Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 09, 2017, 21:29:53
-
สวัสดีครับ
ผมอยากมาเล่าความรู้สึกและแลกเปลี่ยนกับทุกท่านครับว่า เคยรู้สึกกันไหมครับ ว่า
เราเคยตัดสินใจซื้อรถคันนึงไป เมื่อหลายๆ ปีก่อน แต่พอมาใช้จริงๆ มันเริ่มไม่ค่อยเข้ากับการใช้งานของเรา มีปัญหาจุกจิกกวนใจที่ทำให้เราต้องรถเสียกลางทาง จนในที่สุด ต้องขายและไปออกคันใหม่
ซึ่งถ้าในช่วงที่ซื้อรถคันก่อน ถ้าเราตัดสินใจเอารถอีกคันที่แพงกว่าแต่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา ป่านนี้ก็คงใช้งานไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเปลี่ยนซ้ำๆ
ของผมเป็นเคสที่ว่า ตอนนั้น ปี 2011 ผมมีตัวเลือกระหว่าง Vios 1.5J std AT ราคา 5.49 แสน กับ Nissan March 1.2E CVT ราคา 4.59 แสน ต่างกัน 9 หมื่นบาท
ในยุคนั้น ผมเคยใช้รถ sedan มาก่อน...เป็น Toyota AE100 พอเจ้า March มา ราคาถูกกว่า มีถุงลม วิทยุมี aux in ผมเลยตัดสินใจเอาเพราะมันคุ้มค่ามากในยุคนั้น โดยที่ผมลืมดูไปว่า การใช้งานของผมมาตลอด ผมต้องขนคนแก่ที่บ้าน (ตาและยาย) ไปหาหมอบ่อยครั้ง พอซื้อมาหลังจากแม่ผมเกษียณและขายรถคันเก่าไป ผมต้องขับรถพาแม่ไปโน่นนี่ ทำให้ไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร
มาตอนนี้ 6 ปีกว่าๆ ผมเลยตัดสินใจขายเจ้า March ไปและออก Yaris 4 ประตู sedan แทน เพราะจะได้ขนคนแก่ ขนแม่ ขนของได้มากขึ้น
ผมมานั่งมองย้อนไป ถ้า ณ วันนั้น ผมตัดสินใจ กัดฟันซื้อเจ้า Vios 1.5J std AT ที่มันไม่มีถุงลม กระจกปรับมือ ล้อกระทะ กระจกมองข้างสีดำ วิทยุเล่นได้แต่ CD ไม่มี port Aux in (คล้ายๆ Yaris J Eco แต่แพงกว่ามาก)
ณ วันนี้ ผมอาจจะไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนรถ ผมอาจจะใช้คันเดิมต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะ Vios เป็นรถที่ทนทาน ไม่มีอะไรซับซ้อน สามารถขนคนขนของตามที่ผมต้องการได้
...เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าการเลือกรถนี่สำคัญมากครับ...ผมรู้สึกว่า ถ้าผมเลือกรถจะเห็นแก่ราคาถูกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองที่การใช้สอยด้วย ซึ่ง ผมว่า sedan มันตอบโจทก์การใช้งานพื้นฐานได้ดีครับ หรือถ้าจะเป็น 5 ประตู ก็ต้องคันใหญ่หน่อยและพับเบาะแยกได้ จึงจะดี
เพื่อนๆ ท่านใดมีความรู้สึกแบบนี้บ้างครับ มาแชร์กันได้ครับ
---------------------------------------------------
https://www.autospinn.com/2010/03/%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%86%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1-toyota-vios-%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%AB/
ที่มาราคา Vios
http://www.headlightmag.com/%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-nissan1372/
