Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ มิถุนายน 06, 2017, 12:07:56
-
ตอนนี้ Headlightmag.com กำลังรวบรวม และ เจาะลึกยอดขายรถยนต์
ไตรมาส 1 ปี 2017 กันอยู่ ที่จะรายงานยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ
แบบแยกตัวถัง, เครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง(เกียร์), ระบบขับเคลื่อน
เหมือนกับที่เคยรายงานไปสรุปรวมปี 2558 / 2015
http://www.headlightmag.com/salesreport_total2015/
สำหรับย้อนหลัง ปี 2016 จะตามมาหลังจากที่รายงาน ไตรมาส 1 ปี 2017
(มกราคม-มีนาคม) ออกมาก่อน เพื่อความสดใหม่ของข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
บทความเจาะลึกยอดขายเต็มรูปแบบจะออกมาภายในเดือน พฤษภาคมนี้
โดยที่อาจจะปล่อยข้อมูลบางส่วนออกมาก่อน เช่น เจาะลึกยอดขาย
Mazda 2 , ยอดขายกระบะ แบ่งตามตัวถัง ตามที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้
และ ในบทความนี้เป็นต้น
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=58833.0
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=58879.0
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=58938.0
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=59089.0
Toyota Fortuner
ยอดขาย Toyota Fortuner
ไตรมาส 1 ปี 2017 (มกราคม - มีนาคม) ทำยอดรวมไปได้ 5,678 คัน
ยอดขายในกลุ่ม PPV (SUV พื้นฐานกระบะ)
(ไตรมาส 1 ปี 2017 : มกราคม - มีนาคม)
อันดับ 1 Toyota Fortuner : 5,678 คัน
อันดับ 2 Mitsubishi Pajero Sport : 4,061 คัน
อันดับ 3 Isuzu MU-X : 2,875 คัน
อันดับ 4 Ford Everest : 1,731 คัน
อันดับ 5 Chevrolet Trailblazer : 270 คัน
สัดส่วนระหว่างรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร เป็นอย่างไร ?
เบนซิน 2.7 ลิตร มีส่วนแบ่งมากน้อยขนาดไหน ?
ดีเซล 2.4 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. VN-Turbo
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด
15.6 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา
6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ดีเซล 2.8 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. VN-Turbo
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 103.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด
15.6 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
450 นิวตันเมตร ที่ 1,400 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
เบนซิน 2.7 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2TR-FE 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.7 ลิตร 2,694 ซีซี.
กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 95.0 x 95.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1
กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตันเมตร
ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
(https://www.uppic.org/image-AD8A_59363840.jpg) (https://www.uppic.org/share-AD8A_59363840.html)
ยอดขายรวม Toyota Fortuner ไตรมาส 1 ปี 2017 : 5,678 คัน
- ดีเซล 2.4 ลิตร : 3,464 คัน (คิดเป็น 61.00%)
- ดีเซล 2.8 ลิตร : 2,195 คัน (คิดเป็น 38.66%)
- เบนซิน 2.7 ลิตร : 19 คัน (คิดเป็น 0.34%)
ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD : RWD) และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD : Part-time) สัดส่วนเป็นอย่างไร ?
Toyota Fortuner มีรุ่นย่อยทั้งหมด 7 รุ่น (รวม TRD Sportivo)
- รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD : RWD) 5 รุ่น
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD : Part-time) 2 รุ่น
(https://www.uppic.org/image-5D94_59363840.jpg) (https://www.uppic.org/share-5D94_59363840.html)
ยอดขายรวม Toyota Fortuner ไตรมาส 1 ปี 2017 : 5,678 คัน
- รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD : RWD) : 4,427 คัน (คิดเป็น 77.97%)
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD : Part-time) : 1,251 คัน (คิดเป็น 22.03%)
สัดส่วนระหว่าง เกียร์ธรรมดา 6MT และ เกียร์อัตโนมัติ 6AT เป็นอย่างไร ?
