Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ สิงหาคม 30, 2017, 23:13:07
-
สวัสดีครับ
เมื่อก่อนผมอยากบอกว่า ตัวผมเองเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าระบบ safety พวกนี้มีประโยชน์ครับ
ผมเชื่อว่า เราต้องขับรถอย่างระมัดระวัง แก้สถานะการณ์ให้ถูก ระวังภัยทุกชนิดและคาดการณ์สิ่งที่อาจเกินขึ้น
แต่จากการที่ผมได้มีโอกาสไปลองรถที่ ศูนย์ของทั้ง MG และ Toyota ที่อยู่แถวๆ บางนา ศรีนครินทร์
ทำให้ผมรู้สึกว่า การอุปกรณ์พวกนี้มันช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้จริง
ทั้ง ABS และ ESP เราสามารถใช้งานใจชีวิตได้จริง
เข้าใจการทำงานของระบบเหล่านี้มากขึ้น
ได้เห็นการทำงานของถุงลมข้างในคลิป มันช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ
เมื่อก่อนเวลาผมซื้อรถผมจะพยายามเลี่ยงการซื้อรุ่นที่มันมี ABS และ Airbag เพราะเชื่อว่า รถพอใช้งานไป ระบบพวกนี้มันจะเสียง่ายและทำให้รถรวน
แต่การที่ผมได้เห็นว่า อุปกรณ์พวกนี้ใช้ได้จริงๆ ผมไม่เกี่ยวงอนกับระบบพวกนี้ครับ
ผมว่ารถถ้ามันจะเสีย ก็ขึ้นกับการออกแบบด้วย บางทีรถที่ไม่มีอะไรเลย แต่ออกแบบไม่ดี มันก็เสียอยูู่ดีครับ
...การเลือกรถของผม จากรถที่ผมใช้ไม่มี ABS ESP มีถุงลมใบเดียว
คันต่อไป ผมจะเลือกรถที่มีถุงลมรอบคัน ABS และ ESP ครับ (ถ้าทำได้ครับ)
เพื่อนๆ มีความรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหมครับ
-
ยุคนี้ อย่างไม่มีอะไรเลย ควรจะมี
ABS/EBD
VSC/TRC หรือพวกควบคุมการทรงตัวทั้งหลายเป็นอย่างน้อย
ถุงลม 7 ใบ
ส่วนพวก Blind spot radar ต่างๆก็แล้วแต่งบครับ
-
รถผมd segปี2013มีถุงลมแค่4ใบไม่มีblind spot monitoringผมยังเคืองจนถึงทุกวันนี้
-
ของผมตอนม.ปลาย พ่อแม่บอกจะซื้อสามห่วงให้ขับตอนมหาลัย
ถามตั้งแต่ม.5 ดูแลรถเป็นรึยัง ผมเลยซื้อหนังสือรถมาอ่าน 2-3 เจ้าทุกเดือนๆ
ก็จะมีบอกพวกประโยชน์ของ abs ซึ่งจะมีแต่รุ่น top ในยุค 2538-39
จนมาออกตอง1 ปี 40 ผมเลยบอกเอาตัว top เลย
เพราะมี abs กับช่วงล่างเซ็ทแบบสปอร์ตด้วย(วัยซิ่งย่อมไม่พลาด)
ตอนมหาลัยนั่งรถคนโน้นคนนี้ ทั้งมีอายุ ทั้งวัยรุ่น
ขับไปขับมา มีสถานะการณ์ abs ทำงานกันหมดเห็นกะตา
ทั้งขับเองเจอแอ่งน้ำ เจออะไร ผมว่า abs นี่โคตะระจำเป็นเลยครับ แหะๆ(ร่ายซะยาว) :-[
-
สำหรับตัวผมเป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย
ซื้อเก๋งคันแรกปี1996 สมัยนั้นเลยไม่ได้ขอบคุณToyota
ต้องหันไปซื้อรถอื่นที่ให้ครบเครื่องกว่า
Toyotaกว่าจะให้มาเต็มๆ ช้ากว่าไปเยอะ
