Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: chaithawat ที่ พฤศจิกายน 12, 2017, 14:12:23
-
กฏหมายเมืองไทยถนนหลวงจำกัดความเร็วไว้ที่ 90km/hr น้อยไปหรือไม่แล้วคิดว่าจะมีปัญหาจราจรสะสมหรือเปล่าครับ แล้วขับกันเท่าไรกับถนน 8-10 เล่นโล่งๆที่จำกัดไว้ 90 อย่างเพชรเกษมช่วงจังหวัดเพชรบุรี ประจวบ สุพรรณ หรือใกล้ๆกรุงอย่างถนนนครอินทร์ที่แจกใบสั่งว่อนไปครึกโครมช่วงนึง
-
เร็วไป หรือ ช้าไปมันแล้วแต่บุคคล
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มันทำให้ผมเก็บตังค์ไว้เที่ยวต่างประเทศอย่างเดียวเลยครับ
เมื่อก่อน ผมกับเด็กๆ จะไปเที่ยวทั่วไทยตลอดครับ
ผมตั้งงบเที่ยวไว้เดือนละ 6,000++ ไปหัวหิน พัทยา สวนผึ้ง กาญจนบุรี ทุกเดือนเลย เดือนละครั้ง
หรือบางทีครึ้มอกคนึ้มใจก็ล่อเชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช อะไรแบบนั้นเลย
บางครั้งก็ขับแบบไปเช้าเย็นกลับ ประมาณว่า ลูกอยากไปสวนสัตว์ ผมก็จัดเขาเขียวให้เลยแทรกมาในเดือน
ตั้งแต่เค้าเอาจริงกับการจับความเร็ว ผมก็เลิกเที่ยวเลยครับ เลิกเที่ยวไทยมา 2 ปีกว่าแล้ว
การจำกัดความเร็วมันไม่ใช่ส่งผลแค่การทำเวลาโดยส่วนตัวไม่ได้อย่างเดียวนะครับ
เจอรถช้าแช่ขวาเอย อะไรอีกสารพัด มันเลยทำให้เมืองใกล้ๆที่ผมไป ดูไกลไปเลย
เมื่อก่อนไปเมืองใกล้ๆใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
เดี๋ยวนี้เหรอ ขนาดขับตัวแรงไป ยังต้องมี 3 ชั่วโมงเป็นบางครั้ง
จากเมื่อก่อนเคยสนุกกับการขับรถ เดี๋ยวนี้กลายเป็นเบื่อและเหนื่อยกับการเดินทางไปโดยปริยาย
ชาติเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไทยของครอบครัวผมซัก 1 ครอบครัวคงไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ถ้ามีคนคิดแบบผมซัก 1000-10000 ครอบครัว แถมเงินหายไปอยู่เมืองนอกด้วย ก็เยอะเหมือนกัน
แต่ผมว่าสำหรับคนขับช้า เค้าก็ไม่ขยันเที่ยวแบบผมอยู่แล้ว เจอสถานการณ์ตอนนี้ยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่
เดี๋ยวนี้ผมเก็บงบก้อนนั้นไว้เที่ยว ฮ่องกง มาเล สิงคโปร์ ตอนเด็กๆปิดเทอมปีละ 2 ครั้งครับ ปีไหนได้ค่าขนมเยอะหน่อยก็ญี่ปุ่น หรือยุโรปเลย
คหสต.และมโนเองล้วนๆครับ อย่าซีเรียส ^^
-
นครอินทร์เดี๋ยวนี้ก็ยังแจกอยู่ มีทางเลี่ยงเมืองสระบุรีก็แจกที่ 110 ครับ ส่วนตัวผมว่า 100-120 กำลังดีครับ
-
;) 90 แล้วแต่ถนนเลยครับ
ถ้าชุมชนถนนกึ่งๆสองเลนสวน (มีรถจอดข้างทาง) ก็ถือว่าเร็วละ
ออกนอกเมืองสองเลนมีเกาะกลางก็ถือว่าธรรมดา ควรแกการวิ่งซ้ายเพราะมีรถเร็วกว่าแน่นอน
ยกตัวอย่างเส้นกาญจนา บางบัวทองบางปะอิน ผมวิ่งอยู่ที่ 100-120 ไม่เกินนี้
ช่วงนี้น่าเบื่อมาก เหมือนที่ด้านบนบอกเลย ขับรถไม่สนุก
เจอทั้งรถบรรทุก รถกระบะทุกเกิน รถขับชิวตามป้ายความเร็ว มาแช่ขวากันหมด ไม่มีการหลบเลย
พอแซงซ้ายถนนก็นรกอีก - -
เท่าที่สังเกตุ ทำให้รถติดสะสมแน่นอน 100%%%%%% ครับ เพราะพอผ่านกลุ่มพวกนี้ไปแล้ว
ถนนโคตรจะโล่ง
-
ถ.นครอินทร์ จ.นนทบุรี. ไม่เกิน80นะ. เคยโดนใบสั่งที่ความเร็ว105
-
มาตรฐานสากลช้าหรือเร็วมันขึ้นกับสภาพแวดล้อมครับ เช่น ถนนมีรั้วกัน มีทางแยก มีไฟแดง มีบ้านคนหรือไม่
ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับถนนโล่ง หรือถนนหลายเลน หรือบางท่านบอกรถแรงม้ามาก ให้วิ่งได้แค่ 100 เดียว
ลองไปประเทศเจริญแล้ว แล้วจะรู้เองว่าเมืองไทยคุณขับรถได้เร็วมากแล้วครับ
-
สำหรับบริบทสังคมไทย ถนนเมืองไทย นิสัยการใช้ถนนแบบคนไทย ผมคิดว่าอย่าเพิ่มความเร็วอีกเลยครับ
เวลาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง พวกเราก็มันจะบอกว่า (คนอื่น) ขับเร็วเกินไป อยากให้ตำรวจกวดขัน
แต่เวลาเราขับเอง เราก็อยากขับเร็ว ๆ และอยากให้แก้กฏหมายให้ขับได้เร็วขึ้นอีกโดยไม่ต้องถูกจับกุม
ผลก็เป็นอย่างที่เห็น แชมป์โลกคงอยู่อีกไม่ไกลครับ
ความเร็วกับอุบัติเหตุสัมพันธ์กันอย่างไร เหนื่อยที่จะเถียง แต่ที่แน่ ๆ ความเร็วมันสัมพันกับความรุนแรงของอุบัติเหตุแน่ ๆ
ขอโทษด้วยถ้าความเห็นไม่เป็นที่ถูกใจ ผมแค่อยากใช้ถนนร่วมกับพวกพี่ ๆ อย่างปลอดภัยครับ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_623214
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_626874
-
