Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mr_pupae ที่ สิงหาคม 15, 2017, 00:26:12
-
มีงบออกได้แค่ Honda Jazz 2017 V+ แต่รุ่นนี้ไม่มี paddle shift คอยปรับเกียร์แบบเป็น Manual แบบตามใจผู้ขับเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบขึ้นเขาขึ้นดอย ถ้าไม่มี paddle shift จะทำให้การขับขี่ยากไหมครับ หรือแค่กดเข้าเกียร์ S ไม่จำเป็นต้องมี paddle shift ก็ขึ้นเขาสบายๆได้ครับ
-
จริงๆพวกเกียร์ CVT รอบมันดีดขึ้นง่ายอยู่แล้วนะครับ คือกดคันเร่งไปลึกหน่อยมันเปลี่ยนเกียร์ให้เร็วกว่าพวก AT ธรรมดา(ที่เคยใช้) ทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องขึ้นเขาเลย แต่จะเห็นประโยชน์จริงๆก็ตอนลงเขาใช้ engine brake นี่แหละครับแต่โหมด S ถ้ามี +- ก็พอแทนกันได้อยู่บ้าง ตามความคิดผมนะ
-
ขึ้นเขาผมใช้แต่ D แต่ถ้าตอนลงใช้ S หน่วงความเร็วเอา แต่ถ้าลงชันมาก รู้สึก jazz กดลงมา L ให้ชะลอช้าลงได้อีกน่ะครับ
-
มีงบออกได้แค่ Honda Jazz 2017 V+ แต่รุ่นนี้ไม่มี paddle shift คอยปรับเกียร์แบบเป็น Manual แบบตามใจผู้ขับเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบขึ้นเขาขึ้นดอย ถ้าไม่มี paddle shift จะทำให้การขับขี่ยากไหมครับ หรือแค่กดเข้าเกียร์ S ไม่จำเป็นต้องมี paddle shift ก็ขึ้นเขาสบายๆได้ครับ
จากประสบการณ์เวลาผมไปกับที่บ้านรถหนักๆ 5 คนเต็มคัน + สัมภาระเต็มหลัง ขึ้นแม่ฮ่องสอน,ดอยอ่างขาง,ดอยแม่สลอง,ภูทับเบิก ไอที่เค้าว่าชันๆสูงๆไปมาเยอะอยู่ครับใช้ Focus MK3 1.6 5Door ใช้เกียร์ Mode + - เกียร์เองผมว่ามันคลองตัวกว่าให้ทางสมองเกียร์สั่งการมันจะช้ากว่าหรือบางทีก็ไม่ทันใจเราครับ
-
น่าจะช่วยได้ครับ เพราะลากเกียร์ได้บ้าง
แต่ส่วนตัวผมใช้ 3 2 L (แล้วแต่คันไหนจะมีเกียร์อะไรบ้าง) อะไรพวกนี้มากกว่าครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ จะได้เอาเวลาไปดูทางดีกว่า
-
CVT แจ๊สเป็น CVT ฉลาดครับ
เวลาลงเขา ความเร็วเพิ่ม ทั้งๆที่ไม่ได้กดคันเร่ง เกียรมันจะทดรอบให้เอง
เคยแบกคน 4 คน กับสัมภาระเกือบ 20 โล ขึ้นไปสุดดอย สบายมากๆ
ยิ่งขาลง เหมือนมีคนช่วยขับ เกียรมันหน่วงให้เอง
บางทีช่วงเนินชันๆ รถไหลเร็ว รอบดีดไปถึง 4 พันรอบเอง ประคองแค่เบรคก็พอ สบายครับ
-
คิดว่าช่วยครับ จากที่ใช้รถที่มีแค่ L
-
เคยขับรถเพื่อนjazz ตัว v ลงเขาใช้Lสบายเลยครับเทียบกับรถผมcity sv ใช้paddle shift
-
ขึ้นเขาน่าจะไม่ต่างมากนะครับ มันแค่กดคันเร่งอย่างเดียวก็ขึ้นได้แล้ว
แต่เวลาลงเขาจะมีผลมากกว่า ถ้ามี paddle shift มันก็จะคุมเกียร์ได้เอง แต่ก็เพิ่มความสะดวกนิดหน่อย
