Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Weetting ที่ มิถุนายน 01, 2017, 14:31:51

หัวข้อ: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มิถุนายน 01, 2017, 14:31:51
มีโจทย์ให้คิด สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป วันละ 25-30 กิโลเมตร 

รถ 6 แสนใช้ 6 ปี   ขาย > ดาวน์ใหม่ ผ่อนใหม่

รถ 1 ล้านบาท ใช้ 10 ปี  ขาย > ดาวน์ใหม่ ผ่อนใหม่

รถ 1.7 ล้านบาท  ใช้ 15 ปี ขาย > ดาวน์ใหม่ ผ่อนใหม่

เพราะถ้าผ่อนสั้นๆอย่าง 4 ปี  ก็ตกเดือนละหมื่น  แต่ค่าซ่อม Eco  หรือ   Bseg   ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุหนักก็ค่าซ่อมไม่ถึงปีละ 1 แสนแน่นอน    ต่อให้เป็น Cseg - Dseg ค่าซ่อมให้ถึงปีละแสนก็ยังลำบาก 

ผมใช้รถอายุ 15 ปี เคยตายกลางทางครั้งเดียว  เนื่องจากโมดิฟายเครื่องเองต่างหากด้วย  ถ้าคิดใช้เดิมๆก็ยังไม่น่าพังด้วยซ้ำ  ::) ::) ::)




หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มิถุนายน 01, 2017, 14:56:36
ราคาเท่าไหร่ อาจจะปล่อยไปในช่วงเวลาปีเท่ากันก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ มิถุนายน 01, 2017, 14:59:54
ช่วงนี้ละคับ

อยากปล่อยละ แต่ติดตรงไม่มีเงิน 555
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ มิถุนายน 01, 2017, 15:11:24
ผมชอบแบบ  6แสน ใช้5ปี  ขายซื้อใหม่ครับ  ชอบใช้รถใหม่-รถเล็ก จอดง่าย
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ มิถุนายน 01, 2017, 15:35:20
ไม่มีแบบของผมเลย

  ผมสามแสน ใช้ 1-10 ปี  รอดูคันถูกใจ   เจอใหม่ถูกใจก็เปลี่ยน
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: joa123 ที่ มิถุนายน 01, 2017, 15:57:36
อยากใช้งานนานๆครับ  ถ้ามันไม่เสียนะครับ

ปกติใช้นานสุดก็7ปีครับ เร็วสุดก็1ปี

ไม่มีสูตรตายตัวครับ ไล่ตามอายุหน้าที่งานด้วยครับ มีโอกาสก็ซื้อใหม่ครับ ยังไม่ถึงจังหวะก็ใช้คันเดิมครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: gobank01 ที่ มิถุนายน 01, 2017, 15:59:01
ผมเคยคำนวณไว้ เล่นๆ ส่วนตัวผมถือคติแบบนี้เลย

เงินดาว จะอยู่กับเรา

เงินผ่อน ก็คือ ค่าเสื่อมไปในตัว เหมือนเช่าใช้ครับ

##################

รถยนต์ญี่ปุ่น

ซื้อรถ 700k

ดาวน์ 300k

ผ่อน 5 ปี เดือนละ 8000 บาท

ตอนขาย จะเหลือ 300k ก็คือได้ค่าดาวกลับมา

#################

รถยุโรป 3 ล้านบาท

ดาว 1 ล้านบาท

ผ่อน 40k ระยะเวลา 5 ปี

ขายรถยุโรปผ่านไป 5 ปี ก็จะได้ราวๆ 1 - 1.5m

หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มิถุนายน 01, 2017, 16:39:06
มันจะมีจุดที่ค่าซ่อมรายปี มี % สูงเทียบกับราคาปล่อยต่อในตอนนั้น ถ้าพอไหวก็ต้องขายครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ มิถุนายน 01, 2017, 17:07:55
หากมีคันเดียว ก้อคิดแบบนี้
หากมีหลายคัน และอาจจะเป็นคันโปรดอาจจะขายไม่ลง
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ มิถุนายน 01, 2017, 21:04:04
ถ้ารถระดับ 6-800,000 ค่าซ่อมต่อปี แพงกว่า 1/2 ค่างวดรถใหม่  ก็ควรเตรียมเปลี่ยนได้ละครับ
เพราะรถทรงๆ นี้ ผ่อนตกราวๆ ปีละแสนถึงแสนห้านี่แหละ ถ้าถึงขั้นซ่อมปีละห้าหกหมื่น ซื้อรถใหม่ดีกว่าแน่ๆ
โดยเฉพาะถ้ารุ่นใหม่อัพเครื่องเกียร์ใหม่หมดจดเนี่ย ยิ่งควรคิด แต่ถ้ายังซ่อมปีละหมื่นสองหมื่น ใช้ต่อดูจะคุ้ม

