Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 25, 2017, 09:30:06
-
ไม่รู้เปิดกันทำไม จากเมื่อก่อนเห็นซาลงไปพักนึงแล้ว เดี๋ยวนี้กลับมาเปิดกันใหม่เยอะขึ้น
แล้วที่น่าแปลกอีกอย่างนึง ฝนตกหนักขนาดนี้ เมื่อคืนผมเห็นรถเก๋งเปิดไฟตัดหมอกด้านหลังเพียงคันเดียว คันอื่นไม่เปิดเลย แทนที่จะเปิดกลับไม่เปิด แต่เวลากลางคืนปกติไม่ไ่ด้มีฝนลงหนักกลับเปิดไฟตัดหมอกกันซะแบบนั้น
-
เรื่องน่าแปลกในยุค สมาร์ทโฟนนะครับ
แชร์อย่างอื่น มั่ว ๆ ไม่จริง ก็แชร์กันได้
เรื่องความถูกต้อง ของ ความปลอดภัย กลับ ยังมีพฤติกรรมผิด ๆ ได้เสมอ ๆ
-
ไม่ต้องกลางคืนหรอกครับ เย็นๆนี่ก็มีเปิดกันแล้ว
-
เรื่องอื่นๆ ก็ตามที่ว่ากันมา
แต่ เรื่องไฟตัดหมอกหลัง ผมยังไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ ว่า มีไว้เพื่ออะไร?? ทำไม??
เพราะเข้าใจว่า ปกติแล้ว เข้าใจว่า เพื่อช่วยให้ทัศวิสัย ของคนขับ ดีขึ้น เวลามีหมอกลง แต่มันอยู่ด้านหลังมีไว้เพื่อ??
..หรือว่า เพื่อให้ช่วยเพิ่มทัศวิสัย หรือ การมองเห็น ให้คนขับ ที่ขับรถตามหลังมา งี้เหรอ?? ครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่ทำไฟตัดหมอกหลังมาทุกคัน(ตัดหมอกหน้า มีแทบทุกคันแล้วตอนนี้ ยกเว้นตัวล่างสุดมั้ง)
ปล. อยากบอกว่า ใน B-Seg รุ่นนึงที่มีไฟตัดหมอกหลัง เปิดตลอด ทั้ง มี-ไม่มี หมอก ไม่สน เอากะเขาซิ แล้วที่สำคัญ "แสบตา" มาก!! บอกเลย
-
เรื่องอื่นๆ ก็ตามที่ว่ากันมา
แต่ เรื่องไฟตัดหมอกหลัง ผมยังไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ ว่า มีไว้เพื่ออะไร?? ทำไม??
เพราะเข้าใจว่า ปกติแล้ว เข้าใจว่า เพื่อช่วยให้ทัศวิสัย ของคนขับ ดีขึ้น เวลามีหมอกลง แต่มันอยู่ด้านหลังมีไว้เพื่อ??
