Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ahueyzs ที่ กรกฎาคม 21, 2017, 14:02:55
-
จากข่าว http://www.workpointtv.com/news/42087 (http://www.workpointtv.com/news/42087)
http://www.tnews.co.th/contents/338166 (http://www.tnews.co.th/contents/338166)
ที่มา https://www.facebook.com/watcharin.bent/posts/1499825263409704 (https://www.facebook.com/watcharin.bent/posts/1499825263409704)
อยากถามว่า กรณี รถกึ่งพ่วง(หัวลาก+เทเลอร์) รถเปล่าไม่บรรทุก แล้ววิ่งบนถนนเปียก กรณีหัวลากและพ่วงเก็บล้อได้
สมควร เก็บล้อ หรือ เอาล้อทุกล้อลงพื้นถนน เพื่อการเพิ่มการยึดเกาะถนนและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเบรค ครับ
แบบไหนดีกว่ากันครับ
-
รถหัวลากไม่มีของบรรทุก มักจะยกล้อขึ้น บางรุ่นก็อยู่หลัง บางรุ่นก็อยู่หน้า ส่วนมากจะเป็นรถที่มี 3 เพลา
ที่ยกเพราะว่าเวลาเลี่ยว ล้อนี้มันจะถูๆไป ทำให้ยางสึก
แต่ถ้ามีของบรรทุกอยู่ด้วย ต้องเอาลง เพราะรถ 3 เพลา กฎหมายให้บรรทุกได้ถึง 50 ตัน
แต่ถ้าบรรทุกของ แล้วยกล้อขึ้นจะเหลือ แค่ 2 เพลา จะบรรทุกได้ 42 ตัน
-
รถหัวลากไม่มีของบรรทุก มักจะยกล้อขึ้น บางรุ่นก็อยู่หลัง บางรุ่นก็อยู่หน้า ส่วนมากจะเป็นรถที่มี 3 เพลา
ที่ยกเพราะว่าเวลาเลี่ยว ล้อนี้มันจะถูๆไป ทำให้ยางสึก
แต่ถ้ามีของบรรทุกอยู่ด้วย ต้องเอาลง เพราะรถ 3 เพลา กฎหมายให้บรรทุกได้ถึง 50 ตัน
แต่ถ้าบรรทุกของ แล้วยกล้อขึ้นจะเหลือ แค่ 2 เพลา จะบรรทุกได้ 42 ตัน
ครับเข้าใจในส่วนนั้น แต่ที่ถามหมายถึง ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนเปียก การไม่ยกล้อขึ้นเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าหรือป่าวครับ สำหรับทางบนเขา และโค้งแบบในคลิป ในแง่ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ไม่ใช่การประหยัดต้นทุน
-
ปัญหาของรถพ่วงลากที่ไม่มีน้ำหนักบรรทุก "น่าจะ" เป็น น้ำหนักลงเพลาน้อยเกินกว่าจะสร้างแรงยึดเกาะที่เพียงพอได้ (ในแบบเดียวกันกับรถกระบะตอนเดียววิ่งตัวเปล่า) ... การเพิ่มจำนวนเพลาที่ลงพื้นไม่ได้ช่วยอะไร ในแง่พื้นที่ยึดเกาะ เผลอๆก็เท่าเดิม เพราะพอมีล้อมากขึ้นมาช่วยกระจายน้ำหนัก ยางก็จะยุบน้อยลง เพราะ load ต่อล้อลดลง (การเพิ่มเพลา/ล้อ ของรถบรรทุก ทำเพื่อลด load ของยางแต่ละเส้น ไม่ใช่เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ)
-
แบ่งได้เป็นสองกรณีครับ
1. หัวลากรถเปล่าๆ ไม่บรรทุกอะไรเลย ถ้าเอาล้อลง ผมว่ามีผลน้อยมากๆ ตามเหตุผลที่คุณturinว่าไว้ข้างบน เพราะปัญหามันไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ในการยึดเกาะ แต่ปัญหามันอยู่ที่มันไม่มีโหลดมาเพิ่มแรงยึดเกาะ ตามสูตรf=un คือไม่มีn ต่อให้มีuก็ไม่มีFRICTIONอยู่ดี)
