Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: xman2029 ที่ พฤษภาคม 26, 2017, 13:10:52
-
พอดีกำลังมีปัญหาการตัดสินใจจะออกรถคันใหม่กำลังตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี ระหว่าง เพิ่มเงิน 4แสนได้รถที่ประหยัดน้ำมันกว่าแค่10%กับได้ภาพลักษณ์ดีกว่าแต่ มองในมุมกลับกัน เงิน 4 แสนส่วนต่างสามารถเติมน้ำมันวิ่งได้ 8-9ปี ถ้าอิงการใช้งานตามปกติของตัวผม ถ้าเป็นพี่น้องๆใน HLM จะเลือกตัวเลือกไหนดี
ป.ล.สำหรับผมภาพลักษณ์มีผลน้อยมากในการเลือกชื้อรถ เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
-
ถ้าคิดกันแค่เรื่องประหยัดเชื้อเพลิงกว่า... ผมเก็บเงินไว้เติมน้ำมันครับ 8)
ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ อยู่ที่แต่ละคนว่า ภาพลักษณ์ มีมูลค่าเท่าไรครับ ;)
-
ถ้ารถไม่เก่ามาก เป็นผมคงเก็บเงินสี่แสนไว้เติมน้ำมันดีกว่าครับ
-
เพิ่ข้อมูลหน่อยครับ เช่นรุ่นรถ การใช้งานระยะเวลาใช้รถ การวางแผนการจ่าย...
ตอบไปเกรงจะไม่ได้ช่วยอะไร
-
10% ไม่เอามาคิดครับ ถ้าคิดเรื่องน้ำมันอย่างเดียวไม่ค่อยมีประโยชน์
ยกตัวอย่างรถ 4wd กับรถ 2wd ที่ผมใช้อยู่ทุกวันความเป็นจริงส่วนต่างมันต่างกันแค่ 5-10% แต่ในเงินจำนวนนี้มันเป็นพอคิดออกมาจำนวนเงินที่น้อย ใช้งานรถไป 10 ปี ส่วนต่างค่าน้ำมัน 10% ยังไม่ต่างกันเกิน 50,000 บาทเลย ในระยะทางการวิ่ง 2 แสนกว่าโล เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องค่าน้ำมัน ถ้าต่างกันแค่10% ในรถรุ่นเดียวกันหรือต่างยี่ห้อ ส่วนมากผมไม่เอามาคิดหรอกเพราะมีผลแตกต่างน้อย
ผมเห็นคนส่วนใหญ่ซีเรียส กันเรื่องตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองมากกกกกก แต่ที่จริงมันก็ไมไ่ด้แตกต่างมากขนาดนั้นในรถส่วนตัว
ถ้าเป็นรถเชิงพาณิชย์ การประหยัดน้ำมันมีผลมากกับรายได้ จริง อย่างรถส่งของบริษัทค่าน้ำมันเดือนล่ะ 2-4 แสนบาท / ปี พอเปลี่ยนเชื้อเพลิงมาเป็นแก๊สเหลือค่าเชื้อเพลิง 40000 -80000 บาท / ปี ต่างกันปีล่ะ 1 แสนกว่าบาท แบบนี้น่าคิดครับ
-
ลองคิดเป็นระยะทางดู ได้ตัวเลขเยอะอยู่นะครับ
เช่นน้ำมันถังนึง รถคันนึงวิ่งได้ 600 กม. แต่อีกคันประหยัดกว่าหน่อย วิ่งได้ 660 กม. ขับไป-กลับ กินปูแถวๆ ชานเมืองได้เลยนะครับ ;D
-
เอา 4แสน ไปเติมน้ำมันกับแต่งรถครับ 8)
-
สำหรับใช้งานแบบคนทั่วไป..
