Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: aarti ที่ เมษายน 10, 2017, 10:57:30
-
สอบถามครับ พอดีเจอ IS 250 มาคันนึงเป็นคนรู้จัก ราคาค่อนข้างโอเคเลย (600k-700k)
รถปี 2007 ภายในเคลมหมดแล้ว รถเช็คระยะที่ศูนย์ตลอด ตอนนี้ไมล์อยู่ที่ประมาณ 120,000 ครับ
อยากปรึกษาพี่ๆว่า ตัวนี้ถ้าเอามาขับต่อสัก 5 ปียังไหวมั้ยครับ จุกจิกรึเปล่า ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ (ค่าบำรุงเจ็บตัวหนักมากมั้ย)
-
สนใจอยู่เหมือนกัน แต่งบ 7กลางๆได้ปีใหม่ หน่อย ได้ตัว mc แล้ว ด้วย
ถ้าซื้อต่อคนที่ดูแลรถดี ถนอมรถ ก็น่าใช้ lexus เก่าๆไม่จุกจิกยิ่งถ้าเทียบกับ benz bmw ยุคเดียวกัน
-
น่าสนใจมากๆครับ วันก่อนคันนึง แต่งแบบเรียบๆ สวยมาก
-
Lexus มันจะมีเล่ม book service เหมือนของ Honda
ถ้าเค้าเช็คศูนย์ตลอดอย่างที่บอก จัดเลยครับ
ค่าซ่อมเท่าที่อ่านๆมา เช็คระยะปกติไม่แพง แต่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนอะไหล่บางตัว หรือมีอะไรเสีย
อันนั้นหนักอยู่ ค่าแรงศูนย์ Lexus แพงมากก แต่ไม่จุกจิกเท่ายุโรปแน่นอน คนใช้หลายคนยืนยัน
-
อ๋อๆๆ ลืมบอกไป เห็นราคามือสอง e90 320d si ก็โอเหมือนกันนะครับ น่าเล่น ตัวนี้น่าสนใจเลยทีเดียว เห้นราคาอยู่ 800-890K
-
เท่าที่ใช้มาไม่จุกจิกนะครับ รถดีมาก ขับสบายก็ได้ ขับซิ่งก็ได้
ออกตัวจะอืดๆ หน่อย แต่ถ้ากดคันเร่งลึก ก็พุ่งได้ดีครับ เหมือนเค๊าเซตมาออกแนวสุขุม เป็นผู้ใหญ่นิดๆ :-X
-
เล็งไว้เหมือนกันครับ ชอบมากๆ แต่ยังลังเลกับ BMW 320 ครับ
ปล เห็น BMW มีอู่นอกที่เป็นเฉพาะของ BMW เยอะ แต่ Lexus นี่ไม่เคยเห็นอู่นอกที่เป้นเฉพาะของ Lexus เลย ไม่รุ้ต้องเข้าศูนย์ Lexus อย่างเดียวเลยรึเปล่า
-
IS250 ตัวรถไม่จุกจิกครับ แต่ค่าอะไหล่แพงครับ ถ้าเข้าศูนย์เล็กซัส เช็คใหญ่ 150,000 km ราคาประมาณ 70,000 บาทครับ
-
จากที่ใช้มา ความทนถึกนี่ก็คล้ายๆโตโยต้าเลยครับ ราคาอะไหล่ผมรับได้แลกกับการที่มันไม่จุกจิก ถูกแพงขึ้นกับความรู้สึกแต่ละคน แต่มันแพงกว่ารถญี่ปุ่นแน่นอน ส่วนค่าแรงช่างนี่แพงจริงครับ เซอร์วิสอู่นอกอย่างเดียวครับ
-
:-X :P
ถ้าเช็คระยะ 70,000 จริงเนี่ย
คนที่ชินชาว่า BMW ซ่อมแพง ยังมีได้หนาวเลยนะครับท่าน
ไม่นับคนไม่เคยซ่อมรถหรูหลายๆท่านนะ
ข้าพเจ้าว่าไป BMW ดีเซลเหอะ อย่างน้อยก็ได้ความมั่นใจว่ามีอู่นอกรองรับล้ะ
