Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: w212cdi ที่ พฤษภาคม 18, 2017, 11:00:20
-
เปรียบเทียบ ระหว่าง e220d amg กับ e350e amg เลือกอะไรดีครับ
ใช้รถต่อปีไม่มาก ประมาณ 15,000 ต่อปี ระยะเวลา เปลี่ยนคันใหม่ 6-7 ปี
ขอความคิดเห็นด้วยครับ
-
ใช้ไม่นานด้วย ง่ายๆเลยครับ E350e เพราะระบบdistance pilot distronic กับ Blind spot
ยิ่งระบบแรกนี่ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยเฉพาะยามรถติดมากเหมาะกับกรุงเทพฝุดๆ(distance pilot distronic มีระบบstop&goรวมอยู่ด้วย)
เจ้าของคนตอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับBenz แต่ช่วยเชียร์เพราะBenzไทยไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ใส่ออฟชั่นที่ควรจะเป็น
-
คำถามตรงใจผมครับ ขอรอฟังด้วยคนครับ อยากได้ Distronic แต่ไม่อยากได้ Hybrid
คิดมาหลายตลบละครับ แต่คิดสะระตะแล้วคงต้องไปที่ 220d ครับ
กลัวเพื่อนด่าว่าใช้ Hybrid เจ็บแล้วยังไม่จำ :-X :-X
-
เชียร์ 350e amg ไม่ชอบเสียงเครื่องดีเซล 8)
-
เจ้าของคนตอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับBenz แต่ช่วยเชียร์เพราะBenzไทยไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ใส่ออฟชั่นที่ควรจะเป็น
[/quote]
ครับ แต่จะดีมากถ้า Benz THA ใส่ option พวกนี้ใส่มาตั้งแต่รุ่น CBU ไม่ใช่มาค่อยๆ เพิ่มทีหลังแบบนี้
ไม่งั้นในอนาคตคงไม่มีใครกล้าออกรถ CBU กันแล้วครับ ซื้อตั้งแพงแต่ option มาไม่ครบและมาเพิ่มทีหลังแบบนี้
-
220d amg นี่ยังพอมีที่ไหนหาได้มั้ยครับ
-
220d amg นี่ยังพอมีที่ไหนหาได้มั้ยครับ
ลองไล่โทรตาม Dealer ใหญ่ๆ ดูครับ ที่ benz Tonburi ตรงพระราม 4 นี่น่าจะพอมีนะครับ เห็นว่าตัว CBU 220d ก็ยังมีนะครับ
-
เจ้าของคนตอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับBenz แต่ช่วยเชียร์เพราะBenzไทยไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ใส่ออฟชั่นที่ควรจะเป็น
ครับ แต่จะดีมากถ้า Benz THA ใส่ option พวกนี้ใส่มาตั้งแต่รุ่น CBU ไม่ใช่มาค่อยๆ เพิ่มทีหลังแบบนี้
ไม่งั้นในอนาคตคงไม่มีใครกล้าออกรถ CBU กันแล้วครับ ซื้อตั้งแพงแต่ option มาไม่ครบและมาเพิ่มทีหลังแบบนี้
[/quote]
คงกลัวว่า ถ้าใส่มา ราคาจะบานปลายมั้งครับ
-
เจ้าของคนตอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับBenz แต่ช่วยเชียร์เพราะBenzไทยไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ใส่ออฟชั่นที่ควรจะเป็น
ครับ แต่จะดีมากถ้า Benz THA ใส่ option พวกนี้ใส่มาตั้งแต่รุ่น CBU ไม่ใช่มาค่อยๆ เพิ่มทีหลังแบบนี้
ไม่งั้นในอนาคตคงไม่มีใครกล้าออกรถ CBU กันแล้วครับ ซื้อตั้งแพงแต่ option มาไม่ครบและมาเพิ่มทีหลังแบบนี้
