Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr.V ที่ พฤศจิกายน 03, 2017, 16:30:21
-
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย Teana 200 กับ 250 ต่างกันอย่างไรบ้างครับ ประหยัดน้ำมัน ความคุ้มค่า อะใหล่
ใช้รถทุกวัน 10 -30 กิโล ส่วนใหญ่ใช้ชานเมือง วิ่งทางไกลบ้าง 800KM. เดือนละครั้ง กำลังหามือสอง ต้องพิจารณาอะไรบ้างครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
-
ผมตอบของปี2014ได้ไหมครับ j33 250 xv navi
ใช้มาสามปี เกือบ8หมื่นโล ยังไม่มีอะไรให้เสีย เปลี่ยนของเหลวตามระยะ นมค นมก บลาๆ
นุ่มสบาย ขับในเมืองอึดอัดนิดนึง แต่นอกเมือง สบาย วิ่งไม่เหนื่อยครับ
อัตราบริโภค ในเมือง ก็เฉลี่ยๆ 10-12 กมลิตร
อัตราบริโภค นอกเมือง
เท้าหนักๆ ก็10-12 km/lite( 140-150 กม ต่อ ชม)
ขับสบายๆ 90-100 กม/ชม สามรถทำได้ถึง 15-16กม/ลิตร
-
ของผมใช้ j32 2.5xv อัตราเร่งหายห่วง อาจมีช้าตอนออกตัวเพราะเปน cvt ยุคเเรกเเต่พอลอยตัว มาเอาๆ อัตราสิ้นเปลือง ในเมืองดีสุดคือ 10ครับ ผมอยุ่โซนรถไม่ติด ถ้าติดมากน่าจะลงเหลือ 7-8 นอกเมือง 13 โลลิตร ช่วงล่างนุ่มสบายเบาะสบาย เบรคดีมากๆ ข้อเสียอาจมีบางคันเคลมคอนโซลไม่ได้ เรื่องเกียมีปัญหาก้พอมี เเต่เป็นรถทีประทับใจครับ เเละถ้าคุณวิ่งตจวบ่อยเล่น 250ดีกว่าครับ
-
09-13 เป็นรุ่น J32 ตัว 250 ได้อุปกรณ์โดยเฉพาะความปลอดภัยเยอะกว่า แต่เครื่องยนต์จุกจิกกว่า 200 เพราะเป็น V6 แค่เปลี่ยนหัวเทียนก็รื้อเครื่องชิบหายวายป่วงแล้วครับ ถ้าไม่ชอบความจุกจิกตัว 200 ที่เป็นเครื่อง4สูบจะดีกว่าครับ
-
ที่บ้านมี L33 อยู่คันนึง แต่เป็น 2.0
วิ่งประจำช่วงบางนากิโลเมตรต้นๆรถติดๆไปกลับสีลมทุกวันแถวๆ 8 โลลิตรครับ
ชานเมืองผมว่า 12 น่าจะได้นะครับ
ทางไกลถ้าไม่ใช่ถนนเลนสวนไม่เหนื่อยอะไรครับอย่างน้อยต้องมี 14 โลลิตรครับ
ขับเบาๆ 17 มีให้เห็นครับ
ชอบที่สุดคงช่วงล่างนิ่งนุ่มหนึบ ไม่แข็งไม่เด้ง 140 ก็ยังทำได้ดี เกินนี้ไม่เคยครับ
ที่ไม่ชอบก็คง interior ที่ไม่ premium เท่าที่ควร เฮดรูมกับเลครูมด้านหลังน้อยไปหน่อยครับ ความรู้สึกที่ได้สู้ j32 ไม่ได้ เสียดายพวงมาลัยเบาไปบิดเดียวจริงๆ
วิ่งไป 40,000 โลยังไม่มีอะไรพังครับ
เห็นราคามือสองไม่ว่า 2.0 หรือ 2.5 แล้วอยากเอามาใช้เองเลยครับ
พอๆกับ b seg ป้ายแดง
-
เล่น 250 ไปเลยครับ อาจจะกินน้ำมันมากกว่า แต่ได้ option ครบ ราคามือ2 ไม่น่าต่างกันมาก กับตัว 200
-
ผมใช้ j32 200xL ก่อน MC
ส่วนใหญ่มีแต่คนบอกว่าตัวก่อน
จะมีปัญหาเรื่องน้ำมันเกียร์ร้อน
แต่ผมใช้มา 8 หมื่นโลแล้ว ขับ 130-140 ตลอด
ยังไม่เจอปัญหาเรื่องความร้อนน้ำมันเกียร์
เลยสักครั้งครับ ปัญหาอื่นไม่เคยเจอเลยครับ
ดูแลตามอายุการใช้งาน
ที่น่ารำคาญคือ คอนโซลแตก ครับ
แต่ก็เครมมาใหม่เรียบร้อย ทีแรกจะไม่ให้เครม
นโยบายนิสสันนี่แหละ ที่จะทำให้ลูกค้าย้ายค่าย
-
200 เป็น เครื่องตระกุล MR 4 สูบครับ ส่วน 250เป็นVQ 6 สูบครับในไทยรุ่นใหม่เป็น 4 สูบหมด ไม่มีใช้เครื่องVQแล้วครับ
โดยส่วนตัวแนะนำ ตัว2.5ครับ วิ่งกว่าติดเท้ากว่าครับออกตจว. ขับชิลๆลอยลำสบายครับผม ยิ่งVQ เดินเรียบลากรอบนี้นิ่งสมชื่อเค้าแหละครับ
แนะนำหาตัวMinorchange ครับมีออยเกียร์มาแล้วไม่ต้องไปทำเพิ่ม ส่วนค่าอะไหล่ของนิสสันก็ไม่ถูกครับ และ ก็จุกจิกตามสไตล์
นิสสันอายุเยอะแหละครับ แต่ถ้าเก็บจบๆก็ใช้ได้ยาวครับ รุ่นนี้โดนกันเกือบทั่วหน้าก็คอนโซลแตกครับเคลมได้ เคสบายเคสครับ ไปคุยกับ0เอง
เรื่องอัตราสิ้นเปลื้อง ถ้าวิ่งเร็วๆลอยลำแล้วจากที่ฟังหลายๆคนมาถ้าเทียบกับ2.0 2.5 ดีกว่า2.0นิสนึงครับ คล้ายๆแนวCefiro A33 ครับ 2.0 กินกว่า
3.0 ในเคสทำความเร็วตจว.
