Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NaNaNa ที่ มิถุนายน 11, 2017, 08:20:11
-
ปัจจุบัน ใช้ Camry 2.0 ติดแก๊สอยู่ครับ แล้วครั้งนี้อยากจะหา พวก Benz BMW ขับบ้างเพื่อที่จะอยากจะได้ช่วงล่างที่แน่นๆหน่อยเพราะเป็นคนค่อนข้างขับเร็วพอสมควร ในหัวมีอยู่ 2 ตัวเลือก คือ ระหว่าง BMW Series5 E60 กับ Benz E Class W211 มือสอง เลยอยากลองปรึกษาและหาคำแนะนำทีครับ ว่าตัวไหนน่าสนใจ และปัญหาไม่เยอะเท่าไหร
1. เรื่องการซ่อมบำรุง
2. ติดแก๊ส
3. ซ่อมแล้วซ่อมอีกไหม กลัวมันจุกจิก
4. เรื่องฟิวลิ่งในการขับขี่
รบกวนพี่ๆทีนะครับ
-
ช่วยตอบครับ
1ซ่อมแรงทั้งคู่ Benz อู่เยอะกว่า แต่บีเอ็มก็เยอะนะ
2ถ้าจะติดแก๊ส สงสัยจะได้ซ่อมบ่อย หาเครื่องญี่ปุ่นมาวางจบกว่าเยอะ
3รถตามอายุครับ ซ่อมไปเรื่อยๆ ตามระยะและอาการ แต่ถ้าตามข้อ2 จะประหยัดไปเยอะ
4ให้บีเอ็มครับขับมันส์กว่าครับ
-
ใช้w211 240 ตัวก่อนไมเนอร์อยู่ครับ เทียบกับe39ที่เคยใช้ กับe200ntg ของที่บ้าน
1.ถ้าได้อู่ดีซ่อมจบ เกือบทุกเรื่อง รถดูทนทานจริงๆครับ 10กว่าปีแล้วยังลากสองร้อยได้สบายๆ แต่ ตีนต้นอืดมากกก ส่วนe200ntgนี่ วิ่งมาห้าแสนโลแล้ว ซ่อมบ้าง แต่จบ ใช้ดีจนยังไม่อยากขาย ขณะที่e39 ทุกวันนี้แทบไม่เห็นวิ่งกันแล้ว มัน จุกจิกพอควร แต่e60 อาจไม่จุกจิกขนาดนั้น
2. ผมก็ติดlpgถังโดนัท ใช้ดีครับเปลี่ยนกรองแก๊สตามระยะ ในเมืองตก 2-3บาท/km ตจว กิโลละหกสลึง หลังๆน้ำมันถูกเติมbenzineสลับวิ่งบ้าง เรื่องอู่แก๊สก็สำคัญ หาอู่ดีๆเพราะติดแรกๆ ไฟเอนจินขึ้นบ่อยเหมือนกัน ต้องจูนเก็บ2-3ครั้ง
3. ตอบในข้อ1ไปแล้วแต่เพิ่มเติมคือ พยายามหารุ่นไมเนอร์แล้ว เพราะเบรคsbc(เบรคไฟฟ้า)เปลี่ยนทีประมาณแสนนึงครับ เทียบกับราคารถมือสองแล้วยังไงก้อไม่คุ้ม ยอมจ่ายแพงแล้วเอาตัวไมเนอร์ไปเลยคุ้มกว่า
เคยคุยกับช่างที่ซ่อม ความจุกจิกเรื่องเครื่องยนต์ e240<e200<e220d อันนี้จิง เพราะอีกคันที่บ้านเป็น e200เวลาระบบอัดอากาศเสียนี่ซ่อมกันยาวๆ