บ้านผมอยู่จังหวัดชายขอบทางอีสาน มากทม.ที ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 9 ชม. โคตรเหนื่อย เวลาคนอีสานไปเยี่ยมญาติต้องมีข้าวสารอาหารแห้งไปฝากญาติๆ ขับเร็วไม่ได้ เพราะเคยมีใบสั่งมาที่บ้าน โดนแถวสระบุรีไป 1000 วิ่ง 112 เอง ในขณะที่ 10 ล้อวิ่งกัน 80-90
ถ้าเกิดว่าจำกัดความเร็วไว้ที่ 120 ก็คงดี หรือถนน 4 เลน แบบมีทางคู่ขนาน มีสะพานกลับรถ น่าจะเพิ่มความเร็วได้มากกว่านี้ เพราะบางที 120 ยังมีคนแซงเฉยเลย ไม่น้อยคันด้วย แต่บริเวณชุมชนจะจำกัดไว้ก็เข้าใจได้
แต่ก่อนทำงานที่ชลบุรี กลับอีสานทางเขาปักก็อัดเต็มที่ ถนนโล่งมาก ดีว่าไม่มีกล้อง ระยะทาง 600 กม. วิ่ง7ชม.เองสบายๆ รถเยอะก็ผ่อน ทางโล่งก็เหยียบ
เอาจริงๆ ถ้าขับแบบมีวินัย แม้จะไม่จำกัดความเร็วอุบัติเหตุก็น้อยครับ แต่คนไทยไม่รู้จักให้ทาง ใช้สัญญาณไฟไม่เป็น ไม่มองกระจก คิดแต่ว่าคนอื่นเขาจะเบรคให้ นั่นต่างหากครับที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
-
สำหรับบริบทสังคมไทย ถนนเมืองไทย นิสัยการใช้ถนนแบบคนไทย ผมคิดว่าอย่าเพิ่มความเร็วอีกเลยครับ
เวลาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง พวกเราก็มันจะบอกว่า (คนอื่น) ขับเร็วเกินไป อยากให้ตำรวจกวดขัน
แต่เวลาเราขับเอง เราก็อยากขับเร็ว ๆ และอยากให้แก้กฏหมายให้ขับได้เร็วขึ้นอีกโดยไม่ต้องถูกจับกุม
ผลก็เป็นอย่างที่เห็น แชมป์โลกคงอยู่อีกไม่ไกลครับ
ความเร็วกับอุบัติเหตุสัมพันธ์กันอย่างไร เหนื่อยที่จะเถียง แต่ที่แน่ ๆ ความเร็วมันสัมพันกับความรุนแรงของอุบัติเหตุแน่ ๆ
ขอโทษด้วยถ้าความเห็นไม่เป็นที่ถูกใจ ผมแค่อยากใช้ถนนร่วมกับพวกพี่ ๆ อย่างปลอดภัยครับ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_623214
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_626874
เรื่องความเร็ว เป็นองค์ประกอบบนึง ของการเกิดอุบัติเหตุแน่ๆ ครับ ผมไม่เถียง
แต่สาเหตุที่ไทยติดอันดับต้นๆ ของโลก ของการเกิดอุบัติเหตุ มันยังมีอีกหลายปัจจัยครับ เช่น สภาพรถไม่สมบูรณ์ โช๊ค ช่วงล่าง เบรก ไฟท้ายไม่มี อื่นๆ
และก็พื้นฐานการเลี้ยงดูแบบไทยๆ ตั้งแต่เด็ก เช่น ลูกวิ่งชนโต๊ะ พ่อแม่ก็ไปตีโต๊ะ นี่แน่ะ โต๊ะมันทำลูกแม่ แม่ตีให้แล้วนะ โอ๋ๆ ลูกไม่ต้องร้องนะ
พอโตขึ้น ขับรถไปชน ก็ไม่โทษตัวเอง ไปโทษสีโฉลก เลขทะเบียน อายุเบญจเพส โทษทุกอย่างที่ไม่ใช่ตัวเอง
เมื่อคิดว่าตัวเองไม่ได้ผิดพลาด ก็ไม่ต้องแก้ไขตัวเอง เมื่อไม่แก้ไข มันก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุซ้ำๆ ครับ
ปล.ขออภัย ถ้าความเห็นผมไม่ถูกใจใคร แค่อยากให้ใช้เหตุผลครับ
-
90 km ก็เพียงพอครับ บางถนนในชุมชนหรือทางโค้งหรือบนภูเขา ยังต้องลดความเร็วเลย
คือถนนกับความเร็วเขาออกแบบมากลาง ๆ รถสมรรถนะสูงกว่าสามารถทำได้ แต่มันต้องออกกฎหมายด้วยค่าเฉลี่ยกลาง ๆ
-
สำหรับบริบทสังคมไทย ถนนเมืองไทย นิสัยการใช้ถนนแบบคนไทย ผมคิดว่าอย่าเพิ่มความเร็วอีกเลยครับ
เวลาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง พวกเราก็มันจะบอกว่า (คนอื่น) ขับเร็วเกินไป อยากให้ตำรวจกวดขัน
แต่เวลาเราขับเอง เราก็อยากขับเร็ว ๆ และอยากให้แก้กฏหมายให้ขับได้เร็วขึ้นอีกโดยไม่ต้องถูกจับกุม
ผลก็เป็นอย่างที่เห็น แชมป์โลกคงอยู่อีกไม่ไกลครับ
ความเร็วกับอุบัติเหตุสัมพันธ์กันอย่างไร เหนื่อยที่จะเถียง แต่ที่แน่ ๆ ความเร็วมันสัมพันกับความรุนแรงของอุบัติเหตุแน่ ๆ
ขอโทษด้วยถ้าความเห็นไม่เป็นที่ถูกใจ ผมแค่อยากใช้ถนนร่วมกับพวกพี่ ๆ อย่างปลอดภัยครับ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_623214
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_626874
เรื่องความเร็ว เป็นองค์ประกอบบนึง ของการเกิดอุบัติเหตุแน่ๆ ครับ ผมไม่เถียง
แต่สาเหตุที่ไทยติดอันดับต้นๆ ของโลก ของการเกิดอุบัติเหตุ มันยังมีอีกหลายปัจจัยครับ เช่น สภาพรถไม่สมบูรณ์ โช๊ค ช่วงล่าง เบรก ไฟท้ายไม่มี อื่นๆ
และก็พื้นฐานการเลี้ยงดูแบบไทยๆ ตั้งแต่เด็ก เช่น ลูกวิ่งชนโต๊ะ พ่อแม่ก็ไปตีโต๊ะ นี่แน่ะ โต๊ะมันทำลูกแม่ แม่ตีให้แล้วนะ โอ๋ๆ ลูกไม่ต้องร้องนะ
พอโตขึ้น ขับรถไปชน ก็ไม่โทษตัวเอง ไปโทษสีโฉลก เลขทะเบียน อายุเบญจเพส โทษทุกอย่างที่ไม่ใช่ตัวเอง
เมื่อคิดว่าตัวเองไม่ได้ผิดพลาด ก็ไม่ต้องแก้ไขตัวเอง เมื่อไม่แก้ไข มันก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุซ้ำๆ ครับ
