Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ariazero ที่ มีนาคม 31, 2017, 22:34:20
-
https://youtu.be/t-NmJQbMEIg
Diamond Everywhere ::)
เพิ่ม practicality demonstration
https://youtu.be/H58AgPk38jo
-
น้อยคันนะเนี่ยที่สุดท้ายจะสรุประดับ Consider บางรุ่นวิจารณ์เพียบแต่ยังให้คะแนนสรุปสูงกว่านี้อีก หรือเพราะรุ่นเกียร์ธรรมดา ไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ตกแต่งน้อยรึยังไง
-
น้อยคันนะเนี่ยที่สุดท้ายจะสรุประดับ Consider บางรุ่นวิจารณ์เพียบแต่ยังให้คะแนนสรุปสูงกว่านี้อีก หรือเพราะรุ่นเกียร์ธรรมดา ไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ตกแต่งน้อยรึยังไง
matt สรุปไว้ตอนท้ายว่า ในรถราคาที่เท่ากัน คันอื่นมันให้ภายในที่กว้างกว่าแคบน้อยกว่าคันนี้
จากที่เห็นกระจกตอนหลังมันดูอึดอัดใช่ย่อย
-
เหมือนที่หลายๆค่ายบอกเลยครับเรื่องที่นั่งแถวหลัง กระจกที่เล็กนอกจากทำให้คนนั่งหลังอึดอัดแล้วยังทำให้การมองเห็นขณะขับขี่(เมื่อมองข้ามไหล่)เป็นปัญหาอีกด้วย ขนาดพื้นที่ด้านหลังที่ไม่ได้ดีเท่าไรแต่ไม่ถึงกับแย่
ข้อดีคือออกแบบภายนอกภายในมาได้ดี และการขับขี่ที่ดีเลยได้คะแนนไปเยอะในหลายๆค่าย (แต่เห็นเทสขับ 4 กัน ตัวขับ 2 จะโอเคมั้ยผมยังไม่รู้)
ใครเน้นพื้นที่การใช้งานในห้องโดยสารเป็นหลักก็น่าจะยังคงมอง HR-V เป็นตัวเลือกหลักอยู่ดีครับ แต่ CX-3 นี่สิ น่าคิด
-
ถ้าจะเปิดราคามาแพงกว่า HR-V (1.8 ) และ CX-3 (2.0) สำหรับเมืองไทยเครื่อง 6AR-FSE (2.0) ดูจะสมเหตสมผลที่สุด
-
รถเปิดตัวยุโรปเลยเน้นพวกประหยัด ปล่อยก๊าซน้อยๆ แต่กลายเป็นว่าเครื่องยนต์ไม่สมน้ำสมเนื้อกะตัวรถที่อุตส่าห์เซ็ตช่วงล่างมาซะดี จับคู่กับเกียร์ cvt ที่จืดๆอีก
1.2 turbo ประหยัดประมาณ 16 + โลลิตร(เทียบกะค่ายอื่นตัวเลขความประหยัดไม่เท่าไหร่แต่ทำให้รถอืดลงเยอะ)
ไฮบริด ประหยัดได้ 20+โลลิตร อัตราเร่งประมาณ 11 +วิ ก็ยังไม่จี๊ด แต่นิยมกว่า ราคาค่าตัวก็พุ่งไปสูง
ของ USA เป็น 2.0 นี่ไม่รู้เป็นไง อาจเพิ่มความจัดจ้านขึ้นมาบ้างแต่ก็แลกกะค่าน้ำมัน
ปล.เห็นเค้าชอบเทียบกับนิสสัน qashqai แล้วแพ้ตลอด
แต่นิสสันนิยมมาก ทั้งกว้างทั้งอเนกประสงค์พอๆกะ hr-v เลยแต่ช่วงล่างดีกว่า เครื่องดีเซลใหม่ประหยัดถึง 25 โลลิตร แต่เมืองไทยไม่คิดจะเอาเข้ามา (ขนาดเบนซิน 1.6 ก็ยังประหยัดนะ)
https://youtu.be/v7Pzb1HM2JQ
-
ผมว่า HRV กับ CX3 รอจนตัวสั่นแล้วครับ สั่นสู้ 555
-
ถ้าจะเปิดราคามาแพงกว่า HR-V (1.8 ) และ CX-3 (2.0) สำหรับเมืองไทยเครื่อง 6AR-FSE (2.0) ดูจะสมเหตสมผลที่สุด
น่ามี 2.0 จริงๆ ครับ
ไม่ชนกับ Altis ด้วย
กับมีเพื่อนคือ CX3
และเครื่อง 2.0 ตัวนี้จะได้โชว์พาวเต็มที่ เพราะไม่ต้องลากตัวถังใหญ่
แต่ถ้าบังคับให้มากับ Hybrid อย่างเดียวอย่างที่เคยอ่านเจอ
มันจะเหมือนการเดิมพันที่อาจจะฮิตหรืออาจจะฟุบก็ได้ เพราะบ้านเราคนหนี Hybrid กันเยอะอยู่
-
มีความเป็น Veloster ยกสูง
Hyundai ไม่ลองมั่งอะเผื่อจะดัง ::)
-
เห็นบางเวบบอกเครื่อง 1.2 t 0-100 11 วิ ประหยัดน้ำมันในเมือง 14 โลลิตร ทางไกล 20 โลลิตร (ส่วนใหญ่เฉลี่ย 16-18 โลลิตร) ก็ดูโอเคนะ ถ้าประหยัดได้จริง
-
ผมเดาว่า C-HR ในไทย อาจได้เครื่อง 2.0 ซัก 80% เครื่อง 1.8 Hybrid ซัก 20% เพราะถ้าเอา 1.2T เข้ามาโดนสาวกด่าเละแน่ๆ 0-100 คงทะลุเลข 12 เผลอๆเกือบ 13 ซึ่งจะแพ้ HRV หลุดลุ่ย ทั้งอัตราเร่งและพื้นที่ห้องโดยสาร :-\
-
ผมหาอัตราเร่งเจ้า 2.0 ยังไม่เจอ แค่บอกว่ามีแรงม้า 144 ตัว ซึ่งก็ไม่ได้เซ็ตมาให้แรงปรู้ดปร้าดอะไรเลย สปอร์ตโหมดมีมาให้แต่ก็ไม่แตกต่างไรมาก แถม 2.0 นี่ก็กินน้ำมันกว่าเครื่องรุ่นอื่นๆ (11-13 โลลิตร)
(https://www.cnet.com/roadshow/auto/2018-toyota-c-hr/preview/)
เอาจริงๆพี่โตก็ดูไม่เน้นอัตราเร่งกับเจ้า ch-r เท่าไหร่ เหมือนให้เน้นขับชิวๆและใส่ระบบความปลอดภัยจัดเต็มมากกว่า
ปล. 1.2 turbo ขับสองอัตราเร่ง 11 วิ(พอๆกะตัวไฮบริด) ถ้าขับสี่ปาไป 13+ วิ ถ้าเอาแค่ขับสองก็ไม่ถึงกับอืด ยิ่งถ้าจูน 1.2 ให้ปล่อย C02 น้อยลงอีกเผลอๆจะยิ่งค่าตัวถูกลง
-
มาแล้ว Mat ::) ::) ::) ::)