-
ผมให้ความสำคัญกับระบบพวกนี้มาตั้งแต่แรกครับ ที่เน้นๆคือ passive safety เช่นถุงลม โครงสร้างรถ(ดูได้จากการทดสอบการชน) และเตือนเมื่อไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น ส่วน active safety ที่เน้นคือพวกระบบควบคุมการทรงตัวและพวกเซนเซอร์กะระยะครับ ส่วนที่เหลือเช่น adaptive cruise, เบรคอัตโนมัติ, เตือนออกนอกเลน พวกนี้ถ้ามีก็ดีครับไม่มีไม่เป็นไร
อีกอย่างระบบบางอย่างมันปิดได้นะครับ พวกเตือนออกนอกเลน หรือดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติเป็นต้น ทำให้คนขับเลือกได้เลยว่าจะใช้หรือไม่ใช้ครับ ผมเลยไม่มองว่าระบบพวกนี้เป็นภาระแต่อย่างใด
-
สำหรับตัวผมเป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย
ซื้อเก๋งคันแรกปี1996 สมัยนั้นเลยไม่ได้ขอบคุณToyota
ต้องหันไปซื้อรถอื่นที่ให้ครบเครื่องกว่า
Toyotaกว่าจะให้มาเต็มๆ ช้ากว่าไปเยอะ
+1 ครับ ช้าไปเยอะ จนโดนโจมตีจากผู้ใช้ทั่วโลกหนักมาก กว่าจะใส่ให้เต็มๆก็ปี 2015-2016 นี่ล่ะครับ (ผมเองก็คนนึงที่ด่าเรื่องนี้ไว้เยอะ มีแบบสอบถามจากโตโยต้าก็เขียนด่าตลอดเรื่องระบบความปลอดภัย 555+) ตอนนี้สมใจละ
-
ผมว่าคุณขอบคุณผิดบริษัทแล้วครับ
รถรุ่นแรกที่เอาทุกระบบ abs ebd ba vsc trc มาใส่ในทุกร่นย่อย คือมาสด้า 3
มาสด้ามีคลิปวีดิโอแสดงการทำงานของระบบต่างๆนี้อัพโหลดบนยูทูป และเปิดอยู่ในทุกโชว์รูม
ณ ปี 2014 เป็นปีที่ผมซื้อรถพอดี ผมหารุ่นที่มี vsc ก่อน ซึ่งทุกยี่ห้อใส่มาให้ในรุ่นท็อป แต่ mazda3 skyactiv ใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นล่าง
ถ้าจำไม่ผิด ในปีเดียวกัน Honda เปิดตัว new city จัดเต็มระบบความปลอดภัย มี abs ba ebd vsc trc ทุกรุ่นย่อย รุ่นท็อปได้ 7 ใบอีกต่างหาก ตอนแรกผมจะเอารุ่นนี้แล้ว ราคา 7 แสนกลางๆ จะไปขอลองที่ศูนย์พนักงานไม่สนใจใยดีอะไรเลย เพิ่มเงินไม่ถึงแสนได้ mazda3 รุ่นล่าง
ในขณะนั้น b sec รุ่นอื่นๆ ถ้าเทียบกับ city นี่คือโล้นมากๆ ยิ่ง vios นี่คือ abs รุ่นล่างสุดไม่มีเลยมั้ง
เพราะฉะนั้นมี Mazda กับ Honda นี่แหละครับ ที่ควรขอบคุณ ทำให้ทุกยี่ห้ออัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาในทุกรุ่นย่อย
-
ตอนใช้ E-Car เมื่อก่อน ก็ไม่ได้สนใจเรื่องเบรค ABS อะไร เพราะปี 2538 มันเป็นของไกลตัวมากๆ ถึง Ultima จะมี แต่ราคาก็โดดไป 7 แสนกว่า ยุคนั้นบ้านเดี่ยวชานเมืองก็ขายราคานี้
ผมเริ่มใช้รถมี ABS ตอนซี้ออัลติสหน้าหมูตัว 1.8G ปี 2544 มีระบบ EBD/BA/VSC/TRC และถุงลม 2 ใบด้วย เลยกลายเป็นมาตรฐาน ซี้อรถคันถัดมาต้องมี ABS เป็นขั้นต่ำ เพราะใช้งานได้จริง