ใช้รถเดือนละ 3,000 กิโล ปีหนึ่งก็วิ่งรวม 36,000 กิโล
ถ้ารถกินน้ำมัน 15 กิโล/ลิตร ทั้งปีก็ใช้น้ำมัน 2,400 ลิตร
ถ้าน้ำมันลิตรละ 25 บาท ทั้งปีจ่ายค่าน้ำมัน 60,000 บาท
ถ้าเลือกรถประหยัด 10 % ก็จ่ายค่าน้ำมันทั้งปีเหลือประมาณ 54,000 บาท
สรุป ต่างกันปีละ 6,000 บาท (รถประหยัดยังไง ก็ต้องคิดถึงว่าต้องจ่ายค่าเติมน้ำมันให้รถวิ่งได้เหมือนกัน)
ถ้าไม่สนใจภาพลักษณ์(..ตัวผมก็เช่นกันครับ) ...เก็บ 400,000 ไว้ทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่ามั้ง
เอาสี่แสนไปซื้อกองทุนรวมก็ได้(ไม่ต้องถึงขั้นเสี่ยงเล่นหุ้น) ผลตอบแทนต่อปีก็มากกว่าส่วนต่างข้างบนแล้ว
แถมสี่แสนก็ยังอยู่ครบด้วย
-
เก็บสี่แสนไว้ครับ
ผมเป็นคนไม่สนภาพลักษณ์ ;D
-
ขับได้ 100km กับขับได้ 110km
ค่าน้ำมันแพงขึ้นทุกๆปีนะครับ
-
10%ไม่เยอะ แต่ต้องไปดูด้วยว่าแค่10%จริงมั๊ย ตลอดช่วงมั๊ย
ใช่เดินทางไกล10% แต่พอวิ่งในเมือง ต่าง30-40% ตรงนี้เอามาคิดด้วยครับ
-
คำถามคือ 10% แลกมาด้วยรถรุ่นทอปที่ออพชั่นสูงกว่ามากหรือไม่
ถ้าจากเบนซิน ไปดีเซลเทอร์โบ แล้วออพชั่นต่างกันไม่มากสำหรับรถยุโรป ผมไม่ไปเด็ดขาด ยิ่งถ้าดีเซลไฮบริดเบนซ์นี่เลิกคุย
แต่ถ้ารถญี่ปุ่น ต้องมาดูรุ่นกันอีกที 4 แสนนี่อาจจะหมายถึงได้แม้แต่ Camry Extremo 2.0 ข้ามไปตัว HV
ดูรุ่นรถกับอื่นๆ ประกอบ และ 4 แสน ที่ว่านี่ เป็นกี่ % ของราคารถตัวล่างดีกว่าครับ
-
ถ้าข้อมูลนี้ผมเอา ส่วนต่าง 4แสนดีกว่า ครับ
แต่ว่าต้องดูอีกทีว่าจากตัวไหนไปตัวไหน ด้วย ครับ
-
ผมทำบัญชีค่าน้ำมันเอาไว้ตั้งแต่ออกรถวันแรก จำได้เลยว่าปั๊มแรกที่เข้าคือ ปิโตรนาสแถวกิ่งแก้ว
จดละเอียด ไม่ได้จดอย่างเดียวคือชื่อเด็กปั๊ม
7หมื่นโล ผมเติมน้ำมันไป 180,000 บาทครับ
เพราะฉะนั้น สี่แสนเก็บไว้เติมน้ำมัน ไว้เปลี่ยนยางดีกว่าครับผม
-
ผมทำบัญชีค่าน้ำมันเอาไว้ตั้งแต่ออกรถวันแรก จำได้เลยว่าปั๊มแรกที่เข้าคือ ปิโตรนาสแถวกิ่งแก้ว
จดละเอียด ไม่ได้จดอย่างเดียวคือชื่อเด็กปั๊ม
7หมื่นโล ผมเติมน้ำมันไป 180,000 บาทครับ
เพราะฉะนั้น สี่แสนเก็บไว้เติมน้ำมัน ไว้เปลี่ยนยางดีกว่าครับผม
ปั๊ม ปิโตรนาส เจ๊งไปนานแล้วครับ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น susco
-
ผมทำบัญชีค่าน้ำมันเอาไว้ตั้งแต่ออกรถวันแรก จำได้เลยว่าปั๊มแรกที่เข้าคือ ปิโตรนาสแถวกิ่งแก้ว
จดละเอียด ไม่ได้จดอย่างเดียวคือชื่อเด็กปั๊ม
7หมื่นโล ผมเติมน้ำมันไป 180,000 บาทครับ