ในกลุ่ม PPV หรือ SUV พื้นฐานกระบะ มีด้วยกัน 5 รุ่นจาก 5 ค่าย รุ่นเกียร์ธรรมดา
มีเพียง 2 ค่ายเท่านั้นที่ยังคงเหลือจำหน่ายกันอยู่ คือ Toyota Fortuner และ
Isuzu MU-X โดยมีค่ายละ 1 รุ่นย่อยเท่ากัน
Toyota Fortuner รุ่นเกียร์ธรรมดา 2.4 G M/T 2WD 1,229,000 บาท
Isuzu MU-X รุ่นเกียร์ธรรมดา 1.9 DVD 6MT 2WD 1,214,000 บาท
(https://www.uppic.org/image-8831_59363840.jpg) (https://www.uppic.org/share-8831_59363840.html)
Toyota Fortuner ยอดขายรวม 5,678 คัน แบ่งเป็น
- รุ่นเกียร์ธรรมดา 81 คัน (คิดเป็น 1.43%)
- รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5,597 คัน (คิดเป็น 98.57%)
--------------------------------------------------------------------------------
Isuzu MU-X ยอดขายรวม 2,875 คัน แบ่งเป็น
- รุ่นเกียร์ธรรมดา 91 คัน (คิดเป็น 3.17%)
- รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 2,784 คัน (คิดเป็น 96.83%)
รุ่นย่อยไหนของ Toyota Fortuner ขายดีที่สุด ?
Toyota Fortuner มีด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่นย่อย
2.4 G M/T 2WD 1,229,000 บาท
2.4 V A/T 2WD 1,399,000 บาท
2.7 V A/T 2WD 1,549,000 บาท
2.8 V A/T 2WD 1,559,000 บาท
2.8 V A/T 4WD 1,629,000 บาท
2.8 TRD Sportivo 2WD 1,679,000 - 1,699,000 บาท
2.8 TRD Sportivo 4WD 1,749,000 - 1,769,000 บาท
รุ่นย่อยของ Toyota Fortuner ที่ขายดีที่สุด คือ
2.4 V A/T 2WD : 1,399,000 บาท
** ไม่มียอดขายแยกของรุ่นปกติ และ TRD Sportivo (เนื่องจากไม่สามารถหาข้อมูลได้)
โดยยอดของรุ่น TRD Sportivo จะรวมอยู่ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรเท่านั้น
(https://www.uppic.org/image-4B71_59363840.jpg) (https://www.uppic.org/share-4B71_59363840.html)
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com
-
อวสานเครื่องเบนซินแล้วสิน่ะ สำหรับรถที่มีดีเซลให้เลือกนี่คงจบเลย
-
ตามยุคตามสมัยของราคาน้ำมัน
เบนซิลขายได้น้อยมากๆ
ถ้าราคาน้ำมันเบนซิล 38-40 บาทเหมือนเมื่อก่อน
ยอดคงดีกว่านี้พอสมควรเลย..
