Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Mike ที่ มีนาคม 31, 2017, 11:43:47
-
ความเข้าใจของผมตอนนี้คือ ระบบความคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง มีไว้เพื่อควบคุมแรงบิด ของล้อในโค้ง-นอกโค้ง เนื่องจากขณะเข้าโค้ง ล้อในโค้ง-นอกโค้ง จะหมุนไม่เท่ากัน
แต่สงสัยเรื่องการวิธีการทำงานของระบบนี้ในแต่ละยี่ห้อ ว่ามีวิธีการทำงานเหมือนแหรือแตกต่างกันอย่างไร
Ford เรียก Torque Vectoring Control
ในตลาดประเทศไทย มีระบบนี้ครั้งแรก ตั้ง 2012 ใน Focus 2.0 GDi หลักการทำงานแบบคร่าวๆ เป็นแบบนี้ https://www.ford.co.th/engineering/torque-vectoring-control/
เซนเซอร์ ตรวจจับถนน 100 ครั้ง/วินาที
โดยปกติแล้วธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงจะกระจายการยึดเกาะพื้นถนนให้ล้อที่อยู่ด้านนอกวงเลี้ยวมากกว่าล้อด้านในวงเลี้ยว ในขณะที่กำลังเข้าโค้ง
จึงทำให้การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจะส่งผลให้รถเสียการทรงตัวโดยเฉพาะในรถที่ขับเคลื่อนล้อหน้าและทำให้รถไถลไปด้านนอกของโค้ง แทนที่จะไปในทิศทางที่คุณกำหนด
ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง จะใช้การควบคุมเบรกเพื่อเลียนแบบแรงบิดที่แตกต่างกันโดยการควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งที่จะป้องกันล้อหมุนฟรีที่ทำให้รถเสียการทรงตัว
ระบบจะทำการเบรกล้อหน้าที่อยู่ด้านในวงเลี้ยวของรถอย่างเบาๆ ในทันทีที่รถเริ่มเสียการทรงตัวขณะเข้าโค้งและเพิ่มอัตราเร่งให้ล้อที่อยู่ด้านนอกของวงเลี้ยวซึ่งเกาะถนนได้มากกว่าเพื่อรักษาการทรงตัวของรถขณะเข้าโค้ง
Mazda เรียก G-Vectoring Control (GVC)
ในตลาดประเทศไทย มีระบบนี้ครั้งแรก ใน Mazda 3 MC 2017
จากคลิปแนะนำการทำงาน Mazda อธิบายในเชิงการถ่ายน้ำหนักของตัวรถ โดยคำนวณจากองศาพวงมาลัย, ความเร็วของรถ, การกดคันเร่ง จากนั้นระบบจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์
ถอดคำอธิบายในคลิป
-เข้าโค้ง ลดแรงบิดเครื่องยนต์ ทำให้น้ำหนักตัวรถถ่ายมาล้อหน้า มีแรงยึดเกาะมากขึ้น เข้าโค้งแม่นยำ สมดุล
-ระหว่างโค้ง ควบคุมการถ่ายน้ำหนักของตัวรถ ทั้งหน้า-หลัง
-ออกโค้ง ปรับแรงบิดมาเท่าปกติ ทำให้น้ำหนักถ่ายไปล้อหลัง รถวิ่งออกจากโค้งแบบมีเสถียรภาพ
https://www.youtube.com/watch?v=WgKVPBx6RvE
Subaru เรียก ACTIVE TORQUE VECTORING
ในตลาดประเทศไทย มีระบบนี้ครั้งแรก ใน Subaru XV 2012 รุ่น 1.35 ล้าน
หลักการทำงานคล้าย Ford คือใช้เบรคช่วย และกระจายแรงบิดล้อในโค้งให้น้อย ล้อนอกโค้งให้มาก ซึ่งระบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมการทรงตัว
Cornering performance and steering response are both improved with Active Torque Vectoring, which applies the brakes and distributes less torque to the inside wheels, and provides more torque to the outside wheels. Active Torque Vectoring operating as part of the Vehicle Dynamics Control System helps to improve overall turning and handling performance.
http://sgws.subaru.no/tec_vdc.html
คำถาม
1.Subaru เป็น AWD แสดงว่าระบบ ACTIVE TORQUE VECTORING นี่ทำเฉพาะล้อคู่หน้า ?
