Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤศจิกายน 01, 2017, 17:26:43
-
รถ remap E20 มา ถ้าเติม แก๊ส 95 หรือ เบนซิล 95 มันต้องเร่งดีกว่าเดิมและประหยัดน้ำมันกว่าเดิมด้วย ถูกไหมครับ?
-
วิ่งแย่กว่าเดิมครับ e20 octance 98 ถ้าจูนเพิ่มไฟให้ใช้กับ e20
แล้วมาใช้ 95 ดีไม่ดีเครื่องเขก ด้วยครับ รถผมตั้งแต่จูนเติม e20 มาเลิกเติม 95 เลย แรงกว่า ประหยัดกว่า (e20 ถูกกว่า)
-
วิ่งแย่กว่าเดิมครับ e20 octance 98 ถ้าจูนเพิ่มไฟให้ใช้กับ e20
แล้วมาใช้ 95 ดีไม่ดีเครื่องเขก ด้วยครับ รถผมตั้งแต่จูนเติม e20 มาเลิกเติม 95 เลย แรงกว่า ประหยัดกว่า (e20 ถูกกว่า)
ตามนั้นเลยครับ
-
ถ้าคุณจูนน้ำมันอะไรซักอย่าง คือมันจะวิ่งดีสุดเมื่อใช้น้ำมันนั้นครับ เช่นจูน E85 ก็ควรเติมแต่ E85
-
ไม่ถูกครับ
-
กล่องเดิมมัน คำนวณแล้วจ่ายน้ำมันแบบ flexible ตามค่าต่างๆที่อ่านได้
ทีนี้ไปรีแมพให้เป็น e20 ดังนั้นคราวนี้กล่องมันคำนวณแบบ fix แล้วว่าน้ำมันที่อยู่ในระบบนั้นคือ e20
ทีนี้ถ้าเติมน้ำมันอื่นเข้าไป กล่องมันก็สั่งด้วยเรท e20 ซึ่งคงไม่วิ่งดีและประหยัดแน่ๆครับ
-
ถาม คนจูนไปครับ ว่า ปรับอะไร รถบ้าง ปรับยังไง เรามี สิทธิที่จะรู้ เราจ่ายเงิน
-
ต้องดูว่า รีแมปฯ นั้นเป็นแบบฟิกหรือเคลื่อนที่ ถ้าเป็นแบบเคลื่อนที่ ไม่แตกต่าง แต่ถ้าเป็นแบบฟิก ตามข้างบน ครับ
-
เท่าที่ผมทราบมา E20 Octane ไม่คงที่ ไม่ใช่เหรอครับ
95ถึง99
ผมสงสัยว่าจะจูนยังงัย?
ปั๊มเดียวกัน วัดออกเทนทุกเดือนยังได้ไม่เท่าเดิมเลยนะครับ ถ้าเติมต่างยี่ห้อ จะยังงัยล่ะทีนี้
รถสมัยใหม่อย่าง Benz BMW Toyota ที่มีระบบ Valve แปรผัน โดยตัวมันเองก็สามารถ shift mapไปทางย่านAdvance ได้ด้วยadaptation table ถ้าขับหนักๆเป็นประจำ แล้วเวลาเอามาจูนก็เปลี่ยนค่ากลางมันไป ถ้าดันแอดวานซ์มาก จ่ายมาก เครื่องฉีดตรงผมพอเข้าใจว่าไปไหว แล้วพวกไม่ฉีดตรงล่ะครับ?
-
คือ ผมสงสัย ว่า
ทำไม พวกคุณ ยึดติดกับค่า Octance มันไม่เกี่ยวอะไรกับ การจูนมากมายสักเท่าไหร่นะครับ
-
จากที่เคยคุยกับสำนักจูนชื่อดังแห่งหนึ่ง เค้าให้ความรู้ว่า แม้จะจูน e85 ก็ยังเติม e20 วิ่งได้ ซัดได้เหมือนเดิม เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่เท่า
กับเติม e85 แต่รับรองว่าไม่เขกแน่นอน โดยหลังจากเปลี่ยนน้ำมันควรให้กล่องเรียนรู้ประเภทน้ำมันก่อนสักพัก แล้วถ้าจะซัดค่อยซัด
เพราะตอนแรกผมก็ว่าจะจูน e20 แต่เค้าบอกว่าถ้าอยากให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดก็ e85 แต่ผมกังวลเรื่องเวลาออก ตจว. แล้วไม่มีปั๊มที่เข้าตา
เค้าก็เลยให้ความรู้ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นน่ะครับ
หลักการเดียวกัน ผมเลยคิดว่าจูน e20 ไว้แล้วเติม G95 ไม่น่าจะน่ากลัวเท่าจาก e85 ไปเติม e20 ครับ
-
จากที่เคยคุยกับสำนักจูนชื่อดังแห่งหนึ่ง เค้าให้ความรู้ว่า แม้จะจูน e85 ก็ยังเติม e20 วิ่งได้ ซัดได้เหมือนเดิม เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่เท่า
กับเติม e85 แต่รับรองว่าไม่เขกแน่นอน โดยหลังจากเปลี่ยนน้ำมันควรให้กล่องเรียนรู้ประเภทน้ำมันก่อนสักพัก แล้วถ้าจะซัดค่อยซัด
เพราะตอนแรกผมก็ว่าจะจูน e20 แต่เค้าบอกว่าถ้าอยากให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดก็ e85 แต่ผมกังวลเรื่องเวลาออก ตจว. แล้วไม่มีปั๊มที่เข้าตา
เค้าก็เลยให้ความรู้ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นน่ะครับ
หลักการเดียวกัน ผมเลยคิดว่าจูน e20 ไว้แล้วเติม G95 ไม่น่าจะน่ากลัวเท่าจาก e85 ไปเติม e20 ครับ
กรณี เป็น FFV จะจูนอะไร ก็วิ่งได้หมดครับ
แต่ถ้าไม่ใช่ รถ FFV แล้วเติม E85
มันก็คือ การเอารถ E20 ไปวิ่ง E85 นั่นละ เราจะกลับมาเติม E20 เมือ่ไหร่ก็ได้
-
ถามช่างว่าเขาจูนโปรแกรมแนวใช้ในชีวิตประจำวันหรือรีดเน้นแรงม้าแรงบิด
ถ้าเป็นอย่างหลังเติมน้ำมันตามช่างแนะนำอย่างเดียวเลยครับ
8)
-
คือ ผมสงสัย ว่า
ทำไม พวกคุณ ยึดติดกับค่า Octance มันไม่เกี่ยวอะไรกับ การจูนมากมายสักเท่าไหร่นะครับ
ที่มีผลมากกว่าคือ AFR ใช่ไหมครับ ?
-
ถ้าจูนดันไฟสำหรับใช้ E20 (Octane 98-99) ไม่สามารถเติม 95 ได้แล้วครับ เพราะมันจะเกิดการชิงจุดระเบิด หรือที่ช่างเรียกว่าเขกครับ
-
รถผมปัจุบันมี 2 map ครับปกติใช้ 95 ได้ 340ม้า e20 ขึ้นเป็น 360ม้า
-
มีอยู่คันนึง เครื่อง 3000 cc / ม้า 200 / แรงบิด 328 nm
งี้ควรจูนแบบไหนดีคะ เน้นขับเรื่อยๆชิวๆ