Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oak_s ที่ กันยายน 12, 2017, 19:48:22
-
Mazda 3 มาสด้า 3 รุ่น S ราคา 988,000.
Mazda 3 Sports รุ่น SP ราคา 1,119,000.
สิ่งที่ได้เพิ่มในรุ่น SP คือ
อุปกรณ์ภายใน
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift)
ระบบเครื่องเสียง
ระบบนำทาง Navigator
ระบบความปลอดภัย
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
กระจกมองหลังปรับความสว่างอัตโนมัติ
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS พร้อมม่านถุงลมนิรภัย
หลักๆเป็นพวกระบบความปลอดภัยที่มากกว่า ส่วนตัว Paddle Shift กับ Navigator สำหรับผมไม่จำเป็นเท่าไหร แต่อยากได้ความเห็นจากหลายๆท่านว่าระบบความปลอดภัยที่ได้มาคุ้มค่ามั้ยครับ
แล้ว Mazda3 ปัจจุบัน ซื้อเป็นเงินสดควรได้ส่วนลดเท่าไหรครับ
-
SPสิครับ จบกว่า
-
SP สิครับ ครบ จบกว่า เทียบส่วนต่างแล้วก็สมเหตุสมผลครับ
-
SP
-
ตอบ จขกท
เอา SP จบกว่า แต่ระวังจะติดใจ Paddle shipนะครับ ผมเอาไว้สาดโค้ง ได้เรื่องengine brakeเข้ามาช่วย
ใช้เรื่อยๆจะติดใจครับ ไม่เบื่อเวลาขับยาวๆ
-
ตอบ จขกท
เอา SP จบกว่า แต่ระวังจะติดใจ Paddle shipนะครับ ผมเอาไว้สาดโค้ง ได้เรื่องengine brakeเข้ามาช่วย
ใช้เรื่อยๆจะติดใจครับ ไม่เบื่อเวลาขับยาวๆ
+1111111111111 นึกว่ามีผมคิดไปเองคนเดียว (555+ ;D)
-
ต้องถามกลับว่า 1.เคยใช้เทคโนโลยีพวกนี้ไหมครับ 2.แล้วเป็นคนชอบศึกษาการใช้งานระบบพวกนี้ไหม
ถ้าข้อ 1 ตอบว่าเคย แล้วพอใจกับเทคโนโลยีพวกนี้ ก็จัด SP ไปเลยครับ
ถ้าข้อ 1 ตอบว่าไม่เคยก็ไปดูข้อ 2 ต่อ ถ้าข้อ 2 ตอบว่าไม่สนใจที่จะศึกษา ก็บอกเลยว่าอย่าไปเสียเงินเพิ่มเลย
แต่ต้องดูตัวเองให้ดีๆนะครับ ว่าถ้าสนใจแล้วจะสนใจและใช้มันได้ตลอดหรือไม่
เอาจริงๆนะ Mazda CX-5 ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ผมรำคาญระบบช่วยเบรคอัตโนมัติมากเลย
คือเวลาวิ่งอยู่ในเมืองช้าๆแล้วมันมีมอเตอร์ไชค์มาตัดหน้า ในบางครั้ง มันจะเบรคเอง
ระบบ ABS ทำงาน ครืดๆๆๆๆ ทั้งๆที่รถมอไซค์มันวิ่งผ่านไป 10-20 เมตรแล้วมันเพิ่งจะเบรค
ส่วน Lane Keep Assist นี่ได้ปิดไว้ตลอดเลยครับ เพราะรำคาญเหมือนกันเวลาจะเปลี่ยนเลนแบบไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวแล้วมันจะขืนๆมือ
ALH นี่ถ้าขับอยู่ในเมืองหรือที่ๆมีแสงสว่างซะส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไร
Radar Cruise จะได้ใช้ซักกี่ครั้ง เดินทางต่างจังหวัดที่ถนนยาวๆบ่อยมากแค่ไหน
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่มีไว้ก็ดี แต่ล้วนๆคือสิ่งที่ติดรถมาให้คุณเสียเงินเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาก็ซื้อไปครับ จัดเต็มไปเลย
-
ใช้ SP 2017 อยู่ครับ มีอะไรถามได้ครับ
ชอบระบบความปลอดภัยทั้งหลายครับ แต่ต้องเรียนรู้วิธีตั้งค่าซักพักครับ
-
เคยจะซื้อครับ ผมเลือก s
วิธีเลือกของผมคือ เลือกสเปคเครื่องยนต์ก่อน แล้วเอาตัวล่างครับ
