Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lTONl ที่ ตุลาคม 23, 2017, 02:42:25
-
กำลังตัดสินใจซื้อรถ Mazda 3 ครับผม
1. เพื่อนๆพอจะทราบไหมครับว่า Mazda 3 จะมี Model Year ปีหน้าหรือป่าว
2. ตอนที่ผม Test drive ในช่วงความเร็ว 60-80km/hr ขึ้นไปเมื่อเติมคันเร่งเพื่อจะแซง(ไม่ Kick down) Mazda 3 จะลากรอบเครื่องก่อนสักประมาณ 3 วิ ก่อนแล้วความเร็วค่อยตามมา เพื่อนๆที่ใช้ Mazda 3 เป็นกันหรือป่าวครับ ผมลองถามเซลล์แล้ว เค้าบอกเป็นทุกคันอะครับ แต่ผมว่าไม่น่าใช่นะ :-\
3. ผมเห็นเซลล์เค้าเคลมไว้ว่า Mazda 3 ขับในเมืองนี่กินน้ำมันประมาณ 12km/l กว่าๆจริงป่าวครับ ผมเคยขับ cruiz มาในเมืองกินไป 7-8 km/l ถ้าเป็นไปตามที่เซลล์บอกนี่ถือว่าประหยัดใช้ได้เลยครับ
4. ปัญหา/ค่าใช้จ่าย จุกจิกมากไหมครับ
ปกติผมขับไปกลับที่ทำงานวันละ 100++ km แล้วก็ออกต่างจังหวัดทุกสัปดาห์(ใช้รถต่อสัปดาห์ประมาณ 1,000km)
คันเก่าขับ cruiz ครับ ขับได้ 3 ปีกับอีก 2 เดือน วิ่งไป 14x,xxxkm แล้วรถก็พังเลยครับ
เลยอยากหารถที่ตอบโจทย์นิดหนึ่งอะครับ กะว่าใช้ 5 ปีแล้วจะเปลี่ยนใหม่
ขอบคุณเพื่อนๆ ล่วงหน้าครับผม ::)
-
ข้อ 2 เป็นปกติของเกียร์ออโต้ที่จะไม่ lock-up 100% ตลอดเวลาครับ
ข้ออื่นไม่ทราบครับ
ปล. ใช้รถระดับปีละ 50,000 แม้จะดูว่าหนัก แต่ถ้าเป็นการวิ่งระยะยาว ไม่ใช่วันละ 100 กิโลแบบแท๊กซี่ขับลุยในเมืองตลอด ดูแลให้เหมาะสม ไม่พังหรอกครับ รถคัน ปจบ. ผม ได้มาตอนอายุ 5 ปี วิ่งไป 240,000 เจ้าของเก่าวิ่ง กทม - แพร่ ตลอด แต่ดูแลดีื... ผมเอามาใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
-
1. minor change 2017 อีกนานกว่าจะเปลี่ยน model
2. ปกติ
3. น่าจะได้ ถ้าคันเร่ง นิ่มๆนิ่งๆ
4. มีรายการค่าใช้จ่าย อยู่ใน 0 และ ใน web mazda
-
ขออนุญาตถามนิดครับพี่ ที่ว่าใช้ Cruize ไป 14x,xxx แล้วพังเลย
อาการพังนี่เป็นยังไงเหรอครับ พังแบบซ่อมไม่ได้เหรอครับ หรือไม่คุ้มซ่อมอ่ะครับ
ผมว่า แสนสี่ กม. นี่ยังวิ่งน้อยอยู่เลยนะครับ รถจากทางตะวันตกน่าจะทนทานกว่านี้อ่ะครับ
ถ้ารถจีนดั้งเดิมยังไปอย่าง
-
ผมมาตอบในข้อ 3 ครับ อาการที่ว่ามาสำหรับรถที่เป็นเกียร์ auto แบบดังเดิมที่ใช้ torque converter ตัดต่อกำลังน่าจะเป็นเรื่องปกติ เวลาเรากดคันเร่งลงไปถึงจะไม่มากขนาด kick down แต่เครื่องกับเกียร์มันจะยังไม่จับ 100% ในทันทีแต่จะมีช่วงหน่วงนิดๆทำให้รถไม่กระชาก