เพราะฉะนั้น สี่แสนเก็บไว้เติมน้ำมัน ไว้เปลี่ยนยางดีกว่าครับผม
ปั๊ม ปิโตรนาส เจ๊งไปนานแล้วครับ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น susco
อ้าวเหรอครับ อิอิ อ่อนแอก็แพ้ไป
-
รถคันเกียวกัน แต่เครื่องต่างกันหรือคนละคันไปเลยครับ
-
10% ไม่เอามาคิดครับ ถ้าคิดเรื่องน้ำมันอย่างเดียวไม่ค่อยมีประโยชน์
ยกตัวอย่างรถ 4wd กับรถ 2wd ที่ผมใช้อยู่ทุกวันความเป็นจริงส่วนต่างมันต่างกันแค่ 5-10% แต่ในเงินจำนวนนี้มันเป็นพอคิดออกมาจำนวนเงินที่น้อย ใช้งานรถไป 10 ปี ส่วนต่างค่าน้ำมัน 10% ยังไม่ต่างกันเกิน 50,000 บาทเลย ในระยะทางการวิ่ง 2 แสนกว่าโล เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องค่าน้ำมัน ถ้าต่างกันแค่10% ในรถรุ่นเดียวกันหรือต่างยี่ห้อ ส่วนมากผมไม่เอามาคิดหรอกเพราะมีผลแตกต่างน้อย
ผมเห็นคนส่วนใหญ่ซีเรียส กันเรื่องตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองมากกกกกก แต่ที่จริงมันก็ไมไ่ด้แตกต่างมากขนาดนั้นในรถส่วนตัว
ถ้าเป็นรถเชิงพาณิชย์ การประหยัดน้ำมันมีผลมากกับรายได้ จริง อย่างรถส่งของบริษัทค่าน้ำมันเดือนล่ะ 2-4 แสนบาท / ปี พอเปลี่ยนเชื้อเพลิงมาเป็นแก๊สเหลือค่าเชื้อเพลิง 40000 -80000 บาท / ปี ต่างกันปีล่ะ 1 แสนกว่าบาท แบบนี้น่าคิดครับ
+1
-
4 แสน
ต้องมีอะไรได้คุ้มๆ กับ ความประหยัดด้วยครับ ดูหลายอย่างประกอบกันเงินไม่ใช่น้อย
-
ไม่คุ้มครับ แต่ต้องดูออฟชั่นอื่นว่ามีอะไรอีกบ้าง ถ้าต่างกันเยอะก็น่าสนใจ
แต่ถ้าซื้อแล้วไม่เดือดร้อน เหลือๆ ก็ซื้อๆไป
ปล.อยากรู้จังว่ารถอะไร จะได้ช่วยตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้ อิๆ
-
รถที่จะเอา seg เดียวกัน กำลังเครื่องยนต์พอๆกัน ออฟชั่นๆพอๆกันเลยครับ อายุรถพอๆกันเลย แต่อีกคันประหยัดน้ำมันกว่าแถ้าอิงผลการทำสอบของ HLM และเป็นเจ้าตลาด แต่คันที่ถูกกว่าผมก็มีแหล่งวิ่งหาอะไหล่ทำให้ไม่มีปัญหา
-
บอกรุ่นมาเลยครับจะได้ช่วยกันเสนอความคิดเห็นได้ตรงประเด็นมากขึ้น บางทีสี่แสนสิ่งที่ได้เพิ่มมากกว่าแค่ภาพลักษณ์ก็มีเยอะ
-
ผมไม่คิดว่า หลักคิด เลือกรถกับส่วนต่างค่าน้ำมันใช้ได้กับผม
เพราะผมเริ่มด้วย
1.ทำไมต้องซื้อรถเป็นอันดับแรก
2.เป็นรถใหม่เพิ่ม หรือแทนคันเดิม
3. ป้ายแดงหรือมือสอง
3.เงินสดหรือผ่อน
ไม่เคยเอาราคารถ มาrelateกับส่วนต่างน้ำมัน. เพราะหลักคิดนั้น
มันไม่ต้องคิดเยอะ เลือกeco car ที่ถุกที่สุด
เหลือน้ำมันเยอะสุด.