..หรือว่า เพื่อให้ช่วยเพิ่มทัศวิสัย หรือ การมองเห็น ให้คนขับ ที่ขับรถตามหลังมา งี้เหรอ?? ครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่ทำไฟตัดหมอกหลังมาทุกคัน(ตัดหมอกหน้า มีแทบทุกคันแล้วตอนนี้ ยกเว้นตัวล่างสุดมั้ง)
ปล. อยากบอกว่า ใน B-Seg รุ่นนึงที่มีไฟตัดหมอกหลัง เปิดตลอด ทั้ง มี-ไม่มี หมอก ไม่สน เอากะเขาซิ แล้วที่สำคัญ "แสบตา" มาก!! บอกเลย
ไฟตัดหมอกหลังมีไว้ให้คันหลังมองเห็นรถเราครับ
ในกรณีที่หมอกลงหนักๆจริงๆ หรือฝนตกหนักๆมากๆ เราจะมองไม่เห็นไฟท้ายรถคันข้างหน้าครับ เน้นว่าต้องหนักมากๆ
ผมเคยเจอฝนตกหนักๆครั้งหนึ่งขณะขับรถ ตอนช่วงเย็น คันหน้าห่างไปแค่ 6-7 เมตร ผมมองไม่เห็นเค้าเลยแม้เค้าจะเปิดไฟหน้า เห็นเป็นสีขาวสนิท กระจกหน้าเราก็มีแต่น้ำฝนเหมือนคนเอาถังน้ำมาเทใส่แบบไม่หยุด วินาทีนั้นรู้เลยว่าใครเปิดไฟตัดหมอกหลัง เพราะไฟท้ายธรรมดาจะมองไม่เห็นเลย
-
:)
ผมว่า จริงๆ การใช้ไฟ ไฟฉุกเฉิน ไม่มีอะไร กำหนดตายตัวนะครับ ว่าต้องเปิดตอนไหน จริงๆ ก็ตาม ชื่อ
ส่วนตัว เคยใช้ ครับ ตาม สถาณการณ์ ฉุกเฉิน ตอนฝนตก โครต หนัก มองไม่เห็น แม้แต่รถคัน หน้า ข้างทางก็ไม่เห็น
เพราะ 99 % เปิดกันหมด แล้วคลานๆ กันไป ใครจอดได้ก็จอด เพราะ ตอนนั้น ไม่มี ใครอยากขับแล้ว ความเร็วขณะนั้น คาดว่า ไม่ถึง 30 km/hr
แบบ นี้ เรียก สถาณการฉุกเฉินไหมครับ ไอ้ครั้น จะ จอดข้างข้าง ก็ไม่คุ้น สถานที่ ไม่รู้จะตกถนน หรือ โดน สวนหลังไป ทำได้ แค่ คลานๆ มุดๆ ตามไฟคันหน้าไป
แต่ไอ้ ขับ 40 ขึ้นแล้ว ขับลากยาวไปเรื่อย เปิดไปด้วย ผมก็ไม่เห็นด้วย
แต่ผมเห็นด้วย กรณี ฉุกเฉินจริงๆ
เช่น รถลาก
เบรคกระทันหัน จนจอด
ข้างหน้า มีอุบัติเหตุ
อยู่ดีๆ มีกลุ่ม ควัน
ตาม สถาณการณ์ไป
ผมเห็น คนนึงที่เปิด ครับ กรณี ฉุกเฉิน แล วิกฤติ จริงๆ
แต่ไม่ได้เปิด ขับฝ่า สายฝนไปเรื่อยๆ แน่่นอน
-
กรณีฝนตกหนักมากๆ เปิดไฟฉุกเฉินยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก เพราะจะสับสนได้ระหว่างรถวิ่งกับรถจอด
แล้วฝนตกหนักแบบนี้ทำให้รู้เลยว่า ไฟหน้า LED เทคโนโลยีล้ำโลกขนาดไหน สู้ไฟตัดหมอกเหลืองๆไม่ได้เลย ถึงรู้ว่าเข้าใจไม่ผิดที่คิดว่าแสงเหลืองตัดได้ดีกว่า
ทำให้นึกถึงตอนที่มีกระทู้ถามเรื่องรถใหม่ๆ ไม่มีไฟตัดหมอก ก็มีคนบอกว่าไฟหน้าเดี๋ยวนี้ล้ำมากแล้ว (ตามบรรทัดบนนั่นแหละ ล้ำแล้วยังไง ขาวโพลนเลย)
-
