนี้ยังใส่ถุงลมมาให้แค่ 2 ใบ"

"ทำไมรุ่นนี้ไม่ใส่ระบบ TRC VSC ฯลฯ"

สังคมที่รถทุกคันขับ 80 แต่โช๊ครั่ว สปริงตาย แร็คพาวเวอร์รั่ว ไม่มีถุงลม ABS VSC

ผมว่าอันตรายกว่าสัมคมที่ทุกคันขับ 120 แต่สภาพสมบูรณ์ ขับในเลนที่ถูกต้อง มีระบบเซฟตี้ครบ นะครับ

จริงอยู่ว่าการขับเร็วมันผิดกฎหมาย จะซาเล้งหรือซูเปอร์คาร์ก็ต้องกฎหมายเดียวกัน

แต่ถ้าจะพิจารณาโทษเจตนาฆ่า ซึ่งเป็นอีกหัวข้อหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับกฎหมายจำกัดความเร็ว

ผมว่า คนที่ไม่บำรุงรักษารถ หรือเลือกรถที่ไม่มีความปลอดภัย ควรถูกตั้งข้อหานี้มากกว่าคนที่ขับเร็วครับ

เพราะมันมีโอกาสทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตได้ง่ายกว่า

จำสารพัดข่าวที่คนขับรถในเลนตัวเองอยู่ดีๆ ก็มีคนเหาะมาชนไหมครับ ระหว่างข่าวแบบนั้น

เทียบกับข่าวที่เสียชีวิตเพราะความเร็ว ข่าวรถเหาะมีน้อยกว่าหรือเปล่าล่ะครับ?

ผมว่ามารณรงค์เพิ่มโทษเจตนาฆ่าให้คนที่ซื้อรถป้ายแดงที่ไม่มี ABS+2Airbag+TRC+VSC ยังดูดีมีสาระมากกว่านี้ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: peterW ที่ มีนาคม 21, 2017, 13:58:12
กรณีนี้ มันก็แยกโทษอยู่แล้ว

1. ขับรถเร็ว
2. กลับรถในขณะคับขัน

ใครผิดก็ว่ากันไป
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ มีนาคม 21, 2017, 14:00:44
ต้องแยกออกเป็น 2 กรณี ขับรถเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด และ ขับรถชนคนตายถือเป็นความประมาท

แต่ละข้อก็มีบทลงโทษอยู่ครับ จะไปเพิ่มบทลงโทษเจตนาฆ่า อาจดูหนักไปครับ

ถ้าเพิ่มโทษจำคุก 5-10 ปี ไม่มีลดหย่อนโทษ ไม่มีรอลงอาญา ไม่มีมาบำเพ็ญประโยชน์ ติดคุกอย่างเดียว

แถมด้วยเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถตลอดชีวิต
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 21, 2017, 14:05:26
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

รถเก๋งที่มีช่วงล่างดีๆ ขับ 140
กับรถปิคอัพเก่าๆ โช๊คเสื่อม ใช้งานมานานไม่เคยตั้งศูนย์ เหยียบ 120
คันไหน น่ากลัวกว่ากันครับ

...รถปิคอัพน่ากลัวกว่า
แต่ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นข้ออ้างให้รถช่วงล่างดี ขับ 140แล้วถูกกฎหมายได้ครับ
นั้นละครับ ผมก็งงว่า ถ้าช่วงล่างดีกว่ามีกฏหมายข้อไหนบอกว่า สามารถขับได้เร็วกว่าคันที่ด้อยกว่าบ้าง
แบบนี้ super car , big bike ก็มีสิทธิขับเร็วกว่าหรือครับ

ประเด็นของผมก็คือ บางคนตั้งขอรังเกียจ กับคนที่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
แต่สาเหตุของอุบัติเหตุ มันเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุอื่นๆ กลับไม่ค่อยมีคนใส่ใจ

ถ้าคุณคิดว่า คุณขับไม่เกิน 120 แล้ว ไม่ผิดกฎหมาย กรุณาอ่าน การจำกัดความเร็วของถนนในประเทศไทย ที่ผมยกมาด้วยนะครับ :D
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มีนาคม 21, 2017, 14:37:39
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

ความเห็นผมในนี้ คือ ผมมองว่า การตั้งกระทู้ในสิ่งที่ไม่เหมาะแบบขับมุด ขับความเร็วสุง
แล้วมาให้ความเห็นกันว่า ควรจะทำแบบนั้นแบบนี้เพิ่ม มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
แต่ทางแก้คือ ไม่มุด ไม่ขับเร็วเกินถ้าไม่จำเป็น ประเภทขับจนชินเป็นปกติควรจะแก้ไข
การที่เราไม่เคยขับชน ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่ความเร็วสูง หรือจากการขับขี่ที่สุ่มเสี่ยง
ไม่ได้เป็นการบอกว่า ในอนาคตมันจะไม่เกิดเหมือนในอดีต
ก็อาจจะมีรถที่เก่า รถที่คนขับรถหลับใน ขับไม่ปลอดภัยอยู่ข้างๆมาชนก็ได้

ในทางกลับกัน เวลาเห็นกระทู้ทำนองนี้ ในฐานะของคนใช้รถใช้ถนน
ผมมองว่า เราไม่ควรสนับสนุน และควรว่ากล่าวตักเตือนกันไปมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ มีนาคม 21, 2017, 15:02:07
  เจตนา คือ รู้ว่าทำอะไรและหวังผลของการกระทำของตนหรือรู้ว่าการกระทำของตนผลจะเป็นยังไง
  แต่เจตนาในใจคนมันดูยาก ยิ่งตอนผลเกิดไปแล้วยากนักที่คนทำจะบอกว่าเจตนา
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ มีนาคม 21, 2017, 15:14:55
ผมว่า ไม่ควรเป็นเรื่องว่าเจตนาฆ่า
แต่ควรเพิ่มโทษให้มากกว่านี้ เช่น ก่อนชน ขับด้วยความเร็วเท่านี้ ส่งผลให้เสียหายเท่านี้ เท่านั้น ก็ว่ากันไปครับ
ผมคนหนึ่งที่ไม่ได้ขับรถเร็ว  แต่ต้องมองว่า คนเราจำเป็นต่างกัน แต่คนขับรถเร็วคงไม่มีใครจะไปฆ่าใครมั้งครับ :)
ยกเว้นเป็นการวางแผนฆ่าครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 21, 2017, 15:37:12
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

ความเห็นผมในนี้ คือ ผมมองว่า การตั้งกระทู้ในสิ่งที่ไม่เหมาะแบบขับมุด ขับความเร็วสุง
แล้วมาให้ความเห็นกันว่า ควรจะทำแบบนั้นแบบนี้เพิ่ม มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
แต่ทางแก้คือ ไม่มุด ไม่ขับเร็วเกินถ้าไม่จำเป็น ประเภทขับจนชินเป็นปกติควรจะแก้ไข
การที่เราไม่เคยขับชน ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่ความเร็วสูง หรือจากการขับขี่ที่สุ่มเสี่ยง
ไม่ได้เป็นการบอกว่า ในอนาคตมันจะไม่เกิดเหมือนในอดีต
ก็อาจจะมีรถที่เก่า รถที่คนขับรถหลับใน ขับไม่ปลอดภัยอยู่ข้างๆมาชนก็ได้

ในทางกลับกัน เวลาเห็นกระทู้ทำนองนี้ ในฐานะของคนใช้รถใช้ถนน
ผมมองว่า เราไม่ควรสนับสนุน และควรว่ากล่าวตักเตือนกันไปมากกว่าครับ
ก็จริงครับ แต่การพยายามจำกัดความต้องการของคน มันอาจจะไม่ตรงจุดเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น

สำนักงานคุณต้องการประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศ คุณบอกว่า อยากประหยัดก็ต้องปิดแอร์ หรือเปิดแอร์ 28 องศา

ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่สามารถแก้ไขได้ยั่งยืน คุณละสายตาเมื่อไหร่ พนักงานก็จะมาเร่งแอร์ทันที

แต่แปลกตรงที่คุณไม่สนใจว่า แอร์ตัวนั้นมีเบอร์ 5 รึเปล่า สเปกเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่หากคุณไปใส่ใจเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่อง

เลือกแอร์อินเวอร์เตอร์ ค่าประสิทธิภาพดีๆ ล้างแอร์ตามระยะ บำรุงรักษาดีๆ

คุณอาจจะสามารถให้พนักงานเปิดแอร์ฉ่ำๆ โดยที่ใช้ไฟเท่ากับแอร์ประสิทธิภาพห่วยๆ ที่เปิด 28 องศาก็ได้ครับ

"รถคันไหนวิ่ง 140 แล้วช่วงล่างเอาอยู่" = แอร์รุ่นไหน เปิด 24 แล้วยังประหยัดไฟที่สุดครับ

"ขับ 80 สิครับ ปลอดภัย" = เปิด 28 องศาสิครับ ประหยัดไฟ

ถ้าประเทศไทยมีข้อหา "ใช้พลังงานสิ้นเปลืองเกินเหตุ"

คนที่ใช้แอร์สเปกห่วยๆ ไม่เคยล้าง ตันแล้วตันอีก แต่เปิด 28 กับคนที่แอร์ดี บำรุงถึงๆ แล้วเปิด 24?