- ปี 2550 พอวีออสเห็บหมาเปิดตัว มี ABS/EBD/BA ทุกรุ่นย่อย เลยตัดสินใจซี้อเพิ่ม ซึ่งยุคนั้นฮอนด้า City มี ABS เฉพาะรุ่นสูงเท่านั้น
- ปี 2553 แอคคอร์ท G9 มีครบทั้งหมดเหมือนอัลติส แถมถุงลม 4 ใบ
- ปี 2555 ซี้อมาร์ชตัวท้อป เพราะอยากได้ ABS/EBD/BA ถุงลม 2 ใบ
- ปี 2560 ขายมาร์ชซี้ออัลติส เพราะ ABS/EBD/BA/VSC/TRC และถุงลม 7 ใบ
- ปี 2560 ซี้อโน้ต เพราะ ABS/EBD/BA/VDC และพวกเรดาห์ช่วยเตือนต่างๆ
จริงๆพวกระบบช่วยเหลือมันมาตั้งนานแล้ว เมืองนอกเป็นกฏหมายบังคับ แต่เมืองไทยไม่ได้บอก เค้าก็ไม่ได้ใส่มาให้ (ต้องโทษบทกฏหมายบ้านเราด้วย ที่ยังล้าหลังอยู่)
พอตอนหลังเปลื่ยนกฏใหม่ถึงจะยอมใส่มาให้ เพราะถ้าไม่ใส่เจอเสียภาษีขึ้นอีกบานตะไท
-
ผมดูเป็นปัจจัยแรกในการเลือกรถ Option ความปลอดภัยมาก่อนเสมอ ถุงลม ABS VSC BA ฯ อยากได้ BSM มาก ๆ ส่วนพวก อื่น ๆ ที่ให้ความสะดวกสบายค่อยตามมา
MAZDA จัดเต็ม ๆ เป็นเจ้าแรก ๆ ครับ ทุกวันนี้มี BSM เกือบทุกรุ่น ถุงลมก็เยอะ
HONDA ก็ตามมา ABS EDB ฯ ครบ ส่วนพวกยี่ห้ออื่น ๆที่รอง ๆ ไปก็จัดมาครบ
TOYOTA เพิ่งตื่น ตกใจ ชาวบ้านเขาจัดเต็มไปเยอะ เพิ่มมาจัดให้ตอน YARIS ATIVE
ที่หลับ ๆ อยู่ก็เห็นจะเป็น NISSAN SYLPHY น่าจะมีถุงลม 2 ใบ ส่วนตัว X-trial 2.0 ก็น่าจะไม่ครบ 7 ใบ
รถหลักล้าน OPTION น้อยกว่า ECO CAR มันเป็นไปได้ในประเทศนี้ เมื่อไหร่เปิดเสรีรถนำเข้า เสียภาษีเท่ากับรถประกอบในแระเทศ OPTION ในประเทศคงจะมาตรึม
-
ผมเลือกรถถือคติที่ว่าอุปกรณ์เซฟตี้มีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่าตอนจะใช้แต่ไม่มี เพราะเมื่อก่อนผมใช้ชีวิตบนถนนเป็นส่วนใหญ่
-
ระบบความปลอดภัย มีให้ครบ ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น
ขอบคุณ ทุกบริษัทครับ
-
หลายๆคนยังบอก มีก็ไม่ได้ใช้ ::)
-
ยี่ห้ออื่นเขาให้กันมานานละครับ ผมเคยพา yaris 1.2 ไปหลุดโค้งเกือบตายมาแล้วต้องขอบคุณไหม 555 ของพวกนี้มัน "จำเป็นต้องมี" อยู่แล้วครับ แต่โตต้าไทยแลนด์แดนสารขัณฑ์เพิ่งจะมาให้ตอนยอดตกนั่นแหละ เหอๆ
-
ตั้งแต่ขับ wish ก็คิดไว้เสมอว่า vsc trc ต้องมีครับ เพราะเหินน้ำ trc ก็ทำงานแล้ว แต่ vsc ตั้งแต่ขับมาก็เคยได้ยินมันทำงานครั้งเดียว ตอนเลี้ยวแล้วหน้าเริ่มแถออกไป
-
ส่วนตัว ผมว่ารุ่นที่เป็น Talk of the town คือ City/Jazz SV+ ถุงลม 7 ใบ
ส่วนมาสด้า ไม่ได้เน้นปริมาณถุงลมเท่า แต่ระบบความปลอดภัยครบกว่าใน Skyactiv
ส่วนโตโยต้า :-\ .........