อีกอย่างคือเวลาเบรคกับแซง ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ลงช่วยได้ จนผมติดเป็นนิสัย ไปขับคันอื่นจะไม่ชินเอา
-
::) ดีเลยครับ สนุกด้วย ผมไปเขาใหญ่กับเพชรบูรณ์มา
แต่ระวังเกียร์สลิป เพื่อนผมสลิปมาแล้ว ณ เชียงใหม่ hahaha เคลมยกลูก
ใช้โหมด L ก็เอาอยู่สบายๆ
-
::) ดีเลยครับ สนุกด้วย ผมไปเขาใหญ่กับเพชรบูรณ์มา
แต่ระวังเกียร์สลิป เพื่อนผมสลิปมาแล้ว ณ เชียงใหม่ hahaha เคลมยกลูก
ใช้โหมด L ก็เอาอยู่สบายๆ
เกียร์สลิปเลยเหรอครับ CVT เหรอครับ น่ากลัวอะ
ตอบคำถาม จขกท ถ้ามีแพดเดิ้ล จะดีกว่าตอนลงครับ เดี๋ยวผมไปเขาใหญ่ คาดว่าจะได้ใช้เหมือนกันครับ
-
ขอถามเพิ่มเติมครับ ถ้ากรณีที่มี ระหว่างแบบยึดติดกับพวงมาลัย กับติดที่คอพวงมาลัย อันไหนสะดวกกว่ากันครับ
-
มีแล้วขับขึ้นลงเขาดีจริงครับ ผมสับมันเลย ตาดูทางไม่ต้องเอามือมาไว้ตรงเกียร์
-
รถผม City 2012 มี D , D3 , 1 ,2
เคยขับไปเชียงใหม่นั่ง 4 คนเต็มคัน+สัมภาระอีกเพียบ ก็เฉยๆนะ ส่วนตัวคิดว่ารถมันก็ไปได้ ไม่นึกอยากได้ Pandle shift
เอาจริงๆคือไม่มีเวลามาสนใจเกียร์ สนใจทางมากกว่า ไหนจะพวกแซงทางโค้งกินเลนล์มาอีก
-
ขอถามเพิ่มเติมครับ ถ้ากรณีที่มี ระหว่างแบบยึดติดกับพวงมาลัย กับติดที่คอพวงมาลัย อันไหนสะดวกกว่ากันครับ
ติดที่คอ ดีกว่าครับ
ติดที่พวง เวลาเปลี่ยนเกียรํในโค้งงง ต้องนึกว่า อันไหน +-
-
ขึ้นเขาไม่ค่อยต่างครับ แต่เวลาลงเขานี่ช่วยได้เยอะมาก
-
ถ้ารถมีเรี่ยวแรงดีอาจไม่จะเป็น แต่เคยเจอรถไม่ค่อยแรงแล้วต้องขึ้นเขาก็ช่วยได้บ้างในจังหวะจะลดเกียร์ช่วย
ส่วนขาลง ก็ใช้บ้างแต่พยายามลงช้าๆจะได้ไม่ต้องเบรคเยอะหรือใช้เกียร์เท่าไร
-
ขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ ตอนนี้เล็งไว้สองรุ่น Jazz กับ Mazda 2 งบมีอยู่ราวๆ 650K บวกได้นิดหน่อยพอไหวครับ แต่คิดถึงขับระยะไกลๆแล้ว ส่วนตัวเลยคิดว่าจะไปทาง Jazz ดีกว่า แต่ Mazda 2 ก็ option เยอะ ของแถมเพียบ มีส่วนลดเยอะอีก เลยลังเล แหะๆๆ ;D
-
ผมว่ามีประโยชน์ตอนลงเขามากกว่านะ ขึ้นเขาผมเหยียบคันเร่งอย่างเดียว
-
ตอนขึ้น ผมยัด D อย่างเดียว รถมันฉลาดกว่า
ตอนลง เคยใช้ City รุ่นที่แล้ว ตัว Top มี Paddle Shift นั่งกัน 5 คน ของเต็มรถ ไต่ลงทับเบิก ก็ได้ Paddle Shift นี่แหละช่วย สะดวกดีครับ ไวกว่าสับเกียร์เองครับ
-
ผมเพิ่งไปภูทับเบิกมา ใช้ BR-V คนนั่ง5 พับเบาะแถวสามยัดของเต็ม
ขึ้น-ลงทางอ.หล่มเก่า ขาชึ้น D สลับ L ขาลง D สลับ S ไม่มีปัญหาใดๆ
-
....ผมแทบไม่ใช้เลย ขึ้นเขา ลงเขา d อย่างเดียว ชัน มาก ๆ ก็เล่นนิด ๆ หน่อย ๆ (ตอนแรก ๆ ก็บ่อย พอเบื่อก็เลิก)
-
