Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 0% ที่ เมษายน 11, 2017, 23:09:17
-
มอเตอร์โชว์มีโอกาสได้ไปดู alphard เกร์ยหมีมา
ก่อนจะไปได้ดูเทียบกับ toyota รถศูนย์
ว่ากันว่า alphard ในงานขายไปเกือบร้อยคันจากเกรย์หมี
ว่ากันว่า toyota ไทยไม่มีรถส่งให้ลูกค้าที่อยากจะซื้อเพราะทำไม่ทัน คือเอารถมาจากญี่ปุ่นแล้วมาประกอบเบาะ และ โน้นนี่ ในไทย จึงไม่ทัน
alphard คนใช้กันเยอะมากในไทย
ทำไมถึงไม่ประกอบไทย
ถ้ายัดเครื่องดีเซล 2.8 ไปแล้วประกอบไทย
ผมว่าหน้าโรงเรียน จอด alphard กันจน ลูกๆขึ้นรถกันผิดคันเป็นเรื่องปกติ
ประหนึ่งรองเท้าแตะที่ทุกบ้านต้องมีอย่างน้อยคนละคู่
พอเห็นภาพไหมครับ ;D ;D
ทำไมโตโยต้าไม่คิดจะประกอบไทยบ้างน๋อออ
-
2.8 diesel เบาะไฟฟ้ามิกกี้เมาส์
ถ้าตั้งราคา 2.59 ผมจองคันนึงเลย มโนแปป :-X
-
น่าสนใจครับ ผมก็อยากได้ Vellfire ครับ แต่แพงเหลือหลายซื้อไม่ไหว
Commuter แต่ง VIP ก็ยังไม่อยากได้เพราะหน้ากุด (ไม่กล้าขับ) ไม่มีถุงลมด้านข้าง(ไม่กล้านั่ง)
และก็ยังไม่ออกเร็วๆนี้ด้วย
http://www.headlightmag.com/news-2018-toyota-hiace-rendering/
แต่ข่าวนี้ทำให้ผมอยากเห็น New Hiace ครับ ถ้าได้ถุงลมรอบคันในรุ่น Ventury นี่จะดีมากเลยครับ
-
ผมมองว่าคนซื้อเยอะ แต่เยอะไม่พอครับ
การที่จะ line up ประกอบในไทยได้ต้องมีแชร์ part ร่วมกันหลายอย่าง
เยอะจนต้องไปออก grey market เพราะรถจาก ad มีน้อยเกินมากกว่า
จะประกอบในก็ขายได้แต่คน กทม. ที่มีฐานะ ย้ำว่าต้องมีฐานะเลย ผมว่าน้อยมาก ที่เห็นเยอะมันเป็นเฉพาะจุดมากกว่า ถ้าไปโรงเรียน top ใน กทม. ก็คงเห็นเยอะ แต่รอบๆล่ะ ไม่น่านะ
-
จากจำนวนบนท้องถนนตอนนี้ผมว่าคุ้มครับที่จะเอามาประกอบทำราคาดีๆ
ส่วนเครื่องยนต์ดูแล้วไม่น่าจะรองรับดีเซล 2.8 ได้ครับคงต้องลุ่นเป็นเบนซินเทอร์โบหรือเครื่องตัวอื่น
อย่างที่เห็นเลยรถเกรดดีๆพวกรุ่นที่ตั้งใจจะขายแค่ในญี่ปุ่นโตโยต้าไม่ค่อยปล่อยเอามาประกอบนอกประเทศ
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ขายดีมากจริงๆครับตัว 30 ล่าสุดยังอยากได้อีกคันเลยรถดีมาก
-
ผมมองว่าคนซื้อเยอะ แต่เยอะไม่พอครับ