-
ผมใช้อยู่ ข้อ 2 ไม่เป็นอะครับ ออโต้ลูกนี้ lock up เกือบตลอดเวลา
อาจจะเป็นจังหวะ ที่ไม่ได้ lock ก็เป็นได้
4. เคยแค่โช้คหน้าดัง เข้าศูนย์หาย
โช้คหลังพัง เพราะใส่สปริงโหลด ก็เข้าศูนย์เคลม (ใส่สปริงเดิมไป)
นอกนั้นไม่เคยมีปัญหาอะไรครับ อยากขับสนุกขึ้น (เยอะ) ก็ไปรีแฟลช e85 ไฟ engine ไม่เคยโชว์ครับ
-
skyactivX จะมาช่วงปลาย 18 หรือกลาง 19 ส่วน MC 18 อาจจะไม่มีก็ได้เพราะอัดมาเกือบครบแล้ว
ความประหยัดนั้นต้องถามว่าเติมอะไรครับ ถ้า 95 แน่นนอนว่าอัตราสิ้นเปลืองดีสุด แต่ถ้า E85 แน่นอนครับแย่สุด
ผมเติม E85 ตั้งแต่ออกรถมา ถ้ารถติดแบบไม่ขยับเลยนี่กิน 6 โลลิตรครับ แต่ถ้าติดไม่มากก็ 10 โลลิตร
อัตราสิ้นเปลือง E85
ขับทางไกลยืนพื้น 90 กิน 14 โลลิตร
ยืนพื้น 120 กิน 12 โลลิตร
ยืนพื้น 140 กิน 11 โลลิตร
ยืนพื้น 160 มีเลข 9
ส่วน E20 ทางไกล
ยืนพื้น 90 กิน 20 โลลิตร
ยืนพื้น 120 กิน 14 โลลิตร
เหยียบเกิน 140 ก็ 11 ลงมา
95 ผมไม่เคยเติมเลย รถผมชอบแอลกอฮอล์
ส่วนเกียร์นี่ตามคันเร่งครับ เซ็ตมา 4 โหมด
ถ้ากดเบาๆก็เข้า ECO ถ้าค่อยๆกดจนมืดคันเร่งรถอาจจะไม่ไปไวอย่างใจคิด รอบเปลี่ยนเกียร์ประมาณ2000 รอบ
ถ้ากดคันเร่งเร็วประมาณนึงและลึกประมาณครึ่ง โหมด 2 จะทำงาน รอบเปลี่ยนเกียร์ ที่ 3000 รอบ
กระทืบคันเร่ง โหมด 3 ทำงาน รอบเปลี่ยนเกียร์ 4500 รอบ
โหมดสุดท้ายกดปุ่ม sport รอบมารอเลย
หรือกดคันเร่งโดน kickdown switch (คือกดคันเร่งสุดจนดังกึก)รอบลากไป 6000 ซึ่งรถปี 14 ไม่มีสปอร์ตโหมด ต้องใช้วิธีนี้
เกียร์ต้องรอประมาณ 2 วิถึงจะจับแล้วดีดออกให้ ต้องปรับตัวให้ชินนิดนึง
น้ำมันเกียร์ตามคู่มือล่าสุดไม่รู้เปลี่ยนรึยัง อันเดิม 250,000 โล แต่ผมแนะนำให้เปลี่ยนทุก 40,000 เพราะคนเกียร์พังมาแล้ว 100,000 โลเป๊ะๆ แต่คนที่เปลี่ยนตอนนี้รถจะเข้า 200,000 โลแล้วครับ
-
ตอบในส่วนของ อัตราสิ้นเปลือง รถเครื่องเดียวกัน แต่ของผม CX5 นะครับ
เติม E20 วิ่งปนกันทั้งบนมอเตอร์เวย์(ความเร็วส่วนใหญ่ 110 -120) และรถติดในนิคมอมตะนคร ได้อยู่ราวๆ 11.5 - 12 ก.ม./ลิตรครับ
ลอง E10 ได้ 12.22 ก.ม./ลิตรต่างกันไม่ค่อยเยอะเท่าไหรครับ