4. ฟิลลิ่งช่วงล่างตัวนี้ มันจะเอื่อยๆ เพราะรถมันหนัก ไม่นุ่มมากแต่เฟิร์ม ติดอันเดอร์เสตียร์หน่อยๆ เกียร์ก็เปลี่ยนแบบเอื่อยๆ เครื่อง ถ้าe240 จะรอรอบวิ่ง ตจว ดี ไม่เหมือนe200, e220d พวกนั้นทอร์คต้นดี แต่ปลายเหี่ยว ขับในเมืองง่ายกว่า เรื่องฟิลลิ่งโดยรวมผมว่าe60กินขาดครับ
-
1. ซ่อมบำรุงขอตอบเฉพาะ 211
Ngt ซ่อมอู่ไม่ได้ทุกระบบ อะไหล่แก็สบางชิ้นไม่มีเทียบเบิกห้างอย่างเดียว ราคาคือเข้าศูนย์
พวก na หรือ kom ก็ซ่อมได้ตามอู่เบนซ์ ราคามีถูกมีแพง มีบางชิ้นก็แพงไร้สาระ ต้องมีอู่ไว้ใจได้ว่าอันไหนหาซ่ิอมได้ บางอย่างจำเป็นต้องยอมจ่ายค่าไร้สาระ
2.ติดแก็สเป็นเรื่องที่ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำ นอกจากวิ่งเยอะมากๆ โดยปกติแล้วรถญี่ปุ่นติดจบกว่าครับ โดยเฉพาะe60 ส่วนมากที่ขายเป็นดีเซลคงลำบาก แต่ดีเซลประหยัดอยู่แล้วไม่ต้องติดแก็สก็ประหยัดแล้ว
3.ซ่อมแล้วซ่อมอีกไหม อยู่ที่ฝีมือครับ และถ้าไปใส่แก็สจะยิ่งมีตัวแปรเพิ้ม ต้องดูแลมากจึ้นอีกหน่อย
4.e60 ปึกแน่นขับสนุก แต่ไม่ค่อยสบาย ยิ่งไปเจอเบาะบางแบนอีก 211 นุ่มนวลเกือบย้วย แต่นั่งแล้วสบายกว่าจริงๆ
สุดท้ายจะใข้ 211 หรือ e60 ต้องเริ่มจากที่ได้ถมาว่าสภาพดีหรือย้อยมา แล้วมีอู่รองรับรึยัง
รถอายุขนาดนี้ซ่อมผิดที่บานปลายและซ้ำซ้อน จะเอาเข้าศูนย์ก็อาจจะไม่ประหยัดกว่าผ่อนป้ายแดงแล้วครับ
เพราะค่าซ่อมศูนย์คือเก่าใหม่ก็ราคาศูนย์ เผลอๆยิ่งเก่ายิ่งแพง
-
w211 เห็นใช้กันยังเยอะ
น่าจะยังซ่อมไหว และมันยังหล่ออยู่ครับ
-
ผมชอบ e60 นะ มันดูดีมาก แต่หลังจากศึกษาข้อมูลมาสักพัก ค่าดูแลไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน แถม เสียงเชียร์ส่วนใหญ่จะเชียร์ไป Benz มากกว่า
-
E60 ไม่จุกจิกครับ ใช้มา 8 ปี ซ่อมบำรุงตามระยะจะไม่มีเรื่องเสียตังค์เท่าไร อู่นอกซ่อมเป็นเยอะ ซ๋อมจบ
น้องBM ช่วยผมรอดตายมาสองครั้งไม่ว่าจะ หักหลบกระทันหัน ดริฟบนทางโค้งรูปเคียว-รัชดาลงวิภาวดี แก้อาการคืนง่ายครับ
-
ตอบได้แต่ข้อ4 E60ขับมันกว่าเยอะครับ
-
ใช้ w211 240 อยุ่ครับ. ขับไป 150,000 โล
เรื่องอื่นคนอื่นตอบไปเเล้ว ขอบตอบค่าซ่อมบำรุงละกันครับ
พอดีเพิ่งเอาบิลย้อนหลังมาบวก ตั้งเเต่ปี 2011-ปัจจุบัน
ซ่อมไปทั้งหมด 700,000 บาทครับ
เฉลี่ย ซ่อมปีละเเสน.
