Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ttcl ที่ ธันวาคม 01, 2017, 06:43:05
-
รถผมมีแต่เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น สังเกตุดูจากเริ่ม start ตอนเครื่องเย็น ซักพักก็ออกรถขับเรื่อยๆไม่เร่งมาก เข็มค่อยๆเพิ่มขึ้นจนหยุดนิ่งที่เกือบกึ่งกลางเกจ์ จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที นับจาก start (รถรุ่นเก่า 15 ปีแล้ว เครื่องธรรมดาไม่มีเทอร์โบ เกียร์ออโต้ยุคเก่า 5 สปีด)
ผมเคยได้ยินมาว่าน้ำมันเกียร์จะร้อนถึงอุณภูมิทำงานปกติช้ากว่าน้ำหล่อเย็น
เลยอยากสอบถามท่านที่รถมีเกจ์วัดวัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์ หรือท่านที่มีความรู้เรื่องนี้
ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับว่า ทั้งน้ำมันเครื่อง และ น้ำมันเกียร์ ใช้เวลาประมาณกี่นาทีนับจาก start เข็มถึงจะขึ้นไปนิ่งที่อุณหภูมิทำงานปกติครับ ขอบคุณครับ
-
ไม่มีความรู้ครับแต่คิดว่ารถแต่ละรุ่นใช้เวลาไม่น่าจะเท่ากัน
ของผมอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นใช้เวลาประมาณ 11-13 นาทีครับ (ตอนออกรถใหม่)
ตอนนี้ 9-10 นาทีครับ (รถ 5 ปี)
-
รถผมมี OBD แต่ไม่มีเข็มความร้อน มีแต่ไฟน้ำเงินว่าเครื่องเย็น สตาร์ทจะครั้งแรกจะอยู่ 30 กว่าองศา อุณหภูมิจะค่อยไต่ไปอย่างช้าๆ จนถึง 45 มั้งครับ ถ้าจำไม่ผิดไฟเครื่องเย็นจะดับ แล้วอุณหภูมิก็ไต่ไปเรื่อยจนถึง 87-88 ตอนรถวิ่งและ 90-91 ตอนจอดครับ เรื่องเวลาไม่แน่ใจครับ ไม่เคยจับเวลา อุณหภูมิมันค่อยๆ ขึ้นไปนะครับเหมือนนับ 1-10 แบบช้าๆ ขึ้น 1 ที
-
ที่การขับมากกว่าไปเรื่อยๆขึ้นช้าราวๆห้านาทีเท่าที่เคยจับ กดเยอะหน่อยสองสามนาทีก็ขึ้นแล้ว
อีกตัวแปรนึงก็วาวล์น้ำ เก่าแล้วก็เปิดช้าหน่อย ใหม่ๆเปิดไวหน่อย
และออยเกียร์ใช้น้ำร่วมกับออยเครื่องรึป่าว ถ้าออยอากาศแยกก็ขึ้นช้ากว่าออยน้ำ
-
น่าจะแล้วแต่การขับครับ อย่างอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นรถผม ถ้าสตาร์ททิ้งไว้ 15 นาทีถึงจะถึงอุณหภูมิทำงาน แต่ถ้าสตาร์ทแล้วขับคลาน ใช้เวลาประมาณครึ่งนึงครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ
สาเหตุที่ถามความรู้เรื่องนี้ เกิดจาก เวลาไปต่างจังหวัด พื้นที่ภูเขา พอสตาทเครื่องครึ่งนาที แล้วออกรถขับคลานๆเกียร์หนึ่งต่ออีก 5 นาทีเพื่อออกจากแถวที่พัก(รอบเครื่อง 1200-1300) จะถึงถนนหลักที่จะขึ้นเขา น้ำหล่อเย็นขึ้นถึงอุณภูมิทำงานพอดี
พอขับขึ้นลงเขา (ส่วนใหญ่จะขึ้น) ต้องใช้รอบเครื่องสูง รู้สึกว่าเกียร์มันเปลี่ยนไม่ smooth เท่าในสถานะการณ์ที่ต้องขับออกจากที่พักแล้วต้องแวะทำธุระในตัวชุมชน พอขับในตัวชุมชนซักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยขึ้นเขา เกียร์มันเปลี่ยนได้ smooth แบบปกติเลย
รถผมรถธรรมดา มีแต่เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น เลยเกิดความสงสัยว่า แล้วอุณหภมิน้ำมันเกียร์ที่เคยได้ยินว่าขึ้นถึงอุณหภูมิทำงานช้ากว่าน้ำหล่อเย็น ต้องใช้เวลาซักเท่าไหร่น่ะครับ (จากประสบการณ์ที่เล่า เลยคิดว่า ขับคลานๆ 5 นาที อุณหภูมิน้ำมันเกียร์คงยังขึ้นไม่ถึง แต่ถ้าขับเรื่อยๆในชุมชนครึ่งชั่วโมง นี่ถึงอุณหภูมิทำงานแล้ว)
