Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dark Overlord ที่ มิถุนายน 20, 2017, 18:10:57
-
ไม่รู้ว่ามีใครเคยตั้งหรือยัง แต่สนใจรถพวก SUV ครับ
สองตัวนี้มีรุ่นท็อปที่มีจุดเด่นคล้ายกันคือขับสี่ฟูลไทม์กับมีหลังคากระจก ขับดีทั้งคู่
แต่จริงๆ อยากขอข้อมูลแบบไม่เจาะจงรุ่นย่อยครับ รุ่นไหนดีไม่ดี ตัวไฮบริดดีไม่ดียังไง ตัวขับสอง
เช่น จะบอกว่าไม่ต้องเล่นขับสี่ก็ได้ เพราะอะไรยังไง หรือรุ่นล่างๆ ไปเลย เจอ defect
เยอะๆ จะได้ไม่เครียด เป็นต้น
รวมไปถึงการเปรียบเทียบเรื่อง handling, suspension ของสองรุ่นนี้ด้วย
ผมยังไม่เคยลองสักรุ่นครับ
-
ที่ออสเตรเลีย ราคาขายนิสสันเอ๊กเทรล แค่ราวๆ ครึ่งเดียวของเอเวอรเรสต์เองครับ
-
ตอนแรกผมก็มอง X-Trail ครับ แต่แฟนเกลียดนิสสันเข้าไส้เลยจำใจลาจาก ตอน CR-V G5 ยังไม่ออก เจ้านี่เป็นรุ่นเดียวที่ผมมองเลยครับ มีครบทั้ง Sunroof ท้ายไฟฟ้า
ส่วน Everest ได้แค่ไปลองนั่งในห้างถือว่าเจ๋งเลยทีเดียวหลังคาพาโนรามิค ไม่มี PPV เจ้าไหนให้มาเลย ถ้าไม่ติดว่าบ้านผมมีผู้ใหญ่นั่งรถด้วยขึ้นลงลำบากก็คงมองเจ้านี่ด้วยแน่ๆ
-
ตอนแรกก็อยากได้ Everest ...แต่กลัวมันไปดับกลางถนนเวลาออกทริปทางไกล มันคงเป็นอะไรที่เซ็งมาก ...สุดได้เลยไปได้เจ้า Fortuner TRD แทน...ไม่ได้คิดว่าเจ้าตลาดจะไม่มีปัญหา แต่ chance มันน้อยกว่ามากจริงๆ
-
คนรู้จักที่สนิทกันออกไปคัน everest ตัวท็อป ไปดับที่สุราษ ด่ากระจายเลยต้องให้ลูกน้องขับรถอีกคันมาให้ เพราะกำลังจะไปเที่ยว แต่เรื่องสมรรถนะใน ppv นี่โดดเด่นจริงๆ มันนิ่ง แน่นกว่าทุกตัวในตลาด คือต้องยอมรับดีเฟคที่จะเกิดกับมันได้ครับ ว่ายังไงๆก้มีโอกาสเจอ
-
ที่ออสเตรเลีย ราคาขายนิสสันเอ๊กเทรล แค่ราวๆ ครึ่งเดียวของเอเวอรเรสต์เองครับ
เหรอครับ 555
-
Xtrailผมยังไม่เคยลอง แต่ขับสี่มันไม่เชิงว่าฟลูไทม์เหมือนกัน XtrailเหมือนCRVแต่แค่มีระบบให้เลือกโหมดการขับขี่ได้
ขับสอง ขับสี่ออโต้กรณีที่ล้อใดล้อหนึ่งเกิดอาการฟรีทิ้งก็จะขับสี่(แบบCRVไม่ใช่ฟลูไทม์) ขับสี่ตลอดเวลาแต่เอาไว้ลุยเท่านั้นที่ไม่ใช่ถนนดำ(ไม่ต้องรอฟรีทิ้ง)
EV ขับสี่ฟลูไทม์ตลอดทุกสภาพถนนทุกรูปแบบแต่ปรับเป็นขับสองไม่ได้
ส่วนราคาจริงครับ ที่ออสแพงกว่าFTNด้วยซ้ำ หลายๆคนในไทยเลยบอกซื้อEVคุ้มกว่าเพราะตำแหน่งที่วางมันสูงกว่าFTN แต่ในไทยจ่ายเท่ากัน
-
