Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sirap ที่ มกราคม 05, 2018, 21:24:58
-
ตั้งกระทู้รวมสองหัวข้อเลยแล้วกันครับ
1)สอบถามหน่อยครับ ปกตินี่ภายในรถ porsche ตัวที่เป็น full leather package ดูแลพวกหนังยังไงอ่ะครับ ต้องเคลือบน้ำยาแบบไหน หรือว่าเข้า car care จะดีกว่าอ่ะครับพี่ๆ
หมายเหตุ สรุปตอนนี้หลังจากที่ถามๆและลองขับรถ ตกลงขาย cayman 718 ทิ้ง และเปลี่ยนเป็น boxster s 718 แทนครับ เนื่องจากต้องการรถที่ออปชั่นมากกว่าตัวที่ขับอยู่ และขายไปขาดทุนเล็กน้อย
2)แชร์ประสบการณ์ feeling base cayman - boxster s / รายละเอียดความคุ้มค่าของแต่ละ Option
เครื่อง s รู้สึกว่าเครื่องเร่งเร็วกว่า แรงบิดมาไวกว่า ทันใจกว่า ตัว base บางทีรู้สึกว่าต้องรอ turbo นานกว่าตัว s ส่วนเรื่องอื่นๆ คล้ายกันมาก เสียงเครื่องตัว s น่าฟังกว่านิดๆครับ
เบรครู้สึกว่าตัว s ดีกว่า base นิดหน่อย ไม่ได้เด่นชัดขนาดนั้นครับ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ขับรถเร็วมากครับ
Options ตัว 718 boxster s ที่ขับมี option มากกว่ารุ่น cayman 718 ค่อนข้างเยอะเลยจะมาพูดในเชิงความเห็นว่าแต่ละ option คุ้ม-ไม่คุ้มอย่างไร เทียบเป็น option 718 s vs base cayman ตัวที่เคยใช้นะครับ
หลังคาเปิดปิดได้ vs no- ความต่างของ 2 รุ่นนี้ที่ชัดที่สุด ส่วนตัวชอบเปิดครับ ตั้งแต่ใช้มาเปิดทุกวันเลย ฟิน555 หลังคาเปิดปิด เร็วดีรับไม่ถึง10 วิ แต่ที่ไม่ชอบคือต้องกดค้าง ทำให้บางทีขับรถอยู่อยากเปิดประทุน ต้องกดค้างนานๆ
Burmester vs Bose - รู้สึกว่าคุณภาพเสียงต่างกันนิดเดียว แต่เสียงร้องรู้สึก busmester ดีกว่าครับ มีโหมด ปรับเสียงให้ chill ขึ้นด้วย
PDLS plus vs PDLS - ไม่ค่อยต่างในแง่ความสว่าง ต่างแค่ความสวยงาม ของ led daylight
Adaptive cruise control with Porsche active safe vs no - ดีมากเลยครับ option นี้แนะนำสำหรับ คนที่เดินทางไกล รถมันค่อนข้างฉลาดทำการปรับความเร็วให้สอดคล้องกับคันหน้า PAS คล้าย active break assist ใน benz เลยครับ แต่ดูเตือนที่ระยะน้อยกว่า benz
Sport chrono vs no - อันนี้ความสวยงามครับ แต่ที่ชอบคือมันจะมีปุ่มให้ปรับโหมดที่พวงมาลัยเลยซึ่งดีมากๆ
Light design package vs no - สวยดี มีไฟขาวๆ ประดับตรงด้านบน และตรงที่วางเท้ากับช่องเก็บของเล็กๆมา
Connected plus vs base system - อันนี้ดีตรงมาพร้อม apple car play ต่อไอโฟนขึ้นรถได้เลย แต่ navi ใช้ในไทยไม่ได้ในคันนี้นะครับเพราะเป็น Uk spec