ที่มาราคา March
-
มีแต่ที่ซื้อมาแล้วผิดหวังกับคาแรคเตอร์ครับคือขับไม่สนุกเลย รถคันนั้นคือaltis หน้าแบน 2.0v ซึ่งสุดท้ายก็ต้องส่งต่อให้พี่ไปใช้ต่อ
-
ผมไม่คิดเรื่องที่ผ่านมาแล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องรถ ณ เวลานั้นตอนที่เราซื้อมันดีที่สุดแล้ว ถ้าย้อนไปได้ซื้อรุ่นเดิมมั้ยก็คงซื้อ แต่ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะไม่ซื้อเพราะเงื่อนไขหลายอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ปล. วีออสรุ่นที่ว่าน่ะ ลุงผมมี 1.5 E รุ่นแรกอายุ9ขวบ วิ่ง4หมื่นโลแท้ คอมแอร์พังน็อคไปเรียบร้อยหมดไปเป็นหมื่นอยู่ อย่าคิดว่าโตโยต้ามันจะไม่มีอะไรพังครับ อย่าคาดหวังเยอะกับรถสมัยนี้อย่าเอาสามห่วงมาเป็นบรรทัดฐาน
-
เคยครับ ตอนนั้นไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย เข้าไปลองนั่งกว้างดี ราคาไม่แพง แล้วซื้อจบ ........... พอได้ใช้แล้วก็เศร้าหน่อยๆครับ แต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้จนอยากขายนะครับ
แต่พอเคยเจ็บแบบนี้มาก่อนคันต่อมาก็ทำการบ้านอย่างดีเลยครับ นอกจากศึกษาบนเนต ในคลับ แล้วก็ได้ไปลองขับจริงๆจังๆใช้ชีวิตกับรถที่กำลังจะซื้อเกือบๆ 10 ชั่วโมงจนแน่ใจ แล้วก็ได้รถที่ใช่สำหรับตัวเองและครอบครัวครับ แฮปปี้สุดๆ
-
ก็มีบ้างครับ สำหรับผมจะเป็นแนวเสียน้อยเสียยาก เาียมากเสียง่ายซะมากกว่า
เหมือนตอนแรกเลือกซื้อ Almera เพราะคิดว่าประหยัดน้ำมันและพื้นที่กว้างขวาง พอใข้จริงเบรคแข็ง ตัวถังโคลง ไม่เหมาะกับบูรพาวิถี แต่ย้อนกลับไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไรอยู่ดีเพราะตอนนั้นก็ไม่ได้หาเงินได้มาก Mazda2 Skyactiv ก็ยังไม่เข้า เลยซื้อเพิ่มเป็น Sylphy ปรากฏว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ต่างมาก
สุดท้ายมาจบที่ MG ก็โอเคเลย ใช้ 4-5 ปีเปลี่ยนที ยอมขาดทุนเยอะหน่อย แต่ไม่เสียดายเพราะใช้งานได้คุ้ม แบกคนแก่อ้วนๆ หนัก 70-90 นั่งหลังได้ 3 คน เดินทางไกลก็ไม่ค่อยโคลงมาก เจ้า MG5 นี่ก็ไม่ได้จุกจิกอะไร
แต่ถ้าผมกะใช้รถ 10-20 ปีแบบคุณคงไม่เลือกยี่ห้ออื่นนอกจากโตโยต้า เพราะใช้วีออสมามันก็ทนจริงๆ เครื่องกับเกียร์ไม่เคยมีปัญหาเลย 150,000 กม.
-
เคยครับ
ตอนนั้นเลือดระหว่าง Fiesta กับ City และ Vios
City โรงงานญี่ปุ่นโดนสึนามิ ขาดพาทร์ผลิตไม่ได้
Vios ก็ธรรมดา ไม่มีอะไรน่าดึงดูด
เห็น Fiesta ใหม่เปิดตัว ลองไปดู ไปลองขับ เออ ชอบ รถช่วงล่างดี อ็อพชั่นเยอะ ราคาไม่แพง เลยตัดสินใจซื้อ
3 ปีผ่านไปจำต้องชิงขายเพราะเจอปัญหาเยอะ เกียร์พัง พัดลมพังความร้อนขึ้น ท่อยางกรอบ ยางซับเสียงเสื่อม วิทยุพัง โชคดีขายได้ราคา พอปิดไฟแน๊นซ์ แต่เงินดาวน์คันใหม่ก็ต้องควักเงินเก็บออกมา