ส่วนใหญ่เซลล์ จะเชียร์รุ่นสูงโดยบอกว่าผ่อนเพิ่มต่อเดือนต่างกันนิดเดียว
อย่าลืมว่าส่วนต่างนี้ เอาไว้เติมน้ำมันได้
-
ตอบ จขกท
เอา SP จบกว่า แต่ระวังจะติดใจ Paddle shipนะครับ ผมเอาไว้สาดโค้ง ได้เรื่องengine brakeเข้ามาช่วย
ใช้เรื่อยๆจะติดใจครับ ไม่เบื่อเวลาขับยาวๆ
เคยเล่น Paddle ship ของ honda ผมว่ามันดีเลนิดๆ ชอบแบบกดแล้วเปลี่ยนทันทีเลยอะครับ ไม่รู้ของ mazda จะทันใจมั้ย ยังไม่เคยขับครับ 55555
จริงๆชอบเล่นเกียร์อยู่แล้วครับ ชอบขับเกียร์ธรรมดาด้วย เสียดายรถรุ่นใหม่ๆไม่มีแล้ว
-
ต้องถามกลับว่า 1.เคยใช้เทคโนโลยีพวกนี้ไหมครับ 2.แล้วเป็นคนชอบศึกษาการใช้งานระบบพวกนี้ไหม
ถ้าข้อ 1 ตอบว่าเคย แล้วพอใจกับเทคโนโลยีพวกนี้ ก็จัด SP ไปเลยครับ
ถ้าข้อ 1 ตอบว่าไม่เคยก็ไปดูข้อ 2 ต่อ ถ้าข้อ 2 ตอบว่าไม่สนใจที่จะศึกษา ก็บอกเลยว่าอย่าไปเสียเงินเพิ่มเลย
แต่ต้องดูตัวเองให้ดีๆนะครับ ว่าถ้าสนใจแล้วจะสนใจและใช้มันได้ตลอดหรือไม่
เอาจริงๆนะ Mazda CX-5 ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ผมรำคาญระบบช่วยเบรคอัตโนมัติมากเลย
คือเวลาวิ่งอยู่ในเมืองช้าๆแล้วมันมีมอเตอร์ไชค์มาตัดหน้า ในบางครั้ง มันจะเบรคเอง
ระบบ ABS ทำงาน ครืดๆๆๆๆ ทั้งๆที่รถมอไซค์มันวิ่งผ่านไป 10-20 เมตรแล้วมันเพิ่งจะเบรค
ส่วน Lane Keep Assist นี่ได้ปิดไว้ตลอดเลยครับ เพราะรำคาญเหมือนกันเวลาจะเปลี่ยนเลนแบบไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวแล้วมันจะขืนๆมือ
ALH นี่ถ้าขับอยู่ในเมืองหรือที่ๆมีแสงสว่างซะส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไร
Radar Cruise จะได้ใช้ซักกี่ครั้ง เดินทางต่างจังหวัดที่ถนนยาวๆบ่อยมากแค่ไหน
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่มีไว้ก็ดี แต่ล้วนๆคือสิ่งที่ติดรถมาให้คุณเสียเงินเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาก็ซื้อไปครับ จัดเต็มไปเลย
รู้จักและเข้าใจการทำงานดีทุกอันครับ แต่ไม่รู้ว่าราคามันเพิ่มมาเยอะไปรึปาว
และก็นั่นแหละอย่างที่คุณบอก บางทีมันน่ารำคาญ ผมชอบควบคุมรถด้วยตัวเองมากกว่า มันสนุกกว่าครับ 555555
-
ใช้ SP 2017 อยู่ครับ มีอะไรถามได้ครับ
ชอบระบบความปลอดภัยทั้งหลายครับ แต่ต้องเรียนรู้วิธีตั้งค่าซักพักครับ
รู้สึกคุ้มกับส่วนต่างที่เพิ่มมั้ยครับ แบบว่าได้ใช้มันบ่อยมั้ย ประโยชน์มากน้อยยังไงครับ
ผมอยากได้แค่ตัวที่เตือนรถในจุดอับสายตา กับ paddle shift แค่นั้นเลยครับ น่าจะใส่มาตั้งแต่รุ่น S
-
ถ้าราคาส่วนต่างไม่เป็นปัญหา SPเลยครับ เทียบกับเงินส่วนต่างถือว่าคุ้มครับ
-
ผมใช้ S แต่แนะนำให้ซื้อ SP ครับ
options ที่มากับ S น้อยมากเมื่อเทียบกับ SP บางอันก็ไม่ได้ใช้อย่าง i-Stop ผมปิดตลอด ที่ใช้ดีตอนนี้คือ ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ มันจะปรับความเร็วการปัดตามปริมาณฝนที่ตก
แต่ options ของ SP บางอันอย่าง LDWS (Lane Departure Warning System) ก็มีในกล้องหน้ารถ