Auto dimming miror vs no - อันนี้ดีมากๆเลยครับ เวลารถบางรุ่นที่ไฟมันแยงตามา มันจะdim เอง และมีติดที่กระจกมองทุกบาน สบายตาดีครับ
18 way sport plus seat vs 2 way sport plus seat ดีตรงมี memory ปรับเข้ากับตัวขึ้น ส่วนรองรับขาสามารถปรับได้ยาวขึ้น และเบาะเลื่อนตอนเข้าออกให้ แต่ก็น่ารำคาญ ที่ทุกครั้งต้องมานั่งกดปุ่ม mem ค้างให้เบาะเลื่อนกลับมาที่เดิม
no vs sport exhaust - อันนี้อยากได้กลับมามากๆเลยครับ เพราะรู้สึกว่าเสียงมันดังดี ตัวใหม่เครื่องเงียบๆไปเลย แค่เสียงเพราะกว่านิดนึง
GT with multifunction steering wheel vs sport steering wheel - อันนี้ความสวยงาม กับแค่สะดวกตอนรับสาย กับปรับเสียง
Full leather package vs partial leather package - อันนี้รู้สึกว่าคุ้มค่า เพราะตัวหนังเทียม ผมว่าสัมผัสมันยังสู้พวกหนังเทียมของ benz ไม่ได้เลยครับ มันแปลกๆยังไงไม่รู้ แต่ full leather ต้องกังวลเรื่องการรักษาอีกที
Keyless entry (have both) - อันนี้สะดวกดีทั้งการ lock และ unlock รถง่ายๆ แค่ตรงปลายจับ แต่ที่ชอบคือสามารถสัมผัวบริเวณฝากระโปรงเพื่อเปิดที่เก็บของได้ สะดวกดีครับ
PASM vs no - อันนี้ส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะตัวรถเดิมก็ช่วงล่างดีมากๆอยู่แล้วครับ และตั้งแต่ขับมาแทบไม่ได้เปิดเลยครับ เพราะรู้สึกว่าทำให้ช่วงล่างแข็งขึ้น ไม่ค่อยถูกกับสภาพถนนที่ไทยเท่าไหร่555
Dual climate control auto air condition vs no - เฉยๆครับ ไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นต้องมี
Heated seat vs no - ไม่จำเป็นต่อสภาพอากาศในไทยอย่างมากครับ 5555
Front and back sensor with reversing camera (have both) - ไม่ชัวร์ราคา แต่เห็นราคาออปชั่น AAS ประมาน 150,000 จะบอกว่าไม่คุ้มเลยครับสำหรับกล้องหลัง ห่วยมากๆ เทียบกับ CLA คนละเรื่องเลยครับ CLA กล้องชัดกว่ามากๆๆ กล้องนี่ซื้อติดเองไม่เกินหมื่นก็น่าจะดีกว่าเห็นๆล่ะครับ ความเห็นผมว่าเอาแค่ sensor หน้าหลัง ไม่ต้องมีกล้องน่าจะคุ้มค่ากว่ามาก
เท่าที่นึกออกมีความต่างประมาณนี้ครับ ที่เหลือเป็นพวกรายละเอียดชุดแต่ง ล้อ และก็สีซึ่งน่าจะเป็นความชอบส่วนตัวครับผม
-
ขอบคุณมากครับ เป็นรีวิวที่มีประโยชน์มาก ขอถามนิดนึงนะครับ
1. Cayman/Boxster 718 ทั้งตัว base และตัว S ช่วงล่างแข็งมากมั้ยครับ
2. ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน เปลี่ยนยาง มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่บ้างครับ
