Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: DiKiBoyZ ที่ พฤศจิกายน 05, 2017, 16:23:30
-
คิดยังไงกับ รถ ที่ราคาถูกกว่า หรือ seg เล็กกว่า แต่ ออฟชั่น มากกว่าในยี่ห้อเดียว
ไม่ทราบว่าคิดกันอย่างไรบ้าง ซีเรียสไหม
ปล.ผมซีเรียสพอสมควร เหมือนมันไม่ยุติธรรม 555+
-
ผมคิดอย่างเดียว ซื้อรถที่ถูกกว่าคับ 555
-
โดยมากมันจะมาที่เวลาที่ต่างกันครับ อย่างรถรุ่นใหม่ ๆ จะอัดอ๊อพชั่นเข้าไปมากกว่ารถรุ่นก่อน ๆ ไม่ค่อยมีใครทำหรอกที่ขายรถไปแล้วอ๊อพชั่นน้อยลงไปเรื่อย ๆ ส่วนมากมีแต่เพิ่มมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเวลาที่ต่างกันยอมรับได้ซื้อก่อนหลายปีอ๊อชั่นยังไงก็สู้รุ่นใหม่ไม่ได้ ยิ่งรถเล็กอิโคคาร์เดี๋ยวนี้ อ๊อพชั่นยังเยอะกว่ากระบะตัวล่าง ๆ ด้วยซ้ำ แถมราคาก็ถูกกว่ากระบะอีก
-
รถ segment สูงกว่า แต่ ออฟชั่นน้อยกว่า กับ รถที่ segment ต่ำกว่าแต่ออฟชั่นจัดเต็ม
ให้มองว่าบ้าออฟชั่น หรือ ช่อบรถที่ยศสูงกว่าครับ ผมแนะนำว่าถ้าเป็นด้านเงิน รถยศสูงกว่าออฟชั่นน้อยกว่าคุณจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากกว่าครับถ้ามองที่ตัวเงินเป็นหลัก
อารมณ์ เหมือน วีออส ซิตี้ แต่งหมดเป็นล้านมันก็ยังเป็นแค่วีออส ซิตี้ ไม่มีวันเทียบชั้น อัลติสหรือ ซิวิคได้ครับ คนละซีกัน
-
ผมเคยใช้มาทั้งcivic2.0และaltis2.0ซึ่งวันที่ผมออกรถมามันมีออฟชั่นล้นเหลือกว่าaccordและcamry2.0ที่แพงกว่า แต่เชื่อมั๊ยครับว่ามีแต่คนบอกว่าไม่คุ้มให้เพิ่มเงินไปd segที่ใหญ่ขึ้นดีกว่า พอมาวันนี้ผมขยับมาaccord g9 2.0ออกมาได้ปีนึงcityออกตามมามีถุงลม7ใบแอร์จอสัมผัส hrvมีหลังคาแก้ว
สุดท้ายผมก็คิดได้ว่าไม่ว่าจะใช้รุ่นไหนสุดท้ายคุณก็จะรู้สึกว่าเสียเปรียบและอยากได้รถใหม่อยู่ดีเพราะบริษัทรถเขาตั้งใจแบบนั้น555 แต่ถ้าเอาลึกๆจากหัวใจผมชอบรถsegเล็กที่ออฟชั่นล้นมากกว่ารถsegใหญ่แต่ไม่มีอะไรเลยโดยมีข้อแม้ว่ารถsegเล็กคันนั้นมันต้องใหญ่พอให้คนสูง180สี่คนนั่งสบายเพราะรถผมเป็นรถสำหรับคนทั้งครอบครัว
-
มันแปลกตรงไหน มันก็เป็นไปตามยุคสมัย
ที่รถรุ่นต่ำกว่า ถูกกว่า แต่ Option เยอะกว่า ก็เพราะมันเพิ่งออกใหม่ เพิ่งเปลี่ยนโฉมใหม่ ตัวถังใหม่
เดี๋ยวรุ่นสูงกว่า ถึงวันมันออกรุ่นใหม่ เดี๋ยว Option พวกนั้น มันก็มามีให้เหมือนกันอยู่ดี เพราะถ้าไม่มี มันก็จะขายไม่ออก เพราะคู่แข่งรุ่นอื่นๆ เค้าก็ใส่มาให้หมดแล้ว
