Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: parinyazo ที่ ธันวาคม 23, 2017, 20:59:03
-
ใจไปทาง320d ตอนนี้รถไกล้หมดมากๆ
x1 จริงๆชอบครับ แต่ไม่ชอบเบาะนั่งคนขับ มันสบายน้อย
c350e ชอบทุกอย่างยกเว้นที่มันไฟฟ้า กลัวใช้หนักๆแล้วมีปห. ถามเซลล์แล้ว c class จะไม่มีเครื่องยนต์เบนซิลเดี่ยวๆแล้วแน่นอน ต้องออกมือสองเท่านั้น เปนเพื่อนๆเอาตัวไหนครับ ผมใช้รถ 6-7ปี
-
320dแล้วต่อหนักๆครับ
-
320d ครับ
-
X1 ลองนั่งตัว M Sport หรือยังครับ นั่งสบายกว่าตัว X line พอใช้ได้เลยนะครับ
-
320 d ครับ ถ้าไม่ได้ ไป x1 เเต่ benz จะมีตัว น้ำมันมาเป็นตัวล่างนี่ครับ ได้ข่าวมาอย่างนั้น
-
ขับ ตจว. ไกลๆ ผมว่า SUV อย่าง X1 วิสัยทัศน์ดีกว่า
ช่วงล่างกับถนนขรุขระ ตจว. เจอน้ำท่วมยังลุยได้บ้าง
PHEV วิ่งทางไกลๆ ผมยังไม่เคยลอง แต่คิดว่าเหมาะกับในเมือง วิ่งวันละ 40-50 โล
ให้มีช่วงประหยัดน้ำมันที่รถติดจะคุ้มกว่า
ตจว. วิ่งยาวๆ อาจจะไม่ได้ประหยัดมากครับ แต่ได้แรง
-
ถ้ากลัวระบบไฮบริด ก็ซื้อ 320D หรือ X1 ครับ อยู่ที่ว่าชอบรถรถ Sedan หรือ SUV
วิ่งเยอะปีละ 35000 โล อย่าลืมซื้อ BSI + Warranty เพิ่มด้วยนะครับ เพราะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้พอตัว
-
ถนนดีหรือไม่ดีครับ ถ้าถนนไม่ดี X1 นี่เป็นไส้เลื่อนไม่ก็กรดไหลย้อนแน่ๆ อัพไป X3 เลยดีกว่า
ถ้าชอบ Sedan เชียร์ 320 d
-
320d ถ้าเอาตัวนี้ หาดีๆ ได้ ส่วนลดเยอะดี 250,000 บาท
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
-
ผมเลือก C350e หรือไม่ก็ 330e ครับ เพราะไม่ชอบรถดีเซลเสียงดัง และชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่า
x1 ผมเคยชอบและจะซื้อ แต่สุดท้ายตัดทิ้งไปเพราะไม่มี cruise control
ผมก็เป็นคนที่ขับทางไกลประจำ แนะนำเลือกรถที่มี adaptive cruise control แล้วการขับรถของคุณจะสบายขึ้นครับ
ถ้ามีระบบเตือนการชน เบรคอัติโนมัติด้วยจะดีมากๆครับ
-
ถ้าจะใช้รถสัก 6-7 ปี ไป 320d เลยครับ ทนสุดๆแล้วและค่าบำรุงรักษาก็น่าจะเจ็บตัวน้อยสุด
รถเสียบปลั๊กไว้ให้เทคโนโลยีในไทยมันนิ่งกว่านี้ก่อนดีกว่าครับ
-
ผมใช้ 320d ปีนิดๆ วิ่งมาก็ประมาณ 35,000 ก็ปกติดียังไม่มีปัญหาอะไรครับ นอกจากยาง เริ่มจะเสื่อมสภาพแล้ว 0-100 อาจจะไม่แรงเท่า 330e หรือ c350e แต่ 80-120 เป็นช่วงที่ใช้งานจริง ตอนเร่งแซงเจ้าถิ่น แช่ขวาที่ 80-90 บางที่ แช่ ที่ 40-60 ก็ยังมี เรืองอัตราเร่งแซงไม่มีปัญหาครับ ถนนว่างๆ แซงรวดเดียว 4-5คัน ได้ครับ แม้แต่เร่งแซงรถบรรทุกตอนขึ้นเขาก็สบายๆ จะผมห่วงแต่ยางช่วงล่างและระบบเบรค แค่นั้นแหละครับ เพราะสภาพถนน พอมาเร็วแล้ว อาจจะมี หลุม บ่อ หลบไม่ทัน อีกอย่างเรื่องเบรค ผมเดินทางกลับที 800-900 โล จอดถึงบ้าน ล้อแม๊กเปลี่ยนจากสี เมทัลลิค เปลี่ยนเป็น สี ดำซะงั้น คนที่บ้านยังนึกว่าไปเปลี่ยนล้อดำมาเหรอ สุดท้ายเรื่องการประหยัดน้ำมัน คนซื้อรถราคาประมาณนี้ อาจจะไม่มองเรื่องนี้ ผมถือว่าเป็นกำไรแล้วกัน น้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ประมาณ 10xx โล ความเร็ว 120-140 แซงทุกครั้งที่มีโอกาส ตกประมาณ 19-20 โลลิตร อาทิตย์ก่อน อยากลองของ ปิดแอร์ขับ นั่งคนเดียว(มันหนาวมาก) บึงกาฬ-หนองคาย 200 กว่าโล ความเร็ว 90 โหมด eco pro ลงเนินยกคันเร่ง รอบตกเหลือ 800 ปล่อยไหล ถึงที่หมาย ตกประมาณ 30.2 โลลิตร สุดท้ายท้ายสุด เรื่องเสียงดีเซลดัง ไปฟังเองครับ เทียบกันเลยกับเบนซิน ถ้ารับไม่ได้ ตัดทิ้งเลยครับจะได้ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา อยู่แค่ 330e กับ c350e ไม่แน่ใจ c350e ช่วงเรื่องเป้นถุงลมใหม ถ้าใช่ขอแอบเชียร์ 330e ครับ
ปล.ถ้าตัวใหนมี option ตรวจจับ แจ้งเตือน กล้องจับความเร็ว จะดีมากเลย ค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ ไม่แน่ใจพอจ่ายค่าใบสั่งใหม :'(
-
320d ครับ
เพราะ X1 18d ราคามันเทียบเคียง 320d แต่อัตราเร่งเป็นรองชัดเจน ขับทางไกลรถยิ่งแรงยิ่งอุ่นใจครับ
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
0-100 จาก spec sheet นะครับ
-C350e 5.9
-330e 6.1
จะห่างกันเป็นวิตรงไหนอ่ะครับ เคยดูสเป็กของทั้งสองรุ่นหรือยังครับ?
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
0-100 จาก spec sheet นะครับ
-C350e 5.9
-330e 6.1
จะห่างกันเป็นวิตรงไหนอ่ะครับ เคยดูสเป็กของทั้งสองรุ่นหรือยังครับ?
ต่างครับ. Refer to bimmer-th
ส่วนหากจะให้ความรุ้กับท่านอื่นๆแบบละเอียดก็น่าจะระบุด้วยว่า 6.1วิ. มันโหมดไหน
-
:-X
"จขกท ใช้รถปีนึง เท่ากับข้าพเจ้าใช้ 4 ปี เลยนะ"
จะบอกว่าใช้รถมากขนาดนี้ C350e คุ้มฮะ เพราะประหยัดค่านำ้มันไปได้มาก
(รถ ถ้าวิ่งมาก ค่านำ้มันก็ต้องขึ้นมากตาม ถ้าจอดค่านำ้มันก็ไม่ต้องเสีย)
แบต Hybrid เขารับประกัน 10 ปี น้ะ (แต่ไม่รู้จำกัดไมล์ไหมนะฮะ ลืมถาม อิอิ)
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
0-100 จาก spec sheet นะครับ
-C350e 5.9
-330e 6.1
จะห่างกันเป็นวิตรงไหนอ่ะครับ เคยดูสเป็กของทั้งสองรุ่นหรือยังครับ?
