Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กันยายน 06, 2017, 10:09:00
-
ประธาน Nissan ประเทศไทย อันตวน บาร์เตส ประกาศแผน
เตรียมนำ NEW LEAF รถยนต์ไฟฟ้า EV พร้อม Note e-POWER
มาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/nissan-thailand-bring-note-epower-leaf-to-sell/
(https://www.uppic.org/image-8ACF_59AF66C3.jpg) (https://www.uppic.org/share-8ACF_59AF66C3.html)
-
รถในฝันเลย Note E Power อย่าให้ราคาเกินล้านพอ
-
รถในฝันเลย Note E Power อย่าให้ราคาเกินล้านพอ
ภาษี 5% นี่ขอ 750,000 พอละครับ ถ้าล้านนึงต้อง Leaf
-
เห็น Spec คร่าวว่า Leaf ที่จะเข้ามาขายในไทยมี range ถึง 400 km แบบนี้เยี่ยมเลย
ถ้าเทียบกับข่าวการจะเปิดตัว Kia Soul แล้ว ในแง่ของ EV กินขาดด้วย Range ที่เยอะกว่ามาก
และผมก็เดานะ ราคา Leaf ก็น่าจะถูกกว่า Kia Soul อีกด้วย ให้ผมเดานะ Leaf ถ้าเอามาประกอบในไทยได้
ราคาขายอาจจะมี ใกล้ ล้านต้นเท่านั้น ซึ่งถูกกว่า Kia Soul เยอะเลย สำหรับ Leaf เทียบกับ Soul สำหรับเมืองไทย
ที่ด้อยกว่าคือ ความสูงของรถเท่านั้น เมืองไทยถนนห่วย แถมมีน้ำท่วมขังบ่อยๆเท่านี้น นอกนั้นในมุมมอง Leaf เหนือกว่าเยอะนะ
ผมขอทำนายนะถ้าเทียบยอดขาย 2 รุ่นนี้นะถ้ามีมาขายแต่ต้นปีพร้อมๆกันนะ ผมว่ายอดขายอาจต่างกันเป็น 100 เท่าได้นะถ้าเทียบยอดขายทั้งปีอ่ะ
ใช้ขนาดแบตแค่ 40 kWh จะทำ range ได้ถึง 400 km จริงเหรอ เพราะผมเคยอ่านเจอเขาบอกว่า EV ปกติต่อ 1kWh จะวิ่งไปได้ 5-8 km ขึ้นกับขนาดรถและประสิทธิภาพมอเตอร์ และการจูนระบบและเขียนโปรแกรม รวมถึงสภาพถนน และการจราจรนะครับ แต่สมมติถ้าได้แค่ เกิน 300 km ก็ถือว่าน่าสนมากแล้ว เพียงแต่ไปตจวลำบากมากขึ้นนะครับ แต่ถ้าได้ 400 km นี้ไปตจวเที่ยวแบบชิวๆได้เลย เพราะขับรถวันละ 350-400 km ผมว่าก็ถือว่าขนาดกำลังดีไม่เหนื่อยนะครับ ขับไป 350-400 km ก็แวะพักนอนคืนหนึ่งและไปต่อนะครับ
ส่วน e-power นี้ก็ถ้าเอามาลงใน body พวก Sub-Compact SUV, Compact SUV ด้วยนะผมว่ายอดขายกระจายแน่นอน เพียงแต่ยอดขายดีแต่ต้องเตรียมให้ความรู้ผู้้ใช้งานมากๆ เกี่ยวกับการใช้งานที่ถูกต้องและการดูแลรักษา
พร้อมทั้งเตรียมช่างและศูนย์บริการ ไว้บริการแก้ไขกรณีมีปัญหา หรือ ลูกค้างง เอ๋อๆ มากับระบบที่ไม่คุ้นเคยนะ งานนี้
นิสสันได้ส่วนแบ่งตลาดอาจเพิ่มขึ้นอีก 2-3% สบายๆนะครับ
แอบฝันนะ Nissan แบ่ง e-power ให้มิตซูใช้ และเอาไปลงใน Expander นะยอดขายกระจายอาจขาย Expander อาจมีทั้งปีเกิน 5-6000 คันได้เลยนะ
-
ขอบคุณครับ
ถ้า E-power ราคาบวกจาก note ปกติ ไปสัก แสน 1 อาจจะเป็นนิสสันคันแรกในบ้านครับ
-
อย่าลืมเอา Note e-power nismo มาด้วยนะคับ
-
เห็น Spec คร่าวว่า Leaf ที่จะเข้ามาขายในไทยมี range ถึง 400 km แบบนี้เยี่ยมเลย
ถ้าเทียบกับข่าวการจะเปิดตัว Kia Soul แล้ว ในแง่ของ EV กินขาดด้วย Range ที่เยอะกว่ามาก
และผมก็เดานะ ราคา Leaf ก็น่าจะถูกกว่า Kia Soul อีกด้วย ให้ผมเดานะ Leaf ถ้าเอามาประกอบในไทยได้
ราคาขายอาจจะมี ใกล้ ล้านต้นเท่านั้น ซึ่งถูกกว่า Kia Soul เยอะเลย สำหรับ Leaf เทียบกับ Soul สำหรับเมืองไทย
ที่ด้อยกว่าคือ ความสูงของรถเท่านั้น เมืองไทยถนนห่วย แถมมีน้ำท่วมขังบ่อยๆเท่านี้น นอกนั้นในมุมมอง Leaf เหนือกว่าเยอะนะ
ผมขอทำนายนะถ้าเทียบยอดขาย 2 รุ่นนี้นะถ้ามีมาขายแต่ต้นปีพร้อมๆกันนะ ผมว่ายอดขายอาจต่างกันเป็น 100 เท่าได้นะถ้าเทียบยอดขายทั้งปีอ่ะ
ส่วน e-power นี้ก็ถ้าเอามาลงใน body พวก Sub-Compact SUV, Compact SUV ด้วยนะผมว่ายอดขายกระจายแน่นอน เพียงแต่ยอดขายดีแต่ต้องเตรียมให้ความรู้ผู้้ใช้งานมากๆ เกี่ยวกับการใช้งานที่ถูกต้องและการดูแลรักษา
พร้อมทั้งเตรียมช่างและศูนย์บริการ ไว้บริการแก้ไขกรณีมีปัญหา หรือ ลูกค้างง เอ๋อๆ มากับระบบที่ไม่คุ้นเคยนะ งานนี้
นิสสันได้ส่วนแบ่งตลาดอาจเพิ่มขึ้นอีก 2-3% สบายๆนะครับ
แอบฝันนะ Nissan แบ่ง e-power ให้มิตซูใช้ และเอาไปลงใน Expander นะยอดขายกระจายอาจขาย Expander อาจมีทั้งปีเกิน 5-6000 คันได้เลยนะ
ตอนนี้ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 0% ครับ และเสียสรรพสามิต 2% ราคานั้นอยู่ที่เจ้าของแบรนด์จะตั้งล้วนๆ ครับ ทุนไม่ต่างกัน
เพียงแต่ Kia ความน่าเชื่อถือต่ำกว่า Nissan มากครับ ถึงศูนย์นิสสันจะแย่ยังไง มันก็ยังพอไปวัดไปวา หาได้ทั่วไปตามหัวเมือง แต่ Kia นี่มีน้อยมาก
-
เอาว่ะ ถ้าราคาไม่แรงน่าซื้อมาช่วยรักษ์โลกสักคัน
-
นิสซาน เริ่มมาถูกทางแล้ว
พัฒนาคุณภาพหลังการขายให้จงสำเร็จ
-
ในเมื่อ product line up ปัจจุบัน มันไม่ได้ใจลูกค้าคนไทย มันก็ต้องกระชากกระแสด้วย EV เอาให้สุดแบบนี้ ถ้าจะให้ดีขอ GTR มาขายด้วย
เอาใจช่วย Nissan ผ่านพ้นวิกฤติศรัทธรา ครั้งนี้
ปล.เมื่อวานอ่านกะทู้ข้างล่าง แล้วก็ถอนหายใจ เห้ออออ Nissan ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย....