แม้จะซ่อมไม่ได้สัมผัสชีวิตการซ่อมรถแบบถูกๆแบบเจ้าตลาดรถญี่ปุ่นก็ตามที
-
:-X :P
ถ้าเช็คระยะ 70,000 จริงเนี่ย
คนที่ชินชาว่า BMW ซ่อมแพง ยังมีได้หนาวเลยนะครับท่าน
ไม่นับคนไม่เคยซ่อมรถหรูหลายๆท่านนะ
ข้าพเจ้าว่าไป BMW ดีเซลเหอะ อย่างน้อยก็ได้ความมั่นใจว่ามีอู่นอกรองรับล้ะ
แม้จะซ่อมไม่ได้สัมผัสชีวิตการซ่อมรถแบบถูกๆแบบเจ้าตลาดรถญี่ปุ่นก็ตามที
เช็คใหญ่ เข้า "ศูนย์" แบบ Lexus
BMW ไม่น่าจะแค่ 70000 แน่ๆครับ บ้านผมซ่อมรายการทั่วๆไป ครั้งละหมื่นกว่าๆสองหมื่นนี่ปกติเลย สมัย E34 ผมว่าตัวใหม่ๆมันไม่ได้ถูกลงแน่ๆ
ยิ่ง E90 ถ้าดวงแตก เจอเกียร์ (นโยบายน้ำมันเกียร์เทพ ใช้ยันหมด BSI ไม่เคยถ่าย) หรือเครื่องยนต์รายการหนักๆ ทะลุแสนแน่ๆ ถ้าเข้าศูนย์
ผมไม่พูดถึงไปวัดใจกับการซ่อมตามอู่ผี อู่นอกนะ ถ้ารอช่างฟันหัวแบะ วางยาอีก จะจบที่เท่าไหร่ หรือจะฝากใจกับรถที่ลุ้นๆ หวังขึ้นยานแม่ ::)
พักนี้เห็น E60 E90 E39 ขึ้นยานแม่ ติดๆกันเลยแฮะช่วงนี้ แถมในคลับ E60 นี่บ่นกันให้วุ่น ซ่อมไม่จบไม่สิ้น เหมือนชีวิตมีกรรม ไฟเตือนนี่เหมือนเจ้ากรรมนายเวร ตามจองเวรไม่จบสิ้นจริงๆ มันพร้อมที่จะตามมาหลอกหลอนได้ตลอดเวลาจริงๆ จำได้ว่า เมื่อก่อน เคยขับๆไป รถไม่มีแรง จู่ๆขึ้น เกียรรวน (กลางดึก+โครตเปลี่ยว) ดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ รอบแรก ไม่หาย รอบสอง หายสนิท ขับได้ปกติเฉย เอาแน่เอานอนกับมันไม่ค่อยได้จริงๆ
German Engineering จริงๆ
จริงๆ ผมก็ดูๆ W221 นะ แต่พอเข้าไปค้นข้อมูลการเสีย การซ่อมของรถ German ตามคลับต่างๆ แล้วเนี่ย ผ่านมาสิบปี มันไม่เคยพัฒนาคุณภาพและความทนทานเหมือนเดิม
สงสัยคงได้จบกับการตามหา LS460 แต่คันที่วิ่งน้อยๆมันหายากจริงๆ (สงสัยรถมันดี เลยเหยียบกันซะคุ้มเลย) ::) ::)
-
Lexus ทนจริงแต่ถ้าเสียแล้วเข้าศูนย์หมดก็แพงทั้งค่าอะไหล่ค่าแรงช่างครับ บูชปีกนกแตกเค้าก็จะเปลี่ยนให้ทั้งปีกก็เกิน 5 หมื่นละครับ
เซ็นเซอร์ถอยผมแตก เบิกศูนย์ราคาก็พอๆกับของซีรี่ย์ 5 ถ้าหาอะไหล่เองได้ เข้าอู่นอกก็ประหยัดไปได้บ้าง แต่อะไหล่ Lexus หายากกว่า BMW แน่นอนครับ รถขายน้อยต้องทำใจ ผมสั่งนอกอย่างเดียว
เอาจริงไปเล่นเยอรมันถ้าเข้าศูนย์ก็พอกันแหละครับ โดยเฉพาะ BMW ด้วยความที่มันจุกจิกกว่า ซ่อมไม่ถึงเสียพ่วงๆกันก็โดนเป็นแสน
