Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ กันยายน 08, 2017, 13:29:52
-
หากคุณ หรือญาติพี่น้อง หรือมีเพื่อนเป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ
อยากให้รางวัลตัวเองเป็นรถหรู
แต่มาฉุกคิดได้ว่า ไม่อยากให้เพื่อนบ้าน หรือคู่แข่งทางธุรกิจ
หรือแม้แต่ไม่อยากให้ลูกค้ามองว่าเรารวยเพราะขายของแพงเกินไป หรือขายดีจนคู่แข่งหมั่นไส้
และมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นเพราะเล็งเห็นความสำเร็จจากคุณ
คุณเลยคิดว่า เอาแบบนกน้อยทำรังแต่พอตัวดีกว่า ใช้รถตลาด หรูสุดก็คัมรี่แอคคอร์ด
ใครถามว่าธุรกิจเป็นไง ก็ตอบว่าเรื่อย ๆ ไม่ค่อยดีตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน บ้านก็ยังผ่อนอยู่เลย (แต่จริง ๆ ผ่อนหมดแล้ว)
เพื่อตัดปัญหาคู่แข่ง การเลียนแบบ การตัดราคา เพื่อนบ้านหมั่นไส้ เพราะธุรกิจของเราตันแล้ว ไม่มีปัญญาจะขยายแล้วตัดสินใจเอาแค่นี้แหละ
คุณเคยคิดแบบนี้บ้างไหม?
ซึ่งที่จริงมันก็สวนทางกับหลักการขยายธุรกิจ แต่กลับกัน มันสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ
สู้เอาเงินไปลงทุนแบบที่ญาติ ๆ เพื่อน ๆ ไม่รู้ไม่เห็น ถ้าเราไม่โม้ แบบหุ้น กองทุน อย่างนี้ดีกว่าไหม?
หนทางชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกัน จะว่าแปลกก็แปลกนะครับ เหมือนกับปลาในทะเล แต่ละชนิดก็มีวิถีชีวิตการเอาตัวรอดไปวัน ๆ
พิมพ์ไปพิมพ์มา ออกทะเลซะแล้วผมนิ
-
สำหรับผม ถ้าผมอยากได้แล้วมันไม่ทำให้ตัวเองและครอบครัวเดือดร้อน
ผมก็ซื้อนะ คนอื่น คู่แข่ง ข้างบ้านจะคิดยังไงผมไม่เคยแคร์ แล้วทำไมต้อง
แคร์ ผมไม่เข้าใจ คิดมากไปไหมครับ ใช้ชีวิตให้มันสบายๆดีกว่า บางทีคนอื่นเขา
อาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้ เรานั่นแหละคิดไปเอง
ผมว่าแปลกต่างหาก มีตังค์ซื้อของชิ้นนึงได้สบายๆ แต่กลับไม่ได้ซื้อ เพราะกลัวคนอื่นหมันใส้เนี่ย
-
ผมจะใช้ อ๊โคคาร์ คันใหญ่ๆหน่อยครับ ถ้ามีคนถามก็บอกธุรกิจไม่ค่อยดี เอาตังไปลงทุนอย่างอื่นเพิ่ม
-
ที่เจอมามีหลายแบบเลยครับ
- ทำงานประจำกลัวเจ้านายมองว่าให้เงินเดือนเยอะจนออกรถหรูได้
- เด็กจบใหม่พ่อแม่จะซื้อยุโรปตัวล่างให้ ไม่เอา เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน กลัวคนที่ทำงานบอกว่าเป็นลูกคุณหนู พาลจะโดนหมั่นไส้
- บางคนทำธุระกิจส่วนตัว ซื้อรถญี่ปุ่นตัวบนไว้สำหรับเดินทางไปหาลูกค้าโดยเฉพาะ เพราะกลัวลูกค้าจะมองว่าได้กำไรเยอะ
-
ก็มันเป็นค่านิยมและนิสัยขี้อิจฉาของคนในประเทศไทยงัยเลยเป็นอย่างนี้
ตรงข้างกับธุรกิจประกัน หรือ ขายตรง ต้องพยายามบอกคนอื่นว่ารวยมาก บางทีต้องยอมเช่ารถมาจอดโชว์
ปล. เคยไปฟังการทำธุรกิจขายตรงยี่ห้อหนึ่ง แต่ละคนรายได้หลักแสนกันหมด ไม่เข้าใจถ้ารวยจริง
ทำไมสภาพห้องที่นั่งฟังมันซอมซ่อขนาดนี้ รวยมากก็เจียดเศษเงินไปเช่าห้องประชุมในโรงแรมหรู มาเชื่อดเหยื่อโง่ๆ ดีกว่ามั้ย
-
ผมคนแบบ จขกท. ไม่ได้แปลกอะไร และน่าจะมีอยู่เยอะด้วยล่ะครับ
ซึ่งก็น่าจะดีสำหรับเค้าด้วย อย่างน้อยชีวิตก็มีความปลอดภัยทางด้านการเงินพอควรเลยล่ะ