3. ในด้านอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นยังไงบ้างครับ ถ้าหากนำมาขับในชีวิตประจำวัน เจอรถติดในเมือง
-
ขอบคุณครับสำหรับการแชร์ประสบการณ์
เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะเลือกซื้อ กำลังเลือกออปชั่น ต่อไปอาจ search มาเจอกระทู้นี้
porsche นี่มีออปชั่นให้ติ๊กเลือกเยอะมาก หลายคนถ้าไม่เคยได้ใช้มาก่อนบางทีก็ไม่รู้ว่าควรเลือกหรือไม่
ที่คอนโดผมแถวสาทร เห็นมี 981 cayman คันนึง wrap สีม่วง สวยมาก
กลุ่ม 718 ผมเห็นเค้ารวมกลุ่มกันอยู่ในไลน์ด้วยนะครับ ทั้ง boxster และ cayman (ผมไม่ได้อยู่ครับ ไม่มีรถ555) ถ้าเผื่ออยากถามอะไรที่เป็นเฉพาะรุ่น 718 ในนั้นอาจให้คำตอบได้ เห็นในลิงค์นี้เค้าบอกว่า
" สำหรับท่านที่สนใจจะเข้าไปร่วมกับกลุ่ม 718 Porsche Thailand สามารถติดต่อได้ที่ Facebook groups 718 Porsche Cayman/Boxster Thailand "
ทางกลุ่มมีมีตติ้งกันครั้งแรกตามนี้ครับ
http://gtporschemag.com/post/djx7QFk-718PorscheThailand/1
-
ปกติที่ใช้ผมว่า Meguiars เหมาะกับหนังแท้ดีครับ
XJ คันเก่าสิบกว่าปีแล้วเบาะยังดีอยู่ มีแค่ด้ายบางจุดเปื่อยบ้างนิดหน่อยครับ
-
ขอบคุณครับ
-
cayman เป็นรถที่สวยจริงๆครับ ตัวผมเองชอบ 987.2 ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองหามาใช้ดู มันดูเหมาะกับชีวิตประจำวันมากๆ
ส่วนการดูแลหนังแบบ full leather ของผมผมทำทั้งเข้า car detailing กับทำเองที่บ้านนะครับ
ภายนอก ผมล้างฝุ่นเองสองสามวันครั้ง แต่จะเอาไปเข้าร้านด้วยเพื่อลงแวก เคลือบกระจก ลูบดินน้ำมัน ประมาณนี้ครับ เดือนสองเดือนครั้งนึงแล้วแต่ความสะดวกของเรา แต่รถระดับนี้ลงเคลือบแก้วแล้ว ก็ไปซ้ำน้ำยาเคลือบแก้วตามแพคเกจของเค้าแค่นั้นครับ
ภายใน ปกติร้านจะทำให้ แต่ผมคิดว่า เราทำเองยังไงเราละเอียดกว่าเด็กลูกจ้างที่ร้านล้างรถแน่นอน
ตัวน้ำยาสำหรับหนังแท้แบบ nappa หรือหนังเทียมผสมหนังแท้แบบ artico (ของเบนซ์เค้าเรียก man-made leather) ผมมีสามตัวครับ
1. Mothers protectant ผมเอาไว้เช็ดไวนิล แผงพลาสติกภายใน รวมถึงชิ้นส่วนพลาสติกตรงไหนก็ได้ในรถครับ
2. Chimical guys Leather cleaner ล้างคราบเปื้อนติดแน่น พวกสีปากกา คราบเหงื่อไหล ห้ามฉีดโดยตรง ให้สเปรใส่ผ้าแล้วถูเบาะอีกที
3. Chemical guys Leather conditioner ตัวนี้ดีมากครับ ฟื้นฟูสภาพเบาะ ให้เบาะเงา ฟู พอง ไม่แตกไม่แห้งครับ
