Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nhnnot ที่ ธันวาคม 14, 2017, 21:13:46
-
ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมาก รวมทั้งวงการดูแลรถยนต์
เคลือบแก้วเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามามีส่วนร่วมสำหรับคนที่รักรถ หรือไม่มีเวลาทำความสะอาดรถที่รักอย่างบ่อยครั้ง
น้ำยาที่ใช้เคลือบมีหลายแบบ หลายเกรด หลายแบรน ทั้งพรีเมียมในคาร์แคร์สุดหรูเข้าคอสทีราคา5 หลัก
หรือแม้กระทั้งขายในห้างสรรพสินค้า ราคา 200 บาท
สิ่งแรกที่คนที่รับรถป้ายแดงมามองหา คงไม่พ้นเรื่องติดฟิล์ม หรือไม่ก็เคลือบแก้ว
ชาว Headlightmag คิดว่าเคลือบแก้วยังจำเป็นอยู่มั้ยสำหรับการดูแลรถในปัจจุบัน
ปล1. ผมพึ่งจะมีโอกาสได้ใช้รถสีดำเป็นคันแรก ใครมีประสบการณ์รบกวนแนะนำทีครับ :) :) :)
ปล2. กระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
-
ถ้าเป็นรถสีดำจัดเคลือบเซรามิกเลยครับ เงางามกว่าเดิมแน่นอน
(https://scontent.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/22688354_1816788115017592_8326118927249187942_n.jpg?oh=00ca93ebaef48514718a580fa3253321&oe=5ABB950C)
-
ถ้าไม่ค่อยล้างรถ หรือพวกรถสีดำ เคลือบแก้วดีครับ
เพราะการล้างบ่อยๆกับรถสีดำ อาจทำให้เกิดรอยได้ง่าย (ถ้าล้างไม่เป็น)
หรือใครก็ตามที่ไม่ค่อยมีเวลา เคลือบแก้วแค่ล้างน้ำเปล่าก็พอ
-
ถ้าใช้คำว่า "จำเป็น" คงแต่ ล้าง ดูดฝุ่น :-[
บางคนเคลือบแก้ว แต่ภายใน รกๆ ฝุ่นจับก็ไม่ไหวนะครับ
-
จำเป็นมั้ย คงไม่ครับ
แต่รถผมเคลือบทุกคัน ล้างง่ายดีครับ คราบไม่ฝังแน่น
ชอบตรงนี้ล่ะครับ ความเงางาน ล้างลง wax ดีๆก็เงาเหมือนๆกัน
-
ถ้าล้างรถเอง
ไม่ค่อยมีเวลาล้างมาก ขี้เกียจเหนื่อย
โคตรคุ้มครับ ล้างง่ายมากกก
-
คิดเหมือนคห.บนๆ เอาจริงๆไม่จำเป็นครับ แต่ทำไว้ก็ล้างง่ายจริงๆ
รถผมบางคันจอดไว้ไม่ใช้เป็นอาทิตย์ ถ้าไม่ได้คลุมจะล้างง่ายมาก
-
จำเป็นในแง่ไหนอะครับ สำหรับผมสมัยไหนมันก็ไม่เคยจำเป็นครับล้างเช็ดให้สะอาดก็พอ
ล้างอย่างถูกวิธีก็ไม่ได้สร้างรอยมากมายอะไร สี่ห้าปีขัดสักทีก็สวยแล้ว ในทางกลับกันเคลือบแล้วไม่ดูแลก็เละนะครับเห็นรถที่เคลือบมาแต่ละคันสภาพแย่กว่ารถที่ไม่ได้ทำอีกเพราะคิดว่าเคลือบแล้วไม่เป็นรอย
ในฐานะที่เคยทำคาร์แคร์บอกได้ว่าการเคลือบมันก็ดีแต่การตั้งราคาในไทยมันทำให้การเคลือบแก้วมันเหมือนเครื่องมือหากินมากกว่า เพราะล้างรถอย่างเดียวร้านอยู่ไม่ได้ครัย
-
ทำดีๆก็แพง ทำถูกก็ไม่ดี
ถ้าคิดจะทำแบบถูกเอาเงินมาเล่น wax ดีกว่า สวยกว่า
แต่ถ้างบไม่ใช่ปัญหาก็จัดไป
-
;) เห็นล่าสุดมีแบบติดฟิล์ม
เก่าก็ลอกอออก
-
โดยส่วนตัว ไม่เคยมองว่าการเคลือบแก้วนี้มีข้อดี เพราะ
- สารที่พ่นไป ไม่รู้มีอายุยาวนานแค่ไหน
- เกาะยึดกับสีตัวรถได้ดีแค่ไหน
- พอเจอหินกระเทาะมาแล้วจะทำไง
- ถ้ามีการชนมา ซ่อมสีแล้วจะเพี้ยนมากน้อย หรือซ่อมเสร็จต้องไปเคลือบแก้วใหม่อีก??
- ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น นำไปซื้อ wax เคลือบยังเหลือเงินอีกเยอะ
- ตอนขายต่อก็ไม่ได้มูลค่าเพิ่ม
- รถแพงมากๆ เช่น supercar ต่างๆ การพ่นสีชั้นดี พ่นหลายชั้น ใช้เวลาในการพ่นหรือทำสีนาน มาเจอเคลือบแก้ว 1-3 วัน เนี่ยนะ!!??
ส่วนสติกเกอร์กันรอย ไม่แน่ใจว่าดีไหม เพราะ
- ตอนติดนี่ต้องเจอคัตเตอร์กรีดไป จะโดนสีรถไหม ถ้าไม่โดนก็รอดไป
- เจอหินมา สติกเกอร์ฉีกนิดๆ นี่ต้องทำไง เปลี่ยนหรือทำใจ
- ตอนลอกออก สีรถจะติดออกมาด้วย หรือชั้นแลคเกอร์ จะถูกลอกออกมาด้วยไหม
- ถ้าเจอความร้อนทั้งจากเครื่องยนต์ หรือแสงแดด นานๆ มันจะกรอบ มันจะร่อน มันจะดึงสีรถออกด้วยไหม
สีเดิมติดรถ หมั่นทำความสะอาด ลง wax บ้าง ถ้ามีเวลา
หลีกเลี่ยงการจอดตากแดด ขี้นก ยางไม้ ต่างๆ เท่าที่ทำได้ ก็เพียงพอ
โดนหินกระเทาะ มีรอยจากโดนนู่นนี่นั้นบ้าง มันเป็นเรื่องปกติ เท่าที่ขายมา ก็เห็นราคาเป็นปกติเมื่อเทียบกับคันอื่นนะ
-
ที่บ้านรถกี่คันๆไม่เคยเคลือบแก้วแม้แต่คันเดียว เพราะใช้งานทุกวัน ไม่มีเวลาไปทำซ้ำ สิ้นเปลืองเงิน ถึงยังไงก็ต้องโดนเฉี่ยวชน มีลักยิ้มอยู่ดี
-
คัน Fortuner ผมติดฟิล์มมาสามหมื่น ขับมาได้ 3 ปี ออก ต่างจังหวัดไกลๆ ตลอด เจอทุกสภาพถนน สียังใหม่กริ๊บ...เทียบกับ Pajero คันเก่า ไม่ได้ติด ใช้งานแบบเดียวกัน ฝากระโปรงพรุนไปด้วยรอยสะเก็ดหิน
ติดฟิล์มไม่ใสเท่าเคลือบแก้ว แต่มันรักษาสภาพสีทนทานดี...สรุปซื้อคันต่อไปก็จะติดทุกคันครับ
-
จำเป็นไหม ตอบง่ายๆ ก็คงไม่จำเป็นหรอกคับ
แต่พอดีผมขี้เกียจล้างรถ เคลือบไว้ แล้วมันล้างง่ายขึ้นมาก ง่าย ๆ แค่นี้เลย
-
แล้วแต่คนมองครับ ส่วนตัวผมชอบให้รถเงาๆ สวยๆ ก็เคลือบครับ แต่ต้องเข้าใจว่า คุณภาพตามราคา อย่าเอาถูกไว้ก่อน เพราะมันเป็นแบบนี้จริงๆ รถผมคันนึงเคลือบมา 1.5 หมื่น อีกคัน 4.3 หมื่น บอกเลยว่า ต่างกันเยอะครับ ยี่ห้อน้ำยา ความเงา ความหนา น้ำเกาะ-ไม่เกาะ การ Service ฝีมือและความเป็นมืออาชีพ
ส่วนเรื่องฟิล์มติดกันรอย ผมว่าเป็นเรื่องดีถ้ารถวิ่งตจว.เยอะๆ แต่ต้องดูให้ดีว่าฟิล์มเกรดไหน อะไร ยังไง ส่วนตัวเห็นมากับตาแล้วว่า ติดฟิล์มถูกๆมา แป๊ปเดียวเหลือง ลอกออกเป็นชิ้นเล็กๆ เละมาก ที่สำคัญ รอยคัดเตอร์มาแบบจัดเต็ม ถ้าเป็นไป พยายามหาร้านที่ตัดด้วยระบบ Computer ก่อนติดตั้งบนรถจะดีกว่าครับ
-
ถ้าเสียตังค์เคลือบผมว่าไม่จำเป็นครับ แพงเกินเหตุทำสีทั้งคันทั้งต้นทุนค่าแรงอุปกรณ์ยังราคาไม่ถึงกับเคลือบเวอร์ๆแบบนี้เลย รถปกติใช้งานทั่วไปถ้าไม่ทิ้งไม่เหลียวแล ยังไงห้าปีสีก็ยังเงาครับ
ถ้าแถมจากศูนย์ผมเอาครับอย่าง cts เซลเสนอให้จาก7หมื่นเหลือห้าหมื่นแถมฟรี
ข้อสำคัญอย่างนึงที่ต้องรู้ถ้าไม่ค่อยมีเวลาต้องเข้าไปเมนทีแนนซ์ทุกหกเดือนหรือหนึ่งปีอย่าซื้อเลยครับ สิ้นเปลืองเปล่าเพราะเวลามันลอกหรือร่อนจะเป็นรอยด่างๆ มองกลางวันไม่ชัด ต้องลองมองแสงไฟสะท้อนตอนกลางคืนหรือเอาไฟฉายส่องดูครับ ยังกะขึ้กลากเลยรอยขนแมวไม่ค่อยมี เห็นแต่รอยด่างๆกับรอยเส้นขัดแทน :)
-
ไม่จำเป็น ส่วนตัวผมรถสีดำเลยทำ อีกตัวเลือกคือติดฟิล์มปกป้องได้ดีกว่า
ถ้าไม่ใช่รถสีดำคงไม่ทำ ไปร้านแล้วล้างเคลือบเอาก็เพียงพอ
-
โดยส่วนตัว ไม่เคยมองว่าการเคลือบแก้วนี้มีข้อดี เพราะ
- สารที่พ่นไป ไม่รู้มีอายุยาวนานแค่ไหน
- เกาะยึดกับสีตัวรถได้ดีแค่ไหน
- พอเจอหินกระเทาะมาแล้วจะทำไง
- ถ้ามีการชนมา ซ่อมสีแล้วจะเพี้ยนมากน้อย หรือซ่อมเสร็จต้องไปเคลือบแก้วใหม่อีก??
- ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น นำไปซื้อ wax เคลือบยังเหลือเงินอีกเยอะ
- ตอนขายต่อก็ไม่ได้มูลค่าเพิ่ม
- รถแพงมากๆ เช่น supercar ต่างๆ การพ่นสีชั้นดี พ่นหลายชั้น ใช้เวลาในการพ่นหรือทำสีนาน มาเจอเคลือบแก้ว 1-3 วัน เนี่ยนะ!!??
ส่วนสติกเกอร์กันรอย ไม่แน่ใจว่าดีไหม เพราะ
- ตอนติดนี่ต้องเจอคัตเตอร์กรีดไป จะโดนสีรถไหม ถ้าไม่โดนก็รอดไป
- เจอหินมา สติกเกอร์ฉีกนิดๆ นี่ต้องทำไง เปลี่ยนหรือทำใจ
- ตอนลอกออก สีรถจะติดออกมาด้วย หรือชั้นแลคเกอร์ จะถูกลอกออกมาด้วยไหม
- ถ้าเจอความร้อนทั้งจากเครื่องยนต์ หรือแสงแดด นานๆ มันจะกรอบ มันจะร่อน มันจะดึงสีรถออกด้วยไหม
สีเดิมติดรถ หมั่นทำความสะอาด ลง wax บ้าง ถ้ามีเวลา
หลีกเลี่ยงการจอดตากแดด ขี้นก ยางไม้ ต่างๆ เท่าที่ทำได้ ก็เพียงพอ
โดนหินกระเทาะ มีรอยจากโดนนู่นนี่นั้นบ้าง มันเป็นเรื่องปกติ เท่าที่ขายมา ก็เห็นราคาเป็นปกติเมื่อเทียบกับคันอื่นนะ
เห็นด้วยครับ
-
ข้อดี ของการเคลือบแก้ว คือ มันดูแลง่าย สิ่งสกปรกไม่ค่อยฝั่ง ล้างน้ำเปล่าก็ยังไหว ครับ
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีเวลาดูแลรถ เคลือบสีเองได้ แค่ wax ปกติ ก็เหลือๆแล้วครับ
-
ที่บ้านรถกี่คันๆไม่เคยเคลือบแก้วแม้แต่คันเดียว เพราะใช้งานทุกวัน ไม่มีเวลาไปทำซ้ำ สิ้นเปลืองเงิน ถึงยังไงก็ต้องโดนเฉี่ยวชน มีลักยิ้มอยู่ดี
+1
คันที่แล้ว เคลือบแก้วเกรดดี หมดไปหลายพัน สัปดาห์ต่อมา รถตู้อัดตูด ซ่อมสียาว รู้งี้เอาเงินไปเสียค่า Taxi ระหว่างรถรอซ่อมดีกว่า เสียดาย
-
จำเป็นมั๊ย....คงไม่ครับ
แต่มันก็มีข้อดีของมันอยู่ครับ ตามที่หลายๆท่านว่าไว้
-
สำหรับผมจำเป็น แต่เอาราคาปานกลางไม่เกิน 2-30,000 เพราะ ล้างรถเอง ทุกอาทิตย์ และยังลง สเปรย์ แว็ก ทับอีกรอบให้ลื่นเงาขึ้น และใช้ ผ้าชุบน้ำเช็ด ระหว่างวัน หากไม่สกปรกมาก หรือบางทีล้างน้ำเปล่า คุ้มไม่เหนื่อย กับการลงแว็กภายหลัง รถใหม่ทุกคัน ผมเคลือบตลอด ถ้าหากมีแผลจากการเฉี่ยวชน เขาก็รับประกันทำให้ฟรี