กล่าวคือ รถพ่วงหัวลาก น้ำหนักลงล้อหน้าซัก70% ลงเขา+เบรคไปด้วย น้ำหนักน่าจะตกลงด้านหน้าเกือบหมด จนล้อหลังไม่มีแรงยึดเกาะเลยจนท้ายอาจจะออกได้ถ้าเลี้ยว
2. กรณีอย่างในคลิป หัวลากมีรถพ่วง ขับลงเขาซึ่งน่าจะเบรคไปด้วย บนถนนที่แรงเสียดทานต่ำ น้ำหนักรถพ่วงจึงไปตกลงที่ล้อหน้าของรถพ่วง(ล้อหลังหลังของหัวลาก)เป็นอย่างมาก ที่นี้พอหัวลากเริ่มเลี้ยว แต่แรงยึดเกาะของล้อหลังหัวลากไม่พอ กล่าวคือ แรงกระทำที่เกิด มากกว่าแรงเสียดทานของยาง(traction circle) จึงทำให้ รถพ่วงunder steer และหัวลากover steerลงข้างทาง
จะเห็นได้ว่า กรณีที่สองนี้ ปัญหามันอยู่ที่แรงเสียดทานไม่พอกับแรงกระทำดังนั้น การเอาล้อหลังลงจะช่วยเพิ่มtractionของยางได้มาก เพราะมีแรงกดบนล้ออยู่แล้ว
-
แบ่งได้เป็นสองกรณีครับ
1. หัวลากรถเปล่าๆ ไม่บรรทุกอะไรเลย ถ้าเอาล้อลง ผมว่ามีผลน้อยมากๆ ตามเหตุผลที่คุณturinว่าไว้ข้างบน เพราะปัญหามันไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ในการยึดเกาะ แต่ปัญหามันอยู่ที่มันไม่มีโหลดมาเพิ่มแรงยึดเกาะ ตามสูตรf=un คือไม่มีn ต่อให้มีuก็ไม่มีFRICTIONอยู่ดี)
กล่าวคือ รถพ่วงหัวลาก น้ำหนักลงล้อหน้าซัก70% ลงเขา+เบรคไปด้วย น้ำหนักน่าจะตกลงด้านหน้าเกือบหมด จนล้อหลังไม่มีแรงยึดเกาะเลยจนท้ายอาจจะออกได้ถ้าเลี้ยว
2. กรณีอย่างในคลิป หัวลากมีรถพ่วง ขับลงเขาซึ่งน่าจะเบรคไปด้วย บนถนนที่แรงเสียดทานต่ำ น้ำหนักรถพ่วงจึงไปตกลงที่ล้อหน้าของรถพ่วง(ล้อหลังหลังของหัวลาก)เป็นอย่างมาก ที่นี้พอหัวลากเริ่มเลี้ยว แต่แรงยึดเกาะของล้อหลังหัวลากไม่พอ กล่าวคือ แรงกระทำที่เกิด มากกว่าแรงเสียดทานของยาง(traction circle) จึงทำให้ รถพ่วงunder steer และหัวลากover steerลงข้างทาง
จะเห็นได้ว่า กรณีที่สองนี้ ปัญหามันอยู่ที่แรงเสียดทานไม่พอกับแรงกระทำดังนั้น การเอาล้อหลังลงจะช่วยเพิ่มtractionของยางได้มาก เพราะมีแรงกดบนล้ออยู่แล้ว
รบกวนถามคุณ koko86 หน่อยครับ
- ยางหน้ากว้างขึ้น ทำให้รถรับ lateral force ได้มากขึ้นไหม
- การเพิ่มล้อ ในกรณีของรถพ่วง เทียบเท่าได้กับเพิ่มความกว้างหน้ายางไหม
พอดีไปหาอ่านเพิ่มเติมแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจครับ
-
เดี๋ยวมาตอบนะครับ :) :)
-
เดี๋ยวมาตอบนะครับ :) :)
ขอบคุณครับ
-
เดี๋ยวมาตอบนะครับ :) :)
ขอบคุณครับ
รอ เหมือนกันครับ
ขอบคุณทั้งสองท่าน ที่เข้ามาตอบ คำถามครับ
ผมก็เข้าใจแบบคุณ Turin บอกครับว่ารถพ่วงเปล่าไม่มีน้ำหนัก พอที่จะสร้างแรงยึดเกาะ
แต่กรณีในคลิป ถ้าสมมุติรถพ่วงบรรทุกปูน เอาล้อเพลาที่สามลงพื้น จะช่วยได้แบบที่คุณ koko86 อธิบายหรือป่าวครับ
-
ก่อนตอบขออธิบาย เรื่อง contact patch กับ traction circle ก่อน