-
ที่บ้านมี L33 อยู่คันนึง แต่เป็น 2.0
วิ่งประจำช่วงบางนากิโลเมตรต้นๆรถติดๆไปกลับสีลมทุกวันแถวๆ 8 โลลิตรครับ
ชานเมืองผมว่า 12 น่าจะได้นะครับ
ทางไกลถ้าไม่ใช่ถนนเลนสวนไม่เหนื่อยอะไรครับอย่างน้อยต้องมี 14 โลลิตรครับ
ขับเบาๆ 17 มีให้เห็นครับ
ชอบที่สุดคงช่วงล่างนิ่งนุ่มหนึบ ไม่แข็งไม่เด้ง 140 ก็ยังทำได้ดี เกินนี้ไม่เคยครับ
L33 ได้ถึง 170-180 ครับ ที่ยังรู้สึกเฉยๆ เกินนี้ยังไม่เคยครับ
ผมกลับชอบ 2.5 ลิตร 4 สูบ ประหยัดดีมาก เฉลี่ยวิ่งมา 63,000 กม. เติม จด หาร ออกมาได้ราว 15.13 กม.ลิตร (ขับแบบปกติ เน้นความเร็วตามกฏหมายครับ)
ทาง ตจว.วิ่งทุกเช้า 110 กม. จอดดับเครื่อง หน้าจอโชว์ 17.5-18.5 ตลอด แต่ใช้ความเร็วแค่ 90-105 กม/ชม. เท่านั้นนะครับ
ตัวแลขแบบนี้ คงเพราะ 4 สูบ และ CVT-8 ด้วยประกอบกัน
ไม่ลองดูมือสองตัว L33 บ้างหรือครับ ถ้าไม่นับความดูแพง ของภายในแล้ว ผมว่า สมรรถนะ โดยรวม เครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง ทำได้ดีกว่า J32 ครับ
-
ก่อน mc ห่างกันเยอะ
ถ้าไม่นับ sunroof ก็มีเบาะคู่หน้าไฟฟ้า
Cruise control
ม่านหลัง
Vdm (esp)
หลัง mc ตัว 200xv ได้ที่บอกมาทั้งหมดยกเว้น esp
ส่วนหลัง mc 250 ตัว sunroof ได้ไฟ projector
ออยเกียร์
ตัว navi ก็ได้ navi
ถ้าเล่น mc น่าสนกว่าทุกกรณี
คอนโซล เสียดายมอยู่ดีๆจะแตกก็แตกไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ขนาดของผมจอดในร่มตลอด บทจะแตกก็แตก ไม่มีเหนียวก่อน
เคลมไม่ยาก ถ้าเข้าเงื่อนไข
1.มือแรก
2.เข้าศูนย์ครบ
3.ไม่เกิน 7 ปี
ถ้าไม่มือแรกก็เสียค่าเคลม 50% (ประมาณ 8พันกว่าบาท)
เสียค่าแรงเคลมเอง หมดเลย (ค่าแรงแล้วแต่ศูนย์)
ถ้าเล่นมือ 2 ก็หาที่เจ้าของเดิมเคลมมาแล้ว น่าจะใช้ได้อีกนาน
ช่วงล่างนุ่ม พวงมาลัยน้ำหนักดี ภายในเงียบ ปัญหาจุกจิกนอกจากเคลมโชค กับเกียร์เข้า safemode (250 ก่อน mc) อื่นๆก็ไม่มี
บ้านผมเคลม 2 ต้นหลัง x2 รอบ หมดประกันจับยัด kyb แดง ใช้ยาวๆ
ข้อเสียไม่ชอบคงเป็นที่ใส่ขิงจุกจิกน้อยเหลือเกิน ข้างคนขับ ยัดขวดย้ำไม่ได้ เล็กมาก
วัสดุ ถ้าเทียบ g8 g8 พลาสติกแข็งที่คอนโซลเกือบหมด สู้ได้คง acv 40 แต่ก็ปัญหาคอนโซลเหนียว
-
200 ประหยัดกว่าเยอะโดยเฉพาะในเมือง แค่นั้นที่เหลือไม่มีอะไรดีกว่า250
250 กินน้ำมันมากกว่า แต่อัตราเร่งดีกว่า ออฟชั่นมากกว่า ถุงลมมาครบ แทรคชั่นมี
ใช้วันละ10-30โลวิ่งชานเมือง เดินทางไกลทุกเดือน800KM
เลือก250แบบไม่ต้องลังเลเลยครับ ตัวไมเนอร์ปี12-13 600Kก็ซื้อได้แล้ว
ปัญหาน่าจะมีคอนโซลแตกครับแทบจะทุกคันแต่เคลมได้ ส่วนอื่นๆรอท่านอื่นมาเสริม