Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dark Overlord ที่ เมษายน 20, 2017, 14:17:22
-
ไฟดูดเนื่องจากไฟฟ้าสถิต เรื่องธรรมด๊าธรรมดา แต่มันกลับไม่ธรรมดา
ไฟฟ้าสถิตฟังดูก็เป็นเรื่องปกติ เดินอยู่ในห้างก็เจอได้บ่อยๆ ช็อตเพราะถูกผิวอีกฝ่าย
ช็อตเพราะแตะโดนรถเข็น
เขียนนำมายังกับคอลัมน์ในหนังสือ แหะๆ
เรื่องมีอยู่ว่าผมเคยใช้ Mitsubishi Mirage อยู่ประมาณ 1 ปีครับ
พร้อมๆ กับใช้รถรุ่นอื่นๆ อยู่ 2-3 รุ่น ในเวลานั้น รถที่แตะแล้วช็อตถึงขนาดได้ยิน
เสียงเปรี๊ยะก็คือ Mirage นี่แหล่ะครับ เจ็บนะครับไม่ใช่ไม่เจ็บ
ในขณะที่รถอื่นที่ผมใช้ไม่เป็น ซึ่งเรื่องนี้ที่จริงมันนานมาแล้ว
แต่พอดีวันนี้ผมลองไปอ่านในคลับดู ซึ่งผมไม่เคยเข้ามาก่อน ปรากฎว่าเป็นกัน
หลายคนครับ คราวนี้ต้องแยกเรื่องดีๆ นะครับ
เรื่องแรก ไฟฟ้าสถิตในแต่ละคนแรงมากน้อยต่างกัน บางคนไม่เคยช็อตเลย นี่ก็เรื่องนึง
เรื่องสอง Mirage เป็นรถที่ทำให้คนที่ไม่เคยช็อตจากการใช้รถทั่วไป กลับมาช็อตได้นี่ก็อีกเรื่องนึง
อย่าจับสองเรื่องมารวมเข้าด้วยกันเป็นเรื่องเดียวกันโดยเด็ดขาดนะครับ
หลายคนชอบจับอะไรหลายๆ ประเด็นมารวมกันเป็นเรื่องเดียว ผลก็คือความสามารถ
ในการรับรู้ วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารได้แคบลง
ครับ ผมนึกย้อนกลับไปก็จำได้ว่า ตัวเองค่อนข้างเดือดร้อนกับ Mirage นี่มากพอสมควร
แต่อาจจะมีรถเปลี่ยนเลยไม่ต้องโดนมันบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่ใช้ก็เจอครับ ทั้งๆ ที่ Mirage
เป็นรถที่น่ารักและอุปกรณ์ครบเครื่องมากในยุคนั้น ในใจก็มีความคิดแว่บๆ ว่าน่าจับขายทิ้ง
เพราะเรื่องนี้เหมือนกันครับ
จากกระทู้ในคลับ คนที่เจอก็ค่อนข้างเดือดร้อน เมื่อพยายามหาทางแก้ไขด้วยการเข้าศูนย์
ศูนย์ก็แก้ไม่ได้ เมื่อร้องเรียนสำนักงานใหญ่ก็เงียบ หลายคนคิดว่าใช้ ground wire หรือ
volt stabilizer จะทำให้หายได้ใช่มั้ยครับ ไม่ครับ มันไม่หาย แต่ก็มีบางวิธีแก้ แต่เป็นแนวแก้ขัด
มากกว่าแก้ที่ตัวรถ (ซึ่งน่ารำคาญ) ซึ่งคุณกูเกิ้ลเจอได้ง่ายๆ เพียงแต่คำถามคือว่า Mitsu ทำอะไรตุกติกกับ
ตัวรถมาบ้าง ถึงได้ออกอาการแปลกกว่าชาวบ้านเขาแบบนี้
นี่ก็เป็นจุดนึงที่เกี่ยวกับการลดต้นทุนที่มองไม่เห็นของตัวรถครับ
และเป็นจุดที่นักวิจารณ์สำนักไหนในไทยก็คงไม่มาลงลึกแน่ (เรื่องแอร์ออโต้เกย์ยังไม่แตะต้องเลยสักสำนัก)
ซึ่งผมคิดว่า ที่สมาชิกบางคนบ่นว่าอยากขายทิ้ง มันก็เป็นแบบนั้นได้อยู่เหมือนกัน
เพราะมันดูดแบบไม่ธรรมดาเลย แล้วตัวผู้บริโภคจะทำยังไงได้บ้าง
ทำใจครับ เพราะสื่อที่เราสำผัสได้ก็มีสมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง
ช่วงล่าง อะไรแบบนี้ แต่ถ้าไปเจออะไรที่มันแก้ไม่ได้คือซวย และที่สำคัญคือตัวบริษัทไม่ดำเนิน
การใดๆ นี่คือน่ากลัวมาก
-
ของผม มาสด้า 2 โดนไฟดูดบ่อย
บางจังหวะค่อนข้างแรง สะดุ้งเลยครับ
-
ร่างกายบางคนจะสปาร์คแรงมาก
-
March กับ Almera ครับ ป้อกแป้กๆ ตลอด
-
March กับ Almera ครับ ป้อกแป้กๆ ตลอด
ผมใช้ อัลมีร่า ยืนยันครับ ลงรถจับขอบ แน้ด เลย
-
ผมวีโก้ เข้าหน้าหนาวทีไร เปิดประตูลงจากรถแล้วไม่อยากจับที่จับมือเพื่อปิดรถเลย สปาร์คแรงมาก สะดุ้งทุกทีมันจะเจ็บจี้ดๆ
-
ไม่เคยครับ
มีความน่าทดสอบทดลอง ::)
-
มาสด้า 2 ผมโดนบ่อยมาก เวลาที่ลงจากรถ
ที่ฮาคือตอนจ่ายค่าทางด่วน ยื่นแขนออกมาแล้วโดนซ๊อตเปรี้ยะ
คนเก็บค่าทางด่วนขำครับ
ผมคิดว่ามันเกิดจากเบาะผ้านะครับ
-
bluebird attesa ดูดทุกคนที่เปิดประตูเลยครับ ก็เลยขายครับ
สมั้ยนั้นไม่ได้นึกถึงสายกราวด์ ถ้าใส่คงช่วยได้บ้าง
-
ที่เป็นนี่คือจับโดนส่วนไหนกันครับ ผมยังไม่เคยเจอเลย แปลกดี เท่าที่ search ดูเป็นจากรถอะไรก็ได้นะครับ มักเป็นตอนเปิดประตูลงจากรถ แต่เห็นจขกท.บอกอีกสองคันไม่เป็น ไม่รู้วัสดุแผงประตูต่างกัน เช่น พลาสติกกับหนัง มีผลมั้ย การเท้าแขนทำให้เสียดสีบ่อยๆรึป่าว