มันเป็นไปตามยุคสมัย ตามกาลเวลา มันต้องเดินหน้า ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่มีถอยหลังลงคลองหรอกครับ
-
ถ้าดูแต่ออฟชั่นก็ตามนั้นครับ
แต่ถ้ามีเรื่องการเก็บเสียง ความผ่อนคลาย เบาะนั่ง ความสบายตอนขับทางไกล ความหนักแน่นมั่นคงในความเร็วสูง มาเกี่ยวข้อง
segment สูงกว่ามักจะทำได้ดีกว่าดีกว่าแม้ออฟชั่นจะน้อยกว่า (ยกเว้น Mazda ที่รถ seg ต่ำกว่าเก็บเสียงดีกว่า seg สูงๆ ในยี่ห้อเดียวกัน ;D)
-
ขอ c seg เป็นต้นไปบะกัน
-
ผมเคยใช้มาทั้งcivic2.0และaltis2.0ซึ่งวันที่ผมออกรถมามันมีออฟชั่นล้นเหลือกว่าaccordและcamry2.0ที่แพงกว่า แต่เชื่อมั๊ยครับว่ามีแต่คนบอกว่าไม่คุ้มให้เพิ่มเงินไปd segที่ใหญ่ขึ้นดีกว่า พอมาวันนี้ผมขยับมาaccord g9 2.0ออกมาได้ปีนึงcityออกตามมามีถุงลม7ใบแอร์จอสัมผัส hrvมีหลังคาแก้ว
สุดท้ายผมก็คิดได้ว่าไม่ว่าจะใช้รุ่นไหนสุดท้ายคุณก็จะรู้สึกว่าเสียเปรียบและอยากได้รถใหม่อยู่ดีเพราะบริษัทรถเขาตั้งใจแบบนั้น555 แต่ถ้าเอาลึกๆจากหัวใจผมชอบรถsegเล็กที่ออฟชั่นล้นมากกว่ารถsegใหญ่แต่ไม่มีอะไรเลยโดยมีข้อแม้ว่ารถsegเล็กคันนั้นมันต้องใหญ่พอให้คนสูง180สี่คนนั่งสบายเพราะรถผมเป็นรถสำหรับคนทั้งครอบครัว
เห็นภาพก็ตรงถุงลม 7 ใบนี่ล่ะครับ 555
มันแปลกตรงไหน มันก็เป็นไปตามยุคสมัย
ที่รถรุ่นต่ำกว่า ถูกกว่า แต่ Option เยอะกว่า ก็เพราะมันเพิ่งออกใหม่ เพิ่งเปลี่ยนโฉมใหม่ ตัวถังใหม่
เดี๋ยวรุ่นสูงกว่า ถึงวันมันออกรุ่นใหม่ เดี๋ยว Option พวกนั้น มันก็มามีให้เหมือนกันอยู่ดี เพราะถ้าไม่มี มันก็จะขายไม่ออก เพราะคู่แข่งรุ่นอื่นๆ เค้าก็ใส่มาให้หมดแล้ว
มันเป็นไปตามยุคสมัย ตามกาลเวลา มันต้องเดินหน้า ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่มีถอยหลังลงคลองหรอกครับ
ไม่เสมอไปว่ารถรุ่นใหม่ จะออฟชั่นเยอะเสมอไปครับ เอายี่ห้อที่ผม quote มา ของท่านบนเอ่ยละกัน คือ Honda นี่ล่ะ อย่าง HRV มี sunroof มาตั้งแต่กี่ปีล่ะครับ รุ่นพี่อย่าง CRV ไม่ว่าออกปีเดียวกันกับ HRV หรือแม้กระทั้ง G5 ตัวปัจจุบัน ยังไม่มีเลย เป็นต้น 555😆😆
ปล.เข้าใจครับว่าคนล่ะ seg มันเทียบกันไม่ได้ แต่ก็น่าจะให้คุ้มๆ หน่อย 💰 💵
-
เหมือน city sv+กับ civic 1.8e ผมเลือกcityเพราะถุงลมมากกว่า แค่นั้น แต่มาตอนนี้ยังเสียดายน่าจะเลือก civic 1.8e เพราะยังไงcivjcก็คือcivic ดูดีกว่าcityคันใหญ่กว่า
-