options ของ SP ที่อยากได้แต่ S ไม่มี คือ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring), RCTA (Rear Cross Traffic Alert) และ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
S ไม่มี paddle shift แต่มีเกียร์ M+, M- สามารถบังคับเกียร์เหมือนเกียร์ manual แต่ก็ไม่สะดวกเท่า paddle shift
ส่วน navigator ผมใช้ Google Maps กำลังจะลอง Android Auto
-
ผมใช้ CX-3 SP MY2017 (คันก่อนใช้ Jazz GE8)
1. จริงๆคันนี้จะให้พ่อแม่อายุ 60 up ใช้ แต่พอเจอ tech เยอะแยะ เค้าก็บอกว่าให้ผมใช้คันนี้ไปเลย
2. เตือนเปลี่ยนเลน ผมว่ามันก็จำเป็นนะครับ เพราะ CX-3 ผมว่าพื้นที่กระจกมันน้อย การมีระบบช่วยดูให้มันก็ดีครับ
เพราะเหลียวมองข้ามไหลไป เจอเสากับเจอประตู
3.Peddle shift ที่เคยใช้ Honda จาก 5 มา 4 รู้สึกถึงกำลังรถมา แต่พอใช้ CX-3 จาก 6 มา 5 ยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไรต้อง
5 มา 4 (Direct drive) ถึงจะพอรู้สึกถึงกำลัง แต่บางที kick down ไปเลยก็มาครับ
4. เรื่อง adaptive cruise control ถึงแม้ผมจะขึ้นทางด่วนบ่อย แต่ก็ไม่ค่อยใช้ แต่จะใช้จริงๆ คือวันที่ทำงานดึกๆ เหนื่อยๆ
ขึ้นทางด่วนก็เปิดตั้งไว้ขับ 80-90 ก็สบายดีครับ ช่วยเราได้เยอะ
5. ส่วน ALH ก็แล้วแต่คนครับ ถ้าอยู่ในเมืองก็แทบไม่ได้ใช้ เพราะไฟเข้าถึงทุกที่ แต่ทางเข้าบ้านผมมัน ตวจ อะ (ไม่ใช่ปริมณฑล)
บางจังหวะมันก็ช่วยเปิดไฟสูงให้ครับ
6. i-stop อันนี้ผมว่าเปิดตลอดก็ไม่ไหว ผมชอบเปิดๆปิดๆมันนะ แบบว่าจะถึงแยกไฟแดงที่เลขขึ้น หรือรถติดขบวน ผมจะเปิดเลย
เพราะเราสามารถกะเวลาจอดได้ แต่ถ้าจังหวะรถติดกระดืบๆนี่ปิดเลยครับ
7. ตัว +,- ที่คันเกียร์นี่ไม่ชินจริงๆ เพราะใช้ D-max มาบ้าง แล้วแบบว่าจะชิปดาว์นก็กดลง เจ้ามาสด้าต้องดันขึ้น!!!
ต้องใช้เวลาปรับตัวหลาย
-
งบถึง ชอบ tech เยอะๆ ก็ไป SP เลยครับ
-
งบผมน้อย เลยจัด S พอครับ ;D
-
เงินถึงก็จัด SP ไปเลยครับ
มันจบกว่าแน่นอน ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลัง
-
ส่วนตัวคิดว่า SP คุ้มครับ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบระบบทั้งหลายเยอะแยะ นั่ง 1-2 คนเป็นหลัก ผมว่า S ก็ตอบโจทย์ครับ
-
เชียร์ SP เลยครับ
แค่ม่านถุงลม ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วมันช่วยชีวิตเราไว้ได้ก็คุ้มแล้วครับ
ส่วนอย่างอื่น
ขับทางไกล เปิด lane keeping assist แบบ early กับใช้ radar cruise ก็เกือบไม่ต้องขับเองแล้วครับ แค่คอยตบพวงมาลัยนิดหน่อย สบายเลย (ปล่อยมือไม่ได้ เพราะมันจะร้องเตือนเลย)
เบรคอัตโนมัติ ผมได้ใช้หลายที เวลาเผลอๆคลานในเมืองแล้วมองอย่างอื่น
ส่วนเตือนจุดบอดนี่ สำหรับ mazda 3 ผมว่ามีประโยชน์ เพราะกระจกมองข้าง มีจุดบอดพอสมควร
เตือนจุดบอดเวลาถอยหลังนี่ ทำให้เวลาถอยออกจากช่อง ง่ายขึ้นมากเลยครับ
ส่วน ALH ผมอยู่ในเมือง แทบไม่มีประโชน์เลย แต่ถ้าวิ่งถนนไม่มีไฟบ่อยๆก็น่าจะใช้ดี