การที่จะ line up ประกอบในไทยได้ต้องมีแชร์ part ร่วมกันหลายอย่าง
เยอะจนต้องไปออก grey market เพราะรถจาก ad มีน้อยเกินมากกว่า
จะประกอบในก็ขายได้แต่คน กทม. ที่มีฐานะ ย้ำว่าต้องมีฐานะเลย ผมว่าน้อยมาก ที่เห็นเยอะมันเป็นเฉพาะจุดมากกว่า ถ้าไปโรงเรียน top ใน กทม. ก็คงเห็นเยอะ แต่รอบๆล่ะ ไม่น่านะ
ผมว่าก็คงไม่ได้เยอะน้อยไปกว่า mb bm หรอกครับ ถ้ามีตลาดจริง มีความคุ้มค่าจริง ซักพักก็มีรุ่นผลิตในไทยเอง
-
ถ้ามาประกอบไทย ตัว 2.5 hybrid ออฟชั่นดีๆ ราคาประมาณ 2.5-2.7 ผมว่าแค่นี้ก็ขายดีละนะ
ราคาถูกลงจาก 3.4ล้าน และได้สูนย์บริการแบบ toyota แท้ๆ
-
จำได้ว่า รถ Alphard Landcruiser และรถบางรุ่น รถพวกนี้จะต้องประกอบที่โรงงาน TOYOTA ในญี่ปุ่นเท่านั้น คงไม่มาประกอบในไทยหรอก
ส่วนเครื่องดีเซลนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าใส่มาจริงสงสัยคง บวกราคาไปอีก 3 แสนบาท
-
ผมว่ามองในแง่ต้นทุน ที่จะนำมาตั้งราคา เทียบกับคัมรี่ ที่น่าจะเป็นตัวที่แชร์แพลตฟอร์มเดียวกัน หรือใกล้เคียงสุด ราคาถ้าประกอบไทยจริง ตัวท้อปคงไม่ต่ำกว่า 2.1-2.3ล้าน อย่างต่ำ ซึ่งคงต้องดูการประเมินยอดขาย และความรับผิดชอบหลังการขายต่างๆอีกหลายเรื่องด้วย คงไม่ง่ายนักครับ
แต่ถ้าเลิกประกอบญี่ปุ่น ย้ายฐานแน่ๆ อันนี้เป็นไปได้สุดแล้ว
ส่วนดีเซล คงไม่น่าทำครับ เพราะแนวโน้มนโยบายในอนาคต น่าจะไปต่อในรถนั่งได้ยากแล้ว
-
ผมเปนลูกค้าโตต้าไทยเเลนด์ในรุ่นนี้ครับ
มาตอบให้ตามความเห็นและ ปสก ที่ผมเจอตั้งแต่ซื้อถึงตอนนี้กับการใช้งานรุ่นนี้
โตโยต้าไทย ไม่อยากขายครับ
แต่เอาเข้ามาทำเหมือนจะทำตลาดเพื่อที่จะขาย
งง งงมั้ย
คือผมคิดว่าเค้าอยากขายรุ่นนี้และมองว่ามีศักยภาพที่ดีมากในการวางตลาด
เป็นโตโยต้าที่ชนะเมอเซเดส ในมุมมองผม เพราะคนรอบตัวมากมายทิ้ง e class/ s class มาalphard
แต่การขายรถรุ่นนี้ มันทำกำไรได้น้อยถ้าทำตลาดตรงๆ
คือ
1. เปนรถที่เสียภาษีเยอะ ราคาขายมันเจอภาษีไปเยอะ ขายเยอะ รัฐรวย มากกว่าโตโยต้า รวย
2. คชจ ต้นทุนในการขายสูง เพราะแชร์อะไรกับชาวบ้านได้น้อย (แต่ก็แชร กะแคมรี่)
