Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่ย ที่ ตุลาคม 24, 2017, 16:43:13
-
E350e ปรับราคาขี้น โอ้เก็บเงินดาวน์ยังไม่ครบเลย ปรับขึ้นอีก.....ทำไมถึงทำแบบนี้ แล้วจะปรับขึ้นอีกไหมเนี่ย มันออกจะเซงๆ
-
ใช่ตามอัตราการคำนวณสรรพสามิตแบบใหม่รึเปล่าครับ
-
เห็นมีแต่ข่าวเสียผ่านตา ยังปรับราคาขึ้นอีก
-
นึกว่าจะปรับลงซะอีกเพราะปัญหาพบกันมากจริงๆบ่นกันอุบ ยอดขายก็น่าจะไม่เดินดันปรับขึ้นอีก
-
เบ้นผมว่าเขาคิดผิดนะ ขนาดประเทศผลิตยังมีดีเซลให้เลือกเลย เเต่กลับไทยระบบไฟฟ้าการชาร์จยังไม่ทั่วถึง เอามาก็มีปัญหาเยอะกว่าดีเซล ชื้อเหมือนโดนบังคับให้เลือก ผมเห็นรุ่นนี้น้อยจริงๆ (อาจเพราะดวงไม่สมพงมั้ง) เเต่อย่างน้อยทุกเซคเม้นน่าจะมีดีเซลธรรมดา
-
ผมชอบภายใน MB ก็จริง แต่ BM น่าโดนกว่าครับ
-
fleet ยังขายดีอยู่นะ ลอตแรกเป็น 220d ลอตหลังนิรหัส e ล้วนๆ มาส่งแทบจะทุกเดือน ผบรห จิ้ม bmw น้อยมาก
ก็หวังว่าการบีบบังคับให้คนใช้รหัส e จะทำให้ปัญหามันน้อยลงในอนาคตนะ
เบ้นผมว่าเขาคิดผิดนะ ขนาดประเทศผลิตยังมีดีเซลให้เลือกเลย เเต่กลับไทยระบบไฟฟ้าการชาร์จยังไม่ทั่วถึง เอามาก็มีปัญหาเยอะกว่าดีเซล ชื้อเหมือนโดนบังคับให้เลือก ผมเห็นรุ่นนี้น้อยจริงๆ (อาจเพราะดวงไม่สมพงมั้ง) เเต่อย่างน้อยทุกเซคเม้นน่าจะมีดีเซลธรรมดา
เทียบกะยุโรปไม่ได้นะ บ้านเค้ามีแบบ low-spec พวกตัว topๆ ก็ benzine hybrid กันเยอะ ถือเป็น new tech อ่ะ
บ้านเรารถ premium มีแต่สเปคประมาณนึง ด้วย logo ยี่ห้อจะมารถโล้นๆ ดรอปราคา ก็ไม่สมควร
-
เบ้นผมว่าเขาคิดผิดนะ ขนาดประเทศผลิตยังมีดีเซลให้เลือกเลย เเต่กลับไทยระบบไฟฟ้าการชาร์จยังไม่ทั่วถึง เอามาก็มีปัญหาเยอะกว่าดีเซล ชื้อเหมือนโดนบังคับให้เลือก ผมเห็นรุ่นนี้น้อยจริงๆ (อาจเพราะดวงไม่สมพงมั้ง) เเต่อย่างน้อยทุกเซคเม้นน่าจะมีดีเซลธรรมดา
ถ้ามุมมองจาก "ผู้ขาย" ถือว่าคิดถูกแล้วครับ Hybrid เสียภาษีไม่เกิน 10% เทียบกับเบนซิน/ดีเซลธรรมดาที่ต้องเสีย 30-35% เอาส่วนต่างตรงนั้นมาทำกำไรกับเพิ่ม Option ถือว่าคุ้มครับ
แต่......ในมุมมองของ "ผู้บริโภค" ล้วนสร้างภาระเพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ธรรมดาที่ซ่อมจนปวดหัวอยู่แล้วยังต้องมาคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่ว่าไม่รู้จะเสียเอาตอนไหน แถมขายต่อมือสองราคาก็ดิ่งลงเหว