สำหรับผมเครื่องตัวนี้ ถือว่าค่อนข้างประหยัดครับ
-
ที่ลองขับเป็นรถพี่สาวน่ะครับ
1.น่าจะมีปรับเล็กๆน้อยๆครับ
2.ไม่เป็นครับมาตามเท้าสั่งเลย หรือไม่ทันใจตบเข้า +/- เลยครับ
3.ประมาณนั้นครับ
4.รถพี่สาวไม่มีครับเช็คระยะตามปกติ แต่หลายคันมีปัญหาเรื่องปั๊มติ๊กครับ
-
skyactivX จะมาช่วงปลาย 18 หรือกลาง 19 ส่วน MC 18 อาจจะไม่มีก็ได้เพราะอัดมาเกือบครบแล้ว
ความประหยัดนั้นต้องถามว่าเติมอะไรครับ ถ้า 95 แน่นนอนว่าอัตราสิ้นเปลืองดีสุด แต่ถ้า E85 แน่นอนครับแย่สุด
ผมเติม E85 ตั้งแต่ออกรถมา ถ้ารถติดแบบไม่ขยับเลยนี่กิน 6 โลลิตรครับ แต่ถ้าติดไม่มากก็ 10 โลลิตร
อัตราสิ้นเปลือง E85
ขับทางไกลยืนพื้น 90 กิน 14 โลลิตร
ยืนพื้น 120 กิน 12 โลลิตร
ยืนพื้น 140 กิน 11 โลลิตร
ยืนพื้น 160 มีเลข 9
ส่วน E20 ทางไกล
ยืนพื้น 90 กิน 20 โลลิตร
ยืนพื้น 120 กิน 14 โลลิตร
เหยียบเกิน 140 ก็ 11 ลงมา
95 ผมไม่เคยเติมเลย รถผมชอบแอลกอฮอล์
ส่วนเกียร์นี่ตามคันเร่งครับ เซ็ตมา 4 โหมด
ถ้ากดเบาๆก็เข้า ECO ถ้าค่อยๆกดจนมืดคันเร่งรถอาจจะไม่ไปไวอย่างใจคิด รอบเปลี่ยนเกียร์ประมาณ2000 รอบ
ถ้ากดคันเร่งเร็วประมาณนึงและลึกประมาณครึ่ง โหมด 2 จะทำงาน รอบเปลี่ยนเกียร์ ที่ 3000 รอบ
กระทืบคันเร่ง โหมด 3 ทำงาน รอบเปลี่ยนเกียร์ 4500 รอบ
โหมดสุดท้ายกดปุ่ม sport รอบมารอเลย
หรือกดคันเร่งโดน kickdown switch (คือกดคันเร่งสุดจนดังกึก)รอบลากไป 6000 ซึ่งรถปี 14 ไม่มีสปอร์ตโหมด ต้องใช้วิธีนี้
เกียร์ต้องรอประมาณ 2 วิถึงจะจับแล้วดีดออกให้ ต้องปรับตัวให้ชินนิดนึง
น้ำมันเกียร์ตามคู่มือล่าสุดไม่รู้เปลี่ยนรึยัง อันเดิม 250,000 โล แต่ผมแนะนำให้เปลี่ยนทุก 40,000 เพราะคนเกียร์พังมาแล้ว 100,000 โลเป๊ะๆ แต่คนที่เปลี่ยนตอนนี้รถจะเข้า 200,000 โลแล้วครับ
ถ้ากดคันเร่งเท่าเดิมแต่เกียร์ตัดเปลี่ยนที่รอบไม่เท่ากันอย่างนั้นถึงจะถือว่าเกียร์คนละโหมดครับ ถ้าเหยียบไม่เท่าเปลี่ยนที่รอบไม่เท่าอันนี้เรื่องปกติของเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะมันคำนวณจากโหลดจากคันเร่งที่ถูกกดและความเร็วขณะนั้น อย่าว่าแต่รุ่นใหม่ๆเลยw124ผมโบราณๆมันก็เปลี่ยนเกียร์ที่รอบไม่เท่ากันเลยโดยที่ไม่ต้องสับโหมดsหรือe
-
