Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ สิงหาคม 16, 2017, 12:44:59
-
"ขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่ผนวกกำลังเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 10E4E 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 125 แรงม้า (PS) 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 170 นิวตันเมตรที่ 2,000 4,700 รอบ/นาที คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 81 แรงม้า (PS) แรงบิด 380 นิวตันเมตร รวมกันแล้วจะได้พละกำลังที่สูงถึง 228 แรงม้า (PS) แรงบิด 622 นิวตันเมตร โดย MG เคลมว่าจะประหยัดน้ำมันถึง 1.5 ลิตร/ 100 กิโลเมตรหรือราว 66 กิโลเมตรต่อลิตร"
คักลอกมาจากข่าว Spyshot : ด้านหน้า-ข้าง-ท้าย All NEW MG 6 Fastback ขุมพลัง 1.5 Turbo และ 1.0 Plug-in Hybrid
พิมพ์ผิดหรือเปล่าครับ อะไรมันจะประหยัดมากมายขนาดนั้น
-
อัตราการกินน้ำมัน อย่างกับพวก wawe110i เลยนะหะ
-
เดาว่าประหยัดกว่าเดิม 1.6 ลิตร / 100 กิโล มากกว่ามั้งครับ
รถยนตร์นี้ถ้าใชงาจริงได้ 35 กิโล/ลิตร ก็ถือว่าเก่งสุดๆแล้วครับ
66 กิโลลิตร ต้องเป็นเวฟ 100 วิ่ง 60 แล้วครับ
-
ไม่ผิดครับ Plugin Hybrid ส่วนมากวิ่งใช้มอเตอร์ แล้วรุ่นนี้ใช้เครื่อง 1.0T เองครับ ถ้าวิ่งสั้นๆ แบตเต็มก็ อัตราการกินน้ำมันก็ 0 L/100km อะครับ
แต่ถ้าแบตหมดเมื่อไรก็จะวิ่งได้ราวๆ 18 - 20 km/l แถวนั้นครับ หรือถ้าแบต 0 เลย แล้ววิ่งแต่ในเมืองก็มีสิทธิ์เห็นเลขหลักเดียวได้
-
66 km/l จะเทียบเท่า 155.29 MPGe
ถ้าทำได้ มันจะกลายเป็นรถที่ประหยัดที่สุดในโลกเลยนะ ::) ::)
จะคอยดูว่าจริงหรือเปล่า
(https://www.uppic.org/image-DD36_5993E0DD.jpg)
-
มีเทคโนโลยี่ขนาดนี้ สวยขนาดนี้ จะไม่เอารุ่นนี้เข้ามาจริงๆ หรือครับ CP
เข้ามาเคลมเป็นจ้าว Hybrid plug in ได้สบายๆ
กับการตลาดเหนือเมฆ อะไหล่ส่วนควบ Hybrid รับประกันตลอดอายุใช้งาน ;D
-
แรงบิด 622 นิวตันเมตร แบกน้ำหนักรถขนาด 2 ตันได้สบายเลยนะ
จริงๆ รถ Hybrid มันเหมาะกับเครื่องยนต์ขนาดเล็กมากกว่า 1.5 หรือ 2.0 นะ
เอาแบบเข้าใจง่ายๆ เครื่องเล็ก รอบจะจัดกว่าเครื่องใหญ่ ดังนั้นในแรงขับในหน่อยที่เข้ากัน เครื่องเล็ก จะหมุนมอเตอร์ชาร์ตไฟได้รอบมากกว่า
-
:'(
เอา ค่าไฟบวกเข้าไปในลิตรด้วยได้ไหม
-
:-X :-X :-X :-X :-X ประหยัดจริงๆ
รอติดตาม
-
ตัวเลขดังกล่าวอาจทำได้จริงนะครับ แต่เป็นห่วงว่าจะจูน software มาเน้นประหยัดสุดๆหรือเปล่าครับ
