Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Diogo ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 17:14:13
-
สวัสดีครับพี่ๆ พอดีรถผม Civic FD 07 ไมล์อยู่ที่ 118500 ตอนนี้ยังใช้น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์เบอร์ 0W-20 ของ Honda (ที่ดราม่ากันเรื่องความเหมาะสมว่ารถเกินแสนโลแล้วน่าจะเปลี่ยนไปใช้เบอร์ที่หนืดขึ้น) สำหรับเบอร์ 0w-20 ที่ใช้อยู่ปัจจุบันเคยลอง Top speed ไปถึง 205 บนหน้าปัทม์
ซึ่งตอนนี้รถผมถึงกำหนด 10,000 โลที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายอีกครั้งเลยอยากรู้ว่าควรเปลี่ยนเป็นเบอร์ไหนดี แบรนด์ไหนดี การใช้งานในเมืองชั้นใน 40% ตจว 60% ความเร็วอยู่ที่ 90-120 ครับมีซิ่งบ้างนิดหน่อยครับ ยี่ห้อที่ผมมองอยู่ก็มี PTT 5W-30 , ACDelco 5W-30 , MOTUL HI-TECH 100 PLUS 5W-30
ปล.ตอนทำ Top Speed ทำในเวลาเช้ามืดบนเส้นมอเตอร์เวย์ ขออภัยที่ใช้ความเร็วเกินกฏหมายนะครับ แหะๆ
-
ผมไม่รู้ว่าฮอนดาจะต้องยังไงนะครับ แต่ถ้าเป้นรถผม ขับซิ่งประมาณนี้ ไมล์เท่านี้ รถไม่ได้แต่ง ไม่ได้โมเพิ่ม สำหรัยผม ผมคงใช้เบอร์ 30 ครับ (เพราะความหนืดที่มากกว่าก็ปกป้องเครื่องได้ดีกว่า) ส่วนยี่ห้อ อาจจะใช้แค่ ปตท. Super Syn หรืออย่างดีสุดก็ Eneos/Mobil 1 ครับ ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ดีกว่านี้ แพงกว่านี้ ถ้าเครื่องเดิมๆ และขับไม่ได้ซิ่งมากมาย
-
ชอบอยู่สองตัว shell กะ amsoil
Mobil ก็ลื่น ประหยัด แต่รวมๆ ไม่ชอบแฮะ
Motul ไม่ชอบเลย
-
ถ้าครบระยะเปลี่ยน แล้วไม่ต่ำกว่าขีดล่าง ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มความหนืด
-
Accord G8 2.4 ผมวิ่งซิ่งประจำ 200,000 โลแล้วครับ
ใช้ mobil 1 0w-40 กระป๋องทองตลอด ก็ลื่นดี ชอบ เครื่องฟิตปั๋ง
แรกๆซื้อ 1,650 ตอนนี้ราคาขยับ 1,950 - 2,000
รอบหน้ากะใช้ Vavoline 5w-40 ราคา 1,450 ดูครับ
-
จากที่ผมเคยลองมานะครับ กับรถที่ผ่านการใช้งานมาพอประมาณแล้ว สัก 50,000โลขึ้นไป
บางคนเข้าใจผิดคิดว่าน้ำมันเครื่องเหลวๆเบาๆใส่แล้วจะวิ่งดี ซึ่งจริงๆมันก็ถูก ในเวลาที่เครื่องทำงานรอบต่ำๆไม่ร้อนจัด
แต่เวลาที่เหยียบ จัดหนักจัดเต็ม ความร้อนมันสูงมาก กลายเป็นว่าน้ำมันเครื่องเบอร์เบาๆให้การหล่อลื่นที่ไม่ดีเท่าที่ควร
เสียงแลดังๆด้วย เหมือนมีการเสียดทานของชิ้นส่วนภายในสูง ทีนี้ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นเบอร์หนืดขึ้น 1 เบอร์
(สมมติของเดิม 5W-30 ก็เปลี่ยนมาเป็น 5W-40) ผลคือเสียงเครื่องนุ่มกว่าเดิม
ช่วงเครื่องเย็น-อุ่น หรือขับรอบต่ำๆชิวๆ จะรู้สึกว่าตื้อลงนิดๆ (นิดจริงๆนะครับ)
แต่พอซัดๆหนักหน่อยช่วงปลายนี่รู้สึกได้ว่าลื่นกว่าเก่าครับ ขึ้นลื่นๆกว่า เสียงเครื่องก็นุ่มกว่าครับ
ปล. อันนี้จากประสบการณ์ของผมน่ะครับ อาจไม่ถูกต้องเสมอไปครับ เครื่องแต่ละรุ่นก็อาจไม่เหมือนกันครับ.
