Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Enzo ที่ ตุลาคม 06, 2017, 17:16:42
-
สงสัย เรื่อง น้ำมันเครื่อง 0W20 กับ 0W40 ใส่ใน nissan march ปี 2012
รถคันนี้ วิ่งมา ประมาณ 44,000 กิโล
ระยะทาง 10,000 กิโลเมตร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ เบอร์ 0W20 น้ำมันเครื่องศูนย์
ระยะทาง 20,000 กิโลเมตร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ เบอร์ 0W20 น้ำมันเครื่องศูนย์
ระยะทาง 30,000 กิโลมเตร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ เบอร์ 0W20 Shell Helix HX8 Eco cars
ระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ เบอร์ 0W40 Mobil 1 กระป๋องทอง
ซึ่ง ปกติ ตอนที่ใช้ น้ำมเครื่อง 0W20 จะกินน้ำมัน ประมาณ 13.0 - 13.5 กิโลเมตร / ลิตร
วิ่งเส้นทางเดิมๆ ตอนกลางวัน ทุกวัน รถไม่ติด ใน กทม
หลังจาก เปลี่ยน เป็น 0W40 Mobil 1 กระป๋องทอง กลับทำตัวเลข ประหยัด ได้ 15.0 - 15.2 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ ได้อ่านความคิดเห็นของหลายๆท่าน ว่า รถ Eco car ถ้าใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 40
จะอืดไป และ กินน้ำมันมากขึ้น แต่ของผมกลับรู้สึกว่า รถเร่งได้ดีขึ้น และ กินน้ำมันน้อยลง
ตอนใช้ 0W20 รถไม่ค่อยวิ่ง อารมณ์ เหมือน กวาดแต่รอบ รถไม่ไป
ตอนนี้ใช้ 0W40 รถวิ่งดีขึ้น รู้สึกเหมือน รถ มีกำลังมากกว่า ก่อนหน้านี้ ครับ
มีใครเป็นแบบผมไหม ครับ
ขอบคุณครับ
-
คุณภาพของน้ำมันเครื่องที่ต่างกัน
ไม่ได้วัดกันที่ความใสอย่างเดียว
-
อาจเกิดความแตกต่างที่
1. อุณหภูมิตอนขับ
2. เท้าคนขับ ขับแบบเดียวกันหรือไม่ มีการกระชากตอนออกตัวหรือเปล่า ขับความเร็วเท่ากันหรือไม่
3. น้ำมันเครื่องคนละยีห้อ
4. ลมยางที่ใช้ขับลมยางเท่ากันหรือไม่
5. การเร่งน้ำยาแอร์(ความเย็นของแอร์)เท่ากันหรือเปล่า
6. น้ำหนักในการบรรทุกเท่ากันหรือไม่
-
น้ำมันเครื่องศูนย์และ HX8 เป็นตัวเดียวกันครับ ลอง 0W-20 ยี่ห้ออื่นๆ ที่เบสดีกว่านี้ หรือ HX8 0W-20/5W-30/5W-40 อาจจะได้คำตอบเพิ่มขึ้น
ตอนแรกผมก็เคยเชื่อหลายคนที่บอกว่า น้ำมันเครื่องอะไรก็อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่างกันมาก แต่เบอร์หนาปกป้องเครื่องดีกว่า
พอจับใช้งานจริงๆ จังๆ แค่ 0W-20 กับ 5W-30 ในยี่ห้อเดียวกัน อัตราเร่งอาจจะต่างไม่มาก
แต่อัตราสิ้นเปลืองนี่เห็นแตกต่างในระดับ 0.5 กม./ลิตร ทั้ง Idle/รถติด/ชานเมือง/ทางไกล แล้วครับ
-
ใช้น้ำมันเครื่องมากยี่ห้อ กระป๋องทอง MOBIL-1 ดีสุด แต่ผมแพ้ราคาเลยไป ปตท. FULLY แทน ขยันเปลี่ยนบ่อยหน่อย เดือนเว้นเดือน สัก 5-6000 Km.ก็เปลี่ยนแล้ว นานสุด 3 เดือน 7000 เศษ ๆ
-
ผมเปลี่ยนจาก0w-30 เป็น 0w-40 แล้วเครื่องเงียบกว่าเดิมชัดเจน ผมเลยคิดว่ายังไงก็ดีกว่าแต่จับสิ้นเปลืองไม่เคยวัดเพราะขับหลายหลายเส้นทาง ตอนนี้อยากลอง0w-50 มาก อ่อแล้วส่วนมาก0w-20 มักจะราคาถูกกว่าเยอะทั้งๆที่เป็นซินเทติกล้วน
-
4 หมื่นกว่าใช้เบอร์เดิมตามคู่มือไปก่อนดีกว่าครับ เครื่องยังดีน้ำมันเครื่องไม่หาย
-
Jazz GE ผมเคยเปลี่ยนจาก 0w-30 (กึ่งสังเคราะ) เป็น 5w-50 (สังเคราะแท้) แล้วเสียงเครื่องเงียบลง รถรู้สึกตื้อๆ และรอบกวาดอืดลงพอสมควร ส่วนเรื่องความประหยัดน้ำไม่ได้สังเกตุ
แต่ที่เจ็บใจสุดคือ Soluna โฉมหยดน้ำเดิมๆ แซงได้ทั้งๆ ที่ผมเหยียบคันเร่งจนมิดแล้วนี่มันน่าเจ็บใจมาก (ขนาดออกตัวตีคู่พร้อมๆ กันเลยนะนั่น)
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมไม่แตะเบอร์ 50 อีกเลย.....
ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องตามที่คู่มือระบุดีกว่าครับ
-
น้ำมันเครื่องเบอร์ 5W-30 ก็พอแล้วครับ
-
Viscosity เป็นความต้านทานการไหล"ภายใน" ของของไหล
จะประหยัดน้ำมันขึ้นหรือไม่จากการเปลี่ยนViscosity ก็ต้องดูว่ามันส่งผลอย่างไรกับพื้นผิวที่น้ำมันไปอยู่
ในปั๊มน้ำมันเครื่องของรถ Viscosity 20-50 ที่อุณหภูมิ มากกว่า 20 องศา ปั๊มจะออกแรงต่างกัน ไม่เกิน 10% ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น ก็จะส่งผลกับตัวนี้น้อยลงไปอีกเพราะน้ำมันบางลงความต้านทานการไหลก็น้อยลง แรงดันก็ตกลง ปั๊มน้ำมันเครื่องกินแรงราว ๆ 0.1%-0.5% ของกำลังเครื่องปรกติ ถ้าประหยัดไป 10% ก็เท่ากับกินแรงน้อยลงประหยัดแรงไป 0.01% - 0.05%
ในอ่างน้ำมันเครื่อง ที่มีแบรริ่งข้อเหวี่ยงจมน้ำมันราว ๆ 100-150องศาแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าน้ำมันยิ่งบาง Friction ก็ยิ่งมาก จะเกิดแรงเสียดทานมากเพราะความหนาของน้ำมันไม่มากพอจะแยกโลหะออกจากกัน ทำให้เกิดแรงเสียดทานสูง ในส่วนนี้ จะส่งผลให้กินน้ำมันมากขึ้น ไม่เกิน 0.5% ของแรงเครื่องยนต์ เรียกว่าเป็นจุดที่ออกแรงมากกับเครื่องทียังใหม่
ผนังสูบกับแหวนสูบ ....
ชักจะยาวแฮะ
ผมไม่แน่ใจว่าคุณมีพื้นฐานความรู้อะไร ถ้าจบวิศวะ คุณอ่านที่ผมเขียนข้างบนนี้ คงไปคิดต่อเองได้แล้วว่าpower loss ที่เกิดจากชิ้นส่วนภายในแต่ละตัวมันจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ถ้าจะคุยกันแบบง่าย ๆ คือที่คุณบอกมานี่มัน 15% ที่ประหยัดไป คงต้องมี Factorอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยแน่ ๆ ล่ะ ไม่ใช่แค่เบอร์น้ำมันเครื่องเพียงอย่างเดียว เว้นแต่ว่าเครื่องมันหลวมจนถึงจุดที่เบอร์20 ไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างระหว่างแหวนกับสูบได้อย่างแน่นหนาในช่วงที่สร้างกำลังอัด ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องดูอุณหภูมิภายในห้องเครื่องอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้นจนทำให้น้ำมันเบอร์20 บางจนทำให้ทุกอย่างฝืดไปหมด
-
ขอบคุณ ทุกท่าน ที่มาแสดงความคิดเห็น ครับ
อาจจะเป็น เพราะ ช่วงนี้ อากาศ ไม่ร้อนมาก ฝนตกบ่อย
ทำให้ มีตัวแปร เรื่อง อุณหภมูิ เข้ามาเกี่ยวข้อง
น้ำมันที่ใช้เติม มี V-power กับ Esso ตัวปกติ
กรองอากาศ เครื่องยนต์ ผม เปลี่ยน ทุก 10,000 - 12,000 กิโลเมตร
ขอบคุณครับ