จริงๆ แล้ว คนที่ควรถูกตั้งข้อหา คือทั้งคู่ล่ะครับ แต่ถ้าจะมีแค่คนเดียวที่รอด ผมว่าคนหลังควรรอดกว่าครับ

การสร้างสังคมที่ดี ผมว่าไม่จำเป็นต้องสร้างแรงกดดันให้คนอึดอัดครับ แต่ต้องสร้างโครงสร้างเน้นไปที่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์

และไม่ฝืนความต้องการของมนุษย์จนเกินไป
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ มีนาคม 21, 2017, 19:20:52
โหดเกินไป  ผมว่าเราไม่ควรคิดแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Yangyang ที่ มีนาคม 21, 2017, 19:41:23
ป้ายบอก limit 80
ขับมาทางตรง 85 คนขับรถ 20km/h กลับรถแบบมึนๆ ตัดหน้ากระชั้นชิด
ด้วย common sense ใครเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ??
คนขับ 85 ต้องโดนโทษเจตนาฆ่า??
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ มีนาคม 21, 2017, 20:13:08
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

จริงแหละ ในนี้ คำถามที่ดีคือ ผมขับเร็วประมาณ 140 รถคันไหนช่วงล่างดี เอาอยู่
ไม่ก็ ทำไงกับรถช้าชิดขวาดีครับ
ไม่ก็ จะต้องไปทำอะไรเพิ่มถ้าชอบขับมุด
อะไรประมาณนี้

ความเห็นผมในนี้ คือ ผมมองว่า การตั้งกระทู้ในสิ่งที่ไม่เหมาะแบบขับมุด ขับความเร็วสุง
แล้วมาให้ความเห็นกันว่า ควรจะทำแบบนั้นแบบนี้เพิ่ม มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
แต่ทางแก้คือ ไม่มุด ไม่ขับเร็วเกินถ้าไม่จำเป็น ประเภทขับจนชินเป็นปกติควรจะแก้ไข
การที่เราไม่เคยขับชน ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่ความเร็วสูง หรือจากการขับขี่ที่สุ่มเสี่ยง
ไม่ได้เป็นการบอกว่า ในอนาคตมันจะไม่เกิดเหมือนในอดีต
ก็อาจจะมีรถที่เก่า รถที่คนขับรถหลับใน ขับไม่ปลอดภัยอยู่ข้างๆมาชนก็ได้

ในทางกลับกัน เวลาเห็นกระทู้ทำนองนี้ ในฐานะของคนใช้รถใช้ถนน
ผมมองว่า เราไม่ควรสนับสนุน และควรว่ากล่าวตักเตือนกันไปมากกว่าครับ
ก็จริงครับ แต่การพยายามจำกัดความต้องการของคน มันอาจจะไม่ตรงจุดเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น

สำนักงานคุณต้องการประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศ คุณบอกว่า อยากประหยัดก็ต้องปิดแอร์ หรือเปิดแอร์ 28 องศา

ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่สามารถแก้ไขได้ยั่งยืน คุณละสายตาเมื่อไหร่ พนักงานก็จะมาเร่งแอร์ทันที

แต่แปลกตรงที่คุณไม่สนใจว่า แอร์ตัวนั้นมีเบอร์ 5 รึเปล่า สเปกเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่หากคุณไปใส่ใจเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่อง

เลือกแอร์อินเวอร์เตอร์ ค่าประสิทธิภาพดีๆ ล้างแอร์ตามระยะ บำรุงรักษาดีๆ

คุณอาจจะสามารถให้พนักงานเปิดแอร์ฉ่ำๆ โดยที่ใช้ไฟเท่ากับแอร์ประสิทธิภาพห่วยๆ ที่เปิด 28 องศาก็ได้ครับ

"รถคันไหนวิ่ง 140 แล้วช่วงล่างเอาอยู่" = แอร์รุ่นไหน เปิด 24 แล้วยังประหยัดไฟที่สุดครับ

"ขับ 80 สิครับ ปลอดภัย" = เปิด 28 องศาสิครับ ประหยัดไฟ

ถ้าประเทศไทยมีข้อหา "ใช้พลังงานสิ้นเปลืองเกินเหตุ"

คนที่ใช้แอร์สเปกห่วยๆ ไม่เคยล้าง ตันแล้วตันอีก แต่เปิด 28 กับคนที่แอร์ดี บำรุงถึงๆ แล้วเปิด 24?

จริงๆ แล้ว คนที่ควรถูกตั้งข้อหา คือทั้งคู่ล่ะครับ แต่ถ้าจะมีแค่คนเดียวที่รอด ผมว่าคนหลังควรรอดกว่าครับ

การสร้างสังคมที่ดี ผมว่าไม่จำเป็นต้องสร้างแรงกดดันให้คนอึดอัดครับ แต่ต้องสร้างโครงสร้างเน้นไปที่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์

และไม่ฝืนความต้องการของมนุษย์จนเกินไป

ขอแจมหน่อย ที่เปรียบเทียบมันคนละเรื่องคนละประเด็นกันเลยครับ

ขับรถช้าลง  ความรุนแรงตอนชนมันย่อมเบาลง  จากตายเป็นไม่ตาย  (ถ้ากรณีคาดเข็มขัด)  หรือจะเถียงข้อนี้ครับ รถเทพก็ฝืนหลักฟิสิกส์ไม่ได้หรอกครับ

แล้วก็การเปรียบเทียบแอร์บ้าน ค่าไฟ มันเทียบกับรถไม่ได้

การใช้รถ คือคุณใช้ถนน ซึ่งเป็น "สาธารณะสมบัติ"  ที่เป็นของประชาชนคนอื่นทุกคน  รัฐย่อมต้องมีการออกกฎหมายเพื่อจำกัด สิทธิ และ "ความต้องการส่วนบุคคล" เพื่อให้สังคมมันเกิดระเบียบวินัย  ถนนเกิดความปลอดภัยสูงสุด  และเกิดประโยชน์สูงสุด ความปลอดภัยสูงสุด แก่คนจำนวนมากที่สุด 

เมื่อคุณเลือกจะใช้ของส่วนรวม  หรือถนน ร่วมกับคนอื่น  ก็ควรจะเคารพกฎของของเขา   ไม่ควรจะเอาความต้องการส่วนตัวเป็นที่ตั้ง

อยากสนุกไปสนาม   อยากมีความต้องการ ไปสนาม  จะเร็วเสี่ยงตาย รถช่วงล่างเทพ เอาอยู่ ก็ทำไปคนเดียว ตายคนเดียว ไม่เดือดร้อนส่วนรวมครับ

ถนนก็เหมือนทางเท้า   ที่คนทุกคนจะต้องใช้ร่วมกันก็ควรจะเคารพกฎ  มีมารยาท ไม่มาเล่นโรลเลอร์เบลดบนทางเท้า  หรือขับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้าครับ

กฎ+ มารยาท ผมหมายความรวมถึงทุกอย่าง  แช่ขวา  ปาด มุด ซิ่ง  ฝ่าไฟแดง  ขับรถเร็ว  แซงเส้นทึบ  รวมถึงมารยาท ทางเอกทางโท 