ถ้ากดคันเร่งเท่าเดิมแต่เกียร์ตัดเปลี่ยนที่รอบไม่เท่ากันอย่างนั้นถึงจะถือว่าเกียร์คนละโหมดครับ ถ้าเหยียบไม่เท่าเปลี่ยนที่รอบไม่เท่าอันนี้เรื่องปกติของเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะมันคำนวณจากโหลดจากคันเร่งที่ถูกกดและความเร็วขณะนั้น อย่าว่าแต่รุ่นใหม่ๆเลยw124ผมโบราณๆมันก็เปลี่ยนเกียร์ที่รอบไม่เท่ากันเลยโดยที่ไม่ต้องสับโหมดsหรือe
แบบว่าถ้าคุณอยู่โหมด ECO บางทีรถจะเหยียบไม่ออก อืดแบบรู้สึกได้ กดจนเกินครึ่งคันเร่งบางทีมันก็ไม่เปลี่ยนเกียร์ให้
ถ้าคุณขับแบบลากรอบมาตลอด เปลี่ยนเดียร์เกิน 3000 รอบตลอด บางทีสะกิดนิดหน่อยมันคิกดาวน์ให้เลยประมาณนี้ครับ
-
ถ้ากดคันเร่งเท่าเดิมแต่เกียร์ตัดเปลี่ยนที่รอบไม่เท่ากันอย่างนั้นถึงจะถือว่าเกียร์คนละโหมดครับ ถ้าเหยียบไม่เท่าเปลี่ยนที่รอบไม่เท่าอันนี้เรื่องปกติของเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะมันคำนวณจากโหลดจากคันเร่งที่ถูกกดและความเร็วขณะนั้น อย่าว่าแต่รุ่นใหม่ๆเลยw124ผมโบราณๆมันก็เปลี่ยนเกียร์ที่รอบไม่เท่ากันเลยโดยที่ไม่ต้องสับโหมดsหรือe
แบบว่าถ้าคุณอยู่โหมด ECO บางทีรถจะเหยียบไม่ออก อืดแบบรู้สึกได้ กดจนเกินครึ่งคันเร่งบางทีมันก็ไม่เปลี่ยนเกียร์ให้
ถ้าคุณขับแบบลากรอบมาตลอด เปลี่ยนเดียร์เกิน 3000 รอบตลอด บางทีสะกิดนิดหน่อยมันคิกดาวน์ให้เลยประมาณนี้ครับ
ถ้าเป็นแบบนี้ผมว่ามันน่าจะหมายถึงเกียร์มันเรียนรู้และจดจำวิธีการขับขี่มากกว่านะ อย่างรถผมถ้าเพิ่งเปลี่ยนแบตมาใหม่ๆเหมือนมันถูกรีเซทเกียร์จะทำงานไวมากค้างเกียร์ต่ำตลอดเหยียบพุ่งทันที แต่เนื่องจากผมเป็นคนขับรถเนิบๆพอขับไปสักระยะนึงมันเรียนรู้แล้วพอถอนคันเร่งมันจะเปลี่ยนไปเกียร์สูงเร็วขึ้นแล้วพอจะไปต่อถ้าเหยียบเนิบๆมันก็จะใช้แรงบิดที่รอบต่ำเกียร์สูงแบบนั้นแหละพาไป แต่ถ้ารีบจริงเหยียบเยอะมันถึงจะทดเกียร์ให้
-
ขออนุญาตถามนิดครับพี่ ที่ว่าใช้ Cruize ไป 14x,xxx แล้วพังเลย
อาการพังนี่เป็นยังไงเหรอครับ พังแบบซ่อมไม่ได้เหรอครับ หรือไม่คุ้มซ่อมอ่ะครับ
ผมว่า แสนสี่ กม. นี่ยังวิ่งน้อยอยู่เลยนะครับ รถจากทางตะวันตกน่าจะทนทานกว่านี้อ่ะครับ
ถ้ารถจีนดั้งเดิมยังไปอย่าง