ความสุขในการใช้เงินของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ถ้าเทียบระหว่าง คนเงินเยอะแต่มีความสุขกับการใช้เงินน้อย กับ คนเงินน้อยแต่มีความสุขกับการใช้เงินเยอะๆ
ผมเลือกแบบแรกครับ
-
ไม่สนใจครับ
มีเงินซื้อ ไม่เดือดร้อนใคร ไม่เดือดร้อนตัวเอง ผมก็ซื้อ
เพราะถ้าผมจะซื้อรถหรูราคาแพงขับ ผมคงมีฐานะมั่นคงแล้ว มีบ้านเป็นของตัวเอง มีธุรกิจหน้าที่การงานมั่นคง มีรายได้จากหลายๆทาง ฯลฯ
ใครมาถามเรื่องธุรกิจ ผมก็บอกเรื่อยๆ พอไปได้ อยู่ได้เรื่อยๆ (ก็มันเรื่อยๆจริงๆ ไม่ฟู่ฟ่า แต่ไม่ขาด)
ในเมื่อมีฐานะมั่นคง มีความสามารถจะซื้อรถหรูขับได้ ผมก็ซื้อนะ ผมไม่ได้มีศัตรู จะมีก็คู่แข่งทางธุรกิจบ้าง คนรอบข้างญาติพี่น้องจะอิจฉา จะหมันไส้ นั่นมันปัญหาของเขาไม่ใช่ปัญหาของผม ;D
จะซื้อก็คือพร้อมซื้อ อยากได้ คนรอบข้างผมไม่แคร์ (ยกเว้นคนในครอบครัว)
จะไม่ซื้อคือไม่อยากได้ ไม่ชอบ ไม่เอา
แต่เหตุผลตอนนี้ที่ไม่ซื้อคือ ไม่มีปัญญาซื้อครัช 555 ;D
-
ช่างมันอะ
ผมขับรถยุโรป ใครมายืมตัง ผมก็บอกไม่มีอะ
-
ผมเคยคิด เนื่องจากที่สังคมปกติในปัจจุบันนั้นบูชาวัตถุ แต่เป็นความคิดแบบที่แว่บขึ้นมาชั่ววูบในหัวเพียงเพื่อเป็นข้ออ้างล้วนๆ
แต่ความจริงคือเมื่อศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนดีแล้วพบว่าไม่เกี่ยวกับยี่ห้อและประเทศผู้ผลิตเลย ดูความต้องการในการใช้งานเป็นหลัก ไปทดลองทดสอบจนได้คันที่ใช่ จากนั้นดูในคลับว่ามีปัญหาประจำรุ่นอะไร ประเมินและเตรียมตัวให้พร้อมทั้งวิธีแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา แล้วจบครับ เหตุผลอื่นๆไม่นำมาคิดทั้งสิ้น
ผมมองรถว่าเป็นของใช้ ไม่ใช่เครื่องประดับ ไม่สนใจว่าคนจะคิดยังไงตราบใดที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่นไปเปลี่ยนท่อดังๆหรือเปลี่ยนไฟสว่างเกินหรือสีที่แสบตาผิดกฏหมายทำความรำคาญให้คนอื่น หรือแก้ไขดัดแปลงรถยนต์ทำให้ปล่อยมลพิษมากกว่าเดิม เป็นต้น
-
บ้านผมเป็นครับที่บ้านมีธุรกิจของตัวเอง ที่บ้านรถใช้เอง7คัน มีf10ที่ซื้อให้ป๊านั่งคันเดียวที่เป็นยุโรปนอกนั้นญี่ปุ่นหมด วันทำงานผมกับพี่ก็ขับกระบะ...ถ้า7คันซื้อเป็นยุโรปหมดก็ได้ครับไม่เดือดร้อนเลย แต่พอเริ่มมาทำงานเองมันถึงจุดที่ว่า "ช่างมันไม่จำเป็น มีอะไรก็ขับไป"
ประกอบกับว่าช่วงปี40ที่เศรษฐกิจล่มตอนนั้นผมประมาณ ป4ป5 ที่บ้านต้องขายทรัพย์สินออกไปมากเพื่อพยุงบริษัทไว้ ป๊าผมมีทั้ง เบนซ์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ขายหมด...มันทำให้ผมฝังใจแต่เด็กว่าประหยัดไว้ดีกว่าซื้อเท่าที่จำเป็น
ผู้ใหญ่ที่ครอบครัวผมนับถือ เค้าค้าขายเหล็กวันหนึ่งรายได้เกือบล้าน เค้ายังขับแค่คัมรี่นอนบ้านห้องแถว2ห้องอยู่เลยครับ
-
เรื่องพวกนี้ผมไม่ค่อยสนนะ แต่พอดีผมสายช่าง บู๊นิดๆลุยหน่อยๆ
ไม่อยากได้รถที่ทำอะไรเองไม่ค่อยได้ ความรู้สึกส่วนตัวที่มันดันเกิดกับรถยุโรป :-[
(หลายท่านอาจจะมองต่าง)
ปอลิง ผมเน้นบ้านมากกว่านะ ขอเป็นคนธรรมดาๆละกัน ...