วิธีแก้มีสเปรย์ น้ำยา จับกระจกก่อน ใช่เข่าหรือศอกดัน ถือกุญแจไว้สักพักตอนลงรถ แบบนี้ช่วยได้จริงมั้ย ลองมารีวิวให้ฟังอีกทีละกันนะครับถ้าเกิดอีก
ปล.เบาะผ้านี่ก็น่าสงสัยสุด
-
เคยเป็นเเต่นานเเล้วครับ เเอคคอร์ด ตาเพชร ยืนยันว่าเจ็บ +อารมณ์เสียจริงๆ
-
ที่ไทยผมไม่เคยโดนช็อตเลยครับ ไม่ว่าจะรถอะไร ที่บ้านก็มีรถหลายคันครับ
ตอนผมอยู่ออสเตรเลียโดนบ่อย รถ Proton ของผมโดนตลอด จนเวลาเปิดประตูผมจะเอาเข่าหรือขาแตะประตูก่อนเลย คิดว่าเป็นเพราะอากาศแห้งกับ Ground ของรถไม่ดีครับ คันอื่นๆมีบ้างนิดๆครับ
-
ที่จริงผมก็เป็นกับรถหลายๆ รุ่นครับ แต่นานๆ ที ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศความแห้งชื้น
แต่ Mirage คือเกือบ 100% ก็ใช้ผลักกระจกเอาครับ แต่เวลาจะกด
ปุ่มเข้าประตูของรุ่นท็อป นี่ก็โดนครับ จริงๆ จุถูรูดถูกังใช้ไปก็ได้ หรือหาทางแก้ขัดตามที่เน็ต
แนะนำก็ได้ แต่จริงๆ อยากให้มีวิธีแก้ที่ตัวรถมากกว่าครับ
-
เคยเป็นเเต่นานเเล้วครับ เเอคคอร์ด ตาเพชร ยืนยันว่าเจ็บ +อารมณ์เสียจริงๆ
ใช่ครับ อารมณ์เสียเหมือนถูกแกล้งช็อตไฟฟ้ายังไงยังงั้น
ถ้าสมัยนั้นผมใช้คันนี้เป็นหลัก ผมคงมาบ่นในเว็บแล้ว แต่พอดีพอเปลี่ยนไปคันอื่น
ก็ลืมๆ มันไป กลับมาใช้อีกก็โดนช็อตอีก 555
-
honda city ผมเจอประจำ ดูดแรงมากด้วย ดูดเอาเดือนกุมภา-เมษา ไม่รู้จะมาสถิตอะไรมากมายไม่รู้ รถอื่นผมไม่เห็นเป็น เป็นแต่คันนี้เป็นรถญาติๆมาจอดไว้ เลยเอาไปอุ่นเครื่องบ้าง
ผมเองยังงงๆอยู่ว่าทำไม
ส่วนสตาด้า เคยเป็นบางช่วงที่หนาวๆ เสียบกุญแจเปิดรถทีสะดุ้ง(กุญแจเหล็กเปลือย) แล้วพอเลยช่วงหน้าหนาวก็ไม่เป็น
-
ผมโดนช๊อตทุกคันในบ้านแถมช๊อตแรงอีกตั้งหาก เวลาอากาศแห้งๆ ในฤดูหนาว
จนระแวงก่อนจะเปิดประตูรถหน้าหนาวต้องเอาเท้าแตะพื้นก่อนจับที่เปิดประตูทุกที
-
Hr-v ผมก็เป็นครับ แต่ไม่แรง แค่รู้สึกได้ว่าดูดดังแป๊ะเล็กๆ เดาว่าคงเป็นเพราะระบบไฟฟ้าของรถสมัยนี้มันเพิ่มมากขึ้น
-
อากาศหนาว แห้ง รวมถึงเปิดแอร์แรงๆ
เบาะหนัง น่าจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ง่าย
เสื้อผ้า ที่สังเกตูพวกผ้ามันๆลื่นๆจะเป็นบ่อย ปัจจัยพวกนี้แก้ยาก
อีกอย่างคือผิวเราแห้ง จากนอนดึก ดื่มน้ำน้อย ใช้วิธีทาโลชั่นช่วยครับ เน้นที่มือและแขน ส่วนตัวใช้ได้ผลครับ
ปล.แชมพูล้างรถที่บอกป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ได้ เคยใช้แล้วไม่ได้ผลครับ
-
อากาศหนาว แห้ง รวมถึงเปิดแอร์แรงๆ
เบาะหนัง น่าจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ง่าย
เสื้อผ้า ที่สังเกตูพวกผ้ามันๆลื่นๆจะเป็นบ่อย ปัจจัยพวกนี้แก้ยาก
อีกอย่างคือผิวเราแห้ง จากนอนดึก ดื่มน้ำน้อย ใช้วิธีทาโลชั่นช่วยครับ เน้นที่มือและแขน ส่วนตัวใช้ได้ผลครับ
ปล.แชมพูล้างรถที่บอกป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ได้ เคยใช้แล้วไม่ได้ผลครับ
ขอบคุณครับ
-
ใช้BT50ตัวแรก กับมาร์ชเจอเฉพาะตอนหน้าหนาวครับจนถึงปลายเดือนมีนาปีนี้ ช่วงนี้ไม่เจอเพราะเข้าฤดูร้อนมากแล้ว ตอนโดนดูดรำคาญมากครับจิตตกเลยที่เดียวต้องคอยระวังตอนเปิดประตูรถ :'(
-
ผมนี่แหละที่ขายรถทิ้งเพราะไฟดูด เป็น camry acv41 extremo โดนเกือบทุกครั้งจนหวาดระแวง แฟนนั่งข้างๆก็โดนครับ พยายามหาวิธีแก้หลายอย่างก็ไม่หาย บางคนอาจจะมองว่าเรื่องเล็กน้อย แต่มันหงุดหงิดมากทุกครั้งที่โดน เจ็บไม่ใช่เล่นนะครับ สะดุ้งจนคนเดินผ่านไปมาหัวเราะกันใหญ่ ทนไม่ไหวขายดีกว่าครับ ตอนนี้ใช้ mazda2 diesel ไม่เคยถูกไฟดูดอีกเลย ขับมันส์มาก คล่องแคล่วแถมประหยัดน้ำมันกว่า camy สุดๆ mazda2 ตัวเก่าก็ไฟดูดนะครับ แต่พอไปเปลี่ยนเป็นเบาะหนังแท้ หายไปเลยครับ ผมว่าไฟฟ้าสถิตย์น่าจะมีสาเหตุจากตัวรถมากกว่าตัวคนขับนะ
-