ถ้าตอนนั้นใจเย็นสักนิด หาข้อมูลสักหน่อย คิดเยอะๆว่าใช้รถมันต้องทนทาน ไว้ใจได้ ก็คงเลือก Vios และก็คงใช้ยาวต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้
ซื้อรถมันต้องดูองค์ประกอบหลายๆด้านจริงๆครับ โดยเฉพาะความไว้ใจได้ และบริการหลังการขาย
อย่าไปหวังว่ายี่ห้อรถมันจะง้อ ถึงอยู่ในประกันก็ตาม ถึงเวลามีปัญหา กลุ่มผู้ใช้ต้องรวมตัวกันประท้วง มันถึงจะยอมขยับตัวกัน
-
ไม่คิดเสียใจภายหลัง หลังตัดสินใจแล้วครับ
-
ผมไม่คิดเรื่องที่ผ่านมาแล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องรถ ณ เวลานั้นตอนที่เราซื้อมันดีที่สุดแล้ว ถ้าย้อนไปได้ซื้อรุ่นเดิมมั้ยก็คงซื้อ แต่ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะไม่ซื้อเพราะเงื่อนไขหลายอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ปล. วีออสรุ่นที่ว่าน่ะ ลุงผมมี 1.5 E รุ่นแรกอายุ9ขวบ วิ่ง4หมื่นโลแท้ คอมแอร์พังน็อคไปเรียบร้อยหมดไปเป็นหมื่นอยู่ อย่าคิดว่าโตโยต้ามันจะไม่มีอะไรพังครับ อย่าคาดหวังเยอะกับรถสมัยนี้อย่าเอาสามห่วงมาเป็นบรรทัดฐาน
ไม่หรอกครับ ความทนผมเข้าใจ ผมเคยใช้ altis หน้าหมู ปีที่ 8 ก็เริ่มมีอาการแล้วครับ
เพียงแต่มันไม่ไว้แบบ march เท่านั้นเองครับ
คันใหม่ผมกะใช้ 8 ปีครับ คงไม่ถึง 10 ปีครับ ช่วงนั้น Eco car P.2 ของ Toyota คงออกมาแล้วครับ
เคยครับ ตอนนั้นไม่ได้ทำการบ้านอะไรเลย เข้าไปลองนั่งกว้างดี ราคาไม่แพง แล้วซื้อจบ ........... พอได้ใช้แล้วก็เศร้าหน่อยๆครับ แต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้จนอยากขายนะครับ
แต่พอเคยเจ็บแบบนี้มาก่อนคันต่อมาก็ทำการบ้านอย่างดีเลยครับ นอกจากศึกษาบนเนต ในคลับ แล้วก็ได้ไปลองขับจริงๆจังๆใช้ชีวิตกับรถที่กำลังจะซื้อเกือบๆ 10 ชั่วโมงจนแน่ใจ แล้วก็ได้รถที่ใช่สำหรับตัวเองและครอบครัวครับ แฮปปี้สุดๆ
ปัญหาหลักของผม คือ คนโดยสารครับ
ตอนนั้นมัวแต่งกเรื่องตังเองครับ เลยออกรถมาแค่พอใช้ได้
ตอนนี้ ผมเลยรู้สึกว่า sedan เหมาะกับตัวเองที่สุดครับ
ก็มีบ้างครับ สำหรับผมจะเป็นแนวเสียน้อยเสียยาก เาียมากเสียง่ายซะมากกว่า
เหมือนตอนแรกเลือกซื้อ Almera เพราะคิดว่าประหยัดน้ำมันและพื้นที่กว้างขวาง พอใข้จริงเบรคแข็ง ตัวถังโคลง ไม่เหมาะกับบูรพาวิถี แต่ย้อนกลับไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไรอยู่ดีเพราะตอนนั้นก็ไม่ได้หาเงินได้มาก Mazda2 Skyactiv ก็ยังไม่เข้า เลยซื้อเพิ่มเป็น Sylphy ปรากฏว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ต่างมาก
สุดท้ายมาจบที่ MG ก็โอเคเลย ใช้ 4-5 ปีเปลี่ยนที ยอมขาดทุนเยอะหน่อย แต่ไม่เสียดายเพราะใช้งานได้คุ้ม แบกคนแก่อ้วนๆ หนัก 70-90 นั่งหลังได้ 3 คน เดินทางไกลก็ไม่ค่อยโคลงมาก เจ้า MG5 นี่ก็ไม่ได้จุกจิกอะไร
แต่ถ้าผมกะใช้รถ 10-20 ปีแบบคุณคงไม่เลือกยี่ห้ออื่นนอกจากโตโยต้า เพราะใช้วีออสมามันก็ทนจริงๆ เครื่องกับเกียร์ไม่เคยมีปัญหาเลย 150,000 กม.