ต่างครับ. Refer to bimmer-th
ส่วนหากจะให้ความรุ้กับท่านอื่นๆแบบละเอียดก็น่าจะระบุด้วยว่า 6.1วิ. มันโหมดไหน
ไม่ทราบว่าโหมด Comfort C350e ก็ได้ 5.9 วิหรือครับ
ถ้าโหมด Sport ไม่ไป 5.5 เลยหรือครับ
ลองไปหาดูใน Youtube นะครับ
330e Full Throttle ของ Apex Magazine จับเวลาด้วย App วัดความเร็วด้วย GPS
ส่วนทดสอบวิ่งจริงในไทย (สำนักรีวิวแห่งนึงทำไว้)
ACCELERATION อัตราเร่ง(วินาที)
0-100 กม./ชม. 7.0 6.7 (330e/350e)
0-160 กม./ชม. 15.7 15.8 (330e/350e)
ผมว่าอยู่ที่ใครขับแบบไหนแล้วล่ะครับ อย่าเอามาข่มกันเล้ย
-
วิ่งทางไกลเยอะขนาดนี้ 320d น่าจะคุ้มสุดแล้วครับทั้งค่าตัวและค่าบำรุงรักษา
-
320d น่าใช้นะครับ เน้นวิ่งเยอะด้วย diesel ประหยัดดีเลยล่ะ
ทุกวันนี้ถ้าไปต่างจังหวัดหรือขับไกลๆ ใช้ E220d วิ่งทางไกลนิ่งๆประหยัดมากครับ
-
ผมใช้ 320d วิ่งต่างจังหวัด ไปกลับที่ทำงาน 160-180 กม กับความประหยัด ที่ 23 กม /ลิตร กดสุดๆได้ 21 กม/ลิตรความเร็วที่ทำได้ประมาณ 190 กม เกินนี้กลัวตาย พอใจกับ ความเร็วและประหยัดครับ
-
320d ครับ ขับเยอะๆ ทางไกลด้วย ยิ่งประหยัดเลยครับ
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
0-100 จาก spec sheet นะครับ
-C350e 5.9
-330e 6.1
จะห่างกันเป็นวิตรงไหนอ่ะครับ เคยดูสเป็กของทั้งสองรุ่นหรือยังครับ?
ต่างครับ. Refer to bimmer-th
ส่วนหากจะให้ความรุ้กับท่านอื่นๆแบบละเอียดก็น่าจะระบุด้วยว่า 6.1วิ. มันโหมดไหน
-C350e 5.9
-330e 6.1
ตัวเลขนี้คือออกตัว Launch Control ทั้งคู่ครับ
คือถ้าอัตราเร่ง 0-100 ถ้าออกด้วยสภาพการใช้งานเดียวกัน ยังไงมันก็ต่างกันไม่เกิน 0.5วิ ครับ
แต่ใช่ครับ c350e เร็วกว่าแน่นอนครับ 0-100 แต่ไม่ได้ถึง วิ. ครับ ไม่ได้ต่างขนาดนั้นครับ
-
BMWช่วงล่างธรรมดา ม้าน้อยกว่า20กว่าตัว
Mb 350e air matic ปรับได้หลายโหมด แถมแรงม้าแรงบิดเหนือกว่าเยอะะะะะะ
Mb ภายในหรุหรากว่าพอสมควร
หากจะวัด 0-100 น่าจะต่างกันไม่น้อยกว่าวิแน่ๆ
หากเน้นประหยัด BMW จะประหยัดกว่า
หากเน้นแรง mb
0-100 จาก spec sheet นะครับ
-C350e 5.9
-330e 6.1
จะห่างกันเป็นวิตรงไหนอ่ะครับ เคยดูสเป็กของทั้งสองรุ่นหรือยังครับ?