3. ถ้าจะทำการตลาดจริงจัง ต้องลงทุนสูง ทั้งตัวแทนดีลเลอไทย ก็ขายรถหรูไม่เป็น ช่างเอาศูนยบริการเลย รองรับไม่ไหว จะอัพตัวลงทุนแพงๆก็ใช่เรื่อง ไหนจะสต๊อกอะไหล่อีก (โตต้าไทยไม่เก็บอะไหล่เลยในรุ่นนี้ ต้องแอร์อย่างเดียว กระจกบายหน้าไม่มี ชุดบังโคลนไม่ที ก้านใบปัดยังไม่มี)
ผลคือเค้าคิดว่า ทำการตลาด ให้เกรย มาเก๊ต ไปซื้อจากญป มาขาย ดีกว่า
ขายได้เท่ากับที่ดีมาน มันมีในตลาด ให้เกรย เปนคนรับผิดชอบเรื่องการนำเข้า การจ่ายภาษี แถมบริการเก็บอะไหล่ให้อีก โตต้าไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แถมจายได้ราคาสูงด้วย กลยุท ยกราคาตัวที่ขายเองให้สูง เปิดข่องให้เดรย์มีกำไรอีกต่อ เอื้อกันไป แต่สถานการณ์นี้มันทำไม่ได้ง่ายๆทุกโมเดล มันมีปัจจัยมันอยู่แต่แผนการตลาดของโตโยต้าสำหรับรุ่นนี้ เรียกว่าฉลาดมากตีกินนิ่ม ขายได้กระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา
เพราะถ้า โตต้าอยาก ทำตลาดจริงจัง น่าจะทุบราคาเกรยได้ไม่ยาก ดู mercedes ทุบเกรยหายเรียบใน สามปี แต่โตต้ามองอีกแบบว่า ให้เกรยช่วยเอาเข้ามาทุบกับ รถหรูค่ายอื่น เอารถมาเปิดตัวให้เพื่อฝ่าด่านสรรพสามิตร ศุลกากร เคลียทางให้เกรย นำเข้าได้สะดวก ตัวเองขาย สบายๆใน ญป ไม่ต้อง ดูแลหลังการขายด้วย ปล่อยไปเลย เกรยจัดการให้เอง แถมทำการตลาดโฆษณาให้อีก
รถผมออก โตต้าไทย รถน้องเขยออก เกรย
สุดท้ายผมต้องไปเบิกกระจกจากเกรย มาใส่ให้เค้านำเข้าให้ ช่างเกรยซ่อมคล่องมากแต่เข้าศูนยโตต้า เซทอะไรไม่เปนเลยถอดแบตออกกลับมากล้องมอง ปุ่มพวงมาลัยใช้ไม่ได้ เซทไม่เปนผมต้องขับไปให้ช่างเกรยเซทให้ ห้านาที ปวดใจมั้ย
แค่นี้บนถนน ผมเห็น รุ่นalphard มากกว่า ในโตเกียวอีก
ไม่ว่าจะคันไหน โตต้าก็กินนิ่มๆ
แผนแบบนี้ คนญป ทำเยอะในหลายอุตสาหกรรม ให้ไฟลททั้งตลาดบนล่าง ปิดช่องทางขายของคู่แข่งไปในตัว
เพราะฉะนั้นผมไม่คิดว่า โตโยต้าจะทำไรมากมายไปกว่านี้แค่นี้ก็กำไรสบาย
-
เป็นไอเดียที่ดีครับ ผมเองยังอยากได้เลย
แต่ในความเป็นจริง การจะนำเครื่อง 2.8 บล๊อก GD ที่ทำมาสำหรับรถ Platform IMV และ Prado หรือกลุ่ม Hiace