[/quote]
cbu มันมีค่านำเข้าครับ ไม่ได้กั๊กแต่ใส่มาราคาก็จะขึ้น โดนคนรุมด่า ต้องทำราคามาพอดี พอประกอบใน ราคาลดลงไปเยอะ เพื่อไม่ให้ position ของแบรนด์ตัวเองตกก็ต้องใส่ของเพิ่มละคงราคาเท่าเดิมหรือลดลงมาเล็กน้อย
cbu เป็นของใหม่ ผมเชื่อว่ายังไงก็มีคนซื้อครับ
-
ถ้าใส่มากับ CBU ราคารถจะถูกตั้งต้นจากโรงงานต้นทาง ภาษีนำเข้าสารพัดถูกคำนวณจากราคารถยนต์
แต่ถ้าประกอบในไทย ภาษีคิดตามชิ้นส่วนที่สั่งแยกนำเข้า ต่างกันเยอะมากครับ
แต่จะดีมากถ้า Benz THA ใส่ option พวกนี้ใส่มาตั้งแต่รุ่น CBU ไม่ใช่มาค่อยๆ เพิ่มทีหลังแบบนี้
ไม่งั้นในอนาคตคงไม่มีใครกล้าออกรถ CBU กันแล้วครับ ซื้อตั้งแพงแต่ option มาไม่ครบและมาเพิ่มทีหลังแบบนี้
-
ผมว่าผู้บริโภคเมืองไทย ยังมีทัศนะคติที่ไม่ดีกับระบบ hybrid นะครับ มันจะมีผลก็ตอนขายนี่แหละ รถ 2 ตัวนี้ดีทั้งคู่ เป็นผมคงเอา 220d
-
ขออภัย จขกท ครับ ทำไปทำมาผมจะมาเปิดประเด็นอื่น
ขออนุณาต ถามเพื่อนๆครับ ระหว่าง E220d VS E350e
เอารุ่นไหนดีครับ ผมก็อยากทราบเหมือนกัน :)
-
เชียร์ 220d ครับ ตัว cbu ถ้ายังหารถได้ ตอนนี้ควรได้ส่วนลดไม่ต่ำกว่า 5 แสนครับ
กะใช้รถแค่ 6-7 ปี 350e ก็ได้อยู่ แต่คหสต.ผมเลือก 220d เพราะคิดว่าถ้ารถมันจะมีปัญหา ออกมาวันเดียวมันก็มีปัญหาได้ครับ
-
ผมเคยคิดว่ารุ่นที่มี DISTRONIC จะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุที่กระจก 2 ชุดซ้าย/ขวา และบ้านเราส่วนใหญ่จะมีแค่ชุดเดียว (จุดเล็กๆ อีกอันคือ เซ็นเซอร์แสง + ปัดน้ำฝน) คิดๆ ตระกูล A ก็มีชุดเดียวใช้ได้นี่หว่า
แต่พอเห็นภาพในข่าว แล้วรุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว ความหวังของช่างไทยบังเกิดทันที ถ้าอยากเสียตังค์สั่ง Part ให้ศูนย์เซตอัพ DISTRONIC ผมว่ามีลุ้น
ดังนั้นถ้าจะซื้อ E350e เพราะว่าต้องการ DISTRONIC ชนิดใจจะขาดให้ได้ ตัว E220d สเปคที่ตรวจ VIN แล้วมี PRE-SAFE จากโรงงาน ผมว่าน่าลุ้นแปะเพิ่มได้ แต่กี่ตังค์ผมไม่รู้นะ ยังไม่มีเหยื่อ และเป็นการคาดเดาจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น
รุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว
(https://www.uppic.org/image-0A8F_591D3CB6.jpg)
รุ่น AMG มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ 2 ชุด
(https://www.uppic.org/image-7DBA_591D3CB6.jpg)
-
220d ครับ เครื่องก็พัฒนาบล็อคใหม่มาให้สุดๆของดีเซลไม่แพ้คู่แข่ง
ขายต่อราคาทิ้งกันเยอะอยู่นะไม่แคร์ก็ไม่ว่ากันครับเล่นไฮบริดได้
แต่ถ้าผมเองไป 5 G30 จบกว่าสดๆซิงๆ
-
distronic นี่ของดีเลย ผมชอบมากๆ
