Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Xyclop ที่ เมษายน 23, 2017, 21:02:53
-
https://youtu.be/7B0VpJGdz40
ใครมี ปสก ขับรถ AWD ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ
-
เนื่องจาก CRV 4WD is not full time 4 wheel drive โดยสภาวะปกติจะเป็น FWD
เมื่อเข้าเงื่อนไข... ตามที่วิศวกรฮอนด้า โปรแกรมไว้ ระบบส่งกำลัง จะถ่ายทอดกำลังผ่านทางชุดระบบส่งกำลังขับสี่ของฮอนด้า ไปยังล้อคู่หลังด้วย กี่ % ก็ว่ากันไปตามเงื่อนไขที่ วิศวกรฮอนด้า โปรแกรมไว้ และเมื่อล้อหลังมีกำลัง และเกิดเงื่อนเพิ่มเติมคือ หมุนฟรี ระบบจะต้องตรวจจับได้ อย่างรวดเร็ว และส่งแรงเบรคไปจับล้อนั้น แล้วส่งกำลังที่เหลือไปอีกล้อ ที่ยังมีแรงเสียดทาน เพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรค ถ้าจะให้ดี ควรจะปิด Traction control and VSA ได้ด้วย
ผมเข้าใจตามนี้ เชิญเซียนขับสี่ มาอธิบายเพิ่มเติม/แก้ไข หน่อยครับ
ในเวปนั้นที่ ramp เดียวกัน CX-5 ที่เป็น not full time 4 wheel drive same as CRV 4WD สามารถผ่านไปได้ แต่ CX-9 ไม่รอดซะงั้น
ส่วน Forester ที่เป็น full time 4 wheel drive ผ่านได้สบายๆ ทั้ง X-mode 0n/off
X1 and Escape ก็ชิวๆ
-
ระบบ awd ที่ดี มันต้องเป็นยังงัยครับ ช่วยอธิบายหน่อย เด๋วล้อหน้าspin เด๋วล้อหลังspin
มันคืออ ะไรกันแน่
-
ระบบ 4wd ของCRV 2014ในอดีต ก็เคยทดสอบล้มเหลว โดยสื่อดังที่ทดสอบmoose test
http://teknikensvarld.se/honda-cr-v-4wd-system-is-not-working-again-163708/
อ่านคำตอบกลับของHondaสวีเดน คำอธิบาย ในส่วนล่างๆด้วยครับ
-
CRV รุ่นก่อนที่เป็น AWD ในยามปกติจะขับเคลื่อนล้อหน้า และเมื่อล้อหน้ามีอาการหมุนฟรีก็ถ่ายแรงบางส่วนมาที่ล้อคู่หลัง ซึ่งอาจจะถ่ายมา 10 หรือ 20% เพื่อให้ล้อหลังมีแรงยึดเกาะถนนช่วยในการทรงตัวเวลาวิ่งทางเรียบ
แต่ในสถานการณ์กึ่ง off-road มันไม่เพียงพอที่จะให้ผ่านอุปสรรคเช่นหล่มโคลนหรือหิมะไปได้
ตัวใหม่นี้เหมือนเขาจะเทสให้ดูคร่าวๆว่าในกรณีที่ล้อหน้าฟรี ระบบจะส่งแรงขับเคลื่อนมายังล้อคู่หลังมากขึ้น (ไม่รู้ว่าส่งมากี่ %) แต่ก็มีแรงมากพอจะเคลื่อนรถข้ามอุปสรรคต่อไปได้
ลักษณะการขับแบบลุยๆหน่อยก็จะดีขึ้นกว่าตัวก่อนๆครับ