การเปลี่ยนยางกว้างขึ้นมันทำให้contact patch ใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะcontact patchของยาง จะกว้างขึ้น แต่สั้นลง โดยอธิบายตามลิงค์และภาพที่แนบมา ดังนั้น ตอบคำถามคุณturinข้อแรกว่าการเกาะถนนจะเพิ่มขึ้นจริงแต่ไม่มากครับ
http://www.clubtriumph.eu/cgi-bin/forum10/Blah.pl?v-print/m-1313249082/
-
ส่วนtraction circleก็คือ แรงจี ที่รับได้ ของยางในทุกทิศทาง อธิบายตามภาพที่แนบ
คือถ้าแรงกระทำเกินนี้ยางจะเสียแรงยึดเกาะ
ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่สองคือ ถ้าเอาล้อลงจะช่วยได้หรือไม่ คำตอบคือ น่าจะช่วยได้ แต่ขึ้นกับการเติมลมยางด้วย
กล่าวคือ ถ้าเอาลงสองล้อ รับน้ำหนักเต็มที่ หากเติมลมเท่ากับการเอาล้อลงหมดน่าจะได้contact patchที่ยาวมากกกก แต่คิดว่าโดยส่วนใหญ่ไม่น่าจะทำแบบนั้น เพราะยางจะแบน ขับไปนานๆอาจระเบิดได้ โดยส่วนตัว เดาว่า คนขับคงต้องเติมลมให้มากขึ้นซึ่งทำให้contact patch พิ้นที่ลดลง รถถึงลิมิตได้ง่ายขึ้น
ในทางกลับกัน หากเอาล้อลงหมด แล้วเติมลมให้น้อยลง contact patch จะเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า และรับแรงได้มากขึ้น ถึงลิมิตยากขึ้นตามรูปที่แนบครับ
-
ก่อนตอบขออธิบาย เรื่อง contact patch กับ traction circle ก่อน
การเปลี่ยนยางกว้างขึ้นมันทำให้contact patch ใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะcontact patchของยาง จะกว้างขึ้น แต่สั้นลง โดยอธิบายตามลิงค์และภาพที่แนบมา ดังนั้น ตอบคำถามคุณturinข้อแรกว่าการเกาะถนนจะเพิ่มขึ้นจริงแต่ไม่มากครับ
http://www.clubtriumph.eu/cgi-bin/forum10/Blah.pl?v-print/m-1313249082/
ขอบคุณครับ ... ถ้าว่ากันตาม contact patch การเปลี่ยนความกว้างของยาง ก็ไม่ได้ช่วยให้สามารถรับ lateral force (แรงดึงด้านข้าง) ได้มากขึ้นสิครับ
แต่ในความจริง เรามักจะเชื่อกันว่ายางหน้ากว้าง ช่วยให้เกาะโค้งดีขึ้น ... แนวคิดนี้มันจริงขนาดไหน และคำอธิบายคืออะไร
เมื่อคืนผมถามคุณ koko86 แล้วก็ไปหาอ่านเพิ่มเติม จนเจอกระทู้นี้
https://www.pistonheads.com/gassing/topic.asp?t=78848
มีคำอธิบายที่น่าสนใจ (ซึ่งต่อยอดจากคุณ koko86) อยู่ดังนี้ครับ
- ยาง contact patch ยาวแต่แคบ (ตามแนวหน้า-หลังรถ = ยางหน้าแคบ) ทำให้ ยาง breakaway อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่รับ lateral force ได้น้อย
- ยาง contact patch สั้นแต่กว้าง (ยางหน้ากว้าง) ทำให้ยาง breakaway รุนแรง แต่รับ lateral force ได้มากกว่า (ก่อนถึงจุด breakaway)
ในส่วนเรื่องความยาวของ contact patch สัมพันธ์กับ ลัดษณะของการ breakaway อ่านคำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับ slip angle แล้วพอจะเข้าใจอยู่ ... แต่เรื่องความกว้างของ contact patch สัมพันธ์กับแรงสูงสุดที่รับได้ก่อน breakaway ที่ยังไม่เข้าใจครับ
เดี๋ยวหาอ่านต่อไปเรื่อยๆครับ