จุกจิกกว่าโตต้าเเน่นอนคับ ถ้ารับได้ก็โอเครคับ
ขับไปซ่อมไปตามอายุครับ
ฟิลลิ่งในการขับก็เเนวรถผู้ใหญ่ นิ่มๆ ไม่ตึงตัง ตัวอะวานการท ไม่ย้วยไม่เเข็ง เเต่ขับไม่มัน
พวงมาลัยเบา เอานิ้วก้อยหมุนได้ ไม่คม ไม่ส่งความรู้สึกกลับมาที่มือ
เปนเเนวขับทางไกล ครูทซิ่งมากกว่าครับ
0-100 เคยจับเวลา ได้ประมาณ 11 วินาทีครับ
ตัว240 เครื่อง6 สูบ 177เเรงม้า ขับในเมืองรถติด ได้6-7 โลลิตร
ขับตจว ได้ 10 โลลิตร. ไม่เเนะนำให้ติดเเก้สครับ
เคยขับ E60 520d ของเพื่อนบ่อยอยุ่ครับ
เทียบกันเเล้วขับมันกว่า 211 เยอะ
-
เคยใช้ E60 ครับ แล้วขายไปแล้วครับ
1. อู่นอกเยอะครับ อย่าเอาไปเข้าศูนย์นะครับ ค่าดูแลโหดร้ายพอสมควร เริ่มต้นเตรียมไว้ 300,000฿ บาทก่อนครับ แล้วในแต่ล่ะปีเตรียมไว้ปีล่ะ 100,000฿ ครับเป็นอย่างน้อย อันนี้เฉลี่ยจากที่ผมใช้ไปซ่อมไป 5 ปีครับ
2. ยังไม่เคยติดแกสครับ
3. ไม่ค่อยจะซ่อมซ้ำที่เดิม เหมือนจะไม่จุกจิก แต่เสียมาให้ซ่อมเรื่อย โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ ไม่ซ่อมไม่เปลี่ยนก็ไม่ได้ เลยกลายเป็นจุกจิกนอนอู่บ่อย งงมั้ยเนี่ย
4. เคยขับ 211 ของลูกค้า ถึงรู้ว่าตัดสินใจไม่ผิดเอา E60 ครับ ขับสนุกกว่าเยอะ ค่าซ่อมไม่แตกต่างกันครับ แพงทั้งคู่
จขกท ลองหาคนลองขับก่อนครับ ว่าแลกกับค่าดูแลที่แพงมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก แต่ช่วงล่างและฟีลลิ่ง ดีกว่าไม่ขึ้นตามเปอร์เซ็นที่จ่ายแพงกว่า ลองดูว่าคุ้มกับการเปลี่ยนมั้ย เพราะส่วนตัวผมถ้าขับเร็วคือ 220++ อันนี้ยุโรปดีกว่าแน่นอน แต่ถ้า 160-200 ผมว่าเดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นขับได้สบายๆไม่ต้องเหงื่อออกเหมือนรุ่นเก่าๆแล้วครับ
-
ใช้ w211 240 อยุ่ครับ. ขับไป 150,000 โล
เรื่องอื่นคนอื่นตอบไปเเล้ว ขอบตอบค่าซ่อมบำรุงละกันครับ
พอดีเพิ่งเอาบิลย้อนหลังมาบวก ตั้งเเต่ปี 2011-ปัจจุบัน
ซ่อมไปทั้งหมด 700,000 บาทครับ
เฉลี่ย ซ่อมปีละเเสน.
จุกจิกกว่าโตต้าเเน่นอนคับ ถ้ารับได้ก็โอเครคับ
ขับไปซ่อมไปตามอายุครับ
ฟิลลิ่งในการขับก็เเนวรถผู้ใหญ่ นิ่มๆ ไม่ตึงตัง ตัวอะวานการท ไม่ย้วยไม่เเข็ง เเต่ขับไม่มัน
พวงมาลัยเบา เอานิ้วก้อยหมุนได้ ไม่คม ไม่ส่งความรู้สึกกลับมาที่มือ
เปนเเนวขับทางไกล ครูทซิ่งมากกว่าครับ
0-100 เคยจับเวลา ได้ประมาณ 11 วินาทีครับ
ตัว240 เครื่อง6 สูบ 177เเรงม้า ขับในเมืองรถติด ได้6-7 โลลิตร