ผมมี altis ปี2010 มาซื้อ jazz ปี2015 สาเหตุ ด้วยอยากประหยัดเงิน แล้วอยากได้รถที่ขนของเพิ่มได้อีกคัน พอใช้ jazz ผมอยากกลับไปขับ altis มากกว่า ภาพรวมการขับขี่ดีกว่านะ แต่ jazz ก็เจอข้อดีของมันเวลาขับไปตลาด หาที่จอดง่าย น้ำหนักพวงมาลัยดีกว่า ขนของได้เพียบ แม้ว่าในเวลาปีกว่า จะมีโอกาศขนของไป1ครั่้ง ออฟชั่นที่เยอะกว่า มองว่า ซื้อรถให้ตรงจุดประสงค์กับความต้องการของเราดีกว่า แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมคงจะไปซื้อ hrv แทนนะ ด้วยความอยากประหยัดเปนเหตุ jazz ช่วงล่างด้านหลังดีดเด้ง ตึงตังมาก
-
ถ้ารถปีเดียวกัน ผมว่าไม่ควรจะให้รุ่นเล็กมี option ที่แพรวพราวกว่ารุ่นสูงครับ เพราะ มันจะทำให้ลูกค้าเกิดลังเลในตัวสินค้า เสียความรู้สึกต่อแบรนด์ไปเลย เช่น CR-V ไม่มีหลังคาแก้วหรือ HR-V ตัว 2015 ได้วิทยุที่ดีกว่า 2017 มาก ถ้าเราเป็นลูกค้าเจอแบบในเคสนี้ก็คงลังเลเหมือนกัน
ถ้าเทียบสีเป็น option ด้วย มาสด้า 2 มีสีที่เยอะกว่า CX-5 แถมสีขาวก็ได้เป็นสีขาวธรรมดา แต่มาสด้า 2 ได้สีขาวมุก
ผมยังเกิดหงุดหงิดเลยว่าทำไมตัวบนถึงขาด option บางอย่างที่ตัวเล็กมีให้ ถ้ามีก็ควรมีให้เหมือนกันครับ
-
ขึ้นอยู่กับ option นั้นๆครับว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหนครับ
-
รถเล็ก OPTION เยอะ เพราะตลาดแข่งดุเดือด ตลาดกำลังขยายตัว จัดมาเต็ม ๆ ได้เปรียบกว่าทันที ลูกค้ากลุ่มนี้ มองตรงนี้สำคัญ รถเล็กเปิดต้วใหม่ ๆ Option จึงเยอะกว่า รถยี่ห้อเดียวกัน เปิดตัวก่อน Option น้อย เปิดตัวหลัง Option เยอะ แม้แต่ในยี่ห้อเดียวกันก็เหมือนกัน แต่ก็มีบางยี่ห้อ ที่ทุกคนก็เดาออกว่าใคร เปิดตัวรุ่นใหม่ มีเพิ่ม Option บางอย่าง แต่ก็ตัดบางอย่างที่สำคัญออก
รถขนาดที่ใหญ่ขึ้น คนซื้อพิจารณาความสบายในการขับขี่ การนั่ง Option ไปเพิ่มที่ความหรูหรามากกว่า แต่ Option จำเป็นน้อยลง อย่างเห็นชัด ๆ ATIV เครื่อง 1200 มีครบทั้ง VSC BA ABS ถุงลม 7 ใบ มาดูรุ่นที่เปิดตัวก่อน เช่น VIOS มีไหม ถุงลม 7 ใบ มีครบ VSC BA etc . มาดู ALTIS หน้าแบน ก่อนโฉมปัจจุบัน มีอะไรบ้าง แล้วยิ่ง CAMRY สักปี 2013 ผ่านมา 4 ปี มีอะไรบ้าง ยิ่ง ECO มิตซู ได้ค่อนข้างมาก เพราะตลาดรุ่นใหญ่ขึ้น ลูกค้ามองส่วนอื่นมากกว่า OPTION รูปลักษณ์ ความหรูหรา หน้าตา
-