แต่จะมีปัญหาอย่าง prius ไหมที่เน้นประหยัดจนทำให้อุปกรณ์บางอย่างทำงานหนักไป จนอุปกรณ์บางอย่างที่วิ่งราวๆ แสนกิโลก็ต้องเปลี่ยนแล้ว โดยที่อุปกรณ์เหล่านั้นราคา เฉียดแสนนะครับ
โดยส่วนตัวนครับผมว่ารถ hybrid ควรจะมีแบตเตอรี่สำหรับวิ่งในโหมดไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์มาช่วยเลย ให้ได้ระยะทาง35-40 กิโลเมตร หรือ วิ่งได้ต่อเนื่องสัก 20-25 นาทีกรณีหยุดมากกว่าวิ่ง เป็นอย่างน้อยนะครับ และก็เขียนโปรแกรม ควบคุมการทำงานว่า ถ้าระดับพลังงานแบตเตอรี่ต่ำกว่า 35-40% ก็ค่อยสตาร์ต เครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบต พอแบตเต็มแล้ว และช่วงนั้นรถไม่ได้ได้ใช้กำลังมากๆ ก็หยุดเครื่องยนต์ไปซะและจะใช้เครื่องยนต์อีกทีเมื่อกำลังมอเตอร์ไม่พอจะตอบสนอง กำลังการขับขี่เพียงพอ หรือแบตลงมาต่ำกว่า 35-40% นะครับแบบนี้ inverter ก็ไม่ต้องทำงานหนัก แถม มลพิษจากการเผาไหม้ก็น่าจะต่ำด้วยต่อระยะทางการวิ่งนะครับ
สำหรับ MG ขอเสริมอีกนิดนะครับ
ถ้า ZS มี hybrid battery ขนาดสัก 5-7 kW และใช้เครื่องยนต์ 0.6-1.0Turbo
และ Rx-5 มั hybrid battery ขนาดสัก 9-12 kW และใช้เครื่องยนต์ 1.0-1.2Turbo
มาด้วยนะครับในปี 2018-2019 ที่จะถึงนี้ด้วย นอกจาก MG6 hybrid ด้วยผมว่าน่ามีคนสนใจใน SUV ของ MG ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมคาดว่าราคาต้นทุนแบต ev ต่อกิโลวัตต์นะต้นปี 2019 น่าจะลงมาต่ำกว่า 125$ ต่อ 1kW แล้วนะครับ
-
ตัวเลขดังกล่าวอาจทำได้จริงนะครับ แต่เป็นห่วงว่าจะจูน software มาเน้นประหยัดสุดๆหรือเปล่าครับ
แต่จะมีปัญหาอย่าง prius ไหมที่เน้นประหยัดจนทำให้อุปกรณ์บางอย่างทำงานหนักไป จนอุปกรณ์บางอย่างที่วิ่งราวๆ แสนกิโลก็ต้องเปลี่ยนแล้ว โดยที่อุปกรณ์เหล่านั้นราคา เฉียดแสนนะครับ
โดยส่วนตัวนครับผมว่ารถ hybrid ควรจะมีแบตเตอรี่สำหรับวิ่งในโหมดไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์มาช่วยเลย ให้ได้ระยะทาง35-40 กิโลเมตร หรือ วิ่งได้ต่อเนื่องสัก 20-25 นาทีกรณีหยุดมากกว่าวิ่ง เป็นอย่างน้อยนะครับ และก็เขียนโปรแกรม ควบคุมการทำงานว่า ถ้าระดับพลังงานแบตเตอรี่ต่ำกว่า 35-40% ก็ค่อยสตาร์ต เครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบต พอแบตเต็มแล้ว และช่วงนั้นรถไม่ได้ได้ใช้กำลังมากๆ ก็หยุดเครื่องยนต์ไปซะและจะใช้เครื่องยนต์อีกทีเมื่อกำลังมอเตอร์ไม่พอจะตอบสนอง กำลังการขับขี่เพียงพอ หรือแบตลงมาต่ำกว่า 35-40% นะครับแบบนี้ inverter ก็ไม่ต้องทำงานหนัก แถม มลพิษจากการเผาไหม้ก็น่าจะต่ำด้วยต่อระยะทางการวิ่งนะครับ
