Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Diogo ที่ ธันวาคม 12, 2017, 16:40:09
-
ผมสงสัยว่ากล้องที่ตรวจจับความเร็วบนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เขาใช้ระบบไหนเป็นมาตรฐานครับ
ช่วงก่อนหน้าสักประมาณกลางปีทางมอเตอร์เวย์ได้มีการติดตั้งชุด LED แสดงความเร็วของรถคันขวาสุดโดยจะติดอยู่ที่เสาสะพานลอยช่วงแถวๆ ลาดกระบัง ผลคือเลขที่แสดงมันตรงกับหน้าปัทม์รถผมเลย +- ไม่เกิน 3km/hr
แล้วสองเดือนที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนโดยได้ถอดหน้าจอเดิมออกแล้วติดตั้งเป็นราวเหล็กคร่อมถนนทั้งเส้น มีหน้าจอแสดงความเร็วของรถที่แล่นผ่านทุกเลน ซึ่งความเร็วที่ได้ในรอบนี้กลับกลายเป็นความเร็วที่ตรงกับ GPS +- ไม่เกิน 3km/hr ใน GPS แสดง 107 ส่วนหน้าจอ LED โชว์ 107 เช่นเดียวกับ GPS ส่วนหน้าปัทม์รถผมแสดงที่ 111
คำถามของผมคือตอนนี้หากเราวิ่งจนถึงจุดที่จะโดนกล้องที่เขาใช้ในการตรวจจับความเร็วจริงๆ(ไม่ใช่หน้าจอแสดงผล)เขาใช้ความเร็วไหนเป็นบรรทัดฐานกันแน่ ผมพอจะเข้าใจอยู่ว่ามันไม่ได้ accuracy ขนาดนั้น แต่เอาจริงๆมันก็ต่างกันไม่น้อยเลย
ปล.รถ Civic FD ครับเลยได้เลขเป็น Digi ตรงๆ
-
FD ล้อ+ยาง ขนาดเดิมจากโรงงานไหมครับ เส้นผ่านศูนย์กลาง ทั้ง 2 อย่างมีผลต่อการคำนวณความเร็วและ ODO
Navigator ติดรถ อาศัยสัญญาณบอกตำแหน่งจาก GPS antenna แล้วมาประมวลผล ส่วนใหญ่ไม่ accurate เนื่องจากหน่วยประมวลผล Microcontroller นั้นไม่ได้ สเปคสูงไรมากมาย และทำงานคู่กับ OS ธรรมดาๆ
ยกเว้นพวกที่ออกแบบมาวัดความเร็ว เช่น VBOX มั้ง เห็น Speed chnannel ชอบใช้
ส่วนกล้องจับความเร็วเคยทำโปรเนคตอนเรียน ก็ใช้คลื่นย่านอะไรก็ได้มาทำแล้วแต่ผู้ผลิต จะเอามาใช้ก็ต้องตรงตามกำหนด กฏหมายความคลื่นความถี่ของประเทศนั้น
ตอนผมวิจัยใช้ Ultrasonic 90 kHz ใส่กำลังส่งเข้าไปเยอะ คำนวณบลาๆๆ ได้ระยะหวังผล 1.6 km
เมื่อคลื่นยิงไป สะท้อนกลับ แต่รถก็เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ก็ยิงเรื่อยๆๆๆ ตำนวณเวลาที่คลื่นกระทบวัตถุจุด A เทียบกับ จุด B ก็จะได้ความเร็ว ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ก็จะได้ความเร็วขณะนั้นแบบเรียลไทม์
แม่นยำ และเรียลไทม์แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ หน่วยประมวลผล และ Display
ของ กรมทางหลวง ราคาแพง คงเทพ อยู่