ผมว่า almera เบรคแย่จริงๆ ครับ เคยขับไม่ ok เลย ยาวแต่ขับไม่ดี เทียบกับ march คนละเรื่องเลย
เคยครับ
ตอนนั้นเลือดระหว่าง Fiesta กับ City และ Vios
City โรงงานญี่ปุ่นโดนสึนามิ ขาดพาทร์ผลิตไม่ได้
Vios ก็ธรรมดา ไม่มีอะไรน่าดึงดูด
เห็น Fiesta ใหม่เปิดตัว ลองไปดู ไปลองขับ เออ ชอบ รถช่วงล่างดี อ็อพชั่นเยอะ ราคาไม่แพง เลยตัดสินใจซื้อ
3 ปีผ่านไปจำต้องชิงขายเพราะเจอปัญหาเยอะ เกียร์พัง พัดลมพังความร้อนขึ้น ท่อยางกรอบ ยางซับเสียงเสื่อม วิทยุพัง โชคดีขายได้ราคา พอปิดไฟแน๊นซ์ แต่เงินดาวน์คันใหม่ก็ต้องควักเงินเก็บออกมา
ถ้าตอนนั้นใจเย็นสักนิด หาข้อมูลสักหน่อย คิดเยอะๆว่าใช้รถมันต้องทนทาน ไว้ใจได้ ก็คงเลือก Vios และก็คงใช้ยาวต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้
ซื้อรถมันต้องดูองค์ประกอบหลายๆด้านจริงๆครับ โดยเฉพาะความไว้ใจได้ และบริการหลังการขาย
อย่าไปหวังว่ายี่ห้อรถมันจะง้อ ถึงอยู่ในประกันก็ตาม ถึงเวลามีปัญหา กลุ่มผู้ใช้ต้องรวมตัวกันประท้วง มันถึงจะยอมขยับตัวกัน
ผมก็คล้ายๆ กันครับ เพียงแต่ march ปัญหามันแก้ไขได้ และไม่แพง ราคาขายต่อก็สมเหตุผลกว่าที่คิดไว้มาก
จริงๆ ผมคำนวนแล้ว เจ้า march ราคาขายต่อดีกว่า vios อีกนะครับ
เทียบเป็น % Vios ตัว J ราคาตกกว่ามาก ทั้งที่ราคาต่างกัน 9 หมื่นบาท
พอมือสองห่างกัน 3-5 หมื่นเองครับ
-
ผมว่ามันต่างกรรมต่างวาระกันนะครับ ณ วันนั้นมันอาจจะดีที่สุดในตอนนั้นแล้วก็ได้ เหมือนเช่นตอนนี้ที่คุณเลือก Yaris 4 ประตู อีก 5 ปีข้างหน้าคุณอาจจะบอกว่าคุณคิดผิดที่ทำไมไม่กัดฟันไปออก Altis ซะเลยคันก็ใหญ่กว่านั่งสบายกว่า อย่างที่บอกว่ามันต่างกรรมต่างวาระอย่าไปคิดอะไรมากครับ
-
เอางี้สมมุติว่าคุณซื้อวีออส j ไม่มีถุงลมไปในตอนนั้น
ทีนี้เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ คุณก็จะกลับมาคิดอีกว่ารู้งี้ซื้อ march ดีกว่า
จะได้ผ่อนหนักเป็นเบา
สมัยนี้คนเราเป็นทุกข์เพราะความคิดครับ
เอาที่สบายใจหรือตัดสินใจในเงื่อนไขที่ดีที่สุดในเวลานั้นคือจบแล้วครับ
-
กำลังรู้สึก ณ ตอนนี้เลย ถ้าขยับไปซื้อ Forester XT แทน IP ซะตั้งแต่ตอนนั้นก็จบละ
IP แอบมีอึดอัดทุกครั้งที่ออก ตจว. จนต้องมาวางแผน รอ XT ตัวใหม่ Global Platform ปี 19
-
ผมว่าผมอาจจะรู้สึกตอน CX-5 ใหม่ออก ตามเหตุผลไป CR-V แต่หัวใจ CX-5 เท่านั้นน ;D
-
ก็นิดหน่อยครับกับ Camry 2.0G D4S อย่างอื่นชอบหมดครับเว้นแต่มันแรงน้อยไปนิดนึงเมื่อเทียบกับคันเก่า(Altis 1.8 CVT) แต่ถ้าย้อนไปได้ก็คิดหนักอยู่ดีกับตัว 2.5G ที่ค่าตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 2แสน เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มาแค่ จอ+เครื่อง+กระจกมองหลังตัดแสงauto
วิธีแก้ตอนนี้ก็คือขับให้มันเข้ากับบุคลิกรถครับ คือไปเรื่อยๆไหลยาวๆไม่ซอกแซกแบบคันเดิม ถ้าอยากแรงก็ต้องกดเยอะกว่าเก่าหน่อย คันต่อไปก็คงอีกหลายปีครับ รอดู Corolla gen ต่อไปที่เหมือนจะได้ใช้ TNGA ว่าช่วงล่างจะดีขึ้นแค่ไหน
-