คหสต. ผมไม่อยากได้ถุงลม 7 ใบ มันดูตลกสำหรับรถขนาดนี้ (พูดแรงเกินไปขออภัย) ผมว่า 2+2 ใบ พอ
แต่ Stability Control ระบบชื่ออะไรก็ได้ สำคัญกว่าครับ
ถ้ามันจะมีลูกเล่นอะไรเพิ่มขึ้นมาบนรถ มันควรเริ่มจากโครงรถที่ออกแบบดีและไม่แอบลดคุณภาพวัสดุ งานประกอบ
พร้อมอัดความปลอดภัย Active Safety เท่าที่จะยัดได้มาก่อน
ลูกเล่นประเภท Lane Departure Warning System, ระบบกล้องช่วยถอยจอด ฯลฯ พวกนี้ไร้สาระสำหรับผมมาก
ส่วน Active Braking ในประเทศที่ไม่เคารพกฎจราจร ทางม้าลายมีไว้กดคันเร่ง ใครเบรกด่าพ่อ แบบไทย ผมก็ว่าไม่เหมาะเช่นกัน
มันอาจทำให้คนที่ขับรถแทบไม่ได้ ขับเบลอๆ มึนๆ เข้าใจว่า เดี๋ยวรถก็ช่วยเองแหละ และเพิ่มค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาระยะยาวโดยใช่เหตุ
-
สำหรับคนที่ชอบกระบะมากกว่าเก๋งอย่างผมก็หวังว่ากระบะจะใส่ ESP TCS กับถุงลม 6-7 ใบมาในกระบะสี่ประตูตั้งแต่รุ่นกลางๆบ้าง
-
ถึงเวลาได้ใช้มีไว้ดีกว่าไม่มีครับ แต่ไม่ใช้ดีที่สุด
เคยใช้ fd mt รุ่นไม่มีทั้ง abs และ airbagก็ไม่เคยเบรคจนล้อล็อคซักที เพราะเราระวังว่ารถมันไม่มี abs
พอมาขับรถที่มี abs, traction control ดันเพิ่มความมั่นใจขับเร็วขึ้น กลับทำให้ระบบช่วยทำงานประจำ กลับอันตรายกว่าซะอีกครับ >>> แต่ถ้าเราเพิ่มความระวังกับรถที่มีระบบความปลอดภัยครบก็ยิ่งดีครับ
ถ้ามีโอกาสเลือกรถที่มีระบบครบ ดีที่สุดครับ ถ้าจะให้ดีเลือกรถที่โครงสร้างแข็งแรงด้วยก็ดีครับถึงเวลาไม่คาดคิดขึ้นมา ร่างกายมันซ่อมไม่ได้ครับ รถช่วยชีวิตครั้งเดียวก็คุ้มค่าแล้วครับ
-
เห็นด้วยครับ ผมคิดว่าระบบพวกนี้ต้องเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกคัน ความคิดนี้ย้อนกลับไปเมื่อราวๆปี 2007 ผมได้ใช้รถ vios ตัวที่มีแค่ abs และ airbag 2 ใบ
ขับไปตรงๆมันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่พอเจอแอ่งน้ำไม่ได้วิ่งเร็วอะไรมากมาย รถก็จะเสียอาการแล้ว มันเป็นรถที่หลอนที่สุดที่เคยขับมาแล้วแหละ ไม่รวมถึงการเลี้ยวโค้งต่างๆที่ถ้าตกใจหักหลบอะไรก็พร้อมแถออกได้ทุกเมื่อ แล้วก็จริงๆ มีคนในบ้านเอาไปหมุนกลางโค้งมาแล้ว ดีว่าไม่บาดเจ็บครับ
และอีกมุมหนึ่งคือรถกระบะ เป็นรถที่ต้องมีระบบพวกนี้ทุกคันจริงๆ ผมคิดว่าอุบัติเหตุรวมๆจะลดลงไปบ้างไม่มากก็น้อย
ฉะนั้นตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมาจุดที่ผมจะไม่พิจารณาซื้อรถคันนั้นๆต่อคือ รถคันนั้นไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวนั่นเอง
ผมไม่ขอบคุณโตโยต้าครับ ค่ายนี้ไม่โดนด่า ไม่ยอดตกก็ไม่ใส่มา ลดต้นทุนเพื่อกำไรสูงสุดคือปรัชญาของค่ายเท่านั้น
-
ถ้าพูดเน้นประเด็นเรื่องความปลอดภัย คหสต. ผมไม่เคยให้เครดิต Toyota สักนิด
กว่าจะติดตั้งระบบความปลอดภัยมาให้ก็อย่างที่หลายๆ ท่านกล่าวถึงไว้แล้ว ไหนจะเรื่องการออกแบบช่วงล่างและอุปกรณ์แย่ๆ ที่ไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยต่อผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกัน ช่วงล่างกระบะที่พาไปตาย ไฟหน้า New Fortuner ที่ทำตัวเหมือนไม่รู้กฏหมาย
-
ถ้านึกถึง Toyota เรื่องความปลอดภัยผมจะนึกไปถึง
ระบบ GOA กับ ประกันภัย GOA ซึ่งก็ยังไม่รู้ มันคืออะไร?