คันเก่าผม มี แต่พอมันเสีย นี่ ประเทศไทย ซ่อมไม่ได้ ตอนนี้เขาคงซ่อมได้แล้ว ดีจริงๆ
-
คนชอบ distronic เดาได้เลยว่าส่วนมากจะชอบขับรถเรื่อยๆไหลตามคันอื่นไม่ค่อมุดแซง การขับแบบนี้ทำให้จุดด้ยไฮบริดหายไป สดวกกว่าเงียบกว่า ช่วงล่างก็นิ่มกว่า(เดานะครับ)
ผมมองว่ามันเป็นรถคนละคันกับ e220 d เลยเพราะมันเหมาะกับคนขับคนละประเภท
-
เน้นแรง Option จัดเต็ม ไม่แคร์ค่าซ่อม ไม่สนราคาขายต่อ จัดเบ๊นซ์เสียบปลั๊กไปเลยครับ
ต้องการความคุ้มค่า ขายต่อราคาดีกว่า ไปดีเซลครับ
-
คงต้องเอาข้อมูลหลายๆอย่างมาช่วยตัดสินใจด้วย เช่น
1.เดินทางไกลประจำหรือปล่าถ้ามี ไปดีเซล คุ้มกว่า เพราะไฮบริดเดินทางไกลยังไงก็ไม่ประหยัดสู้ดีเซล
2.ที่บ้านหรือที่ทำงานชาร์จไฟได้รึเปล่า ถ้าได้ ใช้ไฮบริดคุ้ม
3. สไตล์การขับ ชอบมุด หรือ ชอบเรียกอัตราเร่ง แบบเร็วๆทันทีหรือเปล่า ถ้าทางนั้นดีเซลตอบสนองดีกว่าไฮบริดบางครั้งมันกระตุก มันเหมาะกับเร่งเรื่อยแบบครุซเซอร์มากกว่า ถ้าใช้hybrid แล้วจะมุดจริงๆต้องกดโหมดs ก่อนซึ่งยุ่งยากพอควร แต่เมื่อไหร่ที่เครื่องกะมอเตอร์ทำงานด้วยกันนี่แรงระเบิด
ผมว่าไฮบริดเบนซินของเบนซ์ก็ไม่ได้มีปัญหามากเหมือนตัวก่อนๆนะครับ
รถที่บ้านใช้มา40,000กว่าโลก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นเรื่องยางบางแล้วล้อชอบคดซึ่งก็ไม่เกี่ยวกะรถอยู่ดี
รายละเอียดฟิลลิ่งการขับ ข้อดีข้อเสีย และวิธีการแก้ไข ยังไงลองอ่าน ตามนี้ดูครับ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=54500.0
-
E350eAMG แน่นอนมันสุดทางกว่า 8)
-
ไม่สนขายต่อก็ไฮบริดไปครับ
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
-
ผมเลือก 220d amg ขับสบายใจกว่าไม่จุกจิกให้แฟนใช้ เคยใช้แคมรี่ไฮบริดมาเจ็บตอนขายและปล่อยยากมาก
-
ดังนั้นถ้าจะซื้อ E350e เพราะว่าต้องการ DISTRONIC ชนิดใจจะขาดให้ได้ ตัว E220d สเปคที่ตรวจ VIN แล้วมี PRE-SAFE จากโรงงาน ผมว่าน่าลุ้นแปะเพิ่มได้ แต่กี่ตังค์ผมไม่รู้นะ ยังไม่มีเหยื่อ และเป็นการคาดเดาจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น
555 อันนี้ผมเข้าข่ายครับ อุตส่าห์เล็ง E220d มาตั้งนาน พอ Hybrid พร้อม Distronic ออกมาทำให้ไขว้เขวไปตั้งนานแสนนาน ว่าแต่ถ้าโมได้จริงน่าสนใจมากมายนะครับ แต่คงต้องรอให้หมดประกันไปเสียก่อน
-
ไฮบริดสำหรับผมเชื่อมั่น toyota กับ bmw มากครับ เลยจอง e220d ไป แต่ก็อยากได้ออฟชั่นของ e350e นะครับ แต่ส่วนตัวใช้รถชานเมืองมากกว่า แล้วใช้ช่วงเช้ามืดกับช่วงบ่าย รถไม่ติด แล้วต้องใช้ทุกวันวันนึงร่วม 100โล กะใช้ยาวด้วย เลยตัดสินใจเอา e220d จริง ๆ จะเอา glc แต่รอรถนานมาก เลยพาแฟนไปดู e220d ปรากฏว่าเธอชอบภายในมาก ก็เลยจองไป