ง่ายขึ้นครับเพราะใช้มือแค่ตรงพวงมาลัย ไม่ต้องใช้มือเดียว
ส่วนความยากไม่ยากหรอกครับถ้าใช้ประจำหรือขับรถเก่งแล้ว ผมว่าเข้าตรงเกียร์ฟิลดูใกล้เกียร์ธรรมดามากกว่าps
-
จะมาบอกว่า
พวก CVT นี่(แทบ)ไม่มี Engine Brake เลย ผมขับ HRV ไปกิ่วฝิ่น ก่อนถึงแม่กำปองต้องจอดพัก เบรคร้อนมาก จานเปลี่ยนสีเลย
แต่ All New FTN 6AT ผมใช้ Paddle Shift ช่วย ลงเขาสบายกว่ามาก ไม่ต้องเบรคจนจมเหมือน CVT
สรุปถ้าเป็น CVT Paddle Shift ไม่มีประโยชน์ครับ
-
ปกติเข้าออก แม่แจ่มประจำ อาทิตย์ ผมใช้ Lancer Ex CVT ตอนนี้ใช้ D เกียร์เดียว ทั้งขึ้นลง
ทุกครั้งที่กดเบรคตอนลงดอยแล้วปล่อย รถมันจะทดรอบ ดึงให้เองที่ละนิด ในทางตรงกันข้างถ้าเราเอาเท้าสะกิดคันเร่ง รอบตกเลยครับ...
-
:D :D :D
ขออนุญาตอธิบาย 3 เรื่องครับ
1. Grade Logic control เป็นระบบที่ใช้มานานเป็นสิบปีละ ในฮอนด้า แต่นิยมใช้ใน เกียร์ออโต้ธรรมดาที่ไม่ใช่ใน CVT ซึ่งในหลายๆรุ่น เจ้า Grade Logic control นี้ก็มาพร้อมกับ Paddle shift ด้วย
มีประโยชน์ในการขึ้นเขาและลงเขา ในเกียร์อัตโนมัติทั่วไป เวลาขับขึ้นทางลาดชัน เกียร์จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามรอบเครื่องยนต์ พอรอบเครื่องถึงจุดๆนึง เกียร์จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ที่สูงขึ้น แต่เนื่องจากทางขึ้นเขามันชัน พอกำลังเครื่องยนต์หมด เกียร์ก็จะเปลี่ยนลงมา แล้วก็เปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นเมื่อรอบถึง เป็นแบบนี้สลับๆไป ทำให้เวลาขึ้นเขาแทนที่จะเร็วกลายเป็นอืด
แต่ Grade Logic Control ระบบจะฉลาด อาศัยเซนเซอร์ตรวจจับความลาดชันที่สัมพันธ์กับรอบเครื่อง ระบบจะเข้าใจว่าตอนนี้รถกำลังขึ้นเขาขึ้นทางลาดอยู่ ก็จะเซตเกียร์ไว้ให้เป้นเกียร์ต่ำตลอด ไม่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเกียร์ที่สูงขึ้น แต่จะยังคงระดับเกียร์นั้นไว้ตามความชันของถนน ทำให้เกียร์จะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแม้รอบจะสูงมากก็ตาม ขับขึ้นเขาเลยสมูทขึ้นและทำเวลาได้ดี
แล้วเวลาลงเขาก็เหมือนกันครับ เกียร์ออโต้ปกติเวลาลงเขา ความเร็วเพิ่ม ถึงความเร็วที่กำหนดเกียร์ก็จะเปลี่ยนสูงขึ้น ยิ่งเกียร์สูงขึ้น Engine brake ก็ลดลง เป็นอันตรายอย่างมากเวลาลงเขา ต้องคอยแตะเบรคเพื่อชะลออความเร็วเป็นระยะๆ เบรคก็เสื่อมเร็ว หรือต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ลงเองเพื่ออาศัย Engine brake ซึ่งดุวุ่นวาย ระบบนี้ก็เลยช่วยแก้ไข ให้ทดเกียร์ต่ำไว้ตลอดเวลาที่กำลังลงเขา เมื่อระดับความชันลดลงประกอบกับรอบเครื่องสูงขึ้น จึงจะยกเลิกระบบ เกียร์จึงทดสูงขึ้นให้เป็นปกติ