ผมเคยขับ x trail 2.5 & hybrid ส่วน everest เคยแต่ 3.2 โดยรวม ช่วงล่างทางตรงผมว่า ev นิ่งกว่าคับไปแบบนิ่งกว่า x trail มีเซบ่อยเวลาบนทางด่วน แต่พอทางโค้งผมเคยเข้าโหดๆทั้งคู่ผมว่าเยี่ยมทั้งคู่ แอบรู้สึกนิดๆว่าถ้าเข้าแบบโหดมากๆเหมือนx trail จะเกาะกว่านิดๆ แต่แทบไม่ต่างหรอกคับ พวงมาลัยเบาดีทั้งคู่คับ ev ดูแน่นกว่าหน่อยน่าจะเป็นเพราะจับถนัดมือมากกว่า x trail พวงมาลัยgrip โบราณคับ ทั้ง2 รุ่นเพื่อนผมกับญาติผมใช้ไม่มีคันไหนงอแงนะคับ ปกติดีแต่เรื่องศูนย์ไปวัดดวงเอาทั้งคู่ ฟอร์ดดีก้มีคับแต่ต้องเลือกมีไม่เยอะ ถ้าให้ผมเชียร์ ถ้าใช้เกิน 5 ปี เอา everest 3.2 คับ ผมว่าคุ้มนะ แต่ถ้าใช้ไม่เกิน5ปีผมเอา x trail hybrid คับ อัตราเร่งดี ประหยัดพอได้ ภายในถึงจะโบราณแต่ด้านนอกผมว่าสวยอีกหลายปีอยู่ เอา ไฮบริดขับหน้าคับ ขับ4เอาไปเปลืองเปล่าๆจริงๆก้ลุยแทบไม่ได้ ลองดูคับ ขอให้ได้คันที่ถูกใจคับ
-
ถ้าสองตัวนี้จิ้มไปทีี่ EV ด้วยเหตุผลขับสี่ฟูลไท มีข้อดีคือมั่นใจในสภาพถนนเวลาฝนตก น้ำนอง แต่ก็บริโภคน้ำมันมากกว่า บางครั้งคงต้องคิดว่ามีไว้ดีกว่าไม่มี เพราะนาน นานใช้ที ถึงเวลาจะใช้เกิดไม่มีจะรู้สึกเสียดาย เสียโอกาส ไปได้ไม่เหมือนเขา
-
X-TRail ไม่เคยขับแต่ถ้าเป็น EVerestผมชอบที่เสียงเงียบดีมาก ช่วงล่างหนึบแน่นขับดีแต่ถ้าเป็นคนนั่งแถว2หรือ3ผมไม่ชอบที่ดีดท้องเวลาถนนขรุขระหรือเป็นเนินเตี้ยๆครับ
-
แนะนำให้ test drive ทั้งคู่เองครับ เลือกแบบที่เราชอบ
x trail ผมมองไว้ก่อนเปิดตัวว่าเอารุ่นนี้แน่ๆ พอเจอคันจริงกับ test drive แล้ว ผมไม่ชอบ
ev รุ่นนี้ผมก็ชอบมานาน อยากได้มาก กล้าๆกลัวๆ สุดท้ายเพิ่งซื้อมาขับได้ประมาณ 1 เดือน ข้อดี ข้อเสียผมว่าท่านสามารถหาอ่านเยอะในเนต แต่จะขอเล่าในมุมของผม
- ความนุ่มนวล ความเงียบของช่วงล่าง ถ้าถนนเรียบๆแบบบนทางด่วน มันเยี่ยมมาก
แต่ถ้าเจอถนนแบบมองด้วยตาเปล่าเหมือนเรียบ แต่แท้จริงเป็นคลื่นๆแบบ motor way บางช่วง จะพบว่าช่วงล่างมันกระเด้งอยู่ ไม่ต่างจาก fortuner
- เทคโนโลยี ออฟชั่น ที่ได้ใน ev หลายๆอย่างมันดีมาก ถ้าหัดใช้และใช้เป็น เช่น adaptive cruise control ระบบเตือนการชน ผมใช้แล้วชอบมาก
- สำหรับผม ข้อเสียหลักของ ev คือ
1.ออกตัวอืด
2.เบาะนั่งหนังและฟองน้ำคุณภาพต่ำ
3.ไม่มี push start สร้างความลำบาก ต้องคอยหาที่เสียบรูกุญแจ
4. เครื่องเสียงดู dvd ไม่ได้
นอกนั้นโอเค คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากครับ ถ้าคุณมีรถใช้หลายคัน น่าลอง ford มากครับ ถึงมันจะ product ดี แต่ศูนย์ห่วยก็ยังน่าลองครับ
-
เคยขับทั้งคู่ราวๆ 30 -45 นาที ระยะทางราวๆ 10-15 กม.