ไฟฉุกเฉิน ขนส่งได้กำหนดมาแล้วว่าสถานะการณ์ไหนคือฉุกเฉิน แต่บางคนเขาก็กำหนดสถานะการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเอง
ขนส่งถึงได้มีข้อกำหนดเพื่อบรรทัดฐาน ในการปฎิบัติร่วมกัน
-
ไฟฉุกเฉิน สามารถเปิดตอนฝนตกได้ในกรณีที่ไม่สามารถขับต่อได้จนต้องจอดข้างทาง หรือค่อยๆขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายด้วยความเร็วที่ช้ามากๆ อันนั้นเปิดไฟฉุกเฉินไว้ถูกต้องแล้วครับ
แต่ในกรณีที่วิ่งอยู่กลางถนนปกติ หรือขับตามๆกันไปไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินค้างไว้ เพราะเวลาเปลี่ยนเลนหรือหลบสิ่งกีดขวางแล้วต้องเปิดไฟเลี้ยว รถคันหลังเขาจะดูไม่ออกครับว่าเราต้องเปลี่ยนเลนไปทางไหน
หรือขับๆไปแล้วต้องเบรคกระทันหันเพราะมีเศษกิ่งไม้ ต้นไม้ล้มมาขวางทาง มันจะไม่เหลือสัญญาณไฟอะไรไว้เตือนคันข้างหลังเลยเพราะดันเปิดไฟฉุกเฉินค้างไว้แต่แรก
ตั้งกระทู้ด่ากันแค่พอหอมปากหอมคอแล้ว ใครมีคนรู้จักก็บอกต่อๆกันไปนะครับ
บางคนไม่ได้เล่น internet บางทีก็ไม่เคยรับรู้การขับรถในแบบที่ถูกต้อง ต้องช่วยกันบอกช่วยกันเตือน
-
ไฟฉุกเฉิน สามารถเปิดตอนฝนตกได้ในกรณีที่ไม่สามารถขับต่อได้จนต้องจอดข้างทาง หรือค่อยๆขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายด้วยความเร็วที่ช้ามากๆ อันนั้นเปิดไฟฉุกเฉินไว้ถูกต้องแล้วครับ
ผมก็ใช้ กรณีนี้ นะครับ คือไหลๆ ไปทางซ้าย แบบช้าสุดๆ คือ มองไม่เห็น แม้แต่ ขอบทาง
คนไม่เจอ ไม่รู้ครับ ว่า
หยุดก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ถึง เคยเจอไหม รถวิ่ง ติดๆ กันมา อยู่ดีๆ เจอ มหาพายุ คุณ คิดว่า แต่ละคนจะทำไง ทั้ง 100 คันไม่มี ใครจอดหมด หรอกครับ
เห็น แต่ เข้า ซ้ายๆ คลาน กันหมด พร้อมไฟฉุกเฉิน จริงๆ ตกขนาด นั้น ทำได้ แค่คลาน ยิ่งข้างทางมองไม่เห็น คุณ ไม่สามารถ จอดซ้ายได้เลย
ก็จะ มีคน อีก กลุ่ม คือ ห้าม เปิด ทุกรณี ยกเว้น จอด
-
ผมว่ามันก็ดีนะ เปิดได้บางกรณี เห็นชัดดี และค่อย ๆ ขับตามไปช้า ๆ
ผมเคยขับจากพัทยา มา กทม. บ่าย2 แต่ฝนตกหนักมาก ๆ ฟ้ามืดระยะ 10 เมตร ก็มัวแทบมองไม่เห็นแล้วครับ :P
-
เรื่องอื่นๆ ก็ตามที่ว่ากันมา
แต่ เรื่องไฟตัดหมอกหลัง ผมยังไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ ว่า มีไว้เพื่ออะไร?? ทำไม??
เพราะเข้าใจว่า ปกติแล้ว เข้าใจว่า เพื่อช่วยให้ทัศวิสัย ของคนขับ ดีขึ้น เวลามีหมอกลง แต่มันอยู่ด้านหลังมีไว้เพื่อ??