-
ลาก่อนเบนซิน ลาก่อน MT
-
2.7 ถ้าถูกหน่อยคงได้ยอดมากกว่านี้
แต่ตั้งราคามามหาโหดมาก
รุ่นเกียร์ธรรมดาสเป็คไร้ซึ่งแรงดลใจให้ซื้อ
ไม่น่าออกขายมาให้เปลืองเนื้อที่สต็อก
-
เป็นโตต้าที่การออกแบบได้ฉีกแนวรุ่นอื่นๆในค่ายเลย ขนาดวิ่งกันเกลื่อนเมืองยังมองได้ไม่เบื่อ ได้ภาพลักษณ์ผู้มีอิทธิพล ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นของแถม
-
เครื่องยนต์ 2.7 คนเอาไปติดแก็สน้อยลง และ ด้วยราคาแพง
เกียร์ MT น้อยลงเรื่อยๆ ค่อยๆจางหายไปครับ
-
ขอบคุณครับ
ขายดีจริงๆครับ
-
PJS นี่ก็เยอะน่ะผมว่า ขนาดมีแค่ 3 รุ่นย่อย ยอดขายตั้ง 4 พันกว่าคัน แต่ตอนนี้ Mu-X กำลังมา ไตรมาส 2 อาจแซง PJS ได้ ส่วน FTN ก็คงขายดีต่อไป
-
ในอนาคตอันใกล้ PPV รุ่น Top คงต้องมี 2 ล้าน :-X
-
2.8 ก็ขายดีใช่เล่นเลยครับ :D
-
ตอนแรกผมก็คิดว่า 2.4 ราคาโอเคสุดกับ 1,400,000 ส่วนลด 30,000-40,000 บาท
ไปถามตัว 2.8 TRD 1,680,000 ส่วนลด 70,000-90,000
คิดกลมๆจะราคาต่างกัน 240,000 บาท
ที่ได้เพิ่มคือ 1. เครื่องใหญ่ขึ้น 2. ชุดแต่ง 3. เบาะดำ ( ชอบกว่า ) 4. ช่วงล่างดีขึ้น 5. ล้อใหญ่ขึ้น 6. ลำโพง11ตัว ( ถ้าเอาไปทำเองแบบไม่นับเครื่องยนต์อาจจะถูกกว่านี้ แต่รถจบจากโรงงานยังไงก็อุ่นใจ )
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ผ่อนเพิ่มเดือนละ ประมาณ 4,000 บาท ก็โอเคนะ
แต่สำคัญคือ อย่าไปเทียบกับจ้าวอื่นนะ ไม่งั้นจะดูแพงทันที :)
-
ตอนแรกผมก็คิดว่า 2.4 ราคาโอเคสุดกับ 1,400,000 ส่วนลด 30,000-40,000 บาท
ไปถามตัว 2.8 TRD 1,680,000 ส่วนลด 70,000-90,000
คิดกลมๆจะราคาต่างกัน 240,000 บาท
ที่ได้เพิ่มคือ 1. เครื่องใหญ่ขึ้น 2. ชุดแต่ง 3. เบาะดำ ( ชอบกว่า ) 4. ช่วงล่างดีขึ้น 5. ล้อใหญ่ขึ้น 6. ลำโพง11ตัว ( ถ้าเอาไปทำเองแบบไม่นับเครื่องยนต์อาจจะถูกกว่านี้ แต่รถจบจากโรงงานยังไงก็อุ่นใจ )
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ผ่อนเพิ่มเดือนละ ประมาณ 4,000 บาท ก็โอเคนะ
แต่สำคัญคือ อย่าไปเทียบกับจ้าวอื่นนะ ไม่งั้นจะดูแพงทันที :)
ชอบคำว่า แต่อย่าไปเทียบกับเจ้าอื่นนะ ;D
-
มิตซูอันดับสองนี่ตัวเลขก็ไม่ได้น่าเกลียด ส่วนรุ่นเบนซินนี่อยู่ดีๆขึ้นไปอีกแสนเป็นล้านห้าใครจะไปซื้อ ต้องเอาไปติดแก็สอีก
-
ราคา1.2-1.5 ล้านเหมาะสมกับตลาดบัานเรา
-
เต็มที่ ตัว 2.8 ขับ2 ผมว่าเพียงพอแล้ว
-
เครื่อง2.4 เคยสังเกตตอนจอดข้างๆกัน เครื่องเงียบดีครับ เเอบชอบเหมือนกัน
-
