Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tarahlm ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 20:24:24

หัวข้อ: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 20:24:24
แต่ก่อนผมขับรถค่อนข้างเร็วกว่าปัจจุบัน ใช้รถวิ่งไกลร้อยกว่าทุกวัน เจอฝนตกลุยแอ่งน้ำบ่อยๆ
สงสัยมานานแล้วล่ะ

เคยใช้รถสองคัน คันหนึ่งรถเก๋งห้าประตู-Mondeo 1996
อีกคัน SUV awd-Escape 2003   ทั้งคู่ไม่มีทั้ง ระบบ Traction control ,ESP (VSC)

เวลาขับรถลุยฝน น้ำนองถนน ผมกลับมีความรู้สีกว่า Mondeoลุยมั่นคงกว่า เหมือนเซน้อยกว่า
ก้ไม่รู้ถึงเหตุผล ทั้งๆที่เข้าใจว่า SUV awd น่าจะดีกว่า หรือเป็นเพราะพวงมาลัยเบามือกว่า
(แต่เทียบกับรถใหม่ๆปัจจุบันถือว่าหนักมือไปแล้ว)

จนมาวันนี้ไปอ่านเว็บวิชาการ Howstuffwork
"...... All-wheel drive vehicles are more likely to hydroplane than two-wheel drive vehicles, because
their computerized differentials may shift power from the front to the rear tires..."

จาก http://auto.howstuffworks.com/car-driving-safety/accidents-hazardous-conditions/hydroplaning1.htm

เลยไม่แน่ใจว่าท่านอื่นมีประสบการณ์กันบ้างไหม มันเป็นจริงแบบว่าหรือ?

อย่างไรก็ตาม เลือกรถตอนนี้ก็คงต้องมี TC ESP(VSC)ครบ

หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: yod artstu ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 20:52:30
เส้นทางสายรองแถวชะอำมีร่องน้ำ น้ำขังเยอะครับ ฝนตกทีไรได้เรื่องทุกทีครับ
ใช้ Subaru XV ก็มีอาการเหินๆแต่ระบบมันช่วยดึงๆให้กับมาอยู่ในไลน์
แต่กับ Jazz ผมจะขับช้ากว่าประมาณนึง ซึ่งก็เหินเหมือนกัน เหวอๆกว่าเพราะรถมันเบา

ไม่แน่ใจเรื่องระบบอันไหนเกิดมากกว่าน้อยกว่า เพราะ AWD ก็มีหลากหลายแบบครับ
แต่รวมๆยังมั่นใจกว่านิดนึง แบบไม่ได้ต่างขนาดนั้นเวลาเหินน้ำ เพราะทั้งคู่ก็ มี VSA
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 21:23:07
มีความน่าจะเป็นครับ แปรผันตามความฉลาดระบบควบคุมกำลังจากหน้าไปหลัง
ไม่รวมตัวแปร น้ำหนักรถ. สภาพยาง ความเร็ว หรือความสของน้ำ
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 21:28:53
ผมกดเข้าไปอ่านมาแล้วครับ...ถ้าเอาตามที่บทความกล่าวไว้ ปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิด hydroplane คือความเร็วรถและความยาวของแหล่งน้ำขัง
ถ้ารถวิ่งมาด้วยความเร็วเกิน 50 mile/h หรือเกิน 80 Km/h แล้วมาเจอน้ำขังที่เป็นทางยาวเกิน 9 เมตรขึ้นไปจะเกิดอาการเพราะหน้ายางเริ่มรีดน้ำไม่ทัน

ปัจจัยถัดมาคือขนาดหน้ายางและขนาดของร่องรีดน้ำ ยางที่หนึบๆทางแห้งส่วนใหญ่จะเจอปัญหา hydroplane กันเยอะเพราะหน้ายางสัมผัสถนนเยอะแต่ร่องระบายน้ำมีน้อย
พวกยางชั้นนำอย่าง Pilot Sport 4,Pirelli P-Zero ตามเวปยางส่วนใหญ่ที่ฝรั่งเอาไปเทสมาก็มีบอกว่าแอบเหินน้ำง่ายเหมือนกัน

