Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yasuda ที่ พฤษภาคม 09, 2017, 21:49:41
-
สวัสดีค่ะ ติดตามคุณจิมมี่มานาน
ยินดีที่เห็นคนเข้าเวบบอร์ดนี้เยอะมากๆ
อยากปรึกษาว่า ผู้หญิงขับรถเอง
แต่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์อะไรนัก
จะขับ Mercedes C350e ได้มั้ยคะ
อารมณ์อยากขับรถที่เชื่อถือได้
ปลอดภัยสุดๆ แข็งแรง ทนทาน
เคยมอง camry กับ accord ไว้
ได้ลองขับ BMW525d แล้วชอบ
มาทดลอง Benz บ้างก้อชอบมากค่ะ
แต่ปรับอะไรไม่ค่อยเป็น
ไอ้ plug in hybrid แบบนี้ใช้งานยากมั้ยคะ
เพราะตอนนี้ ขับ toyota prius มาเจ็ดปี
ไม่มีปัญหาเลย ประหยัด ขับง่ายจริง :P
ตอนนี้ ถ้าจะย้ายค่ายจากญี่ปุ่น
มาเยอรมัน แบบไฮเทคขนาดนี้
คิดว่าผู้หญิง ขับได้มั้ยคะ
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าค่ะ
-
หากเป็นBenzอย่างแรกเลยที่ทำใจคือ ค่าบริการและอะไหล่สูงกว่ารถญี่ปุ่น
และไม่ใช่ว่าราคารถสูงกว่าจะทนกว่าเสมอไปด้วยนะครับ อันนี้ต้องทำใจล่วงหน้าไว้ก่อน
นอกนั้นดีหมดครับ
-
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาก็ลุยเลยครับ เรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้ครับ :)
-
สำหรับผม C350 ทรง W205 คันนี้ Match มากสำหรับคุณผู้หญิงครับ
ตอน Motor Show เดือน เมษา ผมเดิน บูทแล้วสังเกตมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงพลีท รูปร่างเล็กน่ารัก กระโดดไปนั่งเบาะหน้าตำแหน่งคนขับแล้วก็ บอกกับคนรู้ใจว่า
"เอาคันนี้"
ผมว่ามันเป็นอะไรที่ Mix & Match มากครับ สาวน้อยกับ W205 มันดู"กระทัดรัด" มันดูเหมาะกันมาก (ไม่นับเรื่องปัจจัยอื่นๆใดนะครับ)
แต่ถ้าว่ากันเรื่อง ระบบ Hybrid มันก็เสียค่า"ดูแล" เยอะกว่าแน่นอนครับ แต่คำว่า "ใช้งานยาก" ผมว่าสำหรับคำถามคุณ "พอกันครับ" (ถ้าบอกว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องรถยนต์นะครับ)
เชียร์ นะครับ
-
ก็ไม่ซับซ้อนนะครับ รถใหม่อะไรๆก็ไม่เสียไม่พัง
ถึงมีปัญหาก็พึ่งพวก roadside assistance ได้
เอาสบายๆ ใช้แล้ว service อย่างเดียว ก็เปลี่ยนรถบ่อยๆเอาครับ
กะว่าใช่ซัก 5-7 ปี แล้วก็เปลี่ยนก่อนที่จะเริ่มมีอะไรเสียหรือพังครับ
-
บางทีอาจจะต้องลืมภาพความไม่จุกจิกของ Toyota Prius ก่อนจะเลือกคันนี้
เพราะระบบไฟฟ้าของรถยุโรปนี่ไม่ธรรมดาเลย ซึ่งหลายเคสแค่เปลี่ยนเคลมแล้วก็ใช้งานได้ยาวๆ แต่บางเคสก็อาจต้องรอเบิกอะไหล่เคลมเป็นสัปดาห์ ถ้าคิดว่ามันใช่สำหรับเราและมีความสุขที่จะยอมรับบางเหตุการณ์ได้ก็จัดเลยครับ