-
อยากได้ลิฟ แต่ อีเพาเว้อ น่าจะเหมาะกว่า
-
เกียร์single speedนี่คือ อัตราทดค่าเดียวคงที่ตลอดงานเลยใช่ไหมครับ
เวลาขับมันจะทันใจไหมหว่า ในกรณีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเนี้ย
รถระดับกลาง-ล่างๆ นิสสันมักจะทำรถออกมาพอใช้งานทั่วไปได้ แต่ขับไม่ค่อยสนุกทุกทีเลย
-
เรื่อง LEAF นี่ต้องคุยกันยาวๆเลย โดยเฉพาะ เรื่องจุดชาร์จ จะเอายังไงครับ
คนมีบ้านก็อาจจะไม่เท่าไหร่ น่าจะสร้างจุดชาร์จได้ง่าย (แต่อย่าลืม ราคา ถ้าเป็นแสน ใครจะลงทุน อิอิ)
แต่คนที่อยู่คอนโด นี่จะทำไงกันดีกับจุดชาร์จ ปกติคอนโดก็ไม่ค่อยจะมีที่จอดกันแล้ว(กม.ควบคุมอาคารกำหนดจุดจอดแค่ร้อยละ 30เอง) จะทำไงกับจุดชาร์จ
จุดชาร์จสาธารณะ ใครจะลงทุน แล้วอยุ่ตรงไหน คนจะสนใจมาใช้กันรึป่าว
เรื่องสภาพถนนบ้านเรา โดยเฉพาะน้ำรอระบาย (555555)
ใครจะกล้าเอารถEV ลุยน้ำ คิดถึงจุดนี้กันรึยัง
กม.รถไฟฟ้า ถ้าจะใช้สิทธิ 2% ต้องตั้งรง.ประกอบในไทย (ประกอบรถยนต์ และรง.แบตเตอรี่)
ตกลงเอายังไงกับร.แบตเตอรี่ มีใครลงทุนตั้งรึยัง (กม.บอกว่า ต้องตั้งให้เสร็จใน 5 ปี)
สำหรับ LEAF ผมว่า รายละเอียดน่าจะอีกเยอะ
ส่วน Epower ต้องสร้างความมั่นใจให้คนไทยมากกว่านี้สำหรับการคิดจะซื้อรถไฮบริดสักคัน
เว้นแต่ว่าถ้าพี่โตขยับเบิกร่องไปก่อน โดยนำเอาไฮบริดมาขาย คนก็อาจจะทำใจยอมรับกันได้มากขึ้น
แต่้าขายอยู่เจ้าเดียว คงยากที่จะชักจูงคนไทยได้
คงต้องหาแคมเปญจูงใจอะไรที่น่าสนใจหนักๆหน่อย คนถึงจะกล้า
อาจจะเช่นประกาศไปเลยว่าแบตเตอรี่เป็นmantanance free หรือประกัน lifetime ไปเลย
เพราะถ้าตั้งรง.แบตในไทยแล้ว การกำจัด หรือรีไซเคิล น่าจะไม่ยากเท่าไหร่แล้วมั้ง ต้นทุนพวกนี้ก็จะถูกลง
-
เข้ามาสักต้นปี 2019 ก็ได้ครับผมส่ง note คันนี้หมดพอดี อยากขับรถ ev มานานแล้วมันคงจะเงียบน่าดูรอขับ new leaf 150 ม้าอยู่ครับ
-
รอเลยครับ.... อยากได้คันเล็กๆ เงียบๆไม่มีมลพิษ ประหยัดสุดๆไว้สำหรับส่งเด็กๆไปเรียนหนังสือ ไปทำกิจกรรมแถวๆบ้านอยู่พอดี :-* :-*
ต้นปีหน้าเลยนะ อย่านานจนลูกโตละกันค้าบบ นิสสัน :-* :-*
-
e power ถ้าจะให้ปังแบบขีดสุดแบบกลับมาเกิดใหม่ ควรมากับ new march , kick
ส่วนleafยังคิดหนังถ้าจะซื้อมาใช้เป็นรถคันเดียว
เวลาขับทางไกล สมมุติว่าออกไปพักผ่อนต่างจังหวัด ขาไปอาจไปถึงแต่ขากลับถ้ารีสอร์ทไม่มีที่ให้ชาจไฟคือจบ
สถานีชาจไฟที่ปั้มน้ำมันก็ไม่ค่อยจะมี
แล้วสงสัยอีกอย่าง E pedal ถ้าเกิดเผลอปล่อยคันเร่ง รถจะfull breakรึเปล่า
ปล.รอผลการใช้งานและปัญหาจริงสัก3ปี ถ้าดีคงต้องจัด 55
ปล2.นิสสันอย่าลืมแก้ปัญหาx trail hybridด้วย มันกระทบต่อความเชื่อมันในรถไฟฟ้าของนิสสันพอสมควร
-
ถ้านิสสันเอาEVมาใส่ใน Expender นี่ผมถอยคันนึงเลย
-
-ราคาไม่น่าเกิน 700,000 ครับ
-ไม่ควรทำออกมาเยอะๆ Segment
-ควรเพิ่มจุด Chart ตามห้าง และระวังคนขับ Leaf ทะเลาะกับ คนขับ Benz และ คนขับรถน้ำมัน ฯลฯ
-
Leaf ที่อเมริกา รุ่นต่ำสุด ราคาก็เกินล้านบาทแล้ว สมมติเอามาขายในไทย ไม่เก็บภาษีเลย
บวกค่าขนส่ง ค่าบริหารจัดการ รวมๆ แล้ว ยังไงๆ ก็ต้องขายสูงกว่าราคาในอเมริกา
ส่วน epower ดูจากกระแสในญี่ปุ่นแล้วไม่ธรรมดาเลย
ผมว่าเหมาะกับคนที่ใช้รถทุกวัน วันละ 30 - 100 km. จะคุ้มทุนเร็ว ถ้าเกินกว่านี้ ต้องดูค่า maintenance อีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าใช้รถเยอะ ค่า maintenance สูง บางทีก็ไม่คุ้ม
-
ต้องลุ้นว่ายอดจะแซงมิตซู ให้ได้ก่อนนะ แล้วค่อยคุยถึง โต กับ ฮอน
-
ขอบคุณครับ
ถ้า E-power ราคาบวกจาก note ปกติ ไปสัก แสน 1 อาจจะเป็นนิสสันคันแรกในบ้านครับ
ท่านคิดเหมือนผมเลย
-
สำหรับผมเฉยๆครับเพราะใช้รถไม่เยอะปีละแค่หมื่นโล ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาใช้รถแค่ห้าพันโลเอง อีกอย่างทรัพย์มีไม่มากถ้าซื้อรถคงไปยาริส
-
เกียร์single speedนี่คือ อัตราทดค่าเดียวคงที่ตลอดงานเลยใช่ไหมครับ
เวลาขับมันจะทันใจไหมหว่า ในกรณีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเนี้ย