-
ติด oil temp/pressure
ที่ความเร็วที่ขอบใช้งาน โหลดที่ใช้บ่อยๆ
เบอร์ไหน ทำอุณหภูมิ น้ำมันเครื่องต่ำ แรงดันสูงสุดใช้ตัวนั้น
อย่าลืมว่า ความหนืด ขึ้นกับอุณหภูมิ หนืดแต่ร้อน สักพักแรงดันมันก็ไม่หนีเบอร์ต่ำที่เย็นกว่า
แต่ตอนน้ำมันเครื่องเย็นวิ่งไม่ออก หนืดเกิน
ปล ไม่ได้บอกว่าเบอร์ต่ำๆดีกว่า แต่มันขึ้นกับการใช้งาน มากกว่า ที่จะบอกว่าอะไร ดีกว่าอะไร
-
ลืมตอบ จขกท เลย
ถ้าวิ่งยาวๆ ตจว บ่อยๆ ลองขึ้นมา 30 ดู ถ้าไม่ขอบอาการ กลับมา 20 ก็ไม่เสียหาย
40 นี่ไม่ค่อยชอบอ่ะ หนืดไปนิด วิ่งในเมืองไมาสนุกเลย แต่ก็ใช้ได้นะ
ส่วนยี่ห้อ รอท่านอื่นละกัน
ปล ใช้ civic hybrid อ่ะนะ
-
ถ้าครบระยะเปลี่ยน แล้วไม่ต่ำกว่าขีดล่าง ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มความหนืด
ตามนี้เลย ใช้เบอร์เดิม ถ้านํ้ามันเครื่องในระบบไม่หาย ยกเว้นแต่อยากลองเบอร์ที่หนืดขึ้น
แต่ความเห็นส่วนตัวเบอร์ 30 กำลังดี
-
มันต้องเบอร์40แล้วครับขนาดนี้
-
สงสัยอะไร ก็ต้องลองสิครับ
100คันว่า ไม่เท่าลองเอง อิอิ
รอบจัด แถบแดง
เบอร์40,50 ไม่ทำให้รถพัง แน่นอน!!!
-
ปรับขึ้นไปหนึ่งขั้นก็ได้ ปตท. ก็ไม่เสียหายอะไรครับ
-
ถ้าน้ำมันเครื่องเดิมใช้ไปไม่ได้พร่องหรือหายไป ก็ใช้เบอร์เดิมไปเถอะครับ งานน้ำมันเครื่องนี่ผมว่าความรู้สึกบางทีมีผลกว่าสิ่งอื่นใดอีก แต่ถ้าห่วงมากก็จัดพวก 30 ก็ได้ เลือกที่ได้มาตรฐานและราคาเหมาะสม ถ้ากลัวปตท. ลอง Vavoline 5-30 ก็ได้ โทรไปบริษัทตัวแทนเลย เขามีรถมาส่ง (เมื่อสองปีก่อนยังมี ตอนนี้ลองเช็คดูครับ) ผมกลัวของปลอมชอบซื้อกับตัวแทนหรือไม่ก็ปั้มเลยครับ
-
ออกต่างจังหวัดบ่อยๆ เบอร์ 5W-30 ครับ