เห็นพูดถึงเยอะในส่วนของเอฟฯ แต่ขับจริงๆก็ถือว่าใช้ได้ อาจจะไม่ได้ทำความเร็วมาก เลยไม่ได้สัมผัสความเทพ แต่ยอมรับว่าไฟในห้องโดยสารและไฟหน้าดูดีมากๆ มีความรถพรีเมี่ยมพอควร ตายตรงไม่มีไฟส่องรูกุญแจนี่แหล่ะ (ไม่ต้องพูดเรื่องปุ่มสตาร์ทและคีย์เลสเอ็นทรี) เบาะโอเค
เมื่อเทียบกับเอ็กฯ ขับดีใกล้ๆกัน แต่ชอบเอ็กฯ เพราะขับง่ายและคล่องตัวกว่า แต่ภายในเอ็กฯ นี้ เทียบไม่ได้เลย ดูบ้านไปเลยครับ
ถ้าอยู่ ตจว. คงรอสอยเอฟที่มีปุ่นสตาร์ทและคีย์เลสฯ แล้ว แต่อยู่ กทม. เอ็กฯ ดูได้เปรียบด้านต่างๆ มากครับ
-
ผมใช้ 3.2+ หนึบแน่นกว่า เก็บเสียงดีกว่า รูดผ่านถนนสบายกว่าครับ
ภายนอกแล้วแต่ชอบนะ. แต่ภายในนี้ev ดูpremium กว่าเยอะเลย
ผมเคยลืมตัวสาดโค้งแรงๆ ถนนแถวเพชรบูรณ์. ลืมตัวนึกว่าขับโฟกัส.... ขนหัวลุก มือเท้าเย็นเลยที่เดียว
-
แนะนำให้ test drive ทั้งคู่เองครับ เลือกแบบที่เราชอบ
x trail ผมมองไว้ก่อนเปิดตัวว่าเอารุ่นนี้แน่ๆ พอเจอคันจริงกับ test drive แล้ว ผมไม่ชอบ
ev รุ่นนี้ผมก็ชอบมานาน อยากได้มาก กล้าๆกลัวๆ สุดท้ายเพิ่งซื้อมาขับได้ประมาณ 1 เดือน ข้อดี ข้อเสียผมว่าท่านสามารถหาอ่านเยอะในเนต แต่จะขอเล่าในมุมของผม
- ความนุ่มนวล ความเงียบของช่วงล่าง ถ้าถนนเรียบๆแบบบนทางด่วน มันเยี่ยมมาก
แต่ถ้าเจอถนนแบบมองด้วยตาเปล่าเหมือนเรียบ แต่แท้จริงเป็นคลื่นๆแบบ motor way บางช่วง จะพบว่าช่วงล่างมันกระเด้งอยู่ ไม่ต่างจาก fortuner
- เทคโนโลยี ออฟชั่น ที่ได้ใน ev หลายๆอย่างมันดีมาก ถ้าหัดใช้และใช้เป็น เช่น adaptive cruise control ระบบเตือนการชน ผมใช้แล้วชอบมาก
- สำหรับผม ข้อเสียหลักของ ev คือ
1.ออกตัวอืด
2.เบาะนั่งหนังและฟองน้ำคุณภาพต่ำ
3.ไม่มี push start สร้างความลำบาก ต้องคอยหาที่เสียบรูกุญแจ
4. เครื่องเสียงดู dvd ไม่ได้
นอกนั้นโอเค คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากครับ ถ้าคุณมีรถใช้หลายคัน น่าลอง ford มากครับ ถึงมันจะ product ดี แต่ศูนย์ห่วยก็ยังน่าลองครับ
ชอบคอมเม้นท์ที่ว่า บางอาการยังเหมือน Fortuner ครับ จะได้วัดกันไปเลย
ว่ารับได้หรือไม่ได้ ดีกว่าคิดว่าช่วงล่างเทพมากๆ แล้วไปเจอทีหลัง ผมคงเฟลแน่
เรื่อง Cruise, Adaptive cruise ผมชอบใช้คู่กับรถประหยัดๆ น้ำมันหรือ
รถ Hybrid ครับ ผมตอนนี้ใช้ Hybrid อยู่ รู้สึกว่ามันเกิดมาเพื่อคู่กัน