ถ้าลองสังเกตดีๆ  กฎจราจรที่เราๆเจอกันเนี่ย เค้าก็ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยทั้งนั้น (แม้บางอย่างจะล้าสมัยไปนิดก็ตาม)

ห้ามแช่ขวา ในถนนหลวง 2 เลน เพราะช่องขวา มันมีจุดกลับรถ  และสี่แยก
คาดเข็มขัด ก็เพื่อตัวคนโดยสารปลอดภัย  เวลาเกิดการชน
จำกัดความเร็ว  เพื่อให้ความเร็วน้อยลง  เกิดอุบติเหตุความรุนแรงต่ำลง  ระยะเบรคมากขึ้น   คนเรามันพลาดกันได้ แต่การพลาดที่ความเร็วต่ำ กับสูง ผลลัพธ์  แรงกระแทก  มันต่างกัน
ช่องทางเดินรถต่างๆ  จุดห้ามจอด  ทั้งหมดก็เพื่อให้การจราจรเป็นไปได้โดยคล่องตัว  ไม่เกิดการกีดขวางการจราจร
และยังมีอีกหลายๆกฎระเบียบ   

สังเกตดีๆ มีไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งนั้นแหละครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Barracuda ที่ มีนาคม 21, 2017, 21:06:42
มาตั้งกระทู้ว่าคนขับรถเร็วในนี้ ก็โดนรุมยำดิคับ

ปรบมือรัวๆๆๆๆเลย แต่ลืมเสริมไปว่าพวกขับช้าแช่ขวายาวก็น่าจะโดนด้วย (นอกประเด็นนะครับ)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 21, 2017, 21:45:38
ขอแจมหน่อย ที่เปรียบเทียบมันคนละเรื่องคนละประเด็นกันเลยครับ

ขับรถช้าลง  ความรุนแรงตอนชนมันย่อมเบาลง  จากตายเป็นไม่ตาย  (ถ้ากรณีคาดเข็มขัด)  หรือจะเถียงข้อนี้ครับ รถเทพก็ฝืนหลักฟิสิกส์ไม่ได้หรอกครับ

แล้วก็การเปรียบเทียบแอร์บ้าน ค่าไฟ มันเทียบกับรถไม่ได้

การใช้รถ คือคุณใช้ถนน ซึ่งเป็น "สาธารณะสมบัติ"  ที่เป็นของประชาชนคนอื่นทุกคน  รัฐย่อมต้องมีการออกกฎหมายเพื่อจำกัด สิทธิ และ "ความต้องการส่วนบุคคล" เพื่อให้สังคมมันเกิดระเบียบวินัย  ถนนเกิดความปลอดภัยสูงสุด  และเกิดประโยชน์สูงสุด ความปลอดภัยสูงสุด แก่คนจำนวนมากที่สุด 

เมื่อคุณเลือกจะใช้ของส่วนรวม  หรือถนน ร่วมกับคนอื่น  ก็ควรจะเคารพกฎของของเขา   ไม่ควรจะเอาความต้องการส่วนตัวเป็นที่ตั้ง

อยากสนุกไปสนาม   อยากมีความต้องการ ไปสนาม  จะเร็วเสี่ยงตาย รถช่วงล่างเทพ เอาอยู่ ก็ทำไปคนเดียว ตายคนเดียว ไม่เดือดร้อนส่วนรวมครับ

ถนนก็เหมือนทางเท้า   ที่คนทุกคนจะต้องใช้ร่วมกันก็ควรจะเคารพกฎ  มีมารยาท ไม่มาเล่นโรลเลอร์เบลดบนทางเท้า  หรือขับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้าครับ

กฎ+ มารยาท ผมหมายความรวมถึงทุกอย่าง  แช่ขวา  ปาด มุด ซิ่ง  ฝ่าไฟแดง  ขับรถเร็ว  แซงเส้นทึบ  รวมถึงมารยาท ทางเอกทางโท 

ถ้าลองสังเกตดีๆ  กฎจราจรที่เราๆเจอกันเนี่ย เค้าก็ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยทั้งนั้น (แม้บางอย่างจะล้าสมัยไปนิดก็ตาม)

ห้ามแช่ขวา ในถนนหลวง 2 เลน เพราะช่องขวา มันมีจุดกลับรถ  และสี่แยก
คาดเข็มขัด ก็เพื่อตัวคนโดยสารปลอดภัย  เวลาเกิดการชน
จำกัดความเร็ว  เพื่อให้ความเร็วน้อยลง  เกิดอุบติเหตุความรุนแรงต่ำลง  ระยะเบรคมากขึ้น   คนเรามันพลาดกันได้ แต่การพลาดที่ความเร็วต่ำ กับสูง ผลลัพธ์  แรงกระแทก  มันต่างกัน
ช่องทางเดินรถต่างๆ  จุดห้ามจอด  ทั้งหมดก็เพื่อให้การจราจรเป็นไปได้โดยคล่องตัว  ไม่เกิดการกีดขวางการจราจร
และยังมีอีกหลายๆกฎระเบียบ   

สังเกตดีๆ มีไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งนั้นแหละครับ
ออกตัวก่อนว่า 1 ปีให้หลังนี้ผมขับแทบจะไม่มีเกิน 80 (พูดจริงครับ จิ้ม Isuzu Insights ดูได้เลย)

ขับไปเที่ยวประจวบ 85 ตลอดทางก็ทำมาแล้ว (จริงๆ ไม่ใช่อะไร อยากประหยัดน้ำมันครับ ;D ;D ;D)

แต่ที่ผมเข้าข้างความเร็ว เพราะผมเห็นว่า มันเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของอุบัติเหตุเท่านั้น ซึ่งมีปัจจัยใหญ่ๆ ซ่อนอยู่อีกมาก

แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ ทั้งๆ ที่บางทีมันเป็นเรื่องใหญ่กว่าการขับรถเร็วด้วยซ้ำ เช่น สภาพของรถ

ผมเห็นด้วยครับ ความช้ามันลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ และถนนก็เป็นสาธารณสมบัติ โดยรถยนต์ เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ใช้สมบัติสาธารณะ

(แต่ขอแทรกว่าที่ผมยกตัวอย่างนั้น "พลังงานไฟฟ้า" ก็เป็นสาธารณสมบัติเช่นกันนะครับ โดยมีเครื่องปรับอากาศ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว จึงสามารถเทียบได้ครับ)

กฎหมาย สำหรับผม มีไว้เพื่อกำหนดขอบเขตของสิทธิเสรีภาพของตัวเองตราบเท่าที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น

หากใครมีประสิทธิภาพที่จะใช้ขอบเขตนั้นอย่างคุ้มค่ากว่าคนอื่น ก็มีสิทธิที่จะได้ทำตามความต้องการเพิ่มครับ

ไม่ใช่ว่าใช้ประสิทธิภาพคุ้มค่าแล้วเราจะไปลดขอบเขตของคนๆ นั้นลง แบบนี้ไม่เป็นธรรมครับ

คนที่ขับ 80 แต่สภาพรถสมบูรณ์ กับคนที่ขับ 80 สภาพรถไม่สมบูรณ์ คนที่สภาพรถไม่สมบูรณ์ถือว่าละเมิดความปลอดภัยของผู้อื่นนะครับ

แต่คุณกำลังจะเปรียบเทียบ 2 คนนี้ให้มีค่าเท่ากัน แบบนี้ไม่ถูกครับ การจะตั้งกฎหมายบนพื้นฐานความปลอดภัยด้วยการกำหนดความเร็วเพียงอย่างเดียว

มันไม่เมคเซนส์ครับ ต้องนำด้วยสภาพรถ และตามด้วยความเร็ว

การจำกัดความเร็ว ไม่ใช่ไม่ควร ควรมีและทำอย่างจริงจัง แต่ไม่ใช่กำหนดไว้เป็นเต่าแค่ 80-90 ถ้าเกินนี้ให้ไปสนาม

(เหมือนสั่งให้ปรับแอร์ 28 เกินนี้จะไล่ไปอยู่บ้านข้างโรงไฟฟ้า??)

