Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: car mood ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 02:31:00
-
จากข้อความในรีวิว ml280 พี่จิมบอกว่า
"แม้ว่าในเวอร์ชันไทย
จะไม่มีระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC มาให้เหมือนในต่างประเทศ แต่ผมว่า แค่นี้ก็ดีพอแล้ว
และระบบที่ว่า ก็ยังไม่จำเป็นสำหรับบ้านเราเท่าใดนัก หากมองในแง่ ความจำเป็นต่อการใช้งาน"
คือ มันไม่จำเป็นยังไงหรอครับ แล้วระบบนี้มีข้อดีข้อเสียต่างจากระบบธรรมดาอย่างไรครับ ???
-
ระบบช่วงล่างถุงลมอะครับ ให้ความนุ่มนวดดีกว่าแล้วยังส่มารถปรับความสูงต่ำของตัวรถได้ แต่เคยคุยกับคนใช้เค้าบอกว่าระบบช่วงล่างนี้แพ้ต่อถนนบ้านเราใช้แล้วพัง ค่าซ่อมแพง
ถามคนใช้Land Rover ถอดทิ้งแล้วใส่สปริงธรรมดากันใหญ่เพราะอายุการใช้งานมันสู้สปริงไม่ได้ครับ ^^
-
คล้ายๆไฮดรอลิคของซีตรอง หรือป่าวครับ
-
ของ s-class รู้สึกจะคู่ละแปดหมื่นครับ (เหมือนจะเป็นอะไหล่เทียบด้วย)
เจ้านี้คงราคาไม่ต่างกันมาก
คล้ายๆไฮดรอลิคของซีตรอง หรือป่าวครับ
ไม่เหมือนครับ เจ้านี่จะไม่ใช้ไฮดรอลิคเลย แต่จะใช้ลมอัดอยู่ในถุงลมที่ยืดหยุ่นได้เป็นตัวรับการสั่นสะเทือนแทน
ถ้าอยากลองนั่ง ลองไปนั่งในยูโรทูเบนซ์ส้มดูก็ได้ครับ (เบนซ์เหมื่อนกันถุงลมเหมื่อนกัน อิๆๆ)
ส่วนของซีตรอง จะเป็นตุ้มเหล็กในนั้นจะมีไฮดรอลิคและก๊าซอัดอยู่โดยมีไดอะเฟรมกั้นกลาง เจ้าไดอะเฟรมนี้แหละจะเป็นตัวรับการสั่นสะเทือนครับ
ระบบของซีตรองที่ใช้ไฮดรอลิค เลยสามารถปรับสูงต่ำได้มากกว่าถุงลมครับ
-
ของ s-class รู้สึกจะคู่ละแปดหมื่นครับ (เหมือนจะเป็นอะไหล่เทียบด้วย)
เจ้านี้คงราคาไม่ต่างกันมาก
ไม่ได้ขายเป็นคู่นะครับ
ขอเบิกศูนย์ ขายข้างล่ะ 68,020 ยังไม่รวม Vat และค่าแรงใส่ครับ(ส่วนลดแล้วแต่ช่วงนะครับ)
ถ้าเป็นอะไหล่นอก (ตัวเดียวกัน) ไม่ได้ซื้อในศูนย์ ราคาตั้งแต่ 22,500-28,000 บาท แล้วแต่ร้านลองเช็คได้นะครับ(เหมือน 100%)เป็นของบิลสไตน์
ส่วนตัวเป็นช่วงล่างที่ผมชอบที่สุด
-
ถ้าสงสัยว่าความรู้สึกช่วงล่างถุงลมมันเป็นยังไงคว้ากระเป๋าตังค์ออกไปโบกรถเมล์ยูโรทูสีส้มเลยครับ ส่วนฟีลลิ่งแยกตามยี่ห้อดังนี้
- Mercedes-Benz ช่วงล่างค่อนข้างเฟิร์มที่สุดความเร็วต่ำในเมืองในดีดเด้งบ้าง แต่เวลาขับบนทางด่วนมันซับแรงกระแทกได้ดีมากเลย จนสงสัยว่า ขสมก.มันไปสั่งสเป็ครถทัวร์มารึไงฟระ แถมได้เกียร์ 5 AT ที่เกียร์5ทดมาต่ำได้ใจ กดยันเกจ์ที่ 125 km\h รอบเครื่องแค่ 2200 เป็นรถเมล์รุ่นเดียวที่กดจนยันเกจ์ได้
- Isuzu รุ่นแรกช่วงล่างนุ่มนวลชวนฝันมากสำหรับในเมืองที่ความเร็วต่ำ แต่พอขับบนทางด่วนรู้สึกได้เลยว่ามันย้วยเกินไป รุ่นนี้กดจนหมดแรงตอนสมัยสภาพยังสมบูรณ์อยู่ได้ 115 km\h ในเกียร์4 ที่ 2700 รอบ มุดขีดแดงไปเรียบร้อย ส่วนรุ่น2ที่สูงโย่งซะเป็นเปรตขึ้นรถทีแทบจะต้องตะกายฝาขึ้น ช่วงล่างให้รู้สึกเหมือน BENZ ขึ้นมาเฉยเลย อาจจะเป็นเพราะเปลี่ยนรูปแบบช่วงล่างใหม่ แต่ทำไมกดจนสุดแล้วได้แค่ 105 km\h ในเกียร์ 4 ที่ 2700 รอบเองหว่า
- Hino ช่วงล่างคล้ายอีซุซุเลย แต่ออกแข็งกว่ากันนึดนึง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเกียร์3มันถึงลากยาวจังฟระ เกียร์3ความเร็วไม่เลย 70 มันไม่ค่อยยอมลง แล้วเสียงเครื่องยนต์มันจะครางได้น่ากลัวโพดๆ กดจนหมดแรงได้ 105 km\h ในเกียร์4 ที่ 2700 รอบ แต่ขึ้นช้ากว่าอีซุซุมาก
- Daewoo ช่วงล่างความรู้สึกเหมือน Hino แบบเป๊ะๆเลย รุ่นนี้มันเทพตรงเกียร์ 5 AT มีโหมด +/- ให้คนขับเล่นด้วย เคยเจอคนขับๆมันเป็นเกียร์ธรรมดาเลย ตัวนี้กดจนสุดได้ 110 km/h ที่ 2600 รอบ
-
^
^
^
สุดยอดครับ ผมนั่งยังแยกไม่ออกเลย ;D แต่ตอนนี้เริ่มหายากแล้ว มีแต่รถจีน นั่งแล้วสั่นทั้งตัว ช่วงล่างดังเอี้ยดๆ เสียดายแทน ???
-
ราคาค่าซ่อมนี่แพงน่าดูนะครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ ว่าแต่พี่จิมมี่ครับ ผมรอคำตอบอยู่นะครับ :)