ปล.ขออภัย ถ้าความเห็นผมไม่ถูกใจใคร แค่อยากให้ใช้เหตุผลครับ
ครับพี่
ก็นั่นแหละครับ ในเมื่อคุณภาพคนไทยเพื่อนร่วมถนนเราเป็นแบบนี้ การจำกัดความเร็วจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเซฟ
และลดความรุนแรงของอุบัติเหตุลงได้
กฏหมายที่ออกมา มันบังคับใช้กับคนทุกคนที่อยู่บนถนน
OK ว่าพวกเราเป็นคนชอบรถ ชอบขับรถ มีรถดี ๆ ขับ มีทักษะการขับขี่ที่ดี
แต่เพื่อนร่วมถนนคนอื่น ๆ อาจไม่ได้ขับรถเก่ง ไม่ได้รอบรู้เรื่องรถ ไม่ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
ดังนั้นการจำกัดความเร็วไว้เท่านี้ ผมว่าเหมาะสมแล้วนะครับ
แต่ถ้าคนไทยมีคุณภาพ มีวินัยกว่านี้ ค่อยแก้กฏหมายก็ยังไม่สายครับ
ปล. ยังจำคลิปรถ Pajero Sport ที่ชนกับรถบรรทุกกลับรถกระทันหันได้มั้ยครับ
ถ้าชนด้วยความเร็วสูงกว่านี้ก็อาจจะเกิดความสูญเสียได้ครับ
-
ถ้าไม่ขับแช่ขวา ก็ไม่ช้านะครับ
ส่วนผมสมัยก่อนวิ่งอยู่ประมาณไม่เกิน 120 ไม่เคยโดนใบสั่งส่งมาถึงบ้าน
เดือนที่แล้ววิ่งขึ้นเหนือ วิ่งอยู่140 เกือบตลอดทาง ตอนนี้ใบสั่งยังไม่ส่งมาถึงบ้าน แต่ดูทรงแล้วคิดว่าน่าจะโดนหลายใบอยู่
-
ผมก็ขับรถเร็วครับ ถนนสายหลัก 110-120 โอเครครับ ในเขตชุมชน 80-90 ก็โอเครเช่นกัน
แต่..... ขอให้เข้มงวดกับรถบรรทุกด้วย หลังๆ ผมขับ 80-90 ตามกฎหมาย แต่ เจอรถบรรทุกบี้ตลอด
-
ถ้ามีวินัย กวดขันเรื่องช้าแช่ขวาได้เด็ดขาด จำกัดเท่านี้เหลือเฟือละครับ :-\
ไล่สาเหตุ
ถนนดีๆ --> กวดขันรถบรรทุก --> เข้มงวดรถช้าแช่ขวา --> จำกัดความเร็ว
ถ้าทุกอย่างเข้มหมดจะไม่บ่นเลย
ถนนพัง รถบรรทุกน้ำหนักเกิน คนกลัวรถบรรทุก กลัวช่วงล่างพัง แช่ขวา ... จบกัน :'(
-
เดี๋ยวนี้อย่าว่าแต่ 90 เลยครับ ขับยิงยาวกรุงเทพ-ชุมพร 80 (GPS 73) ตลอดทางผมก็ทำมาแล้ว เพื่อประหยัดน้ำมัน
ทุกวันนี้ติดใจเลยขับแค่นั้นตลอด
แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ครับ ผมเจอรถหลายคันที่มีอาการโช๊คเสียบ้าง ผ้าเบรคใกล้หมดบ้าง ยางโล้นบ้าง
หลังจากวันนั้นผมก็มองว่า การจำกัดความเร็ว ดูจะเป็นการแก้ปัญหาด้านเดียวเกินไปหน่อย
(ผมรู้สึกเหมือนแบบว่า... อยากลดค่าไฟ แต่ไม่สนใจจะล้างแอร์ หรือเลือกแอร์ที่ประสิทธิภาพดีๆ ตอนจะซื้อ
แล้วมาบังคับให้เปิด 28 องศา ไรงี๊ครับ)
ผมว่าเราต้องมีกฎหมายความปลอดภัยขั้นต่ำของรถยนต์ และกวดขันการตรวจสภาพ ตรอ ควบคู่ไปด้วยครับ
รถใหม่ คันไหน ถุงลมต่ำกว่า 6 ใบ, ไม่มี VSC TRC, ระบบเตือนความเหนื่อยล้า เตือนออกนอกเลน (แบบปิดไม่ได้) ฯลฯ ห้ามขาย
รถเก่าเกิน 7 ปี ตรวจ ตรอ. คันไหน ศูนย์ไม่ตรง ไฟไม่ติด เครื่องไม่ฟิต เบรคไม่หนึบ ช่วงล่างไม่ดี เอาจริง ห้ามวิ่ง
ผมว่า ถ้าเอาตามนี้ได้ ต่อให้จำกัดความเร็วเพิ่มกว่าเดิม ไปจากปัจจุบันอีกสัก 30 กม./ชม.
อุบัติเหตุเผลอๆ น้อยกว่าปัจจุบันที่จำกัดความเร็วเต่า แต่ไม่กวดขันสภาพรถ แถมปล่อยให้มีรถราคา 2 ล้าน ถุงลม 2 ใบ ขายอยู่แบบปัจจุบันนี้
แถมยังได้ลดค่าเสียโอกาสจากการเสียเวลาบนถนนมากเกินจำเป็นได้อีก
จริงอยู่ ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศขับช้ากว่าเรามาก (โดยเฉพาะญี่ปุ่น) แต่ต้องมองให้รอบว่ารถประเทศนั้นๆ ก็ถูกควบคุม
ด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งสเปกในรถใหม่ และสภาพของรถเก่าด้วยครับ
ไม่ใช่เอะอะก็จะหกสิบ หกสิบ อย่างเดียว ความเร็วแค่นั้นก็บาดเจ็บล้มตายได้ครับ ถ้าสภาพรถไม่ดี
-
ทำใจให้สะบายครับ ถือว่าขับรถฟังเพลง ส่วนตัวผมเลือกใช้รถคันเล็กลงหน่อย ทำให้รู้สึกว่า90ก็ไม่ช้าจนเกินไป555
-
มาตรฐานสากลช้าหรือเร็วมันขึ้นกับสภาพแวดล้อมครับ เช่น ถนนมีรั้วกัน มีทางแยก มีไฟแดง มีบ้านคนหรือไม่
ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับถนนโล่ง หรือถนนหลายเลน หรือบางท่านบอกรถแรงม้ามาก ให้วิ่งได้แค่ 100 เดียว
ลองไปประเทศเจริญแล้ว แล้วจะรู้เองว่าเมืองไทยคุณขับรถได้เร็วมากแล้วครับ
ขอเถียงครับ อยู่อังกฤษมา 1 ปีขับรถบ่อยมาก รู้สึกว่าอยู่อังกฤษขับได้เร็วมากกว่าครับ เพราะรู้ว่า ตรงนี้ห้ามขับเร็ว มีถ่ายรูปและจับปรับแน่นอน แต่ช่วงไหนไม่ถ่ายเขาจะขึ้นป้ายบอกเลยว่า ไม่มีกล้องแล้ว ให้ขับเร็วได้ ก็จะไม่มีจับความเร็วเลยจริงๆ ช่วงนั้นก็กดกันไปได้เลยครับ บนถนนไม่มีใครวิ่งช้ากว่า 120 แน่นอน ผมเจอแต่พวก 140+ ทั้งนั้น
ไอซ์แลนด์ / เนเธอร์แลนด์ก็ลักษณะเดียวกันครับ สองประเทศนี้ผมไปเช่ารถขับเที่ยวมา
