Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kritsanai ที่ เมษายน 14, 2017, 12:21:57

หัวข้อ: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: kritsanai ที่ เมษายน 14, 2017, 12:21:57
เท่าที่ผมสังเกต รถ segment เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น vios vs city หรือ altis vs Civic
Option ของทางฝั่ง Toyota จะน้อยกว่าทางฝั่ง Honda เสมอ จนหลายคนมองว่า
Toyota ชอบกั๊ก option แต่ถ้ามองแง่นึง ผมว่าหลายคนเห็นตรงกัน เอาง่ายๆ
ลองเทียบ Civic กับ altis ผมว่า altis งานประกอบ การเก็บงาน วัสดุ
ในส่วนที่มองเห็นดีกว่า

เลยสงสัยครับ ถ้าราคารถคันนึง เท่ากัน หรือ ใกล้กันมากๆ
อย่าง altis esport option  กับ Civic 1.8 el ซึ่งสองคันนี้ เอาส่วนลดของแถม มาหักลบกัน
ราคาแทบจะเท่ากันด้วยซ้ำ เลยอยากรู้ว่า จริงๆแล้ว Toyota
มีต้นทุนแฝงที่เรามองไม่เห็นในตัวรถอะไรบ้างครับ ที่น่าจะเหนือกว่า honda
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 14, 2017, 12:31:07
 Honda  เก็บค่าบริการในศูนย์แพงกว่า  หลังจากใช้งานตัวรถต้องมีการเก็บซ่อมเยอะกว่า    วัสดุชิ้นส่วนไม่ทนทานเท่ากับ TOYOTA 
    ของทาง Toyota  ที่ต้นทุนแฝงน่าจะเป็นการออกแบบให้ Defect มีน้อยสุด  วัสดุทนทานกว่าใช้งานระยาวมากกว่า 
     แต่ของ TOYOTA  ลดต้นทุนโดยการแชร์ชิ้นส่วนให้ใช้กันไปหลายรุ่นมาก เพื่อลดต้นทุนค่าโมลด์และการสต๊อกอะไหล่   รวมถึงต้นทุนการพัฒนาวิจัยชิ้นส่วนใหม่ ๆ เพิ่มเติม
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: nuntapon.s ที่ เมษายน 14, 2017, 12:38:34
คิดว่างานปราณีตกว่าทำต้นทุนสูงเลยทำให้ไม่สามารถใส่ออฟชั่นมาได้เท่าคู่แข่งเหรอครับ หึหึ

โตต้ามีeconomy of scaleสูงมาก  มีรถหลายรูปแบบ  แชร์ตัวถังชิ้นส่วนต่างๆกันมโหฬาร  ปริมาณผลิตรองรับดีมานทั้งในและนอกประเทศ ความสามารถในการต่อรองสูงมาก  ถ้าคิดจะใส่ของมาให้จริงๆทำไมจะใส่ไม่ได้  camry hv mcก็เห็นจัดเต็ม  ผมเลยไม่คิดว่าเขาไม่ใส่ของมาเพราะใช้ต้นทุนไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 14, 2017, 12:55:21
แยกเป็นสองเรื่องครับ
-เรื่องต้นทุนและคุณภาพ : Toyota ทนกว่า แชร์ part ได้มากกว่า คุณภาพไว้ใจได้มากกว่า
-เรื่องกำไรและoption :
Toyota อยู่ในตำแหน่งเจ้าตลาด ถ้าไม่จำเป็นก็จะไล่ลำดับ option ลงมาเรื่อยๆ รุ่นแพงข้างบน option เยอะ รุ่นล่างไม่มี option
เพื่อให้ทุกๆ รุ่นขายได้ และ option ดังกล่าวไม่ได้เยอะมากกว่าคู่แข่ง และไม่แคร์คู่แข่งในท้องตลาดเท่าไหร่ ถ้าใส่ option มาน้อย
เท่าไหร่กำไรก็เยอะขึ้น แต่จะไม่ได้ไปกดกับพวกค่าวัสดุที่เป็นจุดขายด้านความทนทาน แต่เมื่อใดที่คู่แข่งน่าหวาดหวั่น เช่น Civic FC มา
Altis ก็ต้องจัดเต็ม แต่ก็ไม่ได้เต็มที่สุด ยังคงเก็นเทคโนโลยี่สูงๆ ไว้ให้ Camry เบิกร่องก่อนเสมอ
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ เมษายน 14, 2017, 13:36:11
คิดว่างานปราณีตกว่าทำต้นทุนสูงเลยทำให้ไม่สามารถใส่ออฟชั่นมาได้เท่าคู่แข่งเหรอครับ หึหึ