ขับตจว ได้ 10 โลลิตร. ไม่เเนะนำให้ติดเเก้สครับ
เคยขับ E60 520d ของเพื่อนบ่อยอยุ่ครับ
เทียบกันเเล้วขับมันกว่า 211 เยอะ
ขออนุญาตถามต่อ
ราคานี่ซ่อมศูนย์รึเปล่าครับ
โดนตัวไหนหนักๆมาเป็นพิเศษรึเปล่าครับ
รถผม 240 เหมือนกัน วิ่งมาพอๆกัน
-
มาแนะนำถ้าสนใจ W211 ให้เล่นตัว FaceLift แล้ว อาจเป็น E280 3.0, E230 2.5 หรือ E220 CDI ครับ เครื่อง V6 3.0 กับ 2.5 ประหยัดแบบสุดชีวิต ผมทำได้ 12 Km/l ประมาณนั้นครับ แต่วิ่งทางไกล ไม่เกิน 120 ผมใช้ตัว V6 3.0 ถ้า 140++ ก็จะประมาณ 10 km/l ส่วน E60 เคยขับ 520d LCI ตัวท้ายๆ ไปเที่ยวบ่อเกลือ จ.น่าน ขับดีครับ เครื่องดีเซลไต่เขาได้ดีมากๆ ช่วงล่างกระชับกว่า มวงมาลัยแม่นยำกว่า เกียร์เปลี่ยนได้ไว มาตามสั่ง ขับสนุก แต่ถึง W211 ตัวที่ผมใช้ จะเป็นตัว Avantgarde ช่วงล่างเตี้ยกว่าปกติ ล้อ 18" ยางหน้าหลังแก้ม 40/35 แต่ก็ยังนั่งสบายๆ ผ่อนคลาย ด้วยระยะยุบของช่วงล่างที่มาก ตามสไตล์ Benz พวงมาลัยไม่แปรผันอัตราทดแบบ BMW คือมันจะติดทื่อๆ กว่า แต่ไม่ได้แย่นะครับ เพียงซอกแซกไม่สนุกเท่าไรแค่นั้น เหมือนทุกอย่างเซ็ทมาเพื่อการเดินทางไกล กำลังเครื่อง 3.0 ไหลมาเรื่อยๆ ไม่เหี่ยวปลายแบบดีเซล เคยลองวิ่ง 240 km/h แต่ยังไม่สุด ทางหมดก่อน นิ่งมากๆ ครับ น้ำมันหายวาบๆๆๆ เช่นกัน V6 แดเสียงเร้าใจมาก แต่ 523i, 525i ไม่เคยขับ แก๊สก็คงติดได้แหละครับ หาเจ้าที่โปรๆ หน่อยละกันครับ ไปลองขับดูครับ หรือถ้าอยู่แถวลำปาง-เชียงใหม่ จะให้ลองขับรถผมก็ยินดีครับ ;)
เท่าที่ใช้มาเกือบ 2 ปี วิ่งเกือบทุกวัน ก็ยังไม่มีอะไรต้องซ่อมนะครับ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Mobil 1 ตัว V6 ใช้ 8 ลิตร + กรอง ไม่เกิน 5,000 เดี๋ยวรอบหน้าจะเปลี่ยนพวกลูกหมากละครับ เริ่มดังบ้างแล้ว อู่บอกประมาณหมื่นกว่าบาท (ผมมีอู่ประจำ) ควรเตรียมไว้ขั้นต่ำก็ประมาณ 50,000 (เฉลี่ยค่ายางเปลี่ยนทุก 2 ปีไปแล้ว) แต่ 520d ของเพื่อนที่เคยขับก็ไม่น่ามีอะไร มันไม่เห็นบ่นอะไรให้ฟัง เข้าอู่นอกเหมือนกัน 555
-
เรื่องหน้าตา การออกแบบ ผมชอบ Benz มากกว่านะ
-
bmw ถ้าขับทุกวัน เตรียมไว้ปีละ 50,000 up ครับ(อู่นอกถ้าศูนย์คูณ2,31เท่า) ผมอยู่กับพวกนี้มานาน ภรรยาจดค่าใช้จ่ายให้ดูทุกปี อยู่ที่ว่าปีนี้ทำหนักทำเบา บางปีอาจเจอแสน แต่ผมว่า ok นะ e39 e60 ขับดีกว่า w211
-