-
มาตรฐานสากลช้าหรือเร็วมันขึ้นกับสภาพแวดล้อมครับ เช่น ถนนมีรั้วกัน มีทางแยก มีไฟแดง มีบ้านคนหรือไม่
ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับถนนโล่ง หรือถนนหลายเลน หรือบางท่านบอกรถแรงม้ามาก ให้วิ่งได้แค่ 100 เดียว
ลองไปประเทศเจริญแล้ว แล้วจะรู้เองว่าเมืองไทยคุณขับรถได้เร็วมากแล้วครับ
เห็นด้วย 1 ล้าน % ครับพี่
ผมขออนุญาติเสริมอีกเรื่องนะ หลายๆท่านโดนใบสั่งเรื่องความเร็วเกินกำหนดแต่ไม่ไปจ่ายโดยเพราะเหตุผลคำเดียวสั้นๆว่า " ยังต่อทะเบียนได้ จะไปจ่ายทำไม " ซึ่งมันเป็นความคิดและทัศนคติที่แย่และเลวร้ายมากๆๆ
-
มาตรฐานสากลช้าหรือเร็วมันขึ้นกับสภาพแวดล้อมครับ เช่น ถนนมีรั้วกัน มีทางแยก มีไฟแดง มีบ้านคนหรือไม่
ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับถนนโล่ง หรือถนนหลายเลน หรือบางท่านบอกรถแรงม้ามาก ให้วิ่งได้แค่ 100 เดียว
ลองไปประเทศเจริญแล้ว แล้วจะรู้เองว่าเมืองไทยคุณขับรถได้เร็วมากแล้วครับ
ขอเถียงครับ อยู่อังกฤษมา 1 ปีขับรถบ่อยมาก รู้สึกว่าอยู่อังกฤษขับได้เร็วมากกว่าครับ เพราะรู้ว่า ตรงนี้ห้ามขับเร็ว มีถ่ายรูปและจับปรับแน่นอน แต่ช่วงไหนไม่ถ่ายเขาจะขึ้นป้ายบอกเลยว่า ไม่มีกล้องแล้ว ให้ขับเร็วได้ ก็จะไม่มีจับความเร็วเลยจริงๆ ช่วงนั้นก็กดกันไปได้เลยครับ บนถนนไม่มีใครวิ่งช้ากว่า 120 แน่นอน ผมเจอแต่พวก 140+ ทั้งนั้น
ไอซ์แลนด์ / เนเธอร์แลนด์ก็ลักษณะเดียวกันครับ สองประเทศนี้ผมไปเช่ารถขับเที่ยวมา
เคยไปเหมือนกันครับ ตามนี้เป๊ะ
การตรวจจับความเร็วไทย ออกแนวกองโจรครับ หลายๆครั้งไมรู้ตัวเลยว่าถูกดักปล้นไปแล้ว รอรับใบที่บ้านอย่างเดียว
-
มาตรฐานสากลช้าหรือเร็วมันขึ้นกับสภาพแวดล้อมครับ เช่น ถนนมีรั้วกัน มีทางแยก มีไฟแดง มีบ้านคนหรือไม่
ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับถนนโล่ง หรือถนนหลายเลน หรือบางท่านบอกรถแรงม้ามาก ให้วิ่งได้แค่ 100 เดียว
ลองไปประเทศเจริญแล้ว แล้วจะรู้เองว่าเมืองไทยคุณขับรถได้เร็วมากแล้วครับ
ขอเถียงครับ อยู่อังกฤษมา 1 ปีขับรถบ่อยมาก รู้สึกว่าอยู่อังกฤษขับได้เร็วมากกว่าครับ เพราะรู้ว่า ตรงนี้ห้ามขับเร็ว มีถ่ายรูปและจับปรับแน่นอน แต่ช่วงไหนไม่ถ่ายเขาจะขึ้นป้ายบอกเลยว่า ไม่มีกล้องแล้ว ให้ขับเร็วได้ ก็จะไม่มีจับความเร็วเลยจริงๆ ช่วงนั้นก็กดกันไปได้เลยครับ บนถนนไม่มีใครวิ่งช้ากว่า 120 แน่นอน ผมเจอแต่พวก 140+ ทั้งนั้น
ไอซ์แลนด์ / เนเธอร์แลนด์ก็ลักษณะเดียวกันครับ สองประเทศนี้ผมไปเช่ารถขับเที่ยวมา
สิ่งนี้แหละ ที่ผมต้องการให้มีในประเทศไทย
ปล. ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
สำหรับผม คือความเร็วปกติ แต่สำหรับคนนั่งข้างๆนี่ 80ก็โดนด่าละ😂
-
ขอเล่าให้ฟังเฉพาะ ประเทศที่ผมเคยไปขับมาละกันนะครับ
อังกฤษ
- จำกัดความเร็ว 112 km/h แต่เฉพาะเขตใกล้เมืองที่กวดขันหนัก (เช่น เส้น M25) ถ้าเป็นทางหลวงที่ห่างไกลจากตัวเมือง ไม่มีการขึ้นป้ายจำกัดความเร็ว คนส่วนใหญ่ ใช้ความเร็ว 120-160 km/h ไม่มีการขับช้าแช่ขวา หรือขับปาดเลยแม้แต่นิดเดียว
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ฝรั่งเศส
- ทางด่วนใกล้เมือง และถนนไฮเวย์สองเลน จำกัดความเร็ว 110 km/h
- ทางหลวงระหว่างเมือง 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
เยอรมัน
- ไม่มีการจำกัดความเร็วบนทางด่วน มีส่วนน้อยที่จะจำกัดที่ 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไอซ์แลนด์
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h ในพื้นที่ห่างไกล อาจอนุโลมให้ถึง 100 km/h นั่นเป็นเพราะว่า ไฮเวย์ของที่นี่ เป็นถนนสองเลนสวนแคบๆ ทั้งประเทศ มีสภาพอากาศที่แปรปรวน หิมะตกบ่อย และที่สำคัญคือ อาจมีลมกรรโชกแรง จนทำให้รถคว่ำได้ง่าย (ผมขับ 110 ที่นั่น รู้สึกเหมือนขับ 140 ที่ไทย)
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไทย
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ ทั้งๆ ที่ถนนกว้าง 6-8 เลน สภาพอากาศไม่ได้รุนแรง ไม่มีหิมะตก ไม่มีลมกรรโชกแรง
- ในเขตเมือง กฎหมายระบุแบบเหมารวม เพียงแค่ว่า ห้ามขับเกิน 80 km/h ไม่ว่าจะเป็น ถนนใหญ่ๆ อย่าง บนทางด่วน บนโทลเวย์ ถนนราชพฤษ วิภาวดี ถนนแคบๆ คนเยอะๆ อย่าง ลาดพร้าว สุขุมวิท นวมินทร์ หรือแม้กระทั่ง ในซอย?