ซึ่งสุดท้ายแล้วมันเหมือนกฎที่ขึ้นหิ้งบูชาไว้เฉยๆ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถบังคับและจับปรับกันอย่างจริงจังได้

หรือต่อให้ทำได้ เชื่อเถอะครับ อุบัติเหตุบนถนนไม่ได้ลดลงแบบวูบวาบอย่างที่คาดหวัง ในเมื่อยังมีรถที่ขาดการดูแลวิ่งกันกระจายอยู่แบบนี้

รถศูนย์ไม่ตรง ล้อไม่ถ่วง โช๊คไม่หนืด สปริงไม่เด้ง ยางไม่มีดอก ผมว่ารถพวกนี้ต่างหากที่เห็นแก่ตัว ไม่เคารพผู้อื่น

"ขัดต่อระเบียบวินัย  ทำให้ถนนไม่ปลอดภัย  ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด แก่คนจำนวนมากที่สุด" ตามที่คุณกล่าวทุกประการ

พร้อมที่จะบินไปประสานงาคนอื่นที่อาจจะขับอยู่ดีๆ ได้ทุกเมื่อ ถึงแม้จะขับแค่ 60 ก็ตามที ในขณะที่รถสภาพสมบูรณ์ จะลดปัญหานี้ได้มากครับ

และหากเรามีเป้าหมายจะ "ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน" อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ซี๊ซั้วจับปรับเอาความสะใจ

เราควรเริ่มจาก "สภาพรถ" ก่อน ค่อยไปถึง "ความเร็ว" ครับ การเริ่มจากความเร็ว มันดูเป็นปิระมิดกลับหัวครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Direct ที่ มีนาคม 21, 2017, 22:19:12
ทำไมผมกลับไม่รู้สึกว่าการขับรถเร็ว เท่ากับเจตนาฆ่าคน

ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ตั้งแต่ผมขับรถมา สถานที่ที่ผมถูกชนมักจะเป็นในเขตชุมชนเมืองเสียมากกว่า (จาก ปสก.)
แบบนี้ผมสามารถพูดได้ไหมครับว่า ความเร็วเกิน 120 ไม่ได้เป็นแค่ปัจจัยเดียวของอุบัติเหตุ

อย่าเอาบรรทัดฐานตัวเองมาตั้งแล้วพลอยคนอื่นเสียครับ
รถเขาเทสชนที่ 60 เกินกว่านี้โลหะไหนก็เละทั้งนั้นแหละครับ จะมาก-น้อย อยู่ที่ว่ามันทำมาจากอะไรเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 22, 2017, 04:22:12
ทำไมผมกลับไม่รู้สึกว่าการขับรถเร็ว เท่ากับเจตนาฆ่าคน

ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ
อ้างถึง
ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ภาครัฐ คำนึงถึงผลประโยขน์ที่จะได้รับ มากกว่า เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ


ตั้งแต่ผมขับรถมา สถานที่ที่ผมถูกชนมักจะเป็นในเขตชุมชนเมืองเสียมากกว่า (จาก ปสก.)
แบบนี้ผมสามารถพูดได้ไหมครับว่า
อ้างถึง
ความเร็วเกิน 120 ไม่ได้เป็นแค่ปัจจัยเดียวของอุบัติเหตุ

ใช่ครับ

อย่าเอาบรรทัดฐานตัวเองมาตั้งแล้วพลอยคนอื่นเสียครับ
รถเขาเทสชนที่ 60 เกินกว่านี้โลหะไหนก็เละทั้งนั้นแหละครับ จะมาก-น้อย อยู่ที่ว่ามันทำมาจากอะไรเท่านั้น

เมื่อขับขี่ที่ความเร็วไม่สูงมาก ช่วงการตัดสินใจ ช่วงการเบรค จะมากขึ้น ครับ

หากเกิดการปะทะจริงๆ ความเร็วที่ไม่สูงมาก + เบรค จะทำให้ ความเสียหาย ต่อ ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน จะน้อยกว่า ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 22, 2017, 15:00:01
ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ
อ้างถึง
ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ภาครัฐ คำนึงถึงผลประโยขน์ที่จะได้รับ มากกว่า เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ

ผมว่าไม่ใช่นะครับ การล็อกจากโรงงานแบบนั้นอาจทำให้อุบัติเหตุมากขึ้นในทางเลนสวนตามต่างจังหวัดครับ

เพราะจังหวะแซงไม่ขาด อาจประสานงากับรถที่สวนมาได้ง่าย เพราะการใช้ความเร็วในการแซงน้อยลงเพียง 5-10 km/h

ต้องใช้ระยะแซงเพิ่มขึ้นมหาศาลครับ กะระยะลำบาก ถ้าทำแบบนั้นจะเข้าข่ายเอาความสะใจมากกว่าเห็นบ้านเมืองปลอดภัยครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มีนาคม 22, 2017, 18:59:13
ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ
อ้างถึง
ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ภาครัฐ คำนึงถึงผลประโยขน์ที่จะได้รับ มากกว่า เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ


หมายถึง ภาครัฐของประเทศอื่นๆ ด้วยใช่มั๊ยครับ
หรือมีประเทศไหน ที่กำหนดให้รถที่จำหน่าย ล็อคความเร็วงที่ 120
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 22, 2017, 23:51:18
ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ
อ้างถึง
ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ภาครัฐ คำนึงถึงผลประโยขน์ที่จะได้รับ มากกว่า เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ

ผมว่าไม่ใช่นะครับ การล็อกจากโรงงานแบบนั้นอาจทำให้อุบัติเหตุมากขึ้นในทางเลนสวนตามต่างจังหวัดครับ

เพราะจังหวะแซงไม่ขาด อาจประสานงากับรถที่สวนมาได้ง่าย เพราะการใช้ความเร็วในการแซงน้อยลงเพียง 5-10 km/h

ต้องใช้ระยะแซงเพิ่มขึ้นมหาศาลครับ กะระยะลำบาก ถ้าทำแบบนั้นจะเข้าข่ายเอาความสะใจมากกว่าเห็นบ้านเมืองปลอดภัยครับ

ผมมองประโยชน์สองต่อครับ (ถ้ามองไกลกว่านี้ หลายต่อครับ)

ต่อที่หนึ่ง ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ต่อที่สอง เนื่องจาก ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

นั่นหมายความว่า ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

ยังมี ต่ออื่น อีกนะครับ  8)

ไม่มีอะไรสะใจนะครับ ::)

ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ
อ้างถึง
ไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทำกล่องออกมา Limit ความเร็วที่ 120 km/h เลยล่ะครับ

ภาครัฐ คำนึงถึงผลประโยขน์ที่จะได้รับ มากกว่า เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ


หมายถึง ภาครัฐของประเทศอื่นๆ ด้วยใช่มั๊ยครับ
หรือมีประเทศไหน ที่กำหนดให้รถที่จำหน่าย ล็อคความเร็วงที่ 120


120 ไม่มั่นใจครับ แต่ จำกัดความเร็ว จากโรงงาน มีแน่ ครับ

ภาครัฐ ของประเทศอื่น เขากำหนด ลิมิตสปีด คนในประเทศเขา ยินดีทำตาม นานๆๆๆ มีไม่ทำตาม

ประเทศไทย ?  ::)

http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited (http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited)


อ้างถึง
โดยผู้ผลิตรถยนต์จากติดตั้งสัญญาณ ปี๊พ เตือนการทำความเร็วของผู้ขับขี่ หากใช้ความเร็วเกิน

ระบบนี้ คิดเห็นอย่างไรครับ

ผมเสนอเพิ่ม ให้มีเสียงเตือนน่ารำคาญดังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อขับเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด

เสียงจะลดลงจนเงียบ เมื่อลดความเร็วมาอยู่ตามที่กฎหมายกำหนด คล้ายเสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย

หากใคร คันไหน แก้ไข ดัดแปลง ปิดระบบ(ไม่ใช่การตั้งค่า)

กรณีเกิดเหตุ โทษหนักกว่า คนที่เปิดระบบ ไม่ได้แก้ไข ไม่ได้ดัดแปลง มากๆๆๆ

ไม่ว่าคู่กรณี ประมาท เลินเล่อ ไม่ระมัดระวัง ไม่ตั้งใจ คนผิดคันผิด คือ ปิดระบบ ดัดแปลง แก้ไข