ปัจจัยสุดท้ายคือ AWD จะเหินน้ำง่ายกว่า 2WD  แต่จะเกิดในกรณีที่ระบบ AWD เป็นแบบที่เมื่อล้อหน้า lost traction แล้วส่งกำลังไปล้อหลังทั้งหมดแบบฉับพลัน นั่นจะยิ่งทำให้ล้อหน้าลอยน้ำมากขึ้น
ผมก็ไม่แน่ใจว่ามีรถ AWD รุ่นไหนบ้างที่มีหลักการทำงานแบบที่ว่ามา.....

แต่ถ้าเป็น AWD อย่างของพวก Subaru XV, Forester ที่พื้นฐานเป็นรถขับหน้าแต่มีเพลากลางส่งกำลังไปล้อหลังแบบ 60:40
เวลาล้อคู่หน้า Slip หรือเริ่มเหินน้ำมันจะไม่ส่งกำลังไปหาล้อหลังที่เหลือแบบ 100% เหมือนที่บทความว่าไว้ แต่มันจะมีวิธีจัดการถ่ายแรงไปหาล้อที่ยังมี traction แบบค่อยเป็นค่อยไปและอิสระต่อกัน แถมยังมีระบบ VDC ค่อยช่วยทรงตัวไว้อีกทางหนึ่งด้วย

ถ้าใครจำคลิปที่เอา Mazda CX-3 AWD มาขึ้นลูกกลิ้งเฉพาะล้อหน้าแบบหักเลี้ยวเทียบกับ Subaru XV แล้วโจมตีว่า XV ไม่ค่อยมีแรงถ่ายมาล้อหลังน่ะ
นั่นเป็นเพราะระบบของ XV มันจะไม่ถ่ายกำลังไปล้อหลังทั้งหมดแบบฉับพลัน เพื่อป้องกันอาการรถเสียหลักที่เกิดจากล้อหน้า lost traction อย่างเช่นเวลาที่เกิด hydroplane นั่นเอง
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 21:39:21
ถ้าลุยน้ำ ปัจจัยหลักอยู่ที่ยางมากกว่าระบบขับเคลื่อน

สมัยผมขับเก๋ง ใช้ยาง PS3 รู้ๆกันว่ามิชลินสมรรถนะบนพื้นเปียกดี
ไม่ค่อยมีอาการ วิ่งถนนเปียกๆเอารถอยู่ คมกริ๊บ

เคยไปลองขับ PPV 4x4 ฟลูไทม์ที่ว่าเกาะนักหนา
ผลคือลื่น แค่แอ่งน้ำเล็กๆก็เป๋แล้ว ระบบขับเคลื่อนไม่ช่วยอะไรเลย
รถมันใหญ่ ยางหน้ากว้างๆ เหินน้ำดีนักแหละ

แต่พอขับ CRV เพื่อนที่ใส่ยางสะพานหิน
ขับ 4 กระเทย ที่หลายๆคนชอบค่อนขอด กลับทำได้ดีกว่ามาก
บนถนนดำกับฝนตกหนักๆ ยางเทพๆ กับ ขับสี่ Real time แก้อาการได้ดีกว่า AWD
(ยางสมรรถนะสูงๆของรถ PPV ทั้งหลาย รีดน้ำดีๆ ราคาแรง และตัวเลือกน้อยกว่ามาก)

แต่ถ้าขับแบบเต็มลิมิต AWD แบบซูฯน่าจะดีกว่า
ถ้าขับแบบสันติ ไปเรื่อยๆ หรือไม่ใช่คนขับรถเก่งๆ ใส่ยางรีดน้ำดีๆ จบสุด
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 22:08:32
hydroplaning หลักๆ อยู่ที่ยางครับ

แต่พอเกิดแล้ว การทรงตัว หรือ การควบคุมรถ awd ได้เปรียบหรือทำได้ดีกว่า fwd/rwd โดยทฤษฎี(ต้องดูว่ารถอะไรด้วย)
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ กรกฎาคม 09, 2017, 23:08:21