แน่นอนว่า ประเทศไทย ไม่เหมาะที่จะให้ใช้ความเร็วสูงๆ เหมือน เยอรมัน หรือฝรั่งเศส แต่ผมคิดว่า 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ มันช้าเกินไปจริงๆ
-
ขอเล่าให้ฟังเฉพาะ ประเทศที่ผมเคยไปขับมาละกันนะครับ
อังกฤษ
- จำกัดความเร็ว 112 km/h แต่เฉพาะเขตใกล้เมืองที่กวดขันหนัก (เช่น เส้น M25) ถ้าเป็นทางหลวงที่ห่างไกลจากตัวเมือง ไม่มีการขึ้นป้ายจำกัดความเร็ว คนส่วนใหญ่ ใช้ความเร็ว 120-160 km/h ไม่มีการขับช้าแช่ขวา หรือขับปาดเลยแม้แต่นิดเดียว
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ฝรั่งเศส
- ทางด่วนใกล้เมือง และถนนไฮเวย์สองเลน จำกัดความเร็ว 110 km/h
- ทางหลวงระหว่างเมือง 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
เยอรมัน
- ไม่มีการจำกัดความเร็วบนทางด่วน มีส่วนน้อยที่จะจำกัดที่ 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไอซ์แลนด์
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h ในพื้นที่ห่างไกล อาจอนุโลมให้ถึง 100 km/h นั่นเป็นเพราะว่า ไฮเวย์ของที่นี่ เป็นถนนสองเลนสวนแคบๆ ทั้งประเทศ มีสภาพอากาศที่แปรปรวน หิมะตกบ่อย และที่สำคัญคือ อาจมีลมกรรโชกแรง จนทำให้รถคว่ำได้ง่าย (ผมขับ 110 ที่นั่น รู้สึกเหมือนขับ 140 ที่ไทย)
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไทย
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ ทั้งๆ ที่ถนนกว้าง 6-8 เลน สภาพอากาศไม่ได้รุนแรง ไม่มีหิมะตก ไม่มีลมกรรโชกแรง
- ในเขตเมือง กฎหมายระบุแบบเหมารวม เพียงแค่ว่า ห้ามขับเกิน 80 km/h ไม่ว่าจะเป็น ถนนใหญ่ๆ อย่าง บนทางด่วน บนโทลเวย์ ถนนราชพฤษ วิภาวดี ถนนแคบๆ คนเยอะๆ อย่าง ลาดพร้าว สุขุมวิท นวมินทร์ หรือแม้กระทั่ง ในซอย?
แน่นอนว่า ประเทศไทย ไม่เหมาะที่จะให้ใช้ความเร็วสูงๆ เหมือน เยอรมัน หรือฝรั่งเศส แต่ผมคิดว่า 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ มันช้าเกินไปจริงๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ต่างประเทศ เขาจำกัดความเร็วในแค่บางช่วง ที่มันน่าจะอันตราย
ไม่ได้จำกัดตลอดเส้นแบบไทยแลนด์
และอุบัติเหตุก็ไม่ได้เกิดบ่อยแบบบ้านเรา
-
ไม่ช้าครับ (สำหรับทางหลวงทั่วไป ที่ไม่ใช่ทางด่วน, มอเตอร์เวย์)
แต่ก่อนเคยขับรถค่อนข้างเร็วกว่าปัจจุบัน แต่ผมเห็นด้วยว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้นแปรผันกับอุบัติเหตุที่สูงขึ้น รุนแรงขึ้น
และคิดว่าเป็นสาเหตุสำคัญสุดของการเพิ่มโอกาสของเกิดอุบัติเหตุ
แม้ความจริงยังมีปัจจัยอื่นด้วยที่ทำให้อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
รวมถึงการไม่คาดการณ์ล่วงหน้า
..การคิดแต่ว่าฉันขับขี่ทางเอก คิดแต่เรื่องผิดถูก ใครออกมาตัดผิดนะ ไม่ยอมชลอความเร็ว
เมื่อชนขึ้นมาไม่คุ้มค่าเลยกับการพิการ การบาดเจ็บ การเสียชีวิตแม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม ไม่มีประโยชน์อันใดเลย!
ส่วนค่ากำหนดความเร็วสูงสุดนี้ ก็ใกล้เคียงกับประเทศต่างๆทั่วโลก
https://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country
ถึงแม้บ้านเราจะกำหนดไว้ 90 แต่ถ้าเป็นทางหลวงต่างจังหวัด จนท.ก็มักไม่ใช่จะจัมกุมออกใบสั่งที่90
มักจะมีอนุโลมให้ 10-20 30? กม/ชม. (เมืองนอกก็เหมือนกันแต่อาจน้อยกว่า ไม่แน่ใจที่ใช้คำว่า Enforcement tolerance ในlinkข้างบน)
ถ้าผู้รักษากม.สามารถทำตามกม.ได้ค่อนข้างเคร่งครัดทุกคน ค่าปรับแรงแพง สักระยะหนึ่ง เหมือนๆกันทุกคน ไม่ช้าก็ยอมรับกม.นั้นได้
แต่ในความจริงไม่ใช่? ทำไมต่างประเทศทำได้ดีกว่าเรา?
หลายคนขับรถเร็วมากในบ้านเรา แต่พอไปเช่ารถเที่ยวในต่างประเทศที่ค่าปรับแพง จนท.จริงจัง
ถ้าเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนเสียชีวิต มีการลงโทษจริงจัง..ติดคุก.ทำไมเมื่อไปขับต่างประเทศจึงขับช้าลงได้ ทำตามกม.ประเทศนั้นเขาได้ดี?
ลองอ่านประเทศที่มีการเก็บข้อมูล เมื่อมีการเพิ่มหรือลด ค่ากำหนดความเร็วสูงสุด มีผลต่อการบาดเจ็บเสสียชีวิตอย่างไร
https://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limit
และอยากให้อ่านตรง
Psychology
Some people consider speeding is not an issue, when other people are yet speeding (notion of two wrongs make one right).
Drivers have some arguments to defend occasional speeding [16].
Some over-speed might be performed due to traffic circumstances not let have one eye on the speedometer[16].
Teenagers and male drivers drive faster than the rest of the drivers[16].
Speed estimation might be wrong due to a deceleration or having driven at high speed on the motorway[16].
In reason of the role that peripheral and central vision have on the perception of the speed, some drivers underestimate speed on wide road
เสียดายบ้านเรายังเก็บข้อมูลรายละเอียดไม่ดีพอ ยังไม่สามารถถกเถียงกันได้ชัดเจนนัก
-
เคยตั้งใจลองขับความเร็วตามป้ายอย่างเคร่งครัด ร้อยเอ็ด-อุบล ระยะทาง170กม. วันนั้นใจเย็นมาก แต่ไปไม่รอดครับ เพราะผ่านชุมชนบ่อยมาก(30-40) และโรงเรียนที่อยู่กลางทุ่งนาก็มีไม่น้อย ป้ายบอก30บ้าง40บ้าง แต่ ทางโล่งมากดูข้างทางแล้ว นักเรียนก็ไม่มีสักคน .....ก็อยากจะทำตามป้าย แต่มันขัดกับสามัญสำนึกอยู่
-
ขอเล่าให้ฟังเฉพาะ ประเทศที่ผมเคยไปขับมาละกันนะครับ
อังกฤษ
- จำกัดความเร็ว 112 km/h แต่เฉพาะเขตใกล้เมืองที่กวดขันหนัก (เช่น เส้น M25) ถ้าเป็นทางหลวงที่ห่างไกลจากตัวเมือง ไม่มีการขึ้นป้ายจำกัดความเร็ว คนส่วนใหญ่ ใช้ความเร็ว 120-160 km/h ไม่มีการขับช้าแช่ขวา หรือขับปาดเลยแม้แต่นิดเดียว
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ฝรั่งเศส
- ทางด่วนใกล้เมือง และถนนไฮเวย์สองเลน จำกัดความเร็ว 110 km/h
- ทางหลวงระหว่างเมือง 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
เยอรมัน
- ไม่มีการจำกัดความเร็วบนทางด่วน มีส่วนน้อยที่จะจำกัดที่ 130 km/h
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไอซ์แลนด์
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h ในพื้นที่ห่างไกล อาจอนุโลมให้ถึง 100 km/h นั่นเป็นเพราะว่า ไฮเวย์ของที่นี่ เป็นถนนสองเลนสวนแคบๆ ทั้งประเทศ มีสภาพอากาศที่แปรปรวน หิมะตกบ่อย และที่สำคัญคือ อาจมีลมกรรโชกแรง จนทำให้รถคว่ำได้ง่าย (ผมขับ 110 ที่นั่น รู้สึกเหมือนขับ 140 ที่ไทย)
- ในเขตเมือง มีการจำกัดความเร็วอย่างเหมาะสม ประมาณ 40-60 km/h และตั้งกล้องถี่มาก กวดขันมาก
ไทย
- บนไฮเวย์ จำกัดความเร็วต่ำเพียง 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ ทั้งๆ ที่ถนนกว้าง 6-8 เลน สภาพอากาศไม่ได้รุนแรง ไม่มีหิมะตก ไม่มีลมกรรโชกแรง
- ในเขตเมือง กฎหมายระบุแบบเหมารวม เพียงแค่ว่า ห้ามขับเกิน 80 km/h ไม่ว่าจะเป็น ถนนใหญ่ๆ อย่าง บนทางด่วน บนโทลเวย์ ถนนราชพฤษ วิภาวดี ถนนแคบๆ คนเยอะๆ อย่าง ลาดพร้าว สุขุมวิท นวมินทร์ หรือแม้กระทั่ง ในซอย?