รถระดับกลาง-ล่างๆ นิสสันมักจะทำรถออกมาพอใช้งานทั่วไปได้ แต่ขับไม่ค่อยสนุกทุกทีเลย
แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะมาทันทีไม่เหมือนเครื่องยนต์สันดาปครับ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะมีอาการรอรอบเหมือนเครื่องยนต์ทั่วๆไป
-
รถไฟฟ้า ev ถึงจะเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับบ้านเราแต่เมืองนอกเค้าก็ใช้กันมาตั้ง6-7ปีคงไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก ถ้ามาจริงก็ดีอยากลองอะไรใหม่ๆอยู่เหมือนกัน
-
เกียร์single speedนี่คือ อัตราทดค่าเดียวคงที่ตลอดงานเลยใช่ไหมครับ
เวลาขับมันจะทันใจไหมหว่า ในกรณีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเนี้ย
รถระดับกลาง-ล่างๆ นิสสันมักจะทำรถออกมาพอใช้งานทั่วไปได้ แต่ขับไม่ค่อยสนุกทุกทีเลย
เคยนั่ง LEAF ตัวปัจจุบัน ผลคือ
หลังจมเบาะ
มันคือเอามอเตอร์ปั่นล้อ ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมาทดรอบครับ เหลือเฟือ
-
เอาว่ะ ถ้าราคาไม่แรงน่าซื้อมาช่วยรักษ์โลกสักคัน
ฮ่าๆ คิดเหมือนกันครับ ขับมาทำงาน ชิลๆ
-
ตอนแรก ATIV เปิดตัวผมก็เริ่มคิดๆ เรื่องเอามาร์ชไปเทิร์นละ แต่เห็นคุณแมวดราม่าแนะนำกระทู้ด้านล่างว่า "จะเอาเปลี่ยนอีโคเฟส 1 ไปเป็นอีโคเฟส 1 อีกทำไม" ก็เริ่มลังเล
มาเจอข่าวนี้อีก เอาวะ ขับมาร์ชเก็บตังค์รอไปก่อนละกัน
-
Quick Charging ใช้เวลา 40 นาที (ชาร์จ 80%)
อย่างกะชาร์จมือถือพวกแอนดรอยเลย ไวมาก
-
ผมจะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย นิสสันบ้านเราศึกภายในยังไม่จบเลยแถมยังมีปัญหาสนิมของโน๊ตที่เป็นข่าวอยู่ด้วย
ถ้าโน๊ตราคาไม่ถึงCsegก็อาจรับไว้พิจารณา แต่ถ้ามาราคาแรงก็ไม่น่าคุ้มความเสี่ยงเท่าไหร่
-
ผมว่าที่น่าจะรีบทำคือเอา March ใหม่ มาขายนะ
step 2 ค่อยเป็น Note e-power
step 3 ค่อยเป็น leaf
ลำดับความสำคัญหน่อย เงินทำตลาดก็ไม่ค่อยมี ทำแล้วให้มันปังๆ คุ้มๆหน่อย นิสสัน
-
note e-power ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ คิดว่าคงพอขายได้ ราคาไม่แพงมาก คนอยากลองเยอะ
ชูเรื่องออกตัวเร็ว คนไทยชอบ
แต่ leaf ราคาแพง คงจะขายได้น้อยมาก หรือได้แต่ช่วงแรกๆ มาคิดราคาเล่น
30 kWh ถูกสุดที่ญี่ปุ่นขาย 3,197,880 yen หรือ 975159 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% = 1064289 บาท
30 kWh รุ่นแพงสุดยุ่นขาย 4,018,680 yen หรือ 1226040 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% =1338100 บาท
ต่อให้ gen 2 40 kWh ราคาเท่าเดิม ปีแรกผมว่าน่าจะขายได้ถึงเดือนละ200 คัน เพราะคนมีเงินอยากลอง
พอผ่านไป ถ้าไม่มีปัญหาใช้ดีน่าจะ 80คัน/เดือน แต่ถ้ามีปัญหาตาม style nissan ราคานี้น่าจะ 20-30 คัน/เดือน
-
ศูนย์ซ่อมนิสสันเขาจัดการปัญหาเดิมๆได้อยู่ตัวแล้วใช่ไหม ไม่กล้าเสี่ยง 8)
-
note e-power น่าสนครับราคาขอ750000ได้นะอะ
-
note e-power ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ คิดว่าคงพอขายได้ ราคาไม่แพงมาก คนอยากลองเยอะ
ชูเรื่องออกตัวเร็ว คนไทยชอบ
แต่ leaf ราคาแพง คงจะขายได้น้อยมาก หรือได้แต่ช่วงแรกๆ มาคิดราคาเล่น
30 kWh ถูกสุดที่ญี่ปุ่นขาย 3,197,880 yen หรือ 975159 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% = 1064289 บาท
30 kWh รุ่นแพงสุดยุ่นขาย 4,018,680 yen หรือ 1226040 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% =1338100 บาท
ต่อให้ gen 2 40 kWh ราคาเท่าเดิม ปีแรกผมว่าน่าจะขายได้ถึงเดือนละ200 คัน เพราะคนมีเงินอยากลอง
พอผ่านไป ถ้าไม่มีปัญหาใช้ดีน่าจะ 80คัน/เดือน แต่ถ้ามีปัญหาตาม style nissan ราคานี้น่าจะ 20-30 คัน/เดือน
leaf ชาร์จไฟครั้งนึง เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับ
แล้วการตั้งสถานี หรือจุดชาร์จมีค่าใช้จ่ายไหม ใครออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ครับ พอจะมีข้อมูลไหม ของทางญี่ปุ่น น่าจะมีบอกไว้
-
รอLeafเลยครับ
