Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Unaner ที่ มีนาคม 25, 2017, 01:58:07
-
รบกวนสอบถามยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ
กำลังจะออกรถราคา3.5ล้าน Mercedes benzค่ะ วางแผนไว้ใช้5ปีค่ะ
1)กรณีไฟแนนซ์ :เงินดาวน์+ผ่อน5ปี หมดเงินไป 3.75ล้าน และได้รถครอบครอง ,ขายต่อได้
2)บอลลูน: เงินดาวน์+ผ่อน5ปี หมดไป 3ล้าน เหลือก้อนสุดท้าย1.4ล้าน
*ถามความเห็นว่า กรณีคิดไว้ว่าจะเปลี่ยนรถทุก5ปีอยู่แล้ว ควรให้น้ำหนักไปที่ข้อไหนดีคะ เพราะก็ไม่รุ้ว่าขายต่อแล้วราคามากกว่าราคาบอลลูนที่เหลือหรือไม่ เพราะถ้าจะคุ้ม ราคาส่วนต่างต้องมากกว่ามูลค่าก้อนสุดท้ายของบอลลูนอยู่ประมาณ7แสนค่ะ
ขอบคุณค่ะ#c coupeประกอบในค่ะ
-
ถ้าบอลลูนก้อนสุดท้ายคือ 700K ยังไงซื้อมาเป็นชื่อเราแล้วขายต่อก็ได้ราคาดีกว่าอยู่แล้วครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาขายต่อมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยครับ เช่น การดูแลรักษาของรถ สภาพภายใน ภายนอก ราคารถจะดีหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณครับ แต่ส่วนบอลลูนแล้วคืนรถ มันไม่ต้องมานั่งขายเอง เหมือนเช่ารถมาขับ แล้วเอาไปแลกรุ่นใหม่ มันก็ประมาณนั้นหละครับ
-
เคยเห็นว่า MB มีการรับประกันราคาซื้อคืนเพื่อเทินคันใหม่ด้วยครับ แต่มีเงื่อนไขพอควร
ลองเปรียบเทียบดูครับ
ส่วนตัวมองว่าแบบบอลลูน (ข้อ 2) เหมาะกับนิติบุคคลมากเพราะได้ประโยชน์จากการใช้ค่าผ่อนเป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด
ไม่เหมือนผ่อนแบบปกติที่ต้องคิดเป็นค่าเสื่อมและได้ที่ราคารถ 1 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เกินไม่สามารถนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดกำไรสุทธิก่อนคิดภาษีได้
แต่สำหรับบุคคลธรรมดานี่ แบบบอลลูนดอกเบี้ยมันโหดร้ายมากครับ คงเลือกข้อ 1 ครับ
-
รู้จักเพื่อนบางคนเอาเบนซ์ผ่อนบอลลูนในนามบริษัทตัวเอง
-
นิติ ให้น้ำหนักที่ ข้อ 2
ธรรมดา ให้น้ำหนักที่ ข้อ 1 ครับ
ส่วนต่างต้องมากกว่ามูลค่าก้อนสุดท้ายของบอลลูนอยู่ประมาณ7แสน
เพื่อเอาไปเป็นเงินดาวน์25%ในคันถัดไป
http://www.rd.go.th/publish/3618.0.html (http://www.rd.go.th/publish/3618.0.html)
ลองคิด แบบเต็มอัตรา20% ตลอด5ปี จาก3.5ล้าน จะเหลือประมาณ1.1ล้าน (ความเป็นจริงไม่ใช่)
แล้วบริษัทรถที่บอกว่า ซื้อรถคืนในปีแรก
ต้องหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาที่25%-30% คือ อะไร ? หลอกผู้บริโภค ? (เพียงแค่ลงนาม แต่ยังไม่ได้ขับรถออกมาก็ตาม)
แล้วรถที่ผลิตออกมากกว่า1ปี แล้วนำมาขาย บริษัทรถได้ลดราคาขายเต็มอัตรา20%ทุกปี เหมือนตอนซื้อคืน หรือไม่ ?
-
ได้ความรู้
-
1. การเช่าซื้อแบบปกติ 2. การเช่าซื้อแบบบอลลูน
หลักการก็เหมือนๆกันแหละครับ แต่บอลลูน จะผ่อนต่อเดือนเบากว่า เพราะมีก้อนบอลลูนปิดท้ายตอนหลัง และทั้ง 2 แบบ ถ้าผ่อนจนจบสัญญา กรรมสิทธิ์รถต้องตกเป็นของผู้เช่าซื้อครับ
แนะนำว่าก่อนตัดสินใจ ให้อ่านดูก่อนครับว่า พอผ่อนไปถึงก้อนบอลลูนแล้ว Benz Leasing จะมี option อะไรมาให้บ้าง แล้วลองพิจารณาตรงนั้นอีกทีนึงครับ ว่าตรงไหนที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด
ปล. การผ่อนเช่าซื้อแบบปกติ ดอกเบี้ยจ่าย รวมแล้วจะถูกกว่า บอลลูน นะครับ (กรณีที่ผ่อนจนจบสัญญาด้วยกันทั้งคู่)
-
ผ่อนไฟแนนซ์ปกติเจ็บตัวน้อยสุดครับ
หรือถ้าไม่คิดมาก ไม่อยากจ่ายก้อนใหญ่ ผ่อนต่อเดือนไม่หนัก และกะจะเปลี่ยนรถใหม่ค่ายเดิมอยู่แล้วก็ (2) บอลลูน ครับ
แถมไฟแนนซ์ผ่านง่ายมาก เห็นแม่ค้าแถวบ้านก็ผ่อนบอลลูนได้สบายๆ