-
ถ้าประกอบธุรกิจ ทำมาค้าขาย ต้องระวังครับ
อย่างเจ้านายเก่าผม เวลาไปเจอลูกค้าหรือติดต่อประมูล ยังต้องจอด benz s500 ไว้ที่ บริษัทแล้ว เอา camry ขับไปแทน
-
ถ้าประกอบธุรกิจ ทำมาค้าขาย ต้องระวังครับ
อย่างเจ้านายเก่าผม เวลาไปเจอลูกค้าหรือติดต่อประมูล ยังต้องจอด benz s500 ไว้ที่ บริษัทแล้ว เอา camry ขับไปแทน
+10
คนทำธุรกิจหลายคนทำแบบนี้
เราควรถ่อมตัว ดูผู้น้อยกว่าลูกค้า
และ
อย่างไปซื้อที่ดินอสังหา ต่อให้ซื้อแพงแค่ไหน ถ้าอยากต่อราคาง่าย
อย่าแต่งตัวหรู ขับรถหรูไปต่อราคา
-
.
.
เอาจริงๆในชีวิตผม
ผมไม่เคยเอาความคิดคนอื่นมาคิดให้เปลืองหัวเลย
ใครจะคิดอะไรก็เชิญเลย
-
ถ้าทำการค้ามีไว้ก็ไม่เสียหายครับ
ไปติดต่อลูกค้า ก็เอารถญี่ปุ่นไป เข้าไปในนามเซลล์
ไปติดต่อลูกค้าระดับองค์กรณ์ขนาดใหญ่ เอารถยุโรปไป เข้าไปในนามผู้บริหาร เพื่อความน่าเชื่อถือ
ไปติดต่อซัพพลายเออร์ ก็เอารถยุโรปไป เข้าไปในนามผู้บริหาร เพื่อความน่าเชื่อถือ
เวลาธนาคารมา ก็เอารถยุโรปจอดไว้ด้านหน้าเพื่อแสดงถึงฐานะการเงิน
เวลาลูกค้ารายใหญ่จากต่างประเทศมาก้เอารถยุโรปไปรับ เพื่อสร้างความรู้สึกดี
ของทุกอย่างมันมีมูลค่าของมัน อยู่ที่คุณเอามูลค่ามาใช้ประโยชน์ได้หรือป่าว
-
ญาติผมเป็นครับ ซื้อแต่ dsegment ใช้
แต่เปลี่ยนทุก 5-6ปีเลยครับ แกถือว่ารถใช้งานซื้อมาใช้ให้คุ้มแล้วเปลี่ยนออกเมื่อถึงกำหนด ตัวเขาเองใส่นาฬิกา seiko ซื้อใน marko ราคาพันกว่าบาท
เขาไม่ได้ตั้งใจทำตัวให้ดูจนน๊ะครับ
แต่เขาพอเพียงจริงๆ ชีวิตครอบครัวอยู่คอนโดแถวสาทร ส่งลูกๆเรียนอินเตอร์จบหมดแล้ว หากลูกอยากลองอะไรแกให้ซื้อให้ลองว่าจะชอบจริงไหม กับภรรยาได้ยินว่าให้บัตรเครดิตแบบไม่เคยถามว่าเอาไปซื้ออะไร
แต่เมื่อสามียังติดดิน ภรรยาก็ประหยัดครับ
-
ถ้าทำธุรกิจแล้วยังต้องคิดเยอะขนาดนี้ กับแค่เรื่องรถ ส่วนตัวผมว่ามันก็วุ่นวายมากไปไหมครับ
สังคมเราทุกวันนี้อยู่ยากขนาดนั้นเลยหรอ ปล่อยวางไปเถอะ ผมเอาที่ตัวเองสบายใจก็พอ
-
เคยใช้มุกนี้ แต่มันไม่ได้ผล
พวกที่ทำธุรกิจกับเรามักรู้ฐานะเราอยู่แล้ว
พนักงานแบงค์เขาก็รู้เงินฝากเรา คู่ค้า ต้นสังกัด ลูกหนี้เราก็เดายอดขายเราได้
บางคนเป็นหัวหน้าเก่าเคยรู้เงินเดือนเราก็มีคำนวณเงินเก็บเราเสร๋จสรรพ 401k เรามีเท่าไหร่หัวหน้ารู้ เพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกันก็รู้
แล้วจะซ่อนไปทำไม
พอขับอัลเมรา มาร์ช ก็หาว่าเรางก
พอขับ เบนซ์ทบีเอ็มก็หาว่าเราฟุ่มเฟือย
เอาที่สบายใจเหอะครับ สังคมมันมีหลากหลายเกินกว่าจะควบคุมครับ
-
