Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nayssine ที่ สิงหาคม 03, 2017, 13:07:37
-
BMW ลด warranty กับ bsiลงเหลือ3ปี จะเอา5ปีเท่าเดิมค้องซื้อออฟชั่นเสริม แต่ราคารถกลับถูกลง แบบนี้มีผลกับการตัดสินใจกันมั้ยครับ
-
ตัดสินใจง่ายขึ้น
เพราะเป็นการเพิ่มทางเลือก เพราะ Warantee and bsi แบบเดิมก็ซื้อได้ในราคารวมไกล้เดิม
เชื่อว่ามีคนไม่ไม่สนใจ bsi เพราะขับน้อย เหมือนจ่ายในสิ่งที่ไม่ได้ใช้
-
มองภาพรวม ผมว่าน่าจะขายได้ดีขึ้นนะครับ เพราะราคาคือสิ่งแรกที่คนจะมองมาก่อน แล้วค่อยมอง BSI ตามมา
ผมพยายามหาข้อเสียของการลด BSI เหลือ 3 ปี แต่ราคารถถูกลง
ที่ผมคิดออกคือ จะทำให้พวก 1st luxury car buyer ที่กำลังลังเลว่า Benz, Audi หรือ BMW ดี พวกนี้อาจจะไป Benz, Audi ง่ายขึ้น
เพราะคนกลุ่มนี้ ยังต้องการความอุ่นใจว่ารถราคาบแบบนี้ มันจะวิ่งไปได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปีเป็นอย่างน้อย
แต่ BMW ลด BSI เหลือ 3 ปี ทำให้คำที่เคยมองว่าซื้อ BMW อุ่นใจ เพราะแค่เติมน้ำมันกับเปลี่ยนยางแค่นั้น 5 ปี คิดแบบนั้นไม่ได้แล้ว
ผมก็เป็นคนนึงที่ใช้ BMW และถ้าให้ผมเลือกซื้อรถช่วงนี้ ผมก็อาจจะไม่เลือก BMW ถึงจะชอบ dynamic ของมันก็จริง เพราะตอนนี้เหมือนเป็นยุคที่ BMW Thailand เอาแต่รถที่ธรรมดามากๆ มาขาย ถึงจะเริ่มเอา 252 แรงม้ามาลงบ้าง แต่เหมือนตอนนี้ BMW กำลังวิ่งวนๆ ในตัวเอง ออกรุ่นใหม่มา 4, 5 ก็น่าใช้ แต่ไม่ค่อย wow เหมือนเป็นช่วงที่กำลังถลำตัว ตกเป็นมวยรอง เลยต้องมาลดแลกแจกแถมซะมากกว่า
ไม่รู้สึก wow แบบช่วง E46, E90 ช่วงนั้นเลยที่มีตัวเลือกเยอะๆ 318i, 320i, 320d, 323i, 330i อะไรมากมาย
เดี๋ยวนี้ BMW เหมือนมีให้คนเลือกซื้อเหมือนกันหมดคือ 330e, 520d, 320d คือประมาณนี้จริงๆ
เอาจริงๆ ผมอยากให้ BMW Thailand เพิ่มรุ่นย่อยให้มากกว่านี้อีก จะ BSI 3 แบบนี้ก็เอาเถอะ แต่รุ่นย่อยควรมีเช่น
-318d
-320i
สองรุ่นนี้สำหรับ entry level ของซีรี่3
เพราะ ตอนนี้ 320d Iconic ดันมาเป็น entry level ทำให้เจ้าของเดิมแบบ 320d sport พวกนี้ดูหมองเลย จากตอนที่ซื้อราคาแรงสุด แรงกว่า 320i luxury/sport
แล้วถัดมา 520d เช่นกัน แต่ไหนแต่ไรมา มันต้องมี 5 ที่ถูกกว่า 520d เพราะ 520d มันมีจุดขายคือประหยัดน้ำมันและแรงบิดเยอะ ทำให้คนยอมเพิ่มเงินจาก 520i มา 520d ที่มีส่วนต่างด้านราคาประมาณ 1.5-2 แสนบาท
มาตอนนี้ 520d กลายเป็น entry level ของ 5 ไป ผมว่ามันมี gap ที่ BMW น่าจะเอารุ่นต่ำกว่ามาลงที่ราคา 3-3.3 ล้าน เช่น 518d, 518i เป็นต้น ผมว่ายังไงก็ขายได้ เพราะคนไทยจำนวนมาก ไม่ได้ต้องการจะเอา BMW ไว้ซิ่งยัดโค้ง ออกตัวล้าฟรีขนาดนั้น
คห.ส่วนตัวล้วนๆ ครับ ขออภัยถ้าทำให้ใครไม่พอใจ
-
.