เห็นGen1 ยังทำใจพอใช้ได้ มาGen2 ดูหล่อไม่ต้อล้ำ(ลึกมากไปเหมือนGen1)ขึ้นอีกหน่อย
ถ้ามาเร็วพอ ก็เป็นผู้นำตลาดรถEVไป ขณะที่คู่แข่งยังไม่มี
จากปสก.เคยใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของจีนมาเกือบปี ส่วนที่ชอบ
1. เงียบดีมาก
2. ไม่เคยต้องซ่อมอะไรเลย การดูแลรักษาต่ำมาก (ต่อไปน่าจะมีเปลี่ยนผ้าเบรค, แบตฯ บ้าง อย่างอื่นนึกไม่ออก)
3. ซิ่งมากก็ไม่ได้ ก็เลยไม่ต้องซิ่งลดความห้าวไปเอง แต่ออกตัวแรงนี้ เพียงพอแล้ว
คือ จากรถแบบเดิมยิ่งเร่งยิ่งดังยิ่งมัน พอเจ้ารถไฟฟ้ามันเงียบไง อืม...ก็อยู่เงียบๆ ทำใจได้ก็..สุภาพต่อสังคมดี
กลายเป็นคนเรียบร้อย55555 จากนิสัยเดิมที่มักขับขี่แบบสวี๊ดสว๊าด
ฯลฯ
Leafมาเถอะ ตรูซื้อแน่
-
ตัว leaf นี่น่าสนใจสำหรับใช้ในเมืองนะครับ
สำหรับคนที่ใช้วันนึง 100-150 km ที่เหลือเอาไว้เผื่อรถติด
ว่าแต่มี powerbank ขายมั้ยครับเนี่ย :P
-
Honda City Hybrid 2017 ใหม่ขายที่มาเล อยู่ที่ 89,200 ริงกิต หรือราว 697,000 บาท
-
เกียร์single speedนี่คือ อัตราทดค่าเดียวคงที่ตลอดงานเลยใช่ไหมครับ
เวลาขับมันจะทันใจไหมหว่า ในกรณีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเนี้ย
รถระดับกลาง-ล่างๆ นิสสันมักจะทำรถออกมาพอใช้งานทั่วไปได้ แต่ขับไม่ค่อยสนุกทุกทีเลย
เอาแค่note e-power 110แรงม้า แรงบิด250 0-100 เจ็ดวิกว่าครับ
leaf 150แรงม้า แรงบิด 320
นึกถึงเครื่องดีเซลแบบไม่ต้องรอรอบครับ กดพุ่งๆ
-
ผมกลัวอย่างเดียวว่า พอขายดีในช่วงแรก สักพักกระแสหมดแล้วก็ทิ้งไป เหมือนกับหลายๆ รุ่นที่ นิสสันทำกันเป็นประจำ โดยไม่มีเยื่อใย :)
-
เกียร์single speedนี่คือ อัตราทดค่าเดียวคงที่ตลอดงานเลยใช่ไหมครับ
เวลาขับมันจะทันใจไหมหว่า ในกรณีใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเนี้ย
รถระดับกลาง-ล่างๆ นิสสันมักจะทำรถออกมาพอใช้งานทั่วไปได้ แต่ขับไม่ค่อยสนุกทุกทีเลย
0-100 8 วินาทีอะครับ แต่ top speed 150 km/h
สำหรับผมคิดว่าน่าจะสนุกแล้วครับ
-
Leaf น่าสนนะ..แต่กลัวราคามันจะทำให้คนคิดสิครับ "เอาส่วนต่างไปเติมน้ำมันดีกว่า"..55
-
..เชียร์ NEW LEAF 1เสียงครับ มาเลย นิสสันก็ขายLEAFมานานพอสมควรยอดขายก็ไม่น้อย ถึงไม่มากมาย แต่ก็มีข้อมูลข้อบกพร่องต่างๆจากผู้ใช้ มาปรับปรุงให้ดีขึ้นในgenใหม่นี้แน่นอน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับราคาเปิดตัวเหมือนกัน ถ้าราคาไม่สูงเกินรับรองขายดีแน่นอน ผมคนนึงคิดอยู่ในใจแล้วถ้าซื้อEVจะวางแผนชาร์ทไฟยังงัย LEAFตัวใหม่นี้วิ่งได้ระยะทางมากขึ้นการวางแผนชาร์ทไฟแต่ละครั้งก็ง่ายขึ้น เปิดตัวก่อนได้เปรียบคู่แข่งแน่นอน
-
ผมหวั่นๆ ใจ ว่ากระแสเชียร์ให้มา พอมา เห่อใหม่ๆ อยากดูอยากขับ เอาเข้าจริงมีแต่คนดูไม่มีคนซื้อ ส่วนใหญ่จะคิดในสมองรอให้คนอื่นเป็นหนูลองยาซะก่อน ถ้าดีก็อวย แต่ถ้าพลาดทั้งด้านตัวรถและบริการก็รอกระทีบซ้ำ ตามนิสัยคนไทย พอสักพักทรงๆ เงียบ และเลิกขาย ยิ่งแบรนด์ Nissan ก็ไม่ได้ติดอันดับเท่าไหร่ ลูกค้าเก่าหนีหมด(ผมด้วย) เป็น Toyota Honda ก็ว่าอย่าง ยิ่งถ้าเจอราคาไม่ถูกใจ กระหน่ำด่าอีก สรุปโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง ขายถูกก็ขาดทุนสู้ไม่ขายเลยดีกว่า พอมาขายมีแต่คนเชียร์ไม่มีคนซื้อ สงสารจัง Nissan เอ้ย!!!!1
-
รอชมผู้กล้า
-
ราคาแพง แต่รัฐจูงใจให้คนซื้อ EV เพราะเอาไปลดภาษีรายปี + ได้เงินคืน
พอคนใช้เยอะขึ้นค่อยปิดโครงการ
ถ้าไทยทำบ้าง คงจูงใจให้คนใช้รถ EV, hybrid มากขึ้น
https://www.edmunds.com/fuel-economy/the-ins-and-outs-of-electric-vehicle-tax-credits.html
https://cleanvehiclerebate.org/eng/about-cvrp
Leaf ที่อเมริกา รุ่นต่ำสุด ราคาก็เกินล้านบาทแล้ว สมมติเอามาขายในไทย ไม่เก็บภาษีเลย
บวกค่าขนส่ง ค่าบริหารจัดการ รวมๆ แล้ว ยังไงๆ ก็ต้องขายสูงกว่าราคาในอเมริกา
ส่วน epower ดูจากกระแสในญี่ปุ่นแล้วไม่ธรรมดาเลย
ผมว่าเหมาะกับคนที่ใช้รถทุกวัน วันละ 30 - 100 km. จะคุ้มทุนเร็ว ถ้าเกินกว่านี้ ต้องดูค่า maintenance อีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าใช้รถเยอะ ค่า maintenance สูง บางทีก็ไม่คุ้ม