Benz เหมาะกับรถใช้งานจริง ในโลกความจริงครับ
หากจะเน้นขับสนุก ถอยรถอีกคันไว้เฉพาะเลยดีกว่า
-
W211 ถ้าเป็นดีเซล จะเป็นเครื่องยนต์ที่โบราณนะครับ เจอควันดำทุกคัน แต่ความทนทาน
จะดีกว่ารุ่นใหม่ๆ ที่ตามหลังมาพอสมควร แต่ยังไม่ทนทานแบบ พวก W123/124 ช่วงล่างความ
นุ่มนวลแพ้ รุ่นเก่าๆ แต่ดีกว่ารุ่นใหม่ๆ
E60 ส่วนมากมีปัญหาเรื่องเกียร์ครับเวลาเกิน 1 แสนกิโล แต่ว่าระบบอะไรๆ ทันสมัยกว่า
คือ บีเอ็มไปเล่นพวก Electronics ก่อนเบนซ์ ปัญหาในช่วงแรกๆ เลยเยอะกว่า ส่วน E60 นี่
แก้กันไปเยอะแล้ว การขับขี่/ช่วงล่าง บีเอ็มกินเบนซ์ขาดลอยหาแต้มไม่เจอ แต่เบนซ์สาย
ตาคนไทยส่วนใหญ่ยังไงๆ ขับไปก็ดูดีกว่าครับ ถ้า E60 แนะนำว่าให้เล่น 520D ครับ เพราะเป็น
เครื่องดีเซลยุคใหม่แล้ว ประหยัดน้ำมันมากๆ ไม่มีควันดำ แล้วปัญหาก็ไม่ได้มีมากมายอะไรครับ
ถ้าเป็นเครื่องเบนซิล E60 ยังได้เครื่องเบนซินเจนเนอเรชั้นก่อน กินน้ำมันกว่าเครื่องรุ่นใหม่
เยอะแต่ว่าได้อารมณ์กว่า
ผมชอบรูปร่าง E60 เพราะมันดูแปลกตาจากบีเอ็มรุ่นอื่นๆ
-
ใช้ w211 240 อยุ่ครับ. ขับไป 150,000 โล
เรื่องอื่นคนอื่นตอบไปเเล้ว ขอบตอบค่าซ่อมบำรุงละกันครับ
พอดีเพิ่งเอาบิลย้อนหลังมาบวก ตั้งเเต่ปี 2011-ปัจจุบัน
ซ่อมไปทั้งหมด 700,000 บาทครับ
เฉลี่ย ซ่อมปีละเเสน.
จุกจิกกว่าโตต้าเเน่นอนคับ ถ้ารับได้ก็โอเครคับ
ขับไปซ่อมไปตามอายุครับ
ฟิลลิ่งในการขับก็เเนวรถผู้ใหญ่ นิ่มๆ ไม่ตึงตัง ตัวอะวานการท ไม่ย้วยไม่เเข็ง เเต่ขับไม่มัน
พวงมาลัยเบา เอานิ้วก้อยหมุนได้ ไม่คม ไม่ส่งความรู้สึกกลับมาที่มือ
เปนเเนวขับทางไกล ครูทซิ่งมากกว่าครับ
0-100 เคยจับเวลา ได้ประมาณ 11 วินาทีครับ
ตัว240 เครื่อง6 สูบ 177เเรงม้า ขับในเมืองรถติด ได้6-7 โลลิตร
ขับตจว ได้ 10 โลลิตร. ไม่เเนะนำให้ติดเเก้สครับ
เคยขับ E60 520d ของเพื่อนบ่อยอยุ่ครับ
เทียบกันเเล้วขับมันกว่า 211 เยอะ
ขออนุญาตถามต่อ
ราคานี่ซ่อมศูนย์รึเปล่าครับ
โดนตัวไหนหนักๆมาเป็นพิเศษรึเปล่าครับ
รถผม 240 เหมือนกัน วิ่งมาพอๆกัน
ราคานี้อู่นอกครับ
ไม่ได้โดนอะไรหนักๆเลยครับ
เเต่ก็มีโน่นนี่เสีย หรือต้องเปลี่ยนก่อนระยะที่มันจะพาไปตายกลางทางครับผม
-
E60 ไม่ได้จุกจิกมากมายอะไรนะครับ
ใช้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว (ป้ายแดง)
ผมติดแก็สมาตั้งแต่ 4หมื่น กม. ปัจจุบันวิ่งแสนกว่ามากๆแล้วคับ
ถ้าได้อู่ดี ไม่จุกจิกเลยคับ