..หรือว่า เพื่อให้ช่วยเพิ่มทัศวิสัย หรือ การมองเห็น ให้คนขับ ที่ขับรถตามหลังมา งี้เหรอ?? ครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่ทำไฟตัดหมอกหลังมาทุกคัน(ตัดหมอกหน้า มีแทบทุกคันแล้วตอนนี้ ยกเว้นตัวล่างสุดมั้ง)
ปล. อยากบอกว่า ใน B-Seg รุ่นนึงที่มีไฟตัดหมอกหลัง เปิดตลอด ทั้ง มี-ไม่มี หมอก ไม่สน เอากะเขาซิ แล้วที่สำคัญ "แสบตา" มาก!! บอกเลย
ไฟตัดหมอกหลังมีไว้ให้คันหลังมองเห็นรถเราครับ
ในกรณีที่หมอกลงหนักๆจริงๆ หรือฝนตกหนักๆมากๆ เราจะมองไม่เห็นไฟท้ายรถคันข้างหน้าครับ เน้นว่าต้องหนักมากๆ
ผมเคยเจอฝนตกหนักๆครั้งหนึ่งขณะขับรถ ตอนช่วงเย็น คันหน้าห่างไปแค่ 6-7 เมตร ผมมองไม่เห็นเค้าเลยแม้เค้าจะเปิดไฟหน้า เห็นเป็นสีขาวสนิท กระจกหน้าเราก็มีแต่น้ำฝนเหมือนคนเอาถังน้ำมาเทใส่แบบไม่หยุด วินาทีนั้นรู้เลยว่าใครเปิดไฟตัดหมอกหลัง เพราะไฟท้ายธรรมดาจะมองไม่เห็นเลย
งั้นคงไม่เรียกไปตัดหมอกแล้วครับ เรียก "ไฟตัดฝน" ดีกว่า 555
ถ้ามันช่วยให้ขับรถปลอดภัยขึ้น ทำไม่ทำเป็นอุปกรณ์พื้นฐานไปเลยครับ ผมว่าน่าจะได้ใช้กว่า ถุงลม 10 ใบ 20 ใบ อีกนะครับ เพราะพวกนี้แทบไม่ได้ใช้เลย แต่ไฟตัดฝน น่าจะได้ใช้ทุกครั้งที่ฝนตก
ผมเคยเจอฝนหนักๆ เช่นกัน แบบว่ายังกะกำลังขับเข้าใจกลางพายุ ฟ้ามืดมาก ฝนตกหนัก เปิดที่ปัดน้ำฝนเบอร์ 3 ไม่ออก สุดท้ายก็แวะปั้มครับ เพราะฝืนขับต่อ อันตรายมาก ทั้งกับตัวเรา และ คนอื่น
-
ตอนนี้ต้องเปิดไฟฉุกเฉินกันอีกกรณีนึงแล้วครับ ... กำลังจะจอดรถ
ถ้าไม่เปิด มีโอกาสโดนจี้ตูด คราวนี้ถอยไม่ได้แล้ว
-
ไฟฉุกเฉิน เปิดตอนรถวิ่งอันตรายมากครับ
มันอาจจะทำให้คันอื่นมองเห็นได้ง่ายในยามวิสัยทัศน์ไม่ดี
แต่ต้องไม่ลืมว่า เมื่อเปิดไฟฉุกเฉิน เวลาคุณเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
ไม่มีใครรู้นะว่า คุณเปิดไฟขอทาง เพราะไฟฉุกเฉินมันทำงานทั้งไฟเลี้ยวซ้ายและขวา
เนี่ยละครับ บางทีเรื่องความปลอดภัยมันต้องมองให้รอบด้านจริงๆ
-
https://www.youtube.com/watch?v=tsJnFYqUvcA
ตามนี้ครับ ใช้เฉพาะรถจอดนิ่งเท่านั่น
ในคลิปนีี้อธิบายไว้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์
-
ผมก็เคยเปิดนะ แต่ตอนนั้นฝนตกหนักเห็นทางข้างหน้าไม่เกิน 15 เมตร ตกหนักจนต้องยอมจอดปั๊มเพราะขับไปเสี่ยงอุบัติเหตุมาก
-
ฝนตกหนักจนขับได้ไม่มั่นใจก็หาที่จอด มีแต่มนุษย์ไทยเท่านั้นแหละที่เปิดไฟฉุกเฉิน
อีกเรื่องคือถนนสามเลน เลนขวาก็กลัวฝนวิ่งช้าเท่าเลนกลาง ซึ่งรถที่ว่าไปได้ช้าแล้วก็ช้ากว่าเดิมเป็นแพ