-
เล่นข่าวขนาดนี้ แล้วโน้ตตัวปัจจุบันยิ่งไม่ต้องขาย
-
ผมหวั่นๆ ใจ ว่ากระแสเชียร์ให้มา พอมา เห่อใหม่ๆ อยากดูอยากขับ เอาเข้าจริงมีแต่คนดูไม่มีคนซื้อ ส่วนใหญ่จะคิดในสมองรอให้คนอื่นเป็นหนูลองยาซะก่อน ถ้าดีก็อวย แต่ถ้าพลาดทั้งด้านตัวรถและบริการก็รอกระทีบซ้ำ ตามนิสัยคนไทย พอสักพักทรงๆ เงียบ และเลิกขาย ยิ่งแบรนด์ Nissan ก็ไม่ได้ติดอันดับเท่าไหร่ ลูกค้าเก่าหนีหมด(ผมด้วย) เป็น Toyota Honda ก็ว่าอย่าง ยิ่งถ้าเจอราคาไม่ถูกใจ กระหน่ำด่าอีก สรุปโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง ขายถูกก็ขาดทุนสู้ไม่ขายเลยดีกว่า พอมาขายมีแต่คนเชียร์ไม่มีคนซื้อ สงสารจัง Nissan เอ้ย!!!!1
+1 เขียนถูกใจ
-
**ท่าน ลอร์ดดำ หายไปไหน ปกติต้องเข้ามาแล้วนะกระทู้แบบนี้ 8)
-
ถ้า Nissan เอา Leaf เข้าไทยเมื่อไหร่ ในตอนนั้นผมจะดูเรื่องระยะทางที่ผมต้องขับประจำวันกับสถานที่ชาร์จก่อนครับ
ถ้าไม่ติดปัญหาที่กล่าวมานี้ ผมคนนึงล่ะที่ซื้อ แต่ถ้าติดปัญหาที่กล่าวมา ผมไปจอง Note e-power ทันทีครับ
-
เจ้าleafนี่น่าสนใจมาก รอดูราคาเลย :)
ช่วงที่บ้านเราจุดชาร์จยังไม่เยอะ ออกตจว.คงต้องมีเครื่องปั่นไฟเล็กๆติดรถไว้
-
note e-power ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ คิดว่าคงพอขายได้ ราคาไม่แพงมาก คนอยากลองเยอะ
ชูเรื่องออกตัวเร็ว คนไทยชอบ
แต่ leaf ราคาแพง คงจะขายได้น้อยมาก หรือได้แต่ช่วงแรกๆ มาคิดราคาเล่น
30 kWh ถูกสุดที่ญี่ปุ่นขาย 3,197,880 yen หรือ 975159 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% = 1064289 บาท
30 kWh รุ่นแพงสุดยุ่นขาย 4,018,680 yen หรือ 1226040 บาท + ภาษีรถไฟฟ้า 2 % + vat 7% =1338100 บาท
ต่อให้ gen 2 40 kWh ราคาเท่าเดิม ปีแรกผมว่าน่าจะขายได้ถึงเดือนละ200 คัน เพราะคนมีเงินอยากลอง
พอผ่านไป ถ้าไม่มีปัญหาใช้ดีน่าจะ 80คัน/เดือน แต่ถ้ามีปัญหาตาม style nissan ราคานี้น่าจะ 20-30 คัน/เดือน
leaf ชาร์จไฟครั้งนึง เสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับ
แล้วการตั้งสถานี หรือจุดชาร์จมีค่าใช้จ่ายไหม ใครออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ครับ พอจะมีข้อมูลไหม ของทางญี่ปุ่น น่าจะมีบอกไว้
ค่าไฟฟ้าแต่ละประเทศอันตราไม่เท่ากัน ราคาเลยไม่เท่ากัน
แต่ในประเทศไทนตอบได้เลยครับว่า 40KW ชาตร์เต็มหนึ่งครั้งใช้เงิน 200บาท ส่วนค่าไฟฟ้าใครจ่ายก็ เก็บตามเจ้าของมิเตอร์ได้เลยครับ ญี่ปุ่นมีบอกแน่นอนแต่เป็นข้อมูลประเทศเขาซึ่งเอามาใช้กับเราไม่ได้เพราะค่าไฟฟ้าแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ตามขั้นต้นที่บอกไป
-
**ท่าน ลอร์ดดำ หายไปไหน ปกติต้องเข้ามาแล้วนะกระทู้แบบนี้ 8)
นั่นสิครับ คิดถึงเหมือนกัน เห็นหายไปหลังตั้งกระทู้ note vs ativ
-
น่าจะเอา E power มาสร้าง Brand ก่อนนะ แล้วค่อยลง leaf..ไหนจะสร้างจุดชาร์ตอีก
ตอนนี้ภาพ image ของ nissan ด้านไฟฟ้าคิดว่าดีไหม จากกรณี X trail hybrid
กลัวจะเหมือนทำกับ NISMO เปิดตัวกับอัมมลา จบ..ทั้ง image และ ยอดขาย
พอเอา leaf มาขาย ก็ทำ power bank ของแท้ขายด้วยนะ 2000000 mAh เป็นกระเป๋าเจมบอน
ชาร์ตไฟให้รถฉุกเฉินได้ หรือ ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถ ที่กันดาลได้ ....ฟิน
-
อย่าคาดหวังเรื่องราคาให้มากครับ กลัวเปิดตัวมาจะปิดกระทู้เร้วจนตามไม่ทัน
ราคารับประกันไม่เบาแน่นอน ไม่ใช้เอาราคาขายที่ญี่ปุ่นเทียบตรงๆ ได้นะครับ การเอารถเข้ามาขายมันมีต้นทุนแฝงมากมาย
ผมมีข้อสงสัยเรื่องความจุแบตเตอรี่ของคัว e power และข้อจำกัดการใช้งาน ซึ่งผมหาข้อมูลไม่ได้
แต่มาลองคิดดูกันนะครับว่า generator ที่มีขนาด 52 kW กับ DC มอเตอร์ทีมีขนาด 80 kW การใช้งานจะเป้นยังงัย
ถ้าวิ่งในเมือง เราสามารถใช้พลังงานเกิน 52 kW จนถึง 80 kW ได้ เพราะมีพลังงานบางส่วนในแบตเตอรี่มาช่วยจ่ายเสริม
แต่จะได้นานไม่นาน ก็ขึ้นกับขนาดความจุแบตเตอรี่ แต่ให้เดาว่าในเมืองคงไม่น่ามีปัญหาเพราะขับที่ความเร็วไม่สูงมาก ไม่น่าจะใช้