ต่างครับ. Refer to bimmer-th
ส่วนหากจะให้ความรุ้กับท่านอื่นๆแบบละเอียดก็น่าจะระบุด้วยว่า 6.1วิ. มันโหมดไหน
ผมดูจาก specification นะครับ ไม่ได้ดูตามรีวิว
spec รถเองก็ไม่ได้บอกว่าใช้โหมดไหนด้วย คาดว่าจะโหมด sport ทั้งคู่ เพราะตัวเลขนี้ต้องเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดที่รถทั้งสองทำได้อยู่แล้ว
คงไม่ใช่ BMW ใช้โหมด sport
Benz ใช้โหมด eco หละครับ
ถ้าบอกว่าน่าจะต่างกันเป็นวิ มีหลักฐานไหมครับ
ไม่เอาแบบตัวเลข BMW จากที่นึง Benz จากอีกที่นึงนะครับ
-
5.9 vs 6.1
เทียบช่วงล่างด้วยนะครับ
-
ช่วงล่าง Airmatic ที่ว่าดีๆ นี่กับตัวปกตินะครับ
C350e สอบตก Moose Test ท้ายกวาดเป็นไม้กวาดเลย
Balance ตัวนี้เข้าขั้นวิกฤติ ตัวหน้าคงต้องปรับเยอะหน่อย
ผมอยากเห็น 330e เอาไป Moosetest เหมือนกันนะ
ส่วนใหญ่ในไทยชอบรีวิวกันแต่ความเร็ว 0-100 แต่เอาจริงๆ เวลาดูว่ารถอัตราเร่งดี ไม่ดี มันต้อง 0-200 หรือเปล่า ?
ช่วงล่างอีกวิ่งบนถนน แล้วบอกความรู้สึกเอา
ตปท. เขาเอาเข้า สลาลม ลงเทส Moose Test ความเร็วต่างๆ กัน
ไม่ใช่เข้าโค้งนิดๆ แล้วบอกอันนี้หนึบ อันนี้ไม่หนึบ อันนี้ผมว่าตลก
-
ช่วงล่าง Airmatic ที่ว่าดีๆ นี่กับตัวปกตินะครับ
C350e สอบตก Moose Test ท้ายกวาดเป็นไม้กวาดเลย
Balance ตัวนี้เข้าขั้นวิกฤติ ตัวหน้าคงต้องปรับเยอะหน่อย
ผมอยากเห็น 330e เอาไป Moosetest เหมือนกันนะ
ส่วนใหญ่ในไทยชอบรีวิวกันแต่ความเร็ว 0-100 แต่เอาจริงๆ เวลาดูว่ารถอัตราเร่งดี ไม่ดี มันต้อง 0-200 หรือเปล่า ?
ช่วงล่างอีกวิ่งบนถนน แล้วบอกความรู้สึกเอา
ตปท. เขาเอาเข้า สลาลม ลงเทส Moose Test ความเร็วต่างๆ กัน
ไม่ใช่เข้าโค้งนิดๆ แล้วบอกอันนี้หนึบ อันนี้ไม่หนึบ อันนี้ผมว่าตลก
ผมลอง 330e m-sport ตัวประกอบในเป็นช่วงล่าง m แล้ว slalom แบบหนักๆ โหมด sport+ ดู อย่างที่บอกหลายๆกระทู้ครับ หน้าแถหนักมาก แต่แค่ยกคันเร่งก็เอากลับมาคุมต่อได้ ถามว่าดีมั้ยมันก็ดีในแบบของมันถ้าเข้าใจลิมิตรถ อย่างน้อยท้ายมันก็ไม่กวาดแบบ c class ในคลิปมูสเทส เอามาซัดโหดๆ ผมว่าช่วงล่างบีเอ็มยังเหนือกว่าเบนซ์อยู่ดี ขนาดเบนซ์ให้ล้อ 19 นิ้วยังไม่ช่วยอะไรเลย
ความเร็วผมเห็นด้วยเลยครับ รถแรงๆผมเลิกดู 0-100 ไปนานแล้ว รถระดับ 200 ม้าขึ้นไปผมดู 0-200 เป็นอย่างต่ำ 0-100 บางทีรถไม่แรงแต่ตัวเบาก็ได้เปรียบ ถ้าหลัง 200 คือวัดแรงเครื่องล้วนๆ
จะว่าไปมันก็น่าแปลกนะ c350e ม้าในกระดาษมากกว่า 330e ตั้ง20 กว่าตัว ทำไม 0-200 ถึงทำเวลาแพ้บีเอ็มก็ไม่รู้ ทั้งในประเทศต่างประเทศก็ทดสอบได้ผลแบบเดียวกัน แต่ปลายสุดยังไงก็ยอมเบนซ์เพราะล็อค 250 ส่วนบีเอ็มกระดาษเขียน 225 วิ่งจริงได้ 235