เหมือนบังคับเรา เพราะเทียบแล้วใช้ cruise เนียนๆ อัตราสิ้นเปลืองดีเว่อร์
แต่ถ้าขับรถทั่วไป จะไม่กดใช้ระบบนี้ครับไม่ได้ติดสบาย ข้อเสียผมคือ ถ้าสบายแล้ว
อยากนอนไปเลย 555 adaptive ไม่นับว่าเป็นจุดได้เปรียบก็แล้วกัน
-
ผมใช้ 3.2+ หนึบแน่นกว่า เก็บเสียงดีกว่า รูดผ่านถนนสบายกว่าครับ
ภายนอกแล้วแต่ชอบนะ. แต่ภายในนี้ev ดูpremium กว่าเยอะเลย
ผมเคยลืมตัวสาดโค้งแรงๆ ถนนแถวเพชรบูรณ์. ลืมตัวนึกว่าขับโฟกัส.... ขนหัวลุก มือเท้าเย็นเลยที่เดียว
ชอบ Everest ตรงที่ว่าเหมือนเป็นรถคนล่ะคลาสกับกลุ่ม Fortuner นี่ล่ะครับ
แต่คนใช้ Fortuner TRD ช่วงล่างอาจจะบอกว่าไม่หนีกัน อันนี้แตกต่างหรือเหมือนกัน
ขนาดไหนครับ
-
แนะนำให้ test drive ทั้งคู่เองครับ เลือกแบบที่เราชอบ
x trail ผมมองไว้ก่อนเปิดตัวว่าเอารุ่นนี้แน่ๆ พอเจอคันจริงกับ test drive แล้ว ผมไม่ชอบ
ev รุ่นนี้ผมก็ชอบมานาน อยากได้มาก กล้าๆกลัวๆ สุดท้ายเพิ่งซื้อมาขับได้ประมาณ 1 เดือน ข้อดี ข้อเสียผมว่าท่านสามารถหาอ่านเยอะในเนต แต่จะขอเล่าในมุมของผม
- ความนุ่มนวล ความเงียบของช่วงล่าง ถ้าถนนเรียบๆแบบบนทางด่วน มันเยี่ยมมาก
แต่ถ้าเจอถนนแบบมองด้วยตาเปล่าเหมือนเรียบ แต่แท้จริงเป็นคลื่นๆแบบ motor way บางช่วง จะพบว่าช่วงล่างมันกระเด้งอยู่ ไม่ต่างจาก fortuner
- เทคโนโลยี ออฟชั่น ที่ได้ใน ev หลายๆอย่างมันดีมาก ถ้าหัดใช้และใช้เป็น เช่น adaptive cruise control ระบบเตือนการชน ผมใช้แล้วชอบมาก
- สำหรับผม ข้อเสียหลักของ ev คือ
1.ออกตัวอืด
2.เบาะนั่งหนังและฟองน้ำคุณภาพต่ำ
3.ไม่มี push start สร้างความลำบาก ต้องคอยหาที่เสียบรูกุญแจ
4. เครื่องเสียงดู dvd ไม่ได้
นอกนั้นโอเค คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากครับ ถ้าคุณมีรถใช้หลายคัน น่าลอง ford มากครับ ถึงมันจะ product ดี แต่ศูนย์ห่วยก็ยังน่าลองครับ
ถ้าจะจัด EV รอได้ให้รออีกหน่อยครับ สิ่งที่ขาดหายไปกำลังจะมา ส่วนออกตัวอืดเป็นเรื่องปกติของรถนน.ตัวเยอะ แต่วิ่งดีเมื่อลอยลำ และเวลาแซงก็ไม่ต้องลุ้นดกดเป็นมา เขาต้องเซ็ตมาประมาณนี้ เพื่อประหยัดน้ำมัน ไม่งั้น จะนำวัตถุสองตันกว่า เคลื่อนที่แบบเร็ว เร็ว คงต้องรอบสูงและเปลืองมาก
-
ผมใช้ 3.2+ หนึบแน่นกว่า เก็บเสียงดีกว่า รูดผ่านถนนสบายกว่าครับ
ภายนอกแล้วแต่ชอบนะ. แต่ภายในนี้ev ดูpremium กว่าเยอะเลย