-
:-X :P
ถ้าเช็คระยะ 70,000 จริงเนี่ย
คนที่ชินชาว่า BMW ซ่อมแพง ยังมีได้หนาวเลยนะครับท่าน
ไม่นับคนไม่เคยซ่อมรถหรูหลายๆท่านนะ
ข้าพเจ้าว่าไป BMW ดีเซลเหอะ อย่างน้อยก็ได้ความมั่นใจว่ามีอู่นอกรองรับล้ะ
แม้จะซ่อมไม่ได้สัมผัสชีวิตการซ่อมรถแบบถูกๆแบบเจ้าตลาดรถญี่ปุ่นก็ตามที
เช็คใหญ่ เข้า "ศูนย์" แบบ Lexus
BMW ไม่น่าจะแค่ 70000 แน่ๆครับ บ้านผมซ่อมรายการทั่วๆไป ครั้งละหมื่นกว่าๆสองหมื่นนี่ปกติเลย สมัย E34 ผมว่าตัวใหม่ๆมันไม่ได้ถูกลงแน่ๆ
ยิ่ง E90 ถ้าดวงแตก เจอเกียร์ (นโยบายน้ำมันเกียร์เทพ ใช้ยันหมด BSI ไม่เคยถ่าย) หรือเครื่องยนต์รายการหนักๆ ทะลุแสนแน่ๆ ถ้าเข้าศูนย์
ผมไม่พูดถึงไปวัดใจกับการซ่อมตามอู่ผี อู่นอกนะ ถ้ารอช่างฟันหัวแบะ วางยาอีก จะจบที่เท่าไหร่ หรือจะฝากใจกับรถที่ลุ้นๆ หวังขึ้นยานแม่ ::)
พักนี้เห็น E60 E90 E39 ขึ้นยานแม่ ติดๆกันเลยแฮะช่วงนี้ แถมในคลับ E60 นี่บ่นกันให้วุ่น ซ่อมไม่จบไม่สิ้น เหมือนชีวิตมีกรรม ไฟเตือนนี่เหมือนเจ้ากรรมนายเวร ตามจองเวรไม่จบสิ้นจริงๆ มันพร้อมที่จะตามมาหลอกหลอนได้ตลอดเวลาจริงๆ จำได้ว่า เมื่อก่อน เคยขับๆไป รถไม่มีแรง จู่ๆขึ้น เกียรรวน (กลางดึก+โครตเปลี่ยว) ดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ รอบแรก ไม่หาย รอบสอง หายสนิท ขับได้ปกติเฉย เอาแน่เอานอนกับมันไม่ค่อยได้จริงๆ
German Engineering จริงๆ
จริงๆ ผมก็ดูๆ W221 นะ แต่พอเข้าไปค้นข้อมูลการเสีย การซ่อมของรถ German ตามคลับต่างๆ แล้วเนี่ย ผ่านมาสิบปี มันไม่เคยพัฒนาคุณภาพและความทนทานเหมือนเดิม
สงสัยคงได้จบกับการตามหา LS460 แต่คันที่วิ่งน้อยๆมันหายากจริงๆ (สงสัยรถมันดี เลยเหยียบกันซะคุ้มเลย) ::) ::)
ตามความเห็นนี้เลยครับ E60 ผมวิ่งปีล่ะ 4หมื่น ซ่อมเฉลี่ยปีล่ะ 6หมื่นครับ โดนมาหมดครับ เกียร์ แร็ค แอร์
พอมาเปิดดูบิล E90 ของน้องผม ที่ผมเอามาใช้ต่อ เชคยูโรป้าตลอด ไม่มีบิลไหนต่ำกว่าหมื่นเลยครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องเฉยๆ ก็แพงมาก แต่เข้าไปแล้วชอบได้ของแถมมาเรื่อย ไม่เคยเห็นบิลหลักพันมาให้ชื่นใจเลย เจอซ่อมอย่างอื่นตลอด
พอล่าสุดแตะแสนโลปั๊บ มาแล้วมูเล่ย์ สายพาน ช่วงล่าง รวมๆกัน กดไปเกือบ 4หมื่น ย้ายมาซ่อมอู่นอกนะครับ ถามช่างบอกรุ่นนี้ทนๆ ทำไปหมดนี่พี่อยู่ได้อีกนาน ใช้มาอีก 5 วันแอร์ ไม่เย็น กลับไปยกระบบแอร์ หมดไปอีก 3.5 หมื่น คิดไม่ออกเลยว่าถ้ายังเข้าศูนย์อยู่จะแตะแสนมั้ย ค่อนข้างพลาดมากครับ ถ้าตอนนั้นเชียร์น้องให้เอา IS น่าจะจบไปแล้วครับ