จนคนเลนกลางที่ไม่ได้ตั้งใจตีคู่กับมัน ยอมแซงเลนกลาง เพื่อให้ทุกคนแซงมนุษย์ไทยกลัวฝนแต่เสือกอยู่ขวาสุด
WTF 8)
-
คงต้องดูบริบทหน่อยไหมครับ ว่าจำเป็นแค่ไหนกับการเปิด
รถทุกคันไม่ได้มีไฟตัดหมอกท้าย และทัศนวิสัยแต่ละคน/คันก็ไม่เท่ากัน
ข้างล่างนี่แชร์ปสก.ใน ตปท.ครับ ในไทยก็ว่ากันไปตามบริบท
---
แต่ก่อนผมขับรถที่ญี่ปุ่น (ขับไปทำงานทุกวัน) ตกหนักแบบใต้ฝุ่นเข้าแบบมองข้างหน้าแทบไม่เห็น เกือบทุกคนก็เปิดไฟฉุกเฉินนะครับ
เลยสงสัยว่าการใช้ไฟฉุกเฉินนี่ ใครเป็นคนบัญญัติหรือมีกฏจราจรไหนบัญญัติไว้ไหมครับ (ที่ไม่ใช่คิดกันไปเอง)
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้ามันฉุกเฉินขนาดพายุเข้า มองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น ข้างหลังก็จะชนตูดเราเอา
มีไฟไรผมก็เปิดหมดแน่นอน กลับกันในสถานการณ์นั้นผมก็รู้สึก appreciate ที่คันหน้าผมเปิดไฟฉุกเฉินนะครับ มองท้ายคันหน้าง่ายขึ้นเยอะ
ยิ่งตอนปี 2011 ที่มีเหตุแผ่นดินไหวฟุคุชิม่า ถนนพังหมด ไฟจราจรก็ดับทั้งเมือง
ผมจำได้ดี เพราะเป็นขาขับกลับบ้านจากที่ทำงาน หลายๆคันประมาณครึ่งๆก็เปิดไฟฉุกเฉินวิ่ง "เพราะมันเป็นเหตุฉุกเฉิน"
---
-
ไฟฉุกเฉิน ขนส่งได้กำหนดมาแล้วว่าสถานะการณ์ไหนคือฉุกเฉิน แต่บางคนเขาก็กำหนดสถานะการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเอง
ขนส่งถึงได้มีข้อกำหนดเพื่อบรรทัดฐาน ในการปฎิบัติร่วมกัน
นี่สิใช่ +1 เลย
-
เมื่อคืนมองดูจากคอนโด พอดีคอนโดติดทางด่วนเลย มองดูเป็นระยะๆ สัดส่วนรถที่เปิดไฟฉุกเฉินวิ่งประมาณ 30% วิ่งประปรายกับรถทั่วไป แต่ที่น่าแปลกใจคือฝนตกหนักมาก แต่รถส่วนใหญ่ก็ขับกันค่อนข้างเร็วเหมือนกัน รถที่เปิดไฟฉุกเฉินบางคันขับเลนขวาแล้ววิ่งอย่างเร็วด้วยซ้ำไปครับ
-
สาเหตุที่มีคนใช้ไฟแบบผิดๆ ส่วนนึง ก็เพราะมีคนเอาเรื่องสัญญานไฟที่บรรดารถบรรทุก เขาใช้สื่อสารกัน มาเผยแพร่ และก็แชร์วนไป
เมื่อคืนผมไปนครสวรรค์ ฝนตกหนักมาก เจอรถบรรทุกขับตามกันเป็นขบวน เปิดไฟฉุกเฉินกันทั้งขบวนเลยครับ
และปัจจุบัน รถบรรทุกบางคน เปลี่ยนไฟท้ายเป็นสีเขียว สีฟ้า
ไฟเลี้ยวเป็นสีขาว
มองไกลๆ งง เลยครับ ว่าไฟอะไรเป็นอะไรบ้าง
-
ไฟฉุกเฉิน ขนส่งได้กำหนดมาแล้วว่าสถานะการณ์ไหนคือฉุกเฉิน แต่บางคนเขาก็กำหนดสถานะการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเอง
ขนส่งถึงได้มีข้อกำหนดเพื่อบรรทัดฐาน ในการปฎิบัติร่วมกัน
นี่สิใช่ +1 เลย