-
ส่วนตัวใช้ x1 ขับไกล 300-500 โลบ่อยๆครับ
ใช้ตัว m sport นั่งโคตรสบายเลยครับ
xline อย่างที่บอกไม่ดีเลยครับ นั่งไม่สบาย
แต่เหมาะกับคนตัวเล้กๆนะครับ แบบ สูงไม่เกิน 175 ไม่อ้วน
เบาะหลัง ห่วยแตกยอมรับครับ
นอกนั้นดีหมดครับ
-
ช่วงล่าง Airmatic ที่ว่าดีๆ นี่กับตัวปกตินะครับ
C350e สอบตก Moose Test ท้ายกวาดเป็นไม้กวาดเลย
Balance ตัวนี้เข้าขั้นวิกฤติ ตัวหน้าคงต้องปรับเยอะหน่อย
ผมอยากเห็น 330e เอาไป Moosetest เหมือนกันนะ
ส่วนใหญ่ในไทยชอบรีวิวกันแต่ความเร็ว 0-100 แต่เอาจริงๆ เวลาดูว่ารถอัตราเร่งดี ไม่ดี มันต้อง 0-200 หรือเปล่า ?
ช่วงล่างอีกวิ่งบนถนน แล้วบอกความรู้สึกเอา
ตปท. เขาเอาเข้า สลาลม ลงเทส Moose Test ความเร็วต่างๆ กัน
ไม่ใช่เข้าโค้งนิดๆ แล้วบอกอันนี้หนึบ อันนี้ไม่หนึบ อันนี้ผมว่าตลก
ผมลอง 330e m-sport ตัวประกอบในเป็นช่วงล่าง m แล้ว slalom แบบหนักๆ โหมด sport+ ดู อย่างที่บอกหลายๆกระทู้ครับ หน้าแถหนักมาก แต่แค่ยกคันเร่งก็เอากลับมาคุมต่อได้ ถามว่าดีมั้ยมันก็ดีในแบบของมันถ้าเข้าใจลิมิตรถ อย่างน้อยท้ายมันก็ไม่กวาดแบบ c class ในคลิปมูสเทส เอามาซัดโหดๆ ผมว่าช่วงล่างบีเอ็มยังเหนือกว่าเบนซ์อยู่ดี ขนาดเบนซ์ให้ล้อ 19 นิ้วยังไม่ช่วยอะไรเลย
ความเร็วผมเห็นด้วยเลยครับ รถแรงๆผมเลิกดู 0-100 ไปนานแล้ว รถระดับ 200 ม้าขึ้นไปผมดู 0-200 เป็นอย่างต่ำ 0-100 บางทีรถไม่แรงแต่ตัวเบาก็ได้เปรียบ ถ้าหลัง 200 คือวัดแรงเครื่องล้วนๆ
จะว่าไปมันก็น่าแปลกนะ c350e ม้าในกระดาษมากกว่า 330e ตั้ง20 กว่าตัว ทำไม 0-200 ถึงทำเวลาแพ้บีเอ็มก็ไม่รู้ ทั้งในประเทศต่างประเทศก็ทดสอบได้ผลแบบเดียวกัน แต่ปลายสุดยังไงก็ยอมเบนซ์เพราะล็อค 250 ส่วนบีเอ็มกระดาษเขียน 225 วิ่งจริงได้ 235
น่าจะเป็นที่เกียร์ครับ เกียร์ 9G ของเบ๊นซ์ไม่ไวเท่าและไม่ฉลลาดเท่า ZF8HP ของ BMW ครับ
ทั้งเบ๊นซ์หรือวอลโว่ เท่าที่สังเกตุ อัตราเร่ง 0-200 จะเอาให้เท่าบีเอ็มฯได้ ต้องมีม้ามากกว่าบีเอ็มอย่างน้อย 20-30 ตัว ในน้ำหนักตัวถังเดียวกันครับ
-
ช่วงล่าง Airmatic ที่ว่าดีๆ นี่กับตัวปกตินะครับ
C350e สอบตก Moose Test ท้ายกวาดเป็นไม้กวาดเลย
Balance ตัวนี้เข้าขั้นวิกฤติ ตัวหน้าคงต้องปรับเยอะหน่อย
ผมอยากเห็น 330e เอาไป Moosetest เหมือนกันนะ
ส่วนใหญ่ในไทยชอบรีวิวกันแต่ความเร็ว 0-100 แต่เอาจริงๆ เวลาดูว่ารถอัตราเร่งดี ไม่ดี มันต้อง 0-200 หรือเปล่า ?