V-Control? ใน Vios
DRL เป็นเม็ด เกลื้อนๆ ที่ หน้า Camry และ Altis
ระบบ Hybrid ที่คนชอบด่าแบต
ก้อน Consoleขนมเค้กใน Console Altis (ที่ในภาพโฆษณา จะบอกว่า มันลด แสงสะท้อนจาก แดด กับ ปล่อย โอโซน
สำหรับ ผมใน Toyota ที่ชอบคือ...เขาเหมือน ข้าวผัดกระเพราะหมูใข่ดาวครับ Default ดี เหมือนแบบ มาแล้วซื้อๆใช้ไปเหอะ เดียวก็เปลี่ยน รถไม่ใช่ชีวิต ขับจากจุด A ไป จุด B ได้ก็จบแล้ว
ถ้าจะด่าเรื่องความปลอดภัย ผมจะไปด่า Isuzu ซึ่งมันขัดกับคำตอบมาก คือรถเขามีถุงลมแค่ 2 ใบ แต่ขายดีมาก แสดงว่าคนซื้อเขาก็ซื้อเพราะว่า Isuzu จริงๆ นั้นแหละครับ
-
ผมซื้อรถผมมองเรื่องความปลอดถัยมาเป็นขึ้นต้นเลยครับโดยแยกเป็นส่วนๆ
- ระบบที่รักษาหารทรงตัวของรถต่างๆ ABS EDB VSC TRC และอื่นๆ
- ถุงลม อย่างน้อยต้อง 2 ใบคู่หน้า
- ความสะดวกสบาย
- ราคา
อันนี้คือสิ่งที่ผมเอาไว้ตัดสินใจเลือกรถนะครับซึ่งสมัยที่ผมซื้อรถเองคันแรก ด้วยเงินตัวเอง ตอนปี 2010 ผมต้องการ รถกลุ่ม ฺB segment (City Jazz Fiesta Mazda2 Yaris Vios) โดยเอามาเทียบตามเงื่อนไขด้านบน เลยไปจบที่ fiesta ก็ช้าได้ดี แต่ก็มีปัญหาใหญ่อย่างที่หลายๆท่านทราบ ตอนนี้เลยต้องเพิ่มเงื่อนไขการซื้อไปอีกข้อ ซึ่งเป็นข้อสำคัญเลย
- ระบบที่รักษาหารทรงตัวของรถต่างๆ ABS EDB VSC TRC และอื่นๆ
- ถุงลม อย่างน้อยต้อง 2 ใบคู่หน้า
- ความสะดวกสบาย
- การบริการหลังการขายและความรับผิดชอบต่อลูกค้า
- ราคา
ผมจึงได้ไปออก Jazz V+ มาอีก แต่จนแล้วจนรอด Honda เองก็ดังเปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันอีก สรุปตอนนี้ ความรับผิดชอบต่อลูกค้าสำหรับผมแล้ว honda ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย Ford ก็ตามที่เป็นข่าวอ่ะนะ สงสัยคันต่อไปคงต้องทำใจเรื่องบริการหลังการขายแล้วล่ะ
-
เรื่องความปลอดภัย ใน toyota ผมไม่เคยคิด
ผมยังซื้อ camry 2012 ที่ระบบความปลอดน้อยกว่า ecocar ตัวล่างมาใช้เลย ::) ::)
-
รถบ้านๆที่ใส่มาเต็มๆ เจ้าแรกๆ ก็ มาสด้า 3
ลงมา b seg ก็ city/jazz
ecocar ก็ มาสด้า2
เจ้าตลาดอย่างโตโยต้าเพิ่งจะมาตื่นเอาตอน altis mc นี่ละครับ จนมาถึง yaris ativ
แต่ย้อนไปไม่ไกลมาก camry acv 50 รุ่นก่อน mc ตัว 2.0g ออฟชั่นโล้นสุดๆ