คนส่วนมากใช้รถในเมืองราวๆ ปีละสองหมื่นโลหรือน้อยกว่า ถ้ามันซ่อมพอๆ กะค่าน้ำมัน หรือแพงกว่า
(คิดง่ายๆ โลละสองบาท) นี่ก็หนักไปละ รถราคาถูกๆ จะซ่อมอะไรนักหนา จริงไหมครับ

หรือถ้าในรถที่แพงกว่านั้น เงินดาวน์ถือเป็นก้อนสมทบเหมือนท่านบนๆ
ถ้ามือสองมีแนวโน้มราคาลงมาใกล้ๆ เงินดาวน์ (ราคาขายในตลาดนะครับ ไม่ใช่ราคารับซื้อ) ก็จะเริ่มคิดละ

แต่ถ้ารถวิ่งเยอะ ใช้คุ้มระยะ คิดว่าคุ้มทุนตอนไหน หรือรถเริ่มโทรม เริ่มเฝ้าซ่อม รอรถใช้นาน เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน
พวกนี้ส่วนมากยังไงก็วิ่งคุ้มละครับ เผลอๆ คิดต้นทุนค่ารถ+เชื้อเพลิง+ค่าดูแลทั้งหมดเป็นบาทต่อกิโล
ถูกกว่าพวกใช้รถเล็กแต่วิ่งน้อยอีก ถ้าวิ่งต่ำกว่าแสนโลแล้วคิดเปลี่ยนนี่ ควรคิดดีๆ ว่าคุ้มไหม

เหตุผลที่คิดไม่ตกเหล่านี้ ทำให้เจ้าตลาดขายดีครับ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในหมู่คนที่ดูแลรถเองไม่สะดวกนัก
อย่างน้อยที่สุดการขายมือสองได้ดีระดับหนึ่ง ก็ยังถือว่าขาดทุนช้าลงปีสองปีเป็นอย่างน้อย
แต่ถ้าซ่อมรถเองเป็น ดูแลรถ เข้าใจ หาแหล่งอะไหล่ได้ เหมาะกะเล่นมือสองพวกยี่ห้อรองๆ เพราะราคาตกไว
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonnics ที่ มิถุนายน 01, 2017, 23:19:32
6 แสน หกปีเปลี่ยนครับ

ได้ขับรถรุ่นใหม่ สด ทันสมัยตลอด
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: scotch_fillet ที่ มิถุนายน 01, 2017, 23:26:47
ผมเคยคำนวณไว้ เล่นๆ ส่วนตัวผมถือคติแบบนี้เลย

เงินดาว จะอยู่กับเรา

เงินผ่อน ก็คือ ค่าเสื่อมไปในตัว เหมือนเช่าใช้ครับ

##################

รถยนต์ญี่ปุ่น

ซื้อรถ 700k

ดาวน์ 300k

ผ่อน 5 ปี เดือนละ 8000 บาท

ตอนขาย จะเหลือ 300k ก็คือได้ค่าดาวกลับมา

#################

รถยุโรป 3 ล้านบาท

ดาว 1 ล้านบาท

ผ่อน 40k ระยะเวลา 5 ปี

ขายรถยุโรปผ่านไป 5 ปี ก็จะได้ราวๆ 1 - 1.5m

ดีใจจังมีคนคิดคล้ายๆกัน
ค่าผ่อนรถ ผมมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายการเดินทาง+entertainment ของชีวิต
ครบ4-5 ปีขาย ให้ได้เท่าที่จ่ายดาวน์ไป ก็โอเคแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มิถุนายน 02, 2017, 05:01:37
เอาตรงๆ ถ้าไหวก็เอาที่สบายใจเลยครับ
จะชอบผ่อนน้อยมากกว่าความสบาย ออฟชั่น ภาพลักษณ์ หรือ กลับกัน
ถ้าเป็นผมจะเลือกข้อแรก รถ6แสนผ่อน4ปีใช้6-7ปี
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มิถุนายน 02, 2017, 05:48:35
ดูคันปัจจุบันว่าเริ่มงอแงหรือยัง ต้องจดค่าซ่อมต่างๆไว้ครับ อะไรเสีย ซ่อมไปเท่าไหร่ ถ้าเริ่มเยอะ ก็ควรหารถใหม่ได้แล้ว ถ้าค่าซ่อมเฉลี่ยดูแล้วผ่อนรถใหม่ได้เลย ก็ออกรถใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มิถุนายน 02, 2017, 09:35:41
ถ้าเอาคุ้มเลือก 1 ครับ
แต่ถ้าเงินเหลือเยอะ เอา 2
ถ้าคุณจะเลือก 3 คุณต้องเป็นเซียนหน่อย รถ 15 ปีเริ่มหาอะไหล่ยากแล้วครับ เบิกศูนย์ได้ไม่ครบทุกชิ้นแล้ว
(ผมทำโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์บาง Model 5 ปีก็เลิกผลิตแล้วครับ สัญญาคือสามารถผลิตหากมี Service Part ได้ประมาน 10 ปี อย่างมาก 15 ปี)
เกิน 15 ปีไม่มีอะไหล่แล้วครับ เพราะโรงงานไม่ผลิตแล้ว คนที่บอกมีอะไหล่คือเป็นอะไหล่เชียงกงแล้วละครับ