มายัดลงไปใน Alphard ที่ใช้ Platform ขับหน้าร่วมกับ Camry นั้นคงจะห่างจากความเป็นจริงเยอะอยู่
ถ้าจะลงดีเซลจริงๆ คงเป็นพวกบล๊อก ND อะไรพวกนี้มากกว่า ที่ในต่างประเทศเคยมีลงกับ Lexus หรือแม้แต่ Yaris Diesel
ส่วนจะได้เกิดจริงมั้ย คิดว่ายากมาก เพราะรถ Alphard / Vellfire เองนั้นเกิดเพื่อตลาด JDM เป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่คนยังนิยมเครื่องเบนซิน / ไฮบริดในรถยนต์นั่ง
อย่างเหนียวแน่น การจะมีโปรเจคเอาเครื่องดีเซลลงโมเดลพวกนี้น่าจะยากมากครับ
และดูเหมือนกลุ่มลูกค้าในเอเซียหลายๆประเทศยังชอบตัว V6 3.5 กันมากกว่าเลย
จริงๆตัวเครื่อง V6 3.5 บล๊อก GR ดูจะเหมาะกับรถมากกว่า ดีเซล 2.8 บล๊อก GD อยู่ครับ
-
รถโมเดลนี้ประกอบในญี่ปุ่นอย่างเดียวครับ ถ้าโตโยต้าไทยจะเอามาขายก็ต้องนำเข้ามาอย่างเดียว เหตุผลที่โตโยต้าไทยไม่อยากทำตลาดจริงจังเพราะมันเอามาประกอบทั้งคันในไทยไม่ได้นี่แหละครับ ลองโตโยต้าญี่ปุ่นอนุมัติให้ขึ้นไลน์ในไทยได้ผมว่าโตโยต้าไทยลุยแน่นอนครับ
-
โตโยต้าคงบอกว่าถ้าไม่มียอดประกอบระดับ1000คันต่อเดือน ตลอดอายุโมเดล6ปี คงไม่คุ้มลงทุนทำงานผลิต งานขาย งานเซอร์วิส งานการตลาดเต็มระบบครับ ตอนนี้ผมยังกลัวอนาคตแคมรี่จะเป็นยังไง เพราะในอดีตเค้าก็มีประสบการ์ณกับรถที่ทำแล้วไม่เวิร์คครับ วิช กับ พรีอุส เป็นตัวอย่างครับ
-
Innova ไงครับ เค้าทำดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วมาก จนมีกลิ่นอาย Alphard อยู่เยอะ
แต่ว่าถ้าทำตัวพิเศษ ใส่ประตูสไลด์กับประตูท้ายไฟฟ้า
เบาะมิกกี้เม้าส์ เครื่องเสียงพรีเมี่ยม หน้าตาแตกต่างจากรุ่นปกติสักหน่อย
ขายแพงขึ้นกว่า 2.8V สักสามแสน ผมว่าคนที่ชอบน่าจะมี
แต่เรื่องการขับขี่คงทำได้ดีเทียบเท่า Alplard ยาก ยังไงมันก็เป็น Body on frame ไม่ใช่ Monocoque
-
ถ้า 2.8 diesel ไม่ได้ มี200t มาแทนตัวท๊อป 3.5v แล้วทำราคาไม่เกิน 3.8-4.0 ล้าน เยอรมันมีหนาวครับ
-
ประกอบก็ดีนะครับ เพราะอะไรไม่รู้ ผมเห็นมันวิ่ง เยอะพอๆ กับ อินโนว่า หรืออาจจะเห็นบ่อยกว่า ถี่กว่าอีกนะ
อินโนว่า ใหม่นี่ยิ่งเห็นน้อยกว่า รถอัลฝาด หรือเวลฟาย ด้วยซ้ำ ....