เคสผม เมื่อ3 ปีที่แล้ว city 2014 ออกใหม่ สนใจที่จะซื้อเลย โดย ณ ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องรถอะไรเลยสักนิด ไม่สนใจเลยว่า เครื่องแรงแค่ไหน ช่วงล่าง เบรค น้ำหนักพวงมาลัย เป็นอย่างไร คิดว่าสวยก็จะซื้อ city sv ตัวท็อป แต่สุดท้ายเพื่อนยุ บอก เพิ่มอีกหน่อยได้ civic fb มีโปรผ่อน0%ด้วย เลย รับมาอยู่ที่บ้านแบบงงๆ ทั้งที่ไม่ได้มองcivicเลย ลองขับก็ไม่เคย ได้ลองอีกทีก็วันรับรถครับ
สรุป ถ้าผมย้อนเวลากลับไปเมื่อ3 ปีที่แล้วได้ผมคงเลือก ปฏิเสธ ทั้งcityและcivic คงหันไปหารถsuv มือ2 สักคันไว้ขนของ แบบ crv g3 และ รถดูคลาสลิคใช้ทั่วๆไปแบบ accord g7 ได้รถ2 คัน ตรงตามความต้องการของตัวเองเลยครับ รถมือ2 2 คัน ในงบราคาถ้าเทียบกันแล้วพอๆกับรถ c segment มือ1 1คัน สำหรับผมถือว่าคุ้มค่ามากกว่าครับ
-
ไม่คิดย้อนหลังครับ ... เพราะตัดสินใจไปแล้ว
:P :P :P
-
:-\
การย้อนเอาเรื่องที่กลับไปแก้ไขไม่ได้ มาทำให้
1. สนับสนุนความคิดทรง "รู้งี้แต่แรก"
2. ตอกย้ำตัวเองว่า "ไม่น่าโง่เลย"
สองอย่าง เป็นปัญหาสำคัญของกลุ่ม "รักพี่เสียดายน้อง" ในการใช้ชีวิต
ณ สถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ ก็คือต้องตัดสินใจ อะไรดีที่สุด ณ เวลานั้นก็ถูกใช้เป็นปัจจัยเหตุผล แค่นี้เอง
คนที่ฉลาดพอ เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง ก็คือคนที่ศึกษามาดีพอ
ยอมรับข้อจำกัด และยอมรับความเป็นจริงที่จะงอกหลังจากนั้น
เอาง่ายๆ ผมไม่เคยว่าเพื่อนที่ซื้อเฟียสต้าที่มีปัญหางอกเงยเลย มีแต่เห็นใจและพยายามหาศูนย์ดีๆ ให้
เพราะ ณ เวลาที่ตัดสินใจซื้อ มันก็น่าซื้อที่สุดจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าเกียร์มันจะพัง สายไฟมันจะเปราะล่ะ?
บางเรื่องเราไม่รู้ ณ เวลาที่เลือกว่า หลังจากนั้นไม่นาน มันจะมีสิ่งที่ดีกว่าโคตรๆ
มาให้เราเสียใจเล่นไหม แต่ถามว่าเราโง่ไหม ก็เปล่า?
บางทีคนที่พูดเหตุผลและความจริง ก็แค่สิ่งที่ ยอมรับ-ไม่ยอมรับ บางทีเราไม่ได้ยอมรับสิ่งเป็น ดี-ไม่ดี
แต่เราเป็น ถูกใจ-ไม่ถูกใจ ตรงจริต-ไม่ตรงจริต ถามว่าใครเป็นคนเซ็นสัญญา ก็เราแท้ๆ เซลส์เขาไม่ได้จับมือเซ็น
...แล้วจะไปคิดตอกย้ำตัวเองเล่นให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ
-
รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้ :D
ซื้อมาใช้ไม่เคยเสียดาย เลือกดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น
มีปัญหาก็แก้กันไป. ตอนนี้ปัญหารถผมค่อนข้างนิ่งแล้วพอใจระดับนึง
ถ้าเบื่อๆก็ขายเปลี่ยนใหม่ แต่โจทย์คันใหม่ก็คงเปลี่ยนไปตามอายุและความสามารถในการผ่อน
-
ก่อนหน้านี้พี่สาวซื้อ Focus MK3 5D พอเวลาไปเที่ยว ตจว มักจะบ่นกันเล็ก อึดอัด เบียดๆ นั้ง 5 คนเต็มคัน + สัมภาระเต็มหลังเวลาไปเที่ยวตจว. แต่ก็ขอบคุณเค้ามากเพราะทำให้เราไปเที่ยวได้หลายดอย หลายจังหวัด
ล่าสุดก็ขยับขยายเลย Fortuner ครับ จบเลยใหญ่ไปเลยทีเดียว
-
ไม่ครับ มีแต่.....ซื้อแล้ว.....ผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี.........
.
.