benz bmw มีระบบป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ครับ รถพวกนี้ไม่ช้อตแน่นอน
-
Camry 2.4V ก่อน Hybrid ผมโดนดูดทุกครั้งที่ลงจากรถ โดยเฉพาะเวลาขับเอง เข้าใจว่าเป็นที่ระบบแอร์พลาสท่าคลัสเตอร์(มีเฉพาะในชาร์ป55) เพราะรถคันอื่นๆ ผมไม่เคยโดนครับ
เวลาขับคันนี้ทีไร ผมจะหลอนทุกที เพราะไฟฟ้าสถิตดูดผมค่อนข้างแรง ดังเปรี๊ยะๆ เลย เวลาลงจากรถแล้วจะปิดประตู ผมใช้นิ้วดันที่กระจกแทนที่จะดันประตู ดีนะประตูมันเบา ดันกระจกก็ปิดประตูได้ละ
-
เป็นประจำครับ จริงๆแล้วถ้าเป็นคนผิวแห้งจะยิ่งเพิ่มโอกาสการถูกช๊อต(แลกเปลี่ยนประจุ)นะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมแนะนำว่าถ้าเอาชัวร์เวลาดึงมือจับ เอาเหรียญหรือกุญแจแตะเพื่อคลายประจุก่อนได้ครับ
ใช้ได้ทั้งรถ มือจับประตูทั้งหลายเลย
-
เป็นทุกคันเลยครับ กับโลหะบางอย่างที่ไม่ใช่รถก้อเป็น ใครไม่เคยเป็นแนะนำไปเดินห้างแฟชั่นฯ รามอินทรา กม.8
เดินๆยุไปจับไหล่แฟน มันช๊อตแบบเปรี๊ยะมีประกายไฟ เจ็บครับ แต่ที่แย่กว่าคือตกใจ+หลอน
-
Jazz JP ส้มของผมนี่แหละครับ ดูดโคตรแรง ดูดต๊าบๆทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้ง ถ้าขับนานๆดูดแน่ บางครั้งดูดเสร็จแล้วลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน แล้วเอารถเข้าบ้านลงมาอีกทีก็ดูดอีกบ่อยไป :'(
ทุกวันนี้ พอเปิดประตูรถลงไปปุ๊บ ต้องเอาหัวไหล่ที่เป็นเสื้อชนประตูก่อนให้มันดังต๊าบก่อน แล้วค่อยปิดประตูจนเป็นนิสัยไปละ
แต่ถ้าจังหวะรีบๆเผลอลืมก็...ต๊าบ@#$%!
-
เอ้ย ผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีก มีคนเป็นแบบผมด้วย 555+
อาการของผมคล้ายกับจขกท.เลยครับ เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าไฟฟ้าสถิตเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่อยู่ดีๆ จากที่ผมไม่เคยกลัว แถมตลกด้วยซ้ำที่นานๆเจอที
พอมาใช้ชีวิตอยู่กับอัลเมร่าปุ๊ป(ของตัวเองด้วยนะครับ 555+) แรกๆก็ไม่เป็นครับ แต่พอเริ่มเป็นเท่านั้นแหละ
มันเริ่มเป็นบ่อยขึ้นๆ บ่อยซะจนหลอนและกลัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
กลัวซะจนกระทั่ง ถ้าจะเปิดประตูเพื่อเข้ารถหรือปิดประตูตอนออกจากรถ ผมเอานิ้วแตะกระจกหรือส่วนไหนก็ได้ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าก่อนปิดประตูทุกครั้ง
ทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่เลยครับ 555+ 8) 8) 8)
-
ชินละ 5555+
-
เป็นหลายรุ่นนะครับนี่
เอ้ย ผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีก มีคนเป็นแบบผมด้วย 555+
อาการของผมคล้ายกับจขกท.เลยครับ เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าไฟฟ้าสถิตเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่อยู่ดีๆ จากที่ผมไม่เคยกลัว แถมตลกด้วยซ้ำที่นานๆเจอที
พอมาใช้ชีวิตอยู่กับอัลเมร่าปุ๊ป(ของตัวเองด้วยนะครับ 555+) แรกๆก็ไม่เป็นครับ แต่พอเริ่มเป็นเท่านั้นแหละ
มันเริ่มเป็นบ่อยขึ้นๆ บ่อยซะจนหลอนและกลัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
กลัวซะจนกระทั่ง ถ้าจะเปิดประตูเพื่อเข้ารถหรือปิดประตูตอนออกจากรถ ผมเอานิ้วแตะกระจกหรือส่วนไหนก็ได้ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าก่อนปิดประตูทุกครั้ง
ทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่เลยครับ 555+ 8) 8) 8)
Jazz JP ส้มของผมนี่แหละครับ ดูดโคตรแรง ดูดต๊าบๆทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้ง ถ้าขับนานๆดูดแน่ บางครั้งดูดเสร็จแล้วลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน แล้วเอารถเข้าบ้านลงมาอีกทีก็ดูดอีกบ่อยไป :'(
ทุกวันนี้ พอเปิดประตูรถลงไปปุ๊บ ต้องเอาหัวไหล่ที่เป็นเสื้อชนประตูก่อนให้มันดังต๊าบก่อน แล้วค่อยปิดประตูจนเป็นนิสัยไปละ
แต่ถ้าจังหวะรีบๆเผลอลืมก็...ต๊าบ@#$%!