.
คือถ้าราคารวมซื้อ BSI แล้วมันเท่าๆเดิม แต่เลือกตัดออกได้
แล้วลดราคากันไป ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอยากได้ BSI เท่าเดิม
ต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 30,000 มันคืออะไร
แต่ผมก็เชื่อว่าเวลาซื้อขายจริงก็คงคุยกับเซลล์ได้
แต่แทนที่มันจะเป็นสิ่งที่ต้องได้อยู่แล้ว
มันจะกลายเป็นสิ่งที่เซลล์ยกมาต่อรองกับเรา
-
เฉยๆนะครับ รถราคาประมาณนี้ กับเงินหลักหมื่น
-
ลด BAI ลงผมเฉยๆ แต่ลด Warranty ลงผมซีเรียส
การปรับราคาครั้งนี้ผมคิดว่าน่าจะปรับฐานราคาใหม่ พอรุ่นใหม่ๆ มาก็ขึ้นราคาขายไปเท่าเดิม
-
ปัญหาไม่ได้อยู่ตอนซื้อครับ
แต่มันจะมีปัญหาตอนขาย
เพราะจะโดนกดราคาหัวทิ่มเลยครับ
หากเป็น รถ BMW แล้ว Bsi หมดเนี่ย
-
ปัญหาไม่ได้อยู่ตอนซื้อครับ
แต่มันจะมีปัญหาตอนขาย
เพราะจะโดนกดราคาหัวทิ่มเลยครับ
หากเป็น รถ BMW แล้ว Bsi หมดเนี่ย
จริงครับ ขาย BMW หมด BSI นี่โดนกดกระจุยเลย ค่าซ่อมแพงบ้าง เสี่ยงพังบ้าง รถ BMW ไม่ทนบ้าง สารพัดเหตุผลจะกดราคาตอน BSI หมด
หมายความว่า ราคาขาย BMW มือ 2 จะเริ่มรูดตั้งแต่เข้าปีที่ 4 ไม่ใช่ ปีที่ 6 (ยิ่งเป็นเสียบปลั๊ก ยิ่งร่วงสยอง)
ปล. ถ้าไม่เรียสเรื่องขายมือสองโดนต่อเป็นแสนก็ไม่เป็นไรครับ
-
ผมเองเพิ่งจอง430i ไป รีบเลยเซลล์บอกเดี๋ยวตัดวารันตี bsi เลยจอง แต่ของรับรถปีหน้าเก็บbsiไว้ ไปไปมามา 430i รวมbsiราคาไม่เปลี่ยนซะงั้น จะรีบทำไมก็ไม่รู้เซงไป
-
ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เพราะเสพติดฟิลลิ่งการขับขี่ของยี่ห้อนี้ ยังหาที่ถูกใจกว่านี้ไม่ได้
ผมคงต้องซื้อ BSI ultimate อยู่ดี ได้เปลี่ยนโช๊ค จานเบรค ก็พอคุ้มอยู่ ยังถูกกว่าประกันภัยชั้น1
คือประมาณสัก 2% ของราคารถ การต่อรองส่วนลดจากเซล cover ส่วนนี้ได้สบาย
-
ถ้าถามผมก็ ไม่มีผลครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นๆ คือฟีลลิ้งการขับขี่ ว่าเราชอบและมีความสุขที่ได้ใช้มันรึเปล่านะครับ
ถ้าชอบก็จัดครับ เพราะผมต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี รถคันนึงผมคงใช้ไม่ต่ำกว่า 5ปี
แล้วในตลอดเวลาหลายๆปีนั้น ผมอยากยิ้มมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบมันนะครับ
ส่วนเรื่องประกันตัวรถ ก็รองลงมา ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะรถทุกยี่ห้อยังไงเค้าก็มีประกันททุกเจ้าอยู่แล้ว แค่ต่างกันนิดหน่อย
เท่าที่สังเกต ก็ต่างกันไม่เกิน 2ปี แล้วกรณีของ BMW ใหม่นี้ เอาจริงๆราคาสุทธิพร้อมแบบ warranty + bsi 5ปีเหมือนเดิม
ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือก็แพงกว่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งค่าความต่างระดับนี้ก็มีให้เห็นในรถญี่ปุ่นบ้านๆ
ราคาหลักแสนเป็นประจำ เวลาที่เปลี่ยนรุ่นปรับโฉมหรือเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดๆต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เห็นจะบ่นกันเท่าไหร่...