พลังงานสูงกว่า 52 kW เท่าไหร่ ต่างกับการวิ่งนอกเมือง ถ้าหากวิ่งเร็วๆ พลังงานที่ใช้ได้จะไม่สามารถใช้เกิน 52 kW
เพราะไม่มีการเบรค เพื่อเอาพลังงานจากการเบรคกลับมาชาร์จแบต นอกจากนี้อาจมีปัญหาการเร่งแซงอีก
เพราะแบตไม่มีหลังงานกักเก็บ เลยมองว่า e power ที่ไม่ใช่รถที่เหมาะกับการใช้งานหลากกลาย
จะกลายเป็นตัวปัญหาเมื่อมีคนซื้อไปใช้งาน ที่มีความต้องการหลากหลาย
ปล. แต่ก็ดูว่าข้อจำกัดดังกล่าว น่าจะมีไม่มาก เพราะเดาว่าที่ความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. รถน่าจะใช้พลังงานน้อยกว่า 52 kW
เนื่องจากรถไฟฟ้ามีการสูญเสียของระบบส่งกำลังน้อยมาก ไม่เหมือนเครื่องยนต์สันดาปที่มีชุดเพลา ชุดเฟืองเกียร์มาหน่วง
และหากคุม top speed ให้มีค่าต่ำๆ ก็เป็นได้ที่จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องนี้
-
อย่าคาดหวังเรื่องราคาให้มากครับ กลัวเปิดตัวมาจะปิดกระทู้เร้วจนตามไม่ทัน
ราคารับประกันไม่เบาแน่นอน ไม่ใช้เอาราคาขายที่ญี่ปุ่นเทียบตรงๆ ได้นะครับ การเอารถเข้ามาขายมันมีต้นทุนแฝงมากมาย
ผมมีข้อสงสัยเรื่องความจุแบตเตอรี่ของคัว e power และข้อจำกัดการใช้งาน ซึ่งผมหาข้อมูลไม่ได้
แต่มาลองคิดดูกันนะครับว่า generator ที่มีขนาด 52 kW กับ DC มอเตอร์ทีมีขนาด 80 kW การใช้งานจะเป้นยังงัย
ถ้าวิ่งในเมือง เราสามารถใช้พลังงานเกิน 52 kW จนถึง 80 kW ได้ เพราะมีพลังงานบางส่วนในแบตเตอรี่มาช่วยจ่ายเสริม
แต่จะได้นานไม่นาน ก็ขึ้นกับขนาดความจุแบตเตอรี่ แต่ให้เดาว่าในเมืองคงไม่น่ามีปัญหาเพราะขับที่ความเร็วไม่สูงมาก ไม่น่าจะใช้
พลังงานสูงกว่า 52 kW เท่าไหร่ ต่างกับการวิ่งนอกเมือง ถ้าหากวิ่งเร็วๆ พลังงานที่ใช้ได้จะไม่สามารถใช้เกิน 52 kW
เพราะไม่มีการเบรค เพื่อเอาพลังงานจากการเบรคกลับมาชาร์จแบต นอกจากนี้อาจมีปัญหาการเร่งแซงอีก
เพราะแบตไม่มีหลังงานกักเก็บ เลยมองว่า e power ที่ไม่ใช่รถที่เหมาะกับการใช้งานหลากกลาย
จะกลายเป็นตัวปัญหาเมื่อมีคนซื้อไปใช้งาน ที่มีความต้องการหลากหลาย
ปล. แต่ก็ดูว่าข้อจำกัดดังกล่าว น่าจะมีไม่มาก เพราะเดาว่าที่ความเร็วเดินทาง 100 กม./ชม. รถน่าจะใช้พลังงานน้อยกว่า 52 kW
เนื่องจากรถไฟฟ้ามีการสูญเสียของระบบส่งกำลังน้อยมาก ไม่เหมือนเครื่องยนต์สันดาปที่มีชุดเพลา ชุดเฟืองเกียร์มาหน่วง
และหากคุม top speed ให้มีค่าต่ำๆ ก็เป็นได้ที่จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องนี้
เหมาะกับผมมากเลยครับ ใช้ประจำวันในเมือง50กม. เดินทางไกลชอบขับฟังเพลงสบายๆ90-100 พลังที่เหลือเอาไว้ใช้เมื่อจำเป็น เช่นต้องเร่งแซงอย่างรวดเร็ว ถ้าเก็บเสียงช่วงล่างดีๆ ภานในห้องโดยสารเงียบๆฟินเลยครับ
-
ส่วนราคาอีเพาเว้อ ผมเดาว่าไม่เกิน750000
-
ถ้าเป็นผมนิสสัน อันดับแรก
Navara ต้องปรับโฉม แล้วเปิดตัว ต้องไม่เกินต้นปีหน้าหรือปลายปีนี้ อัดออฟชั่น เพิ่มความสูง เปลี่ยนล้อรูใหม่ เพิ่มระบบความปลอดภัย แล้วตั้งราคาไว้ ไม่เกิน 1.08ล้าน
2.ตามมาติดๆกับ เทียน่า ไมเนอร์เชนจ์ ขายได้ไม่ได้ ช่างแม่มมาก่อนเหอะ กระตุ้นตลาด เอาพวงมาลัย gtrมาใส่ซะ แล้วเพิ่มลายไม้เข้าไป ขายราคาไม่เกิน 1.6ล้านในรุ่นท็อป x-trail Mc มาหลังจากนี้
3.ตามมาติดๆอีกคันคือ Sylphy Mc รีบมา เปลี่ยนพวงมาลัยซะ
4.March almera ควรจะมาไม่เกินปลายปีหน้า เอามาสู้กะยาริส กะเอทีฟ ยังมีโอกาสมากกว่านี้
5.leav ค่อยมา ส่วน note e-power ผมไม่เห็นว่ามันจะดีสักเท่าไหร่เลย เห็น note ธรรมดาแล้วยอดยังแบบนี้ แล้ว e-powerถ้าตั้งมาแปดแสน ดับสนิท
ขณะเดียวทำการตลาดใหม่ ศูนย์บริการใหม่ ครองอันดับ3 ได้ไม่ยาก
แต่ถ้ายังยืนยัน ที่จะทำตามเดิม อันนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วครับ
ปล.รอท่านลอร์ดเหมือนกันครับ 😁😁😁
-
**ท่าน ลอร์ดดำ หายไปไหน ปกติต้องเข้ามาแล้วนะกระทู้แบบนี้ 8)
นั่นสิครับ คิดถึงเหมือนกัน เห็นหายไปหลังตั้งกระทู้ note vs ativ
นั่นสิ
-