โอ้โห โหดจริงครับ
Camry 2.4V ก่อน Hybrid ผมโดนดูดทุกครั้งที่ลงจากรถ โดยเฉพาะเวลาขับเอง เข้าใจว่าเป็นที่ระบบแอร์พลาสท่าคลัสเตอร์(มีเฉพาะในชาร์ป55) เพราะรถคันอื่นๆ ผมไม่เคยโดนครับ
เวลาขับคันนี้ทีไร ผมจะหลอนทุกที เพราะไฟฟ้าสถิตดูดผมค่อนข้างแรง ดังเปรี๊ยะๆ เลย เวลาลงจากรถแล้วจะปิดประตู ผมใช้นิ้วดันที่กระจกแทนที่จะดันประตู ดีนะประตูมันเบา ดันกระจกก็ปิดประตูได้ละ
ของผมไม่เป็นเลย
ใช้รถมา 6-7 รุ่น ผมโดน Mirage คันเดียวครับ
ส่วน Honda ยังไม่เคยใช้สักรุ่น เลยไม่รู้มีรุ่นไหนช็อตบ้าง
-
ถึงกับขายรถทิ้งกันเลยหรือ??? :)
อาการไฟดูดแบบนั้เป็นได้กับรถยนต์ทั่วไปแทบทุกคันล่ะครับ
ไม่ใช่เป็นที่รถ ไม่ใช่ไฟฟ้าจากรถ ไม่ใช่สายกราวด์ไม่ดี ไปต่อกราวด์อะไรก็ไม่หาย
มันเกิดจากปรากฎการณ์ การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ - static electricity
(ส่วนที่เรารู้จักกันทั่วไปนั่นคือ ไฟฟ้ากระแส - current electricity)
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่เรารู้จักกันทั่วไปส่วนใหญ่นั้น เกิดจากการที่วัตถุสองชนิดที่อยู่ติดกันเมื่อแยกจากกัน
วัตถุหนึ่งจะได้อิเลคตรอนมาเสมือนมีไฟฟ้าขั้วลบ ส่วนที่เสียอิเลคตรอนก็เสมือนมีไฟฟ้าขั้วบวกอยู่
(ส่วนถ้ามีการถูซ้ำๆ ก็เหมือนทำให้เกิดการทำซ้ำๆ เกิดการสะสมประจุมากขึ้น)
ส่วนการเกิดไฟดูด ค้นหาอ่านในเรื่อง static electricity shock ก็คือผลจากการคายถ่ายประจุอย่างรวดเร็ว
เช่น ตอนเอามือไปจับโลหะต่างๆ
ขณะนั่งขับรถ เสื้อผ้าผู้ขับจะสัมผัสขัดสีกับเบาะเก้าอ๊้
ทำให้เกิดการสะสมประจุแล้วเมื่อลุกจากเบาะก็ถ่ายทอดมาที่ตัวคนขับ
เสมือนตัว capacitorที่มีประจุไฟ สามารถทำให้เกิดไฟฟ้า(ความต่างศักดิ์)ได้หลายพันโวลท์
แต่พลังงานต่ำไม่ถึงกับอันตรายต่อชีวิตเมื่อเกิดการshock
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์เกิดง่ายในที่อากาศแห้ง+เย็น ในบ้านเรายามหน้าหนาวจึงพบไฟดูดแบบนี้บ่อยๆ
ในห้องโดยสารที่เปิดแอร์ก็น่าจะทำให้เกิดง่ายขึ้น
มีคำแนะนำ ก่อนออกจากรถให้ใช้มือทาบจับกระจกเพื่อเป็นการถ่ายประจุอย่างช้าๆ ก่อนเปิดประตูออกไป
อีกคำแนะนำให้ใช้การจับเฟรมเหล็กขอบประตูก่อนลุกจากเบาะ จับตลอดเวลาจนก้าวออกพ้นตัวรถ
แต่อันนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจนัก
ส่วนรถที่มีฮีทเตอร์ ถ้าไม่เปิดแอร์ให้เย็นนัก เปิดฮีทเตอร์ให้อุ่น ความ๙ื้นในห้องดดยสารไม่แห้งเกินไปพอจะช่วยได้ไหม?
ส่วนผู้ที่เป็นภายนอกรถ ก็ให้นึกถึงการนั่งพวกอุปกรณ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์ โซฟา/เก้าอี้ก่อนจะขึ้นรถ
การเดินบนบางพื้นผิวนั้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่รองเท้าถ่ายมาที่ตัวได้ มีคำแนะนำให้ใช้รองเท้าที่ส้นเป็นหนัง(Leather)??
(เดินเท้าเปล่าบนพื้นปูนไม่เกิด)
ยิ่งถ้าเป็นการเข็นรถเข็นเดินห้าง จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่ล้อรถเข็น มีคำแนะนำให้เดินถือกุญแจ
แล้วใช้กุญแจไปแตะโลหะอื่นตอนถ่ายประจุ แทนจากมือไปจับโลหะอื่นแล้วเกิดไฟดูด
-
แถมอีกนิด สำหรับวัตถุใดจะสามารถเป็นประจุลบ ประจุบวก มากกว่ากัน ขึ้นกับชนิดของวัตถุนั้น
จัดแบ่งเรียกว่า Triboelectric series
..ยิ่งแต่เอาปลายๆสุดของแต่ล่ะด้านมาขัดสีกัน น่าจะเกิดประจุเยอะ
(เหล็ก=0,ไม้ก็เกือบ0)
เผื่อเป็นประโยชน์ในการลดการเกิดไฟดูด...
จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Triboelectric_effect
-
ถึงกับขายรถทิ้งกันเลยหรือ??? :)
อาการไฟดูดแบบนั้เป็นได้กับรถยนต์ทั่วไปแทบทุกคันล่ะครับ
ไม่ใช่เป็นที่รถ ไม่ใช่ไฟฟ้าจากรถ ไม่ใช่สายกราวด์ไม่ดี ไปต่อกราวด์อะไรก็ไม่หาย
มันเกิดจากปรากฎการณ์ การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ - static electricity
(ส่วนที่เรารู้จักกันทั่วไปนั่นคือ ไฟฟ้ากระแส - current electricity)
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่เรารู้จักกันทั่วไปส่วนใหญ่นั้น เกิดจากการที่วัตถุสองชนิดที่อยู่ติดกันเมื่อแยกจากกัน
วัตถุหนึ่งจะได้อิเลคตรอนมาเสมือนมีไฟฟ้าขั้วลบ ส่วนที่เสียอิเลคตรอนก็เสมือนมีไฟฟ้าขั้วบวกอยู่
(ส่วนถ้ามีการถูซ้ำๆ ก็เหมือนทำให้เกิดการทำซ้ำๆ เกิดการสะสมประจุมากขึ้น)
ส่วนการเกิดไฟดูด ค้นหาอ่านในเรื่อง static electricity shock ก็คือผลจากการคายถ่ายประจุอย่างรวดเร็ว
เช่น ตอนเอามือไปจับโลหะต่างๆ
ขณะนั่งขับรถ เสื้อผ้าผู้ขับจะสัมผัสขัดสีกับเบาะเก้าอ๊้
ทำให้เกิดการสะสมประจุแล้วเมื่อลุกจากเบาะก็ถ่ายทอดมาที่ตัวคนขับ
เสมือนตัว capacitorที่มีประจุไฟ สามารถทำให้เกิดไฟฟ้า(ความต่างศักดิ์)ได้หลายพันโวลท์
แต่พลังงานต่ำไม่ถึงกับอันตรายต่อชีวิตเมื่อเกิดการshock
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์เกิดง่ายในที่อากาศแห้ง+เย็น ในบ้านเรายามหน้าหนาวจึงพบไฟดูดแบบนี้บ่อยๆ
ในห้องโดยสารที่เปิดแอร์ก็น่าจะทำให้เกิดง่ายขึ้น
มีคำแนะนำ ก่อนออกจากรถให้ใช้มือทาบจับกระจกเพื่อเป็นการถ่ายประจุอย่างช้าๆ ก่อนเปิดประตูออกไป
อีกคำแนะนำให้ใช้การจับเฟรมเหล็กขอบประตูก่อนลุกจากเบาะ จับตลอดเวลาจนก้าวออกพ้นตัวรถ
แต่อันนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจนัก
ส่วนรถที่มีฮีทเตอร์ ถ้าไม่เปิดแอร์ให้เย็นนัก เปิดฮีทเตอร์ให้อุ่น ความ๙ื้นในห้องดดยสารไม่แห้งเกินไปพอจะช่วยได้ไหม?
ส่วนผู้ที่เป็นภายนอกรถ ก็ให้นึกถึงการนั่งพวกอุปกรณ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์ โซฟา/เก้าอี้ก่อนจะขึ้นรถ
การเดินบนบางพื้นผิวนั้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่รองเท้าถ่ายมาที่ตัวได้ มีคำแนะนำให้ใช้รองเท้าที่ส้นเป็นหนัง(Leather)??
(เดินเท้าเปล่าบนพื้นปูนไม่เกิด)
ยิ่งถ้าเป็นการเข็นรถเข็นเดินห้าง จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่ล้อรถเข็น มีคำแนะนำให้เดินถือกุญแจ
แล้วใช้กุญแจไปแตะโลหะอื่นตอนถ่ายประจุ แทนจากมือไปจับโลหะอื่นแล้วเกิดไฟดูด
ตามที่ผมเขียนดักไว้น่ะครับ
ต้องแยกเรื่องนิดนึง
ประเด็นมีสองประเด็น จะมารวมกันเป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้
ที่พี่ตอบมามันคือการตอบประเด็นแรกประเด็นเดียว
ส่วนประเด็นที่สอง คือว่าทำไมมันเป็นแค่รถบางรุ่นที่ช็อตกันมันกระจาย
ช็อตแรง และช็อตตลอด พวกนี้ล่ะครับที่คนทนไม่ไหวต้องขายทิ้งกัน เพราะเขาใช้อีกรุ่น
ที่ไม่ช็อตมันสบายใจกว่า
เพิ่มเติมครับ
ส่วนเรื่องที่ว่า เรื่องแค่นี้ถึงกับขายทิ้งขาดทุนเป็นแสนเลยเรอะ นี่ก็อีกเรื่องนึงนะครับ 555
อันนี้แล้วแต่คนเลย
-
ถึงกับขายรถทิ้งกันเลยหรือ??? :)
อาการไฟดูดแบบนั้เป็นได้กับรถยนต์ทั่วไปแทบทุกคันล่ะครับ
ไม่ใช่เป็นที่รถ ไม่ใช่ไฟฟ้าจากรถ ไม่ใช่สายกราวด์ไม่ดี ไปต่อกราวด์อะไรก็ไม่หาย
มันเกิดจากปรากฎการณ์ การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ - static electricity
(ส่วนที่เรารู้จักกันทั่วไปนั่นคือ ไฟฟ้ากระแส - current electricity)
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่เรารู้จักกันทั่วไปส่วนใหญ่นั้น เกิดจากการที่วัตถุสองชนิดที่อยู่ติดกันเมื่อแยกจากกัน