4. Chemical guys Quick detailer ตัวนี้เป็น cleaner + conditioner ครับ จะใช้สามสี่วันครั้ง ส่วนตัวในข้อ 2,3 อันนั้นจะใช้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง
5. Chemical guys VO7 ตัวนี้ใช้ภายนอกครับ ใช้หลังเราล้างรถ เช็คให้แห้ง ตากจนความชื้นออกจากสีรถแล้ว ก็สเปรย์ลงแล้วเอาผ้าแห้งหรือฟอกน้ำเกลี่ยน้ำยาให้ทั่วเบาะ รถจะเงางามไปจอดโชว์หน้าร้านได้ไม่อายใครครับ 55+ จริงๆคือมันช่วยปกป้องสีรถจากคลื่น uv คลื่นไมโครเวฟที่มากับแสงอาทิตย์ครับ
ผมใช้พวกนี้กับ benz กับ mini ผม ก็ช่วยคงสภาพเบาะหนังกับภายในได้เยอะมากครับ จริงๆยี่ห้ออื่นก็คงดีเหมือนกัน แต่ที่ใช้สองยี่ห้อนี้เพราะว่ากลิ่นมันธรรมชาติดีครับ ไม่ค่อยฉุนมาก
-
ภายใน ใช้ CG เหมือนกัน ตัว serum ไว้เคลือบ แล้วก็ น้ำยาทำความสะอาดของเค้าอีกตัว ครับ
ช่วยให้หนังนุ่ม ไม่แตกกรอบ ครับ
-
ถ้าสีเบาะเป็นสีแดงลองดูชุดนี้ดูมั้ยครับ อุปกรณ์ขัดถู+เคลือบมีรวมอยู่ในชุดแล้ว
http://swissvax.it/contents/en-us/p219_Swissvax_LEATHER_CARE_KIT_normale.html
ใช้ง่ายรีวิวในเน็ตเพียบ ราคาอาจจะแรงหน่อยแต่ใช้ยาวๆครับ :D
-
จะบอกว่าเอาน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมน้ำแล้วเช็ดแล้วมันดีงามพระรามเก้า ใช้มากับทุกคันจะมีใครเชื่อไหมนิ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวออพชั่นครับ
-
จขกท น่าจะถ่ายรูป รีวิว ลงห้อง user เลยนะครับ น่าติดตามมากๆ ::) ::) ::) ::)
-
ส่วนตัวนะคับเรื่องเครื่องเสียง
Burmester vs Bose vs Base แทบไม่ต่างกันเลยครับ ยิ่งในพวก cayman เพราะไม่เหลือพื้นที่ของลำโพงแล้วคับ
ถ้าเทียบกับ B&W ที่ Volvo ให้มา B&W ดีกว่ามากคับ
-
ขอบคุณมากครับ เป็นรีวิวที่มีประโยชน์มาก ขอถามนิดนึงนะครับ
1. Cayman/Boxster 718 ทั้งตัว base และตัว S ช่วงล่างแข็งมากมั้ยครับ
2. ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน เปลี่ยนยาง มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่บ้างครับ
3. ในด้านอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นยังไงบ้างครับ ถ้าหากนำมาขับในชีวิตประจำวัน เจอรถติดในเมือง
1. อันนี้ขอเทียบกับรถที่เคยขับนะครับ คือ 118i E300 ตัวก่อน CLA250(รถที่ใช้ประจำ)
118i ผมว่าช่วงล่างคล้ายๆ 118i แต่ดีกว่าในช่วงความเร็วสูงๆ พวกเข้าโค้งอะไรอย่างงี้
E300 718 แข็งกว่าชัดเจน แต่มั่นใจกว่าเยอะ ไม่ได้ยวบยาบ นุ่มนิ่มเหมือนE300