ผมจะรอดูว่ารถกระบะเจ้าไหนจะจัดเต็มพวกระบบควบคุมการทรงตัวต่างๆ มาให้ครบทุกรุ่นย่อยเป็นเจ้าแรกบ้าง
-
ซื้อ Camry Extremo ปี 13 มา มีถุงลม 2 ใบ ABS ระบบควบคุมการทรงตัวไม่มีเลย เคืองมาก
เคยไถลในลานจอดรถ ที่มีแอ่งน้ำขัง หลอนไปพักใหญ่
-
ขั้นต่ำสุดในการซื้อรถ ระบบความปลอดภัย ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ ATIV
ถุงลมอย่างน้อย 6 ใบ กันลื่นครบๆ ไม่งั้นไม่ได้ตังผม
กล้องรอบคัน ระบบเตือน สารพัด ไม่เอาก็ได้
-
ผมว่าคุณขอบคุณผิดบริษัทแล้วครับ
รถรุ่นแรกที่เอาทุกระบบ abs ebd ba vsc trc มาใส่ในทุกร่นย่อย คือมาสด้า 3
มาสด้ามีคลิปวีดิโอแสดงการทำงานของระบบต่างๆนี้อัพโหลดบนยูทูป และเปิดอยู่ในทุกโชว์รูม
ณ ปี 2014 เป็นปีที่ผมซื้อรถพอดี ผมหารุ่นที่มี vsc ก่อน ซึ่งทุกยี่ห้อใส่มาให้ในรุ่นท็อป แต่ mazda3 skyactiv ใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นล่าง
ถ้าจำไม่ผิด ในปีเดียวกัน Honda เปิดตัว new city จัดเต็มระบบความปลอดภัย มี abs ba ebd vsc trc ทุกรุ่นย่อย รุ่นท็อปได้ 7 ใบอีกต่างหาก ตอนแรกผมจะเอารุ่นนี้แล้ว ราคา 7 แสนกลางๆ จะไปขอลองที่ศูนย์พนักงานไม่สนใจใยดีอะไรเลย เพิ่มเงินไม่ถึงแสนได้ mazda3 รุ่นล่าง
ในขณะนั้น b sec รุ่นอื่นๆ ถ้าเทียบกับ city นี่คือโล้นมากๆ ยิ่ง vios นี่คือ abs รุ่นล่างสุดไม่มีเลยมั้ง
เพราะฉะนั้นมี Mazda กับ Honda นี่แหละครับ ที่ควรขอบคุณ ทำให้ทุกยี่ห้ออัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาในทุกรุ่นย่อย
ที่ถูกคือตามนี้แหละครับ โตโยต้าเป็นผู้ตามเสมอไม่ใช่ผู้นำนะ :-X
-
เลือกรถที่มีถุงลมกับ ABS มาตลอดครับ และนั่นคือเหตุผลที่ได้ใช้ "ฟอร์ด มิตซูบิชิ กับมาสด้า"
ด้วยราคาเท่ากันใน Segmentเดียวกัน TOYOTA มักจะไม่ให้ของพวกนี้ครับ เลยเป็นเหตุผลที่ให้ปฏิเสธและรู้สึกว่ายี่ห้อนี้"ดูถูก" คุณภาพชีวิตคนมาตลอดครับ (จริงๆก็มีอีกหลายประกอบเช่นช่วงล่าง ไทเกอร์ นิดเดียวก็ท้ายปัดละ ใช้ค่ายอื่นตัวถังแบบเดียวกันไม่มีอาการ)
พอมาปีนี้เศรษฐกิจเริ่มแย่ เจ้าใหญ่ก็เลยต้องอัดมาเพื่อรักษา Market shared (สิ่งของอื่นก็เป็นครับ ตอนนี้เจ้าใหญ่ในตลาดยอดตกเลยมากินรวบตลาดกลางหมด หูฟัง,จักรยาน,กล้อง etc.)
เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีต่อผู้บริโภคเหมือนกันครับ
-
ถ้าจะขอบคุณโตโยต้า ต้องขอบคุณเฉพาะโตโยต้าวิช ที่มีระบบครบ รวมทั้ง smart entry, TSC, VSA, LED H/L T/L สำหรับรถราคาล้านนิดๆ ตั้งแต่ปี 2013 นะครับ ก่อน มาสด้า 3 อีกนะ แต่มีแค่รุ่นเดียวนะ 5555
-
แต่ละคอมเมนต์น่าจะทำให้ จขกท. เหวอ เลยนะครับ 555
toyota นี่เจ้าแห่งการกั๊กของเลย ถ้าไม่ยอดไม่กระทบ ไม่มีทางได้ออฟชั่นพวกนี้แน่นอน เพราพมันคือ "ต้นทุน" ที่อยู่ตรงข้ามกับ "กำไร"
-
การที่มีระบบความปลอดภัยหรือตัวช่วยต่างๆ มากมายเป็นเรื่องดีครับ มีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น
แต่ในทางตรงกันข้าม ก็อาจให้คนเราประมาทมากขึ้นได้เช่นกันครับ มั่นใจในรถมากเกินไป
เห็นว่ารถมีของครบ เลยกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้น กล้าขับรถเร็วมากขึ้น กล้าเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ
-
จขกท. จะสื่อว่าศูนย์ที่เปิดให้ทดสอบเกี่ยวกับระบบ การช่วยด้านความปลอดภัย ณ ปัจจุบัน ยังมีแค่2เจ้าครับ
เจ้าอื่นต้องไปลองในงานmotorใหญ่ๆเอง ไม่มีศูนย์ให้ทดสอบระบบพวกนี้ตลอดปี ว่าระบบทำงานอย่างไร พอระบบทำงานต้องปฏิบัติตัวยังไงครับ
-
Toyota ในไทยก็เป็นผู้นำด้านระบบ safety ต่างๆมาเยอะล่ะครับ
- ถุงลมคู่หน้าเบรค ABS ในรุ่น Corolla Hitoq เป็นครั้งแรกในกลุ่ม C-seg
- ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัวใน Corolla Altis เป็นครั้งแรกสำหรับรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศ
- Camry ACV30 เป็นรถญี่ปุ่นประกอบในประเทศรุ่นแรกที่มีถุงลมมากกว่า2ใบ
- Camry ACV40 V6 เป็นรถประกอบในประเทศรุ่นแรกที่มีระบบ Active safety
ผลงานในอดีตที่ผ่านมาก็เยอะอยู่ครับ
-
จขกท. จะสื่อว่าศูนย์ที่เปิดให้ทดสอบเกี่ยวกับระบบ การช่วยด้านความปลอดภัย ณ ปัจจุบัน ยังมีแค่2เจ้าครับ
เจ้าอื่นต้องไปลองในงานmotorใหญ่ๆเอง ไม่มีศูนย์ให้ทดสอบระบบพวกนี้ตลอดปี ว่าระบบทำงานอย่างไร พอระบบทำงานต้องปฏิบัติตัวยังไงครับ
ใช่ครับ ตรงนั้นเลย
-
ผมเองเรีองความปลอดภัยเนียผมขอแค่เบรคABSก็พอแล้วครับ
-
ผมไม่ประมาท เอาเรนเจอร์3.2 มาเต็มๆมีทุกระบบ
-
ของผมตอนก่อนมีลูก airbag 2 ใบ abs ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากมีลูก รถคันต่อไประบบความปลอดภัยต้องจัดเต็ม อยากเลี้ยงเค้าไปนานๆๆ
-
ไม่รู้นะครับ ผมคนยุคใหม่ ของพวกกนี้ต้องพื้นฐานได้แล้ว
ถ้าไม่มีก็อย่าหวังจะได้เงิน
ส่วนการทดสอบของสองเจ้าก็เห็นด้วย จะได้รู้ไปเลยว่ามันสำคัญ
-
บางคนไม่ได้อยากได้ถุงลมข้าง เพียงเพราะอยากหุ้มเบาะหนัง
บางคนไม่อยากได้ถุงลมเยอะ กลับตอนซ่อมจะแพง
แต่ผมคนนึงละที่ไม่กลัวซ่อมแพง เพราะมีประกัน ถ้าซ่อมไม่คุ้มก็หาเงินซื้อใหม่
เพราะชีวิตของผมมีค่ากว่านั้น และที่สำคัญไม่มีอะไหล่เปลี่ยนเหมือนรถซะด้วยสิ
-
แน่นอนครับ การมีระบบอะไรมากๆ ก็มีโอกาสเสียมากกว่ารถโล้นๆ แต่บางครั้งเงินที่เราเพิ่มมาเพื่อระบบพวกนี้ มันคุ้มตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกแล้ว
-
จริงๆแล้วข้อมูลดรื่องความปลอดภัยเหล่านี้มีการนำเสนอมานานแล้ว สามารถหาดูได้ทั่วไปตามอินเตอีเน็ต มันไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่นะครับ เพียงแต่จขกท.ไม่ตระหนักใส่ใจเอง
ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยที่สุด จึงใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผมเลือกสนใจรถอยู่แค่ 3 ยี่ห้อ คือ Volvo, Nissan และ Chevloret
รถที่ความปลอดภัยดีต้องดูไปถึงโครงสร้างรถ เกรดเหล็กที่ใช้ ประสิทธิภาพของช่วงล่าง ไม่ใช่ดูแค่จำนวนถุงลม หรือระบบช่วยเหลือด้านการทรงตัวต่างๆ เช่น VSC VSA VDC DSC เหล่านี้
รถที่ช่วงล่างดีๆโอกาสเสียการทรงตัวยากมาก รถช่วงล่างห่วยๆที่เบรคแล้วแถลงข้างทาง สมควรที่จะมีระบบเหล่านี้
รถถุงลมเยอะๆไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป ถ้าโครงสร้างตัวรถไม่สามารถรับแรงกระแทก แรงอัดได้ดีพอ เช่นรถที่ใช้เหล็กเกรดต่ำ เมื่อชนประสานงารถก็อาจจะหดเข้ามาจนถึงห้องโดยสาร จนถุงลมระเบิดใส่หน้าผู้ขับขี่ก่อนที่จะเสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัส
ฉะนั้นรถที่จะปลอดภัยจริงต้องมาจากระบบโครงสร้างที่แข็งแกร่ง แล้วมีระบบช่วยเหลือต่างๆเข้ามาช่วยเสริม
ต้องพิจารณาหาข้อมูลที่รอบด้าน ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ผลิตที่จะให้แค่ข้อมูลบางด้านที่เป็นประโยชน์แก่ผลิตภัณฑ์ของตน
ส่วนตัวแล้วมองว่ารถที่เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยที่แท้จริง และผลิตในประเทศไทย คือ TEANA L33 ที่ออกมาในปี 2013 ที่ผ่านมาตรฐานการชนระดับ 5 ดาว และได้คะแนนเต็ม พร้อมถุงลม 6 ใบ VDC/TRC, ABS/EBD ในทุกรุ่นย่อย
นอกจากนั้นก็ยังมีระบบช่วยการเข้าโค้ง (ATC), Blind Spot Monitoring (BSM), Lane Departure Warning (LDW) ระบบกล้องรอบคัน (AVM) เซ็นเซอร์หน้า-หลัง (2.5XV)
ถ้าจะสนใจเรื่องความปลอดภัยต้องไปให้สุดครับ อย่าหลงคำโฆษณาชวนเชื่อ
http://www.headlightmag.com/iihs-study-lane-departure-warning-decrease-accident/
-
ขอบคุณผิดบริษัทละครับ คิดผิดคิดใหม่นะครับ
-
ผมว่าคุณขอบคุณผิดบริษัทแล้วครับ
รถรุ่นแรกที่เอาทุกระบบ abs ebd ba vsc trc มาใส่ในทุกร่นย่อย คือมาสด้า 3
มาสด้ามีคลิปวีดิโอแสดงการทำงานของระบบต่างๆนี้อัพโหลดบนยูทูป และเปิดอยู่ในทุกโชว์รูม
ณ ปี 2014 เป็นปีที่ผมซื้อรถพอดี ผมหารุ่นที่มี vsc ก่อน ซึ่งทุกยี่ห้อใส่มาให้ในรุ่นท็อป แต่ mazda3 skyactiv ใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นล่าง
ถ้าจำไม่ผิด ในปีเดียวกัน Honda เปิดตัว new city จัดเต็มระบบความปลอดภัย มี abs ba ebd vsc trc ทุกรุ่นย่อย รุ่นท็อปได้ 7 ใบอีกต่างหาก ตอนแรกผมจะเอารุ่นนี้แล้ว ราคา 7 แสนกลางๆ จะไปขอลองที่ศูนย์พนักงานไม่สนใจใยดีอะไรเลย เพิ่มเงินไม่ถึงแสนได้ mazda3 รุ่นล่าง
ในขณะนั้น b sec รุ่นอื่นๆ ถ้าเทียบกับ city นี่คือโล้นมากๆ ยิ่ง vios นี่คือ abs รุ่นล่างสุดไม่มีเลยมั้ง
เพราะฉะนั้นมี Mazda กับ Honda นี่แหละครับ ที่ควรขอบคุณ ทำให้ทุกยี่ห้ออัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาในทุกรุ่นย่อย
คงเข้าใจประเด็นผิดแล้ว
ในเมืองไทย มี2บริษัทที่เปิด driving center ให้ลูกค้ามาทดสอบการทำงานของระบบต่างๆที่ใส่มาในรถ (คงเว้นแอร์แบ็คแน่ๆ)
ยี่ห้ออื่น ไม่มีการลงทุนแบบนั้นให้ลูกค้าครับ
จขกท ขอบคุณเพราะได้ไปใช้บริการมาและเรียนรู้การทำงานของระบบ