Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 27, 2017, 12:58:56
-
สงสัยว่ากฎข้อนี้ยังใช้ได้ไหมว่ารถหลักล้านคนซื้อไม่ค่อนสนอัตราสิ้นเปลือง
-
หากชอบ. ยังไงก้อคงถอย
-
ถ้าไม่กินดุมากเขารับได้อยู่แล้วละครับ ส่วนคนที่ชอบรถเครื่องใหญ่เครื่องแรงเขารู้ก่อนซื้อและครับว่าจะออกมายังไง อันนี้กรณีออกป้ายแดงนะ
-
ตั้งแต่ใช้ Prius นี่ค่อนข้างจะเคยตัวกับเรื่องประหยัดน้ำมันครับ ถึงจะได้ไม่เท่า ขอใกล้เคียงก็ยังดี
-
แล้วแต่คันครับว่าผมวางรถคันนี้ไว้เป็น daily use กรือ weekend car
ถ้าเป็น daily นี้ก็สนนิดหน่อย ขอสัก 12km/l++ ก็โอเคละครับ แต่ถ้าเป็น
Weekend car นี้ไม่สนใจเลยครับ กินเท่าไหร่ก็กินไป ใช้เอาสนุกอย่างเดียว
-
สมัยนี้นิยมมีรถกันมากกว่า 1 คันครับ
-
สนใจมากครับ ไม่งั้นคงไม่ซื้อ 520d แทน 520i
ทั้งๆ ที่ 520i ราคามันถูกกว่า 520d 1.5 แสน
-
ถ้ารักV6แล้ว เปลืองยังไงก็ต้องรับได้ ^^
-
ทุกวันนี้รถในแต่ละ Segment กินน้ำมันแทบไม่ต่างกัน
นอกเมืองได้ซัก 12-13 โลลิตร ในเมืองซัก 7-8 โลลิตร ผมพอใจแล้ว
อาจจะยกเว้นกระบะอย่างเจ้าไทรทั่นไว้ซักคัน
ญาติๆชอบมาก ขับดี นิ่ม หนึบ นั่งสบาย แรงดี
แต่ 5AT กินน้ำมันเหลือเกิน สู้เจ้าอิสุๆ 1.9 6AT ไม่ได้เลย
-
ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ครับ เอารถที่ซื้อแล้วตรงกับความต้องการไว้ก่อนครับ เรื่องประหยัดน้ำมัน ขอแค่อย่ากินจนน่าเกลียดก็พอครับ
-
จะราคาเท่าไรผมก็สนใจครับ ยกเว้นรถทำไว้ขับเล่น หรือพวก high end sports car/super car
-
ก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจด้วยครับ ถ้าไม่งั้นคงไม่เอา Hybrid
-
ผมดูคุณภาพโดยรวม+สมรรถนะที่มันให้เราด้วยครับ
ถ้านั่งสบาย ทรงตัวดี เก็บเสียงดี อัตราเร่งดี พาเราแซงรถ 18 ล้อบรรทุกอ้อยบนถนน 2 เลนจาก 80-120 ได้ภายใน 6-7 วินาที ต่อให้กิน 10 กม./ลิตร ผมรับได้
คุณงามความดีของรถมันพอจะกลบข้อด้อยเรื่องการกินน้ำมัน
ถ้าแรงด้วย+ประหยัดด้วย ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ก็แล้วกัน
-
ไม่ได้สนใจอัตราสิ้นเปลืองเลยครับ
7km/l กับ 15km/l สำหรับผมไม่ได้ต่างกัน
ขอให้เก็บเสียงดี ขับสบาย อัตราเร่งพอใช้เวลาที่ต้องการเร่งแซง
ปัจจัยที่อยู่ท้ายสุดในการเลือกซื้อรถของผมคืออัตราสิ้นเปลืองและราคาขายต่อ
-
ถ้าชอบมันใช่ มันสวย มันโดน ไงก็ซื้อแค่อาจจะมีไว้เป็นเหตุผลประกอบแค่นั้นครับ
-
ส่วนใหญ่มันก็ประหยัดในแบบของมันนะครับ
-
คห. สต ราคารถเกินล้าน เรื่องความประหยัดน้ำมัน เป็นหัวข้อท้ายๆ ความปลอดภัย สมรรถนะ ความสบายในการนั่งและอุปกรณ์ภายใน การซ่อมบำรุงและดูแลรักษา ราคาขายต่อ สุดท้ายเรื่องความประหยัดน้ำมันครับ
-
ไม่คิดมากครับ ปวดหัวเปล่าๆ ขับที่ชอบสบายใจกว่าเยอะ
-
เน้นความเหมาะสมและคุ้มค่าตัวมากกว่า
วัด perfomance ต่อจุดประสงค์ที่เราต้องการครับ ประหยัดในชนิดของมันก็พอ
ถ้ามันรุ่นใกล้ๆกันแล้วด้อยกว่าเค้าด้านกินน้ำมันเนี่ย มันแปลได้หลายอย่าง