วัตถุหนึ่งจะได้อิเลคตรอนมาเสมือนมีไฟฟ้าขั้วลบ ส่วนที่เสียอิเลคตรอนก็เสมือนมีไฟฟ้าขั้วบวกอยู่
(ส่วนถ้ามีการถูซ้ำๆ ก็เหมือนทำให้เกิดการทำซ้ำๆ เกิดการสะสมประจุมากขึ้น)
ส่วนการเกิดไฟดูด ค้นหาอ่านในเรื่อง static electricity shock ก็คือผลจากการคายถ่ายประจุอย่างรวดเร็ว
เช่น ตอนเอามือไปจับโลหะต่างๆ
ขณะนั่งขับรถ เสื้อผ้าผู้ขับจะสัมผัสขัดสีกับเบาะเก้าอ๊้
ทำให้เกิดการสะสมประจุแล้วเมื่อลุกจากเบาะก็ถ่ายทอดมาที่ตัวคนขับ
เสมือนตัว capacitorที่มีประจุไฟ สามารถทำให้เกิดไฟฟ้า(ความต่างศักดิ์)ได้หลายพันโวลท์
แต่พลังงานต่ำไม่ถึงกับอันตรายต่อชีวิตเมื่อเกิดการshock
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์เกิดง่ายในที่อากาศแห้ง+เย็น ในบ้านเรายามหน้าหนาวจึงพบไฟดูดแบบนี้บ่อยๆ
ในห้องโดยสารที่เปิดแอร์ก็น่าจะทำให้เกิดง่ายขึ้น
มีคำแนะนำ ก่อนออกจากรถให้ใช้มือทาบจับกระจกเพื่อเป็นการถ่ายประจุอย่างช้าๆ ก่อนเปิดประตูออกไป
อีกคำแนะนำให้ใช้การจับเฟรมเหล็กขอบประตูก่อนลุกจากเบาะ จับตลอดเวลาจนก้าวออกพ้นตัวรถ
แต่อันนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจนัก
ส่วนรถที่มีฮีทเตอร์ ถ้าไม่เปิดแอร์ให้เย็นนัก เปิดฮีทเตอร์ให้อุ่น ความ๙ื้นในห้องดดยสารไม่แห้งเกินไปพอจะช่วยได้ไหม?
ส่วนผู้ที่เป็นภายนอกรถ ก็ให้นึกถึงการนั่งพวกอุปกรณ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์ โซฟา/เก้าอี้ก่อนจะขึ้นรถ
การเดินบนบางพื้นผิวนั้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่รองเท้าถ่ายมาที่ตัวได้ มีคำแนะนำให้ใช้รองเท้าที่ส้นเป็นหนัง(Leather)??
(เดินเท้าเปล่าบนพื้นปูนไม่เกิด)
ยิ่งถ้าเป็นการเข็นรถเข็นเดินห้าง จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่ล้อรถเข็น มีคำแนะนำให้เดินถือกุญแจ
แล้วใช้กุญแจไปแตะโลหะอื่นตอนถ่ายประจุ แทนจากมือไปจับโลหะอื่นแล้วเกิดไฟดูด
ตามที่ผมเขียนดักไว้น่ะครับ
ต้องแยกเรื่องนิดนึง
ประเด็นมีสองประเด็น จะมารวมกันเป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้
ที่พี่ตอบมามันคือการตอบประเด็นแรกประเด็นเดียว
ส่วนประเด็นที่สอง คือว่าทำไมมันเป็นแค่รถบางรุ่นที่ช็อตกันมันกระจาย
ช็อตแรง และช็อตตลอด พวกนี้ล่ะครับที่คนทนไม่ไหวต้องขายทิ้งกัน เพราะเขาใช้อีกรุ่น
ที่ไม่ช็อตมันสบายใจกว่า
ต้องไปดูว้สดุที่ใช้ทำเบาะ/ที่หุ้มเบาะ อุปกรณ์บุภายในห้องโดยสาร ของรถคันที่ว่ามีปัญหามากๆคันนั้นครับ
แต่...ต้องรวบรวมเป็นสถิติข้อมูลชัดเจนว่ามีปัญหามากกว่ายี่ห้อ/รุ่นอื่นจริงๆ ก่อน ให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
เพราะข้อมูลเสียงร้องจากในโซเชี่ยลมีเดีย ยังไม่สามารถรวบรวมให้ชัดเจน ไปสรุปเลยว่ามีปัญหาจริง
ต้องอาศัยมีผู้รวบรวมจริงๆก่อนครับ
และต้องในสถานการณ์แบบเดียวกัน เช่น กรณีนี้ก็ในฤดูหนาวแบบฤดูเดียวกัน เพื่อตัดตัวแปรต่างๆ
หลายเรื่องหลายปัญหาที่เกิดจากผู้ไม่ใช่ประสบปัญหาจริง -อ้างรถเพื่อน รถญาติ ฟังเขาพุูดกันมา ...มาร้องแทน
-
ถึงกับขายรถทิ้งกันเลยหรือ??? :)
อาการไฟดูดแบบนั้เป็นได้กับรถยนต์ทั่วไปแทบทุกคันล่ะครับ
ไม่ใช่เป็นที่รถ ไม่ใช่ไฟฟ้าจากรถ ไม่ใช่สายกราวด์ไม่ดี ไปต่อกราวด์อะไรก็ไม่หาย
มันเกิดจากปรากฎการณ์ การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ - static electricity
(ส่วนที่เรารู้จักกันทั่วไปนั่นคือ ไฟฟ้ากระแส - current electricity)
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่เรารู้จักกันทั่วไปส่วนใหญ่นั้น เกิดจากการที่วัตถุสองชนิดที่อยู่ติดกันเมื่อแยกจากกัน