ผมเคยลืมตัวสาดโค้งแรงๆ ถนนแถวเพชรบูรณ์. ลืมตัวนึกว่าขับโฟกัส.... ขนหัวลุก มือเท้าเย็นเลยที่เดียว
ชอบ Everest ตรงที่ว่าเหมือนเป็นรถคนล่ะคลาสกับกลุ่ม Fortuner นี่ล่ะครับ
แต่คนใช้ Fortuner TRD ช่วงล่างอาจจะบอกว่าไม่หนีกัน อันนี้แตกต่างหรือเหมือนกัน
ขนาดไหนครับ
กับ ตัว TRD ไม่เคยขับ โดนแต่ไฟแยงตา ::) อาจจะต้องให้ท่านอื่นช่วยวิจารณ์ให้นะครับ
รถหลายคันต้องขับประจำ หลากหลายสถาณการณ์จึงจะรุ้จัก บุคลิกมันที่แท้จริง
เท่าที่ผมใช้มา โดยรวมๆ ผมจะเชียร์brand นี้นะ จุดเด่นชัดเจน จุดด้อยผมอาจจะมองเรื่องช่างเทคนิคไม่เก่ง มากกว่าdefect เพราะผมไม่เคยโดนครับ
-
สำหรับผม ผมว่าทั้งสองรุ่นมันค่อนข้างต่างกันหน่อยนะ เพราะ Xtrail มันเป็นรถ SUV และ Everest มันเป็น PPV ความนุ่ม ความแข็งก็จะต่างกันนิดหน่อย ถ้าอยากได้แนวนุ่มนวล ก็ xtrail ตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากได้แนวแข็งแรง แข็งหน่อยก็ไปeverest และรับได้เรื่องศูนย์บริการนะครับ ต้องลองไปขับดูครับน่าจะช่วยตัดสินใจได้ดี :-X
-
รถพวกppv จะแพ้ทางคอนกรีตกับเป็นเนินเล็กๆ ไม่เรียบ อันนี้ทำใจครับ ต่อให้ทำช่วงล่างมาก็แค่ดีขึ้นอีกเล็กน้อย แต่พวก suv บ้านเรามันจะไม่เป็นอาการแบบ ppv เรื่องความนิ่งผมว่าเวลาขับ suv มันนิ่งกว่าด้วยที่มันสามารถซัพแรงกระเทือนได้ดีกว่าพวก ppv
-
ถ้าที่บ้านไม่เมารถกัน Everestก็โอเคนะครับ
เมื่อสัก7-8เดือนก่อนมีคนตั้งกระทู้อวยเรื่องEV ว่าขับถนนดำดี สมรรถนะดี และนั่งสบายกว่าD seg. (เดิมผมอยากได้ PPV สักคันไว้เดินทาง) ผมเคยถามในเวปนี้ว่ามันดีกว่าจริงๆหรือ เพราะจะขาย D seg.ที่มีไปซื้อ EV. จึงตัดสินใจไปทดลองขับเอง ปรากฎว่า สมาชิกครอบครัวด่าผมเละเลยครับ โคลงและเมารถกันมาก อ้วกแตก บ่นอุบส์ สรุปตอนนี้ก็ยังขับ D seg.เช่นเดิม
คู่นี้เป็นรถครอบครัวทั้งคู่อยากให้ผู้โดยสารไปนั่งทดสอบด้วยครับ อย่าไปเชื่อใครมาก โดยเฉพาะติ่ง(ผมไม่ใช่ติ่งค่ายใดๆ) เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันครับ
-
ที่ออสเตรเลีย ราคาขายนิสสันเอ๊กเทรล แค่ราวๆ ครึ่งเดียวของเอเวอรเรสต์เองครับ
Everest ที่นั่นราคาพอๆกับ Land Rover Discovory เลยครับ ไม่รู้ว่าไทยขายถูกหรือที่ออสขายแพงเกินกันแน่ 555
-
ถ้าที่บ้านไม่เมารถกัน Everestก็โอเคนะครับ