**ท่าน ลอร์ดดำ หายไปไหน ปกติต้องเข้ามาแล้วนะกระทู้แบบนี้ 8)
นายคนนี้ปกติผมไม่เคยสนใจ แต่หลังๆแกโพส แต่ Ativ บ่อยๆ แทบวันเว้นวัน ร่ายยาว เหมือน PR ผมเลยขัดคอแกไปตรงจุด ผมเลยจับตาแกทุกโพสแต่นั้นมา แกเลยเพลาๆ ลง ตั้งแต่นั้นแกเลย เงียบลง ความผิดผมเอง สารภาพบาปแพพ :-[ :( ;)
-
ถ้าเป็นผมนิสสัน อันดับแรก
Navara ต้องปรับโฉม แล้วเปิดตัว ต้องไม่เกินต้นปีหน้าหรือปลายปีนี้ อัดออฟชั่น เพิ่มความสูง เปลี่ยนล้อรูใหม่ เพิ่มระบบความปลอดภัย แล้วตั้งราคาไว้ ไม่เกิน 1.08ล้าน
2.ตามมาติดๆกับ เทียน่า ไมเนอร์เชนจ์ ขายได้ไม่ได้ ช่างแม่มมาก่อนเหอะ กระตุ้นตลาด เอาพวงมาลัย gtrมาใส่ซะ แล้วเพิ่มลายไม้เข้าไป ขายราคาไม่เกิน 1.6ล้านในรุ่นท็อป x-trail Mc มาหลังจากนี้
3.ตามมาติดๆอีกคันคือ Sylphy Mc รีบมา เปลี่ยนพวงมาลัยซะ
4.March almera ควรจะมาไม่เกินปลายปีหน้า เอามาสู้กะยาริส กะเอทีฟ ยังมีโอกาสมากกว่านี้
5.leav ค่อยมา ส่วน note e-power ผมไม่เห็นว่ามันจะดีสักเท่าไหร่เลย เห็น note ธรรมดาแล้วยอดยังแบบนี้ แล้ว e-powerถ้าตั้งมาแปดแสน ดับสนิท
ขณะเดียวทำการตลาดใหม่ ศูนย์บริการใหม่ ครองอันดับ3 ได้ไม่ยาก
แต่ถ้ายังยืนยัน ที่จะทำตามเดิม อันนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วครับ
ปล.รอท่านลอร์ดเหมือนกันครับ 😁😁😁
โอ้โหนี่มันนักการตลาดมือทองของแท้ มาถึงขายดะๆๆๆไปเลยยย โอ้โหหหสุดยอมมากถ้าจ้างคุณไปเป็นผู้บริหารนี่ชนะโตโยต้าสบัยยยยแน่เบยครัชชชช
-
ถ้าเป็นผมนิสสัน อันดับแรก
Navara ต้องปรับโฉม แล้วเปิดตัว ต้องไม่เกินต้นปีหน้าหรือปลายปีนี้ อัดออฟชั่น เพิ่มความสูง เปลี่ยนล้อรูใหม่ เพิ่มระบบความปลอดภัย แล้วตั้งราคาไว้ ไม่เกิน 1.08ล้าน
2.ตามมาติดๆกับ เทียน่า ไมเนอร์เชนจ์ ขายได้ไม่ได้ ช่างแม่มมาก่อนเหอะ กระตุ้นตลาด เอาพวงมาลัย gtrมาใส่ซะ แล้วเพิ่มลายไม้เข้าไป ขายราคาไม่เกิน 1.6ล้านในรุ่นท็อป x-trail Mc มาหลังจากนี้
3.ตามมาติดๆอีกคันคือ Sylphy Mc รีบมา เปลี่ยนพวงมาลัยซะ
4.March almera ควรจะมาไม่เกินปลายปีหน้า เอามาสู้กะยาริส กะเอทีฟ ยังมีโอกาสมากกว่านี้
5.leav ค่อยมา ส่วน note e-power ผมไม่เห็นว่ามันจะดีสักเท่าไหร่เลย เห็น note ธรรมดาแล้วยอดยังแบบนี้ แล้ว e-powerถ้าตั้งมาแปดแสน ดับสนิท
ขณะเดียวทำการตลาดใหม่ ศูนย์บริการใหม่ ครองอันดับ3 ได้ไม่ยาก
แต่ถ้ายังยืนยัน ที่จะทำตามเดิม อันนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วครับ
ปล.รอท่านลอร์ดเหมือนกันครับ 😁😁😁
โอ้โหนี่มันนักการตลาดมือทองของแท้ มาถึงขายดะๆๆๆไปเลยยย โอ้โหหหสุดยอมมากถ้าจ้างคุณไปเป็นผู้บริหารนี่ชนะโตโยต้าสบัยยยยแน่เบยครัชชชช
เหมือนโดนประชดยังไงไม่รุ่สิ 5555 แผนระยะยาวครับผม ไม่ได้ ก็ทำ1ใน5ข้อ ก็ได้ครับ มันจะกระเตื้องกว่านี้หน่อย
-
ถ้าเป็นผมนิสสัน อันดับแรก
Navara ต้องปรับโฉม แล้วเปิดตัว ต้องไม่เกินต้นปีหน้าหรือปลายปีนี้ อัดออฟชั่น เพิ่มความสูง เปลี่ยนล้อรูใหม่ เพิ่มระบบความปลอดภัย แล้วตั้งราคาไว้ ไม่เกิน 1.08ล้าน
2.ตามมาติดๆกับ เทียน่า ไมเนอร์เชนจ์ ขายได้ไม่ได้ ช่างแม่มมาก่อนเหอะ กระตุ้นตลาด เอาพวงมาลัย gtrมาใส่ซะ แล้วเพิ่มลายไม้เข้าไป ขายราคาไม่เกิน 1.6ล้านในรุ่นท็อป x-trail Mc มาหลังจากนี้
3.ตามมาติดๆอีกคันคือ Sylphy Mc รีบมา เปลี่ยนพวงมาลัยซะ
4.March almera ควรจะมาไม่เกินปลายปีหน้า เอามาสู้กะยาริส กะเอทีฟ ยังมีโอกาสมากกว่านี้
5.leav ค่อยมา ส่วน note e-power ผมไม่เห็นว่ามันจะดีสักเท่าไหร่เลย เห็น note ธรรมดาแล้วยอดยังแบบนี้ แล้ว e-powerถ้าตั้งมาแปดแสน ดับสนิท
ขณะเดียวทำการตลาดใหม่ ศูนย์บริการใหม่ ครองอันดับ3 ได้ไม่ยาก
แต่ถ้ายังยืนยัน ที่จะทำตามเดิม อันนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วครับ
ปล.รอท่านลอร์ดเหมือนกันครับ 😁😁😁
เอาความจริงนะ แบบไม่มโน
1. ต้องรอ Navara SUV มาก่อนครับ คาดว่าจะมาแนวเดียวกับ Everest & Ranger คือเปิดตัว PPV ก่อนแล้วยกหน้า PPV มาใช้เป็นกระบะ MC เปลี่ยนรูน็อตผมบอกไม่มีทาง เผลอๆ next gen ที่ต้องทำกับมิตซู มิตซูจะโดนรูน็อตเบอร์นี้อีกคน