ปัญหาของผมตอนนี้รู้สึกว่ามันเตี้ยจัง ไม่ค่อยชอบขับรถเตี้ย ๆ มีประสบการณ์ไม่ดีกับ prius มันจะขูดกลางท้องรถแทบทุกเนินถ้านั่งกัน 4-5คน
อ่อราคาขายต่อถ้าไม่สนใจก็จัดไปเลยครับ ผมซื้อ prius ตัวไมเนอร์ตอนออกมาใหม่ ทึ่งกับออฟชั่นหลังคาโซล่าห์ซึ่งมันก็ใช้งานได้จริงระดับนึง แต่ผ่านไปจะเข้าปีที่ 5 ราคาเหลืออยู่ประมาณ 4แสน ขายต่อไม่ลงเลยครับ
-
คนชอบ distronic เดาได้เลยว่าส่วนมากจะชอบขับรถเรื่อยๆไหลตามคันอื่นไม่ค่อมุดแซง การขับแบบนี้ทำให้จุดด้ยไฮบริดหายไป สดวกกว่าเงียบกว่า ช่วงล่างก็นิ่มกว่า(เดานะครับ)
ผมมองว่ามันเป็นรถคนละคันกับ e220 d เลยเพราะมันเหมาะกับคนขับคนละประเภท
ิส่วนตัวผมอยากใช้ distronic บนมอเตอร์เวย์ครับ ไม่ว่าจะมุดจะแซงอย่างไงก็ห้ามขับเกิน 120 km/hour อยู่ดี ใบสั่งเก่ายังอยู่เป็นตั้งเลยครับ ;D ;D
-
แบตรุ่น s300 ลูกละ 750000 ส่วนรุ่นนี้ก็ไม่น่าจะถูกแน่
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
AMGป่าวครับ รถปีกว่าหายไป50%เลยนะนั่น โหดมาก
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
AMGป่าวครับ รถปีกว่าหายไป50%เลยนะนั่น โหดมาก
amg ครับ :'(
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
AMGป่าวครับ รถปีกว่าหายไป50%เลยนะนั่น โหดมาก
amg ครับ :'(
เศร้าแทนเลยครับ ราคาตกแบบโหดร้ายจริงๆ :'(
ปล.ผมรบกวนถาม525d stage1หน่อยได้ไหมครับ(ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไร) ได้กี่ม้า ทำที่ไหน ค่าเสียหายโดนไปเท่าไหร่ pmมาก็ได้ครับ(ถ้าสะดวก)
-
350e ดีกว่า ทุกอย่าง ยกเว้นราคาขายต่อตัวอย่างมีให้เห็นแล้วจากรุ่นที่แล้ว เอเมน
ซื้อมือสองคุ้มสุด อิอิ
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
AMGป่าวครับ รถปีกว่าหายไป50%เลยนะนั่น โหดมาก
amg ครับ :'(
เศร้าแทนเลยครับ ราคาตกแบบโหดร้ายจริงๆ :'(
ปล.ผมรบกวนถาม525d stage1หน่อยได้ไหมครับ(ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไร) ได้กี่ม้า ทำที่ไหน ค่าเสียหายโดนไปเท่าไหร่ pmมาก็ได้ครับ(ถ้าสะดวก)
Motion garage ครับ ได้270แรงม้า ที่ล้อนะครับ 500NM จริงๆดันไปได้อีกถึง 550Nm ซัดกับพวกเบนซิน300 ม้า ได้สบายๆแต่ผมเอาเซฟไว้ก่อนครับ ครับ ค่าใช้จ่าย 40000 บาทครับ ใช้เวลาทำประมาณ 4 ชั่วโมง รวมขึ้นไดโน่ที่ dyno damz stage1 software only ครับ
-
เคยเห็นที่ศูนย์ e300 bluetec hybrid จอดซ่อมอยู่เข้าไปดูช่างบอกโดนหนูเข้าอยู่กัดสายไฟขาดเป็นชุดๆ ช่างบอกปวดหัวเลย ต่อสายไฟกันสนุก ><
-
คิดว่าอนาคตอันใกล้นี้ค่าแบตน่าจะลดลงมามากนะครับ เพราะเบ๊นซ์ประกาศว่าจะผลิตแต่รถเก๋งไฟฟ้าทั้งคันภายใน 5-10 ปีข้างหน้า งั้น E350 ก็น่าใช้อยู่นะครับ
-