อยากได้ ถ้าไม่เกินตัว หรือ ไม่เดือดร้อนใคร ก็ซื้อเลย ไม่เห็นต้องแคร์
มีแต่หลังๆ ใช้รถยุโรป จนที่บ้านขยาด ไม่อยากกลับไปใช้อีก ใช้รถญุี่ปุ่น แล้วเปลี่ยนบ่อยๆ ดีกว่าครับ
(เคยทำธุรกิจนำเข้าอะไหล่ใหม่ อุปกรณ์ตกแต่ง รถยุโรป อยู่นาน ก็ยังไม่อยากใช้แล้วเลย)
-
มุมมองของผม ณ. ตอนนี้ (ซึ่งก็ไม่เหมือนมุมมองเมื่อเกินสิบปีที่แล้ว)
เมื่อเกินสิบปีก่อน อยากได้พวกซีรี่ย์ 5 ซีรีย์ 7 อีคลาส เอสคลาส
แต่ตอนนี้ส่วนตัวผมเอง ไม่อยากใช้รถยุโรปราคาแพง
เพราะ(ส่วนใหญ่)ราคามันตกครับ ยิ่งแพงยิ่งตกเยอะ
เลยเอาเงินไปลงทุนแบบที่คุณ SNK vs Playmore บอก ;)
( แต่ก็ไม่ได้มองคนที่ซื้อรถยุโรปราคาแพงในทางที่ไม่ดีอย่างใด :) )
-
เห็นด้วยครับ
สมัยก่อนตอนทำงานใหม่ๆอยากได้รถครับ อยากได้มากเกินตัวก็จะเอา
แต่หลังทำงานมาซักพัก พอลองมองไป ออ คนที่ทำงานด้วยเขาต้องสู้มากกว่า เขาต้องเก็บมากกว่า เขาต้องดิ้นรนมากกว่า
มันมีตัวอย่างให้เห็นเยอะมากครับ ตั้งแต่ ดิ้นรนตอนนั้น แล้วก้เปรี้ยงไปเลย กับไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่หน้าใหญ่ๆ ตอนนั้น
สำหรับผม มีตังเยอะๆ ก็ไม่เอาไปลงกับรถเยอะๆ อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้ชอบมันขนาดนั้น
เพราะว่าผมรอได้ครับ เลยค่อยๆรอ และเลือกสิ่งที่ถูกใจที่สุดอ่ะครับ
-
ถ้าไม่นับบุคคลที่รู้จักเป็นวงกว้าง
ว่ารวยมากๆ อยู่แล้ว
หรือ คนที่รู้จักเราดี ว่าระดับไหน
ในสังคมทั่วไป
ทำตัวกระจอกไป
ก็ดูด้อย ไม่ได้รับการเกรงใจ
เป็นพลเมืองชั้นรอง
ทำตัวอวดรวยไป
คนก็ไม่ชอบสนทนาด้วย
อึดอัดและน่ารำคาญ
ไม่ได้แนะนำให้เอาความคิด
มุมมอง ของคนอื่นมาเป็นตัว
กำหนดวิถีชีวิต การใช้เงินเรา
แต่อยากให้สร้างภาพลักษณ์
ที่เหมาะสมกับตัวเรา สะท้อน
ให้คนอื่นเห็นเองดีกว่า
สุดท้าย ตอบคำถาม จขกท
ผมยินดีที่ให้คนอื่นเห็นว่า
ขับรถยุโรปแล้วดูดี มีฐานะ
เพราะถ้าไม่มีฐานะ คงซื้อไม่ไหว
ถ้ามีคนสนิทมายืมเงิน แล้วเค้า
เดือดร้อนจริงๆ ผมก็ให้นะ
ส่วนมากมักไม่ได้คืนด้วย ฮา
-
รวยจนอยู่ที่ทำตัว เรื่องฐานะมันปิดกันไม่ได้หรอกครับ จริงๆไม่รู้ว่าจะปิดไปทำไม มีก็บอกมี ไม่มีก็บอกไม่มีครับ จริงใจไปเลย
สำหรับเรื่องธุรกิจ มันก็เรื่องการบริหารแหละ เราทำให้ดีที่สุดก็พอ สินค้าและบริการที่ดี ไม่ว่าเราจะขับรถอะไรใครๆก็อยากทำเรา เรื่องหมั่นไส้ จุกจิกเล็กๆน้อยๆ มันไม่ใช่สิ่งที่มืออาชีพเค้าทำกันครับ
เรื่องรถ อยากได้ก็ซื้อ เหตุผลที่บอกไม่ซื้อมันก็ข้ออ้างเพราะไม่อยากซื้อแหละครับ