วัตถุหนึ่งจะได้อิเลคตรอนมาเสมือนมีไฟฟ้าขั้วลบ ส่วนที่เสียอิเลคตรอนก็เสมือนมีไฟฟ้าขั้วบวกอยู่
(ส่วนถ้ามีการถูซ้ำๆ ก็เหมือนทำให้เกิดการทำซ้ำๆ เกิดการสะสมประจุมากขึ้น)
ส่วนการเกิดไฟดูด ค้นหาอ่านในเรื่อง static electricity shock ก็คือผลจากการคายถ่ายประจุอย่างรวดเร็ว
เช่น ตอนเอามือไปจับโลหะต่างๆ
ขณะนั่งขับรถ เสื้อผ้าผู้ขับจะสัมผัสขัดสีกับเบาะเก้าอ๊้
ทำให้เกิดการสะสมประจุแล้วเมื่อลุกจากเบาะก็ถ่ายทอดมาที่ตัวคนขับ
เสมือนตัว capacitorที่มีประจุไฟ สามารถทำให้เกิดไฟฟ้า(ความต่างศักดิ์)ได้หลายพันโวลท์
แต่พลังงานต่ำไม่ถึงกับอันตรายต่อชีวิตเมื่อเกิดการshock
การเกิดไฟฟ้าสถิตย์เกิดง่ายในที่อากาศแห้ง+เย็น ในบ้านเรายามหน้าหนาวจึงพบไฟดูดแบบนี้บ่อยๆ
ในห้องโดยสารที่เปิดแอร์ก็น่าจะทำให้เกิดง่ายขึ้น
มีคำแนะนำ ก่อนออกจากรถให้ใช้มือทาบจับกระจกเพื่อเป็นการถ่ายประจุอย่างช้าๆ ก่อนเปิดประตูออกไป
อีกคำแนะนำให้ใช้การจับเฟรมเหล็กขอบประตูก่อนลุกจากเบาะ จับตลอดเวลาจนก้าวออกพ้นตัวรถ
แต่อันนี้อ่านไม่ค่อยเข้าใจนัก
ส่วนรถที่มีฮีทเตอร์ ถ้าไม่เปิดแอร์ให้เย็นนัก เปิดฮีทเตอร์ให้อุ่น ความ๙ื้นในห้องดดยสารไม่แห้งเกินไปพอจะช่วยได้ไหม?
ส่วนผู้ที่เป็นภายนอกรถ ก็ให้นึกถึงการนั่งพวกอุปกรณ์เครื่องเฟอร์นิเจอร์ โซฟา/เก้าอี้ก่อนจะขึ้นรถ
การเดินบนบางพื้นผิวนั้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่รองเท้าถ่ายมาที่ตัวได้ มีคำแนะนำให้ใช้รองเท้าที่ส้นเป็นหนัง(Leather)??
(เดินเท้าเปล่าบนพื้นปูนไม่เกิด)
ยิ่งถ้าเป็นการเข็นรถเข็นเดินห้าง จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่ล้อรถเข็น มีคำแนะนำให้เดินถือกุญแจ
แล้วใช้กุญแจไปแตะโลหะอื่นตอนถ่ายประจุ แทนจากมือไปจับโลหะอื่นแล้วเกิดไฟดูด
ตามที่ผมเขียนดักไว้น่ะครับ
ต้องแยกเรื่องนิดนึง
ประเด็นมีสองประเด็น จะมารวมกันเป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้
ที่พี่ตอบมามันคือการตอบประเด็นแรกประเด็นเดียว
ส่วนประเด็นที่สอง คือว่าทำไมมันเป็นแค่รถบางรุ่นที่ช็อตกันมันกระจาย
ช็อตแรง และช็อตตลอด พวกนี้ล่ะครับที่คนทนไม่ไหวต้องขายทิ้งกัน เพราะเขาใช้อีกรุ่น
ที่ไม่ช็อตมันสบายใจกว่า
ต้องไปดูว้สดุที่ใช้ทำเบาะ/ที่หุ้มเบาะ อุปกรณ์บุภายในห้องโดยสาร ของรถคันที่ว่ามีปัญหามากๆคันนั้นครับ
แต่...ต้องรวบรวมเป็นสถิติข้อมูลชัดเจนว่ามีปัญหามากกว่ายี่ห้อ/รุ่นอื่นจริงๆ ก่อน ให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง
เพราะข้อมูลเสียงร้องจากในโซเชี่ยลมีเดีย ยังไม่สามารถรวบรวมให้ชัดเจน ไปสรุปเลยว่ามีปัญหาจริง
ต้องอาศัยมีผู้รวบรวมจริงๆก่อนครับ
และต้องในสถานการณ์แบบเดียวกัน เช่น กรณีนี้ก็ในฤดูหนาวแบบฤดูเดียวกัน เพื่อตัดตัวแปรต่างๆ
หลายเรื่องหลายปัญหาที่เกิดจากผู้ไม่ใช่ประสบปัญหาจริง -อ้างรถเพื่อน รถญาติ ฟังเขาพุูดกันมา ...มาร้องแทน
มันเกี่ยวกับพวกชั้นสีด้วยมั้ยครับ
ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าไม่รู้ แต่รุ่นไหนที่ดูสีบางๆ โค้ทบางๆ
ดูจะดูดง่ายกว่า เหมือนเราจับไปที่เนื้อเหล็กเพียวๆ กับรถเข็นที่ห้างน่ะครับ
แต่ผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้ผู้ผลิตไม่แก้ไขแน่ๆ เพราะมันไม่ได้เกิดกับทุกคน แต่คนที่
sensitive มากกว่า จะผิวแห้ง หรือกินน้ำน้อยนอนดึกอะไรก็แล้วแต่ เขาจะแยกได้ว่า
รุ่นไหนช็อตจริงช็อตจัง ส่วนผมโชคดีครับ เปลี่ยนรถมาเรื่อยๆ แต่เจอกับ Mirage รุ่นเดียว
-
รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ
สมาชิกที่เป็นวิศวกรไฟฟ้าหรือผู้รู้ด้านนี้ น่าจะช่วยให้ข้อมูล/ความเห็นเพิ่มเติมได้ดีกว่านะครับ
-
รายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ
สมาชิกที่เป็นวิศวกรไฟฟ้าหรือผู้รู้ด้านนี้ น่าจะช่วยให้ข้อมูล/ความเห็นเพิ่มเติมได้ดีกว่านะครับ
ครับ ถ้าตอบได้ว่ารุ่นนึงช็อตง่ายกว่าอีกคันนึงเพราะอะไร นี่จบเลย
-
มีวิธีช่วยลดการสปาร์คครับ คือคุณเอาทั้งฝ่ามือไปแตะตัวถังก่อน ให้คลายประจุ คือมันก็แป๊ะๆเหมือนกันแต่เพราะหนังที่ฝ่ามือมันหนากว่ามันจะเจ็บน้อยกว่าที่ปลายนิ้วครับ ผมเนี่ยเปรี๊ยะบ่อยมาก จับอะไรในออฟฟิศก็เปรี๊ยะไปหมด
-
มีวิธีช่วยลดการสปาร์คครับ คือคุณเอาทั้งฝ่ามือไปแตะตัวถังก่อน ให้คลายประจุ คือมันก็แป๊ะๆเหมือนกันแต่เพราะหนังที่ฝ่ามือมันหนากว่ามันจะเจ็บน้อยกว่าที่ปลายนิ้วครับ ผมเนี่ยเปรี๊ยะบ่อยมาก จับอะไรในออฟฟิศก็เปรี๊ยะไปหมด
ขอบคุณครับ
-
ผมโดนไฟฟ้าสถิตย์ดูดบ่อยครับ ผมมักจะโดนดูดกับพวก รถเข็น Supermarket ,ราวกันตกในห้างที่เป็นอะลูมิเนียมหรือเหล็ก, มือจับเปิดประตูตามห้าง อะไรประมาณนี้ ส่วนสาเหตุมีคนเคยบอกว่า เป็นเพราะ ผมเดินลากเท้า (นิสัยเสียมากๆ ;D) ตอนนี้ก็มีระแวงบ้างครับ
แต่มันแปลกตรงที่ เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยโดนดูดจากการเปิดประตูรถเลยนะ ทั้งรถที่ใช้ กุญแจไขธรรมดา กุญแจรีโมท หรือ Smart Key อันนี้จริงๆนะ หรือว่ามันดูดแต่มือผมด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน :D
-
ผมโดนไฟฟ้าสถิตย์ดูดบ่อยครับ ผมมักจะโดนดูดกับพวก รถเข็น Supermarket ,ราวกันตกในห้างที่เป็นอะลูมิเนียมหรือเหล็ก, มือจับเปิดประตูตามห้าง อะไรประมาณนี้ ส่วนสาเหตุมีคนเคยบอกว่า เป็นเพราะ ผมเดินลากเท้า (นิสัยเสียมากๆ ;D) ตอนนี้ก็มีระแวงบ้างครับ
แต่มันแปลกตรงที่ เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยโดนดูดจากการเปิดประตูรถเลยนะ ทั้งรถที่ใช้ กุญแจไขธรรมดา กุญแจรีโมท หรือ Smart Key อันนี้จริงๆนะ หรือว่ามันดูดแต่มือผมด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน :D
แบบนี้น่ามาลองกับมิราจครับ พี่เฉยอีกแปลว่าไม่มีอะไรทำให้พี่โดนดูดได้ ;D
-
ผมโดนไฟฟ้าสถิตย์ดูดบ่อยครับ ผมมักจะโดนดูดกับพวก รถเข็น Supermarket ,ราวกันตกในห้างที่เป็นอะลูมิเนียมหรือเหล็ก, มือจับเปิดประตูตามห้าง อะไรประมาณนี้ ส่วนสาเหตุมีคนเคยบอกว่า เป็นเพราะ ผมเดินลากเท้า (นิสัยเสียมากๆ ;D) ตอนนี้ก็มีระแวงบ้างครับ
แต่มันแปลกตรงที่ เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยโดนดูดจากการเปิดประตูรถเลยนะ ทั้งรถที่ใช้ กุญแจไขธรรมดา กุญแจรีโมท หรือ Smart Key อันนี้จริงๆนะ หรือว่ามันดูดแต่มือผมด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน :D
เปลี่ยนชนิดของรองเท้าช่วยได้ครับ
ป้องกันช็อคจากรถเข็น...ก็มีวิธีป้องกัน
หรืออื่นๆกับไฟฟ้าสถิตย์ดูดในชีวิตประจำวัน
ที่นี่ครับ
http://www.electrostatics.net/articles/static_shocks.htm
-
ผมเปนประจำกีบมาสด้าสองของผม เวลาลงรถมาไปแตะประตู ช้อตเปรียะๆเลยคับ ทำให้พารานอยดมาก หรือว่าผมมีไฟฟ้าในตัวเยอะก้ไม่รุ้
-
ผมเปนประจำกีบมาสด้าสองของผม เวลาลงรถมาไปแตะประตู ช้อตเปรียะๆเลยคับ ทำให้พารานอยดมาก หรือว่าผมมีไฟฟ้าในตัวเยอะก้ไม่รุ้
พารานอยด์จริงครับ
-
ในห้างนี่ประจำเลยโคตรน่ารำคาญ
แต่กับรถยังไม่เคยครับ
-
Accord ท้ายก้อนที่ใช้อยู่ เป็นบางครั้งครับ แต่เป็นเฉพาะบริเวณกรอบกระจกท เลยติดนิสัยเรื่องการปิดประตูรถตั้งแต่นั้นมา คือจะแตะเฉพาะส่วนที่เป็นบานประตูเท่านั้น ไม่แตะกรอบกระจกด้านบนเลย
-
Accord ท้ายก้อนที่ใช้อยู่ เป็นบางครั้งครับ แต่เป็นเฉพาะบริเวณกรอบกระจกท เลยติดนิสัยเรื่องการปิดประตูรถตั้งแต่นั้นมา คือจะแตะเฉพาะส่วนที่เป็นบานประตูเท่านั้น ไม่แตะกรอบกระจกด้านบนเลย
ขอบคุณครับ เป็นกันเยอะเลย