โตต้ามีeconomy of scaleสูงมาก  มีรถหลายรูปแบบ  แชร์ตัวถังชิ้นส่วนต่างๆกันมโหฬาร  ปริมาณผลิตรองรับดีมานทั้งในและนอกประเทศ ความสามารถในการต่อรองสูงมาก  ถ้าคิดจะใส่ของมาให้จริงๆทำไมจะใส่ไม่ได้  camry hv mcก็เห็นจัดเต็ม  ผมเลยไม่คิดว่าเขาไม่ใส่ของมาเพราะใช้ต้นทุนไปหมดแล้ว

เห็นด้วยเลยครับ

แต่เอาไปทุ่มกับการโฆษณา รวมถึงสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์มากมาย ดูตัวอย่างจากชื่อบอลลีกประเทศไทยได้ครับ

แต่ก็เป็นการดีกับวงการบอลครับ
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: SLuang ที่ เมษายน 14, 2017, 14:32:13
เรื่องต้นทุน ผมว่า TOYOTA ได้เปรียบกว่า   

ไม่ต้องแชร์ชิ้นส่วนกับรุ่นอื่นๆ หรอก แค่รุ่นเดียวกัน  แค่ผลิตมากกว่า ต้นทุนต่อหน่วยผลิต ก็ต่ำกว่าอยู่แล้ว

เช่น     สร้างโมลผลิตสัก 1 อย่าง    ราคา 1,000,000 บาท แล้วโมลนี้ สามารถผลิตชิ้นส่วนออกมา 10,000,000 ชิ้น  เทียบกับอีกโมล ทุนสร้างโมลเท่ากัน แต่ผลิตชิ้นส่วนได้แค่ 5,000,000 ชิ้น  คิดเฉพาะต้นทุนโมล ต่อการผลิตชิ้นส่วน 1 ชิ้น ก็เห็นความแตกต่างแล้ว

เรื่องพาร์ทเนอร์ต่างๆ อีกครับ ชื่อเสียง และความเป็นโตโยต้า ผมว่าใครๆ  ก็ยอมเป็นพาร์ทเนอร์ง่ายกว่า
เช่น โตโยต้า ต้องการผลิตชิ้นส่วนอยู่ชิ้นหนึ่ง  ชิ้นส่วนนี้มีผู้ผลิตอยู่แล้ว 3 ราย  ทั้ง 3 รายต่างก็ยื่นข้อเสนอขอเป็นพาร์ทเนอร์  คนที่อยากได้ ย่อมเสนอความคุ้มค่าและมีมาตรฐาน ให้กับโตโยต้า  เป็นต้น แต่กับ ฮอนด้า อาจต้องหาพาร์ทเนอร์เอง  แบบนี้ เป็นต้น

       
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ เมษายน 14, 2017, 14:52:04
แต่ Overhead cost
โตโยต้ารับภาระมากมายมหาศาลเลยนะครับ

ตอบในฐานะเป็นออดิต

ลองคิดถึง Margin จากการขาย โอเคยอมรับว่าโตต้ามาร์จิ้นเยอะ
แต่ลองคิดดูว่ารถบางค่าย ขายได้ปีล่ะสี่พันถึงห้าพันคันก็เฮแล้ว เลี้ัยงคนได้ทั้งโรงงาน
แต่โตต้า ด้วย Scale ของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ กว่าจะ cover fixed cost ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับ

ที่แย่คือ โตต้ามี Source part จากหลายประเทศ หรือแม้ว่าจะ Japan source part ก็ตาม
ทำให้ต้องเจอกับภาวะด้านอัตราแลกเปลี่ยน
บางทีรับของมาช่วงเรตขึ้น พาร์ทราคาแพง แล้วดันขายได้เยอะช่วงนั้น มาร์จิ้นต่อคันก็น้อย
พอเรตต่ำ ดันยอดตก มาร์จิ้นต่อคันเยอะ แต่ดันเขนยอดไม่ขึ้น

ยากครับ
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ เมษายน 14, 2017, 16:28:14
ได้สาระความรู้
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ เมษายน 14, 2017, 18:03:28
แต่ Overhead cost
แต่ Overhead cost
โตโยต้ารับภาระมากมายมหาศาลเลยนะครับ

ตอบในฐานะเป็นออดิต

ลองคิดถึง Margin จากการขาย โอเคยอมรับว่าโตต้ามาร์จิ้นเยอะ
แต่ลองคิดดูว่ารถบางค่าย ขายได้ปีล่ะสี่พันถึงห้าพันคันก็เฮแล้ว เลี้ัยงคนได้ทั้งโรงงาน
แต่โตต้า ด้วย Scale ของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ กว่าจะ cover fixed cost ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับ

ที่แย่คือ โตต้ามี Source part จากหลายประเทศ หรือแม้ว่าจะ Japan source part ก็ตาม
ทำให้ต้องเจอกับภาวะด้านอัตราแลกเปลี่ยน
บางทีรับของมาช่วงเรตขึ้น พาร์ทราคาแพง แล้วดันขายได้เยอะช่วงนั้น มาร์จิ้นต่อคันก็น้อย
พอเรตต่ำ ดันยอดตก มาร์จิ้นต่อคันเยอะ แต่ดันเขนยอดไม่ขึ้น

ยากครับ
โตโยต้ารับภาระมากมายมหาศาลเลยนะครับ

ตอบในฐานะเป็นออดิต

ลองคิดถึง Margin จากการขาย โอเคยอมรับว่าโตต้ามาร์จิ้นเยอะ
แต่ลองคิดดูว่ารถบางค่าย ขายได้ปีล่ะสี่พันถึงห้าพันคันก็เฮแล้ว เลี้ัยงคนได้ทั้งโรงงาน
แต่โตต้า ด้วย Scale ของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ กว่าจะ cover fixed cost ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆครับ

ที่แย่คือ โตต้ามี Source part จากหลายประเทศ หรือแม้ว่าจะ Japan source part ก็ตาม
ทำให้ต้องเจอกับภาวะด้านอัตราแลกเปลี่ยน
บางทีรับของมาช่วงเรตขึ้น พาร์ทราคาแพง แล้วดันขายได้เยอะช่วงนั้น มาร์จิ้นต่อคันก็น้อย
พอเรตต่ำ ดันยอดตก มาร์จิ้นต่อคันเยอะ แต่ดันเขนยอดไม่ขึ้น

ยากครับ

ผมคิดว่าถ้าพูดถึงเรื่อง source part
รถที่ผลิตขายภายในประเทศจะใช้กติกาเดียวกัน ถูกกำหนดจากรัฐ ให้ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ผมจำเปอร์เซนต์ไม่ได้แน่นอน ใช้ชิ้นส่วนต่างประเทศส่วนน้อย เหมือนกันทุกยี่ห้อหลักเกณฑ์เดียวกันครับ

ส่วนที่ว่าโตโยต้ามีธุรกิจขนาดใหญ่ มีสาขาและพนง.เยอะมาก
แต่ก็จะได้เปรียบยอดขายเยอะตามจำนวณสาขาไปด้วย
(รถขายไม่ได้ ก็จะขยายสาขาไม่ได้หรอกครับ)

(แล้วโตโยต้า brandแข็งแรงมาก โอกาสขายได้มากกว่ายี่ห้ออื่น)

สองเหตุผลดังกล่าวผมคิดว่าไม่ได้ทำให้โตโยต้าต้นทุนสูงกว่ารถยี่ห้ออื่นครับ

 
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: natarmy ที่ เมษายน 14, 2017, 18:41:08
ย้อนดูผลประกอบการ 5 ปีย้อนหลังของ Toyota กับ Honda

เทียบกันที่กำไรจากการดำเนินงาน (หักต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่าย R&D และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) Toyota กำไรดีกว่า Honda ตลอดครับ
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ เมษายน 14, 2017, 21:05:33
ยอดขาย กับ ต้นทุน Analysis แยกกันนะครับ
อีกอย่าง ต้นทุนของ dealer หรือสาขา ไม่ใช่ cost ของ TMT นะครับ

ในจุดที่คุณวิเคราะห์คือ Operating profit ซึ่งมีเรื่องของ marketing และ Brand เข้ามาเอี่ยว
ถ้าพูดกันที่ return on sale แล้ว Toyota ลำบากเรื่องต้นทุนค่าดำเนินงานพอสมควร

เอาเข้าจริง ในวงการธุรกิจประเทศไทยที่มีธุรกรรมกับต่างชาติ ยังมีอีกหลายๆด้านที่รัฐยังไม่เข้ามายุ่ง
เช่น เรื่องการกำหนดราคาโอน (Transfer pricing) ซึ่งแน่นอนว่าโตต้าโดนแน่ๆถ้ารัฐเอาจริง
กำไรหลักของ TMT ถูกโยกไปไหนต่อไหนไม่รู้ ก็เล่นซื้อขายกันเองกับบ.ในเครือ
เผลอๆต้นทุนไปหมกอยู่ที่ TMAP หรือเปล่า?