การขับขี่ปกติก็เหมือน Hybrid นั่นแหละ แต่มีช่องเสียบปลั๊กมาเพิ่มให้ชาร์จที่บ้านได้ และมีโหมด EV ขับไฟฟ้าล้วนๆ วิ่งได้ราว 25-30 km นอกนั้นก็เป็นของเล่นหวือหวาตามสไตล์รถยุโรป
-
รุ่นนี้เห็นมีปัญหากันอยู่บ้าง รอคนใช้จริงมาตอบ
ส่วนการใช้งานมันก็ไม่ต่างอะไรกับรถปกติหรอกครับ ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก
-
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
มั่นใจมากขึ้นที่จะเรียนรู้
;) หวังว่าคงเจอเนื้อคู่นะคะ
-
เชียร์ด้วยอีก 1 เสียง ขับใน กทม. เยอะ ๆ บ่อย ๆ น่าใช้ครับ ประหยัดดี เรื่องรถสมัยนี้ เหมือน Computer เรียนรู้ไม่ยาก
หวังว่าจะได้รถที่ถูกใจครับ
-
มาตอบในฐานะผู้ใช้จริง ขับน้องมะลิมาครบปีแล้ว ยังไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ
การใช้งานไม่มีอะไรซับซ้อน แค่เสียบปลั๊ก ถอดปลั๊ก ชิวๆ เลือก mode ได้ 4 mode ก้อเลือก hybrid ไว้ครับ รถมันคำนวณของมันเอง
อ่านเรื่องปัญหาของรถเบนซ์ hydrid แล้ว แอบเครียดอยู่เหมือนกัน แต่เหมือนรุ่นที่ปัญหาเยอะๆ จะเป็นตัว diesel hybrid ก่อนหน้าตัวนี้
อย่างเพื่อนผม อยู่ๆไฟเตือนแบตที่ใช้ในรถ อยู่ๆก้อเด้งขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ (แต่ไม่ใช่แบตเตอรี Hybrid นะครับ ไม่งั้น Start ไม่ได้ ยกสถานเดียว)
ปัญหาในการใช้งาน เท่าที่เจอ ไม่มีอะไร นอกจากเสียงก๊อกๆแก๊กๆในห้องโดยสาร (และหวังว่าจะไม่มีอะไรเพิ่มเติม)
โดยรวมแล้วชอบมาก ขับในเมืองประหยัดมาก ขับไปมาแถวๆบ้าน เดือนๆนึง แทบไม่ต้องเติมน้ำมันเลย ทุกอย่างมันค่อนข้างลงตัว
แต่ถ้าขับรถเร็ว อาจไม่ค่อยชอบครับ เพราะก่อนคันนี้ผมขับ F30 มาก่อน เหยียบแล้วพุ่งคนละเรื่องเลย ผมก้อปรับตัวอยู่พักนึง พอชินแล้วก้อไม่มีปัญหาครับ
(https://www.img.in.th/images/31eb8d4331faa8837b481a60cfc4265b.jpg)
-
ในคลับเบนซ์มีแต่บ่นเรื่องเสียงลมเข้า
กับเพื่อนที่เคยใช้พวก hybrid บ่นเรื่อง ไม่เอารถไฮบริดอีกแล้ว
ขับคนเดียวเป็นหญิงผมว่า งบถึงก็ไปc coupe ดีกว่าครับ งบไม่ถึงc coupe ก็ 320d สบายใจดีครับรถ ไฮบริดกับรถยุโรปมันเสียวๆอ่ะคับ
-
เป็นนักศึกษาครับ มีเพื่อนผู้หญิงใช้สองคนเลย ส่วนตัวผมเองก็ใช้ด้วย
:P
-
จะย้ายจากToyotaมาBenzขออย่าคาดหวังว่ารถยุโรปจะทนทานและไม่มีปัญหาเหมือนรถญี่ปุ่นนะครับ ยิ่งเคยใช้Toyotaด้วยแล้วเป็นห่วงจริงๆเพราะToyotaถือว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่ทนทานและปัญหาน้อยที่สุดแล้ว รถยุโรปสมัยนี้ระบบไฟฟ้าและElectronicซับซ้อนกว่าเดิมเยอะ โอกาสจะเจอแจ็คพ็อตมีพอสมควรเลยนะครับ ขอบอก