distronic มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นสำหรับผมครับ
ใช้รถน้อย ไม่นานขาย เอาราคาขายต่อเป็นหลักดีกว่าครับ
E220D ชัวร์สุดครับ
-
ผมไม่เอา hybrid แน่นอน ข้างบ้านขาย e300 bluetec ปี2015 ไปแล้ว วิ่งไป40000 โล เต๊นตีให้ 2100000 รถสไลด์มารับไปศูนย์บ่อยมาก เค้าเลยขาย
ยังดีนะครับใช้งาน 2 ปี 4 หมื่นโล
ของผม 9 เดือน ไม่ถึงหมื่นโล เตนท์ตีให้พอๆกันเลยครับ
-
เป็นผมนะกำเงินสดรอซักสองปี e350e ราคาหายไปเกือบครึ่งแน่นอลหาสภาพดีๆวิ่งน้อยๆ ประกันยังเหลือคุ้มกว่าเยอะครับ ดู e300 bluetec hybrid เป็นตัวอย่างทุกวันนี้ amg บางคันเหลือสองต้นๆเห็นแล้วน่าสอยเป็นที่สุด แต่แบตลูกละสี่แสนกว่าๆก็รับไม่ได้เหมือนกันนะ ไม่ได้รับประกันสิบปีแบบพี่โตซะด้วย
-
ผมเคยคิดว่ารุ่นที่มี DISTRONIC จะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุที่กระจก 2 ชุดซ้าย/ขวา และบ้านเราส่วนใหญ่จะมีแค่ชุดเดียว (จุดเล็กๆ อีกอันคือ เซ็นเซอร์แสง + ปัดน้ำฝน) คิดๆ ตระกูล A ก็มีชุดเดียวใช้ได้นี่หว่า
แต่พอเห็นภาพในข่าว แล้วรุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว ความหวังของช่างไทยบังเกิดทันที ถ้าอยากเสียตังค์สั่ง Part ให้ศูนย์เซตอัพ DISTRONIC ผมว่ามีลุ้น
ดังนั้นถ้าจะซื้อ E350e เพราะว่าต้องการ DISTRONIC ชนิดใจจะขาดให้ได้ ตัว E220d สเปคที่ตรวจ VIN แล้วมี PRE-SAFE จากโรงงาน ผมว่าน่าลุ้นแปะเพิ่มได้ แต่กี่ตังค์ผมไม่รู้นะ ยังไม่มีเหยื่อ และเป็นการคาดเดาจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น
รุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว
(https://www.uppic.org/image-0A8F_591D3CB6.jpg)
รุ่น AMG มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ 2 ชุด
(https://www.uppic.org/image-7DBA_591D3CB6.jpg)
ผมว่าชุดนั้นไม่น่าเกี่ยวกับDISTRONIC นะครับเพราะตัวใน E220d AMG ตัวประกอบในตัวสุดท้ายที่มี ABA ก็มี 2 อันนะครับ
(https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/18485827_1647830515246687_651319287562054230_n.jpg?oh=e2ec2d3fb8f7df4d6ef01f82e5a62c77&oe=59769561)
ส่วนถ้าเลือก2 ตัวนี้ถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะเปลี่ยนไหม ตอบเลยครับว่าไม่ E220d อนาคตดีกว่าแน่ๆ เพราะผมก็มีรถ Hybird อยู่ที่บ้าน 1 คัน และก็คงไม่มีทางมีอีกคันที่สองแน่ๆ รอเป็นรถไฟฟ้าแท้ๆ มาเลยดีกว่า รถ hybrid ต้องบำรุงรักษาทั้งเครื่องและไฟฟ้า ค่าบำรุงมันเยอะ ความประหยัดมันหักลบไม่พอครับ เวลาขายผมก็ทำใจลำบาก ต่ำมาก รถรักโลกแต่ไม่รักเงินในกระเป๋าคนใช้เลยครับ
-
E220D
-
เกรย์รึป่าว. ห่างๆเลย. พ่อผมเจอมาแล้ว.