แต่ เท่าที่รู้จักมาก็เป็น รถเช่าเอกชน กับผู้บริหารหน่วยงานรัฐฯ เยอะเหมือนกันนะ
-
จริงครับ ที่ TMT ไม่อยากทำตลาดรุ่นนี้
เคยไปถามซื้อ แต่ไม่มีส่วนลด ของแถมอะไรให้เลย
แถมเซลยังพูดว่า ซื้อเกรย์คุ้มกว่า ขนาดเจ้าของโชว์รูมยังซื้อตัว 3.0 จากเกรย์เลย
ถึงจะไม่ทำตลาด ยังไง โตโยต้า ก็ได้เงินอยู่แล้ว
เพราะยังไง เกรย์ ต้องซื้อจาก โตโยต้า ญี่ปุ่นอีกที แถม ซื้อไปแล้ว เอามาใช้เมืองไทย รถพัง โตโยต้า ก็ไม่ต้องชอบรับผิดชอบอะไรมากด้วย
แล้วที่ญี่ปุ่นเอง ก็มีธุรกิจที่จัดหารถให้เกรย์ด้วย
ผมว่า มันก็ วินๆ กันหมด ก็เลยปล่อยไว้อย่างนี้ดีแล้ว
อัลพาร์ด (และ แฮริเออร์) เห็นที่ญี่ปุ่นน้อยมาก และส่วนมากจะเป็นตัวออพชั่นน้อย เช่น ประตูสไลด์ไฟฟ้าข้างเดียว เบาะผ้า 8 ที่ นั่ง
เพราะส่วนมากมันมาอยู่เมืองไทย
อัลพาร์ด ในเมืองไทย กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนมีเงินไปแล้ว
หลายคน พอจะเริ่มมีเงินหน่อย แทนที่จะซื้อเบนซ์ (พวก ซีคลาส อีคลาส) ก็มาซื้ออัลพาร์ดแทน ก็มีครับ
-
โตโยต้าคงบอกว่าถ้าไม่มียอดประกอบระดับ1000คันต่อเดือน ตลอดอายุโมเดล6ปี คงไม่คุ้มลงทุนทำงานผลิต งานขาย งานเซอร์วิส งานการตลาดเต็มระบบครับ ตอนนี้ผมยังกลัวอนาคตแคมรี่จะเป็นยังไง เพราะในอดีตเค้าก็มีประสบการ์ณกับรถที่ทำแล้วไม่เวิร์คครับ วิช กับ พรีอุส เป็นตัวอย่างครับ
ไม่ใช่ยอดประกอบครับ เพราะรถแนวนี้และรถบางรุ่นรวมถึง Landcruiser จะประกอบที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ประธานโตโยต้าบอกไว้ต้องการคงสภาพ สาเหตุคือ การคงสภาพการจ้างงานที่ TOYOTA MOTOR CORP เมืองนาโกย่าไว้ ทาง TOYOTA ไม่ได้คิดย้ายฐานการผลิตทั้งหมดมาที่ประเทศไทยเหมือนกับยี่ห้ออื่น ๆ เช่นเดียวกับรถญี่ปุ่นบางยี่ห้อที่ในญี่ปุ่นจะมีการผลิตเอาไว้ไม่นำออกมาผลิตภายนอกญี่ปุ่น อย่างเช่น Mazda MX5 จะไม่ขึ้นไลน์นอกเหนือประเทศญี่ปุ่น หรือรถมอเตอร์ไซด์บางรุ่นของ YAMAHA กับเครื่องยนต์ของ Lexus ที่ โรงงาน YAMAHA ประกอบอยู่ จะผลิตในญี่ปุ่นเท่านั้นไม่ย้ายฐานเข้ามาในประเทศไทย
-
หมายถึงเครื่อง ใน Fotuner นะเหรอ??? ครับ ดีเซลมันเครื่อง วางยาวขับหลัง ส่วน Alphard มันเครื่อง วางขวางขับหน้า คือ งานวิศกรรมตัวรถคนละเรื่องเลย จะลง กันยังไง งง???? ถ้าเป็น Innova Commuter ก็ว่าอย่าง แถมช่วงล่างที่จะรองรับเครื่องทั้ง 2 แบบ ก็ คนละอย่าง