2.Mazda 3 ระหว่างโค้ง ควบคุมการถ่ายน้ำมันของตัวรถ ทั้งหน้า-หลัง ทำยังไง? หรือจริงๆ หมายถึง กระจายแรงบิดให้พอดี แล้วน้ำหนักตัวรถ จะสมดุลเอง ?
3.Mazda ใช้วิธีอะไรควบคุมแรงบิด ฟังคลิปแล้วงง เหมือนจะควบคุมแรงบิดตั้งแต่ ออกจากเครื่องยนต์ ไม่ใช่ เบรคที่ล้อเพื่อลด TORQUE เหมือน Ford & Subaru
4.รถไม่พรีเมี่ยม รุ่นจำหน่ายจริงในประเทศ นอกจาก 3 คันนี้แล้ว มีรุ่นอื่นอีกไหมครับ
-
ผมเคยดู initial D ตอนนึงที่ขับ Impreza GC แข่งลงเขากับ AE86
คนขับ GC ใช้วิธีขับให้ล้อรถข้างนึงวิ่งเหยียบฝาท่อที่ปิดรางรางระบายน้ำถนนด้านในโค้งเพื่อให้ล้อวงในวิ่งช้ากว่าวงนอก ทำให้เข้าโค้งได้เร็วกว่าและแซงในโค้งไปได้
Torque Vectoring ของ Subaru นั้นก็คงทำงานแบบเดียวกับในการ์ตูนคือใช้เบรคจับล้อวงในโค้งทั้งล้อหน้าและล้อหลังให้หมุนช้ากว่าล้อวงนอกเพื่อให้รถดึงเข้าในโค้งมากขึ้น
แต่คงไม่จับล้อแค่หน้าอย่างเดียวเพราะมันอาจจะทำให้รถเสียหลักได้ครับ
ในคลิปที่ผมยกมาเป็นของ Audi แต่น่าจะเทียบกันได้เพราะระบบขับเคลื่อนเหมือนกัน คือเป็น Fulltime AWD กระจายแรงบิดลงทุกล้อเท่าๆกันเหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=cFBMiwWaks8
ปล.แต่ XV ที่ขายในบ้านเราคิดว่าไม่น่ามีระบบ Active Torque vectoring ติดมาให้นะครับ
-
เท่าที่อ่านของมาสด้า ก็เหมือนกับรถเหยียบเบรคให้คนขับเพื่อถ่ายแรงไปด้านหน้าถูกไหมครับ
ถ้าอย่างงั้นถ้าเราเหยียบเบรคก่อนเข้าโค้งก็ไม่ต่างกันรึเปล่า แต่อาจจะไม่ได้สเถียรเท่าที่กล่องควบคุมทำ
-
1. Torque Vectoring Control ของ Ford
และ Active Torque Vectoring ของ Subaru
ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่เรียกชื่อต่างกันเล็กน้อย
จากlink subaru ที่ยกตัวอย่างมา เหมือนว่าใส่แรงเบรกไปทั้งสองล้อที่อยู่ด้านใน
(แต่อาจแรงแตกต่างกัน)
http://sgws.subaru.no/tec_vdc.html
"......which applies the brakes and distributes less torque to the inside wheels, and provides more torque ...."