ช่วงล่างอีกวิ่งบนถนน แล้วบอกความรู้สึกเอา
ตปท. เขาเอาเข้า สลาลม ลงเทส Moose Test ความเร็วต่างๆ กัน
ไม่ใช่เข้าโค้งนิดๆ แล้วบอกอันนี้หนึบ อันนี้ไม่หนึบ อันนี้ผมว่าตลก
ผมลอง 330e m-sport ตัวประกอบในเป็นช่วงล่าง m แล้ว slalom แบบหนักๆ โหมด sport+ ดู อย่างที่บอกหลายๆกระทู้ครับ หน้าแถหนักมาก แต่แค่ยกคันเร่งก็เอากลับมาคุมต่อได้ ถามว่าดีมั้ยมันก็ดีในแบบของมันถ้าเข้าใจลิมิตรถ อย่างน้อยท้ายมันก็ไม่กวาดแบบ c class ในคลิปมูสเทส เอามาซัดโหดๆ ผมว่าช่วงล่างบีเอ็มยังเหนือกว่าเบนซ์อยู่ดี ขนาดเบนซ์ให้ล้อ 19 นิ้วยังไม่ช่วยอะไรเลย
ความเร็วผมเห็นด้วยเลยครับ รถแรงๆผมเลิกดู 0-100 ไปนานแล้ว รถระดับ 200 ม้าขึ้นไปผมดู 0-200 เป็นอย่างต่ำ 0-100 บางทีรถไม่แรงแต่ตัวเบาก็ได้เปรียบ ถ้าหลัง 200 คือวัดแรงเครื่องล้วนๆ
จะว่าไปมันก็น่าแปลกนะ c350e ม้าในกระดาษมากกว่า 330e ตั้ง20 กว่าตัว ทำไม 0-200 ถึงทำเวลาแพ้บีเอ็มก็ไม่รู้ ทั้งในประเทศต่างประเทศก็ทดสอบได้ผลแบบเดียวกัน แต่ปลายสุดยังไงก็ยอมเบนซ์เพราะล็อค 250 ส่วนบีเอ็มกระดาษเขียน 225 วิ่งจริงได้ 235
น่าจะเป็นที่เกียร์ครับ เกียร์ 9G ของเบ๊นซ์ไม่ไวเท่าและไม่ฉลลาดเท่า ZF8HP ของ BMW ครับ
ทั้งเบ๊นซ์หรือวอลโว่ เท่าที่สังเกตุ อัตราเร่ง 0-200 จะเอาให้เท่าบีเอ็มฯได้ ต้องมีม้ามากกว่าบีเอ็มอย่างน้อย 20-30 ตัว ในน้ำหนักตัวถังเดียวกันครับ
เห็นด้วยกับเรื่องเกียร์ ZF8HP เลยครับ
ประสบการณ์ ของตัวเอง 320i m sport เข้าเกียร์ S + Sport Plus นี่เร่งมุดแซงได้ดังใจมากๆครับ
-
ช่วงล่าง Airmatic ที่ว่าดีๆ นี่กับตัวปกตินะครับ
C350e สอบตก Moose Test ท้ายกวาดเป็นไม้กวาดเลย
Balance ตัวนี้เข้าขั้นวิกฤติ ตัวหน้าคงต้องปรับเยอะหน่อย
ผมอยากเห็น 330e เอาไป Moosetest เหมือนกันนะ
ส่วนใหญ่ในไทยชอบรีวิวกันแต่ความเร็ว 0-100 แต่เอาจริงๆ เวลาดูว่ารถอัตราเร่งดี ไม่ดี มันต้อง 0-200 หรือเปล่า ?