-
ผมก็เคยคิดเล่นๆ แบบนี้เหมือนกันครับ แต่ดูๆ แล้วคงจะยากจริงๆ ยิ่งประกอบในไทยด้วย
แล้วคงไม่ง่าย ตอนนี้ผมหวังแค่ให้ทาง toyota อัพเกรด ระบบไฮบริดให้ทำความเร็วตอนวิ่งไฟฟ้า
ให้ถึง 120 กม./ชม. เหมือน Accord hybrid ก่อนยังคิดว่ายากเลยครับ
ส่วนเครื่อง 2.0 Turbo ที่อยู่ใน Lexus ผมว่ามันก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเท่าไรนะ แต่ได้เรื่องอัตรา
เร่ง ถ้าให้เลือกผมชอบเครื่องเบนซิน 3.5 V6 มากกว่าครับ
-
ทำออกมาแล้วครับ แต่ตั้งชื่อว่า innova ไม่มีคนซื้อเลย อิอิ
ผมว่ามัน สเกลเล็กมากๆสำหรับโตต้า เค้าไม่สนหรอกครับ
-
ยุ่นต่างจากฝรั่งตรงที่ ไม่มีการไล่พนักงานออก ถ้าไม่ผิดร้ายแรงจริงๆ
ยุ่นไม่เปลี่ยนงาน อยู่ประจำจนเกษียณ ยิ่งอยู่ที่ใหญ่ๆ ถ้าโดนเด้งฆ่าตัวตายก็เยอะ
หรืออยู่ด้วยความอับอาย แต่ถ้าทำไม่ดีเด็กใหม่เก่งๆคงไปอยู่ที่อื่น
ส่วนคนนอก หรือชั้นล่างไม่นับในสารบบ เป็นเรื่องต่างหาก
บ.แม่ต้องเลี้ยงพนักงานตามธรรมเนียมปฏิบัติ การคงรถบางแบบไว้เป็นเรื่องจำเป็น
องค์กรใหญ่มากๆ เดินเรื่องช้า ต้องฟังคนแก่ก่อน แค่ได้ประธานหนุ่มก็ดีแค่ไหนแล้ว
มีลูกค้าหลายประเทศแจ้งสามห่วงไปว่า ต้องการรถตู้ยกสูง ขับสี่หรูๆ นั่ง7-10คน
บ.ยังมิได้นำพา ขนาดหัวจรวด ซุปเปอร์คัสตอม ขับสี่ฟูลไทม์ มีประตูข้างเดียว ยังขายดี
มือสองสวยๆส่งออกสบาย พอมาเป็นโม่งก็ไม่ได้เจ๋งกว่าเดิม กั๊กไว้ขายรุ่นแพง
โธ่ คนบ้านนอก ถนนดิน ญาติเยอะ แขกแยะ ที่ทางไปเอาแน่เอานอนไม่ได้
จะให้นั่งเก๋ง แล้วไปใส่ของเติมคนได้ยังไง ลุยได้นิดหน่อย นั่งสบาย นอนได้
บรรทุกเสบียงได้ แปลงเป็นบ้าน ที่ทำงานชั่วคราวได้ อะไหล่ร่วมกับตู้ตลาด
แต่ช่วงล่าง ความหรูแบบเก๋ง ระบบไฟไม่ซับซ้อน ยกสูง ขับสี่ ราคาล้านกลางมีคนอยากได้เยอะ
พอคู่แข่งเริ่มทำเก๋งยกสูง ขับสี่ 7ที่นั่ง ถึงขยับ พอมีคู่แข่งมาแซงก็ทำเองแหละ
แค่นี้ก็โดนหมั่นไส้มากแล้ว ต้องลดชั้นตัวเองบ้าง ให้รถในเครือมาขนาบคู่แข่งแทน
แต่ก่อนเคยไปช่วยเยอรมันบางโรง รอดจากการเจ๊งสนิท เพราะเก็บอะไหล่นานและเยอะ