ตอนแรกผมก็คิดว่า 2.4 ราคาโอเคสุดกับ 1,400,000 ส่วนลด 30,000-40,000 บาท
ไปถามตัว 2.8 TRD 1,680,000 ส่วนลด 70,000-90,000
คิดกลมๆจะราคาต่างกัน 240,000 บาท
ที่ได้เพิ่มคือ 1. เครื่องใหญ่ขึ้น 2. ชุดแต่ง 3. เบาะดำ ( ชอบกว่า ) 4. ช่วงล่างดีขึ้น 5. ล้อใหญ่ขึ้น 6. ลำโพง11ตัว ( ถ้าเอาไปทำเองแบบไม่นับเครื่องยนต์อาจจะถูกกว่านี้ แต่รถจบจากโรงงานยังไงก็อุ่นใจ )
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ผ่อนเพิ่มเดือนละ ประมาณ 4,000 บาท ก็โอเคนะ
แต่สำคัญคือ อย่าไปเทียบกับจ้าวอื่นนะ ไม่งั้นจะดูแพงทันที :)
ไปถามตัว 2.8 TRD 1,680,000 ส่วนลด 70,000-90,000 ศูนย์ไหนครับ แนะนำหน่อยครับ ไปถามมา แถวบางบอนไม่ได้ส่วนลดเลยครับ
-
อวสานเครื่องเบนซินแล้วสิน่ะ สำหรับรถที่มีดีเซลให้เลือกนี่คงจบเลย
คนจะซื้อเบนซิน เกียร์ออโต้ เค้าซื้อเพราะจะเอาไปติดแก๊ส
ก็แล้วถ้า ราคามันถูกกว่า ดีเซล 2.8 แค่ 10,000 เดียว >> มันคุ้มมั้ยล่ะ ?
ทั้ง ... ต้องจ่ายค่าติดแก๊ส + หมดรับประกันเครื่องยนต์ + ค่าเชื้อเพลิง ก็พอๆ กับ ค่าน้ำมันดีเซลในรุ่นดีเซล
ยังไม่นับ ที่ราคามันแพงกว่า ดีเซล 2.4 อีกแสนกว่าบาท ด้วยนะ
(12 ปีก่อน
- มีรุ่นดีเซลเกียร์ออโต้รุ่นเดียว คือ รุ่นแพงสุด 3.0
- มีรุ่นเบนซิน ขายถูกกว่า ดีเซลเกียร์ออโต้รุ่นท็อป 1 แสนบาท)
-
เดาไม่พลาด ออโต้ ตัวล่างสุด ขายดี
-
ข้อมูลละเอียดมาก ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ถ้าเทียบ all new FTN กับเจ้าอื่นแล้วไม่คุ้มเลยทั้งเรื่องราคาแล้วก็ออฟชั่น แต่ผมก็ซื้อ เพราะลงตัวที่สุดสำหรับผม ในบรรดา PPV ทั้งหมดครับ ในเรื่องการออกแบบดีไซน์ ฟังก์ชั่นที่ครบเพียงพอสำหรับรถ ณ ปัจจุบัน เรื่องความประหยัด เรื่องที่นั่งการเข้าออกไม่ขาดๆเกินเหมือนเจ้าอื่นๆ ครับ แต่ข้อเสียที่ผมไม่มายด์มากนักคือ เรื่องเทคโนโลยี ที่บอกตามตรงว่า ไม่มีเลยก็ว่าได้
-
1.สวย เด่นกว่าค่ายอื่น
2.เครื่องยนต์ไม่ได้ขี้เหร่ ความประหยัดเกือบดีที่สุดในกลุ่ม เป็นรองแค่ 1.9
3.ชื่อ Toyota บริการหลังการขายไว้ใจได้ อะไหล่แท้เทียบเพียบ
4.เพิ่ง All Model Change มาเมื่อกลางปี 2015 ด้วย ถือว่ายังสดมากๆ อยู่ได้อีกยาว
5.อะไรที่ควรมีก็มี อะไรที่ค่ายอื่นมีแต่ฟอร์ไม่มีก็พอรับได้ กลางๆ ไม่เด่นสุด แต่ก็ไม่ได้แย่สุด (Cruise Control ใส่เองไม่ถึงพัน)
ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ค่อนข้างลงตัวครับ โดยเฉพาะ 2.4V
-
ขับสี่ยอดน้อยกว่าตัวเก่าชัดเลย ถ้าเป็นFTเหมือนเดิมยอดมากกว่านี้แน่นอน