2. ส่วนG-Vectoring Control (GVC) ของ Mazda นั้น
ใช้คนละกลไกกัน โดยMazda พัฒนามาจากเทคนิคของนักขับรถแข่งบางคน
ที่อาศัยการเข้าโค้งด้วยเทคนิคนี้ อ่านรายละเอียดจากนี่ครับ
http://www.roadandtrack.com/new-cars/news/a29737/how-mazda-g-vectoring-works/
-
เท่าที่อ่านของมาสด้า ก็เหมือนกับรถเหยียบเบรคให้คนขับเพื่อถ่ายแรงไปด้านหน้าถูกไหมครับ
ถ้าอย่างงั้นถ้าเราเหยียบเบรคก่อนเข้าโค้งก็ไม่ต่างกันรึเปล่า แต่อาจจะไม่ได้สเถียรเท่าที่กล่องควบคุมทำ
เป็นการเบรคล้อวงในขณะเข้าโค้ง การเหยียบเบรคเองคือคุมน้ำหนักล้อหน้าและล้อหลัง ไม่ใช่ซ้ายและขวา การใช้การกระจายน้ำหนักทั้ง 2 แบบต่างกันสิ้นเชิง ลองศึกษาทำความเข้าใจให้มากกว่านี้ครับ
ผมยังไม่แน่ใจอยู่หนึ่งเรื่องคือระบบ vectoring มันทำให้การแก้อาการของรถด้วยตัวเองเพี้ยนไปรึป่าวหรือมันอาจลดความเร็วลงแยอะจนเสียการยากขึ้นจนความเร็วที่เราตั้งใจใส่โค้งมาหายไปพอสมควร มันอาจเป็นระบบ 2 คมแบบ abs ที่ทำให้เบรคยาวขึ้น แต่คุมรถได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
-
ผมเคยดู initial D ตอนนึงที่ขับ Impreza GC แข่งลงเขากับ AE86
คนขับ GC ใช้วิธีขับให้ล้อรถข้างนึงวิ่งเหยียบฝาท่อที่ปิดรางรางระบายน้ำถนนด้านในโค้งเพื่อให้ล้อวงในวิ่งช้ากว่าวงนอก ทำให้เข้าโค้งได้เร็วกว่าและแซงในโค้งไปได้
Torque Vectoring ของ Subaru นั้นก็คงทำงานแบบเดียวกับในการ์ตูนคือใช้เบรคจับล้อวงในโค้งทั้งล้อหน้าและล้อหลังให้หมุนช้ากว่าล้อวงนอกเพื่อให้รถดึงเข้าในโค้งมากขึ้น
แต่คงไม่จับล้อแค่หน้าอย่างเดียวเพราะมันอาจจะทำให้รถเสียหลักได้ครับ
ในคลิปที่ผมยกมาเป็นของ Audi แต่น่าจะเทียบกันได้เพราะระบบขับเคลื่อนเหมือนกัน คือเป็น Fulltime AWD กระจายแรงบิดลงทุกล้อเท่าๆกันเหมือนกัน
https://www.youtube.com/watch?v=cFBMiwWaks8
ปล.แต่ XV ที่ขายในบ้านเราคิดว่าไม่น่ามีระบบ Active Torque vectoring ติดมาให้นะครับ
อ้าว ซะงั้น เวลาอ่าน Spec sheet ที่ Show room เวอร์ชั่น Eng มีแหะ แต่เวอร์ชั่นไทย ไม่มี
ว่าแต่ในลิงค์ HLM ตอนเปิดตัว MC คุณ Moo ใส่มา ผมไม่แน่ใจว่าเอามาจากเอกสารสำหรับ Press หรือเปล่า
อย่างที่ทราบกัน Spec Subaru car ดูไม่ได้ในเวป 555
-
1. Torque Vectoring Control ของ Ford
และ Active Torque Vectoring ของ Subaru
ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่เรียกชื่อต่างกันเล็กน้อย
จากlink subaru ที่ยกตัวอย่างมา เหมือนว่าใส่แรงเบรกไปทั้งสองล้อที่อยู่ด้านใน
(แต่อาจแรงแตกต่างกัน)
http://sgws.subaru.no/tec_vdc.html
"......which applies the brakes and distributes less torque to the inside wheels, and provides more torque ...."
2. ส่วนG-Vectoring Control (GVC) ของ Mazda นั้น
ใช้คนละกลไกกัน โดยMazda พัฒนามาจากเทคนิคของนักขับรถแข่งบางคน
ที่อาศัยการเข้าโค้งด้วยเทคนิคนี้ อ่านรายละเอียดจากนี่ครับ
http://www.roadandtrack.com/new-cars/news/a29737/how-mazda-g-vectoring-works/
"......which applies the brakes and distributes less torque to the inside wheels, and provides more torque ...."
โอ้ว จริงแหะ ทำทั้ง 4 ล้อ (ทีละ 2 ล้อด้านใน) ผมอ่านไม่ดี
ส่วน Mazda นี่ลดแรงบิด จาก out put เครื่องยนต์ จริงๆด้วย โดยหน่วงเวลาการจุดระเบิด ในห้องเผาไหม้ฉีดตรง ผมเข้าใจถูกปะ?
Turn the steering wheel even the smallest amount and the system goes to work, reacting in less than 50 milliseconds, minutely reducing engine torque by retarding spark timing. The result is an increased vertical load on the front tires.