ส่วนตัวผมงบน้อย ผมเอา 1 และเก็บเงินไว้ให้ลูก กับไว้กินตอนแก่ครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มิถุนายน 02, 2017, 09:47:05
ผมเลือก1กับ2
1. เพราะวิ่งในเมือง
2. เพราะวิ่งน้อยมาก ปีนึงคุณใช้ตกแค่10000กิโล ใช้เป็นสิบปีก็ไม่ได้ดูเก่าเลย

3. ไม่เลือกเพราะทุกอย่างไม่แน่นอน ต้องถามว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คัณยังอยากใช้ต่อมั๊ย มันยาวนานเกินไปที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นมั๊ย แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาก็จัดได้ครับ แต่ผมว่ามันก็นานเกินไปอยู่ดี เพราะใช้ดียังไงก็มันเก่าไปตามกาละเวลา
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: ToRToNGPaT ที่ มิถุนายน 02, 2017, 09:48:44
ผมเลือก 1 เพราะส่วนตัวผมเป็นคนขี้เบื่อและชอบใช้ของที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดแล้วต้องเป็นตัว Full Option แบบที่สมเหตุสมผลนะ ประกอบกับไม่ชอบครับรถคันใหญ่ๆ เพราะชีวิตอยู่แต่ในกรุงเทพ นานๆทีจะไปต่างจังหวัดที่ใกล้ๆ ผมเลยรู้สึกว่าแค่ B Seg หรือ B Seg Crossover ก็พอแล้วครับ

ส่วนข้อ 2 ถ้ารายได้ดีขึ้น ในอนาคต ผมอาจจะมองรถราคา1 ล้าน แต่อาจจะใช้ไม่ถึง 10 ปีครับ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: city552 ที่ มิถุนายน 02, 2017, 14:57:49
ถ้ามีเงื่อนไขให้เลือกแค่นี้ ผมเลือกข้อ 1 นะครับ
เพราะรถสมัยนี้ใช้สัก 6-7ปี กำลังดี
และราคารถที่แพงขึ้นมันไม่ได้บอกว่ารถจะใช้ได้ทนกว่า
อย่าง 2 ล้าน กะจะใช้ 15 ปีขึ้น ผมว่าค่าซ่อมน่าจะโหดมากตั้งแต่ ปีที่ 7 เป็นต้นไป
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsakorn11 ที่ มิถุนายน 02, 2017, 22:07:34
อยู่ที่เงินในกระเป๋าของเเต่ละท่านเลย ถ้าพร้อมผ่อนหมดเปลี่ยนใหม่เลยก็ได้จริงๆอะ เเต่บางคันถ้าชอบก็เก็บไว้ไม่ต้องขาย ซื้อเพิ่มเอาหากชอบจริงๆ
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ มิถุนายน 03, 2017, 00:41:30
ผมเคยคำนวณไว้ เล่นๆ ส่วนตัวผมถือคติแบบนี้เลย

เงินดาว จะอยู่กับเรา

เงินผ่อน ก็คือ ค่าเสื่อมไปในตัว เหมือนเช่าใช้ครับ

##################

รถยนต์ญี่ปุ่น

ซื้อรถ 700k

ดาวน์ 300k

ผ่อน 5 ปี เดือนละ 8000 บาท

ตอนขาย จะเหลือ 300k ก็คือได้ค่าดาวกลับมา

#################

รถยุโรป 3 ล้านบาท

ดาว 1 ล้านบาท

ผ่อน 40k ระยะเวลา 5 ปี

ขายรถยุโรปผ่านไป 5 ปี ก็จะได้ราวๆ 1 - 1.5m

คิดประมาณนี้เหมือนกันครับ

ดังนั้น ถ้าขับน้อย  ออพชั่นเช่าขับ บางทีก็ไม่เลวครับ เพราะเอาจริงๆแล้ว มันไม่ได้แพงกว่าซื้อป้ายแดงเท่าไร    (ยกเว้นใช้นานมาก) 
หัวข้อ: Re: ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะ
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ มิถุนายน 03, 2017, 13:15:14
เลือกข้อ3 ครับ เลือกพื้นฐานรถที่ดีที่สุดที่เราจ่ายไหว ใช้ไปแต่งเพิ่มไปด้วย พื้นฐานรถใหญ่ดีกว่ารถเล็กมากครับ ยิ่งถ้าซื้อพวกรถยุโรปมือ2มาทำเพิ่มยิ่งคุ้มครับ ประหยัดได้หลายล้าน