ระบบนี้ในรถหลายๆยี่ห้อก็มีใช้กันอยู่แล้ว แต่อาจจะเรียกชื่อแตกต่างกันไป อย่างใน Invect II ขึ้นไปของมิตซูบิชิ ก็มีระบบนี้อยู่
2. Sift hold system/control
ก็คล้ายๆกับ Grade Logic control นั่นล่ะครับ แต่ว่าระบบควบคุมเกียร์ให้ในการเข้าโค้ง (ไม่ใช่ทางลาดชัน) จะเลือกคงเกียร์ไว้ ไม่ทดเกียร์สูงขึ้นเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงขึ้น จึงปลอดภัยขณะเข้าโค้ง
-------ทั้ง2ระบบมีใน Honda รุ่นเก่าๆ ที่ใช้เกียร์ออโต้ธรรมดาอยู่แล้ว-------
ซึ่งต่อให้ไม่มี Paddle shift ก็ปลอดภัยระดับหนึ่ง
3. ส่วน Paddle shift นั้นก็เหมือนจำลองเกียร์แมน่วลมาให้ผู้ขับได้ใช้ควบคุมเกียร์เอง
แต่ว่ามันไม่ได้อัตโนมัติเหมือน Grade Logic control หรือ Shift hold system มันต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญในการเข้าเกียร์ของคนขับด้วย
ดังนั้นหากคนขับไม่มีประสบการณ์ ต่อให้มี Paddle shift ตอนขึ้น-ลงเขาก็อาจไม่ได้ประโยชน์ หรือเผลอๆก็เหมือนมีเกียร์ออโต้ธรรมดา เพราะใช้ paddle shift ไม่ถูกจังหวะ แล้วหนักกว่านั้น บางคนหัวทิ่มหัวตำตอนใช้ Paddle shift ผิดจังหวะเอาก็มี กลับอันตรายกว่าเดิมเสียอีก
ดังนั้นต้องหัดลองหัดฝึกบ่อยๆครับ เดี๋ยวจะชำนาญเอง
ถามว่า มีดีกว่าไม่มีไม๊ แน่นอน มันดีกว่าอยู่แล้วครับ ทั้งตอนขึ้นเขาและลงเขา (ไม่ใช่เฉพาะตอนลงเขา เพียงแต่ตอนลงเขาเราจะเห็นประโยชน์มันชัดเจนกว่า แต่จริงๆตอนขึ้นเขาก็ใช้ Paddle shift control เกียร์เองได้) ปกติเวลาจะเข้าเขตทางชัน ขึ้นเขาลงเขา ผมจะเปลี่ยนมาใช้ Mode S แบบใช้ Paddle shift ควบคุมตลอดเวลาเลย (ไม่ใช่ Mode Auto แล้วใช้ Paddle shift) เพื่อจะเปลี่ยนเกียร์เองตามต้องการ ไม่ให้ระบบเข้ามาช่วยหรือมายุ่ง มันจะผิดจังหวะเอา
เรามีประสบการณ์มากกว่าระบบครับ
แต่ทว่า ใน CVT นั้น ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า Engine Brake ของมันดูจะไม่ได้ดีเท่ากับเกียร์ออโต้ปกตินัก มันอาศัยโปรแกรมเข้ามาช่วยส่วนหนึ่ง
จะว่าดีก็ดีตรงที่มันสมูทขึ้น ไม่กระชากมากนัก แต่ข้อเสียคือเราต้องกะๆเองว่า ปรับเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม บางทีลดลง1step แต่ว่า Engine Brake มันก็ยังน้อย อาจต้องปรับลดเกียร์ลงอีก1step เป็นต้น
-
จากที่ผมใช้อยู่ paddle shift มันมี 2 แบบ
1.เกาะที่ตัวพวงมาลัย อันนี้ไม่ดี ผมไม่ชอบ ถ้าขึ้นทางลาดชันก็ปรกติ แต่ขับบนเขาพวกโค้ง เวลาหมุนพวงมาลัยมันจะหมุนตาม ทำให้ขับไม่ถนัด
2.เกาะที่คอพวงมาลัย อันนี้โอเคกว่า ไม่หมุนตาม ผมชอบบแบบนี้