-
ขับกับใช้ไม่น่ายากครับ อาจจะต้องมาห่วงเรื่องชาร์จไฟเพิ่ม
ส่วนตัวนะ
ถ้าไม่มีรถสำรองผมไม่เอา ทั้ง Hybrid Plug in ทั้ง DCT ... เบนซ์รุ่นนี้มัน 2 in 1 เลย ยังไม่นับ user interface ชวนงง กับช่วงล่างถุงลมอีก :-x
เงินไม่ใช่ปัญหา อยากได้ทนทานใกล้เคียงกันไป Lexus ดีกว่ามั๊ย แต่ถ้ายืนยันยังไงก็จะเอายุโรปแท้ๆ BMW เครื่องเบนซิน อาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่าหน่อย คนใกล้ตัวผมใช้ MB ยุคใหม่ ไม่มีไม่บนนะครับ มีแต่บ่นมากบ่นน้อย ผมอาจซวยว่าเจอเรื่องใกล้ตัวพวกนี้เยอะ??? แต่เป็นผมถ้าห่วงเรื่องใช้ยาว หรือกลัวปัญหาการใช้งาน ผมจะตัด MB ยุคใหม่ออกจากช้อยเลย ยกเว้นบ้านมีที่จอดเพิ่มอีกคันงอกมา แล้วมีเวลาดูแลเวลามันมีปัญหาเพิ่ม....ซึ่งแค่คิดก็รู้สึกว่ามันไม่ make sense ละถ้าคิดว่ารถเป็นของใช้ไม่ใช่มันมาใช้เรา
-
ไม่ต้องคอนเซิลหรอกครับ จะซ่อมหนักก็อย่างน้อยห้าปีไปแล้ว คนแก่อย่างแม่ผมไม่มีความรู้อะไรเลย ภาษาอังกฤษก็อ่านไม่ออก แกก็ขับมาสองรุ่น อาศัยเรียนรุ้เองนิดหน่อยก็คล่องแล้ว ผมกลับมองว่าปัจจุบันรถญี่ปุ่นใช้ยากกว่าด้วยซ้ำ ออฟชั่นจุกจิกเยอะแยะไปหมด
ส่วนตัวผมมองว่าสาวๆรุ่นไม่เกิน 3-40 ขับจะดูดีมีเสน่ห์น่าค้นหา สวยขึ้นเป็นกองแน่นอนครับ เพราะส่วนมากเห็นแต่ป้าๆทั้งนั้น ::)
-
ไม่ซับซ้อนนะครับ ก็ทำความเข้าใจเรื่อง mode การขับขี่เท่านั้น
นอกนั้นก็การชาร์จไฟ ที่ต้องทำความเข้าใจ แต่ไม่ยาก
พอเข้าใจก็ขับทุกวัน ชิลๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ แต่ถ้าห่วงระยะยาว ผมว่าน่าจะไปซื้อ BMW 320d, 320i พวกนั้นมากกว่านะครับ เพราะไม่มีระบบไฮบริดเข้ามา แบบนั้นง่ายกว่าจริงๆ รวมถึงซ่อมบำรุงภายหลัง ก็ง่ายกว่า เข้าใจง่ายกว่าด้วย ความซับซ้อนน้อยกว่าย่อมหมายความว่าซ่อมง่ายกว่า ราคาถูกกว่า และซ่อมให้จบ ง่ายกว่า
-
ไป c coupe เครื่องเบนซิน ดีกว่าครับ
-
แค่ผ่านมาให้ความเห็นนะครับ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับคำว่าซับซ้อนหรอก เพราะเอาเข้าจริงจะมีเจ้าของรถซักกี่คนที่ซ่อมรถเอง
นอกจากนี้ผู้ชายหลายคนในเวปนี้ ถึงแม้หลายคนจะรู้เรื่องรถดีก็ไม่ไ่ด้แปลว่าจะซ่อมรถเองเป็น ถึงซ่อมเป็นก็ไม่ใช่จะซ่อมได้ทั้งหมด หรือรู้จักรถคันนั้น ๆ ดีพอ ส่วนใหญ่เราต้องพึ่งพาช่างอยู่แล้วครับ อย่ากังวลเลยมีเงินอยากซื้อรุ่นไหน ใช้อะไรก็ตามสบายเลยครับแล้วแต่กำลังทรัพย์ของเรามีกำลังจ่ายค่าซ่อมมันแค่ไหน
-
รถแทบทุกรุ่นออกแบบมาให้คนขับอย่างเดียวอยู่แล้วครับ ที่ต้องเตรียมคือเงินและเวลาไว้สำหรับซ่อมบำรุง หลักๆก็ตามระยะทางหรือตามเวลาครับ