สำหรับรถราคาเกิน 3-6ล้าน แต่จ่ายเพิ่ม 3หมื่น เพื่อให้ได้ warranty + bsi เท่าเดิม ผมว่าไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับท่านที่มีกำลังระดับนี้นะครับ...
แต่ปัญหาคือคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากกว่าครับ อ่านแค่ที่หัวกระทู้แล้วตีความแค่ตรงนั้น
พอเห็นหัวเรื่องมาว่า BMW ลด warranty กับ bsi นี่ก็ถล่มเค้ายับอย่างไวเลย 555+
แล้วก็อาจจะไปโดนเซลล์พูดอะไรใส่หูมาสักอย่างด้วยรึเปล่า คือต้องเข้าใจว่าพวกเซลล์เค้าก็ทำมาหากินอะน่ะครับ
เค้าพยายามจะ..ขายให้ได้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ จะจี้ท่าน โดยการชักแม่น้ำทั้ง 5 มา ประมาณว่าเหตุการณ์ในอนาคตมันจะแย่อย่างนู้นอย่างนี้
ท่านต้องรีบซื้อตอนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวอดโปรนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.....ก็ประมาณนี้ครับ
คุยกับเซลล์ ต้องใช้วิจราณญานเยอะๆครับ ด้วยความหวังดี 5555+
ปล. อันนี้ คหสต น่ะครับ จากมุมองของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบรถและชอบขับ รักการขับ มองว่ารถคือศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่ท่านใดที่มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะ เศษเหล็กติดล้อ เอามาใช้โดยสารจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งแค่นี้
หรือเป็นวัตถุประดับบารมีเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็อาจมีการพิจารณาเลือกซื้อรถต่างจากผมครับ.
-
มีผลกับการเลือกแพ็คเกจ แต่ไม่น่ามีผลกับการเลือกซื้อบีเอ็มหรือไม่ คนมันจะซื้อบีเอ็มด้วยเหตุผลของมันอยู่แล้ว เหมือนแฟนไอโฟน พอออกรุ่นใหม่มาก็ซื้ออยู่ดี แค่คิดว่าจะเลือกซื้อแพ็คเกจไหนถึงเหมาะกับตัวเองมากที่สุด
-
ถ้าถามผมก็ ไม่มีผลครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นๆ คือฟีลลิ้งการขับขี่ ว่าเราชอบและมีความสุขที่ได้ใช้มันรึเปล่านะครับ
ถ้าชอบก็จัดครับ เพราะผมต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี รถคันนึงผมคงใช้ไม่ต่ำกว่า 5ปี
แล้วในตลอดเวลาหลายๆปีนั้น ผมอยากยิ้มมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบมันนะครับ
ส่วนเรื่องประกันตัวรถ ก็รองลงมา ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะรถทุกยี่ห้อยังไงเค้าก็มีประกันททุกเจ้าอยู่แล้ว แค่ต่างกันนิดหน่อย
เท่าที่สังเกต ก็ต่างกันไม่เกิน 2ปี แล้วกรณีของ BMW ใหม่นี้ เอาจริงๆราคาสุทธิพร้อมแบบ warranty + bsi 5ปีเหมือนเดิม
ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือก็แพงกว่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งค่าความต่างระดับนี้ก็มีให้เห็นในรถญี่ปุ่นบ้านๆ
ราคาหลักแสนเป็นประจำ เวลาที่เปลี่ยนรุ่นปรับโฉมหรือเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดๆต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เห็นจะบ่นกันเท่าไหร่...
สำหรับรถราคาเกิน 3-6ล้าน แต่จ่ายเพิ่ม 3หมื่น เพื่อให้ได้ warranty + bsi เท่าเดิม ผมว่าไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับท่านที่มีกำลังระดับนี้นะครับ...