2. สวดมนต์ให้รุ่นใหม่มาเลยดีกว่าต้นปีหน้าก็เปิดตัวที่เมืองนอกแล้ว MC ตอนนี้ยิ่งทำให้ต้องลากอายุโฉมปัจจุบันมากขึ้นเข้าไปอีก
3. เหมือนกับเทียน่าตัวใหม่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว อัดแค่ถุงลม6ใบทุกรุ่นย่อยก็พอล่ะ สำหรับตลาดไทยขอเปิดตัวหลังเทียน่าทุกอย่างจะจบ
4. อัลเมร่าคงต้นปี 2019 เลย เชื่อว่าต้องเก็บข้อมูลเอทีฟไปพอสมควรก่อนจะปล่อยออกมา มาช้าไม่ว่าแต่ขอให้ดีละกัน ส่วนมาร์ชใหม่คิดว่ายากมันสวยจริงแต่แคบและอึดอัดกว่ารุ่นเดิมเยอะ แถมในต่างประเทศขายแพงกว่ารุ่นเดิมด้วย ถ้าขายราคาเท่า Mazda 2 กับ Note คิดว่าจะรอดมั้ยล่ะครับ
5. e-Power ใช้ข้าวของรวมกับ Note ตัวถังปกติซึ่งประกอบขายอยู่แล้วมีเหตุผลในการประกอบขายมากกว่า Leaf ซะอีกครับ ส่วน Leaf นี่ผมมองว่าเป็นการโปรโมทดักทางคู่แข่งไว้เลย ไหนๆก็มีผลิตภัณฑ์อยู่แล้วต่อไปรถยนต์ไฟฟ้าถ้าแบรนด์ญี่ปุ่นจะนึกถึงนิสสันเป็นรายแรก เหมือนโตโยต้าลงทุนเอาไฮบริดมาประกอบขายในไทยแบบจริงจังจนคนเชื่อว่าไฮบริดต้องโตโยต้าล่ะ สมัยนั้นผมเห็นนักเลงคีย์บอร์ดก็ด่ากันเปิงเหมือนกัน และถ้าทำตลาดนี้สำเร็จนิสสันจะกินได้สบายๆไปอีกพักใหญ่เพราะยังไม่มีใครพร้อมขายเหมือนตัวเอง ไม่นับเทสล่านะครับเพราะตลาดคนละกลุ่มกันเลย
-
ถ้าเป็นผมนิสสัน อันดับแรก
Navara ต้องปรับโฉม แล้วเปิดตัว ต้องไม่เกินต้นปีหน้าหรือปลายปีนี้ อัดออฟชั่น เพิ่มความสูง เปลี่ยนล้อรูใหม่ เพิ่มระบบความปลอดภัย แล้วตั้งราคาไว้ ไม่เกิน 1.08ล้าน
2.ตามมาติดๆกับ เทียน่า ไมเนอร์เชนจ์ ขายได้ไม่ได้ ช่างแม่มมาก่อนเหอะ กระตุ้นตลาด เอาพวงมาลัย gtrมาใส่ซะ แล้วเพิ่มลายไม้เข้าไป ขายราคาไม่เกิน 1.6ล้านในรุ่นท็อป x-trail Mc มาหลังจากนี้
3.ตามมาติดๆอีกคันคือ Sylphy Mc รีบมา เปลี่ยนพวงมาลัยซะ
4.March almera ควรจะมาไม่เกินปลายปีหน้า เอามาสู้กะยาริส กะเอทีฟ ยังมีโอกาสมากกว่านี้
5.leav ค่อยมา ส่วน note e-power ผมไม่เห็นว่ามันจะดีสักเท่าไหร่เลย เห็น note ธรรมดาแล้วยอดยังแบบนี้ แล้ว e-powerถ้าตั้งมาแปดแสน ดับสนิท
ขณะเดียวทำการตลาดใหม่ ศูนย์บริการใหม่ ครองอันดับ3 ได้ไม่ยาก
แต่ถ้ายังยืนยัน ที่จะทำตามเดิม อันนี้ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วครับ
ปล.รอท่านลอร์ดเหมือนกันครับ 😁😁😁
เอาความจริงนะ แบบไม่มโน
1. ต้องรอ Navara SUV มาก่อนครับ คาดว่าจะมาแนวเดียวกับ Everest & Ranger คือเปิดตัว PPV ก่อนแล้วยกหน้า PPV มาใช้เป็นกระบะ MC เปลี่ยนรูน็อตผมบอกไม่มีทาง เผลอๆ next gen ที่ต้องทำกับมิตซู มิตซูจะโดนรูน็อตเบอร์นี้อีกคน
2. สวดมนต์ให้รุ่นใหม่มาเลยดีกว่าต้นปีหน้าก็เปิดตัวที่เมืองนอกแล้ว MC ตอนนี้ยิ่งทำให้ต้องลากอายุโฉมปัจจุบันมากขึ้นเข้าไปอีก
3. เหมือนกับเทียน่าตัวใหม่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว อัดแค่ถุงลม6ใบทุกรุ่นย่อยก็พอล่ะ สำหรับตลาดไทยขอเปิดตัวหลังเทียน่าทุกอย่างจะจบ
4. อัลเมร่าคงต้นปี 2019 เลย เชื่อว่าต้องเก็บข้อมูลเอทีฟไปพอสมควรก่อนจะปล่อยออกมา มาช้าไม่ว่าแต่ขอให้ดีละกัน ส่วนมาร์ชใหม่คิดว่ายากมันสวยจริงแต่แคบและอึดอัดกว่ารุ่นเดิมเยอะ แถมในต่างประเทศขายแพงกว่ารุ่นเดิมด้วย ถ้าขายราคาเท่า Mazda 2 กับ Note คิดว่าจะรอดมั้ยล่ะครับ
5. e-Power ใช้ข้าวของรวมกับ Note ตัวถังปกติซึ่งประกอบขายอยู่แล้วมีเหตุผลในการประกอบขายมากกว่า Leaf ซะอีกครับ ส่วน Leaf นี่ผมมองว่าเป็นการโปรโมทดักทางคู่แข่งไว้เลย ไหนๆก็มีผลิตภัณฑ์อยู่แล้วต่อไปรถยนต์ไฟฟ้าถ้าแบรนด์ญี่ปุ่นจะนึกถึงนิสสันเป็นรายแรก เหมือนโตโยต้าลงทุนเอาไฮบริดมาประกอบขายในไทยแบบจริงจังจนคนเชื่อว่าไฮบริดต้องโตโยต้าล่ะ สมัยนั้นผมเห็นนักเลงคีย์บอร์ดก็ด่ากันเปิงเหมือนกัน และถ้าทำตลาดนี้สำเร็จนิสสันจะกินได้สบายๆไปอีกพักใหญ่เพราะยังไม่มีใครพร้อมขายเหมือนตัวเอง ไม่นับเทสล่านะครับเพราะตลาดคนละกลุ่มกันเลย
อ่อ ครับพี่ ผมเข้าใจแล้วครับ ผมแสดงความคิดเห็นน่ะครับ รับฟังทุกเม้น แลกเปลี่ยนกันครับ
-
ลีฟ ต้องเปิดหน้ารถชาตไฟหรอเนี่ย :-X :-X :-X