เพราะถือ เป็นผู้ จงใจ ตั้งใจ เจตนา กระทำผิด ก่อน

เนื่องจาก เห็นผลล่วงหน้าว่า ความปลอดภัยจะลดลง จากการกระทำดังกล่าว ในทุกครั้งที่ขับขี่

บริษัทประกันภัย มีสิทธิ์ ปฏิเสธการรับประกันภัย เพราะถือ ว่า จงใจ เจตนา กระทำผิด ก่อภัย

คิดเห็นอย่างไรครับ  ::)
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 23, 2017, 12:59:38
ผมมองประโยชน์สองต่อครับ (ถ้ามองไกลกว่านี้ หลายต่อครับ)

ต่อที่หนึ่ง ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ต่อที่สอง เนื่องจาก ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

นั่นหมายความว่า ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

ยังมี ต่ออื่น อีกนะครับ  8)

ไม่มีอะไรสะใจนะครับ ::)
ผมว่าถ้าคนจะขับ 80-90 จะมีหรือไม่มีล็อกความเร็วเขาก็จะขับเท่านี้นะครับ อย่างผมงี๊ ทุกวันนี้ขับเป็นเต่า 80 ชิดซ้ายตลอด ทั้งๆ ที่รถไม่ได้ล็อกสปีด

แต่ถ้าอยู่ๆ รถผมล็อกความเร็วที่ 90 ผมก็ขับ 80 อยู่ดีครับ เพราะนั้นประโยชน์หลายต่อนั้นผมว่ามันไม่เกิดขึ้นจริงครับ

ทีนี้ผมขับ 80 รถคันหลังจะแซง แต่เหยียบได้แค่ 120 ในขณะที่รถสวนมาก็ขับ 120 ผมว่ามันอันตรายนะครับ ถ้าผมเห็นจะชลอให้ แต่ถ้าผมไม่เห็นล่ะ?

จริงอยู่ว่า หากเขารู้ว่ารถเขาถูกล็อกความเร็วเขาจะเผื่อระยะมากขึ้นหรือตัดสินใจไม่แซง แต่บางครั้งมันกรณีฉุกเฉินก็อาจทำให้เขาตัดสินใจพุ่งไปและประสานงาได้ครับ

120 ไม่มั่นใจครับ แต่ จำกัดความเร็ว จากโรงงาน มีแน่ ครับ

ภาครัฐ ของประเทศอื่น เขากำหนด ลิมิตสปีด คนในประเทศเขา ยินดีทำตาม นานๆๆๆ มีไม่ทำตาม

ประเทศไทย ?  ::)

http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited (http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited)[/size][/color]

ประเทศยุโรป มีกำหนดสปีดลิมิตครับ แต่ไม่เป็นเต่าเท่าประเทศไทย เช่น

รถธรรมดา ในพื้นที่หนาแน่นมากๆ 50 ถนนทั่วไป 100 ไฮเวย์ 130 ออโตบาห์นไม่กำหนด ซึ่งแนวโน้มสูงกว่าไทยชัดเจน อยู่ในระดับที่คนทั่วไปรับได้

และเขากำหนดมาตรฐานความปลอดภัยอื่นๆ ไว้หมดแล้ว เช่น รถที่ขายต้องมี Safety อะไรบ้าง รถโค้ชต้องจุดศูนย์ถ่วงต่ำแค่ไหน ฯลฯ

ซึ่งมันครอบคลุมคำว่า "ปลอดภัย" ได้ครบถ้วนแล้ว แล้วกฎหมายไทยล่ะ? Vios Altis ไม่มี ABS ลากขายยาวมายันปี 2016

รถเก่าขาดการบำรุงรักษาช่วงล่างและเบรคยังต่อ ตรอ. ได้ แบบนี้ต่อให้ติดระบบล็อกความเร็วทุกคัน ก็ลดอุบัติเหตุได้ไม่คุ้มค่าเสียเวลาของประเทศครับ

ผมเห็นด้วยนะถ้าจะติดระบบเตือนความเร็วให้รำคาญ...

แต่นั่นต้องหลังจากที่รถทุกคันมีเสียงเตือนที่น่ารำคาญยิ่งกว่าเมื่อช่วงล่างหรือเบรคอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ร้องไปเรื่อยๆ จนกว่าคนขับจะไปซ่อมนั่นล่ะครับ ทำอันนี้ให้ได้ค่อยไปเรื่องความเร็ว

อันนี้คือความเห็นผมนะครับ (ย้ำอีกทีว่าทุกวันนี้ถนนโล่งผมขับ 80)

ไม่แน่ว่าถ้าทำเรื่องสภาพรถอันนี้ได้เราอาจจะรู้สึกได้ว่า Speed Limit ที่เหมาะสม อาจจะสูงกว่า 120 ที่เราใช้อยู่ก็เป็นได้ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 23, 2017, 15:41:29
อ้างถึง
ผมมองประโยชน์สองต่อครับ (ถ้ามองไกลกว่านี้ หลายต่อครับ)

ต่อที่หนึ่ง ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ต่อที่สอง เนื่องจาก ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

นั่นหมายความว่า ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

ยังมี ต่ออื่น อีกนะครับ  8)

ไม่มีอะไรสะใจนะครับ ::)
อ้างถึง
ผมว่าถ้าคนจะขับ 80-90 จะมีหรือไม่มีล็อกความเร็วเขาก็จะขับเท่านี้นะครับ อย่างผมงี๊ ทุกวันนี้ขับเป็นเต่า 80 ชิดซ้ายตลอด ทั้งๆ ที่รถไม่ได้ล็อกสปีด

แต่ถ้าอยู่ๆ รถผมล็อกความเร็วที่ 90 ผมก็ขับ 80 อยู่ดีครับ เพราะนั้นประโยชน์หลายต่อนั้นผมว่ามันไม่เกิดขึ้นจริงครับ

ผมไม่รู้คุณJi.Cl.คิดแบบไหนแนวไหนนะครับ ส่วนผมคิดแบบใช้แนวคิดคณิตศาสตร์ประกันภัยครับ

อ้างถึง
ทีนี้ผมขับ 80 รถคันหลังจะแซง แต่เหยียบได้แค่ 120 ในขณะที่รถสวนมาก็ขับ 120 ผมว่ามันอันตรายนะครับ ถ้าผมเห็นจะชลอให้ แต่ถ้าผมไม่เห็นล่ะ?

ทำไมไม่เห็นครับ เพราะ ?

อ้างถึง
จริงอยู่ว่า หากเขารู้ว่ารถเขาถูกล็อกความเร็วเขาจะเผื่อระยะมากขึ้นหรือตัดสินใจไม่แซง แต่บางครั้งมันกรณีฉุกเฉินก็อาจทำให้เขาตัดสินใจพุ่งไปและประสานงาได้ครับ

กรณีฉุกเฉินที่ว่า เช่น ? เพื่อผมหรือท่านอื่นช่วยหาแนวทางแก้ครับ

อ้างถึง
120 ไม่มั่นใจครับ แต่ จำกัดความเร็ว จากโรงงาน มีแน่ ครับ

ภาครัฐ ของประเทศอื่น เขากำหนด ลิมิตสปีด คนในประเทศเขา ยินดีทำตาม นานๆๆๆ มีไม่ทำตาม

ประเทศไทย ?  ::)

http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited (http://www.autodeft.com/deftscoop/scoop-car-speed-limited)[/size][/color]

ประเทศยุโรป มีกำหนดสปีดลิมิตครับ แต่ไม่เป็นเต่าเท่าประเทศไทย เช่น

รถธรรมดา ในพื้นที่หนาแน่นมากๆ 50 ถนนทั่วไป 100 ไฮเวย์ 130 ออโตบาห์นไม่กำหนด ซึ่งแนวโน้มสูงกว่าไทยชัดเจน อยู่ในระดับที่คนทั่วไปรับได้

และเขากำหนดมาตรฐานความปลอดภัยอื่นๆ ไว้หมดแล้ว เช่น รถที่ขายต้องมี Safety อะไรบ้าง รถโค้ชต้องจุดศูนย์ถ่วงต่ำแค่ไหน ฯลฯ

ซึ่งมันครอบคลุมคำว่า "ปลอดภัย" ได้ครบถ้วนแล้ว แล้วกฎหมายไทยล่ะ? Vios Altis ไม่มี ABS ลากขายยาวมายันปี 2016

รถเก่าขาดการบำรุงรักษาช่วงล่างและเบรคยังต่อ ตรอ. ได้ แบบนี้ต่อให้ติดระบบล็อกความเร็วทุกคัน ก็ลดอุบัติเหตุได้ไม่คุ้มค่าเสียเวลาของประเทศครับ

ผมเห็นด้วยนะถ้าจะติดระบบเตือนความเร็วให้รำคาญ...