ขับรถราคาแพงก็มีข้อดีของมันก็มี เจอมากับตัว ไปประชุมในเมืองรีบๆหน่อยก็ไม่ต้องหาที่จอด พี่รปภ.เค้าเปิดที่ให้ เราก็ให้สินน้ำใจเค้าไป ขับบนถนนจะเปลี่ยนเลนคนก็เกรงใจให้เราไป เหลือเวลาไปเตรียมงานไปหาเงินเพิ่มได้อีก
-
เพื่อนผมเป็นเจ้าของร้านทองมีบ้านหลังละ 15 ล้าน แต่ขับนิสสันมาร์ชครับ มันบอกส่วนใหญ่ขับแค่ในตลาดจะเอารถแพงมาทำไมเปลืองน้ำมัน
-
ถ้าเป็นธุรกิจประจำตำบลมีผลทางธุรกิจครับ เพราะชาวบ้านชอบมาบอกว่าคนขายรวยเอาๆ ถ้าระดับจังหวัดไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร
-
แล้วแต่ความจำเป็น สถานการณ์ ความต้องการของแต่ละคน แต่คนส่วนมาก มักจะชอบนิยมให้ดูภูมิฐาน การใช้รถยุโรป ราคาแพงก็เป็นตัวแทนดังกล่าวได้ครับ ส่วนตัวแล้วเฉย ๆ ลูกน้องผมสาว ๆ หลายคนก็ขับ MB บ้าง CAMRY บ้าง ฯ มาทำงาน ก็เฉย ๆ กันครับ
-
เห็นด้วยกับ จขกท คับ
-
สถานการณ์ และสถานะทางสังคม ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
คุณรู้ดีที่สุด
สำหรับผมไม่เดือดร้อนใคร ก็จัดที่ชอบเลยครับ
ตอนผมซื้อยุโรปป้ายแดงครั้งแรกก็คงมีคนอิจฉามั้งครับเราไม่รู้
แต่เพื่อนที่สนิทส่วนใหญ่ก็ยินดีด้วยที่ให้รางวัลชีวิตตัวเอง
เพราะเค้ารู้ว่าผมทำงานหนักขนาดไหน วันละ 10-12 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด
ผมเองก็เป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจที่คนอื่นพูดซะด้วย ถ้าไม่ใช่พ่อ แม่ หรือ ภรรยา
แชร์ความคิดเฉยๆ นะครับ
คุณเลือกที่สบายใจ เลือกแล้วหลับได้สบาย อันนั้นละครับไม่มีถูกผิด
-
สำหรับผมไม่ค่อยคิดครับ เพราะไม่ได้ทำธุรกิจ 55
แต่พี่ชาย เวลาไปหาลูกค้า ต้องขับรถเซลล์ไป (ญี่ปุ่น) อ่อนน้อม ตามประสาคนไทย ไปลามาไหว้ ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน
ไม่งั้นโอกาสปิ๋วไม่ได้งานมีเยอะครับ
ยิ่งลูกค้าเป็นอาชีพเฉพาะทาง หรือข้าราชการระดับสูง .. ยิ่งต้องระวังไว้ตั้งแต่แรกดีกว่าครับ
-
เป็นครับ บ้านผมอยากได้Alphardกันมากๆ เพราะอยากได้รถใหญ่ๆนั่งสบายๆกัน แต่เอาเข้าจริงๆมันเกินหน้าเกินตาที่จะใช้งานในชีวิตประจำวัน
จะขับไปหาลูกค้าก็จะดูรวยเกินไป เพราะงานของบ้านผมหากินกับลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ถ้าใช้รถแพงไปมันก็จะดูเหมือนเป็นพวกฟันราคาจนรวยทั้งๆที่ปกติผมคิดราคาถูกกว่าคนอื่นๆในตลาดด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้เวลาต้องไปพบลูกค้า ผมยังต้องใช้แค่Tritonเลยครับ แล้วเอาJukeไว้วิ่งในวันที่ไม่เจอลูกค้า ถ้าเป็นรถหรูๆมีหวังได้จอดอยู่แต่ในโรงรถไม่ได้ใช้ไปไหนแน่นอน
-