ผมว่าเราให้ ขนส่งเปลี่น ชื่อเป็นไฟจอดฉุกเฉิน เพื่อตรง ตาม ที่ ขนส่วต้องการดีกว่าไหม
-
ลองจินตนาการกันดูนะครับ
ฝนตกหนักมากๆ แล้วเห็นรถจอดข้างทางเปิดไฟฉุกเฉิน กับรถที่คลานข้ามากๆ จะแยกออกไหมครับ ว่าคันไหนวิ่งอยู่คันไหนจอดอยู่ ยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ยิ่งผมขับตามหลังรถเกิดไฟกระพริบ แล้วฝนตกหนักมากๆ มันยิ่งลายตา ตาพร่าไปหมด มันวาบๆๆๆๆ ปวดตาสุด
แล้วถ้าเลนกลางเปิดไฟกระพริบ รถเลนขวาก็คิดว่าจะแซงขวา รถเลนซ้ายก็คิดว่าจะแซงซ้าย เค้าก็ไม่กล้าขับกันพอดี
แล้วไหนจะขับรถเปลี่ยนเลน คุณจะเปิดไฟเลี้ยวบอกรถคันข้างๆอย่างไร
-
ไฟตัดหมอกหลังทันไม่ได้มีทุกคันครับ
ถ้าฝนหนักขนาด เปิดแรงสุดยังไม่เห็นข้างหน้าจริงๆ
มีอะไรก็เปิดไปเถอะครับ อย่าเปลี่ยนเลนก็พอ
การใช้ไฟฉุกเฉินที่แย่ที่สุดคือใช้เป็นไฟผ่าหมากอ่ะ
อันนั้นอุบัติเหตุแน่นอน
-
ลองจินตนาการกันดูนะครับ
ฝนตกหนักมากๆ แล้วเห็นรถจอดข้างทางเปิดไฟฉุกเฉิน กับรถที่คลานข้ามากๆ จะแยกออกไหมครับ ว่าคันไหนวิ่งอยู่คันไหนจอดอยู่ ยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ยิ่งผมขับตามหลังรถเกิดไฟกระพริบ แล้วฝนตกหนักมากๆ มันยิ่งลายตา ตาพร่าไปหมด มันวาบๆๆๆๆ ปวดตาสุด
แล้วถ้าเลนกลางเปิดไฟกระพริบ รถเลนขวาก็คิดว่าจะแซงขวา รถเลนซ้ายก็คิดว่าจะแซงซ้าย เค้าก็ไม่กล้าขับกันพอดี
แล้วไหนจะขับรถเปลี่ยนเลน คุณจะเปิดไฟเลี้ยวบอกรถคันข้างๆอย่างไร
+1 เห็นภาพชัดเจน สมัยก่อนขับลงใต้ เจอฝนหนักในเวลากลางวันแทบมองไม่เห็นทางเลย ต้องเปิดไฟหน้าและขับตามไฟท้ายคันหน้าห่าง ๆ ตามรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์บอก รุ่นพี่ยังบอกว่า ฝนตกหนักจนมองทางไม่เห็น ถ้าจำเป็นต้องขับรถ ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะคนจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีจอดอยู่หรือมีรถขับช้า ๆ ให้ขับตามไฟท้ายคันหน้า ทิ้งระยะห่างที่คิดว่าจะสามารถเบรกได้ทัน ห่างหน่อยเป็นดี ถ้าขับตามคันหน้าอยู่ดีๆ ไฟท้ายคันหน้าหายไปในพริบตา ให้เบรกทันที ต้องเบรกจนรถหยุด แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน พยายามชิดซ้ายเพราะเป็นไปได้ที่คันข้างหน้า อาจจะขับรถตกถนน หรือเจออุบัติเหตุกระทันหัน ห้ามแซง และห้ามขับเข้าไปดูใกล้ ๆ ให้จอดหลบชิดซ้ายแล้วรอให้รถสักพัก หรือมีรถหลังนำไปก่อน
ฝนตกหนักกลางวัน น่ากลัวกว่ากลางคืนเยอะครับ มันขาวโพลนไปหมด มองไม่เห็นจริง ๆ
-
ประจำ...