แน่นอนว่า ประเทศไทย ไม่เหมาะที่จะให้ใช้ความเร็วสูงๆ เหมือน เยอรมัน หรือฝรั่งเศส แต่ผมคิดว่า 90 km/h เหมือนไอซ์แลนด์ มันช้าเกินไปจริงๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เป็นประโยชน์มากในการเปรียบเทียบกับอารยประเทศเหล่านั้น แต่สำหรับการนำเอามาเทียบเคียงกับประเทศเราแล้ว
ผมคิดว่าเราต้องไม่ลืม matching กฏกับอุปลักษณะนิสัย, ความมีวินัยและความรับผิดชอบของคน (โดยภาพรวม) ในแต่ละประเทศด้วยครับพี่
-
ผมว่า 90 ก็พอได้ แต่เดินทางไกลสัก 100 พอดี
แต่ปัญหารถติดในเมืองไทยเท่าที่ผมเคยเดินทางไปภาคกลาง ผมว่าปัญหาคือคนไม่ค่อยมีวินัยจราจร รวมทั้งเห็นแก่ตัวมากกว่า บางครั้งเห็นบางคันขับเร็วแต่ก็มีคันเร็วกว่าตามหลังมาแต่ไม่มีที่ให้แซง ถ้าแซงขวาก็ถือว่าผิด แต่ในหลายๆครั้งต้องก็ต้องทำทั้งๆที่ขับแค่ 90 หรือจะเห็นรถที่มีราคาแพงยี่ห้อดัง ส่วนใหญ่ก็แช่ขวาทั้งนั้น จะเร็วจะช้า ไม่สน ถนนของข้า จะทำไม คืออยากจะบอกว่า eco car ก็ วิ่ง 200 ได้ช่วยมีน้ำใจ มีวินัย ต่อให้ขับ 20 รถก็ติดน้อยลง
-
อ่านแล้วปวดหัวเลยครับ แต่ละคน
บอกก่อนว่าผมก็ไม่ได้ขับตามกฏตลอดนะครับ
แต่กฏ มันสากลทั่วโลกนะครับ เขาขับกัน แค่นี้ทั่วโลก
ในชุมชน ที่ 30 40 60 ถ้าเป็นเมืองนอกเขาขับกันแค่นั้นจริงๆ
ทางโล่งๆ ป้ายบอก 30 เขาก็ต้องคลาน30 กันไปเป็นนาทีๆ ตามๆกันแบบนี้ นะครับ
ที่มันขัดความรู้สึก ขัดสามัญสำนึก เพราะเราไม่เคยทำมันมากกว่า เลยทำไม่ได้ รู้สึกแปลก
อย่างขับ Highway 90 -120 นี่มันความเร็วสากลทั่วโลก แล้วเขาก็ขับกันแบบนั้นตลอด
มันเป็นเรื่องความปลอดภัย นะครับ คุณขับ 200 คุณว่าคุณเอาอยู่ แต่เวลาออกกฏ เขาไม่ได้ออกให้คุณคนเดียวหนิครับ
เขาออกให้ทุกคนที่ใช้ถนนได้ ฉนั้นเขาก้ต้องจำกัดความเร็วเอาไว้ที่คนทุกคนสามารถขับได้อย่างปลอดภัยครับ
-
อ่านแล้วปวดหัวเลยครับ แต่ละคน
บอกก่อนว่าผมก็ไม่ได้ขับตามกฏตลอดนะครับ
แต่กฏ มันสากลทั่วโลกนะครับ เขาขับกัน แค่นี้ทั่วโลก
ในชุมชน ที่ 30 40 60 ถ้าเป็นเมืองนอกเขาขับกันแค่นั้นจริงๆ
ทางโล่งๆ ป้ายบอก 30 เขาก็ต้องคลาน30 กันไปเป็นนาทีๆ ตามๆกันแบบนี้ นะครับ
ที่มันขัดความรู้สึก ขัดสามัญสำนึก เพราะเราไม่เคยทำมันมากกว่า เลยทำไม่ได้ รู้สึกแปลก
อย่างขับ Highway 90 -120 นี่มันความเร็วสากลทั่วโลก แล้วเขาก็ขับกันแบบนั้นตลอด
มันเป็นเรื่องความปลอดภัย นะครับ คุณขับ 200 คุณว่าคุณเอาอยู่ แต่เวลาออกกฏ เขาไม่ได้ออกให้คุณคนเดียวหนิครับ
เขาออกให้ทุกคนที่ใช้ถนนได้ ฉนั้นเขาก้ต้องจำกัดความเร็วเอาไว้ที่คนทุกคนสามารถขับได้อย่างปลอดภัยครับ
ตามนี้เลยจ้า
-
สำหรับถนนแบบนี้ และการออกแบบถนนแบบนี้ ก็ได้แค่นี้แหละคับ ผมว่ามันสุดๆแล้วที 90
ถ้าจะเอา 120+ ก็ต้องทำถนนใหม่ ออกแบบแยกใหม่หมด เขาก็เอาความปลอดภัยเป็นตัวตั้ง
-
อ่านแล้วปวดหัวเลยครับ แต่ละคน
บอกก่อนว่าผมก็ไม่ได้ขับตามกฏตลอดนะครับ
แต่กฏ มันสากลทั่วโลกนะครับ เขาขับกัน แค่นี้ทั่วโลก
ในชุมชน ที่ 30 40 60 ถ้าเป็นเมืองนอกเขาขับกันแค่นั้นจริงๆ
ทางโล่งๆ ป้ายบอก 30 เขาก็ต้องคลาน30 กันไปเป็นนาทีๆ ตามๆกันแบบนี้ นะครับ
ที่มันขัดความรู้สึก ขัดสามัญสำนึก เพราะเราไม่เคยทำมันมากกว่า เลยทำไม่ได้ รู้สึกแปลก
อย่างขับ Highway 90 -120 นี่มันความเร็วสากลทั่วโลก แล้วเขาก็ขับกันแบบนั้นตลอด
มันเป็นเรื่องความปลอดภัย นะครับ คุณขับ 200 คุณว่าคุณเอาอยู่ แต่เวลาออกกฏ เขาไม่ได้ออกให้คุณคนเดียวหนิครับ
เขาออกให้ทุกคนที่ใช้ถนนได้ ฉนั้นเขาก้ต้องจำกัดความเร็วเอาไว้ที่คนทุกคนสามารถขับได้อย่างปลอดภัยครับ
เห็นด้วยสุดๆๆๆๆๆ เลยครับ
-
หลังๆผมขับรถน้อยลง นั่งเครื่องบินไวกว่า ไม่เหนื่อยด้วย เอาค่าน้ำมัน+ค่าปรับไปเป็นค่าเครื่องบินแทน
จำกัดความเร็วก็ว่าทำให้เบื่อการขับรถทางไกลแล้วนะ แต่เจอเเช่ขวาตบไฟไม่หลบนี่น่าเบื่อกว่า ยังไม่รวมรถที่เยอะแยะเต็มถนนที่เพิ่มขึ้นมานะครับ ตอนนี้อยากให้รถไฟความเร็วปานกลาง ความเร็วสูงเสร็จไวๆ อยากใช้แล้ว