และสุดท้าย. ก็กลับมาคิด ถึง. Option อยุ่ดี
-
ถ้ารถยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา เก็บไว้ใช้ต่อสิครับ
-
สี่แสนสำหรับผมนี่เติมน้ำมันได้ประมาณ 20 ปี 555
-
ล่าสุดผมซื้อรถรุ่นต่ำสุด
แต่เอา ส่วนต่าง 90,000 ไปประมูลเลขสวยมาใช้ครับ
ผมว่า 4แสน ประมูล
หมวด ฆ ยังมีให้เลือกเยอะนะครับ
-
เห็นด้วยกันหลายๆความเห็นว่า ถ้ารู้รุ่นรถด้วยจะตัดสินใจได้มากกว่านี้
แต่เอาตามโจทย์เท่านี้ ผมเลือกไม่จ่ายส่วนต่างครับ เก็บ 4 แสนนั้นไว้ใช้จ่ายได้เยอะเลย
-
ถ้าบอกรายละเอียด รุ่น เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่นี่น่าจะช่วยออกความเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนต่าง 400,000 นี่ ตอบยากมาก ๆ เพราะถ้าเป็นประหยัด 10 % อย่างที่พี่ ๆ หลายท่านบอก ไม่คุ้ม แต่ถ้ารู้รุ่น อาจจะสามารถให้ความเห็นที่ชัดเจนกว่านี้ ถ้า 400,000 บาทนี่ ได้ Option ฯลฯ เพิ่มขึ้นเยอะ บางที 400,000 ก็คุ้มครับ แต่ถ้า 400,000 แล้วได้ HYBRID อันนี้น่ากลัวตอนขายต่อครับ
-
ตอนซื้อ ส่วนต่าง 400000 แต่ตอนขายก็น่าจะมีส่วนต่างอยู่เหมือนกันนะครับ (อาจจะไม่ถึง 400000 ก็จริง) ต้องเอามาคิดด้วย
-
ถ้าคิดเฉพาะอัตราสิ้นเปลือง ไม่เพิ่มเงินครับ แต่คิดว่า ส่วนต่าง 400000 คงมีต้องมีอะไรดีๆเพิ่มแน่
-
ถ้าจะซื้อรถคันละล้าน 4 แสนก็ดูเยอะไม่คุ้ม
แต่ถ้าซื้อรถคันละ 4 ล้าน 4 แสนก็อาจจะคุ้ม
แต่ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่ามีออพชั่นอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง
-
ถ้าเพิ่ม 4 แสนเอาตัว Hybrid ผมว่าอย่าเลยดีกว่าครับ เพราะ Hybrid ประหยัดน้ำมันกว่าก็จริง แต่ค่าซ่อมบำรุงก็แพงกว่าไปด้วย จนถึงขั้นหลายคนไม่มีเงินซ่อมกันเลย อีกอย่างคือราคาขายต่อ รถไฮบริดโดนกดราคามากกว่ารถทั่วไปแน่นอน ดังนั้นอีก 4 แสน เก็บไว้เติมน้ำมัน กับค่าซ่อมบำรุงดีกว่า
-
ไม่คุ้มและสวนทางกัน
เพิ่ม 4 แสนคืออยากได้รถที่มีอะไรที่ชอบมากกว่า 4 แสนสำหรับรถถือว่าไม่น้อยเลย
ค่าน้ำมันมากกว่า 10% ใช้รถให้น้อยลงกว่าปกติ 10% ก็ประหยัดค่าน้ำมันลงแล้ว รักษ์โลกด้วย ^^'
-
เอาที่อยากได้ครับ คิดเรื่องประหยัด ยังไงก็ไม่คุ้ม ถ้า 9-10 ปี วันนั้น อาจขายรถไปแล้ว
รถสมัยใหม่ จะเห็นว่า รถที่ ซดมากๆ แบบ CRV Gen 2 หรือ Cefiro ไม่มีแล้ว ส่วนใหญ่ เฉือนกันที่ จุดทศนิยม ถ้าไม่ได้เอา เครื่องธรรมดา เทียบกับ ไฮบริด
ส่วนที่บางคน คิดเรื่องเอา 4 แสนไปแต่งก็ดีนะครับ
ขับรถเรื่อยๆ แล้วเห็นรถหลายๆคัน ก็คิดไปโน่นนี่นั่น ถ้าตอนนี้ ผมอยากจัด Civic HB แล้ว ขับซัก 3-4 ปี แล้วจะเอามาทำ Type R
ตั้งงบ แล้วลุยเลยครับ ตอนหา ก็สนุก ตอนได้ขับ ก็สนุกครับ รถเนี่ย
-
ถ้าเป็นสมัย Camry ACV40 ที่มี VDIM กับไม่มี อันนี้ชัดเจน
แต่สำหรับคุณ ดูรุ่นอีกทีละกันครับ
-
ในความเป็นจริง รถทุกรุ่นถ้าจ่ายเพิ่ม 4 แสน มันมีอะไรที่มากกว่าความประหยัดน้ำมัน อย่างเช่น camry 2.0 g กับตัว top