-
รู้สึกว่าใช้คลื่น ครับ ไม่ได้ใช้ laser ขับๆไปครับ เข็มไมล์เรา 123 ยังไม่โดนแน่ๆบนถนนเส้นนี้ ปกติมอเตอร์เวย์ผมตั้ง Cruise ไว้ 123 ไม่เคยโดนสักครั้ง
-
รู้สึกว่าใช้คลื่น ครับ ไม่ได้ใช้ laser ขับๆไปครับ เข็มไมล์เรา 123 ยังไม่โดนแน่ๆบนถนนเส้นนี้ ปกติมอเตอร์เวย์ผมตั้ง Cruise ไว้ 123 ไม่เคยโดนสักครั้ง
ผมกลับโดน 3 ใบแล้วที่มอเตอร์เวย์
และที่เหลือเชื่อคือ 121 กม./ชม. ทั้ง 3 ใบ เหอๆๆ
ไสยศาสตร์มีจริง
-
FD ล้อ+ยาง ขนาดเดิมจากโรงงานไหมครับ เส้นผ่านศูนย์กลาง ทั้ง 2 อย่างมีผลต่อการคำนวณความเร็วและ ODO
Navigator ติดรถ อาศัยสัญญาณบอกตำแหน่งจาก GPS antenna แล้วมาประมวลผล ส่วนใหญ่ไม่ accurate เนื่องจากหน่วยประมวลผล Microcontroller นั้นไม่ได้ สเปคสูงไรมากมาย และทำงานคู่กับ OS ธรรมดาๆ
ยกเว้นพวกที่ออกแบบมาวัดความเร็ว เช่น VBOX มั้ง เห็น Speed chnannel ชอบใช้
ส่วนกล้องจับความเร็วเคยทำโปรเนคตอนเรียน ก็ใช้คลื่นย่านอะไรก็ได้มาทำแล้วแต่ผู้ผลิต จะเอามาใช้ก็ต้องตรงตามกำหนด กฏหมายความคลื่นความถี่ของประเทศนั้น
ตอนผมวิจัยใช้ Ultrasonic 90 kHz ใส่กำลังส่งเข้าไปเยอะ คำนวณบลาๆๆ ได้ระยะหวังผล 1.6 km
เมื่อคลื่นยิงไป สะท้อนกลับ แต่รถก็เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ก็ยิงเรื่อยๆๆๆ ตำนวณเวลาที่คลื่นกระทบวัตถุจุด A เทียบกับ จุด B ก็จะได้ความเร็ว ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลา ก็จะได้ความเร็วขณะนั้นแบบเรียลไทม์
แม่นยำ และเรียลไทม์แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ หน่วยประมวลผล และ Display
ของ กรมทางหลวง ราคาแพง คงเทพ อยู่
ล้อ-ยางเดิมครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ ครับ ผมก็ยังคิดอยู่ว่าเข้าใช้อะไรเป็นมาตรฐานของความเร็วที่จะกำหนดว่าขับแล้วเกิน - -"
-
วิ่ง 110 พอครับ ...ผมยังไม่เคยโดนซักใบ ต้องเผื่อ room ไว้หน่อย อย่าขับแบบปริ่มๆ ที่กล้องตรวจจับ
-
สงสัยเหมือนกันครับ ปกติผมจะตั้งcruiseไว้ประมาณ 125 ตรงจอตรวจความเร็วก็ขึ้นประมาณ123-125
เข้าใจมาตลอดคือ ความเร็วบนหน้าปัทม์มันอ่อนกว่าความเร็วจริงเสมอไม่ใช่เหรอ (อย่างน้อยก็5%+)
แต่พอผ่านตรงโซนกล้องถ่าย ขับ125-130ก็ไม่เคยโดนครับ
-
เราจะรู้ได้ยังไงครับว่าอันไหนเป็นกล้อง CCTV อันไหนเป็นกล้องจับความเร็ว?
หรือว่าจุดที่มีกล้อง จะต้องมีป้ายเตือนด้วยเสมอครับ?