แต่ปัญหาคือคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากกว่าครับ อ่านแค่ที่หัวกระทู้แล้วตีความแค่ตรงนั้น
พอเห็นหัวเรื่องมาว่า BMW ลด warranty กับ bsi นี่ก็ถล่มเค้ายับอย่างไวเลย 555+
แล้วก็อาจจะไปโดนเซลล์พูดอะไรใส่หูมาสักอย่างด้วยรึเปล่า คือต้องเข้าใจว่าพวกเซลล์เค้าก็ทำมาหากินอะน่ะครับ
เค้าพยายามจะ..ขายให้ได้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ จะจี้ท่าน โดยการชักแม่น้ำทั้ง 5 มา ประมาณว่าเหตุการณ์ในอนาคตมันจะแย่อย่างนู้นอย่างนี้
ท่านต้องรีบซื้อตอนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวอดโปรนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.....ก็ประมาณนี้ครับ
คุยกับเซลล์ ต้องใช้วิจราณญานเยอะๆครับ ด้วยความหวังดี 5555+
ปล. อันนี้ คหสต น่ะครับ จากมุมองของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบรถและชอบขับ รักการขับ มองว่ารถคือศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่ท่านใดที่มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะ เศษเหล็กติดล้อ เอามาใช้โดยสารจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งแค่นี้
หรือเป็นวัตถุประดับบารมีเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็อาจมีการพิจารณาเลือกซื้อรถต่างจากผมครับ.
จริงๆสำหรับผมก็ไม่มีผลนะ ยังไงก็เอาแพคเกจ5ปีอยู่ละ เพราะชอบฟิลลิ่งที่หาไม่ได้ในค่ายอื่นมากกว่า 555
-
สำหรับผมไม่ผลนะครับ ใจมันรักยังไงมันก็หาเรื่องซื้อได้อยู่ดี แต่กับคนทั่วไปมีผลแน่นอน
-
ผมว่าไม่นะ อยากได้เพิ่มก็ซื้อเองได้มั้ง 9หมื่นกรณีที่ต้องการแบบเดิม
-
ไม่มีผลครับ 3+3 ก็โอเหมือนกัน อาจจะซื้อ warranty เพิ่มเป็น 5 ปีเท่านั้นครับ
-
ถ้าถามผมก็ ไม่มีผลครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นๆ คือฟีลลิ้งการขับขี่ ว่าเราชอบและมีความสุขที่ได้ใช้มันรึเปล่านะครับ
ถ้าชอบก็จัดครับ เพราะผมต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี รถคันนึงผมคงใช้ไม่ต่ำกว่า 5ปี
แล้วในตลอดเวลาหลายๆปีนั้น ผมอยากยิ้มมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบมันนะครับ
ส่วนเรื่องประกันตัวรถ ก็รองลงมา ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะรถทุกยี่ห้อยังไงเค้าก็มีประกันททุกเจ้าอยู่แล้ว แค่ต่างกันนิดหน่อย
เท่าที่สังเกต ก็ต่างกันไม่เกิน 2ปี แล้วกรณีของ BMW ใหม่นี้ เอาจริงๆราคาสุทธิพร้อมแบบ warranty + bsi 5ปีเหมือนเดิม
ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือก็แพงกว่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งค่าความต่างระดับนี้ก็มีให้เห็นในรถญี่ปุ่นบ้านๆ
ราคาหลักแสนเป็นประจำ เวลาที่เปลี่ยนรุ่นปรับโฉมหรือเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดๆต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เห็นจะบ่นกันเท่าไหร่...
สำหรับรถราคาเกิน 3-6ล้าน แต่จ่ายเพิ่ม 3หมื่น เพื่อให้ได้ warranty + bsi เท่าเดิม ผมว่าไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับท่านที่มีกำลังระดับนี้นะครับ...