โหไม่น่าเลย ถ้ารู้ว่าจะมีรุ่นนี้แล้วมันจะออกมา รู้งี้รอดีกว่า
ตอนนั้นยังไม่รู้จัก HLM
-
อะไรที่ตัดสินใจไปแล้ว ทำไปแล้ว อากลับมาคิด มันไม่มีประโยชน์อะไร เว้นแต่ เป็นประสบการณ์
ตอนนี้ คุณก็ได้ประสพการณ์ ไงครับ
-
ถ้าซื้อด้วยเหตุผล ก็ไม่ต้องมา รู้อะไรไม่สู้เท่ารู้งี้ แต่ถ้าซื้อด้วยอารมณ์ พอรุ่นใหม่ออกมาถูกใจ จะเริ่มขัดใจกับคันเก่าทันที
-
ford fiesta
mitsu all new triton
-
น้องชาย ออกรถคันแรก VW VENTO ลดราคา ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เห็นราคาถูก ยี่ห้อดังซื้อเลย ผลคือ ซ่อมไม่จบ ค่าซ่อมแพงมาก สุดท้ายจำใจขาย จากนั้นก็ได้บทเรียน ก่อนจะซื้อรถ ทำการบ้านมา หลัง ๆ ก็ได้รถที่ถูกใจตลอด
ส่วนผมจะเอาความต้องการใช้ในปัจจุบันถึง 10 ปีข้างหน้า ว่าจำเป็นต้องใช้รถประเภทไหน ? มีแผนทำอะไร ?ฯลฯ ลักษณะรถที่คิดว่าตอบโจทย์ได้ดีหรือใกล้เคียงที่สุด เป็นรถประเภทไหน ? ในงบที่ตั้งไว้ในปัจจุบันมีรุ่นไหนบ้างที่ตอบโจทย์ได้ ทำการบ้าน หาข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย จุดบกพร่องของรุ่นนั้น พร้อมวิธีการแก้ไข ความคุ้มค่าของแต่ละตัวเลือก แล้วค่อยเลือก ถ้าเลือกแล้วก็เดินหน้า ไปขอลองขับ ลองใช้จริง ดูว่าตอบโจทย์จริงไหม
? ยอมรับตัวรถได้ไหม ? ถ้าได้ รอจังหวะที่เหมาะสม แล้วค่อยซื้อ เมื่อซื้อแล้ว ยอมรับข้อเสียพร้อมหาทางจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นครับ ( เตรียมอู่นอก+วิธีการดูแลให้พร้อมก่อนซื้อด้วย )
ตอนนี้เจอปัญหาใหม่คือ ปัจจัยภรรยา เป็นปัจจัยที่ยากจะควบคุม 55555
-
ตอบยากครับ เพราะเราไม่รู้ใจตัวเองในอนาคตครับ
-
เคยคันเดียวในชีวิตนี้
C207
คาดหวังมาก ผิดหวังมาก รถไม่ทนเลย
-
สำหรับผมไม่คิด...เพราะก่อนซื้อรถก็คิดมาเยอะแล้วถึงได้เลือกรถที่ใช่..และเหมาะกับรายได้ของตัวเอง
-
คล้ายๆซื้อเสื้อเผื่อโตไหมหว่า ถ้าจะซื้อรถให้รองรับการใช้งานในอนาคตของเรา 8)
จริงๆมันอยู่ที่งบการเงิน ณ ปัจจุบันนั่นแหละ
-
ไม่รู้สึกครับ เพราะเคารพในการตัดสินใจของตัวเอง รวมถึงยอมรับผลที่จะตามมาได้
ก่อนซี้อมาร์ชก็เล็งวีออสเห็บหมาตัว MC ไว้เหมือนกัน แต่เพราะบ้านก็มีอยู่แล้ว + ตอนนั้นเบื่อรถซีดาน อยากลองอะไรใหม่ๆ
ปัจจุบันหน้าที่การงานดีขึ้น ก็ขยับขยายเปลื่ยนรถกลับมาใช้อัลติสใหม่ ส่วนมาร์ชก็ขายไป
จริงๆมาร์ชก็ดีนะ ห้าปีไม่ได้ซ่อมอะไรเลย เช็คแค่ตามระยะเท่านั้น มีปัญหาก็เคลมกันไป หรืออาจเพราะเป็นล็อตกลางไม่มี iding stop ปัญหาส่วนใหญ่เลยถูกแก้ไปแล้ว
-
จริงๆอะไรที่เราๆทำไปแล้ว เราต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยครับ
เพราะเราย้อนกลับไปแก้ไม่ได้ คิดมากไปก็ไม่ดี แค่ระลึกถึงไว้เป็นประสบการณ์พอครับ
แต่ละขณะเราก็จะมีพื้นฐานความคิด จุดยืน แตกต่างกันแต่ละช่วง
ถ้าเราเปรียบเทียบกับคนอื่นมันก็คงไม่จบสิ้น
แม้ได้รถดีมา แต่ไม่แรงเท่าคนอื่น
แม้ได้รถแรงมา แต่ซ่อมแพงกว่าคนอื่น
แม้ได้รถซ่อมถูกกว่า แต่ขับขี่ไม่ดีเท่าคนอื่น
คือแบบว่า .. อันพระปฏิมายังราคิน รถวิ่งบนดินหรือจะสิ้นข้อนินทา ;D
----
เข้าเรื่อง
ของผมตอนนั้นชอบรถแนวๆแวกอน จะมี wish กับ น้องจูน ให้เลือก
มองจากไลฟ์สไตล์ที่"อยากจะ"ใช้เลยได้เลือกน้องจูนนี่หละ
บางทีก็ยังคิดว่าถ้าเลือก wish คงจะขับสนุกกว่านี้
แต่มารู้ค่าซ่อมที่คนเจอทั่วไปแล้ว อืมน้องจูนก็ดีแล้ว :-[
คือเรื่องพวกนี้มันไม่มีถูกผิดหรอกครับ
ต่างกรรม ต่างวาระ ไม่โดนเรื่องนี้ก็โดนเรื่องนั้นอยู่ดี
เมื่อก่อนอาจจะต้องเป๊ะๆ เดี๋ยวนี้ ประมาณๆนี้ก็โอเคน่า
พบว่าใช้ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก เพราะธรรมชาติมันไม่แน่นอน
รู้อะไรไม่สู้ .. รู้งี้...