ไม่คิดอะไรครับ ไม่ซีเรียส คิดแค่ว่ารถ segment ที่จะซื้อมีออฟชั่นพอกับที่ต้องการมั้ยแค่นั้นครับ เพราะต่อให้รุ่นล่างมีออฟชั่นล้นๆที่ชอบ แต่ตัวรถมันไม่ตรงกับความต้องการก็ไม่คิดจะซื้ออยู่ดีครับ
หลักๆคือดูรถ segment ที่ใช่ก่อน ดูเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อ เลือกที่ใช่สำหรับเราตามจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละคัน จากนั้นเลือกรุ่นที่มีออฟชั่นที่ต้องการครบๆครับ ถ้าออฟชั่นที่ต้องการไม่ครบ หรือตัวที่ครบนั้นพิจารณาแล้วว่าแพงเกินไปเยอะเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ผมก็รอต่อไปครับ
-
เฉยๆครับ ไม่ซีเรียส
ไม่มีผลอะไรกับชีวิต
-
ถ้ารถปีเดียวกัน ผมว่าไม่ควรจะให้รุ่นเล็กมี option ที่แพรวพราวกว่ารุ่นสูงครับ เพราะ มันจะทำให้ลูกค้าเกิดลังเลในตัวสินค้า เสียความรู้สึกต่อแบรนด์ไปเลย เช่น CR-V ไม่มีหลังคาแก้วหรือ HR-V ตัว 2015 ได้วิทยุที่ดีกว่า 2017 มาก ถ้าเราเป็นลูกค้าเจอแบบในเคสนี้ก็คงลังเลเหมือนกัน
ถ้าเทียบสีเป็น option ด้วย มาสด้า 2 มีสีที่เยอะกว่า CX-5 แถมสีขาวก็ได้เป็นสีขาวธรรมดา แต่มาสด้า 2 ได้สีขาวมุก
ผมยังเกิดหงุดหงิดเลยว่าทำไมตัวบนถึงขาด option บางอย่างที่ตัวเล็กมีให้ ถ้ามีก็ควรมีให้เหมือนกันครับ
อันนี้ก็จริงครับ แอบงงนิดๆ
รถเล็ก OPTION เยอะ เพราะตลาดแข่งดุเดือด ตลาดกำลังขยายตัว จัดมาเต็ม ๆ ได้เปรียบกว่าทันที ลูกค้ากลุ่มนี้ มองตรงนี้สำคัญ รถเล็กเปิดต้วใหม่ ๆ Option จึงเยอะกว่า รถยี่ห้อเดียวกัน เปิดตัวก่อน Option น้อย เปิดตัวหลัง Option เยอะ แม้แต่ในยี่ห้อเดียวกันก็เหมือนกัน แต่ก็มีบางยี่ห้อ ที่ทุกคนก็เดาออกว่าใคร เปิดตัวรุ่นใหม่ มีเพิ่ม Option บางอย่าง แต่ก็ตัดบางอย่างที่สำคัญออก
รถขนาดที่ใหญ่ขึ้น คนซื้อพิจารณาความสบายในการขับขี่ การนั่ง Option ไปเพิ่มที่ความหรูหรามากกว่า แต่ Option จำเป็นน้อยลง อย่างเห็นชัด ๆ ATIV เครื่อง 1200 มีครบทั้ง VSC BA ABS ถุงลม 7 ใบ มาดูรุ่นที่เปิดตัวก่อน เช่น VIOS มีไหม ถุงลม 7 ใบ มีครบ VSC BA etc . มาดู ALTIS หน้าแบน ก่อนโฉมปัจจุบัน มีอะไรบ้าง แล้วยิ่ง CAMRY สักปี 2013 ผ่านมา 4 ปี มีอะไรบ้าง ยิ่ง ECO มิตซู ได้ค่อนข้างมาก เพราะตลาดรุ่นใหญ่ขึ้น ลูกค้ามองส่วนอื่นมากกว่า OPTION รูปลักษณ์ ความหรูหรา หน้าตา
ใช่ครับ เดี๋ยวนี้ eco ออฟชั่นแพรวพราวมาก eco มีเตือนชนด้านหน้ากันแล้ว ถึงจะเป็นกล้องก็ดหอะ เหลือแต่ radar มาลง
เฉยๆครับ ไม่ซีเรียส
ไม่มีผลอะไรกับชีวิต