ซึ่งถ้าเทียบกับรถที่เป็น Fulltime AWD อย่าง Subaru, Audi Quatto, Mitsubishi PJS ตัวใหม่(โหมด Fulltime AWD)และ Lancer EVO ที่กระจายแรงบิดล้อล้อคู่หน้าและหลังเฉลี่ยเท่าๆกัน
แม้ล้อคู่หน้าจะเกิดอาการหมุนฟรี แต่ล้อคู่หลังก็ยังมีแรงบิดเหลือจากเครื่องอีก 40-50 % ทำให้ขับผ่านถนนลื่น ขึ้นทางชันๆ ผ่านหล่มโคลนหรือหิมะได้ราบลื่นกว่า
และในบางรุ่นสามารถถ่ายแรงไปล้อคู่หน้าหรือหลัง หรือถ่ายไปล้อข้างซ้ายหรือขวาได้แบบอิสระ 100% ด้วย โดยอาศัยระบบตัวช่วยเพิ่มเติม (เช่นระบบ Torque Vectoring) เพื่อช่วยแก้อาการเวลาเสียการทรงตัว หรือช่วยให้เข้าโค้งได้ไวและเกาะขึ้น
Nissan X-Trail ก็สามารถเข้าโหมดวิ่งแบบกระจายแรงบิดหน้าหลัง 50:50 ได้ แต่ได้ความเร็วไม่เกิน 60 Km/h (ไว้ใช้ตอนเที่ยวป่า)
จริงๆ Fortuner ตัว BMC ตัวก่อนก็เป็น Fulltime AWD เหมือนกันแต่จะส่งกำลังล้อหลัง/ล้อหน้า 70:30 เพื่อเน้นการขับให้เหมือนกับรถขับหลังครับ
-
ผมจำได้ว่าสื่อนึงในต่างประเทศเอา CR-V ไปทดสอบ
และผลปรากฎว่า AWD ของ CR-V ห่วยครับ ไม่สามารถผ่านทางที่น่าจะผ่านได้แม้ว่าจะง่ายๆ
ผมก็เลยจำไว้ว่า AWD ค่ายนี้ไม่น่าซื้อ ซื้อตัวขับสองดีกว่า
-
AWD ของ CRV มันมาในแง่ความปลอดภัย ไม่ใช่เอาไว้ลุยนิครับ
แก้อาการให้รถดีขึ้น ไม่ลื่น ไม่เป๋เวลาลงแอ่งน้ำ กันเหิรน้ำ กันล้อหมุ่นฟรีกลางโค้ง
แค่นั้นจริงๆ
มันไม่ได้เอาไว้ลุยโหดๆแบบ PPV หรือกระบะ ที่เอาไปลุยป่ากัน
และก็ไม่ได้เกาะสุดๆ เน้นขับขี่แบบซูฯ
เอาง่ายๆว่ามันคือ AWD มุ้งมิ้ง ช่วยแก้สถานการณ์คับขันล่ะกันครับ
แต่ยังคนละชั้นกับ Subaru หรือ Audi
และไม่สามารถออฟโรดหนักๆได้ แค่โคลนลื่นๆนิดหน่อยเท่านั้น
-
แต่ไหนแต่ไรขับ AWD ของฮอนด้าก็ไม่ใช่เอาไว้ลุยตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
เหมือนเอาไว้ช่วยเหลือพวกตัวช่วยเหลืออื่นๆมากกว่า ในความคิดผมนะ
ในคลิป ตปท ระบบเทคโนโลยี ป้องกันการชน ของฮอนด้าออกมาดีกว่าชาวบ้านชาวช่องพอสมควร
ที่ผมจะสื่อคือ เทคโนโลยีความปลอดภัยไม่เป็นรองใคร แต่เรื่องลุยไม่ได้เด่นเท่าไรนัก
-
ดีกว่ารุ่นก่อน ยางเดิมๆ สู้cx5 xvได้ อย่าเทียบกับforester
crv รุ่นที่แล้วกับรุ่นนี้ ต้องตั้งคำสั่งในการลุยด้วยว่าวิ่งสภาพทางใด
ไม่งั้นระบบจะชดเชยกำลัง กันส่าย และเบรคabsทำงานไม่เหมาะสมได้
ถ้าเป็นcx5 ปิด trc
xv,forester กด x mode