-
เท่าที่ทราบ Active Brake Assist จะมีเรดาร์คลื่นสั้นที่กันชนครับ ส่วน DISTRONIC จะเพิ่มเรดาร์ระยะไกลที่ตราดาวอีกชุดนึง
ผมเคยคิดว่ารุ่นที่มี DISTRONIC จะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุที่กระจก 2 ชุดซ้าย/ขวา และบ้านเราส่วนใหญ่จะมีแค่ชุดเดียว (จุดเล็กๆ อีกอันคือ เซ็นเซอร์แสง + ปัดน้ำฝน) คิดๆ ตระกูล A ก็มีชุดเดียวใช้ได้นี่หว่า
แต่พอเห็นภาพในข่าว แล้วรุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว ความหวังของช่างไทยบังเกิดทันที ถ้าอยากเสียตังค์สั่ง Part ให้ศูนย์เซตอัพ DISTRONIC ผมว่ามีลุ้น
ดังนั้นถ้าจะซื้อ E350e เพราะว่าต้องการ DISTRONIC ชนิดใจจะขาดให้ได้ ตัว E220d สเปคที่ตรวจ VIN แล้วมี PRE-SAFE จากโรงงาน ผมว่าน่าลุ้นแปะเพิ่มได้ แต่กี่ตังค์ผมไม่รู้นะ ยังไม่มีเหยื่อ และเป็นการคาดเดาจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น
รุ่น Exclusive มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุแค่ชุดเดียว
(https://www.uppic.org/image-0A8F_591D3CB6.jpg)
รุ่น AMG มีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ 2 ชุด
(https://www.uppic.org/image-7DBA_591D3CB6.jpg)
ผมว่าชุดนั้นไม่น่าเกี่ยวกับDISTRONIC นะครับเพราะตัวใน E220d AMG ตัวประกอบในตัวสุดท้ายที่มี ABA ก็มี 2 อันนะครับ
(https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/18485827_1647830515246687_651319287562054230_n.jpg?oh=e2ec2d3fb8f7df4d6ef01f82e5a62c77&oe=59769561)
ส่วนถ้าเลือก2 ตัวนี้ถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะเปลี่ยนไหม ตอบเลยครับว่าไม่ E220d อนาคตดีกว่าแน่ๆ เพราะผมก็มีรถ Hybird อยู่ที่บ้าน 1 คัน และก็คงไม่มีทางมีอีกคันที่สองแน่ๆ รอเป็นรถไฟฟ้าแท้ๆ มาเลยดีกว่า รถ hybrid ต้องบำรุงรักษาทั้งเครื่องและไฟฟ้า ค่าบำรุงมันเยอะ ความประหยัดมันหักลบไม่พอครับ เวลาขายผมก็ทำใจลำบาก ต่ำมาก รถรักโลกแต่ไม่รักเงินในกระเป๋าคนใช้เลยครับ
-
e350e น่าใช้กว่า e220d ทุกอย่าง ยกเว้นตอนขายต่อ ถ้าไม่กลัวราคาตกกับเวลาซ่อมค่า
อะไหล่ e350e ที่มีจุดให้เสียเงินเยอะกว่าไหนจะช่วงล่างถุงลมอีกก็จัด e350e ไปเถอะครับ
ออฟชั่นครบๆ ไม่คาใจ
-
กะแล้วครับ พอดีผมตามเพจร้านนี้ตลอด เห็นบีเอ็มไปทำกันเยอะมากทั้งเบนซินดีเซล
จริงๆStage1ก็เหลือๆแล้ว หาคนซัดด้วยยากละ แล้วเบรกเดิมเอาอยู่เปล่าครับ
-
ใช้รถน้อยๆ hybrid ไม่ค่อยคุ้มนะครับ
-