-
:-X :P
ถ้าเช็คระยะ 70,000 จริงเนี่ย
คนที่ชินชาว่า BMW ซ่อมแพง ยังมีได้หนาวเลยนะครับท่าน
ไม่นับคนไม่เคยซ่อมรถหรูหลายๆท่านนะ
ข้าพเจ้าว่าไป BMW ดีเซลเหอะ อย่างน้อยก็ได้ความมั่นใจว่ามีอู่นอกรองรับล้ะ
แม้จะซ่อมไม่ได้สัมผัสชีวิตการซ่อมรถแบบถูกๆแบบเจ้าตลาดรถญี่ปุ่นก็ตามที
เช็คใหญ่ เข้า "ศูนย์" แบบ Lexus
BMW ไม่น่าจะแค่ 70000 แน่ๆครับ บ้านผมซ่อมรายการทั่วๆไป ครั้งละหมื่นกว่าๆสองหมื่นนี่ปกติเลย สมัย E34 ผมว่าตัวใหม่ๆมันไม่ได้ถูกลงแน่ๆ
ยิ่ง E90 ถ้าดวงแตก เจอเกียร์ (นโยบายน้ำมันเกียร์เทพ ใช้ยันหมด BSI ไม่เคยถ่าย) หรือเครื่องยนต์รายการหนักๆ ทะลุแสนแน่ๆ ถ้าเข้าศูนย์
ผมไม่พูดถึงไปวัดใจกับการซ่อมตามอู่ผี อู่นอกนะ ถ้ารอช่างฟันหัวแบะ วางยาอีก จะจบที่เท่าไหร่ หรือจะฝากใจกับรถที่ลุ้นๆ หวังขึ้นยานแม่ ::)
พักนี้เห็น E60 E90 E39 ขึ้นยานแม่ ติดๆกันเลยแฮะช่วงนี้ แถมในคลับ E60 นี่บ่นกันให้วุ่น ซ่อมไม่จบไม่สิ้น เหมือนชีวิตมีกรรม ไฟเตือนนี่เหมือนเจ้ากรรมนายเวร ตามจองเวรไม่จบสิ้นจริงๆ มันพร้อมที่จะตามมาหลอกหลอนได้ตลอดเวลาจริงๆ จำได้ว่า เมื่อก่อน เคยขับๆไป รถไม่มีแรง จู่ๆขึ้น เกียรรวน (กลางดึก+โครตเปลี่ยว) ดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ รอบแรก ไม่หาย รอบสอง หายสนิท ขับได้ปกติเฉย เอาแน่เอานอนกับมันไม่ค่อยได้จริงๆ
German Engineering จริงๆ
จริงๆ ผมก็ดูๆ W221 นะ แต่พอเข้าไปค้นข้อมูลการเสีย การซ่อมของรถ German ตามคลับต่างๆ แล้วเนี่ย ผ่านมาสิบปี มันไม่เคยพัฒนาคุณภาพและความทนทานเหมือนเดิม
สงสัยคงได้จบกับการตามหา LS460 แต่คันที่วิ่งน้อยๆมันหายากจริงๆ (สงสัยรถมันดี เลยเหยียบกันซะคุ้มเลย) ::) ::)
ตามความเห็นนี้เลยครับ E60 ผมวิ่งปีล่ะ 4หมื่น ซ่อมเฉลี่ยปีล่ะ 6หมื่นครับ โดนมาหมดครับ เกียร์ แร็ค แอร์
พอมาเปิดดูบิล E90 ของน้องผม ที่ผมเอามาใช้ต่อ เชคยูโรป้าตลอด ไม่มีบิลไหนต่ำกว่าหมื่นเลยครับ ถ่ายน้ำมันเครื่องเฉยๆ ก็แพงมาก แต่เข้าไปแล้วชอบได้ของแถมมาเรื่อย ไม่เคยเห็นบิลหลักพันมาให้ชื่นใจเลย เจอซ่อมอย่างอื่นตลอด