แต่นั่นต้องหลังจากที่รถทุกคันมีเสียงเตือนที่น่ารำคาญยิ่งกว่าเมื่อช่วงล่างหรือเบรคอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ ร้องไปเรื่อยๆ จนกว่าคนขับจะไปซ่อมนั่นล่ะครับ ทำอันนี้ให้ได้ค่อยไปเรื่องความเร็ว

อันนี้คือความเห็นผมนะครับ (ย้ำอีกทีว่าทุกวันนี้ถนนโล่งผมขับ 80)

อ้างถึง
ไม่แน่ว่าถ้าทำเรื่องสภาพรถอันนี้ได้เราอาจจะรู้สึกได้ว่า Speed Limit ที่เหมาะสม อาจจะสูงกว่า 120 ที่เราใช้อยู่ก็เป็นได้ครับ

สภาพรถ ช่วงล่าง เบรค เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่ก็มีปัจจัยตัวแปรอื่นๆอีกครับ อย่างเช่นหัวข้อหนึ่งที่จะทำสะพานยูเทิร์นนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งวิธีหนึ่งครับ

ทั้งหมด เป็นเรื่องของ ผู้บริโภค ผู้ผลิต ตรอ. หน่วยงาน องค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือ โดยมีภาครัฐควบคุม หรือไม่ครับ

ส่วน ออโตบาห์น กับ ถนนเมืองไทย ลองพิจารณาหลายๆตัวแปรดู ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 23, 2017, 16:49:39
ทำไมไม่เห็นครับ เพราะ ?
อ้าว? รถมาข้างหลัง ผมอาจจะไม่ได้เห็นได้ทุกครั้งนะครับ ประสิทธิภาพคนไม่ใช่ 100% ครับ

ผมไม่รู้คุณJi.Cl.คิดแบบไหนแนวไหนนะครับ ส่วนผมคิดแบบใช้แนวคิดคณิตศาสตร์ประกันภัยครับ
คิดแบบทั่วไปครับ ความเร็วเป็นปัจจัยต้นๆ ของอุบัติเหตุแต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด จริงๆ แล้วไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอุบัติเหตุด้วยซ้ำ
(นี่ก็ข้อมูลจากสถิติกรมทางหลวง)
ผมคิดว่าเรื่อง สภาพรถไม่สมบูรณ์ ตัดหน้ากระชั้นชิด แซงผิดกฎหมาย ไฟสัญญาณไม่เปิด เป็นเรื่องที่ควรแก้ก่อนครับ
แล้วมาปิดจ๊อบด้วยความเร็ว

กรณีฉุกเฉินที่ว่า เช่น ? เพื่อผมหรือท่านอื่นช่วยหาแนวทางแก้ครับ
ปวดท้องหนัก ไปทำงานสาย ญาติป่วย ฯลฯ แล้วมีรถขับ 80 ข้างหน้า ผมว่าโอกาสที่ตัดสินใจแซงมีสูงครับ

สภาพรถ ช่วงล่าง เบรค เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่ก็มีปัจจัยตัวแปรอื่นๆอีกครับ อย่างเช่นหัวข้อหนึ่งที่จะทำสะพานยูเทิร์นนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งวิธีหนึ่งครับ

ทั้งหมด เป็นเรื่องของ ผู้บริโภค ผู้ผลิต ตรอ. หน่วยงาน องค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือ โดยมีภาครัฐควบคุม หรือไม่ครับ

ส่วน ออโตบาห์น กับ ถนนเมืองไทย ลองพิจารณาหลายๆตัวแปรดู ครับ
ผมทราบครับว่าการควบคุมความเร็วมีผลดีเยอะ เพราะผมก็ทำอยู่ทุกวัน ทำไมจะไม่ทราบ และก็ทราบดีว่าไทยไม่มีถนนไหนที่จะให้วิ่งเร็วได้ตามใจแบบออโตบาห์นได้

สิ่งที่ผมจะสื่อก็เหมือนกับที่ผมพูดไปในความเห็นก่อนๆ ครับ การจ้องจะกำหนดความเร็วเป็นหลักแบบที่หลายท่านเสนอนั้น

เหมือนคุณต้องการประหยัดแอร์ แล้วบังคับให้พนักงานเปิดแอร์ 28 องศา แต่ไม่ล้างแอร์ ไม่มีซ่อมบำรุง ไม่เติมน้ำยา

มันก็ประหยัดได้ครับ เปิดแค่ 28 แต่เทียบกับการควบคุมปัจจัยอื่นนั้น... ผมว่ามันมีทางอื่นที่มีผลลัพธ์เท่ากันโดยที่ประชาชนแฮปปี้มากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 23, 2017, 19:26:44
อ้างถึง
ทำไมไม่เห็นครับ เพราะ ?
อ้าว? รถมาข้างหลัง ผมอาจจะไม่ได้เห็นได้ทุกครั้งนะครับ ประสิทธิภาพคนไม่ใช่ 100% ครับ

ครับ สามารถฝึกพัฒนาได้ครับ

อ้างถึง
กรณีฉุกเฉินที่ว่า เช่น ? เพื่อผมหรือท่านอื่นช่วยหาแนวทางแก้ครับ
ปวดท้องหนัก ไปทำงานสาย ญาติป่วย ฯลฯ แล้วมีรถขับ 80 ข้างหน้า ผมว่าโอกาสที่ตัดสินใจแซงมีสูงครับ

ครับ เมื่อมีเหตุจำเป็นต่างๆ แม้ไม่มีช่วงจังหวะแซง ก็จะแซง หรือครับ



ปวดท้องหนัก ขับช้า มีโอกาส เลอะกางเกง เลอะรถ ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(ที่จะไปห้องน้ำ จังหวะชน อาจกลั้นไม่อยู่) เรียกประกันภัย ดำเนินคดี ขึ้นโรง ขึ้นศาล

เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ตัวเอง

ไปทำงานสาย ขับช้า มีโอกาส ลดเงิน ลดชั้น ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(มากกว่าเดิม อาจต้องลางานวันอื่นอีก) เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ตัวเอง

ญาติป่วย ขับช้า มีโอกาส ญาติเสียชีวิตบนรถ ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(โอกาสรอดชีวิตของญาติ) เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ญาติ ตัวเอง


อ้างถึง
ผมไม่รู้คุณJi.Cl.คิดแบบไหนแนวไหนนะครับ ส่วนผมคิดแบบใช้แนวคิดคณิตศาสตร์ประกันภัยครับ
คิดแบบทั่วไปครับ ความเร็วเป็นปัจจัยต้นๆ ของอุบัติเหตุแต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด จริงๆ แล้วไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอุบัติเหตุด้วยซ้ำ
(นี่ก็ข้อมูลจากสถิติกรมทางหลวง)
ผมคิดว่าเรื่อง สภาพรถไม่สมบูรณ์ ตัดหน้ากระชั้นชิด แซงผิดกฎหมาย ไฟสัญญาณไม่เปิด เป็นเรื่องที่ควรแก้ก่อนครับ
แล้วมาปิดจ๊อบด้วยความเร็ว

ขออภัยที่เข้าใจผิดครับ  ::)

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53365.msg925379#msg925379 (http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53365.msg925379#msg925379)



สภาพรถ ช่วงล่าง เบรค เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่ก็มีปัจจัยตัวแปรอื่นๆอีกครับ อย่างเช่นหัวข้อหนึ่งที่จะทำสะพานยูเทิร์นนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งวิธีหนึ่งครับ