เป็นคำถามที่ตัวเองก็ต้องการทราบตลอดเวลาเกือบหนึ่งปี เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนรถตั้งแต่ตัวcbuมา อ่านreviewในตปท.ก็ไม่ได้อะไรมาก ว่าจะรอplug in hybridออกมาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่แล้วสองสัปดาห์ก่อนก็ทราบว่าเค้าหยุดผลิตเครื่องสันดาปหมด หักคอทุกคนไปใช้เสียบปลั้กหมด แล้วศูนย์ใกล้บ้านก็บอกรถหมดแล้ว เหลือคันสุดท้ายสีขาว ก็เลยเหมือนถูกบังคับไม่มีทางเลือก
ถามว่าใช้มาห้าวันแล้วเป็นอย่างไร ขอบอกว่าขับดี ดีมากกว่าw211ที่เคยใช้ ไม่มีถุงลมแต่นิ่ม ไม่เจอdefectอะไรณ.ตอนนี้ แต่มีข้อเสียที่รับไม่ได้จนอยากเอารถไปคืนเดี๋ยวนั้นคือเสียงเครื่องdieselที่ตนเองไม่เคยชิน ทำให้นึกถึงเสียงรถกะบะกับราคารถหลายล้าน saleก็ปลอบใจว่ารุ่นนี้เงียบแล้ว รุ่นก่อนดังกว่านี้ แต่พออยู่ในห้องโดยสารก็เงียบลงจนพอทำใจไหว
ถามว่าเสียดายกับplug in hybridมั้ยที่มีoptionออกมาแล้วราคาไม่โดดอย่างที่คิด ก็เสียดาย แต่มีบางoptionที่ไม่ได้ใช้เพิ่มมา เพราะใช้รถคนเดียว เช่นถุงลมด้านหลัง ก็รู้สึกดีแล้ว เสียดายยัดของมาให้แบบไม่ได้ใช้
มีข้อมูลที่ได้ศึกษามาเกือบหนึ่งปีที่ไม่มีใครพูดและกล่าวถึงในกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับตัวplug in hybrid ที่บริษัทไม่ยอมกล่าวถึง แต่หาได้จากเวบเมืองนอก เช่น Mercedes benz.uk คือ
1.นน.รถplug in hybrid จะหนักกว่ารถธรรมดา245kg. หรือบรรทุกข้าวสารไว้ในรถสองกระสอบกว่าตลอดเวลา มันรวมนน.แบต generatorและอื่นๆ ดังนั้นเมื่อวิ่งจนแบตหมด เครื่องยนต์เล็กๆแค่1950cc นอกจากต้องลากตัวรถ มันต้องแบกข้าวสารสองกระสอบกว่า แค่นั้นไม่พอ มันต้องปั่นไฟเข้าแบต.อีก คือทำสามอย่างในเวลาเดียวกัน
2.เหตุผลทำไมถึงหักคอคนไทยใช้แต่hybrid ในขณะเมืองนอกมีครบทุกรุ่นให้เลือก เหตุผลน่าจะทราบเพราะอะไร
3.ค่าไฟถูกกว่าdieselมากไหม จำว่ามีท่านหนึ่งตอบในเวบนี้ว่าตกวันละ24บาทต่อการช้าจไฟเต็ม17-20km. แล้วถ้าวิ่งไกลกว่านี้จะไม่ประหยัดแล้ว เพราะเครื่องต้องลากข้าวสารสองกระสอบกว่าแล้วต้องเบ่งกำลังไปช้าจไฟเข้าแบตอีก จึงคิดว่าจะประหยัดถ้าใช้แค่แบตที่ช้าจไฟเต็มและขับวันละไม่เกิน20km.
สรุปคือมันมีข้อดีข้อเสียและบางสิ่งที่เค้าไม่บอกเรา บอกแต่ข้อดีคือประหยัดๆ
สำหรับe220d ซื้อมาคือพอใจทุกอย่าง ข้อเสียแค่เรื่องเสียงและเสียดายoption blind spotและdistronic
-
กะแล้วครับ พอดีผมตามเพจร้านนี้ตลอด เห็นบีเอ็มไปทำกันเยอะมากทั้งเบนซินดีเซล
จริงๆStage1ก็เหลือๆแล้ว หาคนซัดด้วยยากละ แล้วเบรกเดิมเอาอยู่เปล่าครับ
เบรกเดิมเอาอยู่ครับ สบายมาก
-
เป็นคำถามที่ตัวเองก็ต้องการทราบตลอดเวลาเกือบหนึ่งปี เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนรถตั้งแต่ตัวcbuมา อ่านreviewในตปท.ก็ไม่ได้อะไรมาก ว่าจะรอplug in hybridออกมาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่แล้วสองสัปดาห์ก่อนก็ทราบว่าเค้าหยุดผลิตเครื่องสันดาปหมด หักคอทุกคนไปใช้เสียบปลั้กหมด แล้วศูนย์ใกล้บ้านก็บอกรถหมดแล้ว เหลือคันสุดท้ายสีขาว ก็เลยเหมือนถูกบังคับไม่มีทางเลือก