จริงเหรอครับ ออฟชั่นที่พูดถึง ไม่ได้มุ่งแค่ วิทยุ ซีดี ไฟแสงสี นะครับ อย่างท่านบนๆ พูดถึงรวมไปถึงระบบความปลอดภัย ถุงลม traction หรืออื่นๆ ด้วยน่ะครับ
ซึ่งผมว่าพวกนี้มีผลกับชีวิตมากมายเลย ถ้ายังใช้รถ หรือ ชีวิตยังอยู่หลังพวงมาลัย
-
เฉยๆครับ ไม่ซีเรียส
ไม่มีผลอะไรกับชีวิต
จริงเหรอครับ ออฟชั่นที่พูดถึง ไม่ได้มุ่งแค่ วิทยุ ซีดี ไฟแสงสี นะครับ อย่างท่านบนๆ พูดถึงรวมหปถึงระบบความปลอดภัย ถุงลม traction หรืออื่นๆ ด้วยน่ะครับ
ซึ่งผมว่าพวกนี้มีผลกับชีวิตมากมายเลย ถ้ายังใช้รถ หรือ ชีวิตยังอยู่หลังพวงมาลัย
[/quote]
จริงครับ
ก็ตามที่เมนท์
ไม่ซีเรียสและไม่มีผลอะไรกับชีวิต
-
ทำให้ยิ่งรักพี่เสียดายน้องหนักกว่าเดิมครับ
ประมาณว่าตัวเล็กครบ แต่เครื่องไม่แรง ภายนอกดูไม่ดี
ตัวโตกว่า ภายนอกดูดี เครื่องแรงกว่า แต่ดันไม่ครบ
จะมาพร้อมความคิดที่ว่า ทำไมมันจัดมาให้ครบๆ แพงหน่อยก็ยอมละ
-
ถ้ารถปีเดียวกัน ผมว่าไม่ควรจะให้รุ่นเล็กมี option ที่แพรวพราวกว่ารุ่นสูงครับ เพราะ มันจะทำให้ลูกค้าเกิดลังเลในตัวสินค้า เสียความรู้สึกต่อแบรนด์ไปเลย เช่น CR-V ไม่มีหลังคาแก้วหรือ HR-V ตัว 2015 ได้วิทยุที่ดีกว่า 2017 มาก ถ้าเราเป็นลูกค้าเจอแบบในเคสนี้ก็คงลังเลเหมือนกัน
ถ้าเทียบสีเป็น option ด้วย มาสด้า 2 มีสีที่เยอะกว่า CX-5 แถมสีขาวก็ได้เป็นสีขาวธรรมดา แต่มาสด้า 2 ได้สีขาวมุก
ผมยังเกิดหงุดหงิดเลยว่าทำไมตัวบนถึงขาด option บางอย่างที่ตัวเล็กมีให้ ถ้ามีก็ควรมีให้เหมือนกันครับ
อันนี้ก็จริงครับ แอบงงนิดๆ
รถเล็ก OPTION เยอะ เพราะตลาดแข่งดุเดือด ตลาดกำลังขยายตัว จัดมาเต็ม ๆ ได้เปรียบกว่าทันที ลูกค้ากลุ่มนี้ มองตรงนี้สำคัญ รถเล็กเปิดต้วใหม่ ๆ Option จึงเยอะกว่า รถยี่ห้อเดียวกัน เปิดตัวก่อน Option น้อย เปิดตัวหลัง Option เยอะ แม้แต่ในยี่ห้อเดียวกันก็เหมือนกัน แต่ก็มีบางยี่ห้อ ที่ทุกคนก็เดาออกว่าใคร เปิดตัวรุ่นใหม่ มีเพิ่ม Option บางอย่าง แต่ก็ตัดบางอย่างที่สำคัญออก
รถขนาดที่ใหญ่ขึ้น คนซื้อพิจารณาความสบายในการขับขี่ การนั่ง Option ไปเพิ่มที่ความหรูหรามากกว่า แต่ Option จำเป็นน้อยลง อย่างเห็นชัด ๆ ATIV เครื่อง 1200 มีครบทั้ง VSC BA ABS ถุงลม 7 ใบ มาดูรุ่นที่เปิดตัวก่อน เช่น VIOS มีไหม ถุงลม 7 ใบ มีครบ VSC BA etc . มาดู ALTIS หน้าแบน ก่อนโฉมปัจจุบัน มีอะไรบ้าง แล้วยิ่ง CAMRY สักปี 2013 ผ่านมา 4 ปี มีอะไรบ้าง ยิ่ง ECO มิตซู ได้ค่อนข้างมาก เพราะตลาดรุ่นใหญ่ขึ้น ลูกค้ามองส่วนอื่นมากกว่า OPTION รูปลักษณ์ ความหรูหรา หน้าตา