ทั้งหมด เป็นเรื่องของ ผู้บริโภค ผู้ผลิต ตรอ. หน่วยงาน องค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือ โดยมีภาครัฐควบคุม หรือไม่ครับ

ส่วน ออโตบาห์น กับ ถนนเมืองไทย ลองพิจารณาหลายๆตัวแปรดู ครับ
ผมทราบครับว่าการควบคุมความเร็วมีผลดีเยอะ เพราะผมก็ทำอยู่ทุกวัน ทำไมจะไม่ทราบ และก็ทราบดีว่าไทยไม่มีถนนไหนที่จะให้วิ่งเร็วได้ตามใจแบบออโตบาห์นได้

สิ่งที่ผมจะสื่อก็เหมือนกับที่ผมพูดไปในความเห็นก่อนๆ ครับ การจ้องจะกำหนดความเร็วเป็นหลักแบบที่หลายท่านเสนอนั้น

เหมือนคุณต้องการประหยัดแอร์ แล้วบังคับให้พนักงานเปิดแอร์ 28 องศา แต่ไม่ล้างแอร์ ไม่มีซ่อมบำรุง ไม่เติมน้ำยา

มันก็ประหยัดได้ครับ เปิดแค่ 28 แต่เทียบกับการควบคุมปัจจัยอื่นนั้น... ผมว่ามันมีทางอื่นที่มีผลลัพธ์เท่ากันโดยที่ประชาชนแฮปปี้มากกว่าครับ

ผมรอดูผลลัพธ์จากทางเลือกอื่นๆแล้วกันครับ  :-*
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 23, 2017, 20:30:14
ครับ สามารถฝึกพัฒนาได้ครับ
ครับ แต่คนไม่ใช่เครื่องจักรครับ จะหวังให้ทุกคนเห็นรถทุกคันที่กำลังจะแซงแบบ 100% เป็นไปไม่ได้ครับ

ครับ เมื่อมีเหตุจำเป็นต่างๆ แม้ไม่มีช่วงจังหวะแซง ก็จะแซง หรือครับ

ปวดท้องหนัก ขับช้า มีโอกาส เลอะกางเกง เลอะรถ ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(ที่จะไปห้องน้ำ จังหวะชน อาจกลั้นไม่อยู่) เรียกประกันภัย ดำเนินคดี ขึ้นโรง ขึ้นศาล

เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ตัวเอง

ไปทำงานสาย ขับช้า มีโอกาส ลดเงิน ลดชั้น ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(มากกว่าเดิม อาจต้องลางานวันอื่นอีก) เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ตัวเอง

ญาติป่วย ขับช้า มีโอกาส ญาติเสียชีวิตบนรถ ขับเร็วมาก มีโอกาส ชน

เสียเวลา(โอกาสรอดชีวิตของญาติ) เสียทรัพย์สิน เสียร่างกาย เสียชีวิต ทั้ง ผู้อื่น ญาติ ตัวเอง

เดี๋ยวนะครับ "ความเป็นไปได้" ต้องพิจารณาคำนี้นะครับ

ถ้าขับช้า เสียโอกาสต่างๆ เกือบ 100% แต่ถ้าขับเร็ว โอกาสชน แค่ % นิดเดียว (และอย่าลืมว่าเร็วที่คุณว่า ไม่ใช่ 150+ นะครับ แค่ 80+ เท่านั้น ตามกฎหมาย)

ไม่ใช่ว่าขับ 80 = ตายเดี่ยว, 80+ = ตายหมู่ ไม่ใช่ครับ

80 = มีโอกาสตายเดียว, 80+ = 99% รอดหมดครับ มีโอกาสตายหมู่แต่นิดเดียว

ซึ่งถ้าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างไปดูใจญาติ ด้วยสัญชาตญาณมนุษย์ ผมว่าโอกาสที่ผู้ขับขี่จะ

จะประเมินสถานการณ์ยอมเอาชีวิตและทรัพย์สินของตัวเข้าแลกความเสี่ยงนั้นครับ เพื่อให้เหตุด่วนนั้นผ่านไปได้

ถ้าคุณไปจับคนที่วิ่ง 85 km/h ในเมืองพัทยา เพราะญาติโรคกำเริบขณะโดยสารแล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล เสร็จแล้วถูกตั้งข้อหา? ความเป็นธรรมอยู่ไหนครับ?

ถ้าคุณล็อกความเร็ว 80 รถทุกคัน แล้วมีคนญาติเกิดโรคกำเริบขณะโดยสาร และเสียก่อนถึงมือแพทย์ 30 วินาที ทั้งๆที่ถ้าได้วิ่ง 90 จะรอด คุณควรตอบคำถามนี้อย่างไรครับ

คุณจะต้องพิจารณามนุษยธรรมและระดับจิตใจคุณทันทีถ้าไปห้ามผู้ที่มีธุระด่วนต่างๆ ให้ขับแค่ 80 โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย

แต่คุณจะไม่ถูกตั้งคำถามดังกล่าว ถ้าคุณไปเข้มงวดมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสาร เข้มงวดความสมบูรณ์ของรถ

เพราะนั่นคือสิ่งที่เจ้าของรถพึงกระทำโดยไม่มีข้อยกเว้น (หรือคุณจะบอกว่า ขับเร็วห้ามยกเว้น แต่รถโทรมอนุโลมได้?)

ขออภัยที่เข้าใจผิดครับ  ::)

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53365.msg925379#msg925379 (http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53365.msg925379#msg925379)
ถ้าไม่ได้ประชดก็ขอโทษด้วยและข้ามความเห็นนี้ไป

แต่ถ้าประชด ผมขอให้คุณกลับไปอ่านคำว่า "ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง" ครับ สถิตินั้นผมเห็นก่อนจะโพสต์ครับ

คุณตัดการขับรถเร็วออกได้ทั้งหมด กับคุณตัด "ห้ามล้อขัดข้อง ยางเสื่อม บังคับเลี้ยวขัดข้อง และอื่นๆ" ออก อยากให้คุณลองเปรียบเทียบดูครับ

ผมรอดูผลลัพธ์จากทางเลือกอื่นๆแล้วกันครับ  :-*
จริงๆ ผมกับคุณเถียงคนละเรื่องเดียวกันนะครับ ผมและคุณต้องการเห็นถนนที่ปลอดภัย

อย่างที่ผมพูดครับ การบังคับความเร็วอย่างเดียว ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ครบวงจรครับ

การบังคับความเร็วอย่างเดียวโดยวินัยข้ออื่นๆ ทั้งการเปลี่ยนเลน ตัดหน้า ให้สัญญาณไฟ รวมถึงสภาพรถ ยังไม่ถูกกวดขัน

สุดท้ายแล้วคุณก็จะยังไม่ได้สังคมที่ท้องถนนปลอดภัยอย่างที่คาดหวังไว้ แต่คุณจะได้แค่สังคมที่มีแต่การจับปรับพวกแว้นกวนเมืองกันเอามันส์

โดยที่ไม่ได้หันมามองเลยว่าในหมู่ผู้ขับขี่ทั่วไปนั้นอุบัติเหตุไม่ได้ลดลงเท่าที่ควรเลย

แต่ถ้านำด้วยสภาพรถ มาตรฐานความปลอดภัยในรถใหม่ สติของผู้ใช้รถ แล้วตามด้วยความเร็วปิดท้าย ผมว่าเราจะไปถึงเป้าหมายความปลอดภัยนั้นได้ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 23, 2017, 21:14:28
อ้างถึง
ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

เข้าใจว่าอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 23, 2017, 21:48:41
อ้างถึง
ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

เข้าใจว่าอย่างไรครับ
ผมเข้าใจว่า เมื่อคันที่ขับเร็วที่สุด ขับได้ 120 รถที่ขับปกติ จะขับช้าลง เป็น 80-90 ครับ

ถ้าเข้าใจผิดรบกวนแก้ไขด้วยครับ

ปล. ถ้าเกี่ยวกับความเห็นผมด้านล่าง เพราะความเร็วสูงสุด 120 ตามกฎหมายนั้นมีแค่กาญจนาภิเษกและมอเตอร์เวย์ที่ใช้ได้