แต่ปัญหาคือคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากกว่าครับ อ่านแค่ที่หัวกระทู้แล้วตีความแค่ตรงนั้น
พอเห็นหัวเรื่องมาว่า BMW ลด warranty กับ bsi นี่ก็ถล่มเค้ายับอย่างไวเลย 555+
แล้วก็อาจจะไปโดนเซลล์พูดอะไรใส่หูมาสักอย่างด้วยรึเปล่า คือต้องเข้าใจว่าพวกเซลล์เค้าก็ทำมาหากินอะน่ะครับ
เค้าพยายามจะ..ขายให้ได้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ จะจี้ท่าน โดยการชักแม่น้ำทั้ง 5 มา ประมาณว่าเหตุการณ์ในอนาคตมันจะแย่อย่างนู้นอย่างนี้
ท่านต้องรีบซื้อตอนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวอดโปรนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.....ก็ประมาณนี้ครับ
คุยกับเซลล์ ต้องใช้วิจราณญานเยอะๆครับ ด้วยความหวังดี 5555+
ปล. อันนี้ คหสต น่ะครับ จากมุมองของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบรถและชอบขับ รักการขับ มองว่ารถคือศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่ท่านใดที่มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะ เศษเหล็กติดล้อ เอามาใช้โดยสารจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งแค่นี้
หรือเป็นวัตถุประดับบารมีเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็อาจมีการพิจารณาเลือกซื้อรถต่างจากผมครับ.
พูดเหมือนกับว่าคนซื้อรถค่ายอื่นกลายเป็นคนไม่รักการขับรถ ไม่มองรถเป็นศิลปะ
แต่มองเป็นเศษเหล็กติดล้อ เป็นวัตถุประดับบารมีไปซะงั้น 5555
เล่นเอาคนซื้อ VW Golf GTI คนซื้อ Mx-5 ไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว
คนเราชอบไม่เหมือนกัน อย่าเอาความชอบตัวเองไปตัดสินคนอื่นว่าเค้าเป็นยังไงเลยครับ
-
ผมว่ามีผลทางจิตใจ :)
-
ถ้าถามผมก็ ไม่มีผลครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นๆ คือฟีลลิ้งการขับขี่ ว่าเราชอบและมีความสุขที่ได้ใช้มันรึเปล่านะครับ
ถ้าชอบก็จัดครับ เพราะผมต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี รถคันนึงผมคงใช้ไม่ต่ำกว่า 5ปี
แล้วในตลอดเวลาหลายๆปีนั้น ผมอยากยิ้มมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบมันนะครับ
ส่วนเรื่องประกันตัวรถ ก็รองลงมา ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะรถทุกยี่ห้อยังไงเค้าก็มีประกันททุกเจ้าอยู่แล้ว แค่ต่างกันนิดหน่อย
เท่าที่สังเกต ก็ต่างกันไม่เกิน 2ปี แล้วกรณีของ BMW ใหม่นี้ เอาจริงๆราคาสุทธิพร้อมแบบ warranty + bsi 5ปีเหมือนเดิม
ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือก็แพงกว่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งค่าความต่างระดับนี้ก็มีให้เห็นในรถญี่ปุ่นบ้านๆ
ราคาหลักแสนเป็นประจำ เวลาที่เปลี่ยนรุ่นปรับโฉมหรือเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดๆต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เห็นจะบ่นกันเท่าไหร่...
สำหรับรถราคาเกิน 3-6ล้าน แต่จ่ายเพิ่ม 3หมื่น เพื่อให้ได้ warranty + bsi เท่าเดิม ผมว่าไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับท่านที่มีกำลังระดับนี้นะครับ...
แต่ปัญหาคือคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากกว่าครับ อ่านแค่ที่หัวกระทู้แล้วตีความแค่ตรงนั้น
พอเห็นหัวเรื่องมาว่า BMW ลด warranty กับ bsi นี่ก็ถล่มเค้ายับอย่างไวเลย 555+
แล้วก็อาจจะไปโดนเซลล์พูดอะไรใส่หูมาสักอย่างด้วยรึเปล่า คือต้องเข้าใจว่าพวกเซลล์เค้าก็ทำมาหากินอะน่ะครับ
เค้าพยายามจะ..ขายให้ได้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ จะจี้ท่าน โดยการชักแม่น้ำทั้ง 5 มา ประมาณว่าเหตุการณ์ในอนาคตมันจะแย่อย่างนู้นอย่างนี้
ท่านต้องรีบซื้อตอนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวอดโปรนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.....ก็ประมาณนี้ครับ
คุยกับเซลล์ ต้องใช้วิจราณญานเยอะๆครับ ด้วยความหวังดี 5555+
ปล. อันนี้ คหสต น่ะครับ จากมุมองของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบรถและชอบขับ รักการขับ มองว่ารถคือศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่ท่านใดที่มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะ เศษเหล็กติดล้อ เอามาใช้โดยสารจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งแค่นี้
หรือเป็นวัตถุประดับบารมีเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็อาจมีการพิจารณาเลือกซื้อรถต่างจากผมครับ.