รถจะคิดเองจากเซ็นเซอร์ที่ส่งเข้ามาที่ecu ต่อให้เหยียบคันเร่งเกิน
ระบบจะหน่วงไม่ให้ล้อฟรีเกินไป ลอยสองล้อยังไปได้
แต่ล้อเดียวมีเบนซ์ g wagon ที่ทำได้
จากภาพขึ้นได้ไม่ยากมาก ต่อให้รถ4x4 ก็ไม่ง่าย ล้อลอยต้องค่อยๆไปเหมือนกัน
การหมุนฟรีของล้อไม่มากและหน่วงให้หมุนช้าได้ ซึ่งรถรุ่นเก่าทำไม่ได้
มีเพียงเรนท์ คลาสสิค จีฟฟูลไทม์ ทำได้ แต่รถล้านกว่าทำได้ใกล้เคียงแล้ว
ยังไม่นับการลดลมยางช่วยอีก ปรกติการไต่ทางชัน ต้องลมยางอ่อนกว่าถนนดำ
เพื่อสร้างการยึดเกาะ ลดอาการดีดของยางเมื่อเร่งเครื่อง
คันไหนมาเร็วมาก รถเหินได้ไม่ยาก การขับแบบออฟโรด ต้องให้รถไหลช้าๆ
เว้นแต่ขึ้นเนินยาวที่สามารถทำความเร็วได้ ไม่งั้นกลิ้งตกลงมา หรือดินถล่มรถร่วงได้
-
ไม่ได้เซอร์ไพรส์ หรือ ตกใจอะไร รู้ว่าระบบมันได้แค่ไหน ฉลาดแค่ไหน และขีดจำกัดมันมีแค่ไหนครับ
ต้องเปรียบเทียบกับรูปแบบหรือลักษณะเดียวกันครับ แล้วค่อยดูว่า มันเป็นยังไง
ผมลองเข้าไปดูคลิปอื่นๆ บางส่วน จากที่ จขกท. ยกมา เผื่อจะได้เข้าใจ เปรียบเทียบ และ เห็นกรณีอื่นๆ ด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=hbFaox-jZ5Y (https://www.youtube.com/watch?v=hbFaox-jZ5Y)
https://www.youtube.com/watch?v=AhacSO7uMys (https://www.youtube.com/watch?v=AhacSO7uMys)
https://www.youtube.com/watch?v=AI9lMky5lUU (https://www.youtube.com/watch?v=AI9lMky5lUU)
https://www.youtube.com/watch?v=2rAq6op_HMM (https://www.youtube.com/watch?v=2rAq6op_HMM)
https://www.youtube.com/watch?v=vMv_AXKLDXo (https://www.youtube.com/watch?v=vMv_AXKLDXo)
-
ขอบคุณครับ
Range กับ glc เจ๋งโคตรๆ
-
จากคลิปบางส่วนที่ยกมา ทำไมรู้สึกว่า CX-9 ดูผิดหวังสุด ขึ้นเนินหรือต่างระดับเดียวกันไม่ได้ คันอื่นๆ เขาขึ้นได้
เท่าที่สังเกตุ ในจังหวะล้อลอย มันอยู่ที่ระบบถ่ายกำลัง หน้า-หลัง และระบบ traction ใครฉลาดกว่ากัน ทำงานเร็วกว่ากัน บางคันปล่อยล้อหมุนฟรีสักพักกว่าจะสั่งเบรคจับล้อที่ลอย บางคันล้อที่ลอยหมุนฟรี ไม่ถึง 2 รอบ จับแล้ว
คลิปอื่นๆ เท่าที่ดู X1 x-Drive28i ขึ้นได้โครตไว ล้อหมุนฟรีน้อยมาก
-
CR-V ไม่เคยเน้นเรื่องขับ4 อยู่แล้วนะครับ แค่มีไว้ แต่ไม่ใช้รถแนวขับ4 โหดๆ offroad อะไร อย่าไปคาดหวังมากครับ