ถ้าจะพูดถึงการใช้งานของคนทั่วไป มันต้องอ้างอิงที่ 80 ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดตามกฎหมายในกรุงเทพ พัทยา และเขตเทศบาลครับ

ถ้าไม่เกี่ยว ไม่ต้องสนใจตรง ปล. ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 23, 2017, 22:42:54
อ้างถึง
ความเร็วสูงสุดของรถทุกคันบนท้องถนน คือ 120

ความเร็วรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เพื่อ ให้มีความเร็วมากพอ ในจังหวะเร่งแซง

เข้าใจว่าอย่างไรครับ
ผมเข้าใจว่า เมื่อคันที่ขับเร็วที่สุด ขับได้ 120 รถที่ขับปกติ จะขับช้าลง เป็น 80-90 ครับ

ถ้าเข้าใจผิดรบกวนแก้ไขด้วยครับ

ปล. ถ้าเกี่ยวกับความเห็นผมด้านล่าง เพราะความเร็วสูงสุด 120 ตามกฎหมายนั้นมีแค่กาญจนาภิเษกและมอเตอร์เวย์ที่ใช้ได้

ถ้าจะพูดถึงการใช้งานของคนทั่วไป มันต้องอ้างอิงที่ 80 ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดตามกฎหมายในกรุงเทพ พัทยา และเขตเทศบาลครับ

ถ้าไม่เกี่ยว ไม่ต้องสนใจตรง ปล. ครับ

ไม่มีอะไรต้องแก้ไขครับ

เพิ่มเติม นั่นหมายถึงในจังหวะเร่งแซง และ/หรือ สถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถทำความเร็วขึ้นไปจนถึง120

ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อเหตุการณ์ต่างๆครับ

อ้างถึง
ถ้าคุณไปจับคนที่วิ่ง 85 km/h ในเมืองพัทยา เพราะญาติโรคกำเริบขณะโดยสารแล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล

เสร็จแล้วถูกตั้งข้อหา ? ความเป็นธรรมอยู่ไหนครับ ?

ความเป็นธรรม อยู่ในคำถามครับ

อ้างถึง
เสร็จแล้วถูกตั้งข้อหา ?

เพราะ ถือว่าเราทำผิดกฎหมายครับ เราต้องรับผิดชอบในส่วนที่เราทำผิดกฎหมายครับ

ญาติถึงมือหมอทัน เราทำตามโทษที่ระบุไว้



ส่วน การตรวจสภาพรถ ก็ใช่ครับ

หรืออย่าง ใบอนุญาตขับขี่ ก็ใช่ครับ

คง มีอีกหลายอย่าง ครับ

ผมและคุณต้องการเห็นถนนที่ปลอดภัย

ตามนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 23, 2017, 22:59:39
ไม่มีอะไรต้องแก้ไขครับ

เพิ่มเติม นั่นหมายถึงในจังหวะเร่งแซง และ/หรือ สถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถทำความเร็วขึ้นไปจนถึง120

ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อเหตุการณ์ต่างๆครับ
ซึ่งข้อนี้ที่ผมไม่เห็นด้วยน่ะครับ จากมุมมองของตัวเองเลยที่ขับ 80 มาปีนึงแล้ว

ไม่จำกัดสปีด ผมขับ 80, จำกัด 120 ผมก็ขับ 80, จำกัด 90 ผมก็ขับ 80, จำกัด 80 ผมก็ขับ 80

เพราะนั้น ผมมองว่า ถ้ารถที่ไม่ต้องการแซง วิ่งด้วยความเร็วเดิม รถที่ต้องการแซง ควรมีความเร็วสูงกว่า 120 เพื่อแซงให้ขาดครับ

(ถ้าเห็นผมชลอให้ครับ แต่บางทีมันก็หลุด) แต่ไปจำกัดความเร็วมันทำให้จังหวะแซงน้อยครับ ถ้าไม่จำกัดเลย อย่างแย่ก็เท่าทุนครับ (เร็วขึ้นทั้งคู่) ไม่มีขาดทุน

เพราะ ถือว่าเราทำผิดกฎหมายครับ เราต้องรับผิดชอบในส่วนที่เราทำผิดกฎหมายครับ

ญาติถึงมือหมอทัน เราทำตามโทษที่ระบุไว้
กฎหมายที่ต้องมีคนตายโดยไม่จำเป็นเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของมัน ผมว่ามันคือกฎหมายบูชายัญนะครับ ไม่เมคเซนส์ที่จะบังคับโดยเคร่งครัด

แล้วกรณีนี้ล่ะครับ

"ถ้าคุณล็อกความเร็ว 80 รถทุกคัน แล้วมีคนญาติเกิดโรคกำเริบขณะโดยสาร และเสียก่อนถึงมือแพทย์ 30 วินาที ทั้งๆที่ถ้าได้วิ่ง 90 จะรอด"
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 23, 2017, 23:38:23
ไม่มีอะไรต้องแก้ไขครับ

เพิ่มเติม นั่นหมายถึงในจังหวะเร่งแซง และ/หรือ สถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถทำความเร็วขึ้นไปจนถึง120

ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อเหตุการณ์ต่างๆครับ
ซึ่งข้อนี้ที่ผมไม่เห็นด้วยน่ะครับ จากมุมมองของตัวเองเลยที่ขับ 80 มาปีนึงแล้ว

ไม่จำกัดสปีด ผมขับ 80, จำกัด 120 ผมก็ขับ 80, จำกัด 90 ผมก็ขับ 80, จำกัด 80 ผมก็ขับ 80

เพราะนั้น ผมมองว่า ถ้ารถที่ไม่ต้องการแซง วิ่งด้วยความเร็วเดิม รถที่ต้องการแซง ควรมีความเร็วสูงกว่า 120 เพื่อแซงให้ขาดครับ

(ถ้าเห็นผมชลอให้ครับ แต่บางทีมันก็หลุด) แต่ไปจำกัดความเร็วมันทำให้จังหวะแซงน้อยครับ ถ้าไม่จำกัดเลย อย่างแย่ก็เท่าทุนครับ (เร็วขึ้นทั้งคู่) ไม่มีขาดทุน

เพราะ ถือว่าเราทำผิดกฎหมายครับ เราต้องรับผิดชอบในส่วนที่เราทำผิดกฎหมายครับ

ญาติถึงมือหมอทัน เราทำตามโทษที่ระบุไว้
กฎหมายที่ต้องมีคนตายโดยไม่จำเป็นเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของมัน ผมว่ามันคือกฎหมายบูชายัญนะครับ ไม่เมคเซนส์ที่จะบังคับโดยเคร่งครัด

แล้วกรณีนี้ล่ะครับ

"ถ้าคุณล็อกความเร็ว 80 รถทุกคัน แล้วมีคนญาติเกิดโรคกำเริบขณะโดยสาร และเสียก่อนถึงมือแพทย์ 30 วินาที ทั้งๆที่ถ้าได้วิ่ง 90 จะรอด"

ความเร็วเท่าไรที่เหมาะสมสำหรับการล็อกความเร็วสำหรับเมืองไทยครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มีนาคม 24, 2017, 14:35:00
ความเร็วเท่าไรที่เหมาะสมสำหรับการล็อกความเร็วสำหรับเมืองไทยครับ
ตัวเลขในใจสำหรับผม กำหนดกฎหมายที่ 100 ในเมือง 140 นอกเมือง

(และจับปรับจริงจังกว่านี้ เพราะจำนวนผู้กระทำผิดจะเป็นส่วนน้อยของสังคม)

และล็อกความเร็ว ECU ที่ 170 ครับ
หัวข้อ: Re: ท่านเห็นว่าควรเพิ่มเติมบทลงโทษเจตนาฆ่าเข้าไปด้วยไหม
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ มีนาคม 24, 2017, 22:28:12
ความเร็วเท่าไรที่เหมาะสมสำหรับการล็อกความเร็วสำหรับเมืองไทยครับ
ตัวเลขในใจสำหรับผม กำหนดกฎหมายที่ 100 ในเมือง 140 นอกเมือง

(และจับปรับจริงจังกว่านี้ เพราะจำนวนผู้กระทำผิดจะเป็นส่วนน้อยของสังคม)

และล็อกความเร็ว ECU ที่ 170 ครับ

ครับ 8)