ยิ่งถ้ามอง scale ของบริษัทแล้ว ไม่แปลกที่โตต้าจะกำไรมากกว่า เพราะพี่แกขนาดใหญ่กว่า
บ.ใหญ่ๆได้เปรียบเรื่องต้นทุนจาก economy of scale อยู่แล้วครับ

สำหรับธุรกิจแบบเดียวกัน วัดกันที่ % ดีกว่าครับ
โตต้าต้องขุนยอดขายอีกมาก แถมจะขยับตัวก็ลำบาก บ.มันใหญ่จนขยับตัวได้ช้า
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ เมษายน 14, 2017, 21:27:03
ผมว่าไม่หนีกัน
การลดต้นทุนของ honda ผมว่าล้มเหลว เพราะมาลดในจุดที่กระทบกับใจคน พูดง่ายๆลดไปก็ไม่รวย เพราะคนซื้อบางคนเห็นก็ไม่เอา
ผมว่าไปลดงานเลี้ยงในบริษัทประหยัดได้เยอะกว่า

แต่ความคิดพวกนี้ ผมว่าคนไทยเสี้ยมญี่ปุ่นจนเกินงามแล้ว จริงๆการทำของหัวใจมันอยู่ที่จะทำให้ดียังไง มากกว่ามานั่งคิดว่าจะตัดอะไรบ้าง
คำว่า japan เดี๋ยวนี้มันเกือบไม่มีค่าอะไรเลย
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ เมษายน 14, 2017, 23:04:19
       ต้นทุนมีหลายส่วน และส่วนสำคัญคือ tooling ที่ขึ้นกับ Volume เป็นหลักที่จะส่งผลต่อต้นทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ.
       แน่นอนว่า tooling ทั้งพวกmolds,jigsหรือชิ้นส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
       กรณี tooling สำหรับ body ใหม่ ปกติก้อ5-600 ล้าน ยิ่งหากออกแบบใหม่ทั้งหมด all new จริงๆแท้ๆ (ในปกติก้อ5-8ปี) จะแพงกว่า3เท่าเป็นอย่างน้อย ประมาณ1500ล้าน

ขอยกตัวอย่าง เช่น. หากโตโยต้า รุ่นยาริสละกัน.
      สมมุติจะออกขายสัก 1ล้านคัน ต้นทุนน่าจะอยู่ที่6,000-20,000บาทต่อคันเท่านั้น.
แต่ๆ หากขาย 1แสนคันต้นทุนคงที่ส่วนนี้จะคูนไปสิบเท่ากลายเป็น60,000-200,000เข้าไปละ

ดั้งนั้นการการวางแผนจะขายด้วยจำนวนvolume น้อยๆนั้น จะส่งผลต่อการทำราคาโดยตรง.

ลองคำนวณเล่นๆดู พวกเหล็ก อลุมิเนียม พลาสติก (บางค่ายก้อชอบโบรอน คาบอนมาอีกแหน่ะ) รถคันนึงหนักตันกว่า แค่รวมวัสดุพวกนั้นราคาก้อปาไปคันละ7หมื่น ยิ่งพวกวัสดุแพงๆบาวค่ายยิ่งบวกไปอีกต่ำๆก็9หมื่นถึงแสน ต่อคัน

      และนี้ยิ่งไปรวมค่าแรงอีกโชคดีที่ส่วนใหญ่ค่าแรงไม่แพงมาก. (บางค่ายยังแรงอยู่) รถคันนึงประกอบเสร็จก้อไม่น่าเกิน20ชั้วโมง. ลองคิดง่ายๆเฉลี่ย. ชม.ละ 1-200บาท ล่อไปเท่าไร

      นี่ยังไม่พอ. พวกเกีย เครื่องยนตร์ ที่นั่ง อุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหลายแหล่. พวกออฟชั้นโล้นๆประกอบ ถูกกว่า. พวกออฟชั่นเทพๆ ที่ประกอบ กับทดสอบปวดกบาลอย่างยิ่งยวด... การประกอบนี้ราคาไม่ถูกเลยนะ ขี้เกียจพิมพ์ต่อ. เอาเป็นว่า. โตโยต้าขายทีนึงขายยาว ขายนาน ขายเยอะ. จบห้วนๆ. มันแต่ต่างกับค่าย2-3ค่ายที่น่าสงสาร คริคริ
หัวข้อ: Re: ต้นทุน Toyota กับ honda
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ เมษายน 18, 2017, 08:41:39
ต้นทุน มีหลายส่วนนะครับ เช่น ต้นทุนการผลิต คน การตลาด

แต่สินค้ามีตัวเดียว คือรถ ฉะนั้นเวลาคิดต้นทุน เค้าต้องรวมมาหมดครับ ไม่งั้นบริษัทจะมีกำไรได้ยังไง