-
เคยครับ
ประสบการณ์ที่ทำให้เสียเงินเสียทอง โดนใช่เหตุเลย
หลักๆ คือ ตอนเลือกรถ มีคนรอบข้าง "ออกความเห็น" เยอะไป หรือโดนคนรอบข้างกดดัน จนทำให้เราตัดสินใจได้จำกัด
ส่วนใหญ่จะเป็น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หนักสุดก็แฟน(เมีย)
พอได้รถมาแล้ว ขับๆไปก็อึดอัด จนสุดท้ายได้ขายขาดทุน ไปซื้อคันใหม่ที่เราชอบเองอยู่ดี
สรปุคือ ถ้าจะซื้อรถของตัวเอง ขับเอง ดูแลเอง ต้องตัดสินใจเองครับ เลือกบนพื้นฐานความชอบ และเหตุผลส่วนตัวของเรา ไม่งั้นจะเจ็บตัวครับ อันนี้ผมเตือนตัวเองไว้เลย
:'(
-
ผมเคยมีความคิดคล้ายๆกันนี้ครั้งนึง แต่เป็นการขายรถ
วันนั้น ถ้าไม่หูอื้อ ตามัว ขาดสติ คงไม่ขาย E30 Coupe คันแรก (รถคันแรกที่เป็นของตัวเองจริงๆ และอยู่ด้วยกันมานานและทำไปอย่างดี) ... หลายปีหลังจากนั้น การขายรถคันนั้นทำให้ผม "โหยหา" ความรู้สึกเดิมๆ จนเป็นที่มาของรถอีกหลายคันหลังจากนั้น ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ตอบสนองสิ่งที่ผม "โหยหา" ได้สักเท่าไหร่ จะว่าไปเหมือนจะ "เอาชนะ" ความรู้สึก "โหยหา" ที่ว่านั่นเสียจะมากกว่า
-
ปัจจุบัน รู้สึกว่าทำไมวันนั้นไม่เอา cx5 2.5 นะ :-\
-
รู้สึกว่าไม่น่าซื้อ city รุ่น V เลย น่าจะซื้อรุ่น top พับเบาะหลังได้ไปเลย
อึดอัดทุกครั้งที่ขนของ แต่ผมก็ยังไม่เปลี่ยนรถนะครับ จริงๆ ไปทำเบาะใหม่ก็ได้แต่ขี้เกียจ
-
คำถามนี้มันโดนใจจนอยากเล่ามั่ง
ตอนนั้นขายยารีสซื้อ E46 ด้วยอารมณ์ล้วนๆ ใครเตือนไม่ฟัง
ใช้ได้แปปเดียว สุดท้ายดีใจตอนได้ซื้อ กับตอนขายได้ 55
โมโหตัวเองจัด march มาใช้แบบไม่อายคนรอบข้างเพื่อเก็บเงินที่มันหายไปตอนใช้ E46
ใช้มาหลายปี มีลูกและเจอ ACV40 ราคาปฏิเสธไม่ลง เลยจบที่ตัวนี้
มานั่งคิด ถ้าไม่ขายยารีส ป่านนี้ก็ยังใช้อยู่ แต่งสนุก ไม่เสียเงินเปลี่ยนรถไปๆมาๆน่าจะเป็นล้านละ
-
ไม่เคยครับ ก็ใช้ๆไปครับ มีปัญหาก็แก้กันไปครับ
-
เล่ามั่ง ตอนผมจะออกรถคันแรกมอง yaris 1.2 กับ mazda3 ไว้ สรุปไปเอา yaris โดยที่ไม่ได้ลองขับ คือเดินไปจิ้มซื้อเลย เพราะตอนนั้นตั้งโจทย์ว่าอยากซื้อรถให้ถูกที่สุด ผ่อนต่อเดือนสบายๆ ทั้งที่ใจจริงอยากได้ mazda3 มากแต่ราคามันเกือบล้านกลัวผ่อนไม่ไหว มาใช้จริงทั้งอืดทั้งกินน้ำมัน วิ่ง ตจว.นั่งไปหลายๆคนวิ่งแทบไม่ออก สุดท้ายปิดตัวเองด้วยการไปแหกโค้งที่ ตจว.ที่ความเร็วไม่ได้เร็วมาก หลังจากนั้นขายดาวน์เพื่อนไป (ไม่เจ็บตัวเท่าไหร่) คือมันไม่มั่นใจในตัวรถแล้ว หลังจากนั้นไปออก mazda 3 มือสองมา ไมล์แค่ 7,000 สภาพป้ายแดงมาใช้ แฮปปี้ยาวๆ 555