ช่วงล่างอีกวิ่งบนถนน แล้วบอกความรู้สึกเอา
ตปท. เขาเอาเข้า สลาลม ลงเทส Moose Test ความเร็วต่างๆ กัน
ไม่ใช่เข้าโค้งนิดๆ แล้วบอกอันนี้หนึบ อันนี้ไม่หนึบ อันนี้ผมว่าตลก
ผมลอง 330e m-sport ตัวประกอบในเป็นช่วงล่าง m แล้ว slalom แบบหนักๆ โหมด sport+ ดู อย่างที่บอกหลายๆกระทู้ครับ หน้าแถหนักมาก แต่แค่ยกคันเร่งก็เอากลับมาคุมต่อได้ ถามว่าดีมั้ยมันก็ดีในแบบของมันถ้าเข้าใจลิมิตรถ อย่างน้อยท้ายมันก็ไม่กวาดแบบ c class ในคลิปมูสเทส เอามาซัดโหดๆ ผมว่าช่วงล่างบีเอ็มยังเหนือกว่าเบนซ์อยู่ดี ขนาดเบนซ์ให้ล้อ 19 นิ้วยังไม่ช่วยอะไรเลย
ความเร็วผมเห็นด้วยเลยครับ รถแรงๆผมเลิกดู 0-100 ไปนานแล้ว รถระดับ 200 ม้าขึ้นไปผมดู 0-200 เป็นอย่างต่ำ 0-100 บางทีรถไม่แรงแต่ตัวเบาก็ได้เปรียบ ถ้าหลัง 200 คือวัดแรงเครื่องล้วนๆ
จะว่าไปมันก็น่าแปลกนะ c350e ม้าในกระดาษมากกว่า 330e ตั้ง20 กว่าตัว ทำไม 0-200 ถึงทำเวลาแพ้บีเอ็มก็ไม่รู้ ทั้งในประเทศต่างประเทศก็ทดสอบได้ผลแบบเดียวกัน แต่ปลายสุดยังไงก็ยอมเบนซ์เพราะล็อค 250 ส่วนบีเอ็มกระดาษเขียน 225 วิ่งจริงได้ 235
น่าจะเป็นที่เกียร์ครับ เกียร์ 9G ของเบ๊นซ์ไม่ไวเท่าและไม่ฉลลาดเท่า ZF8HP ของ BMW ครับ
ทั้งเบ๊นซ์หรือวอลโว่ เท่าที่สังเกตุ อัตราเร่ง 0-200 จะเอาให้เท่าบีเอ็มฯได้ ต้องมีม้ามากกว่าบีเอ็มอย่างน้อย 20-30 ตัว ในน้ำหนักตัวถังเดียวกันครับ
เห็นด้วยกับเรื่องเกียร์ ZF8HP เลยครับ
ประสบการณ์ ของตัวเอง 320i m sport เข้าเกียร์ S + Sport Plus นี่เร่งมุดแซงได้ดังใจมากๆครับ
เห็นด้วยครับ เกียร์Benzนี่ยืดยาดมากครับ ต่างกับZFในAudiลิบลับ แต่ผมว่าส่วนหนึ่งทางBMและAudiจะเน้นสายซิ่งมากกว่าBenzด้วยเพราะA8ผมนี่แตะๆคันเร่ง รอบก็จะไปก่อนแล้ว ต่างกับS Class W221หรือGLEที่คันเร่งต้องคิดก่อนจะกวาดขึ้นครับ