เพิ่งซื้อหนังสือเล่มนึงมาอ่านครับ
"The subtle art of not giving a f*ck"
ได้แนวคิดบางอย่างที่น่าสนใจดีครับ
-
ที่จริงมันก็สวนทางกับหลักการขยายธุรกิจ แต่กลับกัน มันสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ
ไม่ซื้อรถหรู ผมว่ามันก็ไม่ได้สวนทางกับหลักขยายธุรกิจนี่ครับ
และการซื้อรถหรู (ถ้ามีเงินพอ) ก็ไม่ได้ขัดอะไรกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
*** หลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ "ไม่เกินตัว" แต่คนชอบตีความกันเป็น "สมถะ"
-
ที่จริงมันก็สวนทางกับหลักการขยายธุรกิจ แต่กลับกัน มันสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ
ไม่ซื้อรถหรู ผมว่ามันก็ไม่ได้สวนทางกับหลักขยายธุรกิจนี่ครับ
และการซื้อรถหรู (ถ้ามีเงินพอ) ก็ไม่ได้ขัดอะไรกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
*** หลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ "ไม่เกินตัว" แต่คนชอบตีความกันเป็น "สมถะ"
คือผมหมายความว่าธุรกิจผมตัน ๆ แล้ว ขยายสาขาก็ยาก สรุปว่าเอาแค่นี้พอไม่ดิ้นรนไขว่คว้าไงครับ
ไม่ได้หมายถึงซื้อรถครับ ขอโทษด้วย ผมเขียนสื่อความหมายไม่เก่งครับ
ถ้ากิจการผมใหญ่ ๆ มีลูกน้องเป็นสิบ ๆ ผมขับ E class สีดำเงาแว๊บ มันก็ดูสมฐานะครับ
แต่ผมเป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ค่อนข้างป๊อบปูล่าในแถว ๆ นั้น เป็นบ้านนอก ๆ หน่อย ผมก็กังวลครับ
เดี๋ยวนี้มีร้านเปิดเลียนแบบ ในละแวกผม 2 ร้านแล้ว แม้แต่ชื่อยังตั้งคล้าย ๆ ผมเลย
จนลูกค้าต้องถามผมว่า เปิดสาขาใหม่เหรอเฮีย? 8)
สุดท้ายไม่ว่าจะยังไง ผมก็ว่าจะถอย BRZ สีน้ำเงินอยู่ดี ซึ่งดูเป็นรถที่ไม่ค่อยเตะตาเท่าไหร่นะครับ
อิอิ ผมล้อเล่นครับ ใครถามผมก็จะบอกว่าอ๋อคันนี้เหรอ ไม่แพง สองล้านเอง ผมผ่อนเจ็ดปีน่ะ 5555
-
เดี๋ยวนี้มีร้านเปิดเลียนแบบ ในละแวกผม 2 ร้านแล้ว แม้แต่ชื่อยังตั้งคล้าย ๆ ผมเลย
จนลูกค้าต้องถามผมว่า เปิดสาขาใหม่เหรอเฮีย? 8)
" Imitation is the sincerest form of flattery "
-
ผมเข้าใจท่าน จขกท.นะครับ ผมก็พอมีกำลังจะซื้อรถยุโรปขับได้
ขนาดขับ Fortuner ไปหาลูกค้าเขายังมองเลยครับว่ามีเงิน คงจะกำไรดีสินะ
ถ้าขับ MB หรือ BM จะโดนมองขนาดไหนนะ
เวลาไปหาลูกค้า เราก็อยากให้เขามองว่าเราเคารพ เราให้เกียรตื เราอยู่ต่ำกว่าอย่างจริงใจมิใช่เสแสร้ง
แต่ถ้ารถเราแพงกว่ารถลูกค้า ก็อาจจะกลายเป็นว่าเราเสแสร้งได้ครับ
ผมเข้าใจนะครับว่าเงินเรา ความสุขของเรา แต่เราก็ต้องมองให้มุมของลูกค้าเราด้วยครับ