-
ตอบแบบใช้งานจริงๆไม่ดราม่าครับ ขับทางไกลยาวๆต้อง 110-140ขึ้นไปละครับ ขับ90มีหวังหลับในลงข้างทางก่อน นี่ขนาดผมวิ่ง110นะยังมีพวกจี้ตรูดกระพริบไฟไล่เลย ส่วนน้อยที่จะยิ่ง90บนทางหลวง 8) 8) 8)
-
เคยใช้Cruise control ที่90 กม/ชม เป็นระยะทาง 100กม ผล
ข้อดี
ได้อัตราประหยัด16 กม/ลิตร จากปกติขับ130-150 กม/ชม กินที่10 กม/ลิตร
ไม่เครียด ได้วิวข้างทาง ใช้ชีวิตช้าลง
ไม่ต้องเปลี่ยนเลนบ่อย ไม่ต้องหลบรถแช่ขวา
ข้อเสีย
ง่วง เบื่อ 555
เวลาต้องเผื่อกว่าเดิมเยอะ
ควักค่าน้ำมัน กระจาย
ปลGLA 250 FL
-
กวดขันวินัยจราจรก่อนดีกว่าถึงควรเพิ่มความเร็วได้
วินัยการขับรถแบบนี้ แล้วยิ่งปล่อยให้ขับเร็วขึ้นไม่อยากจะคิดเลย
-
ขับช้า ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุได้
เพราะเมืองไทยมอไซเยอะมาก แต่ดันไม่มีเลนมอไซ
ออกแบบถนนได้ห่วยแตกมาก มียูเทิร์นอยู่ปากซอย คุณลองนึกถึงสี่แยกที่ไม่มีไฟแดงสิครับ
ในเมืองนอกถนน highway เขาไม่มีที่กลับรถ เขาทำสะพานกลับรถให้เลย มีจุดพักรถเป็นระยะ มีแม้กระทั่งที่หลบฝนสำหรับมอไซ มีรั้วกั้นตลอดทาง เมืองไทยทำได้ไหม? (ไม่ได้ 555)
สรุปตามความคิดของผม
ขับรถในเมืองไทยนั้นยากที่สุดในโลก อ่อนแอก็แพ้ไป คุณต้องระวังตัวอยู่เสมอ คาดคะเนประเมิณสถานการณ์ตลอด
จุดไหนควรจะไว ให้ไว อย่ามัวโอ้เอ้ จุดไหนควรช้าต้องใจเย็น แล้วคุณจะรอดจากพยันตรายทั้งปวง ยกเว้นใบสั่งความเร็วเกินกำหนด 55555 เอิ๊กๆๆ ;D
-
ช้าไปครับ สัก 120 กำลังดี :P
-
เมืองนอกช้าแค่ในเขตเมือง โรงเรียน กับจุดที่ทำถนน นอกนั้น 120-140 up กันทั้งนั้น
จุดไหนถ้าจำกัดความเร็วก็จะมีบอกตลอด
-
ผมว่า สภาพการจราจรแต่ละที่ต่างกัน
และที่สำคัญอีกอย่างคือวินัยในการใช้ถนนครับ
ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ทำ อย่างที่เห็นในหลายๆคลิปอุบัติเหตุ :(
ต่อให้เรามีออโต้บาห์น ถ้าวินัยยังเป็นแบบเดิมๆ อันตรายมากๆ ทั้งต่อผู้อื่นและตนเอง
จริงๆผมเป็นคนขับรถเร็ว ขับ 90 แล้วง่วง เหม่อ อันนี้ก็อันตรายเหมือนกัน :P
-
มองอีกมุมหนึ่ง
การจำกัดความเร็วไม่เกิน 90 คือ วิ่งสูงสุดได้ไม่เกิน 90
แต่ไอ้ 90 นี่ ในหลายครั้งเป็นการเอื้อ ในการทำมาหากินของ บุคคลบางกลุ่ม
กล้องจับความเร็วมันจับทุกคัน ที่ "เกินจำกัด" แต่ที่เกินจำกัดนั้น จะมีบุคคลเป็นผู้คัดกรองที่จะส่ง "ใบสั่งไปจ่ายตังค์"
แต่ถ้าไปเจอ "พ่อหรือแม่" ผู้คัดกรองก็จะเลือกที่จะไม่ไปรบกวน
รถมีสี หรือ รถบรรดา "เสียวเสียว", "รอมึงตาย" ต่างๆ เห็นวิ่งเกิน 120 ทุกคัน และบางครั้งมีรถมีสีคอยบัง คอยกระแทกไฟใส่ รถตาอินตานา
ในบางครั้ง มีพูดออกสื่อ "หลบหน่อยๆ หลบด้วยๆ" (พ่อกูรีบ)
โดน "ใบสั่งไปจ่ายตังค์" กันบ้างไหม? ถ้าพลาดพลั้งโดน ก็ขอได้ใช่ไหม?
แก้ใหม่ดีไหม เอาเป็น 140 ที่นอกเมือง ในเมือง หรือเขตเทศบาล 60 ตามเดิม จะเป็นไง
แต่ยังไงต้องมีมาแย้งว่า เร็วไป อตร. เดี๋ยวก็ ตายกันเยอะแยะ
มันเหมือนรถที่มันสามารถวิ่งได้ 200 มีกี่คน ที่เคยวิ่ง 200 บ่อยๆ หรือ รถ Top Speed ได้เท่าไร ก็วิ่งเท่านั้นบ่อยๆ มีไหม
แต่ก็คงมี เพียงแต่มัน น่าจะน้อยมาก
เขาบอกว่าจำกัด 140 แต่ไม่ได้หมายความว่าให้วิ่ง 140 เขาแปลว่า ไม่ให้เกิน
จะวิ่งเร็วไม่เร็วขึ้นอยู่กับวินัย ในแต่ละบุคคลแล้ว
รู้ว่าถนนไม่ดี รถไม่ดี วิ่งเร็วทำไม มันขึ้นอยู่กับบุคคล ห้ามไม่ได้
เด็กวัยรุ่นสถุลๆ ถ้ามันรวมกลุ่มกันได้ ถ้ามันจะตีจริงๆ เป็นคนมีสีมันก็จะตี กลัวที่ไหน
ที่พูดมานี้ อยากให้ยอมรับความจริงว่า
ตอนขับเดินทางไกล หรือถนนโล่งๆ จริงๆ ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ขับเกิน 90
และในตอนเดินทางจริง 110-120 น่าจะเป็นมาตรฐาน แต่บางช่วงการเดินทางอาจจะมีเกินบางนิดหน่อย 120-140 หรือไม่จริง!!???