มัวแต่หยิ่งให้คนซื้อมาง้อ ไม่รู้จักเอาใจคนซื้อสมควรแล้ว ดีที่เจ้าของคิดได้ไม่ติดหรู ถึงมีเงินสร้างโรงงานใหม่
เพราะทำรถเห็นแก่ตัวยังไงก็เจ๊ง ควรหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ยังใฝ่ฝัน บูชาดีกว่าเอาใจแต่พวกชอบผีผลัก
พอตัวเองเจอซึนามิเข้าไป ยังดีที่โรงงานอักษะด้วยกันช่วยไว้ แค่นี้ยังยกเรื่องน้ำท่วมเป็นประเด็น
อย่างว่าโรงงานสำคัญมากๆอยู่ที่โน้น เช่น ecu ชิป กล่อง การขึ้นรูปแผ่นเวเฟอร์ ทำเองหมด
กลัวจะไปอยู่มือต่างชาติ ตอนนี้ขาดทุนบักโกรก ยังไม่ยอมให้ต่างชาติซื้อ
คล้ายๆนางฟ้าที่สามห่วงซื้อไม่ได้นั่นแหละ อยู่กับใบพัดกับมวลชนดีกว่า ใครว่าฝรั่งไม่กีดกัน
ดีเซลรอหน่อย ถ้าเก๋งที่เปิดตัวหรือที่ขายอยู่ ยอดไปได้ดี ก็มาเอง
ตอนนี้ปล่อยให้น้องๆ เพื่อนๆไปก่อน น้องเล็กปีหน้าประกอบในทัน
ส่วนตัวแทนโม่ง ถ้าเครื่องวางหน้า ตัวหรูดีแบบซุปเปอร์คัสตอม ดีเซล ยกสูง ขับสองและสี่ฟูลไทม์
ช่วงสั้น หลังคากลาง ราคาล้านปลายคงไปได้ดี
-
คงยากครับ มันไม่น่าจะเหมาะกันกับเครื่อง Diesel เพราะอาจจะดังกระหึ่มเวลาเร่งแซง
เพราะAlphard Vellfire เงียบนะครับ ถึงจะขับเร็วๆ ยิ่งตัว Hybrid นี่แรงกว่าตัวเบนซิน อีก
พี่สาวออก Alphard 30 มาให้แม่นั่ง Hybrid Grey
พอภรรยานั่งแค่นั้น เลยต้องออก Vellfire 30 เบนซิน มาอีกคัน Grey เหมือนกัน
ผมว่าเครื่องเบนซินกับเกียร์ลูกนี้เข้าขากันดีมาก ช่วงต้นอาจจะอืดๆหน่อย แต่พอ 100 ขึ้นไปกดเป็นมาตามเท้าเลย
ตัว Hybrid ก็แรงกว่าอีก แค่ 2 ตัวนี้ก็เพียงพอแล้วครับ
ถ้า TMT ไม่ประกอบไทย คงเป็นเพราะเป็นรถ Jmd นะครับ แล้ว ก็เอาเข้าศูนย์โตโยต้าได้ โตโยต้าก็ได้เงินอีกครับ
-
แท้จริงแล้วบอดี้ใหญ่ๆแบบอัลพาร์ดเหมาะกับ2.8ดีเซลมากๆ
แต่เครื่องยนต์ดีเซลพี่โตวางเพลาขับหลัง วางกับบอดี้อัลพาร์ดไม่ได้ บอดี้ออนเฟรมค่ายพี่โตเซทยังไงก็มีกระเทือน
กลุ่มเป้าหมายเขาไม่สนความแรง แต่สนความสมูท เน้นนั่งนุ่มๆเงียบๆ น้อยรายที่ซื้อ3.5V6
-
Toyota เหมือนตั้งใจว่าจะไม่ทำมากกว่านะครับ คงคิดแล้วว่า ขายรถแพงกว่า 2 ล้านไป จะไม่ทำ ผมว่าแค่ยอมเอา alphard มาขาย ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
-
ถ้าทำราคาได้จริง อย่าลืมบวกยอดจาก Hyndai H-1 เข้าไปด้วย
เดือนนึง น่าจะได้หลายร้อยคันแน่
H-1 ยอดร่วงแน่นอน