อาจจะแปลว่าเทคโน หรือการออกแบบสู้เค้าไม่ได้ :-X
-
ดูๆบ้างเหมือนกันครับ คือถ้ารถที่ใช้งานทั่วๆไปก็สนใจอยู่ครับ ติดๆไหลๆในเมือง
แต่ถ้ารถที่ซื้อเพราะความชอบ ซื้อมาขับไม่บ่อย อันนี้ก็รับได้กับความเปลืองรับ
-
หลักล้าน สมัยนี้มันไม่ได้เป็นรถหรูอะไรนะ
Civic / Altis / Mazda 3 ตัว Top มันก็เกินล้านทั้งนั้น กลุ่มคนใช้ ก็ยังเป็น พนง.เงินเดือน ผู้บริหารระดับกลาง ทั้งนั้น ดังนั้น ยังไงก็สนล่ะครับ
ถ้าจะถามแบบนี้ ต้องถามว่า เกิน 3 ล้านขึ้นไปมากกว่า
แต่อย่างว่า ถ้าผมใช้รถเยอะ ต่อให้รถแพงๆ ผมก็สนอัตราสิ้นเปลืองอยู่ดีนั่นแหละ
-
มันควรจะเป็นรถที่ขับให้ประหยัดก็ได้ หรือถ้าอยู่ในอารมณ์ซิ่งจะกินดุหน่อยก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่ควรกินเยอะ แม้จะพยายามขับประหยัดครับ
-
ผมเหล่ๆฟอร์จูน กับอินโนว่า ผมก็สนใจอัตราสิ้นเปลืองนะครับ
ส่วนใหญ่ผมว่าคนซื้อรถตลาดคงสนใจอัตราสิ้นเปลืองกันหมด แต่ถ้ากลุ่มรถสปอทคันละ 5 ล้านอัฟ คงไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว
-
คห. สต ราคารถเกินล้าน เรื่องความประหยัดน้ำมัน เป็นหัวข้อท้ายๆ ความปลอดภัย สมรรถนะ ความสบายในการนั่งและอุปกรณ์ภายใน การซ่อมบำรุงและดูแลรักษา ราคาขายต่อ สุดท้ายเรื่องความประหยัดน้ำมันครับ
ตามนี้เช่นกัน ปลอดภัยอันดับ 1 สวยงาม สมรรถนะ 2 ที่เหลือ ไม่ค่อยคิด
-
ผมเคยถามคนที่ซื้อรถราคาเกินล้าน ถามว่ารถเป็นยังไงบ้างพี่ คำตอบก็คือ ก็โอเค "แรงดี"
พอผมไปถามคนที่ซื้อรถ Bsec กับ Ecocar คำตอบก็คือ ก็โอเค "ประหยัดดี"
ผมเดาๆเอาว่า
คนที่ซื้อรถราคาเกินล้านส่วนใหญ่ ไม่ได้เน้นเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่าไหร่
ถ้าเป็นโหวต 3
-
ถ้าไม่สน รถยุโรปดีเซล คงไม่วิ่งกันเกลื่อนแบบนี้ครับ
-
::)
อัตรากินนำ้มันกับราคาขายต่อคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกๆเลยคุณ
การเอาอารมณ์ความชอบหรือภาพลักษณ์มาเป็นที่ตั้งในการซื้อรถน่ะ
บอกได้คำเดียวสั้นๆว่า "เสียใจ"
ปล.
ถ้าไม่สน รถยุโรปดีเซล คงไม่วิ่งกันเกลื่อนแบบนี้ครับ
-------- >> ข้าพเจ้าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งฮะ เสริมว่า เพราะมันทนกว่าเบนซินด้วยตาม nature ของดีเซล
-
ส่วนน้อยจริงๆนะที่ไม่สนประหยัดน้ำมัน ส่วนมากก็สนแต่ไม่ซีอะไรมากมาย
-
ต้องสนใจสิครับ นอกจากเป็นพวกรถราคาหลายสิบล้านขึ้นไป แบบนั้นเจ้าของอาจจะไม่สนใจ
-
ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่สนใจ บริษัทรถจะคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมาทำไมละครับ
เพราะงั้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันก็เป็นเรื่องสำคัญในรถบ้านๆทุกระดับอยู่แล้วครับ
ยกเว้นพวก super car หรือ luxury car คนเล่นรถระดับนั้นคงไม่สนใจหรอก
-
ถ้ารักV6แล้ว เปลืองยังไงก็ต้องรับได้ ^^
555 ชอบครับ เห็นด้วยเลยทีเดียว ;D