-
ตอบข้อ 4 แล้วกันครับ
Toyota Celica GT-Four (4WD) เป็นระดับตำนานเลยทีเดียว
(https://www.mx7.com/i/b1f/3ZmuLy.jpg)
-
ขอเริ่มจาก Ford ก่อนละกัน
1.) Torque Vectoring Control ของ Ford
เป็นReal Active Torque Vectoring ของแท้ๆ (Motortrend กล่าวไว้ เเต่จำคลิปม่ายได้) เป็นอุปกรณ์ที่ตั้งอยู่บนชุดคลัทช์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ทั้งด้านซ้ายและขวาของชุดขับเคลื่อนด้านหลัง
ชุดคลัทช์อันนี้มีหน้าที่2 อย่าง
1.จัดการแรงบิดแยกจากด้านหน้าไปด้านหลัง
2.จัดการแรงบิดด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งระหว่างเพลาล้อหลังเพื่อให้มีผลต่อการจัดการและการควบคุมรถ อย่างเทพในขณะเข้าโค้งหักศอก นึกถึงเคน บล็อต ใน จิมคาน่าเลย
ต่อๆๆ ไอ้ระบบนี้มันจะวิเคราะห์สภาพถนนและสถานการณ์การขับขี่ของคนนั้นๆ เพื่อกะจายแรงบิด และยังจะเช็คเงื่อนไขประมาณ100 ครั้งใน 1 วินาที ที่ท่านก่อนหน้านี้อธิบายไว้ (จริงๆรวมทั้งมุมพวงมาลัย,ความเร็ว,การเร่งหนีศุนย์กลาง)
โดยใช้เซ็นเซอร์จับเอา ทำให้แรงบิดทั้งหมด มันสามารถกระจายไปยังเพลาล้อหลังและ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วส่งต่อไปยังล้อแต่ละล้อ
นี่ถือว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง. แบ่งทุกคนตามสถานการจริง. ไมมีทิ้ง. กำลังเครื่องลงล้อครบ พี่เคน บล็อค โม้ไว้
อย่างไรก็ตามนะ ระบบเนี้ยะจะเริ่มทำงานเมื่อรถเร่งผ่านในลักษณะเมื่อเข้ามุมของโค้งและทำงานโดยใช้เบรคบางส่วนให้กับล้อหน้า - ด้านใน
ดังนั้นแรงบิดของเครื่องยนต์จะถูกส่งไปยังล้อหลังด้านนอกมากขึ้นซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เกาะถนนได้มากขึ้น
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แรงบิดไม่สูญหาย เเละให้ให้ผู้ขับขี่ เช่นนักเเข้งเทพๆ สามารถเข้ามุมได้อย่างปลอดภัย โดยล้อไม่ฟี แถมชู้ตพุ่งออกจากมุมไปได้ย่างราบรื่นและด้วยความเร็วสูง ผมละชอบมากการพุ่งออกจากมุมเนี่ยะ 5555
อีกอย่างที่เว่อมากคือระบบสามารถ"""""ทำนาย"""""" เหมือนวันพืชมงคลเลยแหะ เมื่อล้อกำลังหมุนและจะใช้เบรคกับล้อนั้นจนกว่าความเร็วจะเหมือนกับล้อทุกล้อ โอ้โหเป็นไปได้ แหะ คำณวนทันได้ยังไงไม่รู้
แต่ว่าเราก็ยังเหยียบคันเร่งจม ต่อให้เราไปเจอถนนเปียกหรือเจอมุมสนามที่หักศอกไรงี้
2.) G Vectoring Control
ผมว่ามาสด้าเป็นที่รู้จักกันมายาวนานในการสร้างรถที่ดีที่สุดในการขับขี่แบบ ซูมๆๆ ไม่รู้ตอนนี้ ยังเรียกอะไรนะ เเต่เคยขับ Mazda3 กับ Mazda CX-5 มันขับดีจริงๆ ขนาดยังไม่มี G Vectoring