เอามาให้ครบ น่าจะได้ประโยชน์กันครับ

การป้องกันการเกิด Hydroplane
การแก้ไขวิกฤติขณะเกิด Hydroplane

http://www.wikihow.com/Stop-Hydroplaning
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 06:56:51
ประโยคสำคัญอยู่ตรงที่ จขกท ยกมา
"...... All-wheel drive vehicles are more likely to hydroplane than two-wheel drive vehicles, because
their computerized differentials may shift power from the front to the rear tires..."

ไม่ใช่รถ AWD ทุกคันที่มีหลักการกระจายแรงบิดหน้า-หลังแบบนั้นครับ เหมือนที่คุณ akewizard กล่าวไว้ข้างบนครับ
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 10:41:19
ที่ "เขาว่า" AWD เหินน้ำมากกว่า
เพราะดอกยาง ที่อาจจะเป็น HT ซึ่งไม่สามารถสู้ยางทิศทางเดียว หรือยางเก๋ง ได้
และด้วยความกว้างของหน้ายางที่มากกว่า เช่น เก๋ง 225, SUV PPV 265 ยิ่งกว้างก็เหมือนเรือท้องแบนนั้นเอง การเหินน้ำย่อมมีมากกว่า

ถ้าขนาดยางและดอกยาง + นน.รถ + เทคโนฯ ที่ใกล้เคียงกัน AWD ต้องดีกว่า FWD และ RWD อยู่แล้ว เพียงแต่ค่าบำรุงรักษาจะมากกว่า
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: nut25784 ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 14:09:23
ผมเคยเอา xv ลงแอ่งน้ำที่ 130 รถลอย แต่ตรงๆนิ่งๆ ผ่านไปได้ แบบน้ำกระจายมองไม่เห็นไรเลย

แต่ไม่เอาแล้ว มันบังเอิญลงไป ไม่ได้อยากลอง
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 16:03:06
ที่ "เขาว่า" AWD เหินน้ำมากกว่า
เพราะดอกยาง ที่อาจจะเป็น HT ซึ่งไม่สามารถสู้ยางทิศทางเดียว หรือยางเก๋ง ได้
และด้วยความกว้างของหน้ายางที่มากกว่า เช่น เก๋ง 225, SUV PPV 265 ยิ่งกว้างก็เหมือนเรือท้องแบนนั้นเอง การเหินน้ำย่อมมีมากกว่า

ถ้าขนาดยางและดอกยาง + นน.รถ + เทคโนฯ ที่ใกล้เคียงกัน AWD ต้องดีกว่า FWD และ RWD อยู่แล้ว เพียงแต่ค่าบำรุงรักษาจะมากกว่า

ความกว้างของหน้ายาง ผมก็เข้าใจผิดเช่นนั้น จากเว็บเดิมอธิบาย

...Hydroplaning is more likely to happen if your vehicle has narrow tires...ล้อเล็กเกิดง่ายกว่า

...Certain tire tread patterns are better at channeling water away than others...ลักษณะรูปร่างดอกยาง
ที่ไล่ระบายน้ำดีกว่าก็เกิดยากกว่า ของSUVน่าจะร่องดอกใหญ่ ระบายน้ำดีกว่า

...Heavy vehicles are less prone to hydroplaning.... รถมีน้ำหนักมากกว่าเกิดยากกว่า  SUVหนักกว่าครับ



http://auto.howstuffworks.com/car-driving-safety/accidents-hazardous-conditions/hydroplaning1.htm
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 20:08:43
ระบบช่วงล่าง ก็น่าจะเกี่ยวนะครับ ผมว่าหลายๆอย่าง มันต้องทำงานประสานกันครับ
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: earrt ที่ กรกฎาคม 11, 2017, 07:54:31
ผมว่ายางนะครับ