-
เรื่องอื่นๆ ก็ตามที่ว่ากันมา
แต่ เรื่องไฟตัดหมอกหลัง ผมยังไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ ว่า มีไว้เพื่ออะไร?? ทำไม??
เพราะเข้าใจว่า ปกติแล้ว เข้าใจว่า เพื่อช่วยให้ทัศวิสัย ของคนขับ ดีขึ้น เวลามีหมอกลง แต่มันอยู่ด้านหลังมีไว้เพื่อ??
..หรือว่า เพื่อให้ช่วยเพิ่มทัศวิสัย หรือ การมองเห็น ให้คนขับ ที่ขับรถตามหลังมา งี้เหรอ?? ครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่ทำไฟตัดหมอกหลังมาทุกคัน(ตัดหมอกหน้า มีแทบทุกคันแล้วตอนนี้ ยกเว้นตัวล่างสุดมั้ง)
ปล. อยากบอกว่า ใน B-Seg รุ่นนึงที่มีไฟตัดหมอกหลัง เปิดตลอด ทั้ง มี-ไม่มี หมอก ไม่สน เอากะเขาซิ แล้วที่สำคัญ "แสบตา" มาก!! บอกเลย
ออสเห็บหมาใช่ป่าวครับ ::) ::) ::)
-
ลองจินตนาการกันดูนะครับ
ฝนตกหนักมากๆ แล้วเห็นรถจอดข้างทางเปิดไฟฉุกเฉิน กับรถที่คลานข้ามากๆ จะแยกออกไหมครับ ว่าคันไหนวิ่งอยู่คันไหนจอดอยู่ ยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ยิ่งผมขับตามหลังรถเกิดไฟกระพริบ แล้วฝนตกหนักมากๆ มันยิ่งลายตา ตาพร่าไปหมด มันวาบๆๆๆๆ ปวดตาสุด
แล้วถ้าเลนกลางเปิดไฟกระพริบ รถเลนขวาก็คิดว่าจะแซงขวา รถเลนซ้ายก็คิดว่าจะแซงซ้าย เค้าก็ไม่กล้าขับกันพอดี
แล้วไหนจะขับรถเปลี่ยนเลน คุณจะเปิดไฟเลี้ยวบอกรถคันข้างๆอย่างไร
+1 เห็นภาพชัดเจน สมัยก่อนขับลงใต้ เจอฝนหนักในเวลากลางวันแทบมองไม่เห็นทางเลย ต้องเปิดไฟหน้าและขับตามไฟท้ายคันหน้าห่าง ๆ ตามรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์บอก รุ่นพี่ยังบอกว่า ฝนตกหนักจนมองทางไม่เห็น ถ้าจำเป็นต้องขับรถ ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะคนจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีจอดอยู่หรือมีรถขับช้า ๆ ให้ขับตามไฟท้ายคันหน้า ทิ้งระยะห่างที่คิดว่าจะสามารถเบรกได้ทัน ห่างหน่อยเป็นดี ถ้าขับตามคันหน้าอยู่ดีๆ ไฟท้ายคันหน้าหายไปในพริบตา ให้เบรกทันที ต้องเบรกจนรถหยุด แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน พยายามชิดซ้ายเพราะเป็นไปได้ที่คันข้างหน้า อาจจะขับรถตกถนน หรือเจออุบัติเหตุกระทันหัน ห้ามแซง และห้ามขับเข้าไปดูใกล้ ๆ ให้จอดหลบชิดซ้ายแล้วรอให้รถสักพัก หรือมีรถหลังนำไปก่อน