พูดเหมือนกับว่าคนซื้อรถค่ายอื่นกลายเป็นคนไม่รักการขับรถ ไม่มองรถเป็นศิลปะ
แต่มองเป็นเศษเหล็กติดล้อ เป็นวัตถุประดับบารมีไปซะงั้น 5555
เล่นเอาคนซื้อ VW Golf GTI คนซื้อ Mx-5 ไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว
คนเราชอบไม่เหมือนกัน อย่าเอาความชอบตัวเองไปตัดสินคนอื่นว่าเค้าเป็นยังไงเลยครับ
ท่านน่าจะเข้าใจความหมายที่ผมสื่อผมผิดน่ะครับ 555 ผมไม่ได้สื่อว่าคนซื้อรถยี่นั่นนี้เป็นอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะครับ
แค่ยกตัวอย่างว่า"ใน คหสต ผม อาจมี"คนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พิจราณาการซื้อรถด้วยเหตุผลที่ต่างไปจากผม
(คือไม่ได้ตัดสินว่าคนซื้อรถแบรนด์นั้นนี้เป็นอย่างนู้นอย่างนี้เลยครับ)
ที่ผมสื่อคือการเลือกรถทั่วๆไป ว่าชอบฟีลลิ้งยี่ห้อไหนรุ่นไหน ก็ซื้อตัวนั้น จะแบรนด์ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่
ผมหมายถึงรถทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวกับ BMW หัวกระทู้โดยตรงครับ ไม่ได้มาเชียร์ให้ใช้ BMW นะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับค่ายนี้ครับ
ผมใช้ Camry ครับ 55555+ แล้วที่ท่านโพสกลับมานี่ทำผมอึ้งไปเลยครับ ไปไกลจากที่ผมสื่อคนละเรื่องเลยครับ
แล้วมี VW Golf GTI มี Mx-5 ด้วย มายังไงครับเนี่ย ผมงงมากครับ 555+ ผมยังไม่ได้เอ่ยถึงแบรนด์ไหนเลยนะครับ 5555+
แต่น่าจะเป็นความผิดผมเองครับ ที่อาจใช้คำสื่อสารได้ไม่ดีเอง คนที่อ่านก็อาจตีความผิดไปได้บ้าง ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ /\
-
ถ้าตัว Warranty+BSI 3ปี Standard มันก็เท่ากับ Benz ที่มี Warranty 3ปี แต่ไม่มี BSI น่ะแหละครับ BM ยังได้ BSI 3ปีเยอะกว่า Benz อยู่ดี แต่อุปกรณ์ติดรถ Benz ตอนนี้ให้มากกว่า แต่ถ้ากลัวความยุ่งยากของระบบไฮบริด BM ก็เป็นทางเลือกที่ดีได้เครื่องแบบปกติที่การซ่อมบำรุงระยะยาวถูกกว่าในราคาใกล้เคียงกับ Benz แต่อุปกรณ์ติดรถน้อยกว่า แลกกับ BSI 3ปี ซึ่ง Benz ต้องจ่ายเพิ่ม
-
ถ้าถามผมก็ ไม่มีผลครับ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อรถรุ่นนั้นๆ คือฟีลลิ้งการขับขี่ ว่าเราชอบและมีความสุขที่ได้ใช้มันรึเปล่านะครับ
ถ้าชอบก็จัดครับ เพราะผมต้องอยู่กับมันไปอีกหลายปี รถคันนึงผมคงใช้ไม่ต่ำกว่า 5ปี
แล้วในตลอดเวลาหลายๆปีนั้น ผมอยากยิ้มมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบมันนะครับ
ส่วนเรื่องประกันตัวรถ ก็รองลงมา ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เพราะรถทุกยี่ห้อยังไงเค้าก็มีประกันททุกเจ้าอยู่แล้ว แค่ต่างกันนิดหน่อย
เท่าที่สังเกต ก็ต่างกันไม่เกิน 2ปี แล้วกรณีของ BMW ใหม่นี้ เอาจริงๆราคาสุทธิพร้อมแบบ warranty + bsi 5ปีเหมือนเดิม
ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือก็แพงกว่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งค่าความต่างระดับนี้ก็มีให้เห็นในรถญี่ปุ่นบ้านๆ
ราคาหลักแสนเป็นประจำ เวลาที่เปลี่ยนรุ่นปรับโฉมหรือเปลี่ยนไปตามกลไกตลาดๆต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เห็นจะบ่นกันเท่าไหร่...