เมื่อสัก7-8เดือนก่อนมีคนตั้งกระทู้อวยเรื่องEV ว่าขับถนนดำดี สมรรถนะดี และนั่งสบายกว่าD seg. (เดิมผมอยากได้ PPV สักคันไว้เดินทาง) ผมเคยถามในเวปนี้ว่ามันดีกว่าจริงๆหรือ เพราะจะขาย D seg.ที่มีไปซื้อ EV. จึงตัดสินใจไปทดลองขับเอง ปรากฎว่า สมาชิกครอบครัวด่าผมเละเลยครับ โคลงและเมารถกันมาก อ้วกแตก บ่นอุบส์ สรุปตอนนี้ก็ยังขับ D seg.เช่นเดิม
คู่นี้เป็นรถครอบครัวทั้งคู่อยากให้ผู้โดยสารไปนั่งทดสอบด้วยครับ อย่าไปเชื่อใครมาก โดยเฉพาะติ่ง(ผมไม่ใช่ติ่งค่ายใดๆ) เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันครับ
คันที่ลองขับล้อ20 +เติมลมแข็งไปหรือไม่ ผมลองขับคันนี้ถ้าไม่ซัดเวอร์ก็ไม่โคลงไม่เมานะ แต่อย่างว่าแล้วแต่บุคคล
-
ถ้าที่บ้านไม่เมารถกัน Everestก็โอเคนะครับ
เมื่อสัก7-8เดือนก่อนมีคนตั้งกระทู้อวยเรื่องEV ว่าขับถนนดำดี สมรรถนะดี และนั่งสบายกว่าD seg. (เดิมผมอยากได้ PPV สักคันไว้เดินทาง) ผมเคยถามในเวปนี้ว่ามันดีกว่าจริงๆหรือ เพราะจะขาย D seg.ที่มีไปซื้อ EV. จึงตัดสินใจไปทดลองขับเอง ปรากฎว่า สมาชิกครอบครัวด่าผมเละเลยครับ โคลงและเมารถกันมาก อ้วกแตก บ่นอุบส์ สรุปตอนนี้ก็ยังขับ D seg.เช่นเดิม
คู่นี้เป็นรถครอบครัวทั้งคู่อยากให้ผู้โดยสารไปนั่งทดสอบด้วยครับ อย่าไปเชื่อใครมาก โดยเฉพาะติ่ง(ผมไม่ใช่ติ่งค่ายใดๆ) เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันครับ
ขอบคุณครับ แต่พอดีผมมีประสบการณ์เรื่องลมยางเหมือนกัน
คือตอนนั้นเติมให้Camry เกินไป 3 ปอนด์ ช่วงล่างก็กลายเป็นเกวียน
ไปเหมือนกันครับ ถ้าคุณลองไปทดลองแล้วเช็คลมยางให้เท่าค่าปกติ ลอง
ทดลองอีกทีครับ บางทีผมขี้เกียจไปลองที่ศูนย์เหมือนกันเพราะเรื่องลมยาง
ไว้ผมว่าจะไปลองดูเช่นกัน แต่คงอีกนาน
-
ที่ออสเตรเลีย fortuner ราคาเท่า gla250 lol
อ้าวไม่เกี่ยว คหสต ผมว่ารับ ดีเฟคที่อาจเกิดได้ไปเอเวอเรสครับ
-
ที่ออสเตรเลีย fortuner ราคาเท่า gla250 lol
อ้าวไม่เกี่ยว คหสต ผมว่ารับ ดีเฟคที่อาจเกิดได้ไปเอเวอเรสครับ
แล้ว X-trail มีดีตรงไหนบ้างมั้ยครับ
-
ตอบในฐานะเคยขับและนั่งทางไกลนะ ถ้าเป็นคนนั่ง X-trail สบายกว่าชัดเจน เพราะช่วงล่างนิ่มกว่า โคลงน้อยกว่า ถ้าเทียบกับ Ev ผมให้ 10 แต่ 7 เลย ถ้าเป็นคนขับ ผมให้ Ev เหนือกว่าเพราะ รถนิ่งกว่าขับสบายกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมไม่เคยขับเกิน 120 ทั้งคู่เวลาขี่ทางไกล เพราะเป็นคนไม่ขับรถเร็ว ทำให้มากกว่านั้นไม่สามารถออกความเห็นด้วย