พอล่าสุดแตะแสนโลปั๊บ มาแล้วมูเล่ย์ สายพาน ช่วงล่าง รวมๆกัน กดไปเกือบ 4หมื่น ย้ายมาซ่อมอู่นอกนะครับ ถามช่างบอกรุ่นนี้ทนๆ ทำไปหมดนี่พี่อยู่ได้อีกนาน ใช้มาอีก 5 วันแอร์ ไม่เย็น กลับไปยกระบบแอร์ หมดไปอีก 3.5 หมื่น คิดไม่ออกเลยว่าถ้ายังเข้าศูนย์อยู่จะแตะแสนมั้ย ค่อนข้างพลาดมากครับ ถ้าตอนนั้นเชียร์น้องให้เอา IS น่าจะจบไปแล้วครับ
เรื่องช่างศูนย์แถมอาการนี่ผมก็โดนครับ :'( :'( แสดงว่าโดนกันหลายคนอยู่ ส่วนบิล ตามนั้นครับ เอาเป็นว่า เข้าศูนย์ ถ้าจะให้อุ่นๆใจไว้ กดเงินไปสักสองหมื่นติดตัวแหละครับ สบายใจ จะได้ไม่ต้องออกมากดอีกรอบ หลักพันนี่น้อยมาก หรือแทบไม่เห็นเลยจริงๆ ::)
จริงๆที่สนใจ Lexus + Toyota เพราะหลังๆ ใช้น้อง Camry แล้วมันไม่จุกจิกเลย ไปไหนไปกันสบายใจมากๆ คือซ่อมแพงไม่ค่อยจะบ่นนะ ชินแล้ว แต่ซ่อมไม่จบนี่สิ ปัญหา แล้วตอนใช้ BMW วิ่งเข้าวิ่งออกศูนย์บ่อยมากด้วย (กลับกันกับ Camry คือถ้าไม่ใช่เช็คระยะ หรือไปดูรถ ก็ไม่แทบจะเคยเข้าไปเลย)
สบายใจมาก ที่รถมันไม่เสีย ใช้อย่างเดียวจริงๆ
ผมยังคิดๆเลย ถ้า Lexus รุ่นใหม่ๆ มันทนถึก แล้วขับดีเท่ายุโรป มันน่าใช้จริงๆนะครับ รถในอุดมคติเลย มันส์แบบ BMW ทนถึกแบบ Toyota ::)
-
ใช้ดี เครื่อง เกียร์ทนมากครับ ผมวิ่ง 170k ไม่มีอะไรเสีย ถ่ายน้ำมันเครื่อง ปรกติ อะไหล่ช่วงล่างต้องเปลี่ยน ตามกาลเวลา
อะไหล่ ถ้าหาจาก Ebay เองได้ หรือสั่งญิปุ่นโดยตรง ไม่โหดร้ายขนาดนั้น
เข้าศูนย์เช็คปรกติก็ไม่น่ากลัว เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/เกียร์/ เฟืองท้าย แต่ละครั้ง ก็หลักพัน
แต่หากมีอะไรเสีย เข้าศูนย์ อ้วกแน่ๆครับ มอเต้อร์ พัดลมหน้าเครื่อง ลูกละหมื่นกว่าบาท ( ใช้2ลูก ) ปั้มน้ำ วาลว์น้ำ บุชต่างๆ รวมค่าแรงเหยียบแสนได้ง่ายๆ
ผมเคยถามเล่นๆตอนเช็ค 150k มี 1 แสนบาท++ ครับ ศูนย์ Lexus พระราม9 ใกล้ๆ พัฒนาการ
ผมใช้วิธีซ่อมตามอาการครับ อะไรไม่เสีย ยังไม่รื้อ เพราะ ถ้ารื้อแล้วมีเรื่องต่างๆตามมาทุกที
วาลว์น้ำ ปั้มน้ำ ซื้ออะไหล่มารอแล้ว แต่ยังไม่มีอาการก็ยังไม่ทำครับ เพราะรื้อเย้อะ
ถ้าชอบในรูปร่างก็จัดครับ ที่บ้านมี E90 320D อีกคัน ขับแล้วคนละอารมเลยครับ IS refine กว่ามาก BMW ดิบกว่าครับ
โปรเจ็คต่อไปของผม คือลงเครื่อง 350 ครับ คราวนี้มันส์แน่ๆ
-
น่าใช้หมดครับ
ถ้าคุณมี
อู่ซ่อมดี
-
ถ้าได้จากคนรู้จัก รู้ประวัติกันดี ก็น่าสนใจครับ