เป็นการซ่อมแล้วไม่คุ้มครับผม บวกกับไม่ไว้ใจรถแล้วด้วยละ รถมีอาการกระตุก แล้วก็ดับ เอาเข้าศูนย์หลายรอบแล้วแก้ไม่จบ อย่างปีกผีเสื้อ ปีเดียวเปลี่ยนไป 4 ครั้ง คอยล์จุดระเบิดเปลี่ยนไปอีก 4 ครั้ง รถเอาขึ้น slied-on ทุกเดือน แล้วยังไม่รวมจุกจิกอย่างอื่นอีกมากอะครับ เลยเอาเข้าอู่เพื่อน เพื่อนตีราคามาคร่าวๆ จำได้ว่าหลักแสน ไม่จำตัวเลขไม่ได้ เหตุการณ์สุดท้ายคือรถอยู่ๆก็ดับการทางบนเขาช่วงถนนลำปาง-เชียงใหม่ ตอนตี 4 เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมขายคันนั้นทิ้งไปเลยครับ
-
ผมใช้มาสด้าสามอยู่ครับ ขับรถไปมหาลัยทุกวัน ในเมืองผมขับยังไงก็ได้ 8 โลลิตรครับ ผมเป็นคนเท้าหนัก ถ้าเท้าเบาๆนิ่มๆก็คงได้อย่างที่เขาว่าจริงๆครับ แต่ถ้าขับทางไกลนิ่งๆ 120 ยาวๆก็ได้ 14-15 นะครับ แต่ส่วนใหญ่ผมจะขับยืนที่ 140 ถ้าไม่ได้ลากรอบบ่อยๆก็ถือว่าไม่ได้กินจนหน้าเกลัยด แต่ถ้าซัดลากรอบแซงมุดตลอดไปแค่กรุงเทพหัวหินก็แทบหมดแล้วครับ ส่วนเรื่องเกียร์กับเครื่องผมว่าเอาใจวัยรุ่นมากๆ รถมันจะเรียนรู้นิสัยคนขับ เครื่องกับเกียร์จะตามสั่งมากๆ คารอบไว้ให้พร้อมใช้งานต่อ แต่ถ้าขับหวานเย็นๆำปเรื่อยๆ รถมันจะเรียนรู้นิสัยเราใหม่ เวลาเรากดมันจะคิดแปปนึง แต่โดยปกตินิสัยคันเร่งจะแล็คประมาณ 1 วิครับ ยังไงถ้าพี่เอามาขับยาวๆผมว่าพี่น่าจะชอบนะครับ ประหยัด + ขับสนุก พวงมาลัยคม น่าจะไม่ต่างจากครูซมาก
-
ขอขยายความเรื่องเกียร์ครับ
มาสด้าทุกรุ่น จะเรียนรู้ และวิธีการขับขี่ของผู้ใช้ ครับ
เช่นถ้าเป็นคนเท้าหนัก กดคันเร่งเยอะ รถจะสั่งให้เกียร์ลากรอบ คือเปลี่ยนเกียร์ช้าลงเพื่อเรียกแรงม้า ให้ต่อเนื่องในการเปลี่ยนเกียร์ถัดไป ดังนั้น ลักษณะที่เค้าลากรอบค้าง คือเค้ารอจังหวะการกดคันเร่งเพื่อให้มีแรงบิดใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าพฤติกรรมของผู้ใช้เป็นคนขับแบบนุ่นนวล เน้นประหยัด รถจะเปลี่ยนเกียร์ให้อยู่ในช่วงแรงบิดตั้งแต่ 1500-2200 รอบ โดยเฉลี่ย เพื่อให้รถวิ่งได้อย่างนุ่นนวลและประหยัดน้ำมัน ...
ดังนั้น สำหรับรถเทสไดร์ ที่คนที่ขับก่อนคุณเจ้าของกระทู้ อาจจะเทสแบบกดมิด เล่นโหดๆ รถจึงจดจำพฤษติกรรมการขับขี่นั้นมา ....แต่เคยเจอหลายท่านที่ ผู้เทสไดร์คนแรกเป็นผู้หญิง ขับแบบเรียบร้อยมาก .... และมีคนมาเทสต่อ เป็นผู้ชายเท้าหนัก จะบ่นว่า รถอืด คันเร่งหน่วงเปลี่ยนเกียร์ไม่ทันใจ เป็นต้นครับ ....
-
บ้านเรา น่าจะ all new ปี 2019 เป็นอย่างเร็วครับ