ที่บอกว่าเกียร์เปลี่ยนไม่ smooth จะเป็นเฉพาะกรณีใช้รอบเครื่องสูงขึ้นเขาหลังจากขับคลานมาได้แค่ 5 นาทีครับ
ถ้าขับทางราบในชุมชน รอบเครื่องไม่สูง แม้จะขับมาแค่ 5 นาที เกียร์ก็เปลี่ยนได้ smooth ปกติ
หรือถ้าขับขึ้นเขา ใช้รอบเครื่องสูง แต่ได้วนในชุมชนมาแล้วครึ่งชั่วโมง พอมาในทางภูเขาไม่ว่าจะใช้รอบเครื่องสูงขึ้นเขานานต่อเนื่องเพียงใด เกียร์ออโต้เปลี่ยนขึ้นลงหลายครั้ง เกียร์ก็เปลี่ยนได้สมูทดีครับ
-
อุณหภูมิน้ำมันเกียร์จะเปลี่ยนแปลงทั้งเย็นและร้อนช้ากว่าหล่อเย็นเครื่องเยอะพอสมควรครับ
รถผมติดออยเกียร์แยกและตัวอย่างจากที่ผมวัดอุณหภูมิเกียร์ CVT โดยเฉลี่ยถ้าวิ่งอยู่ในเมืองจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง 75-80 องศาครับ พอถึง 80 แล้วองศาจะเริ่มไต่ขึ้นค่อนข้างช้าไปจนถึง 80 ปลายๆแต่ก็กินเวลาไปรวมชั่วโมงครึ่ง ถ้าอยู่ต่างจังหวัดแล้ววิ่งทำความเร็วคงที่ไปเรื่อยอุณหภูมิจะขึ้นเร็วกว่านี้ครับ
-
บังเอิ๊ญ บังเอิญที่ผ่านไปเจอคลิปนี้ เลยขอช่วยหาคำตอบให้เจ้าของกระทู้หน่อย
https://www.youtube.com/watch?v=n_CQzBc6GbM
เค้าเอากล้อง thermal cam จับตอนติดเครื่องหน้าหนาว อธิบายเรื่องเกียร์ตอนนาทีที่ 4.32 ครับ
ข้อสรุปที่ว่า ต้องให้รถวิ่งซะหน่อย น้ำมันเกียร์จะอุ่นขึ้น ผมว่าก็เป็นจริงแหล่ะครับ
จากประสบการณ์กรณีวิ่งถนนพื้นราบปกติ ถ้าเกียร์ได้เปลี่ยนบ่อยๆ จากรถติด หรือเบรคก่อนวิ่งผ่านลูกระนาด เกียร์จะถึงจุดที่ lock up clutch ทำงานเร็วกว่า และถึงจุดที่เปลี่ยนเกียร์ได้สมูท เร็วกว่า เทียบกับกรณีวิ่งทางตรงยาวๆ ด้วยระยะทางเท่ากัน เวลาออกรถคือตอนเช้าเหมือนกันครับ
รถเป็น FWD เกียร์ 4AT เฟืองปกติ ออยคูลเลอร์ติดกับหม้อน้ำจากโรงงานครับ
-
แต่ละรุ่นไม่เท่ากัน การออกแบบก็ต่างกัน
เช่น มีออย ไม่มี ออยแบบไหน เข้าหม้อน้ำหรือเปล่า
แนะนำว่า อย่างน้อยๆวิ่งเบาๆซัก 5 นาที ค่อยซัดเต็มที่จะเซฟที่สุดครับ หรือเอาให้ชัวร์ต่อเซนเซอร์วัด oil gear temp เลยครับ แต่ส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยจำเป็นขนาดนั้นถ้ารถไม่ได้สมรรถนะแรงม้าสูง
-
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
ดูจากคลิปแล้ว อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ขึ้นตามติดอุณภูมิน้ำหล่อเย็นไปเรื่อยๆ ไม่ต่างกันมาก
ส่วนอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ คงจะขึ้นช้ากว่าไปอีกพอสมควร
-
คิดว่าที่มีผลต่อการเปลี่ยนเกียร์ว่า ..smooth หรือไม่นั้น
ตัวสำคัญน่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิเครื่องยนต์มากกว่าอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ครับ
ในตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรกขณะเครื่องเย็น การทำงานของเครื่องยนต์อยู่ในภาวะที่เรียกว่า Open loop
การทำงานของเครื่องยนต์จะอาศัยข้อมูลหลักๆ- อุณหภูมิอากาศ อุณหภูมิเครื่องยนต์(น้ำหล่อเย็น)
ความเร็วเครื่องยนต์/ความเร็วรอบเครื่อง โหลดเครื่องยนต์ เพื่อให้ECU คำนวณการจ่ายน้ำมันตามโปรแกรมที่เขียนไว้