ปล. ดังนั้น BMW THAI จึงมองออกเลยทำ 520d ตัวเริ่มต้น(Option โล้นๆ) เอาใจสาวกคนที่ไม่ชอบ Hybrid เน้นซ่อมถูก ขายต่อได้ราคา ;D
-
ปรับราคา แล้วมีปรับ option อะไรด้วยมั๊ยครับ
-
เบ้นผมว่าเขาคิดผิดนะ ขนาดประเทศผลิตยังมีดีเซลให้เลือกเลย เเต่กลับไทยระบบไฟฟ้าการชาร์จยังไม่ทั่วถึง เอามาก็มีปัญหาเยอะกว่าดีเซล ชื้อเหมือนโดนบังคับให้เลือก ผมเห็นรุ่นนี้น้อยจริงๆ (อาจเพราะดวงไม่สมพงมั้ง) เเต่อย่างน้อยทุกเซคเม้นน่าจะมีดีเซลธรรมดา
ถ้ามุมมองจาก "ผู้ขาย" ถือว่าคิดถูกแล้วครับ Hybrid เสียภาษีไม่เกิน 10% เทียบกับเบนซิน/ดีเซลธรรมดาที่ต้องเสีย 30-35% เอาส่วนต่างตรงนั้นมาทำกำไรกับเพิ่ม Option ถือว่าคุ้มครับ
แต่......ในมุมมองของ "ผู้บริโภค" ล้วนสร้างภาระเพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ธรรมดาที่ซ่อมจนปวดหัวอยู่แล้วยังต้องมาคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่ว่าไม่รู้จะเสียเอาตอนไหน แถมขายต่อมือสองราคาก็ดิ่งลงเหว
ปล. ดังนั้น BMW THAI จึงมองออกเลยทำ 520d ตัวเริ่มต้น(Option โล้นๆ) เอาใจสาวกคนที่ไม่ชอบ Hybrid เน้นซ่อมถูก ขายต่อได้ราคา ;D
ผมเป็นลูกค้า ถ้าถามผม ผมยอมจ่าย 30-35% เพื่อให้ได้เครื่องน้ำมันล้วนนะครับ (ณ ตอนนี้นะครับ) :-X :-X :-X
อ๊อพชั่นก็ไม่ต้องอลังมาก รถขับดีเป็นพอ เพราะสุดท้ายเห็นส่วนมากขับรถคนก็ใช้ แอร์+เครื่องเสียง+สมรรถนะของตัวรถ นะครับ
ปล. คห ส่วนตัวน่ะครับ ฮร่าๆ
-
อุตส่าห์มีไฮบริดเพื่อลดความจุลง ทำราคาดีขึ้น แล้วนี่มาปรับขึ้นราคาแต่ได้ไฮบริดเหมือนเดิม ผุ้บริโภคเสียใจหนักมาก
-
ตัวต่ำสุด Avantgards ปรับขึ้น 90,000บาท ครับ เป็น 3,580,000บาท
ตัวกลาง ราคาเดิมครับ
ตัวท็อป ราคาเพิ่ม 40,000 บาท เป็น 4,130,000 บาท ครับ
ออปชั่นคงเดิม ราคานี้เอามาจาก ใบราคาที่โหลดมาจากเวป mb ครับ
-
ตอนปรับจากดีเซลเป็นไฮบริดก็ขึ้นราคามาหนแล้ว ตัว av จาก 3.38 ล เป็น 3.49 ส่วนตอนนี้ เป็น 3.58
อย่ากรู้จริงๆว่าผลตอบรับดีมากหรือตั้งไว้ลดเฉยๆ
-