ใช่ครับ เดี๋ยวนี้ eco ออฟชั่นแพรวพราวมาก eco มีเตือนชนด้านหน้ากันแล้ว ถึงจะเป็นกล้องก็ดหอะ เหลือแต่ radar มาลง
เฉยๆครับ ไม่ซีเรียส
ไม่มีผลอะไรกับชีวิต
จริงเหรอครับ ออฟชั่นที่พูดถึง ไม่ได้มุ่งแค่ วิทยุ ซีดี ไฟแสงสี นะครับ อย่างท่านบนๆ พูดถึงรวมหปถึงระบบความปลอดภัย ถุงลม traction หรืออื่นๆ ด้วยน่ะครับ
ซึ่งผมว่าพวกนี้มีผลกับชีวิตมากมายเลย ถ้ายังใช้รถ หรือ ชีวิตยังอยู่หลังพวงมาลัย
Radar รอดู swift เลยครับ จะเอามาลงไหม เพราะตัวญี่ปุ่นมี
-
รถรุ่นใหม่ๆบางค่าย ก็มีออปชั่นติดตัวมาเยอะพอตัว อัดออปชั่นความปลอดภัยมาครบทุกรุ่นย่อย ผู้บริโภคก็ได้เลือกรถที่มีอุปกรณ์ครบๆไม่กั๊ก
ค่ายอื่นๆก็ต้องปรับตัว ปรับออปชั่นให้กับรถในค่าย หรือบางค่าย ดูจะมั่นอกมั่นใจในสินค้าของตัวเองมาก ออปชั่นโล้นๆ แต่ก็ขายได้เรื่อยๆ
-
ผมซื้อรถไม่เคยมองออพชั่น มีแค่หน้าต่างขึ้นลงไฟฟ้าพอ อย่างอื่นไม่มีก็ไม่สน
อย่างอื่นเอามาใส่เองได้ถ้าอยากได้ วิทยุ จอ กล้อง ABS SRS
น่าจะยังมีคนแบบผมเหลืออยู่อีกไม่มาก
-
ผมคนนึงล่ะ ที่ซื้อรถ ไม่มอง option แต่มองสมรรถนะของมันครับ
ครั้งนึง เคยจะซื้อ City (ตัวที่แล้ว) ก็เลยยืม Jazz GE พ่อมาขับ ... ขับแล้วก็อืมมม รับไม่ได้แฮะ มันเล็ก มันอึดอัด มันไม่คล่องตัว ไม่สะดวกเหมือน space wagon (รุ่นแรก) ของผม
ก็เลยตัดสินใจซื้อ Civic S A/T ที่แม้แต่ ABS ยังไม่มี ก็พอใจนะ รถเกาะถนนดีกว่า เบาะนั่งสบายกว่า ขับดีกว่าเยอะเลยครับ
...................
หรือ ทุกวันนี้ ใช้ CRV G3 2.0S ถูกสุดขับสอง กับ Pulsar 1.6 DIG Turbo
เชื่อไหมว่า เวลาจะเดินทางไกล ผมเลือกที่จะขับ CRV ครับ ยังไงก็จะเอา CRV ไป เพราะเดินทางไกล รถมันดีดน้อยกว่า เพลียน้อยกว่าเยอะ ขับไกลๆความเร็ว 100 - 110 ผมจับพวงมาลัยมือขวามือเดียว มือซ้ายวางเท้าแขน เพราะพวงมาลัยมันหนัก รถมันนิ่ง แม้แต่หักหลบฉุกเฉินด้วยมือขวามือเดียวก็ทำมาแล้ว (อีกมือ เอาขึ้นไม่ทัน)
ทั้งที่ Pulsar มีระบบช่วยการทรงตัว ถุงลม 6 ใบ ด้วยนะ แต่ไม่รู้สิ ขับ CRV เหนื่อยน้อยกว่า สบายกว่า และ รู้สึกปลอดภัยกว่า กลายเป็น Pulsar ไว้ขับมาทำงานวันละ 8 กม. 555+ (เครื่องเทอร์โบ ไว้ สวนกระบะซิ่ง แถวโรงงานเล่น แค่นั้นแหละ)
-
ผมเฉยๆครับ ไม่มีผลอะไร