CLA250 อันนี้คือรถที่ใช้ประจำก่อนเปลี่ยนมาเป็น 718 CLA ช่วงล่างแข็งกว่าแบบรู้สึกได้ ที่สำคัญรู้สึกว่าช่วงล่าง 718 เวลาลง lamp ผ่านรอยต่อทางรถไฟ มันไม่สั่นแบบ CLA อะครับ และก็หลังจากขับ 718 แล้วเอา CLA มาขับแปปนึงรู้สึกว่า ไม่มั่นใจในย่านความเร็วสูงเลยครับ ถ้าเทียบรู้สึกรถมันหวิวๆยังไงไม่รู้ พวงมาลัยก็เบา(เทียบแบบขับ 718 มาเดือนนึง แล้วมาขับ CLA นะครับ)
2.อันนี้ไม่ทราบครับ คันเก่าไมล์ 500 คันนี้ไมล์เพิ่ง 400 เองครับ แต่เห็นเพื่อนที่ใช้ porsche เค้าบอกว่าก็แพงกว่าพวก benz นิดหน่อยเองครับ ส่วนประกันประมาณ 120000 ครับ cover ล้อและยาง 100 เปอร์เซนต์
3. ปกติเติมเต็มถัง (1500 บาทได้) มันเขียนว่าวิ่งได้ประมาน 500 โลครับ เพราะปกติผมใช้รถแค่ใน กทม แถวสยาม ราชเทวี ทองหล่อ เอกมัย ซึ่งรถติดมากๆ อันนี้ถ้าเทียบกับ CLA ที่ใช้ประจำและต้องเติมน้ำมันเองก็รู้สึกว่าเปลืองพอกันนะครับ
-
ขอบคุณครับสำหรับการแชร์ประสบการณ์
เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะเลือกซื้อ กำลังเลือกออปชั่น ต่อไปอาจ search มาเจอกระทู้นี้
porsche นี่มีออปชั่นให้ติ๊กเลือกเยอะมาก หลายคนถ้าไม่เคยได้ใช้มาก่อนบางทีก็ไม่รู้ว่าควรเลือกหรือไม่
ที่คอนโดผมแถวสาทร เห็นมี 981 cayman คันนึง wrap สีม่วง สวยมาก
กลุ่ม 718 ผมเห็นเค้ารวมกลุ่มกันอยู่ในไลน์ด้วยนะครับ ทั้ง boxster และ cayman (ผมไม่ได้อยู่ครับ ไม่มีรถ555) ถ้าเผื่ออยากถามอะไรที่เป็นเฉพาะรุ่น 718 ในนั้นอาจให้คำตอบได้ เห็นในลิงค์นี้เค้าบอกว่า
" สำหรับท่านที่สนใจจะเข้าไปร่วมกับกลุ่ม 718 Porsche Thailand สามารถติดต่อได้ที่ Facebook groups 718 Porsche Cayman/Boxster Thailand "
ทางกลุ่มมีมีตติ้งกันครั้งแรกตามนี้ครับ
http://gtporschemag.com/post/djx7QFk-718PorscheThailand/1
ผมอยู่ในกลุ่ม facebook แล้วเหมือนกัน แต่เหมือนกลุ่มไลน์จะเต็มแล้วอ่ะครับ😭
-
ส่วนตัวนะคับเรื่องเครื่องเสียง
Burmester vs Bose vs Base แทบไม่ต่างกันเลยครับ ยิ่งในพวก cayman เพราะไม่เหลือพื้นที่ของลำโพงแล้วคับ
ถ้าเทียบกับ B&W ที่ Volvo ให้มา B&W ดีกว่ามากคับ
เห็นด้วยเลยครับ เครื่องเสียงพอๆกันมากๆ มันดีกว่านิดๆเอง เป็นออปชั่นที่ไม่ค่อยคุ้มราคากว่า 200000 ที่เพิ่มเท่าไหร่ แต่ของ burmester จะได้โลโก้ busmester ชัดๆ กับทริม aluminium ที่ตกแต่งภายในที่ได้เพิ่งขึ้นนิดนึง ทำให้ห้องโดยสารดูหรูขึ้น555
-
จขกท น่าจะถ่ายรูป รีวิว ลงห้อง user เลยนะครับ น่าติดตามมากๆ ::) ::) ::) ::)