เบ้นผมว่าเขาคิดผิดนะ ขนาดประเทศผลิตยังมีดีเซลให้เลือกเลย เเต่กลับไทยระบบไฟฟ้าการชาร์จยังไม่ทั่วถึง เอามาก็มีปัญหาเยอะกว่าดีเซล ชื้อเหมือนโดนบังคับให้เลือก ผมเห็นรุ่นนี้น้อยจริงๆ (อาจเพราะดวงไม่สมพงมั้ง) เเต่อย่างน้อยทุกเซคเม้นน่าจะมีดีเซลธรรมดา
เห็นด้วยครับ เบนซ์ ทำเป็น หูทวนลม และไม่ฟัง สิ่งที่ ลูกค้าต้องการ
-
เขารู้ว่าไงก็ขายได้ครับ ;D
-
รอดูเซอรวิสในระยะยาวดีกว่าครับ
แต่คนใช้เบนซ์ ซื้อใหม่ๆ ยังไงผมว่าไม่น่าซีเรียสอยู่แล้ว
ยังไงก็น่าจะเปลี่ยนรถทุกห้าปี คนที่สาหัสจริงๆ น่าจะเป็นคนซื้อมือสองมากกว่า (ซึ่งทาง MB Thailand คงไม่ได้สนใจอะไรคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว)
ใส่มาทั้ง Air suspension + Hybrid ถ้าถึงกำหนดซ่อมที ผมว่าคงสนุกแน่ๆ
ช่วงล่างถุงลมอู่นอกซ่อมได้ (หายขาดหรือแค่พอวิ่งได้) แต่ระยะยาวผมไม่รู้นะ มันจะทนแค่ไหน เปลี่ยนใหม่ทั้งต้นนี่ไม่ถูก
พวกนี้ต้องไปถามคนใช้ W220 w221 ครับ เจอมาเยอะ เจ็บมาก็เยอะ รถน้าผมนี่ แตกแล้วแตกอีก พังซ้ำสนุกสนานเลยครับ
กับสภาพถนนแบบเมืองไทย
ส่วน Hybrid นี่ ... Nocomment ละกันครับ ระยะยาวๆ เรายังไม่เห็น เลยยังไม่รู้ค่าใช้จ่ายจริงๆ
-
เน้นขาย hybrid เพราะ ได้ส่วนลดทางภาษี ทำให้ mbth ได้ margin ต่อคันเพิ่มขี้น
และ เลือกเครื่องแบบเดียวกันหมด จะทำให้บริหารต้นทุนอะไหล่ได้ง่าย
-
คนรอบข้างที่ผมรู้จัก 80% ไม่สนใจครับ (ระดับคุณหมอ ทนาย นักธุรกิจ)
ขอแค่เป็น Benz พอ จะเครื่องอะไร ราคาเท่าไหร่ ไม่อยู่ในการตัดสินใจเลยครับ
ขอแค่เป็น Benz จ่าย จบ ........
-
ขึ้นราคา แพงจังเลยครับ
ส่วนตัวผม ถ้าMBTh ใจดีจัดE500e ในราคาE350e ตัวปัจจุบัน ผมเป็นคนนึงที่จะรีบไปจัดเลยครับ 5555 (ตื่นๆๆ)
-
ผมว่า Benz ก็มองเกมเก่งนะ
ค่านิยมบ้านเรา ไม่ค่อยรู้เรื่องรถยังไงคนส่วนใหญ่ก็ขับดาว เพิ่งมีเงินจัดยุโรปคันแรกส่วนใหญ่ก็ซื้อดาว ซื้อเศรษฐีหัวเก่าหน่อยก็ไปดาว
ขึ้นราคาขายมาก็ยังมีคนซื้อ กำไรไปแล้ว 1 ดอก ระบบไฮบริดที่เป็นปัญหากันอยู่หรืออื่นๆเสียก็ขาย Service ขายอะไหล่ได้อีก
คนใช้ไปอีก 4-5 ปี โดนค่าซ่อมระบบไฮบริดหนักๆก็ขายทิ้ง มีโอกาสขายรถใหม่กำไรอีกรอบ วนลูปไป
-
ถ้ามองแค่ได้ผลประโยชน์ทางภาษี ผมว่าคิดสั้นไปหน่อย
คนที่ซื้อมาใช้ ถ้าเจอซ่อมหนักๆ ซ่อมบ่อยๆ คันหน้าคงเปลี่ยนยี่ห้อ
-
ไปglc ไหม หล่อเหมือนกัน
ลุยน้ำดีเซลด้วยท่าน