งั้นเข้าเรื่องๆ G Vectoring เป็น Software ครับ มีหน้าที่จัดการและปรับปรุงความสะดวกสบายในการขับขี่โดยรวม โดยมีหลักการ ค่อนข้างง่ายๆนะว่า เป็นระบบเพียงพยายามที่จะกำหนดให้ล้อหน้ารับภาระไปขณะที่เราเข้าใกล้มุม โดยทำการลดความเร็วลงเล็กน้อย ทำให้ยางล้อไม่ไหลลื่น เเละเกาะถนนได้ง่ายขึ้น และแน่นอนช่วยให้รถสามารถชู้ตผ่านมุมได้ง่ายขึ้น เเละเมื่อเราออกจากมุมนำหนักจะมาลงที่เพลาล้อหลังตอนนี้รถก็เสถียรเเล้ว จะว่าไปแล้ว GVC มันก็เหมือนคนขับเช่นเราๆ ที่มี Skill หน่อย รู้ว่ารถขับหน้า เข้าโค้งควรเข้าแบบไหน ผ่อนเเรงตอนไหน ชู้ตตอนไหน ดังนั้นไม่มี หรือมีไว้ ผมว่าไม่ต่างกัน สนุกได้ทั้งหมดแหละครับ เเต่คนที่ยังไม่มมี Skill มากนักจะรู้สึกสนุก เหมือนอารมนั่งโกคาร์ดก เเต่คงไม่ขนาดฟอร์ด หรือซุบารุ
-
อ่านได้ 7 บรรทัดแล้ว
เดินออกไปอย่างเงียบๆ 555
-
สมองผมไม่รับมันเข้ามาเลยจริมๆ
-
http://www.headlightmag.com/news-2016-6-16-mazda-g-vectoring-control/
น่าจะประมาณนี้นะครับเท่าที่อ่านดูไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่นๆครับ ที่จะใช้เบรค ซึ่งก็ตรงกับที่ผมไปร่วมงาน mazda sport day ที่สนามพีระ มา ข้อมูลเป็นแบบเดียวกันของ mazda ไม่ได้ใช้เบรคช่วย แต่ใช้การควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ ครับ ซึ่งวันที่ผมไปงาน mazda sport day มามีโอกาสได้ทดสอบบนสนามกับ คุณ อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี ซึ่งผมได้นั่ง Hot lab กับพี่เค้าด้วย แต่ทดลงบนสนาม Go kart นะครับระยะทางทำความเร็วไม่ได้มากแต่ที่ผมเห็นคือพี่เค้าแทบไม่ถอนคันเร่งเลย เหมือนจะเหยียบมิดเกือบตลอดเลยด้วยซ้ำ พี่เค้าบอกว่ารถมันจัดการของมันเองครับ คือเวลาพี่เค้าขับเค้าจะใช้ 2 เท้า ซ้ายเบรค ขวาเร่งอย่างเดียว รถมันก็เข้าโค้งไปของมันได้เสียงยางเสียดกับพื้นสนามดังเป็นช่วงๆ รถควบอาการได้ดีเลยครับ สนุกมากๆ ผมได้นั่งทั้ง mazda 3 และ mazda2 ทำได้ดีทั้งคู่ครับ แอบบชอบ mazda3 รู้สึกเหมือนตัว 2017 ทำช่วงล่างมาออกนุ่มขึ้นแต่ไม่ย้วยนะครับยังหนึบเหมือนเดิมนั่งแล้วชอบมากเลยครับ
-
ขอเริ่มจาก Ford ก่อนละกัน
1.) Torque Vectoring Control ของ Ford
เป็นReal Active Torque Vectoring ของแท้ๆ (Motortrend กล่าวไว้ เเต่จำคลิปม่ายได้) เป็นอุปกรณ์ที่ตั้งอยู่บนชุดคลัทช์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ทั้งด้านซ้ายและขวาของชุดขับเคลื่อนด้านหลัง
ชุดคลัทช์อันนี้มีหน้าที่2 อย่าง
1.จัดการแรงบิดแยกจากด้านหน้าไปด้านหลัง
2.จัดการแรงบิดด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งระหว่างเพลาล้อหลังเพื่อให้มีผลต่อการจัดการและการควบคุมรถ อย่างเทพในขณะเข้าโค้งหักศอก นึกถึงเคน บล็อต ใน จิมคาน่าเลย
ต่อๆๆ ไอ้ระบบนี้มันจะวิเคราะห์สภาพถนนและสถานการณ์การขับขี่ของคนนั้นๆ เพื่อกะจายแรงบิด และยังจะเช็คเงื่อนไขประมาณ100 ครั้งใน 1 วินาที ที่ท่านก่อนหน้านี้อธิบายไว้ (จริงๆรวมทั้งมุมพวงมาลัย,ความเร็ว,การเร่งหนีศุนย์กลาง)