ถามว่าใช้มาห้าวันแล้วเป็นอย่างไร ขอบอกว่าขับดี ดีมากกว่าw211ที่เคยใช้ ไม่มีถุงลมแต่นิ่ม ไม่เจอdefectอะไรณ.ตอนนี้ แต่มีข้อเสียที่รับไม่ได้จนอยากเอารถไปคืนเดี๋ยวนั้นคือเสียงเครื่องdieselที่ตนเองไม่เคยชิน ทำให้นึกถึงเสียงรถกะบะกับราคารถหลายล้าน saleก็ปลอบใจว่ารุ่นนี้เงียบแล้ว รุ่นก่อนดังกว่านี้ แต่พออยู่ในห้องโดยสารก็เงียบลงจนพอทำใจไหว
ถามว่าเสียดายกับplug in hybridมั้ยที่มีoptionออกมาแล้วราคาไม่โดดอย่างที่คิด ก็เสียดาย แต่มีบางoptionที่ไม่ได้ใช้เพิ่มมา เพราะใช้รถคนเดียว เช่นถุงลมด้านหลัง ก็รู้สึกดีแล้ว เสียดายยัดของมาให้แบบไม่ได้ใช้
มีข้อมูลที่ได้ศึกษามาเกือบหนึ่งปีที่ไม่มีใครพูดและกล่าวถึงในกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับตัวplug in hybrid ที่บริษัทไม่ยอมกล่าวถึง แต่หาได้จากเวบเมืองนอก เช่น Mercedes benz.uk คือ
1.นน.รถplug in hybrid จะหนักกว่ารถธรรมดา245kg. หรือบรรทุกข้าวสารไว้ในรถสองกระสอบกว่าตลอดเวลา มันรวมนน.แบต generatorและอื่นๆ ดังนั้นเมื่อวิ่งจนแบตหมด เครื่องยนต์เล็กๆแค่1950cc นอกจากต้องลากตัวรถ มันต้องแบกข้าวสารสองกระสอบกว่า แค่นั้นไม่พอ มันต้องปั่นไฟเข้าแบต.อีก คือทำสามอย่างในเวลาเดียวกัน
2.เหตุผลทำไมถึงหักคอคนไทยใช้แต่hybrid ในขณะเมืองนอกมีครบทุกรุ่นให้เลือก เหตุผลน่าจะทราบเพราะอะไร
3.ค่าไฟถูกกว่าdieselมากไหม จำว่ามีท่านหนึ่งตอบในเวบนี้ว่าตกวันละ24บาทต่อการช้าจไฟเต็ม17-20km. แล้วถ้าวิ่งไกลกว่านี้จะไม่ประหยัดแล้ว เพราะเครื่องต้องลากข้าวสารสองกระสอบกว่าแล้วต้องเบ่งกำลังไปช้าจไฟเข้าแบตอีก จึงคิดว่าจะประหยัดถ้าใช้แค่แบตที่ช้าจไฟเต็มและขับวันละไม่เกิน20km.
สรุปคือมันมีข้อดีข้อเสียและบางสิ่งที่เค้าไม่บอกเรา บอกแต่ข้อดีคือประหยัดๆ
สำหรับe220d ซื้อมาคือพอใจทุกอย่าง ข้อเสียแค่เรื่องเสียงและเสียดายoption blind spotและdistronic
โชคดีมากนะครับที่ยังหารถสีขาวได้อยู่ ผมว่า จขกท ไม่เคยใช้รถเก๋งดีเซล และไม่ได้ลอง test drive ก่อนออกรถเลยทำให้ผิดหวังกับเรื่องเสียงเครื่องยนต์
ผมแนะนำให้เอารถมาขายผมราคาถูกครับ แล้วให้ไปจอง E coupe ใหม่และสั่ง option Distronic และ blind spot ครับ :) :D
คราวนี้ได้เครื่องเบนซินพร้อม option ที่อยากได้ละครับ 555
-
กะแล้วครับ พอดีผมตามเพจร้านนี้ตลอด เห็นบีเอ็มไปทำกันเยอะมากทั้งเบนซินดีเซล
จริงๆStage1ก็เหลือๆแล้ว หาคนซัดด้วยยากละ แล้วเบรกเดิมเอาอยู่เปล่าครับ
เบรกเดิมเอาอยู่ครับ สบายมาก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
;)