เมื่อวันเสาร์ฝนตก ขับมา 60

เห็นทางโล่งๆไม่มีรถเลย เหยียบมิดคิกดาวน์  ดันเจอ แอ่งน้ำที่ล้อซ้าย รถสบัดเลย น่ากลัวชะมัด

ยาง PS3 ทำงานได้ดีครับ

ถึงเวลาคงได้เสียตังให้ PS4
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ กรกฎาคม 11, 2017, 09:04:58
ที่ "เขาว่า" AWD เหินน้ำมากกว่า
เพราะดอกยาง ที่อาจจะเป็น HT ซึ่งไม่สามารถสู้ยางทิศทางเดียว หรือยางเก๋ง ได้
และด้วยความกว้างของหน้ายางที่มากกว่า เช่น เก๋ง 225, SUV PPV 265 ยิ่งกว้างก็เหมือนเรือท้องแบนนั้นเอง การเหินน้ำย่อมมีมากกว่า

ถ้าขนาดยางและดอกยาง + นน.รถ + เทคโนฯ ที่ใกล้เคียงกัน AWD ต้องดีกว่า FWD และ RWD อยู่แล้ว เพียงแต่ค่าบำรุงรักษาจะมากกว่า

ความกว้างของหน้ายาง ผมก็เข้าใจผิดเช่นนั้น จากเว็บเดิมอธิบาย

...Hydroplaning is more likely to happen if your vehicle has narrow tires...ล้อเล็กเกิดง่ายกว่า

...Certain tire tread patterns are better at channeling water away than others...ลักษณะรูปร่างดอกยาง
ที่ไล่ระบายน้ำดีกว่าก็เกิดยากกว่า ของSUVน่าจะร่องดอกใหญ่ ระบายน้ำดีกว่า

...Heavy vehicles are less prone to hydroplaning.... รถมีน้ำหนักมากกว่าเกิดยากกว่า  SUVหนักกว่าครับ



http://auto.howstuffworks.com/car-driving-safety/accidents-hazardous-conditions/hydroplaning1.htm

ผมคิดว่า ฝรั่ง ไม่ได้อธิบายไว้ถูกต้องเสมอ ฝรั่งมั่วก็เยอะ!!

ยางหน้าแคบ ต้องเหินน้ำน้อยกว่าแน่นอน  ลองเอาไม้เรียวตวัดลงผ่านในบ่อน้ำกับเอาไม้ซุงตวัดลงผ่านในบ่อน้ำ ดูอันไหนจะต้านมือมากกว่ากัน

ยาง SUV ดอกใหญ่กว่า ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ารีดน้ำดีกว่า เพราะยาง SUV โดยมากมักเป็นดอกยางแบบไม่มีทิศทาง และเน้นการตะกุย
มากกว่ายึดเกาะถนน เช่น ยาง MT ดอกใหญ่ ดอกห่าง แต่พื้นที่ยึดเกาะน้อย
ผิดกับยางทางเรียบ ที่เน้นการยึดเกาะ และรีดน้ำมากกว่า เช่น ดอกยางลายลูกศร

รถหนักกว่า ต้องเหินน้ำน้อยกว่า แต่มันต้องขึ้นกับช่วงล่าง และดอกยางด้วย

เพราะทุกอย่างเป็นองค์ประกอบ รถลุย SUV จะเอามาวิ่งเร็วมาก เข้าโค้งเร็วมาก ก็ทรงตัวสู้รถที่มีค่า CG ต่ำๆ ไม่ได้แน่นอน
และกลับกัน รถ CG ต่ำๆ จะเอาไปลุย ก็ไม่ได้ มีแต่พังแน่นอนเช่นกัน

เช่น Porsche Cayenne เมื่อเทียบกับ Panamera
หัวข้อ: Re: AWD อาการเหินน้ำ(hydroplaning)ในขณะฝนตก เกิดได้ง่ายกว่า 2WD ??
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ กรกฎาคม 11, 2017, 12:06:55
ผมซีเรียสเรื่องยาง มากกว่าระบบ AWD นะ
แต่ก็ให้เครดิต AWD มากกว่า 2WD อยู่ดี