-
ที่ออสเตรเลีย fortuner ราคาเท่า gla250 lol
อ้าวไม่เกี่ยว คหสต ผมว่ารับ ดีเฟคที่อาจเกิดได้ไปเอเวอเรสครับ
แล้ว X-trail มีดีตรงไหนบ้างมั้ยครับ
ผมก็ไม่ชอบทั้งคู่
แต่รับไม่ได้กับ X-trail มากๆ ที่ฝาท้ายเป็นพลาสิคทั้งบาน และก็เหล็กคานขวางใต้เบาะแถว 2 ไม่ชุบกันสนิม เป็นสนิมตั้งแต่ป้ายแดง
-
จากเนื้อข่าวล่าสุดนี้ ทำให้ X-trail ดูดีมีภาษีขึ้นมาบ้างมั้ยครับ 555
http://www.headlightmag.com/carlos-ghosn-believes-renault-nissan-alliance-surpass-volkswagen-toyota-in-2017/ (http://www.headlightmag.com/carlos-ghosn-believes-renault-nissan-alliance-surpass-volkswagen-toyota-in-2017/)
-
ผมใช้ 3.2+ หนึบแน่นกว่า เก็บเสียงดีกว่า รูดผ่านถนนสบายกว่าครับ
ภายนอกแล้วแต่ชอบนะ. แต่ภายในนี้ev ดูpremium กว่าเยอะเลย
ผมเคยลืมตัวสาดโค้งแรงๆ ถนนแถวเพชรบูรณ์. ลืมตัวนึกว่าขับโฟกัส.... ขนหัวลุก มือเท้าเย็นเลยที่เดียว
ชอบ Everest ตรงที่ว่าเหมือนเป็นรถคนล่ะคลาสกับกลุ่ม Fortuner นี่ล่ะครับ
แต่คนใช้ Fortuner TRD ช่วงล่างอาจจะบอกว่าไม่หนีกัน อันนี้แตกต่างหรือเหมือนกัน
ขนาดไหนครับ
ถ้าใช้ไม่เกิน 5-7 ปีนี่น่าจะโอนะครับ แต่ถ้าเกินนี้ค่า maintenance นี่ก็ต่างกันสมกับคนละคลาสเหมือนกันนะครับนี่ :-[
-
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 27 ครับ ลองอ่านกระทู้นี้ดูก่อน http://www.headlightmag.com/carlos-ghosn-believes-renault-nissan-alliance-surpass-volkswagen-toyota-in-2017/ ตอนนี้ Nissan X-Trail ที่กลายเป็นเอสยูวีที่ขายดีที่สุดในโลกแล้วนะครับ
-
ผมก็ไม่ชอบทั้งคู่
แต่รับไม่ได้กับ X-trail มากๆ ที่ฝาท้ายเป็นพลาสิคทั้งบาน และก็เหล็กคานขวางใต้เบาะแถว 2 ไม่ชุบกันสนิม เป็นสนิมตั้งแต่ป้ายแดง
รถพรีเมี่ยมหลายๆรุ่นตอนนี้ก็มีฝาท้ายหรือชิ้นส่วนอื่นเป็นวัสดุคอมโพสิตรวมถึงพลาสติกนะครับ จุดประสงค์คือเพื่อลดน้ำหนักตัวรถ อย่างซีรี่ย์7เป็นต้นและยังมีอีกแต่นึกไม่ออก
ถ้ามองเรื่องนี้ว่าเป็นการลดต้นทุนที่รับไม่ได้ ผมคิดว่ารถยนต์หลายๆรุ่นที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอควบคุมต่างๆแบบแทปเลทยังเป็นการลดต้นทุนที่รับไม่ได้มากกว่า 555