จะบอกว่าไม่แคร์ไม่ได้ครับ เพราะไม่มีลูกค้า เราก็อยู่ไม่ได้ จริงไหมครับ
ทุกวันนี้ก็พยายามขับ Jazz ไปหาลูกค้า เก็บ SUV กับ D-Segment ไว้ใช้ในครอบครัว เพื่อความสบายใจของทั้งเราและลูกค้า
8) 8) 8) 8) 8)
-
บางทีก็เจอนะครับ พวกคิดเยอะ แล้วมักจะคิดลบด้วย ถ้าเราเจอแบบนี้ บางทีก็ต้องยอม
หัวหน้าบางคน เห็นลูกน้องใช้ของดีกว่าตัวเอง ก็ไม่พอใจ หมั่นไส้อะไรต่างๆนานา
-
คนฐานะดีที่รู้จักหลายๆบ้าน เขาไม่หยุดอยู่เพียงรถญี่ปุ่นบ้านๆครับ
อย่างน้อยที่บ้านหลังที่สองที่สามจะต้องมีรถยุโรป เบนส์ บีเอ็ม เล็กซัส สิงสู่อยู่
อาจไม่ค่อยได้ใช้ทุกวัน ขับเล่นเสาร์อาทิตย์ เป็นต้น
เคยคิดเล่นๆว่า คนที่ออกแต่รถบ้านๆ ทั้งๆที่ฐานะดีมาก จะถอยสดรถยุโรปได้เจ็ดแปดคันชิวๆ
คฤหาสน์อยู่บนที่ดินหลายไร่ ตามต่างจังหวัด กำแพงบ้านสูงๆทึบๆ ติดฟิลม์รถมืดๆตันๆ
พวกเขาอาจตั้งใจปกปิดอะไรบางอย่างอาจทำธุระกิจที่ไม่ถูกกฎหมาย รับฟอกเงิน ก็เป็นด้ายยย
8) 8) 8)
-
ผมก็ชอบใช้ชีวิตตามแนวคิดนี้นะครับ แต่อาจจะเป็นรถญี่ปุ่นในคราบของ sleeper เพราะเวลาไปไหนมาไหนจะได้ดูกลมกลืนกับคนทั่วไป แล้วก็ไม่มีใครมาเพ่งเล็งสังเกตเรามากนัก อีกอย่างนึงผมเป็นคนชอบอวดจนครับ ฉะนั้นรถหรูราคาแพงคงไม่เหมาะกับผม ;D
-
เคยใช้มุกนี้ แต่มันไม่ได้ผล
พวกที่ทำธุรกิจกับเรามักรู้ฐานะเราอยู่แล้ว
พนักงานแบงค์เขาก็รู้เงินฝากเรา คู่ค้า ต้นสังกัด ลูกหนี้เราก็เดายอดขายเราได้
บางคนเป็นหัวหน้าเก่าเคยรู้เงินเดือนเราก็มีคำนวณเงินเก็บเราเสร๋จสรรพ 401k เรามีเท่าไหร่หัวหน้ารู้ เพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกันก็รู้
แล้วจะซ่อนไปทำไม
พอขับอัลเมรา มาร์ช ก็หาว่าเรางก
พอขับ เบนซ์ทบีเอ็มก็หาว่าเราฟุ่มเฟือย
เอาที่สบายใจเหอะครับ สังคมมันมีหลากหลายเกินกว่าจะควบคุมครับ
555 จริงเลย ผมใช้วีออสก็หาว่างก ครั้นจะซื้อบีเอ็ม เด๋วก็จะหาว่าเงินเดือนเยอะ (จริงๆคือไม่เยอะ แต่ขยันเก็บ)
คือวิธีการเก็บเงิน หาเงิน ใช้เงินของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
อย่าได้ไปแคร์เรื่องไร้สาระพวกนั้นเลย อยากใช้อะไรก็ใช้ คนอื่นจะเดือดร้อนก็เป็นเพราะความคิดไม่ดีของเค้าเอง
-
อันนี้แล้วแต่ความชอบความคิดครับ มีคนรู้จักผมหลายๆท่านเขามีเงินซื้อรถคันละ 10-20 ล้านได้สบายแต่ท่านก็ไม่ซื้อ
ท่านใช้แค่ Teana,Camry และก็รถตู้นำเข้าพี่โตแค่นั้นเอง ผมว่าเป็นที่ความชอบแล้วการให้ความสำคัญกับมันมากกว่า
มีเยอะครับคนรถที่ไม่ได้ให้ความสำคัยกับรถอะไรมากมาย แค่โอเคในความต้องการของเขาก็เพียงพอเขาก็มองว่าแค่รถณี่ปุ่นก็เพียงพอแล้ว