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSk-yJ3-L3YY9gAOysCXXzvR8AN8N3V_J14YVvV3uwew9_A3L2r)
-
รู้สึกว่าใช้คลื่น ครับ ไม่ได้ใช้ laser ขับๆไปครับ เข็มไมล์เรา 123 ยังไม่โดนแน่ๆบนถนนเส้นนี้ ปกติมอเตอร์เวย์ผมตั้ง Cruise ไว้ 123 ไม่เคยโดนสักครั้ง
ผมกลับโดน 3 ใบแล้วที่มอเตอร์เวย์
และที่เหลือเชื่อคือ 121 กม./ชม. ทั้ง 3 ใบ เหอๆๆ
ไสยศาสตร์มีจริง
ผมจำจุดไว้ครับ กม 58 ขาเข้า เมื่อก่อนมี 63 ด้วยแต่หายไปแล้ว ไม่รู้ย้ายไปจุดไหน อันที่เป็นกล่องๆนะ ส่วนป้ายแขวนดูอันที่มีเสาเยอะๆครับ จะอยู่แถวๆก่อนเข้าจุดพักบางประกง สามเสาติดๆกัน
เมื่อก่อนตรงจุดพักรถลาดกระบังสะพานลอยส้มๆจะจะมีจับ 2 เลนขวา แต่เดี๋ยวนี้หายไป คงเลื่อนมารวมกับป้ายเลขดิจิตอลล่ะครับ
ส่วนขาไปพัทยา ช่วงเลยสะพานลอยลาดกระบังไปถึงทางยกระดับข้ามมอเตอร์เวย์ อันนั้นก็น่ากลัว แต่ไม่เคยโดนนะ
ก่อนถึงแยกออกบางประกงมีอันนึง ไอป้ายที่ถ่ายรูปรถขึ้นจอนั่นเป็นจอขู่ ไม่รู้จับจริงๆมั้ย เพราะผมลองแล้ว 110 มันก็แคปขึ้นจอละ มันจับไม่ทันด้วยถ้าวิ่งใกล้ๆคันหน้าไป และมันส่องได้แค่เลนครึ่ง
ส่วนช่วงจากบ้านบึงไปพัทยาไม่ชัวร์ครับ มี กม 110 อยู่อันนึง กับพวกรถแอบถ่ายบนสะพานข้าม เพราะผมแยกออกไปทางบ้านบึงก่อนตลอด
ปล. ผมตั้งครูสฯไว้ 100 ขึ้นที่ 97 ครับ Ford Everest
-
เราจะรู้ได้ยังไงครับว่าอันไหนเป็นกล้อง CCTV อันไหนเป็นกล้องจับความเร็ว?
หรือว่าจุดที่มีกล้อง จะต้องมีป้ายเตือนด้วยเสมอครับ?
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSk-yJ3-L3YY9gAOysCXXzvR8AN8N3V_J14YVvV3uwew9_A3L2r)
กล่องแปลกๆ กับกล้องยาวๆครับ จะเป็นกล้องจับความเร็ว
เช่นเวลาวิ่งถนนในเขตนนทบุรี มักเป็นกล่องแอบอยู่ครับ ไม่ก็เป็นรางแขวน ส่วนไอกล้องเดี่ยวๆที่อยู่ตามเสาสูงๆทั้งแบบยาวๆ และก็กลมๆฟิล์มดำนั่น CCTV ครับ
ส่วนเดี๋ยวนี้ถ้าวิ่งไปตามต่างจังหวัดถ้าเจอกล้องแบบในรูปครับ กล้องติดกับตัวยิงและรับคลื่นในตัว เจอหลายจังหวัดแล้วครับ
-
เครื่องตรวจจับความเร็วรถยนต์ส่วนใหญ่ที่นิยมกันมักใช้แบบ RADAR (radio detection and ranging)
ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงคลื่นวิทยุ เป็นตัวตรวจจับ
ต่อมามีการพัฒนาเพิ่มให้ความแม่นยำขึ้น(แต่ย่อมราคาแพงขึ้น) ด้วยใช้การตรวจจับแบบ LIDAR (light detection and ranging)
ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงคลื่นแสง เป็นตัวตรวจจับ โดยนำแสงLaserมาใช้ และวิธีการวัดแปรผลต่างจากแบบRADAR ทำให้คำนวณแม่นยำขึ้น
นอกจากนี้แบบRADAR จะมีการบานออกของคลื่นที่ส่งออกไปไกลขึ้น ทำให้แยกกันยากของรถที่อยู่ใกล้กัน
ขณะที่แบบ Laser LIDAR จะมีการบานออกของคลื่นที่ส่งออกไปน้อยกว่ามาก ทำให้แยกวัดรถที่อยู่ใกล้กันได้
ดังนั้นมาตรฐานก็คงอยู่ที่เครื่องตรวจว่าเป็นแบบใด แต่ในรูปของป้ายแสดงทางหลวง ที่ตรวจแยกความเร็วแต่ละเลนเลยนั้น
ก็ขอเดาว่าเป็นแบบ LIDAR น่าจะแม่นยำนะครับ
ส่วนค่าความเร็วของรถเรา คงต้องยึดที่น่าจะใกล้เคียงสุด คือจาก GPS (มากกว่าจากไมล์หน้าปัทม์)
(ส่วนคลื่น ultrasonic นั้นยังจัดอยู่ในกลุ่มคลื่นเสียง แต่ความถี่สูงเกินกว่าหูเราจะได้ยิน
เนื่องจากยังเป็นคลื่นเสียง ต้องส่งผ่านตัวกลาง ผ่านสูญญากาศไม่ได้)
-
ถ้ายังไม่รู้จักเทคนิคการ modulation ก็อย่าไปคิดเอง ว่า Ultrasonic RF ส่งผ่านอากาศ ที่ระยะไกลไม่ได้