-
ย้อนกลับไป ก็คิดว่าทำไมไม่เอา CX-3 มาน้า! ตอนนั้นออก HRV มาเผื่อคนนั่งหลัง แต่สุดท้ายก็นั่ง 2 คน ตลอด :-[ :-\
-
มีเล็กๆน้อยๆครับ แต่เป็นแค่การเปลี่ยนรุ่นย่อยนิดๆหน่อยๆครับ
ตอนออก Jazz GK สีเหลือง อยากได้มาก ด้วยความเป็นรถคันแรก ซึ่งรอคอยมานาน เจอศูนย์ที่มีรถก็จองทัน SV สีเหลือง คิดไปคิดมาทำไมไม่ลองหาอีกหน่อยอาจจะเจอ SV+ สีเหลือง ก็ได้ แต่ก็หายากเหลือเกิน
-
ผมมาจากครอบครัวที่บ้านไม่ค่อยมีเงินมากนัก การซื้ออะไรแต่ละทีโดยเฉพาะซื้อรถ มักจะคิดแล้วคิดอีก อย่างรถนี่คิดนานหลายปีเลยกว่าจะซื้ออกมาได้คันนึง เพราะฉะนั้นผมซื้อจึงไตร่ตรองดีแล้วไม่มีการซื้อแบบขอไปที ใช้แป๊บเดียว 4-5 ปีขายออกไม่ใช่แน่นอน เพราะอย่างนั้นการซื้อแต่ละครั้งต้องเลือกให้ดีที่สุด
-
เสียดายนี่ไม่มี
แต่โคตรคุ้ม รู้สึกดีกว่าที่คิดนี่มีก็เจ้า HRV นี่แหละ
ขับโคตรสนุก วิ่งไหลๆ ช่วงล่างส่วนตัวคิดว่าเฟิร์มออกแนวกระด้าง ซิ่งมันส์ สวยลงตัวล้อ 17" ไม่ต้องทำไรเพิ่มแล้ว
อเนกประสงค์ ขนของได้เยอะ ไฟหน้า LED ครบ เด็ดสุดคือเบรคไฟฟ้าพร้อม Auto Hold โคตรฟิน
0-100 10 วินิดๆ / 80-120 7 วินิดๆ(โคตรเร็ว)
หาแนวรถที่ตัวเองชอบให้เจอครับ พยายามเล่นเจ้าตลาดถ้าเป็นไปได้(ยกเว้นใจรักยี่ห้ออื่นจริงๆ) จะลดอาการปวดหัวได้ขึ้นอีกเยอะ...
-
จากประสบการณ์
- อัลติส 1.6G ปี2009 คิดไม่ผิดที่ออกรุ่นนี้ แต่คิดผิดที่เลือกรุ่นย่อยนี้ แทนที่จะเอา 1.8E
เพราะวิ่งทางไกล ขึ้นเขาตลอดการใช้งานของคันนี้เพียงเพราะผ่อนต่างกันเดือนล่ะ 800 บาท เพราะเริ่มทำงานใหม่ กังวล คชจ.
- vigo smartcab 2.5e ตัวเตี้ย ปี2010 เลือกรุ่นผิดน่าจะออกรุ่น G เพราะมีเบรค ABS และถุงลมคู่
- city 1.5V 2015 คุณแม่เป็นคนเลือกรุ่นย่อย ตัวเค้าเสียใจ คิดว่าน่าจะออกรุ่นที่มีพับไฟฟ้า ติดแค่นี้อย่างเดียว ส่วนตัวผมเสียใจที่เลือกฮอนด้า
ตรงการประกอบไม่ดีเลยจริงๆ เสียงก๊อกแก๊กมาเยอะเลย แต่ด้านอื่นไม่มีอะไรกวนใจ
- altis esport option 2017 ยังไม่รู้สึกว่าคิดผิดอะไร ประทับใจครับ