ฝนตกหนักกลางวัน น่ากลัวกว่ากลางคืนเยอะครับ มันขาวโพลนไปหมด มองไม่เห็นจริง ๆ
+1 ผมว่าตามนี้ละครับ ทำไมเขาถึงห้ามเปิดไฟฉุกเฉินตอนฝนตก เพราะถ้าเปิดกันทุกคันไม่รู้เลยว่าคันไหนจอด คันไหนเดินหน้า ไม่รู้จะแซงยังไง
-
บทความของกรมขนส่งทางบกที่เผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยไปทั้งประเทศ
เมื่อเช้าวันนี้ ก็ไม่แนะนำให้รถยนต์วิ่งเปิดไฟฉุกเฉินในขณะฝนตก
-
คงต้องดูบริบทหน่อยไหมครับ ว่าจำเป็นแค่ไหนกับการเปิด
รถทุกคันไม่ได้มีไฟตัดหมอกท้าย และทัศนวิสัยแต่ละคน/คันก็ไม่เท่ากัน
ข้างล่างนี่แชร์ปสก.ใน ตปท.ครับ ในไทยก็ว่ากันไปตามบริบท
---
แต่ก่อนผมขับรถที่ญี่ปุ่น (ขับไปทำงานทุกวัน) ตกหนักแบบใต้ฝุ่นเข้าแบบมองข้างหน้าแทบไม่เห็น เกือบทุกคนก็เปิดไฟฉุกเฉินนะครับ
เลยสงสัยว่าการใช้ไฟฉุกเฉินนี่ ใครเป็นคนบัญญัติหรือมีกฏจราจรไหนบัญญัติไว้ไหมครับ (ที่ไม่ใช่คิดกันไปเอง)
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้ามันฉุกเฉินขนาดพายุเข้า มองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น ข้างหลังก็จะชนตูดเราเอา
มีไฟไรผมก็เปิดหมดแน่นอน กลับกันในสถานการณ์นั้นผมก็รู้สึก appreciate ที่คันหน้าผมเปิดไฟฉุกเฉินนะครับ มองท้ายคันหน้าง่ายขึ้นเยอะ
ยิ่งตอนปี 2011 ที่มีเหตุแผ่นดินไหวฟุคุชิม่า ถนนพังหมด ไฟจราจรก็ดับทั้งเมือง
ผมจำได้ดี เพราะเป็นขาขับกลับบ้านจากที่ทำงาน หลายๆคันประมาณครึ่งๆก็เปิดไฟฉุกเฉินวิ่ง "เพราะมันเป็นเหตุฉุกเฉิน"
---
______________________________________________________
ผมทำอย่างหนึ่ง ทำประจำ ตั้งแต่ ยังขับรถไม่ได้ ประมาณ20กว่าปีที่แล้ว จนขับรถได้ จนมีคันล่าสุด
สิ่งที่ผมทำเองมาเรื่อยๆในช่วง20กว่าปี มาปรากฏในรถคันล่าสุด
ผมว่าสิ่งนี้มีเป็นพื้นฐานในรถทุกคันในอนาคต ก็ดีครับ
______________________________________________________
https://www.youtube.com/watch?v=tsJnFYqUvcA
ตามนี้ครับ ใช้เฉพาะรถจอดนิ่งเท่านั่น
ในคลิปนีี้อธิบายไว้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์
กฎวิทยาศาสตร์ จริง จนกว่าจะมี จริงกว่า แทนที่
กฎคณิตศาสตร์ จริง (โอกาส จริงกว่า อาจจะมี)
กฎหมาย ? ? ? ต้อง คงอยู่ตลอดไป เป็น อมตะ ? ? ?
|
|
|
V