-
ไม่เคยนะครับ ผมชอบรถสมถรรณะดี มากกว่าสายตาคนอื่น
-
เป็นข้อคิดที่ดีครับ
คนเราสามารถทำในสิ่งที่ชอบได้ครับแต่ต้องยอมรับผลที่ตามมาเช่นกัน
บทเรียนจากคนใกล้ตัว เพื่อนผมเองไปเช่าพื้นที่เค้าขายของ แล้วสักพักไปออกรถยุโรปป้ายแดงตามฝัน (เจ้าของที่ขับรถญี่ปุ่นอายุจะ 20 ปี แต่เก็บเงินเก่งมีตังซื้อตึกไว้หลายห้อง ปล่อยเค้าเช่า)
ล่าสุด มันมาบ่นว่าโดนเจ้าของที่ขึ้นค่าเช่าอีกเดือนละ 6-7พัน สรุปมันจ่ายค่าเช่าแพงสุดในย่านนั้น
บางคนอาจมองว่าบังเอิญ
แต่ผมมองว่าเกี่ยว ข้อหาโดนหมั่นไส้ หรือว่าถูกมองว่ารวยแล้ว อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง
แต่ส่วนตัวผม ผมมองรถในแง่ของการใช้งานครับ ผมชอบที่จะมีรถหลายคัน แต่ละคันทำหน้าที่ต่างกันไป
- รถขับเล่น อันนี้สำหรับผมจะเป็น อิมเพรสซ่า เลกาซี่ (เก็บตัง+หารถไม่ได้สักที) อันนี้เอามันส์ครับ
- รถใช้ประจำวัน อันนี้จะเป็นพวก crossover ญี่ปุ่น ซ่อมง่ายๆ ไม่จุกจิก ไม่เสียในจังหวะที่ไม่ควรเสีย อันนี้ผมใช้ทุกงาน ไปทำงาน ไปเก็บตังลูกค้า (ลูกค้าไม่มองว่าจะไปฟันเค้า ) ไปหาเจ้าหนี้ ไปหาเจ้าของตึกที่ผมเช่าอยู่ (อันนี้จะพยายามทำตัวธรรมดาๆ เรียบๆครับ เดี๋ยวเค้าหาว่าขายดี ขึ้นค่าเช่า)
-ประเภทสุดท้าย ก็รถภาพลักษณ์ (สำหรับคนไทย) ผมก็จะมีเบนซ์เก่าของพ่อคันนึงครับ ยืมไปขับ เวลาจะไปหา ผู้จัดการแบงค์ พูดง่ายๆคือขับไปยืมตัง (กู้เงิน) เค้านั่นแหละ หรือเวลาจะดีลงานที่เราอยากให้เค้ามองว่าเราไม่น่าจะโกงเค้า
-
ช่างมันอะ
ผมขับรถยุโรป ใครมายืมตัง ผมก็บอกไม่มีอะ
+10
-
พ่อตาผม มีตังระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับคนใหนหมู่บ้าน มีที่นา 100 กว่าไร่
จะออกรถคันใหม่ สมัยนั้นปาเจโร่ลดราคากระหน่ำ ถ้าจำไม่ผิดจ่าจะเหลือหลักแสน ผมบอกให้เค้าซื้อรถดีนั่งได้ 7คน แต่เค้าบอกว่ารถมันดูแพงไปเดียวคนอื่นหาว่าทำอะไรไม่ดี เลยออกกระบะ 4 ประตูมาแทนครับ 8)
-
ผมเห็นหลายความเห็นแล้วผมก็ไม่เข้าใจนะ บางคนก็ว่า เพื่อนผม ยังงั้น ญาติผมรวยอย่างนี้ ขับแค่นี้พอ เอาว่า แล้วถ้าตัวคุณรวยแบบเขาละ จะทำอย่างเขาไหม รวยล้นหลามแต่ขับกระบะเงี้ย ชนทีนึง ตายคาที่ หรือซื้อรถหรูมาแต่ไม่กล้าขับ นี่มันทุกขลาภชัดๆ เอาว่า เอาตัวเองเป็นหลักก็พอ ถ้าซื้อแล้วไม่ได้เดือดร้อนซื้อไปเหอะ ไม่งั้น ชาตินี้ ทั้งชาติ จะได้ขับ benz bmw porsche บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็มานอนตายในโลงพร้อมกับตัวเลขในบัญชีให้ลูกหลาน ผมว่า ไม่รู้จักใช้เงินนะ