โดยใช้เซ็นเซอร์จับเอา ทำให้แรงบิดทั้งหมด มันสามารถกระจายไปยังเพลาล้อหลังและ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วส่งต่อไปยังล้อแต่ละล้อ
นี่ถือว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง. แบ่งทุกคนตามสถานการจริง. ไมมีทิ้ง. กำลังเครื่องลงล้อครบ พี่เคน บล็อค โม้ไว้
อย่างไรก็ตามนะ ระบบเนี้ยะจะเริ่มทำงานเมื่อรถเร่งผ่านในลักษณะเมื่อเข้ามุมของโค้งและทำงานโดยใช้เบรคบางส่วนให้กับล้อหน้า - ด้านใน
ดังนั้นแรงบิดของเครื่องยนต์จะถูกส่งไปยังล้อหลังด้านนอกมากขึ้นซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เกาะถนนได้มากขึ้น
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แรงบิดไม่สูญหาย เเละให้ให้ผู้ขับขี่ เช่นนักเเข้งเทพๆ สามารถเข้ามุมได้อย่างปลอดภัย โดยล้อไม่ฟี แถมชู้ตพุ่งออกจากมุมไปได้ย่างราบรื่นและด้วยความเร็วสูง ผมละชอบมากการพุ่งออกจากมุมเนี่ยะ 5555
อีกอย่างที่เว่อมากคือระบบสามารถ"""""ทำนาย"""""" เหมือนวันพืชมงคลเลยแหะ เมื่อล้อกำลังหมุนและจะใช้เบรคกับล้อนั้นจนกว่าความเร็วจะเหมือนกับล้อทุกล้อ โอ้โหเป็นไปได้ แหะ คำณวนทันได้ยังไงไม่รู้
แต่ว่าเราก็ยังเหยียบคันเร่งจม ต่อให้เราไปเจอถนนเปียกหรือเจอมุมสนามที่หักศอกไรงี้
2.) G Vectoring Control
ผมว่ามาสด้าเป็นที่รู้จักกันมายาวนานในการสร้างรถที่ดีที่สุดในการขับขี่แบบ ซูมๆๆ ไม่รู้ตอนนี้ ยังเรียกอะไรนะ เเต่เคยขับ Mazda3 กับ Mazda CX-5 มันขับดีจริงๆ ขนาดยังไม่มี G Vectoring
งั้นเข้าเรื่องๆ G Vectoring เป็น Software ครับ มีหน้าที่จัดการและปรับปรุงความสะดวกสบายในการขับขี่โดยรวม โดยมีหลักการ ค่อนข้างง่ายๆนะว่า เป็นระบบเพียงพยายามที่จะกำหนดให้ล้อหน้ารับภาระไปขณะที่เราเข้าใกล้มุม โดยทำการลดความเร็วลงเล็กน้อย ทำให้ยางล้อไม่ไหลลื่น เเละเกาะถนนได้ง่ายขึ้น และแน่นอนช่วยให้รถสามารถชู้ตผ่านมุมได้ง่ายขึ้น เเละเมื่อเราออกจากมุมนำหนักจะมาลงที่เพลาล้อหลังตอนนี้รถก็เสถียรเเล้ว จะว่าไปแล้ว GVC มันก็เหมือนคนขับเช่นเราๆ ที่มี Skill หน่อย รู้ว่ารถขับหน้า เข้าโค้งควรเข้าแบบไหน ผ่อนเเรงตอนไหน ชู้ตตอนไหน ดังนั้นไม่มี หรือมีไว้ ผมว่าไม่ต่างกัน สนุกได้ทั้งหมดแหละครับ เเต่คนที่ยังไม่มมี Skill มากนักจะรู้สึกสนุก เหมือนอารมนั่งโกคาร์ดก เเต่คงไม่ขนาดฟอร์ด หรือซุบารุ
ที่คุณ noncyclopedia อธิบายได้ดี อ่านเพลินเลย เป็น dynamic torque vectoring ที่advance กว่าที่อยู่ในโฟกัสmk3 ที่ผมก็ใช้อยุ่. ผมเข้าใจว่ามันใช้คุ่กับระบบawd ของฟอร์ดโฟกัส. rs ตัวแรงครับ
ขอบคุณที่สรรหาให้อ่าน
-
ข้อ 4 Nissan L33 ครับ
เจ้านี้เรียก Active Trace Control แต่ดูท่าทางไม่เน้นทำความเร็วนะครับ เหมือนจะเน้นให้เข้าโค้งสบายๆ มากกว่า
คนชอบขับรถกอดโค้งแรงๆบนดอย จะออกแนวเหวอๆ มากกว่า
-
สงสัยระบบ CBC ของ MG มันทำงานคล้ายๆแบบนี้หรือเปล่าครับ หรือเป็นคนละระบบกัน
-
??? ??? ??? ??? ???