ไม่มีเวลาถ่ายรูปเลยครับ ตอนนี้เปิดเทอมพอดี ถ้าว่างๆอาจจะเป็น mini review นะครับ
ปล.คันใหม่สี lava orange ส่วนตัวว่าสีสวยมากเลยครับ เวลาตัดกับหลังคาดำ5555 (กำลังเห่อ)
-
ระดับ ปอร์เช่ ละราคาคงไม่ใช่ปัญหา ลองดูของ swissvax ดูครับ
-
จากประสบการณ์ ใช้ porsche มา 8 ปี เลขไมล์ตอนนี้อยู่ที่ 28,000 km
รถผมคอนโซลหุ้มหนัง ไม่มีไรต้องดูแลมากครับ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆบ้าง
เอาเข้าคาร์แคร์ 2 อาทิตย์ครั้ง ใช้น้ำยาลูบได้ครับ
ผ้าบุหลังคารถ เป็นแบบอะคันทาร่า ดูแลไม่ง่ายครับ พอใช้ไป 5 ปี กาวหลุดกลายเป็นท้องช้าง
ก็ซ่อมกันไปครับ
เบาะหนัง เป็นแบบ sport seat พยายามอย่าใช้น้ำยา ให้เงาครับ เพราะเบาะมันเป็นแบบ ไม่เงาเท่าไหร่ครับ
รถใช้โอเคครับ เริ่มมีค่าใช้จ่ายหนักๆ ปีที่ 4-5 ครับ
รักษาเกียร์ pdk ดีๆนะครับ ผมฟังราคาทีมีจุกกว่า bmw benz แน่นอนครับ
ตอนนี้รถผมท่อน้ำเริ่มมีซึมๆบ้าง ก็เดี๋ยวคงไปเปลี่ยนครับ
ขอให้สนุกกับรถใหม่ครับ
-
sport chrono มีกับไม่มี นี่มันต่างกันเยอะเลยนะ เพราะมันจะมี mode sport plus ขึ้นมาอีก ทำ launch ได้ และ เครื่องกับช่วงล่าง PDCC (ถ้ามี) และ เกียร์ นี่มันตอบสนองคนละเรื่องกับ sport เลยนะ เท่าที่ลองใช้มา และมันก็ต้อง พ่วงไปกับ PASM ด้วยทำให้เตี้ยลงมาอีก 10 มิล เท่าที่เคยลองขับรถไม่มี sport chrono ผมว่า แตกต่างกันมากจนรู้สึกได้เลย เอาว่า mode sport plus เขาบอกไว้ว่า ไม่ควรใช้กับถนนธรรมดาก็น่าจะพอเข้าใจได้นะว่ามันต้องแตกต่างกันจริง
-
sport chrono มีกับไม่มี นี่มันต่างกันเยอะเลยนะ เพราะมันจะมี mode sport plus ขึ้นมาอีก ทำ launch ได้ และ เครื่องกับช่วงล่าง PDCC (ถ้ามี) และ เกียร์ นี่มันตอบสนองคนละเรื่องกับ sport เลยนะ เท่าที่ลองใช้มา และมันก็ต้อง พ่วงไปกับ PASM ด้วยทำให้เตี้ยลงมาอีก 10 มิล เท่าที่เคยลองขับรถไม่มี sport chrono ผมว่า แตกต่างกันมากจนรู้สึกได้เลย เอาว่า mode sport plus เขาบอกไว้ว่า ไม่ควรใช้กับถนนธรรมดาก็น่าจะพอเข้าใจได้นะว่ามันต้องแตกต่างกันจริง
ความเห็นผม สำหรับคนใช้รถทั่วไปวิ่งเร็วอย่างมาก 160 ไม่เคยได้กดปุ่ม spot plus อยู่แล้วคับ อาจกด sport บ้างตอนวิ่งเร็วๆ แต่ option นี้ (sport bottom) รุ่นที่ไม่มี chrono ก็มี ความเห็นส่วนตัวเลยว่า มีกับไม่มี ไม่ได้มีความต่างในแง่การใช้งานในชีวิตประจำวัน นะครับ ในแง่การใช้งานในถนนทั่วไป ไม่ได้ขับในแทรคปุ่ม sport plus และ lunch control จึงไม่มีความจำเป็นเลย