-
ถ้างบถึง จัด c coupe ดีกว่าครับ หรือไม่ก็ลงไป CLA250 ดีกว่าครับ
-
สิ่งที่ต้องปรับตัวจากพรีอุส คือ เกียร์ย้ายมาที่พวงมาลัย กับเสียบปลั๊กตอนถึงบ้านครับ
นอกนั้น ก็สังเกตุสัญญาณเตือนต่างๆ ถ้ามีโทรเข้าศูนย์ แค่นี้ครับ
หรือสงสัยอะไรก็โพสถามในนี้ได้ครับ ทุกคนยินดีช่วยเหลือ
-
;D ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยนะคะ
ตั้งกระทู้ ได้คำตอบหลากหลายดีทีเดียว
ตัดสินใจมาทางไฮบริดค่ะ
อยากลองระบบยุโรปมั่ง
ไม่รู้จะติดใจ หรือเข็ดนะคะ
ได้รถมาแล้ว จะลองรีวิวการใช้งาน
แบบบ้านๆผู้หญิงใช้ดูบ้างค่ะ
จริงๆรอคุณจิมมี่รีวิวรุ่นนี้อยู่นะคะ
-
ถ้าไม่มีคนนั่งหลัง ผมว่าน่าใช้นะครับ
ความซับซ้อนของระบบ ถ้าให้เวลากับมันหน่อย ลองเล่นกับมันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คล่องเองแหละครับ
-
;D ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยนะคะ
ตั้งกระทู้ ได้คำตอบหลากหลายดีทีเดียว
ตัดสินใจมาทางไฮบริดค่ะ
อยากลองระบบยุโรปมั่ง
ไม่รู้จะติดใจ หรือเข็ดนะคะ
ได้รถมาแล้ว จะลองรีวิวการใช้งาน
แบบบ้านๆผู้หญิงใช้ดูบ้างค่ะ
จริงๆรอคุณจิมมี่รีวิวรุ่นนี้อยู่นะคะ
ดีใจด้วยที่ตัดสินใจแล้วครับ Benzเป็นรถที่ดี แข็งแรง ปลอดภัย มากที่สุดยี่ห้อหนึ่งเลยละครับ ขอให้ติดใจครับ ผมเองก็มีใช้อยู่หลายคันรวมทั้งGLE500Eเช่นกันครับ
-
ขับมาปีครึ่งเเล้วครับ
เคยเเบตลูกเล็กเสียครังนึง ที่ขึ้นวา auxillary baterry malfunction ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอบ่อยมาตั้งแต่ e300 bluetechybrid มาจน c300 Bluetec มาถึงรุ่นนี้ (เพราะมันคือลูกเดียวกันเเละไม่เกี่ยวกับเเบตไฮบริดของ c350e) ก็เปลี่ยนมาเเล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
ไอเเบตเล็กเนี่ยตัวเสียเลยครับ 2ปีลูกนึง ถ้าหมดประกันเเล้ว ราคาอู่นอกราวๆ 6500 บาท บางคนเก่งซื้อเปลี่ยนเองได้ 800 บาท
้้เสียงลมไปใส่ยางปนะตูกับคอยโซลที่ศูนย์ น่าจะจบนะครับ
ส่วนตัวมีความสุขกับรถมากครับ เเรงกว่าชาวบ้านใน segment เดียวกัน หรู ลำโพงเเจ่ม ถ้าไม่ใช่ขาเเต่งเติมรถน่าจะชอบนะครับ
ปล ที่ชอบมากคือ คุณสามารถเปิดเเอร์นอนในรถได้ครับ เปิดได้ราวๆ5 ชั่วโมง ตัดทุก1ชมต้องกดเปิดใหม่ (เเละนอนหลับไม่ตายครับ เพราะมันใช้เเบต ไม่ได้ใช้น้ำมัน) ผมนอนหลับบนรถทุกวันเเทนบ้านเเล้ว เพราะงานผมต้องออกไปข้างนอก นอนสบายทุกวัน
-
คุณ zhalvia
ขอบคุณมากที่แชร์
ขับยังไง ให้ประหยัดคะ
แล้วที่จอดเปิดแอร์นอนในรถ
กดตรงไหนคะ น้องเค้าสอน
แต่ฟังไม่ทันค่ะ