ที่บ้าน มีทั้งอัลติส 1.6G MC17 และ โน้ต 1.2 VL ราคาห่างกันสองแสนนิดๆ และรถก็คนละ Seg ด้วย
โน้ตมีระบบเตือนก่อนชน / เตือนออกนอกเลน / เบรคอัตโนมัติ ทั้งคนและรถ / ไอเดล สต็อป / แอร์ออโต้
อัลติสมีถุงลม 7 ใบ แอร์มือหมุน นอกนั้นก็เหมือนๆกัน
ถ้ามองแค่อุปกรณ์ อัลติสด้อยกว่าแน่ๆ
แต่สิ่งที่อัลติสได้ คือ ตัวรถที่ใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า นิ่งกว่า ขับทางไกลมั่นใจกว่า นั่งสบายกว่า วิ่งได้เร็วและแซงได้ดีกว่า
และความเกรงใจบนถนน ที่อัลติสทำได้ดีกว่า
ผมถึงไม่ซีเรียสไงครับ ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง เป็นเรื่องธรรมดา
-
คิดว่า ภาครัฐ ทำถูกแล้วที่ให้กำเนิดรถ Eco Car มาเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
เพราะสิ่งที่ผู้บริโภค เสียไปคือแค่กำลังเครื่อง
แต่นอกนั้น คือประโยชน์ทั้งสิ้น
ทั้งออพชั่น และราคา
-
ถ้ายี่ห้อเดียวกัน ส่วนตัวผมเฉยๆไม่ซีเรียส
เพราะถ้าซื้อเซ็กเม้นสูงกว่าแต่เป็นตัวเบสหรือตัวกลาง ออฟชั่นรวมๆมันสู้เซ็กเม้นที่ต่ำกว่าแต่เป็นตัวท็อปไม่ได้อยู่แล้ว
ในเมื่อคุณเองยอมเพิ่มเงินอีกไม่เยอะมากเพื่อรถที่ดีกว่าในภาพรวมยังไงก็ต้องยอม นอกจากจะตัวท็อปเลยแต่ตัวท็อปมันก็จัดล้นกว่าอยู่แล้ว
-
HRV top มี panoramic moonroof แต่ผมออก crv ดีเซลขับสี่ ตอนแรกก็เคืองเหมือนกันอยากได้ moonroof ยิ่งเมื่อวานแถวบ้านผมอากาศดีมากยิ่งเคือง 555
-
ผมซื้อรถไม่เคยมองออพชั่น มีแค่หน้าต่างขึ้นลงไฟฟ้าพอ อย่างอื่นไม่มีก็ไม่สน
อย่างอื่นเอามาใส่เองได้ถ้าอยากได้ วิทยุ จอ กล้อง ABS SRS
น่าจะยังมีคนแบบผมเหลืออยู่อีกไม่มาก
เห็นด้วยครับ ยังเหลือผมอีกคนนึงที่คิดคล้ายๆ กัน
-
ถ้าทำใจไม่ได้ ก็รอครับ รอให้รุ่นที่อยากได้ ปรับ option ต่างๆก่อน แต่ราคาก็อาจจะปรับด้วยนะ
-
ถ้ายี่ห้อเดียวกัน ส่วนตัวผมเฉยๆไม่ซีเรียส
เพราะถ้าซื้อเซ็กเม้นสูงกว่าแต่เป็นตัวเบสหรือตัวกลาง ออฟชั่นรวมๆมันสู้เซ็กเม้นที่ต่ำกว่าแต่เป็นตัวท็อปไม่ได้อยู่แล้ว
ในเมื่อคุณเองยอมเพิ่มเงินอีกไม่เยอะมากเพื่อรถที่ดีกว่าในภาพรวมยังไงก็ต้องยอม นอกจากจะตัวท็อปเลยแต่ตัวท็อปมันก็จัดล้นกว่าอยู่แล้ว
+1
แต่ละsegmentก็จะมีหลายเกรดหลายราคา เอาตัวtopมาเทียบกัน ยังไงoption segmentสูงกว่าก็มากกว่าหรือเท่ากันอยู่ดี
อยากได้optionดีๆก็ดูตามกำลังเงินเลยครับ เงินน้อยแต่อยากได้มากก็เล่นsegmentเล็กๆไป