สำหรับ MG ขอเสริมอีกนิดนะครับ
ถ้า ZS มี hybrid battery ขนาดสัก 5-7 kW และใช้เครื่องยนต์ 0.6-1.0Turbo
และ Rx-5 มั hybrid battery ขนาดสัก 9-12 kW และใช้เครื่องยนต์ 1.0-1.2Turbo
มาด้วยนะครับในปี 2018-2019 ที่จะถึงนี้ด้วย นอกจาก MG6 hybrid ด้วยผมว่าน่ามีคนสนใจใน SUV ของ MG ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมคาดว่าราคาต้นทุนแบต ev ต่อกิโลวัตต์นะต้นปี 2019 น่าจะลงมาต่ำกว่า 125$ ต่อ 1kW แล้วนะครับ
เค้ามีอยู่แล้วครับ แค่ไม่เข้าไทย ขนาดเครื่องสันดาปยังกลัวเจ๊ง PHEV ยิ่งไม่น่ากลัวกว่าเหรอครับ
-
แค่อ่านก็เข้าใจ
เมื่อแบตฯเต็ม วิ่งออกจากบ้าน คุมความเร็วสม่ำเสมอ จนแบตฯหมด มันก็ประหยัดซิครับ
พอแบตฯพร่องแล้ว ก็เหลือ แถว ๆ 20 นี่แหละ ไม่ได้แปลกอะไรนี่ครับ
-
ตัวเลขดังกล่าวอาจทำได้จริงนะครับ แต่เป็นห่วงว่าจะจูน software มาเน้นประหยัดสุดๆหรือเปล่าครับ
แต่จะมีปัญหาอย่าง prius ไหมที่เน้นประหยัดจนทำให้อุปกรณ์บางอย่างทำงานหนักไป จนอุปกรณ์บางอย่างที่วิ่งราวๆ แสนกิโลก็ต้องเปลี่ยนแล้ว โดยที่อุปกรณ์เหล่านั้นราคา เฉียดแสนนะครับ
โดยส่วนตัวนครับผมว่ารถ hybrid ควรจะมีแบตเตอรี่สำหรับวิ่งในโหมดไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้เครื่องยนต์มาช่วยเลย ให้ได้ระยะทาง35-40 กิโลเมตร หรือ วิ่งได้ต่อเนื่องสัก 20-25 นาทีกรณีหยุดมากกว่าวิ่ง เป็นอย่างน้อยนะครับ และก็เขียนโปรแกรม ควบคุมการทำงานว่า ถ้าระดับพลังงานแบตเตอรี่ต่ำกว่า 35-40% ก็ค่อยสตาร์ต เครื่องยนต์มาปั่นไฟเข้าแบต พอแบตเต็มแล้ว และช่วงนั้นรถไม่ได้ได้ใช้กำลังมากๆ ก็หยุดเครื่องยนต์ไปซะและจะใช้เครื่องยนต์อีกทีเมื่อกำลังมอเตอร์ไม่พอจะตอบสนอง กำลังการขับขี่เพียงพอ หรือแบตลงมาต่ำกว่า 35-40% นะครับแบบนี้ inverter ก็ไม่ต้องทำงานหนัก แถม มลพิษจากการเผาไหม้ก็น่าจะต่ำด้วยต่อระยะทางการวิ่งนะครับ
สำหรับ MG ขอเสริมอีกนิดนะครับ
ถ้า ZS มี hybrid battery ขนาดสัก 5-7 kW และใช้เครื่องยนต์ 0.6-1.0Turbo
และ Rx-5 มั hybrid battery ขนาดสัก 9-12 kW และใช้เครื่องยนต์ 1.0-1.2Turbo
มาด้วยนะครับในปี 2018-2019 ที่จะถึงนี้ด้วย นอกจาก MG6 hybrid ด้วยผมว่าน่ามีคนสนใจใน SUV ของ MG ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมคาดว่าราคาต้นทุนแบต ev ต่อกิโลวัตต์นะต้นปี 2019 น่าจะลงมาต่ำกว่า 125$ ต่อ 1kW แล้วนะครับ