สำหรับรถราคาเกิน 3-6ล้าน แต่จ่ายเพิ่ม 3หมื่น เพื่อให้ได้ warranty + bsi เท่าเดิม ผมว่าไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับท่านที่มีกำลังระดับนี้นะครับ...
แต่ปัญหาคือคนไทยไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากกว่าครับ อ่านแค่ที่หัวกระทู้แล้วตีความแค่ตรงนั้น
พอเห็นหัวเรื่องมาว่า BMW ลด warranty กับ bsi นี่ก็ถล่มเค้ายับอย่างไวเลย 555+
แล้วก็อาจจะไปโดนเซลล์พูดอะไรใส่หูมาสักอย่างด้วยรึเปล่า คือต้องเข้าใจว่าพวกเซลล์เค้าก็ทำมาหากินอะน่ะครับ
เค้าพยายามจะ..ขายให้ได้เร็วๆๆๆๆๆๆๆ จะจี้ท่าน โดยการชักแม่น้ำทั้ง 5 มา ประมาณว่าเหตุการณ์ในอนาคตมันจะแย่อย่างนู้นอย่างนี้
ท่านต้องรีบซื้อตอนนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวอดโปรนู่นนี่นั่น บลาๆๆๆ.....ก็ประมาณนี้ครับ
คุยกับเซลล์ ต้องใช้วิจราณญานเยอะๆครับ ด้วยความหวังดี 5555+
ปล. อันนี้ คหสต น่ะครับ จากมุมองของผมซึ่งเป็นคนที่ชอบรถและชอบขับ รักการขับ มองว่ารถคือศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่ท่านใดที่มองว่ารถเป็นแค่ยานพาหนะ เศษเหล็กติดล้อ เอามาใช้โดยสารจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งแค่นี้
หรือเป็นวัตถุประดับบารมีเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็อาจมีการพิจารณาเลือกซื้อรถต่างจากผมครับ.
พูดเหมือนกับว่าคนซื้อรถค่ายอื่นกลายเป็นคนไม่รักการขับรถ ไม่มองรถเป็นศิลปะ
แต่มองเป็นเศษเหล็กติดล้อ เป็นวัตถุประดับบารมีไปซะงั้น 5555
เล่นเอาคนซื้อ VW Golf GTI คนซื้อ Mx-5 ไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว
คนเราชอบไม่เหมือนกัน อย่าเอาความชอบตัวเองไปตัดสินคนอื่นว่าเค้าเป็นยังไงเลยครับ
ท่านน่าจะเข้าใจความหมายที่ผมสื่อผมผิดน่ะครับ 555 ผมไม่ได้สื่อว่าคนซื้อรถยี่นั่นนี้เป็นอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะครับ
แค่ยกตัวอย่างว่า"ใน คหสต ผม อาจมี"คนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พิจราณาการซื้อรถด้วยเหตุผลที่ต่างไปจากผม
(คือไม่ได้ตัดสินว่าคนซื้อรถแบรนด์นั้นนี้เป็นอย่างนู้นอย่างนี้เลยครับ)
ที่ผมสื่อคือการเลือกรถทั่วๆไป ว่าชอบฟีลลิ้งยี่ห้อไหนรุ่นไหน ก็ซื้อตัวนั้น จะแบรนด์ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่
ผมหมายถึงรถทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวกับ BMW หัวกระทู้โดยตรงครับ ไม่ได้มาเชียร์ให้ใช้ BMW นะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับค่ายนี้ครับ
ผมใช้ Camry ครับ 55555+ แล้วที่ท่านโพสกลับมานี่ทำผมอึ้งไปเลยครับ ไปไกลจากที่ผมสื่อคนละเรื่องเลยครับ
แล้วมี VW Golf GTI มี Mx-5 ด้วย มายังไงครับเนี่ย ผมงงมากครับ 555+ ผมยังไม่ได้เอ่ยถึงแบรนด์ไหนเลยนะครับ 5555+
แต่น่าจะเป็นความผิดผมเองครับ ที่อาจใช้คำสื่อสารได้ไม่ดีเอง คนที่อ่านก็อาจตีความผิดไปได้บ้าง ยังไงก็ขออภัยด้วยครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ /\
มิเป็นไรเลยคร้าบบ สบายๆคุยกันครับ
ไม่ต้องขออภัยแต่อย่างใด ผมแค่อยากบอกว่าแต่ละคน
ชอบรถไม่เหมือนกัน บางคนบอกแบรนด์นี้ขับดี
แต่อีกคนอาจจะไม่ชอบก็ได้แค่นั้นเองครับ
-
ภาพรวม ปรับลดอยู่หลักหมื่น
รถหลักล้าน สำหรับผมมองว่า ไม่ สะเทือนนะครับ
คือยังไงก็ซื้ออยู่ดีอะคับ
-
กระซิบ!!!