-
เร็วในเขตชุมชนครับ แต่ช้าไปเวลาวิ่งทางไกล
-
ความเร็วเท่าไหร่ สำหรับผมไม่สำคัญเลย ทุกวันนี้ผมก็ขับไม่เคยเกิน 110 แม้จะถนนโล่งๆ ก็ตาม
วินัยการขับขี่ สำคัญกว่าครับ คนขับรถดีๆ หายากขึ้นทุกวัน
-
ปกติ 100-120 กำลังดี
90 ช้าไป มันก็มีคนขับทั้ง 90 100 110 120 ทำซัก4 เลนส์
ผมขับวงแหวนตะวันออก ไปชลบุรี 120 ไม่เหนื่อยเลย ใช้ครูสตลอดทาง ไม่มีรถช้าขวางเลนส์
แต่ละคนก็จะอยู่ในเลนส์และความเร็วของตัวเอง สบายสุดๆ
-
โคตรเกลียดคำว่า "อนุโลม" เลย คือผมจะรู้ไหมว่าพี่จะ ใจดีกับผมวันไหน
ออกมาให้ชัดเจนไปเลย Hi way วิ่ง 100 < 110 < หรือ 120 < ก็ว่ากันไป
เคยขับไปเจอท่านๆ ที่กลางดง รอบก่อน วิ่ง 115 รอด วิ่ง 110 โดนโบก คุยไปคุยมาบอกเค้าอนุโลม คือ?? ออกมาให้ชัดไปเลย
สรุป วิ่ง 90 ช้าไปครับ ถนนหลัก 8 เลน ควรซัก 110 สายรอง เลนสวนก็ว่ากันตามท้องที่กับไป
-
สายเอเชีย ถนน 4 เลน ช่วงเวลา 6 โมงเช้ามีรถวิ่งอยู่ 2-3 คัน ผมใช้ความเร็ว 110 km/h วิ่งเลนที่ 2 จากซ้าย โดนกล้องจับความเร็วว่าขับเกิน 90km/h
น่าเบื่อมากไม่ค่อยอยากขับไปไหนมาไหนแล้ว นี่ขนาดไม่วิ่งขวากล้องมันยังมีความพยายามไปจับความเร็วได้ยินไ
-
ในถนนประชาอุทิศ ต่อเนื่อง พุทธบูชา เคยเจอรถขับเร็วมากเมื่อเทียบกับสภาพการจราจร ณ ขณะนั้นเป็น ยาริสสีดำ(ตัว 1500) จำแม่นเพราะใช้ไฟท้ายแต่งแบบเส้นเลียนแบบ บีเอ็ม
ปาดซ้าย ปาดขวา มุด กดคันเร่ง ผมก็ไปเรื่อยๆ 40-50 เร็วกกว่านี้ก็ไม่เหมาะสมแล้ว
พอออกพระราม 2 ผมก็วิ่ง 110-130 เชื่อไหมผมเจอยาริสสีดำ นั่นขับเลนขวาด้วยความเร็ว 80 อยากจะด่ามันจริงๆ :-\ :-\ :-\
ฉะนั้นผมคิดว่าในเมือง จำกัดที่ 80 ผมว่าเร็วเกินไป 60 กำลังเหมาะ แต่นอกเมือง 110 ในบางเส้นก็อาจจะไม่เหมาะสม 130-140 อาจจะเพียงพอ
-
ในถนนประชาอุทิศ ต่อเนื่อง พุทธบูชา เคยเจอรถขับเร็วมากเมื่อเทียบกับสภาพการจราจร ณ ขณะนั้นเป็น ยาริสสีดำ(ตัว 1500) จำแม่นเพราะใช้ไฟท้ายแต่งแบบเส้นเลียนแบบ บีเอ็ม
ปาดซ้าย ปาดขวา มุด กดคันเร่ง ผมก็ไปเรื่อยๆ 40-50 เร็วกกว่านี้ก็ไม่เหมาะสมแล้ว
พอออกพระราม 2 ผมก็วิ่ง 110-130 เชื่อไหมผมเจอยาริสสีดำ นั่นขับเลนขวาด้วยความเร็ว 80 อยากจะด่ามันจริงๆ :-\ :-\ :-\
ฉะนั้นผมคิดว่าในเมือง จำกัดที่ 80 ผมว่าเร็วเกินไป 60 กำลังเหมาะ แต่นอกเมือง 110 ในบางเส้นก็อาจจะไม่เหมาะสม 130-140 อาจจะเพียงพอ
ผมก็เจอคล้ายๆกันครับ เราขับ carry speed เส้น motor way กับ บูรพาวิถี ประมาณ 90-100 km/h. อยู่เลนซ้ายบ้าง เลนกลางบ้าง เจอหลายๆคันขับแซงไปแบบว่าไม่เห็นฝุ่นเลย แต่สุดท้ายมาเจอกันอีกละ เจอบ่อยมาก เจอทุกครั้งที่ขับถนนเส้นนี้
-
ตอนนี้ป้ายความเร็วแทบไม่มีความหมายครับเพราะใครอยากวิ่งเท่าไหร่ก็อัดเลย
รถพ่วง รถบรรทุก วิ่งขวาซ้ายขวาปาดไปมา กระบะติดตู้ก็วิ่งไหล่ทางกันยาวๆ
รถเก๋งบ้านๆก็แช่ชวา วิ่งเร็วเท่าเลนกลาง รถติดก็ไม่สนไม่แคร์
ก็ตำรวจไม่จับ ไม่ทำหน้าที่ คนอยู่เหนือกฎหมายก็ยังทำผิดกันต่อไป 8)
ตอนนี้ผมเน้นหลักตามนี้
สังเกตุรถคันอื่นๆรอบตัว วิ่งให้เร็วสัมพันธ์กับพวกเขาครับ ไม่เร็วไปและไม่ช้าจนขวางใคร
เลนซ้ายช้าสุด เลนกลางจะไวกว่า ส่วนเลนขวาไว้ใช้แซง (สมมุติ3เลน)
-
ถ้าในเมือง ไม่ช้านะ
แต่ถ้าเส้นนอกเมือง ผมว่า 120 กำลังดี 8)
ขับช้าไปมันก็เหนื่อยกว่าจะถึงจุดหมาย
-
ผมเห็นว่า 90 - 110 ในหลายๆพื้นที่ก็เหมาะสม และทำให้เกิดความปลอดภัยได้จริงครับ แต่ผมอยากให้จำกัดความเร็วกันจริงจังเป็นช่วงๆ เฉพาะช่วงที่ควรจำกัดจริงๆ แต่ถ้าเป็นถนนที่อยู่นอกเมือง ทางตรง ไมมีทางกลับรถ ไม่มีชุมชน ไม่มีทางร่วมทางแยก หรือพิจารณาสิ่งอื่นใดแล้วว่ามีอันตรายต่ำ สามารถขับเร็วได้ ก็อยากให้อนุญาติให้สามารถขับเร็วกว่า 110 ได้ครับ การขับรถทางไกลนั้น ขับแค่ 90-110 มันเหนื่อยมากๆจริงๆครับ