มีการให้จ่ายน้ำมันเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อป้องกันเครื่องยนต์ดับจากกำลังไม่พอเพียง เป็นระยะที่มีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
ถ้าปล่อยให้อยู่ในรอบเดินเบา(ไม่เหยียบคันเร่ง) รอบเครื่องยนต์จะสูงกว่าปกติเล็กน้อย
เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์สูงขึ้นจนถึงที่เรียกว่าอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์-ราวๆ 80กว่าๆเป็นต้นไป (องศาเซลเซียส C)
จนถึงจุดที่มีการทำงานของออกซิเจนเซนเซอร์ เอาข้อมูลไอเสียมาปรับการจ่ายปริมาณน้ำมันให้สัดส่วนเหมาะสมที่สุด
อยู่ตลอดเวลา เรียกการทำงานตอนนี้ว่าอยู่ในภาวะ Closed loop การจ่ายน้ำมันจะน้อยกว่า(ถ้าเทียบว่าเป็นจุดที่ต้องการกำลังเท่ากัน)
รอบเครื่องถ้าอยู่ในขณะรอบเดินเบา(ไม่เหยียบคันเร่ง) จะต่ำลงเล็กน้อยกว่าตอนอยู่ในภาวะopen loop
การเปลี่ยนเกียร์ตามที่โปรแกรมไว้ จึงจะหยาบกว่า,นิ่มนวลน้อยกว่าในภาวะ Open loop
คือทุกจุดจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์รอบเครื่องจะสูงกว่าเล็กน้อย(เมือเทียบกับการทำงานเข้าสู่ปกติทั่วไป ในภาวะ Closed loopแล้ว)
ที่Open loop ยิ่งถ้าเป็นการเปลี่ยนเกียร์ขณะที่โหลดเครื่องยนต์สูง ต้องการกำลังเยอะๆแบบเร่งปีนขึ้นเขา
จะเห็นความไม่smooth ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ส่วนอุณหภูมิน้ำมันเกียร์สำหรับภูมิอากาศบ้านเรา ไม่น่าจะมีผลอะไรชัดเจน (ส่วนเมืองหนาว ??)
แต่ถ้าอุณหภูมิเกียร์ที่ต่ำไป อาจจะไม่มีการ lock up ของทอร์คคอนเวิตเตอร์
ส่วนเวลาในการที่เครื่องเย็นจนร้อนขึ้นเข้าสู่อุณหภูมิการทำงานนั้น
จนเครื่องยนต์เปลี่ยนไปสู่การทำงานในภาวะClosed loop ไม่ทราบว่าใช้เวลานานเท่าไรครับ แต่ไม่น่าจะนานนัก
แต่ถ้ามีเครื่องอ่าน OBDเสียบอ่าน ก็บอกได้ครับว่าเข้าสู่Closed loopแล้ว
มีคำแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องจอดสตาร์ทแล้วรอวอร์มเครื่องยนต์ก่อน การจอดนิ่งที่รอบเดินเบาเพื่อรอให้เครื่องร้อนจนถึงอุณหภูมิทำงานเครื่องยนต์ เป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า/ถึงอุณหภูมิทำงานได้ช้ากว่า กว่าวิธีการขับรถออกไปเลยด้วยความเร็วปกติธรรมดา ไม่ได้ทำให้เกิดสึกหรอต่อเครื่องยนต์มากมายอะไร
-
ขอบคุณมากครับ ได้เข้าใจการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ขึ้นมาอีกเยอะ
เกจ์อุณหภูมิของรถผมมันจะขึ้นเป็นขีดๆ พอใกล้ๆกึ่งกลางเกจ์ก็เริ่มนิ่ง
พออ่านที่คุณ tarahlm อธิบาย เลยลองกลับไปดูภาพที่เคยถ่ายไว้ใหม่
ภาพแรก หลังจากขับคลานๆจาก start มาแล้วประมาณ 5 นาที ถึงถนนหลัก ก็ทำความเร็วขึ้นไป
พอดูจากภาพ ขีดมันขึ้นเกือบๆ 80 อาจจะยังไม่เข้า closed loop
ภาพสอง คนละวัน แต่เป็นหลังจากการขับกลับมา เกจ์สูงขึ้นไปอีกซัก 2-3 ขีด ประมาณ 90 เป็น closed loop แล้ว
จากที่คุณ tarahlm อธิบาย เลยชักอยากจะดูเป็นตัวเลขดิจิตอล เพราะดูเป็นขีดๆลองนับแล้วขีดละ 5 องศา พอดูขณะขับรถนี่ เกจ์อยู่เล็กๆไกลๆมองไม่ค่อยชัดว่าน่าจะเข้า closed loop รึยัง
ไม่รู้จะมีแสดงเป็นตัวเลขดิจิตอลรึเปล่า เดี๋ยวขอลองไปกดหาดูครับ