อย่าลืมว่าค่ายนี้ส่วนลดเงินสดเยอะอยู่น่ะครับ (แล้วแต่รุ่น) เอาไปเพิ่ม BSI Ultimate ได้สะบายๆ ;D
-
ก็เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้นครับ
-
ผมเข้าใจว่าเป็นลูกเล่นการตลาดอะ
เพราะสุดท้าย เซลก็คง หาทางเอาตัว BS ครบมาขายเรา
แล้ว ไอ่ส่วนลดที่เราเคยได้กันปกติ ก็หายไปอะครับ
-
รอดูยอดสิ้นปีครับ
อันที่จริงถ้า3เดือนยอดไม่ดีเดี๋ยวก็เห็นการขยับ
-
ราคาขายต่ออย่างเดียวถ้าจะมีผล ส่วนแฟนพันธุ์แท้ยี่ห้อนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว ปัญหาคือ การตลาดBMW เขาไม่คิดอะไรที่มันค่อยเป็นค่อยไปบ้างหรอคัรบ เช่น รถตัวเอง ซีรี่ส์ ยังมีเลขคู่ 2 4 6 ออกมาบ้างแล้ว แล้ว BSI เขาไม่คิดจะค่อยๆ ลดๆ ลงให้มันเอาใจคนซื้อให้เกิดลังเล ด้วยตัวเลข BSI4Years ดุก่อนหรอครับ เล่น ลดฮวบไปเลย 5ไป3 เลย แบบนี้ คนจะซื้อก็ ซื้อจากซีรี่ส์5 ไปซื้อ ซีรี่ส์3 บ้างอ่ะซิครับ
ยี่ห้อตราดาว คู่แข่งก็ มีปัญหาด้านบริการและค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่เขาก็ขยับมาเล่นประกันไม่จำกัดแล้ว อายุรับประกันก็รับกันได้
สงสัย ถ้าBSI เป็นแบบ แพคเกจมือถือ ให้เลือกจิ้มเอา มันก็น่าจะดีนะครับ ไงๆ หาคนคิดสูตรคณิตศาสตร์เก่งๆ ไปสร้างแพคเกจตามใจ ลูกค้าได้ น่าจะดี เอาให้เพื่อนร่วมตลาดเงิบได้เหมือนที่เคยมา แม้จะเหลือ 3ปีก็ยังทำได้นะ ถ้าคิดดีๆ
-
ผมว่าพฤติกรรมการซื้อรถ BMW ไม่เปลี่ยน เพราะแทบจะเป็นปกติอยู่แล้วที่คนซื้อจะต่อรองเป็นแสนๆ สุดท้าย BSI ก็เป็นเรื่องรองลงไป
-
มีผลแค่กวนใจครับ เพราะส่วนลดของแถมก็เติมเต็มอยู่ดี
แต่ ไม่ชอบการจัดออฟชั่นมากกว่า
แบบ 5 Sport ตัวใหม่ ไม่มีกล้องมองหลัง ไม่ชอบมากๆครับ
-
มีผลแค่กวนใจครับ เพราะส่วนลดของแถมก็เติมเต็มอยู่ดี
แต่ ไม่ชอบการจัดออฟชั่นมากกว่า
แบบ 5 Sport ตัวใหม่ ไม่มีกล้องมองหลัง ไม่ชอบมากๆครับ
จริงครับ ออฟชั่นน้อยมาก 5se ควรจะมีกล้อง 360 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานได้แล้ว รวมทั้งเซนเซอร์ความปลอดภัยต่างๆ และ ลำโพงติดยี่ห้อ hk bang อะไรก็ได้พอจะให้ดูพรีเมี่ยม นิดนึง