เค้ามีอยู่แล้วครับ แค่ไม่เข้าไทย ขนาดเครื่องสันดาปยังกลัวเจ๊ง PHEV ยิ่งไม่น่ากลัวกว่าเหรอครับ
ขอโทษที่อาจทำเข้าใจผิด ผมพูดถึง HEV เฉยๆ ยังไม่กล่าวถึง Plugin เลยครับ เพราะส่วนตัวนะครับในไทย ผมยังว่าไม่พร้อมรองรับ plugin นะครับ ตอนนี้ power grid ยังไม่พร้อมครับ โดยเฉพาะพวกรถที่มีขนาดแบตเกิน 40-50 kW ขึ้นไป (สมมติถ้าชาร์ตแบบเร็วพร้อมๆกันสัก 100,000 คัน ผมเคยคำนวนคร่าวๆ ถ้าชาร์ตแบบเร็วๆนะครับ รถราวๆ 30-40 คนนี้คือใช้ๆไฟ ระดับ 1 MW เลยนะ ถ้าเป็นแสนครับนี้ดึงโหลดไม่น้อยเลยนะครับ) กลัวจะเกิดไฟดับแบบไต้หวัน แต่บ้านเราคงไม่มีออกมาลาออกรับผิดชอบแบบเขานะครับ
-
ดูตัวเลขแล้วทึ่งเลย รอดูของจริงอีกที :o
รถไฮบริจทั่วไปก็เหมือน 2 คันใน 1 เดียวอยู่แล้ว
เสียอันไหนอันนึงก็วิ่งไม่ได้ เลยมีโอกาสเสียเพิ่มขึ้นจากเดิม
อันนี้มีเทอร์โบเพิ่มเข้ามาอีก รอดูเรื่องความร้อนเลยครัช 8)
-
https://www.youtube.com/watch?v=4Dayk2rtY9E
วิ่งจริง 20.4 km/l พอๆ กับ Accord Hybrid ครับ
-
ถ้าตัวแทนจำหน่ายเป็นองค์กรที่มีคุณธรรมกว่านี้จะน่าซื้อพอดีครับ
-
แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำไมโหดเวอร์ขนาดนั้น
-
ว่าแต่แรงม้า แรงบิด เครื่อง+มอเตอร์ รวมกัน ทำไมมันสูงจังเลยครับ
-
ถ้าตัวเลขได้ขนาดนี้ มันใกล้เคียงกับ Benz ตระกูล C, E, S300 Blutec Hybrid เลยนะนั่น ขนาด Benz นั่นใช้เครื่องดีเซลเทอร์โบด้วยซ้ำ
น่าทึ่งมาก ถ้า MG จะทำ Plug-in hybrid มาโดยจะเค้นแรงม้าแรงบิดได้เยอะๆ ขนาดนี้ แบบนี้ ต่อไป Benz C200, C250, BMW 320d, 520d, 730d พวกนี้คงวิ่งตามรถ plug in hybrid จากจีนอย่าง MG ไม่ได้แล้วละ
อึ้งจริงๆ
-
https://www.youtube.com/watch?v=4Dayk2rtY9E
วิ่งจริง 20.4 km/l พอๆ กับ Accord Hybrid ครับ
สวยมากครับชอบทั้งภายในและภายนอก..... 0-100 7.54วิ อยากได้เลย
-
แม่เจ้า 66กม./ลิตร ??? ??? ???
-
มันไปรวมพลังกันยังไงหรือครับ ถึงได้แรงม้ามากกว่า เครื่อง(125)+ มอเตอร์ไฟฟ้า(81)
-
แค่ตัวเลขก็ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือแล้ว แรงบิด ยังกะแรงโม้เลย แค่รวมมอเตอร์กะเครื่อง มันบวกยังไงของมัน หรือว่ามันมีวาระซ่อนเร้น
-
ตัวเลขพวกนี่ทำได้จริงครับ เหมือนตระกูลC,E350eทำได้ตอนชาจไฟมาเต็มๆน่ะครับ20-30โลแรกไม่ใช้น้ำมันสักหยด พอไฟหมดเริ่มใช้น้ำมันลิตรแรกวิ่งได้อีก15-16โล เค้าก็ตีไป40-50โลลิตร แต่ลองหลังจากไฟหมดสิครับคุณจะรู้ว่ามันไม่ได้ประหยัดมากมายขนาดนั้น ให้ได้10-12โลลิตรในเมืองนี่ก็หรูแล้วครับ